ทุกคนลองจินตนาการถึงโลกที่มีเพียงสีขาวกับดำ มันคงน่าเบื่อและขาดสีสัน เช่นเดียวกับพวกเราที่หากไร้อิสระในการแสดงออกในสิ่งที่เป็น ก็คงไม่ต่างอะไรกับตัวละครหนึ่งที่ต้องทำตามความคาดหวังของสังคมเท่านั้น

แต่ในขณะที่หลายคนสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเปิดเผย คนบางกลุ่มกลับต้องต่อสู้เพื่อให้ได้รับการยอมรับ ต้องพยายามเพื่อเป็นคนเก่ง หรือแม้กระทั่งต้องยอมเป็นตัวตลกอย่างที่สังคมต้องการ หากพวกเขาอยากได้รับการยอมรับจากคนอื่นๆ บ้าง

แม้ปัจจุบันโลกใบนี้จะเปิดกว้าง มีผู้นำทางความคิดออกมารณรงค์เรื่องความเท่าเทียมต่างๆ มากมาย จนคำว่า ‘กลุ่มคนมีความหลากหลายทางเพศ’ ควรเป็นเรื่องปกติของสังคมได้แล้ว ทว่าเชื่อไหมยังมีคนในกลุ่ม LGBTQIA+ ไม่น้อยที่ยังต้องเจอคำพูดร้ายๆ การเหยียดเพศ หรือมีคนนำความเชื่อผิดๆ มาโยนใส่พวกเขาทุกวัน จนหลายคนหมดความมั่นใจในตัวเอง 

เราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยอยู่ในประสบการณ์เหล่านั้นเช่นกัน และการจะช่วยสนับสนุนให้คนมีเพศหลากหลายกลับมามีความมั่นใจได้ ก็ต้องเริ่มจากการเข้าใจว่าพวกเขาทุกคนก็เป็น ‘มนุษย์’ คนหนึ่งเหมือนกัน

ด้วยเหตุนี้ ONETOUCH จึงเสนอแคมเปญวิดีโอซีรีส์ 8 EP. EVERYONETOUCH รายการที่อยากให้ทุกคนมีความสุขในแบบที่เป็น ด้วยการพาตัวแทน 8 คนผู้มีความหลากหลายทางเพศ มานั่งบอกเล่าแชร์มุมมองของทั้ง เกย์ ทรานส์เจนเดอร์ เลสเบี้ยน ไบเซ็กชวล บีดีเอสเอ็ม เควียร์ ผู้หญิง และผู้ชาย ในอีกมุมหนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่เคยได้ยินจากปากของพวกเขา

แล้วพวกเขาเหล่านี้จะเป็นผู้สร้าง ‘ความกล้า’ และ ‘ความเข้าใจ’ ให้กับทุกคนทุกเพศเอง

EVERYONETOUCH by ONETOUCH มีทั้งหมด 8 ตอน โดยแขกรับเชิญ ได้แก่ หมอท็อป-นพ.ธนัตถ์ ชินบัญชร (เกย์), แคนดี้-กุลชญา ตันศิริ (ทรานส์), ฟิลลิปส์-ณัทธนพล ทินโรจน์ (ผู้ชาย), คิลิน-เอมอนันต์ อนันตลาโภชัย (เลสเบี้ยน)

เฟิร์น-ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์ (ผู้หญิง), ชัดเจน-วิสุทธิ์ ชาวบางพรหม (ไบเซ็กชวล), ปิ-ปิยนันท์ แก่นสุวรรณ (บีดีเอสเอ็ม) และ โซฟี่-อัปสรสิริ อินทรคูสิน (เควียร์)

แขกรับเชิญทุกคนจะมี EP. เป็นของตัวเอง พวกเขาจะมาตอบคำถามที่หลายคนเข้าใจผิด และถึงแม้คำตอบที่ทุกคนได้ยินอาจไม่ถูกใจทุกคน แต่นั่นก็คือทัศนคติอันหลากหลายที่รายการอยากให้ทุกคนโอบรับ และเข้าใจเช่นกัน

อย่างเช่นใน EP. แรก หมอท็อป นพ.ธนัตถ์ ตัวแทนของเพศเกย์ จะมาพูดถึงการ Come Out (เปิดเผยตัวตน) เพราะไม่มีใครควรโดนบังคับให้ Come Out เมื่อยังไม่พร้อม

“แต่ว่าเมื่อไรที่เราพร้อมแล้ว มั่นใจในตัวเอง ซื่อสัตย์กับตัวเอง แล้วก็ก้าวออกมา เพราะมีคนที่พร้อมจะรับฟังเรา โดยไม่ถูกเหยียดหยาม ไม่ถูกกีดกัน แล้ววันนั้นเราก็ไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไป”

โดยทุกคนสามารถรับฟังฉบับเต็มๆ ได้ในวิดีโอบนเพจ ONETOUCH

พวกเราขอสนับสนุนให้ทุกคน ทุกเพศ มีความมั่นใจ และกล้าเป็นตัวเองต่อไปในทุกความหลากหลาย เพราะไม่ว่าตัวตนของคุณจะเป็นแบบไหน ONETOUCH ก็พร้อมมอบความสุขทุกรูปแบบให้คุณ

EVERYONETOUCH by ONETOUCH เริ่มปล่อยตอนแรกมาให้ชมแล้ว และสามารถพบตอนใหม่ๆ ได้ทุกสัปดาห์ รับชมได้ทาง www.facebook.com/Onetouchthailand/

The post ความรักไม่มีเพียงแค่ชายหญิง EVERYONETOUCH แคมเปญสนับสนุนความสุขทุกรูปแบบจาก ONETOUCH [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

การนอกใจอาจมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป รวมไปถึงอีกหนึ่งสาเหตุที่นักวิจัยกล่าวว่า อาจทำให้ใครหลายคนเสียสติ

ในการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Archives of Sexual Behavior จาก Birnbaum และเพื่อนร่วมงาน ปี 2022 ได้ศึกษาพฤติกรรมของบุคคลที่มีต่อการนอกใจ โดยตรวจสอบว่า บุคคลที่เรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมนอกใจของผู้อื่น มีแนวโน้มที่จะนอกใจในความสัมพันธ์ของตัวเองหรือไม่ นักวิจัยให้เหตุผลว่า การเรียนรู้เกี่ยวกับความแพร่หลายของการนอกใจ อาจลดความต้องการและความมุ่งมั่นต่อคู่ครอง ขณะเดียวกันก็เพิ่มความปรารถนากับคนที่น่าดึงดูด

“การรู้ว่าบุคคลอื่นมีเรื่องการนอกใจเข้ามาเกี่ยว อาจทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจมากขึ้น เมื่อตัวเองมีเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง” นักวิจัยกล่าว และในการศึกษาครั้งนี้ พวกเขาได้ทำการศึกษาแยกกัน 3 เรื่องกับผู้เข้าร่วมที่มีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม”

การศึกษาแรกกับนักศึกษาระดับปริญญาตรีจากอิสราเอล ที่มีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามมา 4 เดือน โดยการให้ดูวิดีโอที่ประเมินว่า การนอกใจมีอยู่ในความสัมพันธ์ 86% และ 11% ของความสัมพันธ์ หลังจากนั้นนักวิจัยขอให้ผู้ร่วมวิจัยเขียนเกี่ยวกับจินตนาการทางเพศที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่ปัจจุบัน การศึกษาพบว่า การบิดเบือนเกี่ยวกับความไม่ซื่อสัตย์ในลักษณะนี้ไม่ส่งผลต่อความต้องการของผู้เข้าร่วมสำหรับคู่รักในปัจจุบัน หรือบุคคลอื่น

ในทางกลับกัน การศึกษาครั้งที่ 2 กลับให้ผลที่แตกต่างกัน

การศึกษาครั้งที่ 2 เกิดขึ้นกับคู่รักที่คบกันมา 12 เดือน นักวิจัยให้เขาอ่านคำสารภาพการนอกใจของบุคคลอื่น เช่น การพบรักในที่ทำงานขณะที่ตัวเองมีแฟนแล้ว จากนั้นนักวิจัยให้ดูรูปของพวกเขา และถามว่า บุคคลเหล่านั้นจะเป็นคู่รักที่โรแมนติกได้หรือไม่ ผู้เข้าร่วมตอบว่า “ใช่” 

