วันนี้ (11 ก.พ.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ไต่สวนและยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า การกระทำของพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า กรณีพรรคไทยรักษาชาติเสนอชื่อ ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มหิดล’ เป็นบัญชีนายกรัฐมนตรีคนเดียวของพรรค ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นการดึงเอาสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองซึ่งยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ และเมื่อมีพระราชโองการของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวออกมาเมื่อคืนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ก็เป็นที่แน่ชัดว่าการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติเป็นสิ่งที่มิบังควรและไม่เหมาะสม และอาจเข้าข่ายความผิดต่อกฎหมายและระเบียบการหาเสียงของ กกต. ข้อ 17 ที่ระบุว่า ‘ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง’
ขณะที่มาตรา 92 (2) ของ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 บัญญัติชัดเจนว่า เมื่อ กกต. มีหลักฐานชัดเจนเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งขัดต่อระเบียบ กกต. ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคการเมืองนั้น
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณกล่าวว่า แม้ กกต. จะรับรู้รับทราบอยู่แล้ว แต่ตนต้องการให้เรื่องนี้มีต้นเรื่องที่มีหลักฐานชัดเจน จึงต้องเดินทางมายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อวินิจฉัยและยื่นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคไทยรักษาชาติโดยเร็ว พร้อมเห็นว่า กกต. ควรเร่งพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว เพื่อให้การวินิจฉัยยุบพรรคมีก่อนการเลือกตั้ง 24 มีนาคม แต่หากมีการวินิจฉัยยุบพรรคหลังการเลือกตั้ง ความวุ่นวายทางการเมืองจะตามมา ส่งผลต่อการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี และทำให้ คสช. อยู่ในอำนาจต่อไป
“เรื่องนี้คิดว่าถ้า กกต. ดำเนินการวินิจฉัยโดยเร็ว ก็จะนำสู่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้โดยเร็ว และจะไม่เป็นปัญหาในทางการเมืองต่อไปในอนาคต แต่หากการดำเนินการของ กกต. ชักช้า และการเลือกตั้งดำเนินไปตามปกติในวันที่ 24 มีนาคม พรรคไทยรักษาชาติก็ยังคงมีสิทธิ์ที่จะหาเสียงและเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง แต่หากศาลรัฐธรรมนูญไปวินิจฉัยหลังการเลือกตั้ง ผมคิดว่าความวุ่นวายทางการเมืองจะหวนกลับคืนมาและไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ” นายศรีสุวรรณกล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า