LIFE | LIVING – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 24 Dec 2025 07:42:41 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติแบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก https://thestandard.co/life/oong-mindful-clothes-living-quality/ Wed, 24 Dec 2025 09:00:01 +0000 https://thestandard.co/?p=1157492 เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติ แบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก

ทั้งที่เสื้อผ้าแน่นตู้ แต่ทำไมยังรู้สึกว่า ‘ไม่มีอะไรจะ […]

The post เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติแบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก appeared first on THE STANDARD.

]]>
เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติ แบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก

ทั้งที่เสื้อผ้าแน่นตู้ แต่ทำไมยังรู้สึกว่า ‘ไม่มีอะไรจะใส่’ นั่นอาจเป็นเพราะคุณมี

 

เสื้อผ้ามากเกินความจำเป็น หรือไม่ตรงตามสไตล์ของตัวเองจริง ๆ

 

พฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าตามเทรนด์ ตามคนรอบตัว หรือเพื่อสร้างการยอมรับ ทำให้เสื้อผ้าหลายชิ้นไม่เคยถูกหยิบมาใส่ บางชิ้นใส่เพียง 2-3 ครั้งก็ถูกพับเก็บไว้ลึกที่สุดของตู้เสื้อผ้า ขณะเดียวกันระบบการสั่งซื้อที่รวดเร็ว และกระบวนการผลิตที่เน้นปริมาณมากกว่าคุณค่า ทำให้ Fast Fashion กลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน ทั้ง ๆ ที่เสื้อผ้าเพียงหนึ่งชิ้นต้องผ่านกระบวนการผลิตที่ใช้ทรัพยากรน้ำจำนวนมาก และปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล โดยข้อมูลจาก UNFCCC ระบุไว้ว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นปล่อยคาร์บอนมากกว่าอุตสาหกรรมการบินและการขนส่งทางเรือรวมกันเลยทีเดียว

 

ใน Eco-Curious: Habit Hacks ตอนนี้ เราจึงอยากชวนพูดคุยกับ ‘อุ้ง-กมลนาถ องค์วรรณดี’ นักออกแบบที่ยืนหยัดบนแนวคิด Sustainable Fashion และเป็นผู้ขับเคลื่อนกลุ่ม Fashion Revolution Thailand ชวนทบทวนผลกระทบของการซื้อเสื้อผ้าต่อโลก แจกทริกการเลือกเสื้อผ้าและวิธีใช้อย่างคุ้มค่า เพื่อสร้าง Living Quality ของชีวิต

 

ผ่านการเลือกเสื้อผ้าที่มีความหมายต่อเราและโลก

 

ดูรายการเต็มได้ที่: LINK

 

เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติ แบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก 1เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติ แบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก 2

 

Who is ‘อุ้ง-กมลนาถ องค์วรรณดี’

 

อุ้ง-กมลนาถ องค์วรรณดี เป็นนักออกแบบที่หลายคนคุ้นตาในฐานะ ‘ผู้ขับเคลื่อนแนวคิด Sustainable Fashion’ ด้วยความจริงจังและแววตาที่มุ่งมั่น เธอเป็นหนึ่งในผู้ประสานงานของ Fashion Revolution Thailand และจัดกิจกรรมเพื่อชวนสังคมตั้งคำถามและเปลี่ยนมุมมองต่อเรื่องแฟชั่นมาโดยตลอด

 

จากประสบการณ์ตรงในอุตสาหกรรมแฟชั่น อุ้งได้เห็นผลกระทบของการผลิตและการบริโภคเสื้อผ้าที่มาไวไปไว

 

จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งคำถามต่อเบื้องหลังของเสื้อผ้าแต่ละชิ้น และนำไปสู่การเปลี่ยนบทบาทของเธอในวันนี้ จากนักออกแบบ สู่ผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในวงการแฟชั่นอย่างจริงจัง

 

“พอเรียนจบ เราก็เริ่มทำงานเป็นนักออกแบบ ได้คลุกคลีอยู่ในวงการแฟชั่น และออกแบบเสื้อผ้าจำนวนมาก เราเห็นเสื้อผ้าที่เราทำออกไปกลายเป็น Overstock ถูกนำไปลดราคา หรือบางครั้งก็ถูกทิ้ง ทั้งที่เพิ่งวางขายได้ไม่นาน เราเห็นผลกระทบของ Fast Fashion ที่ส่งผลต่อคน สังคม และวิถีชีวิตในฐานะนักออกแบบ เราไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของ business model แบบนั้น เลยอยากหาวิธีที่ทำให้เราจะยังมีความสุขกับแฟชั่นได้ โดยไม่ต้องเร่งทั้งกระบวนการผลิตและการบริโภค”

 

เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติ แบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก 3เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติ แบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก 4

 

อุ้งค้นพบว่า ‘Slow Fashion’ คือการเริ่มตั้งคำถามว่า ใครเป็นคนทำเสื้อผ้าชิ้นนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทำให้เราได้ฉุกคิดถึงกระบวนการผลิตที่ส่งผลต่อเรา สังคมและโลก

 

และยังช่วยเตือนสติให้เราเริ่มหันมาคิดก่อนเลือกซื้อเสื้อผ้าชิ้นถัดไป

 

“Fast Fashion คล้ายกับ Fast Food คือผลิตเร็ว ใช้เร็ว และทิ้งอย่างรวดเร็ว โดยไม่คำนึงถึงสุขภาพของผู้ผลิต ผู้ใช้ หรือสิ่งแวดล้อม ส่วน Slow Fashion คือการเริ่มตั้งคำถามว่า ใครเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้านี้ มีกระบวนการผลิตอย่างไร สิ่งเหล่านี้ทำให้การบริโภคของเราช้าลง น้อยลง คิดถึงที่มาที่ไปมากขึ้น ใช้ของได้นานขึ้น และเลือกใช้สิ่งที่ดีขึ้นในระยะยาวจริง ๆ”

 

Habit Hacks: ทริกจัดตู้ให้ปัง โลกไม่พัง

 

การรู้กระบวนการผลิตของเสื้อผ้าแต่ละชิ้น ทำให้เราค่อย ๆ มองข้ามความอยากได้ชั่วคราว ไปสู่ ‘ความต้องการของเราอย่างแท้จริง’ ช่วยให้เราไม่เสียเงินซื้อเสื้อผ้ามากเกินความจำเป็น และยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การยกระดับ Living Quality ที่ดีขึ้นในหลายมิติ

 

วิธีเริ่มต้นง่าย ๆ ที่อุ้งแนะนำ คือ ‘การจัดตู้เสื้อผ้า’ ลองเลือกเสื้อผ้าที่ชอบ ใส่บ่อย และจำเป็นจริง ๆ เพื่อทำความเข้าใจสไตล์ของตัวเอง ต่อมาให้ใช้วิธี Re-style ด้วยการนำเสื้อผ้าที่มีอยู่แล้วมา Mix and match ใหม่ ถ้าเสื้อผ้าเริ่มเก่าหรือชำรุด ให้ซ่อมแซมก่อนจะตัดสินใจซื้อใหม่