รวมไปถึงการฉ้อโกงที่เกิดขึ้นในสถานศึกษา อย่างการลอกงานวิจัย หรือแม้แต่จ้างคนอื่นทำงานให้ เหล่านี้นับเป็นความไม่ซื่อสัตย์ที่เกิดขึ้น

นักวิจัยสรุปว่า การเปิดรับการนอกใจสามารถทำให้เรามองว่า พฤติกรรมนั้นเป็นเรื่องปกติ และทำให้ความสัมพันธ์ในปัจจุบันของเราเสี่ยงต่อการนอกใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องการนอกใจยังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อชี้แจงว่าการรู้หรืออยู่ร่วมกับการนอกใจของผู้อื่นนั้นส่งผลต่อความเต็มใจที่จะมีส่วมร่วมในการนอกใจอย่างไร

ภาพ: Shutterstock

อ้างอิง:

• https://www.psychologytoday.com/us/blog/dating-and-mating/202208/could-infidelity-be-contagious 
• https://www.vice.com/en/article/y3pqpg/why-people-cheat-partners-love-relationships-science-contagious

The post การ ‘นอกใจ’ อาจติดต่อได้ นักวิจัยเผย การรู้ว่าคนอื่นนอกใจอาจทำให้คุณนอกใจได้เช่นกัน appeared first on THE STANDARD.

จริงๆ แล้วเรื่องของความเบื่อหน่ายในบางสิ่งบางอย่างก็ไม่ต่างจากการเบื่ออาหาร ยกตัวอย่างเช่น Anorexia เป็นศัพท์ทางการแพทย์แปลว่า เบื่ออาหาร เป็นด้านตรงข้ามของการกินมากไป จนเกิดเป็น โรคบูลิเมีย (Bulimia) ที่ล้วงคอเอาอาหารออกมา ในด้านความสัมพันธ์ก็เช่นกัน มีอาการที่หลายคนอาจกำลังเผชิญอยู่ คือมีความเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์และพฤติกรรมของตัวเองจนทำให้เกิดอาการเบื่อเซ็กซ์ขึ้นมา ซึ่งมันคืออาการที่เรียกว่า Sexual Anorexia หรือการเบื่อเซ็กซ์ คนที่มีอาการเหล่านี้จะย้ำคิดย้ำทำกับตัวเองว่าไม่ต้องการมีเซ็กซ์ ซึ่งก็เป็นทางตรงข้ามของการติดเซ็กซ์ที่มักย้ำคิดย้ำทำและอยากมีเซ็กซ์บ่อยๆ นั่นเอง ซึ่ง พญ.ชัญวลี ศรีสุโข จะพาทุกคนไปรู้จักกับอาการเหล่านี้ให้มากขึ้น จะได้ช่วยคลายข้อสงสัยสำหรับใครก็ตามที่ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองไม่มีความต้องการอยากจะมีเซ็กซ์เลย หรือในบางคนที่เป็นคู่รัก แม้จะยังรู้สึกดีกับคนรักอยู่เหมือนเดิม แต่กลับไม่มีความรู้สึกอยากร่วมเพศสัมพันธ์อีกต่อไป ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้อาจเข้าข่ายมีอาการ Sexual Anorexia นี้อยู่ก็เป็นได้ 

Sexual Anorexia คืออะไร? 

คืออาการเบื่อเซ็กซ์ ซึ่งมักจะมีการย้ำคิดย้ำทำว่าไม่ต้องการจะมีเซ็กซ์ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในคนคนเดียวกันอาจจะมีทั้งสองอาการได้ คือมีทั้งอาการติดเซ็กซ์และเบื่อเซ็กซ์สลับไปมาถึงร้อยละ 14 ของคนที่เบื่อเซ็กซ์เลยทีเดียว โดยอาการเบื่อเซ็กซ์นี้ไม่ใช่อาการธรรมดา แต่เป็นอาการที่ค่อนข้างรุนแรง จนเกิดละเว้นการมีเซ็กซ์ ไม่สามารถมีเซ็กซ์ได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ย้ำคิดย้ำทำกับการยับยั้งความต้องการที่จะมีเซ็กซ์ จนอาจเกิดปัญหากับตนเอง และส่งผลกระทบต่อสัมพันธภาพกับผู้อื่น ในคู่รักบางคนถึงกับหย่าร้าง แยกตัวอยู่ลำพัง และบางคนก็ทำร้ายตนเองอย่างรุนแรงก็มี 

อาการ Sexual Anorexia เกิดขึ้นกับใครได้บ้าง?

การเบื่อเซ็กซ์นั้นสามารถเกิดได้ทุกเพศ โดยมีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย จิตใจ อารมณ์ รวมถึงการใช้ชีวิตด้วย ในคนเบื่อเซ็กซ์ที่ยังฝืนมีเซ็กซ์กับคนรัก จะมีความหวาดกลัว และเกิดรู้สึกผิดทางใจอย่างรุนแรงในทุกครั้งที่มีเซ็กซ์

วิธีสังเกตอาการของคนเบื่อเซ็กซ์

1. หวาดกลัว โกรธ เจ็บปวด รู้สึกผิด และรู้สึกรังเกียจ เมื่อเกิดความต้องการทางเพศ
2. หวาดกลัว โกรธ เจ็บปวด รู้สึกผิด และรู้สึกรังเกียจ เมื่อมีคนมาชอบ
3. หวาดกลัว โกรธ เจ็บปวด รู้สึกผิด และรู้สึกรังเกียจ ที่จะช่วยตนเอง(Masterbation)
4. ดูถูกตนเอง ด้อยค่าตนเอง ซึมเศร้า สร้างบุคลิกภาพให้น่ารังเกียจ (บางคนถึงขั้นคิดตัดอวัยวะเพศ คิดฆ่าตัวตาย)
5. อับอายที่จะคิดถึงหรือพูดเรื่องเซ็กซ์ ไม่มั่นใจในตนเองเรื่องการมีเซ็กซ์
6. แยกตัวออกจากสังคม ไม่ติดต่อใคร ลาออกจากงาน เพราะกลัวมีคนมาชอบ กลัวกระทั่งจะโทรศัพท์หาผู้อื่น
7. เคยติดเซ็กซ์มาก่อน ติดหนังโป๊ ติดช่วยตนเองมากไป จนบังคับตนเองกลายเป็นเบื่อเซ็กซ์
8. มีอาการเสพติดอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น อาหาร เงิน ทีวี อินเทอร์เน็ต ยา สารเสพติด เหล้า บุหรี่ ช้อปปิ้ง สะสมสิ่งของ ฯลฯ

สาเหตุของการเบื่อเซ็กซ์

ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง เชื่อว่าคนที่มีบาดแผลทางกาย ใจ และอารมณ์ ในวัยเด็ก มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการเบื่อเซ็กซ์ เช่น 

• เห็นสภาพพ่อแม่หรือคนในครอบครัวติดเซ็กซ์ 

• คนในครอบครัวมีอาชีพขายบริการ ติดเหล้า สารเสพติด 

• • ครอบครัวแตกแยก พ่อแม่มีชู้ มีความรุนแรงในครอบครัว ชีวิตวัยเด็กเจ็บปวดกับการแตกแยกนั้น
  • วัยเด็กถูกละเลยในการเลี้ยงดู ถูกทำร้ายทางร่างกาย อารมณ์ ถูกล่วงละเมิดทางเพศ 

• ถูกสอนให้กลัวการมีเซ็กซ์จากความเชื่อทางขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมประเพณีหรือศาสนา จนมีความเชื่อว่าเซ็กซ์เป็นสิ่งที่น่าละอาย เป็นบาป

• • แต่งงานแล้วมีความรุนแรงในครอบครัว ไม่สุขสมในเซ็กซ์ มีการนอกใจ คนรักเสียชีวิต หรือจากไป

• มีปัญหาสุขภาพจิต เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ ภาวะบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่ง (Borderline Personality Disorder)

การวินิจฉัยทางการแพทย์เกี่ยวกับการเบื่อเซ็กซ์

• อาการเบื่อเซ็กซ์เรื้อรัง เป็นต่อเนื่องกันมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
• มีอาการเบื่อเซ็กซ์อย่างน้อย 75% ของการมีเซ็กซ์ 
• อาการที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความทุกข์ ปราศจากความสุข แม้แต่คิดถึงเรื่องเซ็กซ์
• มีผลกระทบทางลบต่อตนเอง และสัมพันธภาพกับคนรอบข้าง

ความแตกต่างระหว่างการเบื่อเซ็กซ์ กับการมีความต้องการทางเพศน้อย

การเบื่อเซ็กซ์เป็นปัญหาทางจิตที่ซับซ้อน (Complex Psychological Condition) พบได้ไม่เกินร้อยละ 1 ของประชากรทั่วไป (เมื่อนับไปจนถึงตลอดชีวิต) ส่วนการมีความต้องการทางเพศน้อยเป็นเรื่องธรรมดา อาจเกิดเป็นๆ หายๆ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เกิดขึ้นจากสภาพกาย ใจ อารมณ์ หรือสิ่งแวดล้อมก็ได้  เช่น

• เกิดจากโรคเรื้อรัง 

• จากยารักษาโรค 
• ฮอร์โมนไม่สมดุล 
• อ่อนเพลีย ไม่ได้พักผ่อน นอนไม่หลับ
• เครียด ซึมเศร้า วิตกกังวล
• มีโรคภายในสตรี เจ็บปวดเวลามีเซ็กซ์ 
• ไม่มีคู่ครอง คู่ครองเสียชีวิต 
• มีความขัดแย้งกับคู่ครอง รังเกียจคู่ครองไม่ว่าเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
• ปัญหาเศรษฐกิจ 
• สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยมีคนมาก ไม่เอื้อให้มีเซ็กซ์ 
• มีเซ็กซ์ที่ไม่สุขสม ไม่ถูกใจ ฯลฯ

วิธีการรักษาอาการเบื่อเซ็กซ์

แนะนำว่าควรพบจิตแพทย์ เพื่อตรวจรักษา ทำจิตบำบัด ส่วนความคิดเห็นของผู้เขียนแนะนำอย่างนี้ว่า อาการทางจิตเกือบทุกอาการ รวมถึงเบื่อเซ็กซ์ เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นความสำคัญอันใหญ่หลวงของครอบครัว การเลี้ยงดูเด็ก อบรมสั่งสอนให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง ให้ความรัก ความอบอุ่น เอื้ออาทร สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เก่ง ดี มีความสุข จึงจะสร้างคนที่มีสุขภาพกายใจและอารมณ์ที่ดี และคนกลุ่มนี้จะสามารถสร้างครอบครัวของตนเองที่แข็งแรงต่อไปอีก ในทางตรงข้าม ภาวะครอบครัวที่ปราศจากความอบอุ่น มีความรุนแรง มีการเสพติด มีการทำร้ายเด็ก มักจะสร้างผู้ใหญ่ที่เกิดปัญหาทั้งสุขภาพกาย ใจ อารมณ์ จนไม่สามารถสร้างครอบครัวของตนเองให้อบอุ่นได้ จากบาดแผลในจิตใจที่ไม่สามารถลบออกได้ 

อ้างอิง:

• Patrick Carnes. (1997). Sexual Anorexia: Overcoming Sexual Self-Hatred. Center City, Minnesota: Hazelden Publishing.
• Randy K, Hardman& David J, Gardner. (1986). Sexual Anorexia: A Look at Inhibited Sexual Desire. Journal of Sex Education and Therapy.12(I), 55-59. 

The post “รักนะ แต่ไม่อยากมีเซ็กซ์ด้วย” ชวนรู้จักอาการ Sexual Anorexia และการรับมือ appeared first on THE STANDARD.

หลังจากได้ดูรายการเรียลิตี้มาแรงของเกาหลีใต้อย่าง Change Days จนดำเนินมาถึงอีพี 10 (ยังไม่จบ) อาการที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ระหว่างดูรายการนี้ คือการถอนหายใจไปกับเรื่องราวความสัมพันธ์ของเหล่าคู่รักทั้ง 4 คู่ ที่ออกเดินทางมาพร้อมกับปัญหาที่แบกเอาไว้บนบ่า ด้วยระดับความหนักอึ้งที่แตกต่างกัน สิ่งที่ได้เรียนรู้จากคู่รักในรายการนี้ ทำให้พบว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร สัญชาติอะไร อายุแตกต่างกันแค่ไหน สิ่งที่หลีกหนีไม่พ้นคือ ‘ปัญหาระหว่างทางที่คบกัน’ มันจะเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ ในระหว่างทางของคนสองคน หากมีคนหนึ่งที่ตัดสินใจละเลย มองข้าม หนีปัญหา ไม่ยอมแก้ไข รวมถึงการไม่กล้าเผชิญหน้ากับมันอย่างตรงไปตรงมา ปัญหาเหล่านั้นอาจสะสมจนกลายเป็นกำแพงอุปสรรคขนาดใหญ่ ที่มาขวางกั้นทางที่ทั้งคู่จะเดินไปด้วยกันให้มีความยากลำบากกว่าเดิม

ด้วยเหตุนี้ เราจึงอยากถอดบทเรียนเกี่ยวกับข้อคิดที่ได้จากการดูรายการนี้ เพื่อต้องการจะกระตุ้นเตือนทุกคนที่มีปัญหาความรัก ให้เห็นความสำคัญของการ ‘เคลียร์ใจ’ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่กันและกัน เพราะในโลกของความรัก ก็ไม่ต่างจากโลกความจริงที่มีความเปลี่ยนแปลงฉับพลันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา คนที่หนักแน่น เชื่อมั่นในความรัก ทำความเข้าใจ ตั้งใจอย่างสุดความสามารถที่จะประคับประคองความรัก และแก้ Pain Point ของความสัมพันธ์ให้เข้มแข็งได้เหมือนเดิม ก็เป็นไปได้สูงที่คู่รักคู่นั้นจะเอาชนะอุปสรรค และจูงมือกันฝ่าทะลุกำแพงแห่งความทุกข์ไปได้ 

แต่ถ้ามีแค่คนใดคนหนึ่งพยายามอยู่ฝ่ายเดียว ความรักก็อาจจะไปไม่รอด ดังนั้น ไปดู 10 ข้อคิดเรื่องความรักจากเรียลิตี้ Change Days ที่เราสรุปมาฝากผู้อ่าน เผื่อใครที่เจอปัญหาในความรักจะได้ลองนำไปปรับใช้กับคู่ของตัวเอง อย่าลืมว่าถ้าเป็นเรื่องความรัก คนสองคนต้องช่วยกันนะ ถ้าอยากให้รักมันไปรอด

ภาพ: Change Days / Netflix

The post “ช่วยกันนะ ถ้าอยากให้รักของเราไปรอด” 10 ข้อคิดเรื่องความรักจากเรียลิตี้ Change Days appeared first on THE STANDARD.

ไม่น่าเชื่อว่า MBTI การวัดระดับบุคลิกภาพโดยแบ่งลักษณะนิสัยออกเป็น 16 ประเภท ที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อหางานให้แก่ผู้หญิงในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในเกาหลีใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการออกเดต

การเดตโดยอาศัย MBTI นั้นได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่นถึงวัยทำงานเกาหลีใต้ช่วง Gen Y และ Gen Z โดยพวกเขาเชื่อว่าการเปิดเผย MBTI ของตนจะช่วยให้สามารถหาคนที่เหมาะสมได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลามากมายในการอธิบายอุปนิสัยและเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองให้มากนัก แถมยังเชื่อว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องเสียเวลาไปกับกลุ่มคนที่มีลักษณะ MBTI ที่ไม่เข้ากับตัวเอง

แต่ใช่ว่าทุกคนจะเห็นด้วยกับมาตรวัดนี้ นักวิชาการบางคนคิดเห็นว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้พลาดคนที่เหมาะสมกับตนเองไปเพียงเพราะเชื่อในลักษณะ MBTI รวมถึงยังคิดเห็นว่าแบบทดสอบ MBTI อาจให้ผลต่างไปในแต่ละครั้ง และอาจจำกัดบุคลิกภาพของบุคคลไว้เพียง 16 ประเภทเท่านั้นเอง

