วันนี้ (30 พ.ย.) นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงถึงปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต. ว่า พรรคให้อดีต ส.ส. แต่ละจังหวัดรวบรวมว่ามีจังหวัดใดที่แบ่งเขตเลือกตั้งไม่เป็นไปตาม 3 รูปแบบที่เคยรับฟังความเห็นจากประชาชนบ้าง ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีหลายสิบจังหวัด
พร้อมยกตัวอย่างการแบ่งเขตเลือกตั้งในจังหวัดสุโขทัยที่มีลักษณะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยนายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีต ส.ส. สุโขทัย ได้ทำหนังสือร้องเรียนกับ กกต. มาตลอด เพื่อขอให้ใช้วิธีการแบ่งเขตแบบเดิม พร้อมระบุในหนังสือที่ทำถึง กกต. ว่ามีนักการเมืองอาวุโสพยายามผลักดันการแบ่งเขตรูปแบบใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการและคุมความได้เปรียบทางการเมืองได้ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องตามรัฐธรรมนูญความชอบธรรมและความคุ้นเคยที่ประชาชนควรปฏิบัติ เนื่องจากจังหวัดสุโขทัยมี 3 เขตเลือกตั้งเท่าเดิม และทั้ง 3 เขต มีจำนวนประชากรใกล้เคียงกัน แต่ กกต. กลับแบ่งเขตรูปแบบใหม่โดยเฉพาะเขตที่ 2 มีการเชื่อมอำเภอทุ่งเสลี่ยมเพิ่มเข้ามาทั้งที่มีรอยต่อยาวเพียง 500 เมตรเท่านั้น ซึ่งไม่สะดวกกับทั้งเจ้าหน้าที่ กกต. และประชาชน เนื่องจากลักษณะภูมิศาสตร์มีความลำบากในการจัดการเลือกตั้งและเดินทางไปยังเขตเลือกตั้ง ถือเป็นการแบ่งเขตที่อัปลักษณ์ เสมือนกับขีดเขตเลือกตั้งตามที่ใครบางคนต้องการ ซึ่งก่อนหน้านี้ในการเจรจาให้ย้ายพรรคก็มีการนำเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้งมาต่อรองด้วย
นายธนายังได้นำผังการแบ่งเขตปี 2557 มาเปรียบเทียบกับการแบ่งเขตครั้งล่าสุด ที่ไม่เป็นไปตามหลักประชากรและพื้นที่ใกล้เคียงมาแสดงต่อสื่อมวลชนด้วย
พร้อมกับตั้งคำถามไปถึง นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. ที่ออกมาระบุว่า แบบที่ประชาชนส่งมาให้ กกต. แบ่งเขตได้ดีกว่าที่ กกต. จังหวัดแบ่งเองนั้น ประชาชนคนไหนที่มีความชำนาญแบ่งเขตเลือกตั้งดีกว่า กกต. แล้วคนคนนั้นใกล้ชิดอำนาจรัฐใช่หรือไม่
ด้านนายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีต ส.ส. สุโขทัย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้ข่าวว่าจะมีการแบ่งเขตอำเภอกงไกรลาศออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่มีนักการเมืองใหญ่ในจังหวัดสุโขทัยบางคนต้องการตัดแบ่งเขตออก เพื่อให้ตัวเองได้เปรียบ ในขณะที่ตนเสนอให้แบ่งเขตรูปแบบเดิมเหมือนกับการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ด้วยความเหมาะสมทั้งเรื่องเขตติดต่อและจำนวนประชากรที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งมีการทำหนังสือถึง กกต. ไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม เพื่อขอให้แบ่งเขตตามรูปแบบเดิม พร้อมแจ้งให้ระวังเรื่องการแทรกแซงเกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง แต่สุดท้ายมีการประกาศใช้วิธีการแบ่งเขตแบบที่ 4 ที่ชาวบ้านเรียกว่าเป็นรูปแบบพิสดาร
นายสัมพันธ์มองว่า เพียงแค่เริ่มต้นการแบ่งเขตยังไม่ยุติธรรม แล้วจะมีอะไรทำให้เชื่อว่าการหย่อนบัตรเลือกตั้งจะมีความสุจริต เที่ยงธรรม พร้อมชี้ให้เห็นถึงปัญหา 4 อย่าง ที่จะทำให้พรรคที่ใกล้ชิดอำนาจรัฐชนะการเลือกตั้งคือ
- ความพยายามของพรรคผู้มีอำนาจในการดูดอดีต ส.ส. จากพรรคต่างๆ
- ปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้ง
- ปัญหาโกงการเลือกตั้ง เช่น กรณีบัตรเลือกตั้งผี เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี 2548
- การสรรหาฝ่ายสอบสวน
สำหรับการแบ่งเขตการเลือกตั้ง 350 เขตของ กกต. ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากถึงความพิสดารและความพยายามเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองที่สนับสนุน คสช.
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่ 30 พ.ย. 2561 ขึ้นพาดหัวใหญ่ว่า ‘อําเภอเดียว 4 เขต ผลงานอันแสนวิเศษของ กกต.’
สืบเนื่องจากกรณีการแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดนครราชสีมา โดยนายประเสริฐ จันทรวงทอง อดีต ส.ส. นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดนครราชสีมาถูกแบ่งกระจุยกระจายอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้ว่าจะหายไป 1 เขต จาก 15 เขต เหลือ 14 เขต แต่ไม่น่าจะแบ่งออกมาหน้าตาแปลกประหลาดขนาดนี้ โดยเป็นรูปแบบที่ 4 ที่ไม่อยู่ใน 3 รูปแบบที่ กกต. จังหวัดเสนอต่อ กกต. ที่เคยสอบถามความเห็นของชาวโคราชที่ต้องการให้ใช้เขตเลือกตั้งรูปแบบที่ 1 แต่ตอนสรุปกลับใช้รูปแบบที่ 4 แทน
ทำให้เขตอำเภอเมืองนครราชสีมาถูกซอยย่อยออกเป็น 4-5 เขตเลือกตั้ง ขณะที่ อำเภอปากช่องที่มีประชากรเท่ากับ 1 เขตเลือกตั้ง แต่ กกต. ไปตัดบางตำบลในอำเภอปากช่องออก
นอกจากนี้เขตเลือกตั้งที่ 3 อำเภอสีคิ้วไม่เคยรวมกับอำเภอขามทะเลสอมาก่อนก็ถูกนำมารวมกัน ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบแน่นอน เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคใกล้ชิดรัฐบาล และ คสช. หรือไม่ อดีต ส.ส. กำลังปรึกษาทีมกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไรกับการแบ่งเขตเลือกตั้งเช่นนี้ได้
ภาพ: AFP
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