 

เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติ แบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก 5

 

หากจำเป็นต้องใช้เสื้อผ้าเพิ่มเติมจริง ๆ ลองใช้วิธีการแชร์ตู้เสื้อผ้า ยืมคนในครอบครัว แลกกับเพื่อน หรือเข้าร่วมกิจกรรมแชร์เสื้อผ้า ในกรณีที่จำเป็นต้องซื้อใหม่ อยากให้เริ่มจากการซื้อเสื้อผ้ามือสอง แต่ถ้ายังไม่มีแบบที่ถูกใจ ลองพลิกป้ายดูที่มาและกระบวนการผลิตก่อนตัดสินใจซื้อตัวใหม่ เลือกเส้นใยธรรมชาติเพราะปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์น้อยกว่าเส้นใยสังเคราะห์ และเลือกแบรนด์ท้องถิ่นที่ผลิตในประเทศ เพื่อลดมลพิษจากการขนส่ง

 

เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติ แบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก 6เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติ แบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก 7เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติ แบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก 8

 

อุ้งมองว่าเป็นเรื่องดีที่ปัจจุบันอุตสาหกรรมแฟชั่นก็เริ่มหันมาสนใจโลกมากขึ้น ยกตัวอย่างในยุโรป มีการออกกฎหมายว่าทุกแบรนด์ต้องทำ Digital Product Passport (DPP) เพื่อตรวจสอบที่มาของเสื้อผ้า เรียกว่าเป็น ‘Regenerative fashion’ ที่มองไกลกว่าความยั่งยืน ขยายสู่การฟื้นฟูทรัพยากรที่ถูกทำลายจากการผลิตด้วย

 

“เมื่อสิบปีก่อน คนจะโฟกัสกันที่ปัญหาขยะเสื้อผ้าซึ่งเป็นเรื่องปลายทาง แต่พอมาถึงวันนี้ เราเริ่มเห็นแบรนด์ใหญ่ ๆ หันมาพูดถึงปัญหาต้นทางมากขึ้น ตั้งแต่เส้นใยที่ใช้ ฝ้ายที่ปลูก วิธีการปลูก ไปจนถึงการดูแลดินและการจัดการน้ำ มันเป็นสัญญาณที่ดีว่าเรากำลังเริ่มมองอุตสาหกรรมแฟชั่นแบบ Holistic หรือมองกันแบบองค์รวมจริง ๆ”

 

เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติ แบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก 9

 

เมื่อเริ่มมองว่าเสื้อผ้าหนึ่งชิ้นมีคุณค่า เราจะพยายามรักษาให้นานที่สุดโดยอัตโนมัติ รวมถึงเลือกอย่างตั้งใจ ทำให้พลังงานและเงินที่เคยหมดไปกับการเลือกซื้อที่รวดเร็ว กลับคืนมาให้เราได้โฟกัสสิ่งที่จำเป็น ทำให้ชีวิตสงบ มีความสุขขึ้น และช่วยเสริมสร้าง Living Quality ที่ดีขึ้นในเวลาเดียวกัน

 

“เรามี Core value ที่ชัดเจน ทุกการเลือก การซื้อ และการใช้เงิน คือการโหวตว่าเราอยากสนับสนุนอะไร อยากเห็นธุรกิจแบบไหน สิ่งที่เคยสำคัญอย่างเทรนด์ กระแส หรือภาพลักษณ์ จะค่อย ๆ สำคัญน้อยลง เพราะเรามั่นคงจากข้างใน”

 

อุ้ง-กมลนาถ องค์วรรณดี

The post เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติแบบ ‘อุ้ง’ เพื่อ Living Quality ที่ดีต่อเราและโลก appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปักหมุดเที่ยว! เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 https://thestandard.co/life/thai-2569-holiday-travel/ Mon, 22 Dec 2025 13:30:22 +0000 https://thestandard.co/?p=1157048 ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569

เราเชื่อเสมอว่าการเดินทาง และการพักผ่อนที่สมดุลทำให้ร่า […]

The post ปักหมุดเที่ยว! เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569

เราเชื่อเสมอว่าการเดินทาง และการพักผ่อนที่สมดุลทำให้ร่างกาย จิตใจ รวมไปถึงประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น ปี 2568 เป็นอีกหนึ่งปีที่ประเทศไทยเจอเหตุการณ์หนักหน่วงหลายเหตุการณ์ และเราก็เชื่อว่าปีนี้เป็นอีกปีที่ทุกคนทำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าในแง่ของรายได้ ชีวิตความเป็นอยู่ ฯลฯ

 

และไม่ว่าปี 2569 จะเป็นเช่นไร เราอยากให้คุณอย่าลืมพักผ่อน หาเวลาออกเดินทางไปพบประสบการณ์และโลกใหม่ๆ เพราะนอกจากจะฮีลใจและกายเราเองแล้ว ยังช่วยส่งเสริมไอเดียใหม่ๆ และสร้างโอกาสให้เราด้วย

 

จงใช้วันลาอย่างคุ้มค่า เพราะเราทุกคนล้วนต้องการการพักผ่อนและเวลาส่วนตัว เพื่อรักษาร่างกายให้แข็งแรงและเติมเต็มแรงใจในการใช้ชีวิต

 

และนี่คือวันหยุด-วันควรลาทั้งปี 2569 เพื่อให้คุณวางแผนเที่ยวได้อย่างไม่มีสะดุด

 

ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 1ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 2ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 3ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 4ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 5ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 6ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 7ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 8ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 9ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 10ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 11ปักหมุดเที่ยว เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 12

The post ปักหมุดเที่ยว! เช็กปฏิทินวันหยุด-วันควรลา ปี 2569 appeared first on THE STANDARD.

]]>
รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 https://thestandard.co/life/interesting-designs-2025/ Sat, 20 Dec 2025 02:54:54 +0000 https://thestandard.co/?p=1156447 รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025

รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025   ปี 2025 ถือเป็ […]

The post รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 appeared first on THE STANDARD.

]]>
รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025

รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025

 

ปี 2025 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่โลกของงานออกแบบคึกคักเป็นพิเศษ เพราะมีผลงานดีไซน์เจ๋ง ๆ แปลกใหม่ โผล่ออกมาให้เราได้ว้าวกันแบบไม่ขาดสาย ตั้งแต่งานดีไซน์ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ไปจนถึงไอเดียเรียบง่ายแต่แก้ปัญหาได้ตรงจุด ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ทั้งรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ แฟชั่น เครื่องใช้ ไปจนถึงวัสดุเพื่อสิ่งแวดล้อม

 

วันนี้เราเลยขอพาทุกคนไปสำรวจ รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 ซึ่งคัดสรรโดย Dezeen มีทั้งงานดีไซน์ที่น่าสนใจ แปลกตา และ สะท้อนทิศทางของโลกการออกแบบในปัจจุบัน ว่ามีชิ้นไหนน่าจับตามองบ้าง

 


 

รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 1

 

รถไฟฟ้าหน้าตาเรโทร Nissan R32EV

 

ใครจะคิดว่ารถสปอร์ตยุค 80 จะกลับมาเท่ได้อีกครั้งในเวอร์ชันไฟฟ้า! Nissan R32EV คือรถที่นำ Skyline GT-R รุ่นคลาสสิกมาปรับโฉมใหม่ให้เป็นรถไฟฟ้าล้วน แต่ยังคงเสน่ห์ความเหลี่ยมคมและดุดันแบบยุค 1980 เอาไว้ครบถ้วน เป็นงานดีไซน์ที่ผสมผสานอดีตกับอนาคตได้อย่างลงตัว จนทำให้หลายคนอยากเห็นมันถูกผลิตจริงสักวัน

 

รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 2

 

แผงขายของโมดูลาร์เพื่อพ่อค้าแม่ค้า Umbrella Crate Stall

 

งานดีไซน์ดี ๆ บางทีไม่จำเป็นต้องหวือหวาเสมอไป Umbrella Crate Stall คือแผงขายของน้ำหนักเบาแบบโมดูลาร์ ที่ออกแบบมาเพื่อพ่อค้าแม่ค้าริมถนนในไนจีเรีย สามารถถอดประกอบ เคลื่อนย้าย และปรับขนาดได้ตามการใช้งาน เป็นตัวอย่างของงานออกแบบที่เรียบง่าย แต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและโครงสร้างเมืองได้อย่างแท้จริง

 

รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 3

 

จานใส่มีตบอลโดยเฉพาะ จาก Gustaf Westman x IKEA

 

นี่คือไอเดียสนุก ๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยนึกถึง จานสำหรับมีตบอลโดยเฉพาะ! จานพอร์ซเลนสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ทรงยาวใบนี้ มีร่องตรงกลางที่ออกแบบมาให้พอดพอดีกับมีตบอลโดยเฉพาะ แถมยังมาพร้อมคู่มือสไตล์ IKEA ที่ใช้งานได้จริง เป็นงานดีไซน์เล็ก ๆ ที่เติมสีสันให้ชีวิตประจำวันได้อย่างน่ารัก

 

รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 4

 

วัสดุรักษ์โลก Carbon Cell

 

Carbon Cell คือวัสดุทดแทนโฟมโพลีสไตรีนที่ผลิตจากของเสียทางการเกษตร มีคุณสมบัติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้ และยังเป็นคาร์บอนเนกาทีฟอีกด้วย งานออกแบบชิ้นนี้สะท้อนให้เห็นพลังของการทำงานข้ามศาสตร์ ระหว่างนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และนักออกแบบ เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ให้โลกในอนาคต

 

รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 5

 

แผงวงจรจากขนแกะ WoolTech

 

หนึ่งในงานดีไซน์ที่แปลกและสร้างสรรค์ที่สุดของปี WoolTech คือแผงวงจรไฟฟ้าที่ทำจากขนแกะ โดยใช้เลเซอร์สร้างเส้นนำไฟฟ้าแทนโลหะ งานออกแบบชีวภาพชิ้นนี้มีศักยภาพในการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เป็นไอเดียที่ทั้งล้ำและรักษ์โลกไปพร้อมกัน

 

รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 6

 

โคมไฟในสวนที่ใช้พลังงานจากดิน Soli

 

Soli คือโคมไฟกลางแจ้งที่ใช้พลังงานจากกระบวนการย่อยสลายในดิน ผ่านเทคโนโลยีเซลล์ เชื้อเพลิงจุลชีพ (MFC) ดีไซน์เรียบสะอาดตา แต่แฝงแนวคิดลึกซึ้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ เหมาะกับการใช้งานในสวน ทางเดิน หรือพื้นที่กลางแจ้ง

 

รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 7

 

เครื่องประดับเลโก้จาก Studio GOGO

 

ใครว่าเลโก้จะอยู่แค่ในกล่องของเล่น Studio GOGO นำเลโก้มาผสมกับเครื่องประดับ สร้างเป็นแหวนเงินที่สามารถต่อและเปลี่ยนชิ้นเลโก้ได้ตามใจชอบ เป็นงานดีไซน์ที่เน้นความสนุก ความคิดสร้างสรรค์ และการมีส่วนร่วมของผู้ใช้อย่างแท้จริง

 

รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 8

 

หูฟังประกอบเองได้ Kibu

 

Kibu คือหูฟังที่ออกแบบมาให้เด็ก ๆ สามารถประกอบ ซ่อม และถอดเองได้ ชิ้นส่วนทั้งหมดทำจากไบโอพลาสติกรีไซเคิล และไม่ต้องใช้กาวหรือสกรู นอกจากจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยปลูกฝังแนวคิดเรื่องความยั่งยืนให้กับผู้ใช้งานตั้งแต่วัยเด็กอีกด้วย

 

รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 9

 

ผู้ช่วยครัว AI สไตล์เรโทร Kitchen Cosmo

 

Kitchen Cosmo คืออุปกรณ์ครัว AI ที่ช่วยคิดเมนูจากวัตถุดิบในตู้เย็น มาพร้อมหน้าตาเรโทรที่ใช้ปุ่มและสวิตช์แทนหน้าจอสจอสัมผัส ตอบโจทย์ชีวิตจริงของคนเข้าครัว เป็นตัวอย่างของเทคโนโลยีที่พยายามทำให้ชีวิตง่ายขึ้น โดยไม่ลืมเรื่องการออกแบบที่ใช้งานได้จริง

 

รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 10

 

ถ้วยรางวัลที่คนพูดถึงมากที่สุด จาก Herzog & de Meuron

 

ปิดท้ายด้วยงานดีไซน์ที่เสียงแตกที่สุด ถ้วยรางวัลแก้วจาก Herzog & de Meuron สำหรับงาน Art Basel Awards ที่บางคนมองว่าสวยล้ำ บางคนมองว่าแปลกเกินไป แต่ไม่ว่าจะรักหรือไม่ งานชิ้นนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า “ดีไซน์” ยังสามารถจุดประกายบทสนทนาและมุมมองที่หลากหลายได้เสมอ

 

ภาพ: Dezeen

The post รวมลิสต์งานดีไซน์น่าสนใจในปี 2025 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชวนมาเลือกของขวัญ และเติมความสุขเล็กๆ ส่งท้ายปีที่ Onedertale Christmas Market https://thestandard.co/life/onedertale-christmas-market/ Sat, 20 Dec 2025 02:31:00 +0000 https://thestandard.co/?p=1156426 ชวนมาเลือกของขวัญ และเติมความสุขเล็กๆ ส่งท้ายปีที่ Onedertale Christmas Market

ชวนมาเลือกของขวัญ และ เติมความสุขเล็ก ๆ ส่งท้ายปีที่ On […]

The post ชวนมาเลือกของขวัญ และเติมความสุขเล็กๆ ส่งท้ายปีที่ Onedertale Christmas Market appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชวนมาเลือกของขวัญ และเติมความสุขเล็กๆ ส่งท้ายปีที่ Onedertale Christmas Market

ชวนมาเลือกของขวัญ และ เติมความสุขเล็ก ๆ ส่งท้ายปีที่ Onedertale Christmas Market

 

ปลายปีนี้ใครกำลังมองหาที่เดินเล่นหาของขวัญท่ามกลางบรรยากาศคริสต์มาส Onedertale Christmas Market : Onederous 2025 คือหนึ่งในงานที่น่าแวะไปเช็กอิน จัดขึ้นที่ ชั้น G โซน The Storeys Square ที่ One Bangkok ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569 เวลา 10.00 – 22.00 น. ภายในงานเป็นตลาดของขวัญและไลฟ์สไตล์ที่รวมร้านค้ากว่า 40 แบรนด์จากทั่วประเทศ ให้เลือกช้อปของใช้ งานคราฟต์ และของขวัญไอเดียดีสำหรับคนพิเศษ พร้อมกิจกรรมให้ร่วมสนุกอย่างโฟโต้บูธธีมคริสต์มาส พื้นที่ศิลปะสำหรับเด็ก

 

นอกจากนี้ยังมีเวิร์กช็อปสุดสร้างสรรค์ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กช็อปเพ้นต์เซรามิกจาก Yibdin Studio ในช่วงวันที่ 20 – 21 ธันวาคม, เวิร์กช็อปตั้งเป้าหมายปีใหม่กับ Masterpeace วันที่ 27 – 28 ธันวาคม และปิดท้ายด้วยเวิร์กช็อปจัดสวนขวดธีมคริสต์มาสจาก Tiny Tree Garden วันที่ 3 – 4 มกราคม เหมาะทั้งสำหรับมาเดินช้อป เติมแรงบันดาลใจ และใช้เวลาสบายๆ ส่งท้ายปีในบรรยากาศอบอุ่นใจกลางกรุงเทพฯ

 

รอบกิจกรรม: 14.00 น.-15.00 น.

 

ลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ https://forms.gle/RsyrLbJAFoHjuZ7s9

 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.onebangkok.com

The post ชวนมาเลือกของขวัญ และเติมความสุขเล็กๆ ส่งท้ายปีที่ Onedertale Christmas Market appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย https://thestandard.co/life/siam-paragon-dining-asia/ Fri, 19 Dec 2025 09:00:14 +0000 https://thestandard.co/?p=1156382 ‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย

‘สยามพารากอน’ เปิดตัว ‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ […]

The post ‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย

‘สยามพารากอน’ เปิดตัว ‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ โลกใหม่แห่งปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ตอกย้ำการเป็น World-Class Food Destination ที่ยิ่งใหญ่และครบครันที่สุดในเอเชีย กว่า 700 ร้าน สร้าง Global Dining Attraction แห่งเอเชีย ดึงดูดนักชิมและผู้หลงใหลในศิลปะแห่งรสชาติจากทั่วทุกมุมโลก

 

มอบประสบการณ์ ‘Luxury Dining Experience’ ตั้งแต่ Michelin-Star Restaurants, Chef’s Tables, Global Flagship & First-in-Thailand, คาเฟ่สุดหรูและร้านเชฟชื่อดังระดับโลก (World-Renowned Restaurants) ที่แต่ละร้านออกแบบให้สะท้อนทั้งความหรูหรา เอกลักษณ์ และศิลปะในการรังสรรค์รสชาติอย่างพิถีพิถัน

 

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไทยร่วมสมัยระดับตำนาน ไปจนถึง Street Food ชื่อดังจาก Paragon Food Hall และ Gourmet Eats ที่ได้รับการดีไซน์ใหม่ให้ร่วมสมัยและครบครัน รวมไปถึง Organic & Health Food คาเฟ่และร้านขนมชื่อดังที่นำเสนอเมนูสุดครีเอทเพื่อสร้างมหานครแห่งรสชาติ (Culinary Metropolis) ที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลก

 

เปิดลิสต์ร้านคัดสรร ครบทุกมิติการกินดื่ม

 

‘Luxury Dining’ ยกระดับมาตรฐานวงการไดนิ่งของประเทศไทยสู่เวทีโลก อาทิ คาเฟ่ลักซ์ชูรีแบรนด์ดัง DG Caffè, Dolce & Gabbana ปักหมุดสยามพารากอนเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย, Bacha Coffee แบรนด์กาแฟเฮอริเทจจากโมร็อกโก เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเปิดตัว Chef’s Table และร้านลักซ์ชูรีไดนิ่งชั้นนำจากทั่วโลกอีกมากมายในปี 2569

 

‘Famous International Restaurants’ ปรากฏการณ์ร้านดังระดับโลกที่เลือกสยามพารากอนเป็นแลนด์มาร์กแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย อาทิ Ginza Bairin ร้านทงคัตสึชื่อดังจากโตเกียว, Gordon Ramsay Street Burger ร้านเบอร์เกอร์จากเชฟระดับโลก กอร์ดอน แรมซีย์, KuanZhai Panda ร้านอาหารจีนจากเฉิงตู, L’Antica Pizzeria Da Michelle ร้านพิซซ่าระดับตำนานแห่งเมืองเนเปิลส์, Soba House Konjiki Hototogisu ร้านราเมนระดับมิชลินสตาร์จากญี่ปุ่น, Tanyu Grilled Fish ร้านปลาย่างชื่อดังจากจีน, CONTE de TULEAR คาเฟ่ ไดนิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์สุดชิคจากเกาหลี และ Keep in Touch ร้านอาหารจีนและบาร์บีคิวชื่อดังจากประเทศจีน

 

Famous Local Food ยกระดับความอร่อยจากร้านดังของไทยสู่ประสบการณ์พรีเมียมครั้งแรกในศูนย์การค้า อาทิ Kampang Isan Artisan , Louisvanich Eatery , Sri’s Room by Sri Trat และ ไก่ย่างเสือใหญ่

 

พร้อมกันนี้ ยังมีร้านอาหารคอนเซ็ปต์ใหม่ อาทิ % Arabica , A Keen House, CHONGDEE TEAHOUSE, City fresh, Dean & Deluca , Distar Fresh, Domo Yakiniku, Fá Pla Tahn, Fatbro , FATT CHICKEN & SLIM PIG, FIKKA, Gelateria Kitokki, Gong Cha, Grow by getfresh, Henryfry , KANEKO HANNOSUKE , KRAZ , Kyo Roll En, Nicolo, On Roll Nori, Shabu Baru, Shersanctuary Tea Bar, Small Table, SMITH & Co. , SOT, Talay Jai, Uncle Boss, เตี๋ยวคอปเปอร์ คราฟท์ และ สรรพรส เป็นต้น

 

พร้อมเปิดตัวโซนใหม่ ‘EATELIER’ Dining Entertainment แห่งแรกของไทย ปฏิวัติประสบการณ์การกินดื่มให้กลายเป็น ‘Eat–Drink–Chill Hub’ ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ภายใต้แนวคิด ‘Curation & Co-Creation’ แพลตฟอร์มแห่งแรงบันดาลใจที่รวมพลังของเชฟระดับดาวมิชลิน ศิลปิน นักแสดง และไอคอนในวงการบันเทิงทั้งไทยและเทศ มาร่วมกันรังสรรค์ประสบการณ์แห่งรสชาติแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่เชื่อมโยงศิลปะ ดนตรี และการออกแบบเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เติมเต็มอรรถรสแห่งการกิน–ดื่ม ด้วย Live Bands & DJs

 

พื้นที่ภายในตกแต่งผ่านความสนุกของ Fast Casual ที่สดใส สนุกสนาน ทันสมัย สู่ความละเมียดของ Fusion ที่สะท้อนความร่วมสมัยระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก จนมาถึงความประณีตของ Feast พื้นที่แห่งการสังสรรค์กับดีไซน์ที่หรูหรา โอบล้อมด้วยพลังแห่งความสุข

 

เปิดลิสต์ร้านเปิดใหม่ใน EATELIER อาทิ Blue Moon, Bubble Bar by Vessel, Crafture by Hobs, Fallabella Little Sister Kitchen, Hendrick’s Gin Bar, PICHÉ Wine Bar และ Hopsy Story

 

พบโปรโมชั่นสุดพิเศษ อร่อยดี(ล) Tasteaholic อร่อยแบบเหนือระดับ ระหว่างวันที่ 1 พ.ย.68-31 ธ.ค.68 รับทันที Siam Dining Gift Card มูลค่า 100 บาท* เมื่อรับประทานครบ 1,000 บาทขึ้นไป ณ ร้านอาหารที่ร่วมรายการภายในสยามพารากอน

 

พิเศษเฉพาะร้านอาหาร ชั้น 4 โซน EATERLIER , ชั้น 5 และ ชั้น 5A ที่ร่วมรายการ รับทันที Siam Dining Gift Card มูลค่า 200 บาท* เมื่อทานครบ 2,000 บาทขึ้นไป หรือลูกค้าบัตรเครดิตกสิกรไทย รับสิทธิ์พิเศษเพียงทานและชำระผ่านบัตรครบ 1,500 บาทเท่านั้น** จำกัด 1 สิทธิ์/ ท่าน/ Tier/ วัน และสูงสุด 3 สิทธิ์/ ท่าน/ Tier/ ตลอดรายการ

 

ตรวจสอบร้านอาหารในศูนย์การค้าฯ ที่เข้าร่วมโครงการ คลิก>> https://app.onesiam.com/4qkcYcd

 

‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย 1‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย 2‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย 3‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย 4‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย 5‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย 6‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย 7‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย 8

The post ‘Siam Paragon Dining Phenomenon’ ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย appeared first on THE STANDARD.

]]>
สร้าง Living Quality ผ่านการเติบโตไปพร้อมธรรมชาติ ในแบบของ ‘แม็กซีน’ https://thestandard.co/life/living-quality-maxine-inthiporn/ Wed, 17 Dec 2025 11:30:46 +0000 https://thestandard.co/?p=1155461

การมีพื้นที่ธรรมชาติรอบบ้าน ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ช่วยให […]

The post สร้าง Living Quality ผ่านการเติบโตไปพร้อมธรรมชาติ ในแบบของ ‘แม็กซีน’ appeared first on THE STANDARD.

]]>

การมีพื้นที่ธรรมชาติรอบบ้าน ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ช่วยให้มี Living Quality ที่ดีมาก ทำให้มั่นใจในวัตถุดิบเพราะปลูกเอง มีความสุขที่ได้เห็นต้นไม้เติบโต และยังได้กลับ มาเชื่อมความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวอีกด้วย

แม็กซีน-อินทิพร แต้มสุขิน

 

ไม่ต้องนึกถึงป่า ภูเขา ทะเลหรือสถานที่ที่กว้างใหญ่ แค่กระบะหน้าบ้านเล็ก ๆ พื้นที่ข้างกำแพง หรือแม้แต่ระเบียงคอนโด ก็เพียงพอต่อการสร้างพื้นที่ธรรมชาติเพื่อฮีลใจของเรา

 

การทำแปลงผักสวนครัวเล็ก ๆ ปลูกต้นไม้หรือดอกไม้น่ารักที่ชอบ เฝ้ารอคอยการเติบโต ผลิบานและออกผลผลิตที่กินได้จริง คืออีกวิธีที่ช่วยให้ใจสงบ ลดความเครียด และเติมความสุขให้การใช้ชีวิตได้อย่างคาดไม่ถึง

 

Eco-Curious: Habit Hacks ตอนที่สองนี้ เราจึงอยากชวนไปพูดคุยกับ แม็กซีน-อินทิพร แต้มสุขิน ผู้ได้รับฉายาว่าเป็น ‘มิสผัก’ จากภาพจำของการกินผักหลากหลายภายใต้รอยยิ้มสดใส

 

พาไปดูชีวิตที่เติบโตไปพร้อมกับธรรมชาติ การปลูกผักสวนครัวกินเอง และเคล็ดลับการสร้างพื้นที่สีเขียวเล็ก ๆ รอบบ้าน ที่ง่าย สนุก และเต็มไปด้วยความสุข เธอค้นพบว่า การสร้างระบบนิเวศรอบบ้านให้หลากหลาย ไม่ใช่แค่ทำให้ได้กินผักปลอดสารพิษมากมาย ชมดอกไม้สวย ๆ ฟังเสียงสัตว์ฮีลใจ แต่ยังเป็นการสร้าง ‘Living Quality’ ให้ดีขึ้นผ่านการเติบโตไปพร้อมกับธรรมชาติที่สร้างได้ด้วยตัวเอง

 

ดูรายการเต็มได้ที่: https://www.instagram.com/reels/DSTvn-qDeHX/

 

 

Who is ‘แม็กซีน-อินทิพร แต้มสุขิน’

 

แม็กซีน-อินทิพร แต้มสุขิน คือครีเอเตอร์สายสุขภาพที่หลายคนรู้จักผ่านภาพจำของการกินผักใบเขียว

 

ตั้งแต่ผักยอดฮิต ไปจนถึงผักแปลกที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ความชอบนี้ไม่ได้มีมาตั้งแต่แรก แต่เกิดหลังจากอาการป่วยเพราะกินอาหารแบบเดิมซ้ำ ๆ ทุกวัน จนร่างกายส่งสัญญาณว่าไม่ไหว

 

“เมื่อก่อนเป็นคนที่กลัวอ้วน กินไก่ต้ม ไก่นึ่ง ปลานึ่ง กินแบบเดิมมานานมากจนป่วย สาเหตุเพราะเรากินทุกอย่างเหมือนเดิมทุกวัน จึงได้รับคำแนะนำว่าให้ลองกลับไปกินตามวิถีคนโบราณ คือกินผักตามฤดูกาล และกินให้หลากหลายมากขึ้น”

 

การเริ่มเปิดใจกินผักหลากหลายชนิด กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เธอขยับจากคนที่ ‘รักการกินผัก’ ไปสู่คนที่ ‘ปลูกผักกินเอง’ ในพื้นที่เล็ก ๆ ของบ้าน แม็กซีนเริ่มศึกษาการสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity) ภายในครัวเรือนอย่างจริงจัง เพื่อให้พืช สัตว์ และแมลงอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ดินอุดมสมบูรณ์ขึ้น ศัตรูพืชลดลง และสามารถปลูกผักหมุนเวียนตามฤดูกาลได้ดีกว่าเดิม

 

Habit Hacks: สร้างแปลงผักให้หลากหลาย บนพื้นที่เล็ก ๆ

 

ถ้าไม่มีพื้นที่มากมาย ควรเริ่มจากการปลูกอะไร และควรจัดสรรพื้นที่เล็ก ๆ อย่างไร ให้รองรับความหลากหลายทางชีวภาพ แม็กซีนแนะนำให้เริ่มจากพื้นฐานที่สุด คือ ‘เลือกปลูกผักที่เรากินและใช้ทำอาหารเป็นประจำ’

 

ข้อดีคือเราได้ใช้บ่อย คุ้มค่า และสามารถลด Food Waste ได้จริง เพราะเราเก็บผักมาใช้เท่าที่ต้องการได้ ไม่ต้องซื้อมาในปริมาณมากแล้วเหลือทิ้ง

 

 

เมื่อเลือกชนิดได้แล้ว ขั้นต่อไปคือการจัดแปลงผัก แม็กซีนแนะนำให้ลองใช้วิธีที่เรียกว่า ‘Square Foot Gardening’ เป็นการจัดแปลงผักให้ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นตารางสี่เหลี่ยมขนาด 1×1 ฟุต โดยในหนึ่งช่องให้ปลูกผัก 1 ชนิด ซึ่งเท่ากับว่าถ้ามีพื้นที่ 4×4 ฟุต จะสามารถปลูกผักได้ถึง 16 ชนิด วิธีนี้ไม่เพียงช่วยให้เราได้กินผักหลายแบบหมุนเวียนกันตลอดปี

 

แต่ยังทำให้ดินมีจุลินทรีย์ที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์ขึ้น ช่วยให้ผักเติบโตได้ดีโดยธรรมชาติ พอแปลงผักเริ่มลงตัวแล้ว หากยังมีพื้นที่เหลือ อาจต่อยอดไปสู่การปลูกพืชที่ใหญ่ขึ้น เช่น กล้วย หรือสมุนไพรต่าง ๆ รอบพื้นที่ เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของระบบนิเวศรอบบ้าน

 

 

ไม่ว่าพื้นที่จะเล็กหรือใหญ่ การเริ่มต้นสร้างพื้นที่ธรรมชาติรอบบ้าน เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการดูแลตัวเองในชีวิตประจำวัน

 

การหว่านเมล็ด เฝ้าดูการเติบโต ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิตเล็ก ๆ เป็นการฝึกจิตใจ ลดความเครียด และทำให้เห็นคุณค่าของการรอคอย ในขณะเดียวกัน ร่างกายก็ได้วัตถุดิบที่ปลอดภัยจากผักที่เราปลูกเอง บ้านกลายเป็นพื้นที่ที่ชวนใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น และความสัมพันธ์ในครอบครัวค่อย ๆ เติบโตไปพร้อมต้นไม้ในสวน

 

ทั้งหมดนี้คือภาพของการใช้ชีวิตที่เติบโตไปพร้อมธรรมชาติ และเป็นรูปแบบของ Living Quality ที่เกิดขึ้นจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เราสร้างขึ้นด้วยตัวเองทุกวัน

The post สร้าง Living Quality ผ่านการเติบโตไปพร้อมธรรมชาติ ในแบบของ ‘แม็กซีน’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy https://thestandard.co/life/fla-and-boo-sticky-monster-lab/ Wed, 17 Dec 2025 00:30:54 +0000 https://thestandard.co/?p=1155535 พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์ STICKY MONSTER LAB หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy

พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรกเตอร์หน้านิ่งที่กำล […]

The post พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy appeared first on THE STANDARD.

]]>
พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์ STICKY MONSTER LAB หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy

พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรกเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างรอยยิ้มที่ Central Embassy

 

สำหรับใครที่หลงใหลในเสน่ห์ของคาแรกเตอร์หน้านิ่งที่ซ่อนอารมณ์ขี้เล่นเอาไว้ภายใต้ดีไซน์ เรียบเท่ ครั้งนี้คือโอกาสที่จะได้สัมผัสโลกของพวกเขาอย่างใกล้ชิด เพราะเราไม่ได้ชวนมาดูแค่งานอาร์ต แต่พามาคุยกับ 2 ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังคาแรกเตอร์สุดไอคอนิกจาก STICKY MONSTER LAB ที่ครองใจแฟนๆ ทั่วโลก และ ตอนนี้พวกเขาก็เดินทางมาสร้าง “ความสุขรูปแบบใหม่” กลางกรุงเทพฯ กับงาน Central Embassy x STICKY MONSTER LAB – FUNNY LITTLE MESS: SEASON OF GIVING ที่เปิดเฟสใหม่อย่าง FUNNY LITTLE PLAYGROUND สนามเด็กเล่นขนาดยักษ์สำหรับทุกวัย พร้อม Pop-up Store ลิมิเต็ดครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ Pop-up Café by SUPER MATCHA ที่ช่วยเติมเต็มบรรยากาศเทศกาลแห่งการให้ได้อย่างลงตัว

 

พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 1พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 2พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 3พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 4

 

ก่อนจะไปสัมผัสงานด้วยตัวเอง เราขอชวนคุณมานั่งคุยกับ คุณ Fla และ คุณ Boo สองศิลปินชาวเกาหลีใต้ถึงแนวคิดเบื้องหลัง การทำงาน และ เรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในโลกมอนสเตอร์แสนซนนี้ไปพร้อมกัน

 

พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 5

 

สิ่งที่แฟนคลับ STICKY MONSTER LAB พลาดไม่ได้ในงานนี้ ?

 

งาน Central Embassy x STICKY MONSTER LAB – FUNNY LITTLE MESS: SEASON OF GIVING ถือเป็นครั้งแรกที่ STICKY MONSTER LAB มาจัดแสดงให้แฟนๆ ชาวไทย ได้มาสัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยทั้งคุณ Fla และ คุณ Boo ต่างพูดเหมือนกันว่าการจัดแสดงงานครั้งนี้เป็นการเล่าเรื่องราวของ Redmon คาแรกเตอร์ซึ่งสื่อถึงความเหงา ได้โดน Elfmon คาแรกเตอร์ซึ่งสื่อถึงความสนุกมาขโมยถุงเท้าไป ทำให้แต่ละจุดของ Entral Embassy มีเรื่องราวเรียงต่อกันตั้งแต่บริเวณหน้าห้างขึ้นไปจนถึงชั้น 6 เลยทีเดียว

 

พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 6พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 7

 

เรื่องราวการทำงานในครั้งนี้ทั้งสองคนได้แรงบันดาลใจจากอะไร ?

