นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรค, พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรค และทีมผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ อาทิ นายจิตรภณ ทิพย์โภคาสกุล, นายศิลปชัย บุญราย, ดร.อุไร อนันตสิน, นายเอกราช หวังนุช, นายธัชพงษ์ ชูดำ ลงพื้นที่สวนลุมพินี กรุงเทพฯ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจเข้ามาขอถ่ายรูปและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
นายอนุทินกล่าวว่าปัญหาของคนกรุงเทพฯ คือเรื่องการจราจรที่ทำลายทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายในการแก้ไขบนหลักการลดปริมาณรถบนท้องถนนตามแนวคิดกรุงเทพฯ สะดวก สบาย พรรคสนับสนุนให้ทำงานที่บ้าน 1 วัน และสร้างออฟฟิศกระจายตามจุดต่างๆ เพื่อรองรับกลุ่มสตาร์ทอัพ พยายามไม่ให้ประชาชนเข้ามาแออัดในกรุงเทพฯ นอกจากนั้นหากจำเป็นต้องเข้าเมือง เราสนับสนุนให้ Grab ถูกกฎหมาย คนเมืองหลวงจะได้ใช้บริการนี้แทนการขับรถส่วนตัว
เมื่อถามถึงปัญหาป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองที่ถูกทำลายตามที่ต่างๆ นายอนุทินกล่าวว่าไม่อยากให้ไปทำร้ายกัน สำหรับพรรคภูมิใจไทย หากมีความเสียหายก็ต้องซ่อม ขณะเดียวกันต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้อยากจะบอกผู้ไม่หวังดี ยิ่งไปทำลายป้ายเขา เขาก็ยิ่งดัง ส่วนเรื่องป้ายของพรรคการเมือง หากเป็นของพรรคภูมิใจไทยให้ประชาชนแจ้งผู้สมัครของพรรคได้เลย
นายอนุทินกล่าวถึงกระแสการเลื่อนเลือกตั้งว่าถ้ายังไม่มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม มั่นใจว่าผู้มีอำนาจอาจรับผิดชอบไม่ไหว ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ภาคใต้ ชาวบ้านอยากไปเลือกตั้ง ปัญหาที่พบคือกฎระเบียบจำนวนมากขัดขวางการทำมาหากินของประชาชน อาจด้วยเพราะรัฐบาลเกรงใจต่างชาติ หากภูมิใจไทยได้เข้าไปทำงานหลังเลือกตั้ง เรามีความชอบธรรมในการเจรจาต่อรอง จะเร่งแก้ไขเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสทำงานหารายได้ นอกจากนั้นแนวทางของพรรคภูมิใจไทยคือการมุ่งแก้ปัญหาปากท้อง ไม่เอาความขัดแย้ง ซึ่งล้วนถูกใจประชาชนทั้งสิ้น
“การเลือกตั้งในพื้นที่ กทม. แต่ไหนแต่ไรเป็นเรื่องของพรรคใหญ่ ยกเว้นครั้งนี้ที่พรรคภูมิใจไทยขอเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง ถ้าชอบแบบเดิมก็เลือกเหมือนเดิม ถ้าเบื่อแล้ว พอแล้ว ก็เลือกพรรคภูมิใจไทย
ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องกระแส แต่เชื่อเรื่องการทำงานหนัก และเราก็ทำงานหนัก ทำงานต่อเนื่องมาโดยตลอด มาถึงตอนนี้ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ยิ่งถ้ามาบอกว่าคนกรุงเทพฯ เลือกแต่พรรคใหญ่ สเกลของภูมิใจไทยก็ใหญ่พอตัว ล่าสุดส่งผู้สมัครครบ 500 คนทั้งเขตและบัญชีรายชื่อ เป็นจุดบ่งชี้ความใหญ่และความจริงจังของพรรค ที่สำคัญการเลือกตั้งอะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่มีอะไรต้องกังวล พรรคทำงานแบบทุ่มเต็มที่ ผลจะออกมาอย่างไร ไม่มีใจเสียดายแน่นอน”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
