วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อโต้แย้งจากหลายฝ่ายเกี่ยวกับสถานะของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ว่าตนจะไม่ไปตอบโต้อะไร แต่จะอธิบายว่าคำว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐมีสองความหมายที่ใช้ในรัฐธรรมนูญคือ หนึ่ง เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นความหมายทั่วไป และสอง เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นความหมายตามมาตรา 98(15) สำหรับความหมายทั่วไปนั้น ไม่ว่าจะเป็นตนเองหรือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรือนายกรัฐมนตรี ฯลฯ ก็ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
“ผมไม่เคยบอกว่าพลเอก ประยุทธ์ ไม่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ท่านเป็นตามมาตรา 98(12) ดังนั้นเมื่อพลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีจึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผมไม่เคยพูดกลับไปกลับมา ไม่เคยตอบว่าวันหนึ่งนายกฯ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มาอีกวันหนึ่งบอกว่าไม่ได้เป็น เพราะถึงอย่างไรนายกฯ ก็เป็น ท่านเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐเพราะเป็นนายกฯ ถ้านายกฯ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐแล้วจะเป็นอะไร การที่มีคนบอกว่าถ้าอย่างนั้นนายกฯ ก็ลงสมัครหรือรับการเสนอชื่อไม่ได้น่ะสิ มันไม่ใช่ รัฐธรรมนูญเขายกเว้นเพราะท่านเป็นข้าราชการการเมือง ที่ผมบอกว่านายกฯ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในความหมายของการเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะเป็นข้าราชการการเมือง ถึงอย่างไรก็ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่บังเอิญรัฐธรรมนูญมาตรา 98(12) ระบุไว้ว่าคนที่จะสมัคร ส.ส. หรือ ส.ว. หรือผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องไม่ขัดกับมาตรา 98(12) ที่เขียนว่าจะต้องไม่เป็นข้าราชการ ยกเว้นข้าราชการการเมือง ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นข้าราชการการเมือง เพราะฉะนั้นจึงได้รับการยกเว้นว่าสามารถเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันไปเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีได้ แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรานี้”
นายวิษณุกล่าวต่อว่า ปัญหาต่อไปก็คือกรณีตามมาตรา 98(15) ซึ่งเขียนว่าจะต้องไม่เป็นลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเมื่อนายกฯ ไปเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 98(12) แล้วก็ไม่ต้องมาพูดเรื่องตามมาตรา 98(15) ปัญหาก็จะมีเกี่ยวกับตำแหน่งหัวหน้า คสช. อีกว่าหัวหน้า คสช. เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ ซึ่งตนได้ตอบไปแล้วว่าในความคิดของตน มาตรา 98(15) ระบุไว้แล้วว่าจะต้องไม่เป็นพนักงาน ลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ซึ่งเรื่องนี้เคยมีคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2543 วินิจฉัยว่า คำว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐในมาตรา 98(15) นี้ไม่ได้หมายความถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐทั่วๆ ไปทั้งหลาย เพราะเจ้าหน้าที่ทั่วไปนั้นไปอยู่ในวงเล็บอื่นหมดแล้ว
“ในส่วนของตำแหน่งใน คสช. ไม่ใช่ข้าราชการการเมืองก็ไม่ได้รับการคุ้มครอง อาจจะคิดกันว่าเมื่อไม่ได้เป็นข้าราชการก็ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ แต่จะมาติดตรงมาตรา 98(15) ซึ่งก็ต้องมาตีความกันในมาตรานี้ คราวนี้ก็สุดแล้วแต่จะไปแปลหรือตีความกัน ถ้าใครสงสัยก็ส่งให้ กกต. หรือศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ผมจะตอบถูกหรือผิดก็ไม่แปลก แต่ไม่สามารถจะถือเป็นคำวินิจฉัยได้”
นายวิษณุกล่าวต่อว่า หลังจาก กกต. ตอบมาที่พรรคพลังประชารัฐให้พลเอก ประยุทธ์ ขึ้นปราศรัยหรือช่วยผู้สมัครหาเสียงได้ นายกฯ ต้องระมัดระวังคือต้องไปช่วยนอกเวลาราชการ และต้องระวังเนื้อหาสาระในการพูด ไม่ให้ หรือไม่สัญญาว่าจะให้ ไม่ขู่เข็ญ ไม่พาดพิง ไม่ใส่ร้ายพรรคอื่น นอกจากนี้ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับมาตรา 78 ซึ่งสำคัญที่บอกว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องวางตัวเป็นกลาง ซึ่งนายกฯ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก็ต้องระมัดระวังในความเป็นกลาง จะต้องไม่ใช้ตำแหน่งของตนในการที่จะทำให้ใครได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ ซึ่งก็ต้องระวังเอาเองทั้งเรื่องการใช้เวลา การใช้ทรัพย์สิน การใช้คน และการใช้สถานที่
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากนายกฯ จะอ้างว่าไปช่วยหาเสียงนอกเวลาราชการ แต่ความเป็นนายกฯ ยังคงอยู่ เพราะยังสามารถทำงาน หรือแม้แต่การโยกย้ายใครก็ยังทำได้อยู่ นายวิษณุกล่าวว่าก็ กกต. เขาตอบมาว่าได้ จะให้ตนทำอย่างไร ก็ต้องระวังเอาเอง เมื่อถามว่าพูดถึงนโยบายก็ได้ใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่าถ้าพูดให้เป็นก็ได้ อย่าไปแนะเขาเลย
เมื่อถามถึงการใช้คน โดยเฉพาะทีมรักษาความปลอดภัยนายกฯ สามารถลงพื้นที่ไปกับนายกฯ เพื่อดูแลความปลอดภัยได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าในวิธีปฏิบัติที่ผ่านมาในอดีตเขาจะยอมให้กับ รปภ. แต่คนอื่นไม่ได้ เพราะ รปภ. ต้องคุ้มกันนายกฯ ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือกลางค่ำกลางคืนที่นายกฯ จะต้องไปงานอะไรต่างๆ รปภ. ต้องอยู่รักษาความปลอดภัย เพราะนอกเวลาก็ยังเป็นนายกฯ อยู่ ถือเป็นความจำเป็นที่ยังต้องติดตามนายกฯ จะในเครื่องแบบหรือนอกเครื่องแบบอะไรก็ไปจัดการกันเอาเอง ส่วนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ถ้าจะต้องไปก็ไปเพียงเท่าที่มาตรฐานเดียวกับที่ไปเวลาที่คนอื่นปราศรัย
เมื่อถามว่าทีมรักษาความปลอดภัยนายกฯ ชุดปัจจุบันสามารถลงพื้นที่ไปรักษาความปลอดภัยให้นายกฯ ได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าส่วนตัวตนเห็นว่าสามารถทำได้ เพราะวิธีปฏิบัติกับนายกฯ หรือรัฐมนตรีในอดีตที่ผ่านมาเขาก็ใช้กัน เรื่องนี้ไม่มีกฎหมายระบุไว้ แต่มีหน้าที่ของ รปภ. ที่จะต้องดูแลนายกฯ ตลอดเวลา นายกฯ ลาป่วยอยู่โรงพยาบาลก็ต้องไปเฝ้า เมื่อถามว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะไปร้อง กกต. ในประเด็นเหล่านี้ รองนายกฯ กล่าวว่าไม่เป็นไร เมื่อรู้อยู่แล้วว่ามีคนจ้องจับผิดก็ต้องระวังเอาเองให้ดีก็แล้วกัน ส่วนรถประจำตำแหน่งใช้ไม่ได้อยู่แล้ว
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์