แม้จะรู้แบบนั้น แต่ MBTI ก็ยังคงได้รับความนิยมมากในหมู่คนรุ่นใหม่ อันที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดการจับคู่เดตแบบแปลกประหลาดนี้ ก่อนหน้านั้นในช่วงต้นปี 2000 ผู้คนในเกาหลีใต้ต่างใช้กรุ๊ปเลือดในการแบ่งนิสัยเพื่อเดตในลักษณะนี้เช่นกัน

ความนิยมของ MBTI ยังทำให้ธุรกิจต่างๆ นำแบบทดสอบมาใช้ผลิตสินค้าเพื่อทำกำไร รวมถึงเป็นธีมเพื่อใช้มาตรวัดทำกิจกรรมต่างๆ อย่างไรก็ดี ทางบริษัท The Myers-Briggs ผู้จัดทำแบบทดสอบ MBTI อย่างเป็นทางการ ก็ได้ออกมาเตือนถึงการใช้ MBTI ในการเดตว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และแบบทดสอบนี้ไม่ได้ทำมาเพื่อการเดตแต่อย่างใด 

เกาหลีใต้เป็นประเทศที่กระแสมาไวไปเร็ว คงต้องมาดูกันต่อไปว่ากระแสความนิยมในการใช้ MBTI ในการออกเดตของวัยรุ่นเกาหลีใต้นั้นจะคงอยู่ไปอีกนานขนาดไหน

ภาพ: Shutterstock

อ้างอิง:

• https://edition.cnn.com/2022/07/22/asia/south-korea-mbti-personality-test-dating-briggs-myers-intl-hnk-dst/index.html

The post การเดตโดยอาศัยการวัดระดับบุคลิกภาพ MBTI กำลังนิยมมากในหมู่คน Gen Y และ Gen Z ของเกาหลีใต้ appeared first on THE STANDARD.

หลายคนอาจเคยเห็นกระทู้การตั้งคำถามตามโซเชียลอยู่บ่อยๆ ในประเด็นที่ว่า ถ้าคนเรามี Sex บ่อยๆ หรือมี Sex ก่อนนอนทุกวัน จะทำให้หน้าดูเด็กลง มันจริงหรือไม่? ซึ่งบทความวันนี้ พญ.ชัญวลี ศรีสุโข จะเป็นผู้มาไขข้อสงสัยให้กับทุกคนได้รู้ว่า ในคนที่มี Sex บ่อยๆ ส่งผลให้ดูอ่อนเยาว์ลงได้จริงหรือ?

ตอบคำถามประเด็นร้อน ‘มี Sex บ่อยๆ ทำให้ดูอ่อนเยาว์ได้จริงหรือ?’

คำตอบคือ เซ็กซ์ทำให้อ่อนเยาว์จริงค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเซ็กซ์จากคู่ครองหรือการช่วยตนเองจนถึงจุดสุดยอด โดยยืนยันจากผลงานวิจัยตีพิมพ์เป็นหนังสือ เรื่อง Secrets of the Super Young โดย David Joseph Weeks อันที่จริงประเด็นเรื่องความอ่อนเยาว์จากเซ็กซ์นั้นเป็นผลรวมจากประโยชน์ของเซ็กซ์ที่มีการศึกษาวิจัยอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ตีพิมพ์ในปี 1994 จากการประชุมระดับโลกครั้งที่ 14 (14th World Congress of Sexology) ในการประชุมครั้งนั้นมีการประกาศว่าความสุขทางเพศ รวมถึงการช่วยตนเอง เป็นแหล่งเกิดของสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพทางจิตวิญญาณ (Physical Health, Mental Health, Spiritual Health) และให้ถือเป็นสิทธิของมนุษย์ทุกคน (Human Right) และจากประเด็นสำคัญที่ได้รับการยืนยันจากงานวิจัยต่างๆ นั้นจะขยายความต่อดังนี้

เซ็กซ์ช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์ (Youthfulness)

งานวิจัยทำนานต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ในหญิงชายชาวยุโรปและอเมริกา จำนวน 3,500 คน ผู้ที่ประเมินแล้วดูอ่อนกว่าวัย 7-12 ปี เรียกซูเปอร์ยัง (Superyoung) การศึกษาพบว่า ปัจจัยที่ทำให้ดูอ่อนกว่าวัยที่มีนัยสำคัญสูงคือ การมีกิจกรรมทางเพศสม่ำเสมอ (Active Sexual Life) ในกลุ่มซูเปอร์ยังมีเซ็กซ์สัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยเฉลี่ย เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่มี 2 ครั้ง หรือน้อยกว่านั้นต่อสัปดาห์ นอกจากนั้นกลุ่มซูเปอร์ยังยังมีความมั่นใจในรสนิยมทางเพศ (Sexual Identity) มากกว่า นอกจากนี้ยังพบข้อดีอื่นๆ ของการมี Sex บ่อยดังนี้

เซ็กซ์ทำให้หุ่นดี

เซ็กซ์เบิร์นพลังงานและไขมัน มิหนำซ้ำ คนที่มีกิจกรรมทางเซ็กซ์สม่ำเสมอมักชอบการออกกำลังกายสม่ำเสมอมากกว่าคนไม่มีเซ็กซ์ ในทางกลับกัน คนที่ชอบออกกำลังกายสม่ำเสมอก็จะมีเซ็กซ์สม่ำเสมอมากกว่าคนไม่ออกกำลังกาย แถมเกร็ดความรู้ว่า เซ็กซ์ไม่มีผลลบในการแข่งกีฬา ยกเว้นมีภายใน 2 ชั่วโมงก่อนแข่ง แบบนี้พลังงานที่สูญเสียไปมักยังไม่กลับคืนมา

เซ็กซ์และอนามัยเจริญพันธุ์ (Sexual and Reproductive Health)

เซ็กซ์ทำให้มีลูกง่าย งานวิจัยในปี 2002 ทำในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าการมีเซ็กซ์และถึงจุดสุดยอดขณะมีประจำเดือนลดการเกิดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ทั้งการมีเซ็กซ์บ่อย 4 ครั้งขึ้นไปในหนึ่งสัปดาห์ มีโอกาสตั้งครรภ์มากกว่าร้อยละ 80 ใน 6 เดือน การศึกษาในปี 1998 พบว่าการถึงจุดสุดยอดของฝ่ายหญิงมีการหลั่งฮอร์โมนออกซิโตชิน ทำให้เกิดผนังมดลูกหดตัว ดูดอสุจิขึ้นไปผสมกับไข่ และทำให้อสุจิค้างอยู่ในช่องคลอดนาน 10-15 นาที ทำให้มีโอกาสท้องมากขึ้น คุณภาพของอสุจิ ทั้งจำนวนและการเคลื่อนไหวในคนที่หลั่งบ่อยๆ ดีกว่าคนที่ไม่ค่อยได้หลั่ง การถึงจุดสุดยอดทำให้ประจำเดือนตรง ไข่ตก ลดการปวดประจำเดือน การสัมผัสอสุจิไม่ว่าจะโดยการสอดใส่หรือออรัลเซ็กซ์ ก่อนและตอนตั้งครรภ์จะช่วยลดการคลอดก่อนกำหนด ลดการเกิดครรภ์เป็นพิษ เซ็กซ์ลดอาการช่องคลอดแห้ง และทำให้อวัยวะชายแข็งตัวดี เพราะเพิ่มเลือดไปหล่อเลี้ยง

เซ็กซ์ช่วยลดอาการปวดเรื้อรัง ผ่อนคลาย ลดความเครียด

เซ็กซ์ทำให้หลับสบาย การถึงจุดสุดยอดทำให้มีการหลั่งฮอร์โมนออกซิโตชินและเอ็นดอร์ฟิน ทำให้หลับสนิทเหมือนได้ยาระงับประสาท เซ็กซ์ลดอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดข้อ ปวดหัว ไมเกรน ปวดท้อง ปวดประจำเดือน เพราะการถึงจุดสุดยอดเพิ่มฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟินและคอร์ติโคสเตียรอยด์ ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย

เซ็กซ์มีผลดีต่อสุขภาพจิต อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ (Psychological, Emotional, Social and Spiritual Health)

เซ็กซ์เพิ่มคุณภาพชีวิต มีความมั่นใจ เห็นคุณค่าชีวิต ลดความเครียด ลดความคิดฆ่าตัวตาย ลดซึมเศร้า มีสุขภาพจิตดี เชื่อว่าเป็นผลจากฮอร์โมนออกซิโตชินที่ทำให้ผ่อนคลาย คนที่มีความสุขในเซ็กซ์มาก่อนมักมีคุณภาพชีวิตดีตลอดทั้งชีวิต ความพึงพอใจในเซ็กซ์ทำให้สัมพันธภาพคู่ครองมั่นคง มีความผูกพันกันทางจิตวิญญาณ

เซ็กซ์ทำให้อายุยืน

การศึกษาทำในประเทศอังกฤษ (Caerphilly, South Wales) ติดตามนานถึง 10 ปี ในชาย 918 คน อายุ 45-59 ปี ทุกคนได้รับการซักประวัติ ตรวจร่างกาย วัดความดันโลหิต ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เมื่อติดตามไปนาน 10 ปี ชายที่มีการหลั่ง 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือมากกว่า พบว่าโอกาสเสียชีวิตลดลงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับชายที่มีการหลั่งแค่เดือนละครั้ง และจากงานวิจัยของนอร์ทแคโรไลนา ติดตามไปถึง 25 ปี พบปัจจัยที่ให้ชีวิตยืนยาวเกี่ยวกับเซ็กซ์ในชายคือความถี่ของเซ็กซ์โดยเฉลี่ย และความสุขในการมีเซ็กซ์ในอดีต ส่วนในผู้หญิง อายุยืนยาวสัมพันธ์กับความสุขในการมีเซ็กซ์ในอดีต ไม่สัมพันธ์กับความถี่ของเซ็กซ์เช่นกัน ส่วนความสุขในการมีเซ็กซ์ในปัจจุบันไม่เกี่ยวกับอายุยืนยาวทั้งหญิงและชาย

งานวิจัยจากประเทศสวีเดนก็เช่นกัน ทำการศึกษาในชายหญิงอายุ 70 ปี ติดตามไป 5 ปี จนถึงอายุ 75 ปี พบผู้ชายที่หยุดมีเซ็กซ์ตั้งแต่อายุน้อยเสียชีวิตมากกว่าคนที่ไม่หยุดมีเซ็กซ์อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับผู้หญิง การหยุดมีเซ็กซ์ตั้งแต่อายุน้อยไม่เกี่ยวกับอายุยืนหรือไม่ยืน การศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1980 ในหญิงชายอายุเกิน 60 ปี พบร้อยละ 92.7 ของชาย และร้อยละ 70.4 ของหญิง ยังมีเซ็กซ์อย่างสม่ำเสมอ โดยส่วนใหญ่เชื่อว่านี่คือแหล่งเกิดสุขภาพดี ทำให้อายุยืน

เซ็กซ์ลดการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และเบาหวาน 

งานวิจัยพบความถี่ของการมีเซ็กซ์ 2 ครั้ง หรือมากกว่าต่อสัปดาห์ จะช่วยลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ในการติดตามนาน 10 ปี พบคนที่มีความถี่ของเซ็กซ์น้อยกว่าเดือนละครั้ง มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันมากกว่าถึง 2 เท่า งานวิจัยหลายชิ้นพบการถึงจุดสุดยอดทำให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนเพศชาย Dhea ทั้งในหญิงและชาย ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ งานวิจัยในประเทศอิสราเอล ในผู้ป่วยหญิงที่นอนโรงพยาบาลด้วยโรคหัวใจ จากการศึกษาพบว่า หญิงที่ป่วยเหล่านี้ไม่มีความสุขในเรื่องเซ็กซ์ และมีกามตายด้าน (Frigidity) มากกว่าหญิงที่ไม่ป่วยด้วยโรคหัวใจอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้งานวิจัยหลายชิ้นยังยืนยันว่า การมีเซ็กซ์บ่อยมีความสัมพันธ์กับเรื่องรูปร่างด้วย โดยการลดรอบเอวและรอบสะโพก ดังนั้นจึงป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน และโรคอ้วน ซึ่งสัมพันธ์กับความกว้างของรอบเอวและรอบสะโพก

เซ็กซ์ลดมะเร็งเต้านม 

เนื่องจากเซ็กซ์เพิ่มฮอร์โมนออกซิโตชินและฮอร์โมนเพศชาย (Oxytocin and Dhea) ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านม นอกจากนั้นการตั้งครรภ์ การมีลูก การสัมผัสกับอสุจิ ก็ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม การไม่มีลูกเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม แต่หากมีเซ็กซ์โอกาสเกิดมะเร็งเต้านมต่ำกว่าคนไม่มีเซ็กซ์

เซ็กซ์ลดมะเร็งต่อมลูกหมาก

งานวิจัยในปี 2004 พบการหลั่งจำนวน 21 ครั้งต่อเดือน ลดมะเร็งต่อมลูกหมาก การหลั่งเพิ่มขึ้นหนึ่งครั้ง จาก 3 ครั้งต่อหนึ่งสัปดาห์ ลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ร้อยละ 15 เชื่อว่าเพราะมีการล้างสารก่อมะเร็งออกไปพร้อมการหลั่ง นอกจากนั้นการถึงจุดสุดยอดยังช่วยลดความเครียด ช่วยป้องกันการแบ่งตัวของเซลล์ที่ผิดปกติ

สรุป

• งานวิจัยที่ยกตัวอย่างมา สนับสนุนการมีสุขเพศเช่นเดียวกับสุขภาพทางกายและใจ ซึ่งต้องฝ่าด่านความเชื่อ ค่านิยม ความคิดเห็น และวัฒนธรรมของแต่ละเชื้อชาติ การมีสุขเพศที่ดี ไม่ได้ดีต่อคู่รักและครอบครัวเท่านั้น แต่มีผลโดยตรงกับการพัฒนาและความมั่นคงอย่างยั่งยืนของประเทศชาติอีกด้วย

อ้างอิง:

• Trudel G, et al. Marital and Sexual Aspects of Old Age. Sexual and Relationship Therapy 2000, 15(4), 381-406. 
• Davey S, et al. Sex and Death: Are TheyRelated?. Findings from the Caerphilly Cohort Study. British Medical Journal 1997; 315:1641-4.
• Palmore E. Predictors of the Longevity Difference: A Twenty-Five Year Follow-Up.The Gerontologist 1982;22:513-8.
• Persson G. Five-year Mortality in a 70-Year-Old Urban Population in Relation to Psychiatric Diagnosis, Personality,Sexuality and Early Parental Death.Acta Psychiatrica Scandinavica 1981;64:244-53.
• Starr BD, Weiner MB. The Starr&Weiner Report on Sex & Sexuality in the Mature Years. NewYork 1981 : Stein and Day Publishers.
• Ebrahim S, et al. Sexual Intercourse and Risk of Ischaemic Stroke and Coronary Heart Disease: The Caerphilly Study. Journal of Epidemiology Community Health 2002; 56: 99-102.
• Booth A, et al. Testosterone and Men’s Health. Journal of Behavioral Medicine 1999; 22(1): 1-19.
• Abramov LA. Sexual Life and Sexual Frigidity Among Women Developing Acute Myocardial Infarction. Psychosomatic Medicine 1976, 38(6), 418-25. 
• Brody S. Slimness is Associated with Greater Intercourse and Lesser Masturbation Frequency. Journal of Sex & Marital Therapy 2004, 30, 251-61.
• Rexrode KM, et al. Abdominal Adiposity and Coronary Heart Disease in Women. JAMA1998, 280(21), 1843- 8.
• Murrell TGC. The Potential for Oxytocin (OT) to Prevent Breast Cancer: A Hypothesis. Breast Cancer Research and Treatment 1995 ; 35: 225-9. 
• Lê MG, et al. Characteristics of Reproductive Life and Risk of Breast Cancer in a Case-Control Study of Young Nulliparous Women. Journal of Clinical Epidemiology1989; 42(12):1227-33. 
• Leitzmann MF, et al. Ejaculation Frequency and Subsequent Risk of Prostate Cancer. JAMA2004 ; 291(13): 1578-86. 
• David J. Secrets of the Superyoung. New York: Berkley Books 1998.
• David J. Sex for the Mature Adult: Health, SelfEsteem and Countering Ageist Stereotypes.” Sexual and Relationship Therapy2002; 17(3): 231-40.
• White JR, et al. Enhanced Sexual Behavior in Exercising Men. Archives of Sexual Behavior1990;19(3): 193-209. 
• Meaddough EL, et al. Sexual Activity, Orgasm and Tampon Use Are Associated with a Decreased Risk for Endometriosis. Gynecologic and Obstetric Investigation2002; 53: 163-9
• Singh D, et al. Frequency and Timing of Coital Orgasm in Women Desirous of Becoming Pregnant. Archives of Sexual Behavior 1998; 27(1): 15-29. 
• Koelman CA, et al.. Correlation Between Oral Sex and a Low Incidence of Preeclampsia: A Role for Soluble HLA in Seminal Fluid?. Journal of Reproductive Immunology2002;46: 155-66.
• Levitas E, et al. Relationship Between the Duration of Sexual Abstinence and Semen Quality: Analysis of 9,489 Semen Samples.” Fertility and Sterility2005, 83(6), 1680-6.

The post การมี Sex บ่อยๆ ทำให้ดูอ่อนเยาว์ได้จริงหรือ? appeared first on THE STANDARD.

รู้หรือไม่ว่าร้อยละ 50 ของเพศหญิงเลยทีเดียวที่เคยมีปัญหาทางเดินปัสสาวะอักเสบ ซึ่งส่วนใหญ่คือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โดยในจำนวนนี้ 1 ใน 4 จะกลับมาเป็นซ้ำภายใน 6 เดือน มันเกี่ยวหรือไม่กับการมีเพศสัมพันธ์และการปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์ ไปทำความรู้จักอาการนี้พร้อมกันเลย

เกี่ยวกับอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

ร้อยละ 50 ของเพศหญิงที่เคยมีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มักจะกลับมาเป็นซ้ำบ่อยๆ นอกจากมีอาการไม่สุขสบาย เจ็บปวดเวลาปัสสาวะ, ปัสสาวะบ่อย, ปัสสาวะลำบาก, ปัสสาวะสุดแล้วเสียว, ปัสสาวะเป็นเลือด ฯลฯ แล้ว หากเป็นมากจะลุกลาม เกิดท่อไตอักเสบ กรวยไตอักเสบ มีอาการไข้ หนาวสั่น ปวดหลังเพิ่ม หากเป็นในคนที่ภูมิต้านทานร่างกายไม่แข็งแรง อาจจะเกิดการติดเชื้อเข้ากระแสโลหิตจนถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากปัญหาสุขภาพจากความเจ็บป่วย การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเรื้อรัง ส่งผลให้ผู้หญิงส่วนหนึ่งต้องรับประทานยาปฏิชีวนะระยะยาว ซึ่งอาจจะเกิดการดื้อยา ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากขึ้น

สาเหตุเกิดจากอะไร?

สาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ คือการติดเชื้อแบคทีเรียเข้าไปทางท่อปัสสาวะ (Urethra) ส่วนใหญ่เป็นเชื้อโรคตัวร้ายในลำไส้ปนเปื้อนเข้าไปทางท่อปัสสาวะ เนื่องจากท่อปัสสาวะของหญิงสั้นกว่าชาย ความยาวเพียง 2-4 เซนติเมตร ขณะที่ฝ่ายชายยาว 20 เซนติเมตร ฝ่ายหญิงจึงมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าฝ่ายชาย  

ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญข้อหนึ่งที่มีงานวิจัยยืนยัน คือความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ และการเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ โดยพบว่าร้อยละ 40 ของผู้หญิงที่มีการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะแบบเฉียบพลัน มักจะเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ภายใน 24-48 ชั่วโมง และการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบภายใน 24 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ พบมากในผู้หญิงที่เพิ่งแต่งงาน จนมีชื่อเรียกว่า กระเพาะปัสสาวะอักเสบฮันนีมูน ‘Honeymoon Cystitis’ งานวิจัยพบว่าในช่วงมีเพศสัมพันธ์ มีการเพิ่มการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่อยู่ในช่องคลอด เดินทางเข้าท่อปัสสาวะ และไปติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ ยืนยันจากงานวิจัย พบแบคทีเรียจำนวนเพิ่มมากขึ้นในน้ำปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์ถึง 10 เท่า โดยเกินร้อยละ 80 เป็นเชื้ออีโคไล (Uropathogenic E. coli: UPEC) ที่ปนเปื้อนมาจากทวารหนัก

การค้างของน้ำปัสสาวะที่มีเชื้อโรคทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของแบคทีเรีย และเกิดการอักเสบเฉียบพลัน ดังนั้นการปัสสาวะทิ้งช่วยป้องกันการเพิ่มจำนวนแบคทีเรีย ป้องกันการอักเสบติดเชื้อนี้ได้ 

จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่รักษา

เมื่อมีการอักเสบติดเชื้อกระเพาะปัสสาวะ หากไม่รักษา 60% ของคนไข้จะมีอาการปัสสาวะอักเสบ เชื้อโรคจะอยู่ในน้ำปัสสาวะเป็นเดือนๆ ก่อให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง ทางเดินปัสสาวะอักเสบจึงไม่ใช่โรคธรรมดาที่เป็นแล้วไม่มีอันตราย ทั้งเป็นแล้วไม่สามารถหายได้เอง งานวิจัยที่ทำในนักศึกษาหญิงระดับวิทยาลัย ตีพิมพ์ใน J Clin Epidemiol 1990 ยืนยันว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ คือความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับจำนวนคู่นอนและการเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ 

โดยนักศึกษาที่ปัสสาวะก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ สามารถป้องกันการเกิดทางเดินปัสสาวะอักเสบได้เป็น 9.5 เท่า เทียบกับกลุ่มควบคุม ขณะนักศึกษาที่ปัสสาวะเฉพาะก่อนมีเพศสัมพันธ์ ป้องกันการเกิดได้ 3.4 เท่า และนักศึกษาที่เกิดทางเดินปัสสาวะอักเสบทั้งหมดหลังมีเพศสัมพันธ์ ไม่เคยหรือน้อยครั้งมาก (Rarely) ที่จะปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์ เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ 

สรุปว่าทำไมต้องปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์

การปัสสาวะทิ้งก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์เป็นพฤติกรรมสุขภาพที่พึงกระทำ เพราะช่วยป้องกันการเกิดทางเดินปัสสาวะอักเสบได้ตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ อีกทั้งไม่มีอันตรายใดๆ แม้แต่น้อย 

อ้างอิง: 

• Foxman B. Epidemiology of urinary tract infections: incidence, morbidity, and economic costs. Dis Mon2003; 49: 53–70.
• Gilbert NM, O’Brien VP, Lewis AL.Transient microbiota exposures activate dormant Escherichia coli infection in the bladder and drive sever Uropathogenic E. coli (UPEC)e outcomes of recurrent disease.PLOS Pathogens 2017;13(3):e1006238
• Buckley RM Jr, McGuckin M, MacGregor RR. Urine bacterial counts after sexual intercourse. N Engl J Med1978; 298: 321–324.
• Foxman B, Chi JW. Health behavior and urinary tract infection in college-aged women.J clin Epidemiol 1990; 43(4):329-37.

The post ทำไมต้องปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์ ตกลงมันดีหรือไม่ดีกันแน่? appeared first on THE STANDARD.

