ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
“ประเด็นใหญ่คือ ไม่ใช่แค่ไม่เอาคุณประยุทธ์ แต่ต้องไม่เอาพลังประชารัฐด้วย ผมเชื่อว่า มีพรรคบางพรรคที่บอกว่าไม่เอาคุณประยุทธ์ แต่อยากจะจับมือพลังประชารัฐ เพื่อชูตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี”
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย
“ยังไงก็ไม่ร่วมกับเผด็จการเด็ดขาด จะร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตยเท่านั้น ยินดีรับกติกาของฝ่ายประชาธิปไตย ถ้าพรรคนั้นได้รับการเลือกตั้งจากพี่น้องประชาชนเท่านั้น ผมเอาแค่ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมตำแหน่งเดียวก็พอ”
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
“ชัดๆ นะครับ ผมไม่สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อแน่นอน เพราะการสืบทอดอำนาจขัดแย้งกับหลักการของประชาธิปไตย หมดเวลาเกรงใจแล้วครับ”
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย
“ไม่เอาแล้วนโยบายแบบลุงๆ ถึงเวลาเอาเงินของประชาชนคืนมา ตอนนี้เศรษฐกิจแย่ คนที่จะแก้ปัญหาได้ต้องเป็นพรรคเพื่อไทย”
มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่
“ผมบอกช้าๆ ชัดๆ ประชาธิปไตยแน่นอน ถ้า 5 ปีกว่าทำแล้วปากท้องคนไทยไม่มีความสุข พอแล้ว ผมไม่มีอ้อมค้อมนะครับ บอกคำเดียว ประชาธิปไตย”
วราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา
“หลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม อย่าเพิ่งตั้งเงื่อนไขหรือกติกา เพราะการทำงานหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ ฝ่ายค้านมีความสำคัญพอๆ กับรัฐบาล เนื่องจาก 4-5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยขาดการตรวจสอบและถ่วงดุล”
อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
“การที่เราเป็นพรรคขนาดกลาง คนจะมองว่าเป็นพรรคตัวแปร ไม่มีจุดยืน ร่วมกับใครก็ได้ จุดยืนของพวกผมชัดเจน เรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และยึดมั่นในรัฐธรรมนูญ แต่ที่ต้องชัดเจนตอนนี้ และขอประกาศไว้ในเวทีนี้คือ คนที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คนที่เป็นผู้แทนของประชาชนเท่านั้นถึงจะมีสิทธิกำหนดตัวนายกรัฐมนตรี”
สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา
“ผมมีเรื่องที่จะบอกอยู่ 2 เรื่อง เราเป็นพรรคขนาดกลาง ฉะนั้นจุดยืนของพรรคชาติพัฒนา เรา No Problem ไม่มีปัญหา เราไม่ต้องการที่จะสร้างปัญหา ในเรื่องของการตัดสินใจ เราจะอยู่กับมติของพี่น้องประชาชน”