แกนนำพรรคเพื่อไทยเปิดปราศรัยใหญ่ที่สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ นำทีมโดย 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ นายชัยเกษม นิติสิริ
พร้อมคับคั่งด้วยแกนนำพรรค อาทิ พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายโภคิน พลกุล นายนพดล ปัทมะ พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง และ นายอดิศร เพียงเกษ
เวทีปราศรัยใหญ่ที่เชียงใหม่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เวลา 16.00 น. มีผู้สนับสนุนทยอยเข้าจับจองพื้นที่ จากนั้นแกนนำเริ่มต้นสลับกันปราศรัย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่ทั้ง 9 เขต ขึ้นโชว์ตัวต่อประชาชนผู้สนับสนุน และขอคะแนนเสียง โดยขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยยกจังหวัด เพื่อเข้าไปเป็นรัฐบาล แก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน
เวทีดำเนินไปจนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 19.10 น. คุณหญิงสุดารัตน์ได้เดินทางมาถึงเวทีปราศรัย มวลชนส่วนหนึ่งเข้าห้อมล้อม ขอถ่ายภาพ
จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ได้เริ่มต้นการปราศรัย โดยบอกกับประชาชนว่า พรรคเพื่อไทยขออาสามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ความทุกข์ยาก ปากท้อง ขอเวลาไม่นาน ภายใน 6 เดือน จะทำให้ประชาชนกระเป๋าตุงให้ได้ ราคาพืชผลการเกษตรทุกตัวจะทำให้กลับไปสูงเหมือนเดิมให้ได้ การค้าขายจะดีขึ้น เพราะเกษตรกรเป็นฐานใหญ่ของประเทศ ถ้าเกษตรกรไม่มีเงิน แล้วคนไทยจะรวยได้อย่างไร เพราะทุกวันนี้รัฐบาลเอาใจแต่เจ้าสัวไม่กี่คน บัตรคนจนที่รับมาเอาเงินผ่านมือเราไปให้เจ้าสัว จากการสำรวจ เจ้าสัวเหล่านั้นรวยขึ้นภายใน 4 ปี แต่ประชาชนยากจนลง รวยกระจุกจนกระจาย ที่ผ่านมาเกษตรกรขยันทำมาหากินเหมือนเดิม แต่ขายของไม่ได้
ดังนั้นการเติมพลังให้กับประชาชนคือ การปรับหนี้ พักชำระหนี้ให้เกษตรกร 3 ปี และจะพัฒนาให้เชียงใหม่กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารสุขภาพส่งออกไปทั่วโลก โดยมีกองทุนปรับเปลี่ยนหน้าดินให้ พร้อมทั้งทำกระเทียมให้ราคา 14-15 บาท และนำไปขายทั่วโลก และให้ TCDC ทำงานกับชาวบ้าน พัฒนาสินค้าโอทอป และให้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาคและเชื่อมโยงไปจังหวัดอื่นๆ ในภูมิภาค แล้วค่อยกลับมาช้อปปิ้งที่เชียงใหม่ก่อนกลับบ้าน
นอกจากนี้ยังชี้แจงว่า พรรคเพื่อไทยจะทำศูนย์สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพื่อให้คนรุ่นใหม่มาใช้ชีวิตทำงานอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องไปทำงานในกรุงเทพฯ และมีโอกาสได้เงินทุนเหมือนกับนายทุนรายใหญ่ สร้างแหล่งเงินกู้ให้พ่อค้าแม่ค้าตัวเล็กๆ เพราะคนรวยหาเงินกู้ 100 ล้านบาท ไม่ยาก แต่คนจนหาเงินแค่หมื่นเดียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งโครงการนี้จะมีทุกจังหวัดให้พี่น้องประชาชนไปสร้างอาชีพได้ พักหนี้ และสร้างเงินทุน พร้อมกล่าวย้ำว่า “ใครอยากรวย ต้องได้รวย ใครอยากทำงานต้องมีงานทำ”
คุณหญิงสุดารัตน์ยังประกาศนโยบายการท่องเที่ยวให้เชียงใหม่มีรายได้เกินแสนล้านบาท ภายใน 2 ปี เพิ่มนักท่องเที่ยวเป็น 50 ล้านคน และเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวทั้งประเทศ จาก 2 ล้านล้านบาท เป็น 3 ล้านล้านบาท กระจายไปทั่วทุกจังหวัด ทำให้นักท่องเที่ยวมั่นใจทั้งมาตรฐานการเตือนภัยและการกู้ภัย ใช้งบประมาณไม่ได้เสี้ยวของเรือดำน้ำ นักท่องเที่ยวจะต้องมั่นใจและกลับมาเที่ยวไทยภายใน 6 เดือน
