เช้าวันนี้ (5 พ.ย.) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งได้รับการประกันตัวจากศาลในวงเงินประกัน 1 ล้านบาท เดินทางมาตามคำสั่งครั้งแรก ในคดีร่วมกันฟอกเงิน-ทุจริตการปล่อยกู้สินเชื่อธนาคารกรุงไทยกับกลุ่มกฤษดามหานคร จำนวน 10 ล้านบาท ตามที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง ซึ่งขั้นตอนวันนี้ เป็นการนัดสอบคำให้การจำเลยว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธหรือไม่ ก่อนเข้าสู่กระบวนการต่อไป
โดยบรรยากาศในวันนี้ ยังคงมีครอบครัวที่นำโดย คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา คุณากรวงศ์, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร น้องสาวทั้งสอง เเละเเกนนำพรรคเพื่อไทย มาร่วมให้กำลังใจที่บริเวณศาลด้วย
นายพานทองแท้ ชินวัตร กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการวันนี้ว่า เป็นการมาตามนัดของศาล ซึ่งตนเองได้ให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา แต่ขอไม่ให้รายละเอียดในทางคดี เพราะเรื่องทั้งหมดอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ขอปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
ขณะที่กระแสข่าวว่า จะไปนั่งแกนนำพรรคไทยรักษาชาตินั้น ขณะนี้ไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองใดๆ แต่ส่วนตัวพร้อมสนับสนุนพรรคการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตย ส่วนคนที่จะสืบทอดอำนาจเผด็จการ ก็ไม่ขอร่วมงานด้วย
ส่วนที่แกนนำพรรคเพื่อไทยแยกออกมาตั้งพรรคการเมืองนั้น ไม่ขอแสดงความเห็น เพราะถือเป็นสิทธิของแต่ละคน
ช่วงหนึ่ง สื่อมวลชนถามว่า พร้อมไหมกับการลงสนามการเมือง นายพานทองแท้ตอบว่า
“ผมพร้อมมาตั้งแต่รู้ว่าเกิดมาเป็นลูกทักษิณ พร้อมแต่แรก ตอนนี้ก็ขอดูจังหวะที่เหมาะสม”
ส่วนพรรคไทยรักษาชาติจะเป็นตัวเลือกแรกที่ไปสังกัดหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะขนาด พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่มีความชัดเจนทางการเมืองเลย
สำหรับกระบวนการจากนี้ ศาลได้กำหนดให้ 2 ฝ่าย ยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 14 ธันวาคม และเนื่องจากมีเอกสารจำนวนมาก ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานจำนวน 4 ครั้ง เริ่มครั้งแรกวันที่ 22 มกราคม 2562 ซึ่งศาลได้นัดพิจารณาพร้อมคดี อดีตผู้บริหารกฤษดามหานครว่า จะมีการรวมคดีหรือไม่ เนื่องจากเป็นมูลแห่งคดีเดียวกัน
จากนั้นยังนัดตรวจพยานอีก 3 นัด คือวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562, วันที่ 20 มีนาคม 2562 และวันที่ 29 เมษายน 2562 โดยมีเจ้าพนักงานคดีเป็นผู้ตรวจสอบก่อนในวันที่ 25 มิถุนายน 2562 ศาลจะนัดตรวจพยานหลักฐานจริงในเวลา 10.00 น.
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล