บุก Silicon Valley หุบเขา AI เปลี่ยนโลก

ผมเคยเดินทางมา Silicon Valley เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เดาไม่ยากใช่ไหมครับว่าเพราะอะไร

ใช่แล้วครับ GenAI

หลายคนอาจจะเบื่อ เพราะคำนี้ถูกใช้ซ้ำจนเฝือ แต่เชื่อผมครับว่า เกือบ 2 สัปดาห์ที่ผมอยู่ที่นี่ ผมยืนยันได้ว่า ‘ของจริง’ และยิ่งได้มาเห็น คุย สัมผัสด้วยตัวเอง ผมยิ่งรู้สึกว่าคลื่นนี้แรงกว่าที่คิด

“AI กำลังจะเปลี่ยนทุกอย่างในอีก 10 ปีข้างหน้า” Jensen Huang ซีอีโอแห่ง NVIDIA กล่าวบนเวที Dreamforce 2024 ในซานฟรานซิสโก เขาย้ำอีกประโยคเข้าสองหูผมเต็มๆ ว่า “ผมไม่อยากให้ทุกคนพลาดหนังใหญ่เรื่องนี้เลย”

คำถามสำคัญไม่ใช่ว่าเราจะวิ่งตามคลื่นนี้ดีไหม แต่คือเราควรจะจับคลื่นนี้อย่างไร เราควรจะกระโดดท่าไหนจึงจะได้เปรียบ เราต้องเล่นกระบวนท่าอะไรจึงจะแข่งขันได้ หัวใจของเทรนด์นี้คืออะไร ช่องว่างอยู่ตรงไหน ตำแหน่งแห่งหนของคนไทยอยู่ที่ใด

นี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ผมเดินทางมาที่นี่ คลื่น GenAI เพิ่งเริ่มต้นขึ้นไม่ถึง 2 ปี แม้แต่ใจกลางโลกอนาคต แหล่งกำเนิดนวัตกรรมระดับโลกก็ยังเรียนรู้ ล้มลุกคลุกคลานกันอยู่ วันนี้ป้ายโฆษณา AI เต็มเมืองซานฟรานซิสโกและทั่ว Silicon Valley พวกเขาตื่นตัวในระดับที่ Marc Benioff ซีอีโอ Salesforce บอกว่า 30 ปีไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ หรือ Alex Cho ผู้บริหารระดับสูงของ HP จ้องตาแล้วบอกผมว่า “ผมตื่นเต้นเหมือนกลับไป 14 อีกครั้ง!”

มีสตาร์ทอัพไทยท่านหนึ่งนิยามไว้อย่างน่าสนใจว่า ตอนนี้เรากำลังมี 2 หุบเขาเปลี่ยนโลกคือ Silicon Valley ที่คือคลื่นของเซมิคอนดักเตอร์ ชิป คอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต กับ Cerebral Valley ที่มีบริษัท GenAI จำนวนมากกระจุกตัวในซานฟรานซิสโก นำโดย OpenAI ที่สร้าง ChatGPT หรือ Anthropic ที่คิดค้น Claude

ผมมีของไปฝากทุกคนดังนี้ครับ

1. ค้นหา AI Agentforce เอเจนต์ AI ทำงานแทนมนุษย์ เฟสที่ 3 ของการพัฒนา AI จากงาน Dreamforce งานเทคโนโลยีใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จัดโดย Salesforce บริษัท CRM อันดับ 1 ของโลก

2. คุยกับคุณเพชร คนไทยหนึ่งเดียวที่เคยเป็น Chief of Staff ใน Nuvo บริษัทรถยนต์ไร้คนขับ Top 5 ของโลก (ตอนนี้ Google ลงทุนไปแล้ว) ปัจจุบันคุณเพชรเป็นผู้ก่อตั้ง Bariendo สตาร์ทอัพ Health Tech ที่ร่วมมือกับศาสตราจารย์ Harvard Medical School ผู้คิดค้นการผ่าตัดกระเพาะรักษาโรคอ้วนคนแรกๆ ของโลก

3. ปั่นจักรยานในออฟฟิศ Google โฉมใหม่ โดยเฉพาะอาคาร Google Bay View ที่มีสถาปนิกก้องโลกอย่าง Bjarke Ingels ออกแบบ เรียนรู้ว่า Code Yellow ในช่วงที่ Gemini ต้องทุบหม้อข้าวลั่นกลองรบสู้กับ OpenAI นั้นเป็นอย่างไร และ Google 30 ปี ยังมีวัฒนธรรมสนุกแบบเดิมไหม

4. นั่งรถยนต์ไร้คนขับ Waymo ที่เพิ่งเปิดใช้เต็มรูปแบบทั้งวันครั้งแรก จะเสียวและตื่นเต้นแค่ไหน มันคืออนาคตวงการ Mobility จริงไหม

5. เดินทัวร์มหาวิทยาลัย UC Berkeley กับอาจารย์สอน Impact Investing ปริญญาโท คุณ Jeep Kline แวะถนนเส้นที่ Oppenheimer เคยอยู่ นั่งคุยถึงความสำคัญของ Venture Capital และแวะไป Sand Hill Road ถนนที่เต็มไปด้วย VC ชื่อดังที่อัดฉีดเงินให้สตาร์ทอัพในโลกทั้งใบ

6. เยี่ยมชมออฟฟิศ Apple แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับคนไทยกว่า 10 คนที่ทำงานที่นี่ ปกติเขาไม่ค่อยให้คนนอกเข้าและถ่ายวิดีโอ พอได้มาผมถึงเข้าใจคุณค่าของคำว่า Privacy ที่จะมีราคาแพงในอนาคต

7. เดินทัวร์ (เหนื่อยอีกแล้ว 555) กับนักศึกษาไทยทั้งปริญญาตรี โท และเอก ที่มหาวิทยาลัย Stanford แอบเข้าไปในตึกประชุม Jensen Huang ร่วมค้นหาว่าทำไมที่นี่จึงเป็นแหล่งบ่มเพาะสตาร์ทอัพหมื่นล้านนับร้อย

8. นั่ง Deep Talk ยาวๆ กับคุณ Brad Phaisan คนไทยระดับตำนานที่พาสตาร์ทอัพไปได้ไกลที่สุดที่ผมเคยเห็น จบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไม่มีแต้มต่อ แต่มาด้วยหัวใจ ทำงาน Microsoft, Google และบ่มเพาะจิตวิญญาณผู้ประกอบการที่ Y Combinator ก่อนจะก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์โฆษณาบน VR ในโรงรถชื่อ OmniVirt มีลูกค้าคือ The New York Times ไปจนถึงหนัง Tom Cruise สุดท้าย Exit ขายบริษัทให้ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี Top 5 ของโลก จนมีบ้านหลายหลังที่สหรัฐฯ

9. อ่านประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ Computer History Museum สนุกมากกก จนผมลืมเวลา ได้เห็นตั้งแต่เมนเฟรมรุ่นแรก ชิปตัวแรก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดเท่าห้องนอน เข้าใจที่มาที่ไปว่าทำไม Silicon Valley ถึงมาจุดนี้ได้ (และพอเห็นภาพว่าจะไปต่ออย่างไร)

10. ปิดท้ายด้วยการย้อนเวลาหาอดีต ไป HP Garage ที่ว่ากันว่าเป็นจุดกำเนิด Silicon Valley โดยคุณ Hewlett และคุณ Packard รวมตัวกันตั้งสตาร์ทอัพในโรงรถครั้งแรกของโลก จนมาถึงวันนี้ที่ HP เปิดตัว AI PC และ AI Printer แต่จิตวิญญาณผู้บุกเบิกยังคงอยู่ 80 ปีไม่เสื่อมคลาย

ไม่น่าเชื่อว่ามาสิบกว่าวันจะได้คอนเทนต์เยอะขนาดนี้ครับ 555 เดี๋ยวจะค่อยๆ ทยอยปล่อยนะครับ ผมเชื่อว่าจะได้เข้าใจอินไซต์และมองเห็นโอกาสชัดเจนมากขึ้น แล้วกลับมาถามตัวเองว่า วันนี้เราต้องทำอะไร

เหมือนดังคำพูดของ Lisa Su, CEO of AMD ที่ผมยังจำขึ้นใจไม่ลืม ขนลุกตอนนั่งฟังสด

“ความสำเร็จของบริษัทคุณวันนี้คือผลลัพธ์ของการกระทำใน 5 ปีที่แล้ว ฉะนั้น ถ้าคุณอยากเห็นอนาคตของตัวเองใน 5 ปีข้างหน้าเป็นอย่างไร คุณต้องลงมือทำตั้งแต่วันนี้”