วันนี้ (1 ก.พ. 62) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวระหว่างการแถลงผลงานรัฐบาลปีที่ 4 โดยหลังจากแถลงผลงานยาวเกือบ 2 ชั่วโมง
ช่วงท้าย พลเอก ประยุทธ์ ได้ตอบคำถามการเมือง 5 ข้อ โดยเป็นการถามเอง-ตอบเอง
1. เรื่องการลาออกเพราะสื่อมวลชนชอบถาม ซึ่งตนขอกล่าวถึงหลักการและเหตุผลที่ใช้พิจารณาลาออกหรือไม่นั้น ซึ่งคนละเรื่องกับรับหรือไม่รับเป็นบัญชีนายกฯ พรรคการเมืองนั้นก็อยู่ที่นโยบายของเขาว่าตนโอเคหรือไม่
“ถ้าผมโอเค ถ้ามีการปรับแก้อย่างที่ผมอยากให้เกิดขึ้นในทางที่ถูกต้อง ถ้าแบบนี้ก็อยู่กันได้ (ถ้าผมเข้ามาอีกนะ) ถ้าแก้ไม่ได้ก็ไม่ต้องมา อยู่บ้าน
“ส่วนหลักการที่พิจารณาว่าจะลาออกหรือไม่ลาออก จำคำพูดผมไว้นะ ทั่วโลกที่เป็นระบอบประชาธิปไตยหรือสังคมนิยม ผู้นำรัฐบาลเมื่อมีการเลือกตั้งไม่เคยมีใครลาออกเพื่อการเลือกตั้ง เช่น บารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงเลือกตั้งในครั้งที่ 2 หรือสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน มีใครลาออกหรือไม่”
2. รัฐธรรมนูญ กฎกติกา ธรรมเนียมปฏิบัติ หรือมารยาทเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั่วโลก ไม่มีการระบุว่าผู้ที่ลงเลือกตั้งและมีตำแหน่งบริหารอยู่ด้วยต้องลาออก
3. รัฐธรรมนูญไทยตั้งแต่ปี 2475 ถึงปัจจุบันก็ไม่ได้กำหนดว่าให้ลาออก ส่วนการปฏิบัติจริงไม่เคยมีใครลาออกขณะเลือกตั้งเลย
“ปี 2554 ใครเป็นนายกฯ ลาออกหรือเปล่า ไม่ออก และยังไปหาเสียง ครม. ด้วย ผมยังไม่ได้ทำเลยเนี่ย ไม่ได้ไปแบบเขาเพราะยังไม่ได้ไปร่วมกับพรรคการเมือง และต้องดูอีกทีว่าทำได้หรือไม่ได้ด้วย
“ในการเลือกตั้งปี 2557 นายกฯ อีกคน กับ ครม. ลาออกไหม ไม่ออก อย่ามาพูดส่งเดช”
ไอ้ที่ออกเรื่องปลากระป๋อง มีความผิดก็ออกไปสิ 4 คนที่ออกไปไม่มีความผิดอะไรเลย แต่เขาอยากไปทำการเมืองได้เต็มตัวทั้งที่เขาอยู่ได้ตามกฎหมาย
อย่าไปไล่มากันมากนัก เดี๋ยวจะไล่ล่ารัฐมนตรีออก เดี๋ยวจะไล่ล่านายกฯ ออก ก็กฎหมายเขามาแบบนี้ มึงมาไล่ดูสิ
4. คนที่ออกไปไม่ได้มีความผิดอะไรเลย แต่ที่เขาขอออกไปทำการเมืองให้เต็มที่ ทั้งๆ ที่เขาอยู่ได้ตามกฎหมาย ทั้งจะไล่ล่ารัฐมนตรีออก จะไล่นายกฯ ออก ก็กฎหมายเขามาแบบนี้ ก็ไล่ให้ได้สิ ไม่ท้าทาย “แต่ผมไม่ออก”
“การที่พรรคประชาธิปัตย์ นายกฯ อภิสิทธิ์แพ้การเลือกตั้งปี 2554 ไม่น่าเอ่ยชื่อเลยหลุดไปแล้ว ในการแข่งขันกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ทำไมแพ้ล่ะ เป็นรัฐบาลหรือเปล่า ทำไมแพ้
