วันเลือกตั้ง

สุนทรพจน์แรกของสุดารัตน์ นำทัพเพื่อไทยสู้ศึกเลือกตั้ง จับมือประชาชน สร้างอนาคตประเทศ

03.12.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

8 Mins. Read
  • สุนทรพจน์แรกที่สุดารัตน์สื่อสารคือการปักหมุดอย่างเป็นทางการ และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่เพียงการสื่อสารต่อสมาชิก หากแต่เป็นการสื่อสารไปยังผู้มีอำนาจ และมุ่งตรงไปที่เป้าหมายที่เธอเลือกข้างแล้วคือ ‘ประชาชน’ นั่นเอง

เดือนที่แล้ว วันที่ 28 ตุลาคม 2561 พรรคเพื่อไทยจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ การเคาะชื่อ ‘สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์’ เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ในความหมายทางการเมือง นี่คือการประกาศ ‘หัว’ ตัวจริงของพรรคเพื่อนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง

 

แต่การเมืองตลอดเดือนที่ผ่านมา หาความนิ่งรายวันแทบไม่ได้ เมื่อหลายพรรคเปิดปฏิบัติการดึง-ดูด หาสมาชิกเข้าพรรคเพื่อดึงคะแนนเสียง บางคนนำตนเองไปพรรคอื่น บางคนถูกเชื้อเชิญด้วยข้อเสนอสารพัด ขณะที่บางคนตัดสินใจออกไปหาที่ทางด้วยการก่อรูปพรรคตัวเอง เป็นบรรยากาศฝุ่นตลบรายวัน

 

 

การเมืองเริ่มนิ่งหลังวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา ด้วยกติกาบังคับให้ผู้ที่จะเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วัน นับจนถึงวันเลือกตั้ง และหากวันเลือกตั้งคือวันที่ 24 ก.พ. ปีหน้า ภายใน 26 พ.ย. ทุกคนจึงต้องหาค่ายสังกัด

 

ขณะที่พรรคเพื่อไทยถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีอดีต ส.ส. ไหลออกหลายคน บางคนเป็นอดีต รมต. บางคนเป็นทายาทนักการเมือง ภาพของเพื่อไทย ยามนั้นจึงถูกเขียนให้เป็นพรรคร้าง วงแตก เสี่ยงถูกยุบ สร้างความหวั่นไหวต่อจังหวะขยับในอนาคต บางคนก็กลับมาอยู่กับพรรคในวินาทีสุดท้ายหลังย้ายไปค่ายอื่น

 

 

จังหวะขยับสุดารัตน์ แม่ทัพเพื่อไทยสู้ศึกเลือกตั้ง

สุดารัตน์เลือกที่จะเดินเข้าหาประชาชน ลงพื้นที่รายวัน ร่วมวงเสวนาต่างๆ ท่ามกลางกระแสต่างๆ นานา แม้แต่คำถามถึงสถานะของสุดารัตน์เองว่าจะเป็นอย่างไรกันแน่

 

คล้อยหลังหนึ่งเดือนจากวันนั้นจนถึงวันนี้ (3 ธ.ค.) สุดารัตน์มาในชุดสูทสีเทา เธอเลือกเดินขึ้นด้านหน้าตึกที่ทำการพรรค จากที่ก่อนหน้านี้มักหลบสื่อขึ้นลิฟต์ชั้นใต้ดิน สื่อทุกสำนักรอคอยเธอ และหันมุมกล้องเล็งมุมไปยัง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เมื่อเดินทางมาถึง

 

 

ทั้งหมดนี้คือ จังหวะใหม่ที่มาพร้อมความมั่นใจและชัดเจนว่า นี่คือผู้นำตัวจริงที่เคาะนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งเพื่อไทย และสุดารัตน์ก็มั่นใจได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่า จังหวะนี้เธอคือผู้นำที่ทุกคนมอบความไว้วางใจเป็นหนึ่งเดียว และเป็นการประกาศถึงพลังความพร้อมของพรรคเพื่อไทย ที่จะเปิดประตูสู้ศึกทางการเมืองแบบเต็มอัตรา

 

