วันนี้ (7 มี.ค.) พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ครั้งที่ 2/2562 (วาระพิเศษ)
โดยความพิเศษก่อนการประชุมวันนี้คือพลเอก อภิรัชต์ นำ ‘ผู้บังคับกองพัน-ผู้บังคับการกรม-ผู้บัญชาการกองพล’ กล่าวปฏิญาณตนเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 บริเวณหน้าหอประชุมกิตติขจร กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน
โดยพลเอก อภิรัชต์ กล่าวคำปฏิญาณพร้อมกำลังพล 3 ครั้งว่า
“ข้าพระพุทธเจ้าจะรักษามรดกของท่านไว้ด้วยชีวิต”
จากนั้นผู้บัญชาการทหารบกนำกำลังพลกล่าวคำปฏิญาณด้วยน้ำเสียงดุดันและเข้มแข็งว่า
“ข้าพเจ้าจะรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า และจะธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของทหาร
“ข้าพเจ้าในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะสนับสนุนรัฐบาลที่ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความจงรักภักดี และมีธรรมาภิบาล
“ข้าพเจ้าจะดูแลและช่วยเหลือเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส และจะปกครองดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัวด้วยความเมตตาและเป็นธรรม”
ทั้งนี้เมื่อเสร็จสิ้นพิธีกล่าวปฏิญาณตน พลเอก อภิรัชต์ ได้ทำพิธีมอบประกาศชมเชยผลการปฏิบัติหน้าที่ให้กับ พันโท ประกิต ผลฟัก รองหัวหน้ากองยุทธการ มณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี ในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี มีความอดทนอดกลั้น สามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงของพรรคการเมืองหนึ่ง (พรรคเสรีรวมไทย) ในจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา
พลเอก อภิรัชต์ กล่าวให้โอวาทชื่นชมพันโท ประกิต ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่รักษาวินัยอย่างเคร่งครัด มีความอดทนอดกลั้น ควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดีจากการถูกยั่วยุ หมิ่นประมาทจากการปฏิบัติหน้าที่
ซึ่งสถานการณ์นี้ตนเคยพูดไว้หลายครั้งก่อนที่จะมีการหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ว่าทหารควรยืนอยู่ตรงไหน
เราทำหน้าที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา เราไปดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นตัวอย่างงานรักษาความสงบเพียงงานเดียวเท่านั้นที่ทหารเข้าไปมีส่วนร่วมกับประชาชน
โอกาสที่ทหารสัมผัสกับประชาชนด้วยหน้าที่นั้นน้อยมาก ทหารจะสัมผัสกับประชาชนเมื่อประชาชนเดือดร้อน มีภัยพิบัติ บ้านเมืองมีศึกสงคราม นั่นคือหน้าที่หลักของทหาร
ในห้วงที่บ้านเมืองอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการเปลี่ยนแปลงโดยจะมีการเลือกตั้ง ทหารต้องทำหน้าที่ของตนเองด้วยความอดทนอดกลั้น ด้วยความเป็นกลาง ดำเนินทุกอย่างตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ดังนั้นการปฏิบัติหน้าที่ของพันโท ประกิต ถือเป็นตัวอย่างหนึ่ง ขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกท่านชี้แจงให้ผู้ใต้บังคับบัญชาฟังว่าเรามีสมบัติผู้ดี ถูกฝึกอบรมสั่งสอนมา เราเป็นหนึ่งเดียวกัน จากนี้ไปเราต้องระมัดระวัง ที่สำคัญเราต้องรักษาเกียรติความเป็นทหารอาชีพไว้ให้ดี เมื่อใดที่เราแตกกัน ไม่รักสามัคคีกัน ประเทศชาติก็อยู่ไม่ได้
วันนี้ชื่นชมพันโท ประกิต ต่อหน้าผู้บังคับบัญชาทุกคน คงจะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกก็ต้องเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ผ่านพ้นอุปสรรคไปให้ได้ ให้ประชาชนเห็นว่าเราเป็นทหารอาชีพ เรามีความอดทนอดกลั้น
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์