นอกจากนี้จะยกเลิกวีซ่าประเทศจีน ซึ่งได้เดินทางไปพูดคุยกับ รมว.ท่องเที่ยวจีนแล้ว คาดว่า คนจีนจะมาเที่ยว 15 ล้านคน เชื่อมการท่องเที่ยวจากเชียงใหม่-เชียงราย-เชียงรุ้ง-เชียงตุง-เชียงทอง และยังเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวหลวงพระบาง-นครวัด แล้วค่อยกลับมาช้อปปิ้งที่กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ บ่อน้ำร้อนในภาคเหนือจะต้องเป็นจุดท่องเที่ยวสุขภาพเหมือนออนเซน และสร้างกิจกรรมใหญ่ในประเทศ 5 ครั้ง ได้แก่ เคานต์ดาวน์ปีใหม่ สงกรานต์ วิสาขบูชาโลก ลอยกระทง และตรุษจีนเยาวราช-นครสวรรค์ ให้นักท่องเที่ยวอยากมากินของดีและสตรีทฟู้ด จัดมิวสิกเฟสติวัลสร้างความบันเทิง และสร้างรายได้จากของฝาก สุดท้ายคือการปรับแก้กฎหมายที่พักให้ทันสมัยและเอื้อประโยชน์ให้คนตัวเล็กได้ทำมาหากิน ไม่ใช่ให้มาใช้มาตรฐานเท่ากับโรงแรมหรู แต่คนตัวเล็กไม่มีทุน
ด้านนายชัชชาติเริ่มต้นการปราศรัยด้วยการกล่าวคำขวัญจังหวัดเชียงใหม่ แล้วต่อด้วยกลอนที่แต่งขึ้นเองคือ “เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมอันล้ำค่า ศูนย์รวมใจไทยล้านนาที่ยิ่งใหญ่ แผ่นดินทองของกษัตริย์กล้าพญามังราย เชื่อมทั่วไทย เชื่อมโลกใกล้ ไทยล้านนา” ซึ่งเป็นกลอนที่แต่งไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ที่สัญญาว่าจะเชื่อมล้านนา เชื่อมไทย เชื่อมโลก แต่ยังไม่ได้ทำ เพราะถูกรัฐประหาร ตอนนี้จะขอกลับมาทำต่อ เพราะปากท้องของพี่น้องประชาชนกำลังลำบาก เรากำลังตกหล่มเศรษฐกิจ เราต้องออกจากหล่มด้วยการใช้ล้อแบบโฟร์วีล ใช้ล้อที่หนึ่งการส่งออก การท่องเที่ยว อนาคตต้องมีเพิ่มขึ้น ล้อที่สองคือการลงทุนในประเทศ ล้อที่สามการเกษตร ล้อที่สี่การลงทุนงบประมาณของรัฐบาล
นายชัชชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเชียงใหม่ พรรคจะต้องมาแก้ปัญหาคุณภาพชีวิตของพี่น้อง เช่น เรื่องฝุ่น ปัจจุบันเรามีฝุ่นเยอะมาก ต้องเอานายทุนมาร่วมรับผิดชอบ ต้องเร่งผลักดันการเชื่อมไทย เชื่อมโลก เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองตัน ต้องหาวิธีว่าจะทะลุขึ้นไปอย่างไร เพื่อให้มีช่องทางที่ทำให้เศรษฐกิจไหลลงมาบ้าง การสร้างเศรษฐกิจที่ดีต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต เราต้องเอาท้องถิ่นมาช่วยในการแก้ปัญหา เศรษฐกิจเชียงใหม่ไปไม่ได้ ถ้าคุณภาพชีวิตเราไม่ดี ต้องดึงคนเก่งเข้ามาอยู่ ทำให้เกิดความยั่งยืน เพื่อให้เป็นเมืองชั้นนำของอาเซียน
สำหรับการเดินทางขึ้นเหนือมาปักหมุดปราศรัยใหญ่ที่เชียงใหม่ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งถือว่าเป็นจังหวัดหัวใจสำคัญ เพราะเป็นจุดกำเนิดของพรรคมาตั้งแต่ไทยรักไทย และยังเป็นบ้านเกิดของ 2 อดีตนายกฯ คือ ทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยังมีบทบาทสำคัญต่อจังหวะขยับทางการเมืองของพรรคนี้
หลายพรรคการเมืองประกาศส่งผู้สมัครสู้ศึก แบ่ง ส.ส. จากเพื่อไทย วันที่ 24 มีนาคม จะได้รู้กันว่า เมืองหลวงเพื่อไทย มนต์ขลังชินวัตร ที่มีต่อเชียงใหม่ จะเป็นอมตะ แผลงฤทธิ์ให้เพื่อไทยกวาด ส.ส. ยกจังหวัดได้อีกครั้งหรือไม่