ที่สนามฟุตบอลทุ่งทะเลหลวง สโมสรสุโขทัย เอฟซี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน, นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง, นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค และนายอิทธิพล คุณปลื้ม ผู้อำนวยการพรรค ร่วมปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดสุโขทัยของพรรคหาเสียง ประชาชนเข้าร่วมกว่า 20,000 คน
โดย นายสมศักดิ์ เปิดปราศรัย ขอบคุณประชาชนที่มาฟังการปราศรัย ซึ่งการตัดสินใจเลือกผู้แทนขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ นโยบาย พลังประชารัฐเป็นพรรคที่เดินสายกลางที่จะสามารถแก้ปัญหา ซึ่งการเข้ามาของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แก้ปัญหาที่หนักหลายอย่าง โดยเฉพาะความสงบเรียบร้อย เศรษฐกิจดีขึ้น และจุดแข็งของพรรคคือมีนโยบายที่ง่ายไม่ซับซ้อน
ด้าน นายอุตตม กล่าวปราศรัยว่า พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายดีๆ และทำได้ทันทีหากได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เข้าไปทำงานในสภา และมีผู้นำที่นำพาประเทศด้วยความสงบ จึงต้องตัดสินใจว่าใครนำพาเราได้และไม่กลับไปสู่สิ่งเดิมๆ ทั้งนี้ ระหว่างการปราศรัยได้มีเซอร์ไพรส์เปิดคลิป พล.อ. ประยุทธ์ เพื่อมาพูดคุยกับพี่น้องประชาชนที่แรกที่จังหวัดสุโขทัย
“สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องทุกท่านที่รัก ผม พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ผมดีใจที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่น้องประชาชนของเราในวันนี้ ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผมบริหารประเทศมา ขอขอบคุณคนไทย ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจในการแก้ปัญหาต่างๆ ของชาติกับผมมาอย่างยาวนาน จนบัดนี้สำเร็จลุล่วงไปในหลายๆ ด้าน ทั้งปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย การกระทำที่ละเมิดกฎหมายหลายด้าน ปัญหายาเสพติด อาวุธสงคราม ปัญหาความเชื่อมั่นกับนานาประเทศ ปัญหาการค้ามนุษย์ การทำประมงที่ผิดกฎหมาย นักท่องเที่ยวที่หายไป การส่งออกตกต่ำ ไม่มีการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้น รวมทั้งปัญหาหนี้สินชาวนา ปัญหาจากโครงการรับจำนำข้าว ปัญหาหนี้นอกระบบ และอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไขไปแล้ว เราจึงเริ่มสร้างความเจริญเติบโต มีการวางโครงสร้างสู่อนาคต ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การสร้างอาชีพและรายได้ของประชาชน เมื่อใดที่ประเทศมีความสงบ ความเชื่อมั่นของนานาประเทศก็จะกลับมา ต่างชาติจะกลับมาลงทุนมากขึ้น ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชน แน่นอนผมคนเดียวคงทำอะไรสำเร็จได้ยาก วันนี้ที่ประเทศเดินหน้าได้ และสิ่งต่างๆ สำเร็จได้นั้น ก็ต้องอาศัยพี่น้องคนไทยทั้งประเทศร่วมมือกัน จับมือกัน ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเดินอีกก้าวหนึ่ง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่ทุกคนจะต้องตัดสินใจว่าเราจะเลือกเดินอย่างไรในเวลาที่สำคัญ ก่อนตัดสินใจ ผมอยากให้พี่น้องประชาชนของพวกเรานำความรัก ความสามัคคี และรอยยิ้มที่สวยงามกลับมา ประเทศของเราต้องไม่ย้อนกลับไปในอดีต ที่บ้านเมืองเกิดความขัดแย้ง เหตุผลที่ผมตัดสินใจตอบรับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้ ไม่ใช่ความต้องการส่วนตัวของผม แต่ผมมองเห็นโอกาสของประเทศที่ต้องพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด และพรรคพลังประชารัฐประกอบด้วยบุคคลที่หลากหลาย ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ หลากหลายอุดมการณ์ หลากหลายความคิด แต่ทุกคนต้องมาร่วมมือกันทำงาน ยึดหลักผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ทิ้งอดีตเอาไว้ข้างหลัง ทำอนาคตให้ดี… หากผมได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ผมจะสานต่องานให้มีการพัฒนาประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน ผมจะยึดหลักธรรมาภิบาลกฎหมายต่างๆ เพื่อจะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างมั่งคั่งยั่งยืน ขอให้พวกเราคิดว่าการกระทำในวันนี้นั้นจะเป็นสิ่งบ่งบอกว่าวันหน้าเราจะเป็นอย่างไร อนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นทำวันนี้เพื่อวันข้างหน้าที่ดีกว่า ไม่ใช่เพื่อตัวผมเอง ตัวพวกเราเอง แต่พวกเรากำลังทำเพื่ออนาคตของประเทศชาติ ของลูกหลาน ของเราทุกคน ที่จะเติบโตมีอนาคตสดใสในวันหน้า อย่าลังเลใจ ขอให้คุณกล้าไปกับผม” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว
นายอุตตม ยังกล่าวต่อว่า การทำคลิปนี้ พล.อ. ประยุทธ์ มีความตั้งใจที่ทำมาเพื่อได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชน จึงขอพี่น้องให้การสนับสนุนผู้สมัคร 3 เขต และให้พวกเราได้เข้าไปทำงานในสภา
ขณะเดียวกัน นายสุริยะ ได้ปราศรัยถึงหนี้สินของประชาชนที่ 20 ปีที่ผ่านมาประชาชนก็ยังเป็นหนี้สินอยู่ โดยพรรคเสนอนโยบายที่จะพักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้านเป็นเวลา 3 ปี
ขณะที่ นายสุวิทย์ มั่นใจว่าพรรคจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะพรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนการเมืองชัดเจน ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่แบ่งแยก มีนโยบายตอบโจทย์ประชาชน ทั้งสวัสดิการประชารัฐ มารดาประชารัฐ และมีผู้นำอย่าง พล.อ. ประยุทธ์ ที่สามารถขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ
ด้าน นายอนุชา กล่าวว่า ชีวิตมีทุกวันนี้ได้เพราะน้ำใจของคนสุโขทัย การมาอยู่พรรคพลังประชารัฐเพราะคนในพรรคส่วนหนึ่ง และ พล.อ. ประยุทธ์ ได้นำแสงสว่างว่า ต่อไปนี้ประเทศชาติจะสงบสุข และไม่ต้องการเห็นคนไทยฆ่ากันเอง ขณะที่ความเป็นอยู่คนไทยก็ยังไม่หายจน ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่จะต้องหันมาดูแลเกษตรกรอย่างจริงจัง จึงออกนโยบายเพื่อพี่น้องเกษตรกร พร้อมย้ำว่าไม่มีการสืบทอดอำนาจ ถึงเวลาที่ทุกคนต้องร่วมอุดมการณ์ เลือกพรรคพลังประชารัฐทั้ง 3 เขตคือ ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง และ นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล
ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ฝ่ายกฎหมายพรรค กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐถูกใส่ร้ายมาตลอด ยืนยันว่าจากนี้ต่อไปหากมีการมากล่าวร้ายป้ายสีคนในพรรค ป้ายสี พล.อ. ประยุทธ์ จะดำเนินการเอาผิดเต็มที่ ส่วนเรื่องการสัญญาว่าจะให้นั้น มีสิ่งเดียวที่จะให้ผู้สมัครสัญญาคือ จะให้รักพี่น้องประชาชนชาวสุโขทัยตลอดไป
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า