วันเลือกตั้ง

เพื่อไทยเปิดนโยบายท่องเที่ยว 5 เป้า 10 ยุทธศาสตร์ เตรียมยกเลิกวีซ่านักท่องเที่ยวจีน ขยายเวลาเปิดสถานบริการ

05.03.2019
  • LOADING...

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายโภคิน พลกุล แกนนำพรรค และผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร แถลงเปิดนโยบายการท่องเที่ยวที่ท่าเรือยอดพิมาน โดยมีรายละเอียดว่า รายได้จากการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของประเทศ และจะสามารถกระจายลงทันทีตามพื้นที่ต่างๆ โดยพรรคคาดว่าจะเพิ่มนักท่องเที่ยวให้เป็น 50 ล้านคน และเพิ่มรายได้จาก 2 ล้านล้านบาท เป็น 3 ล้านล้านบาท ภายใน 2 ปี เพิ่มการจ้างงานเป็น 6 ล้านคน และเพิ่ม GDP จาก 18% เป็น 23% พุ่งเป้าเพิ่มนักท่องเที่ยวอิสระ (FIT) ที่มีกำลังซื้อให้เพิ่มขึ้นเป็น 80% ค่าใช้จ่ายต่อหัวจาก 5,400 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 7,000 บาทต่อวัน ยืดระยะเวลาการอยู่ในเมืองไทยให้นานขึ้นจาก 8-9 วันเป็น 11-12 วัน ด้วย 10 ยุทธศาสตร์ได้แก่

1. สร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย แก้ปัญหาจากเหตุการณ์เรือล่ม ยกระดับการกู้ภัย ใช้ประสบการณ์ที่กอบกู้การท่องเที่ยวหลังเหตุการณ์สึนามิมาได้ภายใน 1 ปี

2. เพิ่มการท่องเที่ยวให้กระจายทุกจังหวัด พัฒนาอย่างน้อย 1 สถานที่ท่องเที่ยวใน 1 อำเภอ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากเมืองท่องเที่ยวเดิมไปสู่เมืองอื่นๆ โดยรอบ สร้างเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่น บั้งไฟพญานาค

3. ยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์การสร้างสุขภาพองค์รวม โปรโมตการนวด สปา สมุนไพรไทย และการนวดแผนไทย

4. ประชาสัมพันธ์เทศกาลใหญ่ในประเทศไทย ได้แก่ ปีใหม่-เคานต์ดาวน์, สงกรานต์ (3 วัน 3 คืน), วิสาขบูชา, ลอยกระทง กระทงสายแม่น้ำเจ้าพระยา, ตรุษจีน พัฒนาเยาวราชให้เป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวโลก โยงไปยังปากน้ำโพที่มีการแห่สิงโต เป็นต้น

5. ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค เช่น เชียงใหม่-เชียงราย-เชียงตุง-เชียงรุ้ง-เชียงแสน, อยุธยา-ลพบุรี-สุโขทัย-เสียมเรียบ

6. หนึ่งตำบลหนึ่งของฝาก เพิ่มมูลค่าจาก 1.9 แสนล้านบาทเป็น 3 แสนล้านบาท

7. สร้างแพลตฟอร์มกลางของประเทศให้ทั่วโลกเข้ามาชม และจองการท่องเที่ยวในประเทศไทย

8. อำนวยความสะดวกการเดินทางเข้าประเทศ ยกเลิกวีซ่าจีน

9. เพิ่มเที่ยวบินตรงจากเชียงใหม่ไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ทั่วประเทศ

10. แก้ไขกฎหมายที่ขัดขวางการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เช่น โฮมสเตย์

ด้านนายโภคิน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยพยายามที่จะยกเลิกวีซ่านักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่สมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ทำไม่สำเร็จก็ถูกรัฐประหารก่อน ดังนั้นจึงต้องการที่จะสานต่อ โดยก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวของจีนแล้ว และคาดว่าจะพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการท่องเที่ยวของภูมิภาค จะไปประเทศไหนก็สามารถกลับมาที่ประเทศไทยได้ นอกจากนี้ต้องแก้กฎหมายที่มีสันนิษฐานว่าผู้ประกอบการจะโกงตลอดเวลา ให้เป็นกฎหมายที่ส่งเสริมชาวบ้านทำธุรกิจการท่องเที่ยว ไม่ใช่เอื้อแต่นายทุนรายใหญ่เหมือนในปัจจุบัน แต่การทำต้องออกแบบให้ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ย่อมอยากสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น แก้ไขให้ผู้ประกอบการไม่ต้องขออนุญาตอนุมัติหลายขั้นตอน

 

นายโภคินบอกว่าปัญหาใหญ่คือการที่ไม่ให้พื้นที่คนตัวเล็กส่งเสียง ต้องให้คนตัวเล็กเข้าไปมีสิทธิมีเสียงในการตัดสินใจ พร้อมกันนี้นายโภคินยังกล่าวว่า เงินที่มาจากการจองโรงแรมภายในประเทศไปอยู่ที่แอปพลิเคชันต่างชาติหมด ไทยต้องเร่งผลักดันให้มีแอปพลิเคชันออกมาโดยเร็วเพื่อให้เงินไม่ไหลออกไปต่างประเทศ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวปิดท้ายว่า การท่องเที่ยวคือฐานเศรษฐกิจใหม่รองรับโลกยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘หยิบสด’ คือ หยิบเงินจากนักท่องเที่ยวได้ทันที คนตกงานจะกลายเป็นคนเปลี่ยนงาน สามารถกลับไปช่วยพ่อแม่ทำร้านกาแฟหรือโฮมสเตย์ที่บ้าน รัฐบาลพร้อมเตรียมทุนให้กู้ยืมไปสร้างธุรกิจ เพื่อให้เกิดเศรษฐีใหม่ เพราะพรรคคาดการณ์ว่าในอนาคต งานจะลดลงเรื่อยๆ คนจะตกงานมากขึ้น รัฐบาลต้องเตรียมงานใหม่ รายได้ใหม่รองรับ

 

ส่วนการค้าแผงลอยทางเท้าพรรคคาดหวังเพิ่มรายได้เป็น 3 แสนล้านบาทต่อปีจาก 1 แสนล้านบาท ยกระดับให้สตรีทฟู้ดไทยมีชื่อเสียงและคุณภาพระดับโลก แต่จะมีการจัดระเบียบไปควบคู่กับการสร้างรายได้ไปด้วย ขณะที่สถานบันเทิงต้องเข้มงวดเรื่องอายุของเด็กที่ยังไม่ถึง 18 ปี แต่จะขยายเวลาปิดสถานบริการในพื้นที่ท่องเที่ยว เพราะแต่ละชั่วโมงสร้างรายได้จำนวนมาก โดยคุณหญิงสุดารัตน์ย้ำว่าการจัดระเบียบต้องไม่จำกัดนักท่องเที่ยว แต่ต้องจัดระเบียบให้ตอบจุดประสงค์ ส่วนวันพรุ่งนี้พรรคจะแถลงเรื่องศูนย์กลางการผลิตอาหารสุขภาพ และศุกร์นี้แถลงเรื่องธุรกิจของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็น 3 ฐานเศรษฐกิจใหม่รองรับโลกยุคใหม่

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising