พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงพรรคพลังประชารัฐที่จะมาทาบทามให้นั่งเป็นบัญชีนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (1 ก.พ.) ว่าถ้าเชิญก็ขอบคุณและยินดี แต่ยังไม่ตอบรับ และมีเวลาตัดสินใจในการเซ็นเอกสารตอบรับจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พร้อมบอกสื่อมวลชนว่าไม่ต้องมาถามเรื่องนี้ทุกวัน
โดยยืนยันว่าการลงมาสู่สนามการเมืองครั้งนี้ไม่ได้คิดหรือเตรียมการมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 แต่ยอมรับว่าตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาได้เห็นปัญหา จึงคิดว่าจำเป็นจะต้องทำหรือไม่ และประชาชนอยากให้ตนเองอยู่ต่อหรือไม่
พร้อมย้ำว่าการเดินต่อทุกก้าวขึ้นอยู่กับนโยบาย เพราะตนจะเดินต่อไม่ได้ มันจะต้องเดินต่อด้วยนโยบายรัฐบาลใหม่ จึงจำเป็นต้องเอานโยบายรัฐบาลใหม่มาศึกษาว่าสิ่งใดสอดคล้องกับสิ่งที่ตนทำมา
พลเอก ประยุทธ์ ย้ำถึงการแก้ปัญหาฝุ่นละอองว่าทุกมาตรการที่ประกาศออกมาในขณะนี้ โดยเฉพาะการหยุดเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กที่มีภูมิคุ้มกันต่ำได้รับผลกระทบ แต่การตัดสินใจต้องคำนึงถึงผลกระทบในเรื่องของเวลาเรียน จึงต้องหาเวลาเรียนชดเชย ดังนั้นในการแก้ปัญหาจึงต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
ส่วนรถที่มีควันดำก็ต้องใช้มาตรการตรวจอย่างจริงจัง หากรถคันใดมีควันดำก็ต้องติดสติกเกอร์หยุดวิ่ง และมองไม่ถึงขั้นต้องพ่นสีบนรถ ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลได้มอบหมายให้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้รับผิดชอบและเตรียมแผนรองรับในทุกระดับ พร้อมขออย่านำทุกเรื่องและทุกปัญหาไปเชื่อมโยงเป็นประเด็นทางการเมืองให้เกิดความแตกแยกหรือขัดแย้ง
ส่วนกรณีที่องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติจัดอันดับดัชนีคอร์รัปชันไทยลดลง จะต้องวางมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีย้ำว่าไม่จำเป็น เพราะทุกอย่างทำไว้หมดแล้ว เพียงแต่เอามาดูว่าคะแนนที่ตกคือด้านใด แต่สิ่งหนึ่งที่ถูกนำมาพิจารณาเพราะเป็นรัฐบาลพิเศษที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ขณะที่ประเด็นที่บอกว่าตรวจสอบได้หรือไม่ได้นั้น เห็นว่าทุกองค์กรตรวจสอบรัฐบาล เมื่อผลตรวจออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ แต่ถ้าไม่ยอมรับ กลับเข้าข้างว่าตัวเองไม่มีปัญหา นั่นกลับชอบ และหาว่าไม่เป็นธรรม พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาตนเองไม่เคยเอื้อประโยชน์ อย่างน้อยก็ต้องได้คะแนนเต็ม
ส่วนประเด็นนาฬิกาหรูมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ซึ่งเป็นคนละส่วนกันกับการประเมินคะแนนคอร์รัปชัน เพราะ ป.ป.ช. ตัดสินจบไปแล้ว รวมถึงคดีใหญ่บางคดีก็พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้นจึงต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและดูพยานหลักฐาน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์