บางครั้งไม่ใช่อยากโสด แต่ปัดขวาจนเหนื่อยแล้วก็ยังไม่เจอคู่โดนใจเสียที ใครที่กำลังอยู่ในโมเมนต์นี้ เรามีกิจกรรมใหม่มาแนะนำ

OMG! Matchmaking กลุ่มคนเล็กๆ ที่เชื่อในพลังของการเดต ชวนนักปัดขวาที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตามาร่วมงานเดตด่วน (Speed Dating) ให้ใจฟูกับ ‘OMG! Let’s get SPARKLY!’ อีเวนต์เล็กๆ ที่นำพาคนโสดหลายคนมารวมตัวกัน เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างเจอคนที่ใช่ ภายในงานจะแบ่งเป็นคู่เดต โดยแต่ละคนจะมีเวลาทำความรู้จักกันคู่ละ 4-5 นาที สลับคู่วนไปจนครบ 10-15 คู่ ในเวลานั้นคุณสามารถทำอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะนั่งคุยเรื่องการงาน ถามหาความชอบ งานอดิเรก หรือจะแค่นั่งเฉยๆ มองตากันก็แล้วแต่สะดวก โดยทั้งหมดต้องอยู่ในพื้นฐานที่ไม่คุมคาม และเคารพซึ่งกันและกัน

Speed Dating หรือในภาษาไทยว่า เดตด่วน เป็นการนัดเดตหมู่ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยมีจุดเด่นในการค้นหาและพบเจอคนใหม่ๆ ได้หลากหลายคนในเวลาอันรวดเร็ว 

สำหรับงาน OMG! Let’s get SPARKLY! จัดขึ้นในวันที่ 23 กรกฎาคม 2565 เวลา 16.00-19.00 น. ณ The Earthling Cafe, Park Avenue บัตรเข้างานราคา 899 บาท พร้อมเครื่องดื่ม 1 แก้ว

งานนี้ไม่จำเป็นต้องมีคู่กลับบ้านก็ได้ แต่คุณได้เพื่อนใหม่กลับมาแน่นอน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/OMGMatchmaking 

ภาพ: Shuttertstock

The post ชวนคนปัดขวาจนเหนื่อย มา Speed Dating กันที่งาน OMG! Let’s get SPARKLY! appeared first on THE STANDARD.

เมื่อพูดถึง Sexsomnia หลายคนอาจไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ ขณะที่คนทั่วไปรู้จักการละเมอ (Parasomnia) เป็นอย่างดีอยู่แล้ว เช่น ละเมอพูด ชกต่อย เดิน กระทั่งละเมอรุนแรงคือ ขับรถ ตักน้ำใส่ตุ่ม ก่อเหตุรุนแรง ฯลฯ แต่การละเมอเกี่ยวกับเซ็กซ์ หรือ Sexsomnia เช่น ละเมอมีเพศสัมพันธ์ ละเมอข่มขืน ละเมอช่วยตนเอง ทำให้เกิดคำถามว่าเป็นจริงหรือแกล้งทำ? จากคำถามข้างต้นต้องยกตัวอย่างงานวิจัยทั่วโลกมาอธิบาย ซึ่งมีการรวบรวมเคสที่อาศัยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สรุปว่า Sexsomnia นั้นเป็นเรื่องจริง เคสเหล่านี้พิสูจน์โดยการตรวจการนอนหลับ (Polysomnography: PSG or Sleep Test) และตรวจคลื่นไฟฟ้าในสมอง (Electroencephalography: EEG) ในขณะหลับ การพบคลื่นเดลตาแสดงว่าหลับลึก บางเคสเป็นเคสคดีที่ต้องอาศัยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในการแก้คดี

ขอยกตัวอย่าง 4 เคสของอาการ Sexsomnia จากรายงานการวิจัย ดังนี้

1. นาย JK อายุ 27 ปี แต่งงานแล้วและทำงานเป็นการ์ดในไนต์คลับแห่งหนึ่ง ถูกส่งมาพบจิตแพทย์ด้วยเรื่องจิตเภทของภรรยา โดยภรรยาถูกนาย JK ข่มขืนด้วยการใช้ลิ้นเลียและสอดใส่ขณะที่เธอนอนหลับ เธอแจ้งความและขอหย่า นาย JK ยอมรับว่าได้ทำแต่ไม่รู้ตัวเลย ที่ยอมรับเพราะภรรยาบอก คู่สามีภรรยานี้มีเพศสัมพันธ์ไม่ปกติ ทั้งแบบถ้ำมอง แบบซาดิสม์ แบบเซ็กซ์หมู่ แบบสวิงกิ้ง นาย JK ติดสารเสพติดหลายชนิด นอนกรน และมีประวัติละเมอ ทั้งเดิน ร้อง พูด โดยนาย JK มักง่วงอย่างรุนแรงในตอนกลางวัน เขาจึงดื่มกาแฟวันละ 30 แก้ว กินยากระตุ้นไม่ให้ง่วง ผลการตรวจการนอนหลับพบว่า ขณะที่นอนเขามีอาการละเมอจริง โดยตรวจเจอ Slow-Wave Sleep (SWS) ในช่วงการหลับลึก (Non-Rapid Eye Movement Sleep: NREM Sleep) หัวใจเต้นเร็ว มีการหยุดหายใจ และขาดออกซิเจนเป็นพักๆ อย่างไรก็ตาม ไม่พบการละเมอข่มขืนในขณะตรวจ แพทย์รักษาด้วยการใช้เครื่องช่วยหายใจในขณะนอนหลับ (CPAP) ปรากฏว่า ภรรยารายงานว่าเมื่อใช้ CPAP นาย JK ไม่มีการละเมอข่มขืนอีกเลย ต่อมานาย JK เลิกใช้ CPAP ตอนนอนเพราะรำคาญ ภรรยารายงานจิตแพทย์ว่า มีการละเมอข่มขืนอีก แต่เมื่อเขากลับมาใช้ CPAP ภรรยารายงานว่า ไม่มีการละเมอข่มขืนอีกเลย ภรรยาจึงเลิกฟ้องหย่า 

2. นาย CJ อายุ 39 ปี มีลูก 5 คน เขากับภรรยารักกันดี ไม่มีปัญหาเพศสัมพันธ์ เรื่องฟ้องร้องเกิดขึ้นเมื่อนาย CJ ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวคนโตของเขาในขณะอายุ 9 ขวบ ในคืนนั้นลูกสาวกลัวจึงมานอนในห้องพ่อแม่ โดยนอนอยู่ระหว่างพ่อแม่ ลูกสาวให้การกับศาลว่าพ่อกอดจูบลูบคลำเธอ นาย CJ จึงถูกจับ นาย CJ ให้การว่าเขาไม่รู้สึกตัวเลย ภรรยาเขาให้การว่าเขาไม่เคยนอกใจ แต่ชอบละเมอพูดพึมพำ ในช่วงที่เกิดเหตุนาย CJ เครียดและอดนอนต่อกันมาหลายคืน ภรรยาคาดว่าเขาคงละเมอพึมพำและยกไม้ยกมือในขณะลูกสาวมานอนตรงกลาง ผลการตรวจการนอนหลับและคลื่นไฟฟ้าสมอง โดยบันทึกวิดีโอขณะนอนหลับต่อเนื่องเป็นเวลานาน พบว่านาย CJ ละเมอจริง และปลุกเร้าทางเพศ เช่น อวัยวะเพศตื่นตัว มีน้ำหล่อลื่นขณะหลับลึก หลักฐานการยืนยันทำให้นาย CJ ได้รับการปล่อยตัวหลังจากการสอบสวนคดีนานถึง 4 ปี

3. นาย DW อายุ 43 ปี อาชีพตำรวจ หย่าร้าง มีประวัติรุนแรงเกี่ยวกับการละเมอที่ได้รับการยืนยันจากหลักฐานบุคคล เช่น ขับรถ เดิน พูด ละเมอ อาการเหล่านี้จะเป็นมากขึ้นหากดื่มเหล้าจัด นาย DW มาพบจิตแพทย์เรื่องการละเมอที่รุนแรง จิตแพทย์ตรวจการนอนหลับและคลื่นไฟฟ้าในสมองพบว่า เขาละเมอจริง และพบว่าเขามี Sexsomnia จากคำให้การของคู่ขาหญิง 2 คน ตอนเช้าเมื่อฝ่ายหญิงถามเรื่องกลางคืนที่มีเซ็กซ์ เขาจะตอบว่าเขาไม่รู้เลย ทำไมคุณไม่บอกผม ผมไม่รู้จริงๆ แต่เรื่อง Sexsomnia ในนาย DW นี้ไม่เป็นปัญหา เพราะฝ่ายหญิงทั้ง 2 คนรายงานว่า ในขณะ Sexsomnia นาย DW เปลี่ยนเป็นคนละคน เขาทั้งนุ่มนวล เอาใจใส่อย่างมาก และสนใจความรู้สึกของฝ่ายหญิงเป็นอย่างดี การตรวจการนอนหลับและคลื่นไฟฟ้าในสมองยืนยันว่า นาย DW ละเมอจริง แต่ Sexsomnia ของนาย DW ไม่เป็นปัญหาใดๆ จิตแพทย์ได้รายงานเคสนาย DW เพื่อยืนยันว่า Sexsomnia มีจริง 

