หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดพื้นที่ในการปิดป้ายหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ประเด็น ‘ป้ายหาเสียง’ ก็ถูกร้องเรียนจากทั้งประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและผู้สมัครรับเลือกตั้ง
การติดป้ายเกะกะขวางทางเท้า บางป้ายก็ติดบดบังทัศนวิสัยตามมุมถนน สร้างความเดือดร้อนลำบากต่อประชาชนทั่วไปจนมีการถ่ายรูปมาประจานกันแพร่หลายในสื่อโซเชียลมีเดีย แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเตือนว่าหากเจอป้ายหาเสียงกีดขวาง ห้ามเคลื่อนย้ายเอง เพราะผิดกฎหมาย
พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวหลังเป็นประธานประชุมศูนย์อำนวยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ว่าหากประชาชนพบเห็นป้ายหาเสียงวางกีดขวางถนน ทางเข้าออก หรือบดบังสายตา รวมถึงทัศนวิสัยในการขับขี่ ประชาชนต้องแจ้ง กกต. พื้นที่ แต่ไม่มีอำนาจในการเคลื่อนย้ายเอง เพราะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
ขณะที่ฝั่งผู้สมัครก็มีการร้องเรียนและแจ้งความกรณีป้ายหาเสียงของตนเองถูกทำลายเช่นกัน ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ได้มีมือดีเผาทำลายป้ายหาเสียงของ นายไกรเสริม โตทับเที่ยง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 24 (ทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ) พรรคพลังประชารัฐ บริเวณถนนราษฎร์บูรณะ ระหว่างซอย 37-38 ภายหลังติดป้ายเพียง 2 ชั่วโมง
5 กุมภาพันธ์ ป้ายหาเสียงของ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 13 (บางกะปิ-วังทองหลาง) พรรคพลังประชารัฐ ก็ถูกเผาในลักษณะคล้ายกัน
ขณะที่วันนี้ (6 ก.พ.) ป้ายหาเสียงของ นายจิตรภณ ทิพย์โภคาสกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. กทม. เขตบางแค ของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณธนาคารกสิกรไทย สาขาเพชรเกษม 51 ถูกกรีดทำลาย
เช่นเดียวกับป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักษาชาติก็ถูกกระทำในหลายรูปแบบ เช่น ถอดป้ายออกไปแล้ววางป้ายคนอื่นแทน คว่ำป้ายหาเสียงเพื่อให้คนมองไม่เห็น กรีดป้าย หรือแม้กระทั่งขโมยป้ายหายไปเลย
พันตำรวจโท จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ฝากไปยังผู้สมัครและประชาชนที่สนับสนุนว่าไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เพราะการหาเสียงเป็นการนำเสนอนโยบายให้กับประชาชน เหมือนเป็นการทำลายทรัพย์สินของตัวเอง
ทั้งนี้อยากให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งการทำลายป้ายหาเสียงมีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 358 ฐานทำให้เสียทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
