นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ สนช. 2410/ว.3075 ลงวันที่ 25 มกราคม 2562 เรื่อง การออกอากาศรายการที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถึงผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ทุกรายว่า
ด้วยพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2562 โดยคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศให้วันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์มีบทบาทอย่างยิ่งในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่นำเสนอความคิด และมีความเป็นกลางทางการเมือง
ดังนั้น สำนักงาน กสทช. จึงขอให้ผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 เงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต กฎหมายด้านความมั่นคง กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
การออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว และต้องไม่ขัดต่อมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 และต้องไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย ประกาศ ระเบียบ หลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ กฎหมายความมั่นคง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
“วิทยุและทีวีมีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน หากมีการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นการชี้นำทางความคิดและไม่เป็นกลางทางการเมือง อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมได้ การเสนอเนื้อหาด้วยความเป็นกลาง ไม่ชี้นำ ไม่ขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้ประชาชนได้รับประโยชน์ ได้รับสาระที่เป็นกลางอย่างแท้จริง” นายฐากรกล่าว
ทั้งนี้มาตรา 37 ของ พ.ร.บ. ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 วรรคหนึ่งระบุเอาไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ประกอบการกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีการกระทำซึ่งเข้าข่ายลักษณะลามกอนาจาร มีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างรุนแรง
โดยผู้รับใบอนุญาตจะมีหน้าที่ตรวจสอบและให้ระงับการออกอากาศรายการที่มีลักษณะตามวรรคหนึ่ง หากไม่ดำเนินการ กรรมซึ่งคณะกรรมการมอบหมายมีอำนาจสั่งด้วยวาจาหรือหนังสือก็มีสิทธิ์ระงับการออกอากาศรายการนั้นได้ทันที พร้อมให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยโทษร้ายแรงคือการถูกพักใช้หรือถอนใบอนุญาต
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า