THE STANDARD WEALTH - สำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ การเงิน และการลงทุน

×
THE STANDARD HOME ECONOMIC MARKET BUSINESS CRYPTOCURRENCY OPINION WEALTH MANAGEMENT WORK & LEADERSHIP LIFESTYLE & PASSION
Metaverse
EXCLUSIVE CONTENT

เปิดโผ 10 บริษัททรงพลัง ขับเคลื่อน Metaverse กระหึ่มโลกจริง

... • 4 พ.ย. 2021

HIGHLIGHTS

5 mins. read
  • Metaverse เป็นแนวคิดสะท้อนยุคต่อไปของการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ ตัวแนวคิดกำลังอยู่ในขั้นพัฒนา และวันนี้มีบริษัทอย่างน้อย 10 รายที่วางแผนเตรียมมอบประสบการณ์ Metaverse ผ่านการใช้โซเชียลมีเดียบนโลกออนไลน์แบบ 3 มิติสมจริง
  • ทั้ง 10 บริษัทนี้ถูกยกให้เป็นตัวละครหลักที่มีบทเด่นต่อการก่อร่าง Metaverse อย่างมีน้ำหนักที่สุดในนาทีนี้
  • แน่นอนว่า Facebook ถูกรวมใน 10 บริษัทที่ลิสต์มาด้วย โดย Facebook ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเมื่อปลายตุลาคม 2021 เป็น Meta Platforms Inc. เพื่อส่งสัญญาณว่าโฟกัสไปที่ Metaverse อย่างจริงจัง เช่นเดียวกับอีกหลายบริษัทที่เดินเครื่องเต็มที่แม้จะยังไม่ได้ประกาศอย่างป็นรูปธรรม

หลังจาก Facebook ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็น Meta Platforms Inc. เพื่อส่งสัญญาณว่าบริษัทโฟกัสไปที่ Metaverse อย่างจริงจัง วันนี้กระแสของโลกเสมือนจริงจึงได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างชัดเจนในหลายแง่มุม โดยเฉพาะเทรนด์การพัฒนาที่หลายคนอยากรู้เพื่อจะได้ตามทันอนาคตของโลกอินเทอร์เน็ต

 

สำหรับ Metaverse บริษัทแม่ของ Facebook อย่าง Meta อธิบายว่า Metaverse จะเป็นยุคต่อไปของการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะมอบประสบการณ์การใช้โซเชียลมีเดียบนโลกออนไลน์ในปัจจุบันในรูปแบบไฮบริด 

 

โดยจะเป็นการขยายประสบการณ์สู่รูปแบบสามมิติ หรือมีการแสดงภาพสู่โลกแห่งความจริง สิ่งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถแชร์ประสบการณ์โลกเสมือนจริงแก่ผู้อื่นได้แม้ในขณะที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน รวมถึงทำกิจกรรมที่ไม่สามารถทำร่วมกันในโลกความจริงได้อีกด้วย

 

แน่นอนว่า Metaverse ไม่ใช่แนวคิดใหม่ เพราะก่อนการสาธิตของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Facebook ที่โชว์หุ่นยนต์ยักษ์และการเดินทางข้ามเวลาแบบดิจิทัลไปยังกรุงโรมโบราณ เป็นความจริงว่ามีบริษัทหลายสิบแห่งที่ได้สร้างซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ที่สามารถนำมาใช้งานแบบ 3 มิติสมจริงในอนาคตแล้ว ซึ่งจะทำให้ทุกคนมีประสบการณ์เหมือนในภาพยนตร์ ‘Ready Player One’ ทีเดียว

 

ภาพ: Facebook 

 

ทุกคนรู้ดีว่าแนวคิด Metaverse ยังต้องใช้เวลาอีกกว่า 10 ปีกว่าจะบรรลุผล และจะต้องอาศัยความร่วมมือจากยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรอบด้าน ซึ่งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กลุ่มทุนอย่าง Roundhill Investments ได้สร้างกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Exchange Traded Fund (ETF) เพื่อติดตามและทำกำไรจากการทำงานของผู้สร้างที่จะเปิดโลก Metaverse หรือ Metaverse Enabler อย่างเป็นรูปธรรม แปลว่าในช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ Facebook จะประกาศรีแบรนด์ บริษัทอื่นก็ได้ชิงเปิดตัว Metaverse ETF ของตัวเองไปแล้ว

 

เกาะติด Top 10 ผู้สร้าง Metaverse  

สำนักข่าว Reuters ลงมือจัดลิสต์ 10 รายชื่อบริษัทเด่นที่เคยประกาศต่อสื่อเรื่องแผนการสร้าง Metaverse อย่างเป็นรูปธรรม บริษัทแรกคือดาวรุ่งอย่าง Roblox Corporation ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอเกมที่เปิดตัวสู่สาธารณะไปแล้วเรียบร้อยในปีนี้ 

 

วิสัยทัศน์ที่ Roblox ประกาศคือ Metaverse จะเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถมารวมตัวกันในประสบการณ์ 3D นับล้านประสบการณ์ เพื่อเรียนรู้ ทำงาน เล่น สร้าง และเข้าสังคม โดย Roblox ตั้งเป้าพัฒนาให้ผู้ใช้และนักพัฒนามีวิธีสร้างโลกดิจิทัลได้หลายใบ และซีอีโอของบริษัทยังได้เผยแนวคิดการช้อปปิ้งซื้อสินค้าในอนาคต รวมถึงการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มซึ่งมีระบบเศรษฐกิจเสมือนจริงที่ขับเคลื่อนด้วยสกุลเงิน Robux

 

อีกบริษัทที่ขานรับเริ่มพัฒนา Metaverse แล้วคือ Microsoft โดย สัตยา นาเดลลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Microsoft Corp กล่าวในระหว่างแถลงผลประกอบการปีนี้ ว่าบริษัทกำลังทำงานเพื่อสร้าง ‘Metaverse ขององค์กร’ ที่โลกดิจิทัลและโลกทางกายภาพจะมาบรรจบกัน

 

Microsoft นั้นมีภาษีดีเรื่อง Metaverse เพราะความเป็นเจ้าของแบรนด์เกม Xbox และเกมดังอย่าง Minecraft ซึ่งเป็นผู้เล่นรายหลักในโลกของเกม จุดนี้ ฟิล สเปนเซอร์ หัวหน้า Xbox เคยเปิดเผยว่าได้วางแผนสร้างโครง Metaverse ไว้แล้ว

 

ภาพ: Facebook 

 

บริษัทที่ 3 คือ Facebook ซึ่งจะเริ่มใช้ชื่อ Meta Platforms อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ โดย Facebook ให้เหตุผลของการตัดสินใจครั้งนี้ว่า ต้องการให้ทุกคนมองว่า Facebook เป็นบริษัท Metaverse มากกว่าที่จะเป็นโซเชียลมีเดีย 

 

ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีซึ่งมีผู้ใช้ราว 3 พันล้านคนได้ลงทุนอย่างหนักกับเทคโนโลยีเสมือนจริงทั้ง Augmented และ Virtual Reality และได้สร้างสภาพแวดล้อม VR ชื่อ Horizon ซึ่งเข้าถึงได้ผ่านชุดหูฟังยี่ห้อ Quest เรียบร้อย

 

บริษัทที่ 4 คือ Nvidia ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์อย่าง Nvidia Corp. ลงมือสร้างแพลตฟอร์ม Omniverse สำหรับเชื่อมต่อโลก 3 มิติเข้ากับจักรวาลเสมือนจริงที่แชร์ร่วมกันได้ (Shared Virtual Universe) โดยกล่าวว่าปัจจุบัน Omniverse ถูกใช้ในหลายโครงการแล้ว เช่น การสร้างแบบจำลองของอาคารและโรงงานในโลกจริงหลายแห่ง ดังนั้น Omniverse จะเป็นก้าวกระโดดที่จะสามารถสร้าง Metaverses ให้เกิดขึ้นได้

 

บริษัทที่ 5 คือ Unity Software Inc. ซึ่งพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบวิดีโอเกม บริษัทนี้เป็นอีกบริษัทที่เชื่อว่าจะสามารถขายเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่ใช้สร้าง Metaverse ได้ 

 

สำหรับบริษัทที่ 6 คือ Snap Inc. ที่ผ่านมา ต้นสังกัด Snapchat ได้สร้าง Avatar ที่ผู้ใช้กำหนดได้เอง และมีฟิลเตอร์ AR เพื่อตกแต่งให้ผู้ใช้คุ้นเคยกับเอฟเฟกต์ดิจิทัลบนโลกจริงมานานแล้ว แต่ในปีนี้ Snap ได้เปิดตัวแว่นตาเสมือนจริงตัวแรกของบริษัท ซึ่งเปิดให้นักพัฒนาได้ทดลองสร้างประสบการณ์ 3 มิติสำหรับแว่นสายตาโดยเฉพาะ

 

บริษัทที่ 7 คือบริษัทซอฟต์แวร์คลาวด์ Autodesk ผู้สร้างโปรแกรมที่สถาปนิกและวิศวกรใช้ในการออกแบบและสร้างอาคารและผลิตภัณฑ์ ย้ำว่าซอฟต์แวร์ของบริษัทสามารถใช้เพื่อสร้างโลกเสมือนจริงสำหรับการเล่นเกมและความบันเทิงได้ครบเครื่อง

 

ภาพ: Facebook 

 

บริษัทที่ 8 คือบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Tencent Holdings Ltd. บริษัทวิดีโอเกมรายใหญ่ที่สุดของโลกในแง่รายรับ และเป็นผู้ถือหุ้นในสตูดิโอเกมรายใหญ่ทั้ง Epic Games และ Activision Blizzard ล่าสุดสื่อของรัฐบาลจีนอย่าง South China Morning Post รายงานในปีนี้ว่า Tencent ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse มากมาย สำหรับใช้กับบริการโซเชียล QQ

 

บริษัทที่ 9 คือ Epic Games บริษัทที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์วิดีโอเกมยอดนิยมอย่าง Fortnite ได้ก้าวข้ามเกมยิงตูมตามไปสู่การสร้างประสบการณ์ทางสังคมแล้ว เช่น การมีฉากปาร์ตี้เต้นรำและคอนเสิร์ตดนตรีเสมือนจริง ผู้เล่นจะสามารถจ่ายเงินเพื่อแต่งตัวให้ Avatar ในชุดต่างๆ และสามารถสร้างเกาะและเกมของตัวเองได้ 

 

นอกจากนี้ Epic ยังเป็นเจ้าของเอ็นจินเกมขนาดใหญ่ Unreal ซึ่งใช้ในการพัฒนาเกมและเอฟเฟกต์ภาพอื่นๆ เช่น ฉากหลังรายการทีวี โดย ทิม สวีนีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Epic คือขาประจำที่มักวิจารณ์ยักษ์ใหญ่ไอทีที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มยอดฮิตทั้ง Apple Inc. และ Alphabet Inc. ให้เตรียมตัวเปิดกว้าง เพราะว่า Metaverse จะต้องเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้

 

บริษัทที่ 10 คือเจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon.com Inc. ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ที่สุดของโลก ความพร้อมนี้ทำให้ Amazon ถูกมองว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพใน Metaverse โดยเฉพาะในมุมการช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้นในโลก 3 มิติที่จะไร้หน้าจอมากั้นกลาง

 

