เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พรรคอนาคตใหม่ นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ร่วมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ 10 ลำดับแรกของพรรค ซึ่งเป็น ‘ทีมธนาธร’ และวางตัวไว้ว่าจะเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงที่เป็นความเชี่ยวชาญของแต่ละคน ได้แก่
- นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
- นายปิยบุตร แสงกนกกุล
- นางสาววรรณวิภา ไม้สน
- นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
- นางสาวกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ
- พล.ท. พงศกร รอดชมภู
- นางสาวพรรณิการ์ วานิช
- นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ
- ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
- นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์
นายธนาธรกล่าวว่า การเปิดตัวครั้งนี้คือมิติใหม่ทางการเมือง เป็นสิ่งที่ตนเองภูมิใจมาก เพราะการเมืองแบบเก่า พรรคการเมืองอื่นๆ จะไม่เปิดตัวคนที่วางตัวไว้ว่าจะเป็นรัฐมนตรีเช่นนี้ ที่เขาทำคืออาจจะมีกลุ่มก๊วนไปหา ส.ส. ในสังกัดให้ได้สัก 10-20 คน จากนั้นนำไปต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีพอบรรลุข้อตกลง ได้เก้าอี้มาก็จะนำไปมอบให้กับนายทุนพรรคหรือหัวหน้ามุ้ง หัวหน้าก๊วนนั้นๆ แต่พรรคอนาคตใหม่ยืนยันไม่ทำแบบนั้น รัฐมนตรีของเราคือคนธรรมดา พิจารณาตามความเหมาะสม พิจารณาตามความรู้ความสามารถ นี่คือคนที่ทำงานจริง คือคนที่ประสบความสำเร็จในสายงานของตนเอง และที่สำคัญคือ คนที่รู้สึกว่าประเทศไทยจะอยู่แบบนี้ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว ทั้งหมดพร้อมจะมาอยากสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น
นายธนาธรกล่าวด้วยว่า นี่เป็นเพียงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ 10 ลำดับแรก วางตัวไว้เป็นรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตามเรามั่นใจว่าจะได้ ส.ส. เยอะกว่านี้แน่นอน ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ตั้งใจจะส่ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ 100-150 คน วันนี้ หลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคจะมีข้อสรุป นอกจากนี้ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ผู้สมัครแบบแบ่งเขตแต่ละจังหวัดจะเดินทางไปสมัครตามที่ กกต. จัดสถานที่ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ จะมีการแถลงข่าวภาพรวม ส.ส. ทั้ง 350 เขต และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมดอย่างแน่นอน และเรายืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ใช่พรรคการเมืองของคนภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง ไม่ใช่พรรคของคนภาคเหนือ ไม่ใช่พรรคของคนภาคใต้ แต่เราเป็นพรรคของคนทั้งประเทศ จึงอยากย้ำว่าเราไม่ได้มาเล่นๆ แต่เราเอาจริง
นายธนาธรกล่าวย้ำกรณีการท้าดีเบตกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า วันนี้ตนเองอยู่ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอนาคตใหม่ ส่วน พล.อ. ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ศักดิ์และศรีของเราเท่ากัน จึงอยากเชิญมาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อให้ประชาชนเป็นคนตัดสินว่าจะเลือกแบบไหน
ด้านนายปิยบุตรกล่าวถึงกรณี พล.อ. ประยุทธ์ เข้าสู่เวทีการเมือง โดยรับทาบทามเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคพลังประชารัฐว่า พล.อ. ประยุทธ์ ไม่ได้เพิ่งเข้ามาในเวทีการเมือง แต่มานานแล้ว เพียงแต่ไม่ใช่เข้าตามตรอกออกตามประตู หากแต่เป็นการรัฐประหารยึดอำนาจเข้ามา จึงไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาเถียงกันว่าจะเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในฐานะนายกคนในหรือนายกคนนอก พล.อ. ประยุทธ์ คือนายกคนนอกนานแล้ว การที่พรรคพลังประชารัฐเทียบเชิญเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้ลงเลือกตั้งนั้นก็เพื่อชุบตัว ซึ่งทุกคนก็มองกลไกนี้ออก เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องเพิ่งเกิด ประวัติศาสตร์การเมืองในประเทศไทยเคยเกิดขึ้นแล้วที่ทหารยึดอำนาจ จากนั้นใช้การเลือกตั้งชุบตัวนั่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ นี่คือเรื่องของการสืบทอดอำนาจ
“วันนี้ ถ้าถามว่าเพื่อความเหมาะสม พล.อ. ประยุทธ์ ควรลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือตำแหน่งหัวหน้า คสช. หรือไม่ สำหรับผมแล้ว คิดว่า พล.อ. ประยุทธ์ ควรออกจากการเมืองไปเลยด้วยซ้ำ เพราะ 5 ปีที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าการบริหารประเทศล้มเหลว คือถ้าคุณอยากชุบตัวโดยผ่านการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ทำไม แค่เพียง 6 เดือนหลังยึดอำนาจไม่ทำ ทำไมไม่จัดให้มีการเลือกตั้ง ไม่มีเหตุผลต้องอยู่ยาวถึง 5 ปี สร้างความเสียหาย ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือแค่ออกจากหัวหน้า คสช. แต่ควรออกจากการเมืองไปเลย” นายปิยบุตร กล่าว
ภาพ: พรรรคอนาคตใหม่
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า