แสดงว่าการเป็นรัฐบาลไม่ได้ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบขึ้นมาแต่อย่างใด แต่ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลมีผลงานหรือไม่มีผลงาน หากไม่มี ประชาชนก็ไม่เลือกอยู่แล้ว เขาก็ไปหวังในสิ่งใหม่ๆ ที่พูดกันออกมา ซึ่งจริงบ้างและไม่จริงบ้าง ก็คือการเมืองไทย”
5. นักการเมืองในประเทศอื่นเขาก็เคารพกติกา เขาก็จะไม่มาถกเถียงกันในเรื่องเหล่านี้ นักการเมืองเราเวลาจะพูดอะไรสักอย่าง ไม่มองตัวเองว่าเคยพูดและทำให้อะไรที่เสียหาย ซึ่งเฉพาะที่เสียหายก็เยอะอยู่แล้ว เคยพูดบ้างไหม
ทั้งนี้ 4 รัฐมนตรีตนไม่ได้กดดันว่าให้ต้องลาออก เพราะรู้ว่ากฎหมายมันไม่ต้องออก ซึ่งตนจะให้เขาทำงาน แต่เขาต้องการจะไปทำพรรคการเมือง ตนก็ปล่อยเขาไปและต้องหาคนมาทำแทนให้ได้
จึงอย่ามาคิดว่าออกเพราะกลัว เขาไม่ได้กลัว และก็จะมากดดันตน ซึ่งกดดันไม่ได้ เพราะตนเคารพกฎหมาย
ในเรื่องของการโจมตีรัฐบาล คสช. ถามว่าทำไมมันเยอะขึ้น ท่านก็รู้อยู่แล้วการเมืองไทยเป็นแบบนี้ ปฏิรูปไม่ได้สักที เป็นไปตามขั้นตอนของผู้ไม่หวังดี เรื่องอยากเลือกตั้ง ห้ามเลื่อนเลือกตั้ง ในเรื่องทำนองนี้ พอกำหนดวันเสร็จ ก็บอกว่าไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นไปตามสเตป
พลเอก ประยุทธ์ ย้ำให้ไปดูกฎหมายเพราะทุกอย่างไม่ได้ขึ้นกับตน อยู่ที่กฎหมายและขั้นตอนตามโรดแมป ซึ่งตนพูดในขั้นต้น 24 ก.พ. เมื่อกฎหมายไม่พร้อม มีพระราชพิธีฯ ก็ขยับไปอีกหน่อยหนึ่งก็เท่านั้นเอง ถ้าท่านอยากเข้ามาก็ต้องยอมรับกติกาเหล่านี้ได้
รัฐบาลรักษาการ รัฐบาลมีอำนาจเต็ม ต่างกันตรงที่ห้ามย้ายข้าราชการโดยไม่จำเป็น ซึ่งตนก็ดูอยู่หากไม่จำเป็นก็ไม่อยากย้ายอยู่แล้ว
ห้ามใช้งบประมาณผูกพัน เว้นที่จำเป็น ซึ่งรัฐบาลตนทำได้ถ้าเป็นความเร่งด่วน ถ้าไม่เร่งด่วนก็ไม่อยากใช้
ห้ามจัดทำงบประมาณในช่วงรัฐบาลรักษาการ ครั้งที่แล้วปี 2557 เขาลาออกแล้วใช่ไหม
และเป็นรัฐบาลรักษาการ งบประมาณยังใช้ไม่ได้เลย ทำงบประมาณก็ไม่ได้ จะไม่มีเงินจ่ายข้าราชการในโครงการทั้งหมด ดังนั้นปี 2557 ตนจึงเข้ามาเพราะต้องใช้เงินปี 2557 ให้ได้ และทำงบปี 2558 ตนจึงเข้ามาเพราะไม่มีวิธีการอื่นแก้ปัญหาได้ เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการ
วันนี้เขียนไว้แล้วในรัฐธรรมนูญ มาตรา 264, 265 ซึ่งสั่งตน และตนไม่ได้ไปสั่ง กรธ. เขาสั่งว่าให้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ต้องอยู่ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ลาออกไม่ได้ ถ้านายกรัฐมนตรีลาออก ครม. ต้องออกทั้งหมด แล้วใครจะอยู่จัดงาน ใครจะอยู่ทำในสิ่งที่พูดมาทั้งหมด เข้าใจหรือยัง อย่ามาถามผมอีก ไม่ต้องมาไล่ผม ผมพูดในเรื่องกฎหมาย โอเคนะครับ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
