วันนี้ (6 ก.พ.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นำสมาชิกพรรคยื่นสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) จำนวน 124 รายชื่อ ส่วนบัญชีนายกฯ ของพรรคเสนอชื่อนายธนาธรคนเดียว
โดยนายธนาธรให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในการลงสมัครรับเลือกตั้งว่า พรรคอนาคตใหม่มองว่ามีโอกาสที่จะได้รับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 30 เขต ส่วนแคมเปญของพรรคที่จะทำให้ประชาชนมาสนใจพรรคอนาคตใหม่คือ จะลงพื้นที่ทำงานอย่างหนัก จากเวลาที่เหลืออีก 40 วัน โดยเน้นทั้งกลุ่มคนทำงาน ผู้สูงอายุ และกลุ่มอายุ 18-25 ปี ผ่านการเจาะกลุ่มโซเชียลและการเดินพบปะประชาชน
นายธนาธรกล่าวว่า จะพยายามทำให้หนักทั้งสองทางเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมาย จะเน้นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ และการปลดล็อกทางการเมือง ทั้งสองปัญหาต้องแก้ไปด้วยกัน ไม่สามารถแก้เรื่องใดเรื่องหนึ่งเด็ดขาดจากกันได้ เชื่อว่าประเมินจากกระแสขณะนี้พรรควางกรอบจำนวน ส.ส. ไว้ประมาณ 70 คน แต่หลังจากนี้จนถึงวันเลือกตั้งถ้าลงพื้นที่อย่างหนักน่าจะได้มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้
ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า วันนี้พรรคเดินทางไป กกต. เพื่อยื่นรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และชื่อของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคอนาคตใหม่เสนอ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเห็นว่ามีความเหมาะสมมากในช่วงเวลานี้ และเมื่อพิจารณารายชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคอื่นๆ แล้ว ยิ่งมีความมั่นใจว่าธนาธรมีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด เพราะมีจุดเด่นเรื่องบริหารงานเป็น และจุดยืนเรื่องประชาธิปไตยที่ชัดเจน
นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า การเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ไม่เพียงแต่เป็นการเลือกตั้งเพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของ คสช. เท่านั้น แต่พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่า จำเป็นต้องยืนยันหลักการเรื่องนายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. ด้วย ต้องไม่ลืมว่าหลักการนี้ เป็นการต่อสู้กันอย่างยาวนานของประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย เพื่อจะยืนยันหลักการว่านายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. เราผ่านเหตุการณ์ตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2516, 6 ตุลาคม 2519 ผ่านช่วงประชาธิปไตยครึ่งใบที่เลือกตั้งกี่ครั้งสุดท้ายก็เชิญคนนอก เชิญคนที่ไม่ได้เป็น ส.ส. เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีทุกครั้ง กว่าจะได้หลักการนี้ยืนหยัดปักฐานในรัฐธรรมนูญก็ต้องรอหลังพฤษภาคม 2535 ประชาชนเสียเลือดเนื้อ เสียชีวิตไปจำนวนมาก เพื่อจะได้นายกรัฐมนตรีที่มาจาก ส.ส. เราไม่ต้องการนายกคนนอกอีกแล้ว
“การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องยืนยันหลักการนี้ให้มั่นว่า นายกรัฐมนตรีหลัง 24 มีนาคม 2562 จะต้องเป็น ส.ส. เท่านั้น ซึ่งเมื่อพิจารณาเช่นนี้แล้ว กรณีของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ไม่ได้ลงเป็นผู้สมัคร ส.ส. หรือกรณีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้ง 2 ท่านนี้จึงไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามความเห็นของผม เพราะว่าเราต้องรักษาหลักการ นายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส. ให้ได้ เราไม่เพียงแต่ยุติการสืบทอดอำนาจของ คสช. เท่านั้น แต่ต้องไปให้ไกลกว่าเดิมคือ ไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนอก หลักการเรื่องนายกรัฐมนตรีคนนอกประเทศไทยเราไม่เอามานานแล้ว มีครั้งนี้เท่านั้นเองที่เขียนรับรองเปิดทางในรัฐธรรมนูญ เราต้องไม่ยอมเด็ดขาด มิฉะนั้น อนาคตต่อไปข้างหน้าเราจะเสียหลักการนี้ไปและจะเปิดทางให้ทหารเข้ามาได้อีก” นายปิยบุตร กล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
