วันเลือกตั้ง

ประชาชาติประกาศร่วมรัฐบาลกับพรรคอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่เอาสืบทอดอำนาจ ย้ำ พรรคที่หนึ่งคือได้ ส.ส. ในสภามากสุด

โดย THE STANDARD TEAM
26.03.2019
  • LOADING...
ประชาชาติ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค และ ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม รองหัวหน้าพรรค แถลงข่าวที่สำนักงานพรรคประชาชาติ เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เป็นการแสดงท่าทีของพรรคถึงแนวทางจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่พรรคประชาชาติได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการรวม 7 ที่นั่ง คือ ส.ส. แบบเขต 6 ที่นั่ง และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ 1 ที่นั่ง

 

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมานั้นได้พบเห็นการเลือกตั้งที่ไม่ปกติ กกต. อาจไม่ค่อยมีประสบการณ์ พบข้อบกพร่องมากมายในการดำเนินการเลือกตั้ง แต่สิ่งสำคัญคือ จะต้องทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างที่เราคาดหวัง เพื่อความน่าเชื่อถือ การเลือกตั้งที่ผ่านมาพบว่า มีข้าราชการทำงานรับใช้พรรคการเมืองบางพรรคอย่างโจ๋งครึ่ม นี่คือสิ่งที่ไม่อาจทำให้นำไปสู่ประชาธิปไตยได้ กกต. ต้องหาทางแก้ไข

 

รู้สึกพอใจการเลือกตั้งในระดับหนึ่ง ที่พี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิท่ามกลางกระแสการซื้อเสียง ขายเสียง และมีอำนาจรัฐกดดัน พรรคประชาชาติเราฝ่ามรสุมนี้มาได้ ส.ส. 7 ที่นั่ง ซึ่งจริงๆ พรรคประชาชาติน่าจะทำได้มากกว่านี้ หากเป็นการเลือกตั้งปกติทั่วไป แต่เลือกตั้งครั้งนี้มีบางอย่างที่ไม่ปกติ ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคจะรวบรวมพยานหลักฐาน เอาผิดกับผู้ทุจริตการเลือกตั้ง และต้องให้โอกาสผู้ปฏิบัติด้วยว่ามีความรู้เท่าถึงการณ์หรือไม่ หรือถูกบังคับจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งพรรคประชาชาติจะประชุมพรรคเร็วๆ นี้

 

สำหรับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. 7 ที่นั่งนั้น ได้มอบเลขาธิการพรรคพูดคุยเรื่องการร่วมจัดตั้งรัฐบาล คะแนนที่ได้นั้นยังไม่เป็นทางการ ถึงแม้ว่า กกต. จะประกาศผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค.นี้ แต่คะแนนร้อยละ 99 ควรรู้ผลภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้พรรคการเมืองแต่ละพรรคได้หารือกันจัดตั้งรัฐบาล

 

จุดยืนของพรรคประชาชาติในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคมีมติชัดเจนว่า พรรคประชาชาติจะยืนเคียงข้างฝ่ายประชาธิปไตย และเคียงข้างความต้องการของประชาชน เราไม่สามารถเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองที่ต้องการสืบทอดอำนาจเผด็จการได้ ซึ่งขณะนี้มี 2 พรรคใหญ่พร้อมที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาชาติพร้อมสนับสนุนฝ่ายที่มีจุดยืนประชาธิปไตย

 

เป็นหน้าที่ของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่จะต้องคุยกัน เบื้องต้นต้องหารือกันในเรื่องการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและนายกรัฐมนตรี ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลนั้นคงต้องใช้เวลา แต่คงจะชัดเจนในสัปดาห์หน้า ปัจจัยหนึ่งที่ไม่เป็นปกติในการจัดตั้งรัฐบาลคือ เรื่องของ ส.ว. 250 คน จะเป็นตัวแปรทำให้เสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถควบคุมการเลือกนายกรัฐมนตรีได้ แต่ต่อไปหลังจากการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว การบริหารประเทศจะบริหารโดยสภาผู้แทนราษฎร เพราะฉะนั้นหากนำเสียงของ ส.ว. 250 คน มารวมกับเสียงข้างน้อยของสภาผู้แทนราษฎร แน่นอนว่า เราจะได้รัฐบาลที่ไร้เสถียรภาพ ซึ่งไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือต่อต่างประเทศ ผลที่จะเกิดขึ้นคือการลงทุน ตลาดหุ้น จะลดลงอย่างแน่นอน เพราะไม่รู้ว่ารัฐบาลจะไปวันไหน

 

ถ้ารัฐบาลเสียงข้างน้อยตั้งรัฐบาลแล้ว จะมีอุปสรรคในการออกกฎหมาย รวมถึงการเสนองบประมาณแผ่นดิน และการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอ 6 เดือน หรือ 1 ปี ซึ่งน่าเป็นห่วง พรรคประชาชาติในฐานะที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เราอยากเห็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพดำเนินการไปตามระบอบประชาธิปไตย โดยประชาชน เพื่อประชาชน และประการที่ 3 เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดคือ การปรองดองสามัคคีของคนในประเทศภายใต้กฎหมาย

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงหลักการในการจัดตั้งรัฐบาล คิดว่าควรยึดฝ่ายที่ได้ ส.ส. มากที่สุดจัดตั้งรัฐบาล หรือยึดเอาฝ่ายที่ได้คะแนนป๊อปปูล่าโหวตเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาชาติมองว่า หลักการง่ายๆ การปกครองแบบประชาธิปไตย การเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นควรเป็นเสียงที่มาจาก ส.ส. เพราะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ฉะนั้นฝ่ายที่มีจำนวน ส.ส. มากกว่า มีความชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาล แต่หากเป็นการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง ถึงจะใช้คะแนนป๊อปปูล่าโหวตได้ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ควรใช้เสียงข้างมากของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจัดตั้งรัฐบาลและเลือกนายกรัฐมนตรี นี่เป็นธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติของประชาธิปไตย

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising