เช้าวันนี้ (19 ธ.ค.) เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ก่อนหารือประชุมแนวทางการหาเสียงเลือกตั้งร่วมกับ กกต. และพรรคการเมืองว่า ก่อนหน้านี้ กกต. ได้ส่งหนังสือไปให้แต่ละพรรคแสดงความคิดเห็น ซึ่งอ่านแล้วมีเรื่องกังวลใจอยู่ข้อหนึ่งว่า
ในช่วงหลัง พ.ร.ฎ. เลือกตั้ง อาจจะซื้อโฆษณาในโซเชียลมีเดียไม่ได้ ซึ่งน่าแปลกใจมาก เพราะอนุญาตให้ซื้อโฆษณาสื่ออื่นได้โดยนับเป็นงบประมาณรวมกันในการหาเสียง แต่การซื้อโฆษณาในโซเชียลมีเดียถูกกว่า ถ้าต้องการให้ประหยัดงบประมาณ ไม่อยากให้ใช้เงินแข่งกัน ก็น่าจะสนับสนุนการใช้โซเชียลมีเดียด้วย
ส่วนกรณีป้ายหาเสียงที่ให้มีเฉพาะภาพผู้สมัคร ส.ส. เขต หัวหน้าพรรค และแคนดิเดต นายกฯ ของพรรคนั้น เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่เห็นว่า ตามข่าวยังเป็นเพียงร่างระเบียบของ กกต. แต่สิ่งที่อยากตั้งคำถามคือ แล้วผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อจะครอบคลุมถึงหรือไม่ ไม่เช่นนั้นการประชาสัมพันธ์ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อจะทำได้อย่างไร
ขณะที่ตามหลักการการหาเสียง ควรเปิดเสรีภาพให้มาก ระเบียบต่างๆ ที่กำหนดควรตีความให้เสรีภาพเป็นเรื่องหลัก
“มันเหมือนกับมาสนใจในเรื่องที่ไม่ควรเป็นเรื่อง ตัวรูปภาพไม่ว่าจะเป็นรูปใคร ต่อให้ไม่มีภาพทุกคนก็ทราบกันอยู่แล้วว่าพรรคไหนมีบุคคลสำคัญเป็นใครบ้าง” ปิยบุตร กล่าว
ส่วนประเด็นข้อขัดแย้งภายในพรรคอนาคตใหม่เกี่ยวกับการทำไพรมารี่โหวตนั้น
ปิยบุตร ยอมรับว่า การที่พรรคนำรูปแบบที่ฝันมาใช้กับสภาพการเมืองในความเป็นจริง วัฒนธรรมการเมืองแบบเก่าที่ยังครอบงำอยู่ อีกทั้งการทำพรรคแบบเปิดก็มีโอกาสที่บุคคลจำนวนมากจะอาศัยช่องทางแบบเปิดนี้เข้ามา
ดังนั้นพรรคเองก็ต้องมีอำนาจในการคัดกรองบุคคลด้วย ซึ่งได้ประกาศไปตั้งแต่แรกแล้วว่าจะเปิดให้ทุกคนมีโอกาสเข้ามาสมัครเสนอตัวลง ส.ส. แต่พรรคจะต้องมีการคัดเลือกโดยไพรมารีโหวตและกลับมาให้กรรมการบริหารพรรคคัดเลือก
ยืนยันว่าไพรมารีโหวตเป็นเรื่องสำคัญของอนาคตการเมืองไทย ซึ่งจะทำให้ไม่มีใครผูกขาดพรรคการเมืองได้ แต่ต้องใช้เวลาที่จะให้สมาชิกมีจำนวนมากพอ ในต่างประเทศสมาชิกพรรคต้องมีหลักล้านคนในการทำไพรมารีโหวตถึงจะส่งผล และสมาชิกพรรคจะต้องร้อยรัดกันด้วยอุดมการณ์ ปัญหาอุปสรรคที่ผ่านมามองว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่เริ่มต้นเลยก็จะไม่ได้ใช้ไพรมารีโหวตเลยในประเทศนี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า