ของไทยก็ไม่ใช่ย่อย

ในขณะที่บริษัทชั้นนำของโลกต่างมุ่งสร้างโลกเสมือนจริงของตัวเอง ประเทศไทยก็มีบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนต์อย่าง T&B Media Global ของ ‘ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์’ ที่ประกาศทุ่มทุนสร้างอาณาจักรโลกเสมือน ‘Metaverse Translucia’ เพื่อให้เป็นโลกเสมือนสุดจินตนาการรายแรกของไทย โดยมีพันธมิตรรายแรกคือ MQDC หรือบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่ปลุกปั้นด้วยฝีมือของ ‘ทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์’

 

ในแถลงการณ์ ทั้งคู่ระบุว่าได้ร่วมกันสานฝันสร้างบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของโลก ที่จะพัฒนาการเชื่อมต่อระหว่างโครงการในโลกจริงและโลกเสมือนจริงให้เป็นหนึ่งเดียวกันแบบไร้ตะเข็บ ถือเป็นอภิมหาโปรเจกต์ที่พลิกวงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์และอสังหาฯ

 

ยังมี AIS โอเปอเรเตอร์ที่ปลุกเทรนด์ Metaverse ด้วยการคว้า ‘น้องไอรีน’ เวอร์ชวลแบรนด์แอมบาสเดอร์ คนแรก บนเป้าหมายสร้างคอมมูนิตี้บนโลกเสมือนที่จะเดินคู่ไปกับวิถีปกติของโลกจริง เสริมกับความร่วมมือกันของ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท ซิตี้มอลล์ กรุ๊ป จำกัด (ดิ เอ็มโพเรียม), บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด (มหาชน), และกลุ่มแบรนด์ไลฟ์สไตล์รีเทลชั้นนำไม่ว่าจะเป็น Loft, Jung Saem Mool, ALAND เพื่อพัฒนาภาคการค้าปลีกของไทยจนเกิดเป็นแพลตฟอร์ม V-Avenue by AIS 5G ซึ่งถือเป็น Virtual Mall แห่งแรกของไทย

 

ภาพ: AIS

 

ที่สุดแล้ว กระแส Metaverse ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นเทรนด์แรงเพราะความคุ้นเคยของผู้บริโภคต่อการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบต่างๆ ที่วันนี้ถูกปรับให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้คน ซึ่งหากแยกย่อย Metaverse ออกมาเป็นหลายส่วน จะพบว่า Metaverse มีหลายเทคโนโลยีประกอบกันอยู่ ทั้งเรื่องสังคมไร้เงินสด สกุลเงินดิจิทัล การยืนยันตัวตนดิจิทัล บล็อกเชน รวมถึง AI ซึ่งทุกเทคโนโลยีเริ่มมีรากฐานและอยู่ในแผนที่หลายบริษัทจะทำในอนาคต

 

ดังนั้น การลงทุนด้วยดิจิทัลของหลายบริษัทจึงเกี่ยวกับการสร้างฐานสู่ Metaverse ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ซึ่งเชื่อว่าทุกฝ่ายจะทำงานร่วมกันในการตีความ Metaverse ออกมาสำหรับแต่ละธุรกิจตลอดช่วง 5 ปีนับจากนี้ โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทเกมที่จะให้ความเพลิดเพลินแบบเสมือนจริง นักดนตรีที่สามารถจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริงภายในแพลตฟอร์มเหล่านี้ รวมถึงบริษัทแฟชั่นที่สามารถทำเสื้อผ้าเสมือนจริงให้ Avatar สามารถสวมใส่ได้ในสภาพแวดล้อมแบบ metaverse.

 

อ้างอิง :

กรุณาเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความ EXCLUSIVE CONTENT ฟรี!

อีเมลนี้ถูกใช้สมัครสมาชิกเข้ามาในระบบแล้ว

กรุณาตรวจสอบกล่องจดหมายในอีเมลที่ใช้สร้างบัญชีกับ
The STANDARD จากนั้นทำการยืนยันอีเมลของคุณ

หากค้นหาไม่พบอีเมลที่กล่องจดหมายเข้า (inbox)
กรุณาตรวจสอบที่กล่องจดหมายขยะ (junk mail)

... • 4 พ.ย. 2021

READ MORE



Latest Stories