บรรยากาศการประชุมใหญ่ในวันนี้ นอกจากจัดตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด และอธิบายวิธีการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งในแต่ละเขตแล้ว ไฮไลต์สำคัญคือ การขึ้นพูดต่อหน้าสมาชิกพรรค แกนนำพรรค และต่อหน้าสื่อมวลชน ถึงทิศทางการเมืองของเพื่อไทย โดย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และมีนัยเป็นสุนทรพจน์แรกที่สุดารัตน์สื่อสารปักหมุดอย่างเป็นทางการ และแน่นอนว่า นี่ไม่ใช่เพียงการสื่อสารต่อสมาชิก หากแต่เป็นการสื่อสารไปยังผู้มีอำนาจ และมุ่งตรงไปที่เป้าหมายที่เธอเลือกข้างแล้วคือ ‘ประชาชน’ นั่นเอง

 

 

ประกาศ 3 หยุด หยุดวิกฤตเศรษฐกิจ หยุดปัญหายาเสพติด หยุดปัญหาคอร์รัปชันทุกหย่อมหญ้า

ในฐานะประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรค ดิฉันขอถือโอกาสนี้เรียนท่านทั้งหลาย เพื่อให้ทราบถึงจุดยืนของพรรคต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ดังต่อไปนี้

 

ตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ครั้งไทยรักไทย พวกเราคนทำงานพรรคเพื่อไทยได้ผ่านวิกฤตทางการเมืองอย่างหนัก ทั้งการทำรัฐประหาร 2 ครั้ง การยุบพรรค 2 พรรค สมาชิกถูกตัดสิทธิ์การเมือง 2 ครั้ง กว่า 150 ชีวิต แต่เรา ‘คนทำงานพรรคเพื่อไทย’ ก็ยังยืนอยู่ได้อย่างแข็งแกร่ง จนสามารถชนะการเลือกตั้งถึง 6 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมา แม้ 2 ครั้ง จะถูกตัดสินให้เป็นโมฆะก็ตาม

 

เพราะเราไม่เคย ‘ทรยศ’ ต่อความหวังของประชาชน เราเลือกที่จะยืนเคียงข้างประชาชนเสมอมา

 

พวกเราคน ‘เพื่อไทย’ ทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้ ‘ทุกข์’ ของประชาชนถูกแก้ไข เพราะเราถือว่าทุกข์ของคนไทยคือทุกข์ของพรรคเพื่อไทย เราเชื่อมั่นใน ‘ศักยภาพของคนไทย’ และเรามองเห็น ‘ศักยภาพของประเทศไทย’ ในการเติบโต

 

ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีพรรคการเมืองใดที่ทำการบ้านหนักเท่ากับพวกเรา และไม่เคยมีพรรคการเมืองใดแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ตรงจุดเท่าพวกเรา นั่นเพราะเรา ‘ฟัง’ ประชาชน พวกเราจึงมีวิธีแก้ปัญหาและแก้ได้ถูกจุด มีผลเป็นที่ประจักษ์ เราได้ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นทั้งระบบมาแล้ว

 

 

แม้ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่หนักหน่วงอย่างวิกฤตต้มยํากุ้ง พวกเราก็ใช้ปัญญาและความสามารถบริหารงานจนสามารถคืนหนี้ IMF ได้ก่อนกำหนดถึง 2 ปี และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ถดถอยให้รุ่งเรืองได้สำเร็จ

 

พวกเราไม่เคยทิ้งประชาชนไว้ข้างหลัง พวกเราได้สร้างรายได้ที่ดีให้ประชาชนทุกระดับ ตั้งแต่เกษตรกร ด้วยการยกระดับราคาสินค้าเกษตร ธุรกิจเล็ก, กลาง, ใหญ่ ให้มีรายได้ดีขึ้น เราได้เปลี่ยน ‘ภาระหนี้สิน’ ให้เป็น ‘โอกาส’ ในการทำมาหากิน ทำให้ธุรกิจรายเล็กไม่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างอีกต่อไป

 

และเราเคยทำให้คนไทยได้ภาคภูมิใจในประเทศไทยของเราที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ จนก้าวมาเป็นผู้นำของภูมิภาคได้

 

ในด้านคุณภาพชีวิต 30 บาทรักษาทุกโรคที่ Amartya Sen นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลเคยกล่าวยกย่องว่า เป็นตัวอย่างที่ดีของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ได้ทำให้ประชาชนคนไทยเดินเข้าโรงพยาบาลอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ถูกมองว่าเป็นผู้ด้อยโอกาส หลายครั้งที่เราลงพื้นที่ ชาวบ้านจะเข้ามาสวมกอดแล้วร้องไห้ เล่าให้เราฟังว่า เขารอดตายเพราะโครงการ 30 บาท

 

ปัญหายาเสพติดที่ทำลายอนาคตของชาติ พวกเราก็เคยแก้ไขมาแล้ว จนสามารถคืนลูกหลานสู่อ้อมกอดพ่อแม่ได้เป็นจำนวนมาก

 

ในขณะที่พรรคการเมืองอื่นแสดงตนว่า ‘รู้’ วิธีบริหารประเทศมากกว่าประชาชน แต่สำหรับพวกเรา เรา ‘เข้าใจ’ ประชาชนมากกว่าพรรคการเมืองอื่น เราจึงแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้สำเร็จ

 

 

วันนี้เราลงพื้นที่รับสมัครสมาชิกพรรค และไถ่ถามประชาชนถึงความคับข้องใจของพวกเขา เราพบว่า

 

59% ของประชาชนบอกเราว่า ปัญหาใหญ่คือ ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง รวยกระจุก จนกระจาย หนี้สินท่วมหัว ค่าครองชีพสูง รายได้ไม่พอรายจ่าย สิ้นหวังเพราะประเทศล้าหลัง ถดถอย แข่งขันกับความเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ได้

 

14% ของประชาชนบอกเราว่า ปัญหายาเสพติดระบาดหนักยิ่งขึ้น ทำลายอนาคตเยาวชน

 

และ 13% ของประชาชนบอกเราว่า ปัญหาคอร์รัปชันกลับหนักยิ่งขึ้น ในยุคที่ไม่มี ‘นักการเมือง’ การรีดไถสินบนลุกลามบานปลายไม่สิ้นสุด จนประชาชนทำมาหากินไม่ได้

 

ทั้งที่ปัญหาเหล่านี้เคยได้ถูกแก้ไขจนคลี่คลายในสมัยที่พวกเราทำงาน แต่ตลอดสี่ปีกว่าที่ผ่านมา ความทุกข์ของประชาชนกลับมาเพิ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จากนี้ไปคือเวลาของการทำงานหนักยิ่งกว่าเคยของเรา ‘คนทำงานพรรคเพื่อไทย’

 

 

วันนี้ดิฉันดีใจที่ได้มายืนอยู่ท่ามกลางคนทำงานของพรรคเพื่อไทยที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา เป็นผู้มีความสามารถและประสบการณ์ทำงานมาอย่างยาวนาน เป็นผู้ผลักดันการพัฒนาประเทศให้สำเร็จในหลายด้าน พร้อมกันนั้น เราก็มีคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของทีมงานเพื่อไทย

 

เราจะทุ่มเทสุดกำลัง สุดสติปัญญา สุดความสามารถของเรา เพื่อหยุดวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศทุกระดับชั้น หยุดปัญหายาเสพติดทุกชุมชน และหยุดปัญหาคอร์รัปชันทุกหย่อมหญ้า

 

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนเลือกข้างแล้วว่าจะไม่ทนอยู่กับความสิ้นหวังอีกต่อไป

 

ประชาชนเลือกที่จะมีโอกาสสร้างรายได้ ไม่ใช่สร้างหนี้

 

เลือกที่จะอยู่กับความสำเร็จ ไม่ใช่อยู่อย่างล้มเหลว

 

และเลือกที่จะก้าวหน้า ทันโลก ไม่ใช่ล้าหลัง ถดถอย

 

วันนี้พรรคเพื่อไทยจึง ‘พร้อม’ ที่จะเดินหน้าจับมือกับประชาชน เพื่อนำความหวังและสร้างอนาคตของประเทศไทยร่วมกัน

 

เราจะคว้าโอกาสของโลกยุคใหม่มาใส่มือคนไทยให้ได้มากที่สุด

 

 

พี่น้องทุกท่าน ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า หัวใจของพรรคเพื่อไทยคือ ‘ประชาชน’ หัวใจของเราอยู่ที่ประชาชน พลังของเรามาจากประชาชน เราจะเดินหน้าไปพร้อมกัน และตราบใดที่เพื่อไทยและประชาชนจับมือกัน

 

เราและประชาชนจะมีชัยชนะเหนืออุปสรรคทั้งมวล

 

วันนี้พวกเราพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าฝ่าฟันทุกอุปสรรค เพื่อนำความสุขกลับคืนมาสู่คนไทย เราพร้อมแล้วที่จะนำพาอนาคตของประเทศไทยเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ

 

สิ่งที่เราเคยทำมาแล้วและประสบความสำเร็จตลอดมา ด้วยบุคลากรที่มีความพร้อมต่อหน้าทุกท่านในขณะนี้

 

เราจะทำต่อไป และจะทำให้สำเร็จได้ดีกว่าเดิม

 

สุนทรพจน์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย

3 ธ.ค. 2561

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising