วันเลือกตั้ง

อนาคตใหม่เปิดนโยบาย 12 วาระเปลี่ยนอนาคต ปักธงกองหน้าประชาธิปไตย เจ้านายคือประชาชน

17.12.2018
  • LOADING...

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศ 12 วาระนโยบาย ในงาน ‘เปิดวิสัยทัศน์ เปลี่ยนอนาคต’ เสนอชุดนโยบายที่ผ่านการคิดอย่างเป็นระบบ ยืนยัน พร้อมชนต้นตอปัญหา ตั้งแต่เรื่องรากฐานอย่างการศึกษา สวัสดิการ รัฐรวมศูนย์ รวมถึงปัญหาหลักๆ ของประเทศอย่างการผูกขาด ขนส่งสาธารณะไร้ประสิทธิภาพ ภาคเกษตรล้าหลัง ราชการคอร์รัปชัน รัฐประหารซ้ำซาก เพื่อสร้างสังคมไทยที่ ‘คนเท่าเทียมกัน ไทยเท่าทันโลก’ ดังที่เคยประกาศวิสัยทัศน์ ‘ไทยสองเท่า’ ไว้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ สำหรับ 12 นโยบายที่พรรคอนาคตใหม่เสนอ ได้แก่ 1. ยุติระบบราชการรวมศูนย์ กระจายอำนาจ กระจายคน กระจายงบ 2. ไทยเท่าเทียม สวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร 3. ปฏิวัติการศึกษา ลงทุนให้ถูกจุด ลดความเหลื่อมล้ำ 4. ทลายเศรษฐกิจผูกขาด ล้างระบบเส้นสาย หยุดทุนใหญ่กินรวบประเทศ 5. ขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน เดินทางได้ไม่ต้องซื้อรถ สร้างเศรษฐกิจด้วยอุตสาหกรรมรถไฟ 6. เกษตรก้าวหน้า ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากด้วยเทคโนโลยี แก้ปัญหาเอกสารสิทธิ์ ปลดหนี้เกษตรกร 7. เศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อประชาชน พัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยเทคโนโลยี ส่งเสริมธุรกิจใหม่ 8. เปิดข้อมูลรัฐกำจัดทุจริต สร้างรัฐโปร่งใส ให้อำนาจตรวจสอบอยู่ในมือประชาชน 9. โอบรับความหลากหลาย เคารพความแตกต่าง ศักดิ์ศรีคนต้องเท่าเทียม 10. สิ่งแวดล้อมยั่งยืน ลดใช้พลาสติก สร้างเศรษฐกิจจากขยะ 11. ปฏิรูปกองทัพ ลดนายพล ละอาวุธ เลิกเกณฑ์ทหาร และ 12. ปักธงประชาธิปไตย ล้างมรดกรัฐประหาร สร้างการเมืองแบบใหม่ เจ้านายคือประชาชน  

 

ทลายทุนผูกขาด แก้ปัญหาปากท้อง สร้างงานใหม่ด้วยอุตสาหกรรมรถไฟ

นายธนาธรกล่าวว่า ปัญหาปากท้องอย่างสินค้าราคาแพง โอกาสธุรกิจตีบตัน รวยกระจุกจนกระจาย ล้วนมีรากเหง้าปัญหาอยู่ที่ ‘ทุนผูกขาด’ ที่กินรวบตลาดไทยมายาวนาน เช่น กลุ่มทุนธนาคาร ดิวตี้ฟรี หรือกิจการเหล้าเบียร์รายใหญ่ พร้อมเสนอทางออกด้วยการออกใบอนุญาตธนาคารรายใหม่ให้สำนักงานใหญ่ไปอยู่นอกกรุงเทพฯ ออกแบบระบบสัมปทานใหม่ให้เอสเอ็มอีเข้าแข่งขันได้ ยกเลิกระเบียบที่กีดกันกิจการขนาดเล็ก เช่นในธุรกิจเหล้าเบียร์ รวมถึงการใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าอย่างจริงจัง

 

“ปัญหาปากท้องของคนไทยยังเกิดจากการขาดแคลนงานที่มีคุณภาพ ที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นเพียงผู้รับจ้างผลิตแลกกับค่าแรงขั้นต่ำ หนึ่งในนโยบายของพรรคอนาคตใหม่คือ เสนอการสร้างรถไฟและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ตั้งแต่ตัวรถ ราง ระบบสายส่ง โดยสนับสนุนผู้ประกอบการในประเทศ พัฒนาเทคโนโลยีเอง จ้างงานคุณภาพในภาคอีสาน มีศูนย์วิจัยและพัฒนาของเราเอง” นายธนาธรกล่าว

 

เมกะโปรเจกต์ 1 แสนล้าน เพื่อการศึกษา เกษตรก้าวหน้าแก้ปัญหายั่งยืน

นายธนาธรกล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยทุ่มเงินมหาศาลไปกับโครงสร้างพื้นฐาน แต่กลับละเลยการพัฒนาคนผ่านการศึกษา ทั้งที่การศึกษาเป็นความหวังเดียวของคนส่วนใหญ่ที่อยากเห็นลูกหลานลืมตาอ้าปากได้ พรรคอนาคตใหม่ประกาศทุ่มเมกะโปรเจกต์ด้านการศึกษา ด้วยงบประมาณ 1 แสนล้านบาทภายใน 3 ปี เพื่อยกระดับโรงเรียนขนาดเล็กและกลางทั่วประเทศ ลงทุนเครื่องมือโรงเรียนอาชีวะ พร้อมกับยกเลิกกฎระเบียบและหน่วยงานซ้ำซ้อนที่ขัดขวางการพัฒนาคุณภาพครู คืนเวลา 42 เปอร์เซ็นต์ของครูที่ต้องใช้ทำงานเอกสารให้เป็นเวลาของเด็กและการเรียนรู้ ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการบริหารโรงเรียน

 

“ภาคเกษตรที่ล้าหลังยังเป็นต้นตอของปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย พรรคอนาคตใหม่ประกาศแก้สามปมใหญ่ภาคเกษตร คือ หนี้สิน ที่ดิน และประสิทธิภาพ ด้วยการปลดหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้สิน นำพื้นที่หมดสภาพป่ามาจัดสรรที่ดินใหม่ ตั้งกองทุนยกระดับเทคโนโลยีภาคเกษตร เพื่อให้ชาวนาชาวไร่ไทยสามารถใช้เครื่องไม้เครื่องมือสมัยใหม่ ทั้งยังแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้าได้จากไร่นาของตนเอง” นายธนาธรกล่าว

 

รัฐสวัสดิการครบวงจร ไม่เพ้อฝัน ทำได้จริง ถ้ากล้าปรับงบประมาณ

นายธนาธรกล่าวอีกว่า การพัฒนาประเทศจะไร้พลังและความหมาย หากคนในชาติไร้หลักประกันในชีวิต พรรคอนาคตใหม่ประกาศนโยบาย ‘สวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร’ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ในด้านสวัสดิการ คนไทยต้องได้รับการดูแลตั้งแต่อยู่ในครรภ์ (เพิ่มสิทธิ์ลาคลอดพ่อแม่ 180 วัน) เกิด (ดูแลบุตร 1,200 บาท) เข้าเรียน (เรียนฟรี มีคุณภาพ) ทำงาน (ขยายสิทธิประกันสังคมสู่แรงงานนอกระบบ) แก่ (เบี้ยคนชรา 1,800 บาท) เจ็บป่วย (เพิ่มงบบัตรทอง 4,000 ต่อหัว) นอกจากนี้ พรรคอนาคตใหม่ยังมีนโยบาย ‘โอบรับความหลากหลาย’ แก้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการสมรส เพื่อยืนยันศักดิ์ศรีคน ผู้มีเชื้อ HIV ที่จะไม่ถูกเลือกปฏิบัติจากนายจ้าง คนพิการเข้าถึงบริการสาธารณะอย่างเท่าเทียม

 

“พรรคอนาคตใหม่มีข้อเสนอการปฏิรูปภาษี เพื่อนำมาจัดสวัสดิการดังกล่าว โดยรายจ่ายส่วนเพิ่มจะนำมาจากการจัดสรรงบประมาณใหม่เป็นหลัก เช่น ลดงบกลาโหมและรายจ่ายประจำของราชการ รวมถึงการจัดเก็บภาษีที่ดินและภาษีมรดกอย่างจริงจัง ลดสิทธิประโยชน์บีโอไอ จัดการเศรษฐกิจนอกระบบเสียใหม่” นายธนาธรกล่าว และย้ำว่า พรรคอนาคตใหม่คิดเรื่องสวัสดิการอย่างเป็นระบบ และมีข้อเสนอที่เป็นไปได้จริง พร้อมทำได้ทันที

 

ยกเครื่องกองทัพ ยุติรัฐประหาร คืนอำนาจให้ประชาชน

ด้าน พล.ท. พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ขอยืนยันหลักการกองทัพต้องอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน เปลี่ยนมาใช้ระบบเสนาธิการร่วม ลดขนาดกองทัพให้เล็กลงและทันสมัยขึ้น โดยลดกำลังพลลง 40 เปอร์เซ็นต์ และลดอัตรานายพลลงเหลือ 1 ใน 4 ยกเลิกการเกณฑ์ทหารและเปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ ลงทุนในงานวิจัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ให้อำนาจการจัดซื้อจัดจ้างขนาดใหญ่ของกองทัพอยู่กับกระทรวงกลาโหม

 

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ยังพร้อมผลักดันการกระจายอำนาจโดยไม่ประนีประนอม โดยยืนยันหลักการผู้บริหารท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้ง เพิ่มงบประมาณและบุคลากรแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้สัดส่วนรายได้ของท้องถิ่นต่อส่วนกลางเพิ่มเป็น 50:50 ในขณะเดียวกันประชาชนในท้องถิ่นก็จะมีอำนาจตรวจสอบมากขึ้นผ่านการตั้งสภาพลเมืองท้องถิ่น

 

ปักธง ‘กองหน้าประชาธิปไตย’ สร้างการเมืองแบบใหม่ ‘เจ้านายคือประชาชน’

นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า “ทางพรรคยังมีข้อเสนอปักธงประชาธิปไตย โดยเราประกาศตัวเป็นกองหน้าเพื่อทวงคืนประชาธิปไตยกลับมาสู่สังคมไทย ยืนยันว่า ประชาธิปไตยเป็นทั้งวิธีการและเป้าหมายในการพลิกประเทศ เราจะจัดการมรดกบาป คสช. เหยื่อต้องได้รับการชดเชย ผู้ก่อการต้องได้รับโทษ ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จัดทำประชามติอย่างโปร่งใส” นายปิยบุตรกล่าว

 

ทั้งนี้ นายธนาธรกล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อทำพร้อมกันทั้ง 12 วาระ ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อำนาจกลับมาอยู่ที่ประชาชน ปลดปล่อยพลังเศรษฐกิจของคนเล็กคนน้อย จะทำให้ไทยกลายเป็นสังคมที่คนเท่าเทียมกัน และประเทศไทยแข่งขันกับประเทศอื่นได้ในเวทีโลกอีกครั้ง

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising