ช่วงเที่ยงวันนี้ ที่พรรคไทยรักษาชาติ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงของพรรค กล่าวถึงกระแสข่าวว่าพรรคไทยรักษาชาติจะมีการเสนอรายชื่อบุคคลสำคัญจากภายนอกเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ นายณัฐวุฒิระบุว่า ตนไม่ทราบ เนื่องจากไม่ได้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการเสนอรายชื่อ และตนไม่ทราบว่ามีใครบ้าง และไม่ทราบว่าจะยื่นกี่รายชื่อ
ส่วนกรณีที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ คาดว่าจะไม่มีรายชื่อของตนอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคนั้น นายณัฐวุฒิระบุว่า ยังมีเวลาถึงวันพรุ่งนี้ ซึ่งส่วนของ นปช. ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรค ตนไม่สามารถพูดชี้นำได้ว่าใครเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม และคณะกรรมการก็ยังไม่ได้มีการแจ้งมายังตน
นอกจากนี้ยังเชื่อว่า บัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติไม่มีส่วนในการตัดสินใจของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่าจะตอบรับบัญชีของพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะ พล.อ. ประยุทธ์ พูดมาตลอดว่าต้องใช้เวลาในการพิจารณา
ขณะเดียวกันยังกล่าวถึง ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐว่า หากมองให้ดี 5 ลำดับของบัญชี ส.ส. ล้วนเป็นนักการเมืองหน้าเก่า ครึ่งหนึ่งมาจากประชาธิปัตย์ อีกครึ่งหนึ่งมาจากไทยรักไทย ไม่ได้เป็นทางเลือกใหม่ของประชาชนอย่างที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้พยายามอธิบาย รวมถึงบางคนยังมีคดีความติดตัว กลายเป็นว่าประชาชนต้องให้การสนับสนุนนักการเมืองที่มีคดีความเมื่อสังกัดอยู่ในพลังประชารัฐ ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบว่า พล.อ. ประยุทธ์จะตอบอย่างไรในการเข้าไปอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพลังประชารัฐ แต่ก็ล้วนสะท้อนว่าเป็นการสืบทอดอำนาจอย่างไม่ต้องสงสัย เสียเวลา 5 ปี แต่ได้แค่นี้
ส่วนนายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องเป็น ส.ส. หรือไม่นั้น ต้องยอมรับว่าธรรมนูญได้กำหนดไว้ว่า ผู้ที่ถูกเสนอชื่อในนามพรรคการเมือง แปลว่า บุคคลนั้นต้องปรากฏชื่อเพื่อให้ประชาชนได้พิจารณาว่าจะให้การสนับสนุนพรรคการเมืองนั้นหรือไม่
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า