เมื่อเวลา 06.30 น. ที่สวนลุมพินี พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ลงพื้นที่ช่วย น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 ปทุมวัน บางรัก สาทร หาเสียง โดยได้เดินทักทายประชาชนที่มาออกกำลังกายตามจุดต่างๆ โดยรอบ ทั้งนี้ตลอดการเดิน มีประชาชนเข้ามาให้กำลังใจ พร้อมตะโกนเชียร์ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ลุงตู่สู้ๆ เป็นระยะ ขณะที่บางส่วนขอให้พรรคพลังประชารัฐชนะการเลือกตั้ง
กลุ่มประชาชนที่สนับสนุนลุงตู่ยังแสดงความคิดเห็นกับนายสนธิรัตน์ว่า เป็นการดีที่ไม่ให้ พล.อ. ประยุทธ์ ขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งเรื่องนี้นายสนธิรัตน์กล่าวว่า พรรคก็กลัวเป็นเป้าโจมตีเช่นกัน พร้อมกันนี้ยังเชิญชวนให้ไปเลือกพรรคพลังประชารัฐ และร่วมฟังการปราศรัยใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 มีนาคม 2562
นายสนธิรัตน์ยังได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายในสวนลุม ไม่ว่าจะเป็นรำพัด ตีแบดมินตัน รำไทเก็ก และร่วมจิบน้ำชา กินไข่ต้ม พร้อมร่วมวงสนทนากับประชาชน ยืนยันว่า ส.ส. กทม. ของพรรคเป็นคนรุ่นใหม่ ตั้งใจมาทำงาน แก้ปัญหา พัฒนาคุณภาพชีวิต ไม่ทำให้บ้านเมืองเกิดความขัดแย้ง และจะกอบกู้รอยยิ้มของคนไทยกลับมา
นายสนธิรัตน์ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่ พล.อ. ประยุทธ์ อาจจะไม่ขึ้นเวทีปราศรัยของพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายว่า พรรคจะมีการหารือกันในวันนี้ และคาดว่าจะได้ข้อสรุป ส่วนเหตุผลที่ต้องปรับแผน เพราะไม่อยากให้เกิดข้อโต้แย้ง ถกเถียงในสังคม และนำไปสู่การตีความ เพราะบ้านเมืองต้องเดินหน้า ที่สำคัญ หากสังคมให้ความสนใจมาก จึงคิดจะไปใช้วิธีอื่นแทน และดูว่ารูปแบบใดที่จะไม่สร้างความกังวลต่อตัว พล.อ. ประยุทธ์ พรรค รวมทั้งอยู่ในกรอบของกฎหมาย
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า พรรคจะออกแบบการให้ พล.อ. ประยุทธ์ ช่วยหาเสียงใหม่ หากติดขัดจริงๆ เพราะมีแผนหนึ่ง แผนสอง และยังมีอีกหลายวิธี ส่วนวันที่ 10 มีนาคม เป็นวันปราศรัยใหญ่ของพรรคอยู่แล้วที่โคราช ซึ่งยังเดินต่อตามแผน แม้ไม่มี พล.อ. ประยุทธ์
อย่างไรก็ตามได้คุยกับ พล.อ. ประยุทธ์ แล้ว ซึ่งตัวท่านเองอยากพบปะประชาชน แต่เมื่อมีหลายฝ่ายท้วงติงเรื่องข้อกฎหมายก็ต้องรับฟัง และปรับยุทธศาสตร์ตามสถานการณ์และความเหมาะสม ซึ่งยังมีเวลา ไม่แน่ว่าวันที่ 10 มีนาคมอาจมีเซอร์ไพรส์ก็ได้
นายสนธิรัตน์ยังกล่าวถึงการหาเสียงในพื้นที่ กทม. ช่วงโค้งสุดท้ายว่า กทม. เป็นพื้นที่หลัก และจากการลงพื้นที่สวนลุมฯ เช้าวันนี้ พรรคได้เสียงตอบรับดีมาก และมั่นใจจะสามารถปักธงในพื้นที่ กทม. ตามเป้าที่ตั้งไว้ได้คือ 10 ที่นั่ง ดังนั้นช่วงที่เหลือ พรรคต้องทำงานอย่างหนัก
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