4. เป็นเคสตรงข้ามกับเคสที่ 3 นาย KB เป็นตำรวจ อายุ 37 ปี แต่งงาน นอนโรงพยาบาลเพราะมีประวัติรุนแรงเกี่ยวกับการละเมอ เช่น ขับรถ เดิน พูดละเมอ และจะเป็นหนักเมื่อเครียดและดื่มเหล้าจัด กลางคืนนอนกรนมาก ภรรยาพามารักษาเรื่องละเมอรุนแรง โดยเธอให้ข้อมูลว่า นอกจากละเมอเขายังมีอาการ Sexsomnia โดยที่เขาไม่เคยรู้ตัวเลย แต่ขณะที่มีเซ็กซ์เขาจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนคือ ก้าวร้าวรุนแรง ห้ามการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ พูดก็ไม่รู้เรื่อง ครั้งหนึ่งเขาบีบคอเธอขณะพยายามมีเพศสัมพันธ์ เธอจึงตบตีเขาอย่างรุนแรงจนเขาตื่นขึ้นและไม่รู้เรื่องอะไรเลย คนไข้เคสนี้ได้รับการพิสูจน์จากการตรวจการนอนหลับและคลื่นไฟฟ้าสมอง บันทึกวิดีโอขณะนอนหลับต่อเนื่อง พบว่าละเมอและมีการกระตุ้นทางเพศ เช่น อวัยวะเพศแข็งตัว มีน้ำหล่อลื่น ขณะนอนหลับลึกจริง เคสนี้จิตแพทย์รักษาด้วยยาคลายเครียด อาการจึงดีขึ้น   

สรุป 

• Sexsomnia มีจริงแต่มีจำนวนไม่มาก หากจะอ้างว่าละเมอข่มขืนต้องมีการพิสูจน์โดยจิตแพทย์ และมีการตรวจ เช่น ตรวจการนอนหลับ ตรวจคลื่นไฟฟ้าในสมอง บันทึกวิดีโอขณะนอนหลับ เชื่อว่าสาเหตุที่เกิดคือ ขณะนอนหลับ สมองบางส่วนยังทำงาน โดยเฉพาะส่วนเครือข่ายประสาทก้านสมอง ( Reticular Formation) และสมองส่วนอารมณ์หรือฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) มักจะเกิดในคนที่มีความเครียด มีโรคจิตประสาท มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา ดื่มเหล้า ใช้สารเสพติด หรือใช้ยากระตุ้นประสาท

• การหลีกเลี่ยงคือ ต้องลดความเครียด ไม่ดื่มเหล้า ไม่เสพสารเสพติด พักผ่อนให้เพียงพอ หากกรนหยุดหายใจหรือขาดออกซิเจนในขณะนอนหลับควรรักษา เพราะเป็นสาเหตุการละเมอ หากมีโรคจิตประสาทควรรักษาให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ กลางคืนควรแต่งกายให้มิดชิด คนโสดควรนอนคนเดียว หากคู่นอนบอกว่ามีอาการของ Sexsomnia ควรพบจิตแพทย์ เพื่อป้องกันการเกิดอาชญากรรมหรือการข่มขืน

อ้างอิง:

• Shapiro Cm, Trajanovic Nn, Fedoroff Jp. Sexsomnia–A New Parasomnia?.Can J Psychiatry 2003;48(5):311-7.
• Schenck Ch, Arnulf I, Mahowald Mw.Sleep And Sex: What Can Go Wrong? A Review Of The Literature On Sleep Related Disorders And Abnormal Sexual Behaviors And Experiences. Sleep2007; 30(6): 683–702.
•  Muza R, Lawrence M, Williams A. The Reality Of Sexsomnia: Characteristics And Manifestations Of Sexsomnia. Sleep2015; 38: A250.
• Andersen Ml, Poyares D, Alves Rs, Skomro R, Tufik S . Sexsomnia: Abnormal Sexual Behavior During Sleep. Brain Res Rev 2007; 56(2): 271–282.
• Béjot Y, Juenet N, Garrouty R, Et Al.  . Sexsomnia: An Uncommon Variety Of Parasomnia. Clin Neurol Neurosurg 2010; 112(1): 72–75.
• Soca R, Keenan Jc, Schenck Ch . Parasomnia Overlap Disorder With Sexual Behaviors During Sleep In A Patient With Obstructive Sleep Apnea. J Clin Sleep Med 2016; 12(8): 1189–1191.

The post Sexsomnia คืออะไร? ละเมอข่มขืน เรื่องจริง หรืออิงนิยาย? appeared first on THE STANDARD.

เข้าสู่เดือนมิถุนายน หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ (Pride Month) กันแล้วอย่างเป็นทางการ ซึ่งเราก็ได้เห็นหลายแบรนด์ หลายองค์กรจับมือร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลอง พร้อมสนับสนุนชุมชน LGBTQIA+ กันอย่างมากมาย 

เช่นเดียวกันกับเดทติ้งแอปพลิเคชัน Tinder ที่ได้จับมือร่วมกับ Airbnb ร่วมเฉลิมฉลอง Pride Month ด้วยเช่นกัน ผ่านการสร้างสรรค์ Pride Wave อินสตอลเลชันที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Progress Pride Flag ธงสีรุ้ง สัญลักษณ์ที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของชุมชน LGBTQIA+ กับความสูงมากกว่า 3 เมตร ยาว 7 เมตร บริเวณหน้าลาน centralwOrld ระหว่างวันที่ 1-30 มิถุนายน 2565 

ซึ่งนอกจากการจัดอินสตอลเลชันแล้ว ทั้งสองยังได้จัดกิจกรรมให้ผู้ที่สนใจได้สมัครเข้าไปร่วมสนุก โดยได้ตัวแทนชาว LGBTQIA+ ไทยทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ คุณตี๋-บัณฑิต สินธนภารดี ผู้กำกับชื่อดัง, คมสันต์ วงศ์ษา หรือ ‘เดียว มาสเตอร์เชฟ’ และ โซฟี่- อัปสรสิริ อินทรคูสิน กับกิจกรรมทั้งสาม ได้แก่ 

The Secret of winning the Director’s Heart 

กิจกรรมที่จะมาบอกเคล็ดลับการออดิชันเป็นนักแสดง โดยผู้กำกับมือทองจากซีรีส์ ‘TharnType The Series เกลียดนักมาเป็นที่รักซะดีๆ’ และ ‘นับสิบจะจูบ Lovely Writer’ อย่าง ตี๋-บัณฑิต สินธนภารดี

Cake Bling with Chef Dew 

กิจกรรมอบเบเกอรีที่ เชฟเดียว-คมสันต์ วงศ์ษา เซเลบริตี้เชฟที่เป็นที่รู้จักจากรายการ MasterChef Thailand Season 2 เจ้าของฉายา ‘เจ้าหญิงแห่งวงการขนมหวาน’ จะมาบอกเทคนิคการรังสรรค์ขนมเค้กอย่างสร้างสรรค์ 

Jazz Funk with Sophie 

มาออกลีลาการเต้นของคุณได้อย่างเต็มที่ พร้อมกับทำความรู้จักกับ Jazz Funk กับ โซฟี่-อัปสรสิริ อินทรคูสิน และมารู้จักตัวตนของคุณผ่านเสียงเพลงไปด้วยกัน 

สมาชิก Tinder ชาวไทยจะได้เห็นการ์ดกิจกรรมเอ็กซ์พีเรียนซ์บนแอปพลิเคชัน Tinder และสามารถปัดขวาเข้าสู่ www.connectwithpride.co เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสามารถจองเข้าร่วมเปิดประสบการณ์กับกิจกรรมที่น่าสนใจนี้บน Airbnb 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/TinderThailand 

The post Tinder จับมือ Airbnb จัดกิจกรรมฉลอง Pride Month พร้อม Installation ธงสีรุ้งหน้าลาน centralwOrld appeared first on THE STANDARD.