 

หลังจากที่ได้เดินสัมผัสความน่ารักของงานในครั้งนี้ เราก็ได้เกิดข้อสงสัยว่า การทำงานแต่ละครั้งของทั้งสองคน ทำงานกันยังไง และ เริ่มต้นหาแรงบันดาลใจจากอะไร การแบ่งหน้าที่คร่าวๆ ของทั้งสองคนคือ คุณ Fla จะดูแลงานที่เป็น 3D เป็นหลัก ส่วนงานที่เป็น 2D จะเป็นหน้าที่ของคุณ Boo แต่ถ้าแนวคิดหรือภาพรวมของงานจะเป็นการช่วยๆ กันออกไอเดีย

 

พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 8พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 9

 

การทำงานในแต่ละครั้ง แรงบันดาลใจไม่ได้มาจากอะไรที่ยิ่งใหญ่เลย แต่มักมาจากสิ่งเล็กๆ รอบตัว

 

และ ทั้งสองคนก็บอกกับเราว่า “การทำงานในแต่ละครั้ง แรงบันดาลใจไม่ได้มาจากอะไรที่ยิ่งใหญ่เลย แต่มักมาจากสิ่งเล็กๆ รอบตัว” อย่างเช่นงานในครั้งนี้ ทั้ง 2 คนก็ได้แรงบันดาลใจจาก การมองเห็นถุงเท้าที่แขวนอยู่บนต้นคริสต์มาส หลังจากนั้นก็เป็นจินตนาการของทั้งคู่จนทำให้เกิดเรื่องราวของ Redmon ที่ถูก Elfmon มาแย่งถุงเท้าไป

 

พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 10

 

ทำไม STICKY MONSTER LAB ถึงต้องหน้านิ่ง ?

 

เชื่อว่าหลายคนที่เป็นแฟนคลับของ STICKY MONSTER LAB น่าจะตกหลุมรักหน้าตาที่นิ่งเฉย ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ แต่ก็แอบสงสัยไม่ได้ว่าทำไมต้องสร้างให้คาแรกเตอร์หน้านิ่งด้วย ? ซึ่งเรื่องนี้ คุณ Fla และ คุณ Boo ก็ได้ให้คำตอบว่าทั้ง 2 คนก็เป็น graphic designer กันทั้งคู่ จึงให้ความสำคัญกับความเรียบง่าย เพื่อให้คนคิดตาม “การทำคาแรกเตอร์ให้ไร้อารมณ์ เป็นเหมือนการเปิดโอกาสให้ผู้คนได้ตีความ และ รู้สึกไปกับงานของเรา” และ นั่นคือหนึ่งในจุดเด่นของ STICKY MONSTER LAB

 

พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 11

 

การทำคาแรกเตอร์ให้ไร้อารมณ์เป็นเหมือนการเปิดโอกาสให้ผู้คนได้ตีความและรู้สึกไปกับงานของเรา

 

พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 12

 

ถ้าให้ออกแบบ MONSTER หนึ่งตัวที่สื่อถึงประเทศไทย จะออกมาเป็นแบบไหน ?

 

ไหนๆ ทั้งสองคนก็ได้เดินทางมาทำงานที่ไทยเป็นครั้งแรกทั้งที เราเลยอยากให้ทั้ง 2 คนได้คิดเล่นๆ ว่า “ถ้าต้องออกแบบ MONSTER หนึ่งตัวที่สื่อถึงประเทศไทยทั้ง 2 คนจะออกแบบให้เป็นยังไง ?” และ คำตอบคือทั้งสองคนคิดเหมือนกันเลยว่า ประเทศไทยมีเรื่องราวตำนานและเทพนิยายที่เยอะมาก และหลากหลายน่าติดตาม เลยคิดว่าการนำเทพนิยายของไทย มาปรับลุคให้เป็นสไตล์ STICKY MONSTER LAB ก็ดูเป็นความคิดที่น่าสนใจ

 

พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 13พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 14

 

ความฝันในอนาคตของ STICKY MONSTER LAB ในอนาคตคืออะไร ?

 

ในวันนี้ที่เราได้มาสัมผัสกับงาน FUNNY LITTLE MESS: SEASON OF GIVING ถือว่าเป็นการจัดแสดงงานที่สเกลค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว เราจึงอยากรู้ถึงความฝันขั้นต่อไปในอนาคตของทั้ง 2 คนว่า อยากพา STICKY MONSTER LAB เดินทางไปทำอะไรที่ตื่นเต้นอีกมั้ย ซึ่งทั้งคุณ Fla และ คุณ Boo ก็ได้บอกกับเราว่า “การจะกำหนดเป้าหมายอย่างหนึ่งว่าอยากทำอะไร หรืออยากเป็นอะไรมันยาก เราก็เลยอยากจะเป็นแบบทุกวันนี้ และสามารถทำสิ่งนี้ไปได้นานๆ อย่างสม่ำเสมอ น่าจะเป็นเป้าหมายของพวกเรา”

 

พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 15พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 16พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy 17

 

การจะกำหนดเป้าหมายอย่างหนึ่งว่าอยากทำอะไร หรืออยากเป็นอะไรมันยาก เราก็เลยอยากจะเป็นแบบทุกวันนี้ และสามารถทำสิ่งนี้ไปได้นานๆ อย่างสม่ำเสมอ น่าจะเป็นเป้าหมายของพวกเรา

 

สุดท้ายนี้ ถ้ามีเวลาลองแวะไปเดินเล่น ถ่ายรูป และซึมซับบรรยากาศของ FUNNY LITTLE MESS: SEASON OF GIVING ที่ Central Embassy แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมคาแรกเตอร์หน้านิ่งถึงทำให้คนยิ้มได้

 

ภาพ: ผลาณุสนธิ์ ผดุงทศ

The post พามาคุยกับ Fla และ Boo ผู้สร้างคาแรคเตอร์หน้านิ่งที่กำลังมาสร้างร้อยยิ้มที่ Central Embassy appeared first on THE STANDARD.

]]>
Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน https://thestandard.co/life/book-club-new-meaning/ Tue, 16 Dec 2025 08:16:08 +0000 https://thestandard.co/?p=1155354 Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน

จะว่าไปแล้ว Book Club ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรบนโลกนี้เลย ท […]

The post Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน

จะว่าไปแล้ว Book Club ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรบนโลกนี้เลย ทว่าชมรมนักอ่านกำลังกลับมาเป็นเทรนด์ฮิตในยุคปัจจุบันอีกครั้ง ทั้งยังสร้างสรรค์และพัฒนารูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย รวมถึงปรับเปลี่ยนสไตล์ให้เหมาะสมลงตัวกับวิถีชีวิตของคนยุคนี้ ตลอดจนเพิ่มโน่นเติมนี่เพื่อดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สนใจ

 

แต่อะไรที่อยู่เบื้องหลังการมาของเทรนด์หนอนหนังสือยุคใหม่นี้กันแน่

 

การกลับมาของหนอนหนังสือยุคใหม่

 

ปัจจัยที่กระตุ้นให้ Book Club กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในยุคนี้ต้องบอกว่าตัวจุดกระแสสำคัญน่าจะมาจากกระแส Social Detox (ล้างพิษโซเชียลมีเดีย) ซึ่งคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z เริ่มเบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตอยู่หน้าจอตลอดเวลา รวมถึงเสพติดโลกโซเชียลจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและใจกันมากมาย

 

หนึ่งในผู้จุดกระแสคนสำคัญนั้นอาจต้องยกให้ The Offline Club ในเนเธอร์แลนด์ ที่ช่วงปี 2021 หลังสร้างไวรัลและปลุกกระแสไปทั่วโลก จนทำให้เกิดกิจกรรมลักษณะนี้ตามมามากมาย โดยคลับจะชวนผู้คน (โดยเฉพาะคนเจนใหม่) มารวมตัวกันแล้วปิดโทรศัพท์เพื่อที่จะทำกิจกรรมอื่น ๆ ให้ชีวิตรื่นรมย์ แน่นอนว่ากิจกรรมฮิตหนึ่งในนั้นก็คือ การหยิบเอาหนังสือเล่มโปรดมาอ่านนั่นเอง

 

Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน 1

 

จากวงคุยไม่กี่คนเริ่มกลายเป็นวงสนทนาที่ชวนอ่านเรื่องเดียวกัน แล้วมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน จากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนเป็นการผสมผสานการอ่านไปพร้อมกับการทำกิจกรรมอื่นๆ อาทิ อ่านแล้วเดินเที่ยว, อ่านแล้วเล่นดนตรี หรือ อ่านแล้วทำขนม เป็นต้น ซึ่งสิ่งนี้ทำให้โลกของคลับคนรักการอ่านในยุคนี้สนุกขึ้น และนั่นเป็นเส้นทางพัฒนาที่ทำให้ Book Club กลายมาเป็นเทรนด์กิจกรรมยอดฮิตในยุคปัจจุบัน

 

มุมกลับที่ช่วยปลุกกระแสเช่นเดียวกัน

 

ถ้ากระแส Social Detox ทำให้คนหันกลับมาอ่านหนังสือกันมากขึ้น ในมุมกลับกัน โลกโซเชียลตลอดจนเทคโนโลยีล้ำสมัยก็มีส่วนส่งเสริมให้เกิดการรักการอ่านตลอดจนต่อยอดกลายเป็น Book Club ในยุคนี้ด้วยเช่นกัน

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในกระแสฮิตที่สร้างคุณประโยชน์ด้านการอ่านได้มหาศาลก็คือวงการบันเทิงและอินฟลูเอนเซอร์ ที่ช่วงหนึ่งเทรนด์อ่านหนังสือเล่มโปรดตามไอดอล หรือศิลปินที่ชื่นชอบก็ทำให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจการอ่านมากขึ้น

 

Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน 2

 

และไม่ใช่แค่ศิลปินเท่านั้น ทว่าโพสต์บนโซเชียลมีเดียของผู้มีอิทธิพลหลากหลายวงการ ก็ทำให้อุตสาหกรรมหนังสือทั่วโลกที่กำลังซบเซากลับมาคึกคักกันได้อีกครั้ง การแชร์รีวิวหนังสือบนโลกออนไลน์พัฒนาสู่เทรนด์ใหม่อย่าง BookTok บน TikTok ซึ่งปัจจัยเหล่านั้นมีส่วนไม่มากก็น้อย ที่ทำให้เทรนด์ของคนรักการอ่านกลับมาอีกครั้ง จนเกิดการรวมตัวกันของคนที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน และโซเชียลมีเดียก็กลายเป็นสื่อกลางในการเชื่อมสู่กิจกรรม Book Club ในยุคนี้ด้วยเช่นกัน

 

Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน 3

 

รวมถึงกระแสที่หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเปลือกหรือฉาบฉวย ทว่าหากวิเคราะห์ให้ลึกจริง ๆ แล้วมันมีส่วนดึงคนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจหนังสือและการอ่านได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นั่นก็คือการออกแบบและดีไซน์ ตั้งแต่ปกหนังสือ การจัดอาร์ต โปสเตอร์อีเวนต์ ไปจนถึงธีมและคอนเซ็ปต์ดีไซน์สำหรับงานสัปดาห์หนังสือฯ ในบ้านเรา การใส่ใจรายละเอียดในการออกแบบ การให้ความสำคัญกับดีไซน์ ตลอดจนการสร้างสรรค์วิชวลให้โดดเด่น ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ชักชวนคนรุ่นใหม่ให้ก้าวมาเปิดประตูสู่โลกการอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน 4

 

ปรากฏการณ์ Book Club ในเมืองไทย

 

เมื่อคนอ่านหนังสือกันมากขึ้นก็เกิดความสนใจในเรื่องเดียวกันมากขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญของการรวมตัวในรูปแบบ Book Club หากมองในด้านกระแสการปฏิเสธเทคโนโลยีเริ่มเพิ่มมากขึ้น บวกกับกระแส Social Toxic ที่นับวันรุนแรงขึ้นเรื่อย สิ่งเหล่านี้ทำให้คนหวนกลับคืนสู่วิถีเรียบง่ายแบบวันวานที่มีความสุขได้โดยปราศจากเทคโนโลยี

 

ส่วนอีกด้านกระแสความใฝ่รู้ก็มาแรงไม่แพ้กัน กระแสการพัฒนาทักษะรอบด้าน รวมถึงกระแสของการกลับมาสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน (มนุษย์ต่อมนุษย์) มากขึ้น ก็ทำให้คนโหยหาการพบปะพูดคุยและทำความรู้จักกัน ทุกวันนี้จึงมีคลับหนอนหนังสือเกิดขึ้นทั่วโลกมากมาย และกระแสนี้ก็กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเราไม่แพ้กัน ถึงแม้ว่ามันยังเป็นเพียง Subculture เล็กๆ แต่ก็กำลังไปได้สวยทีเดียว

 

และเหล่านี้คือคลับอ่านหนังสือในไทยที่เราเอามาฝากกัน

 

theWHOLESOME Hobbies Club : Booktroverts Series

 

Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน 5

Photo Credit: theCOMMONS

 

ถ้าพูดถึง Book Club ระดับครีมที่เป็นขวัญใจหนอนหนังสือบ้านเรา (ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ) และทำกิจกรรมได้ประสบความสำเร็จจนติดลมบนไปแล้วก็คือ theWHOLESOME Hobbies Club : Booktroverts Series ที่มีจุดมุ่งหมายเชื่อมโยงผู้คนที่รักการอ่านเข้าด้วยกัน (ทั้งหนอนหนังสือและนักอ่านมือสมัครเล่น) โดยในแต่ละเดือนผู้ที่เข้าร่วมจะอ่านหนังสือทั้งจากที่คลับหยิบมาแนะนำ หรือเป็นหนังสือเล่มโปรดก็ได้ เสร็จแล้วมานัดพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และอร่อยกับอาหารว่างร่วมกันที่ theCOMMONS Thonglor (สามารถเลือกเข้าร่วมได้ทั้งรอบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) เป็นเสมือนปาร์ตี้เล็ก ๆ ให้นักอ่านได้มาสนุกกัน กิจกรรมนี้ร่วมจัดโดยกลุ่ม READ ME AGAIN บุ๊กคลับของบัณฑิตคณะอักษรศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ) จุฬาฯ

 

เข้าไปดูได้ที่ https://www.thecommonsbkk.com/thonglor/events/677b78e6a953fc227e3deaaa

 

Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน 6

Photo Credit: theCOMMONS

 

Bangkok Offline Reading Club

 

Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน 7

Photo Credit: BKKLITFEST

 

อีกหนึ่ง Book Club ที่กำลังเป็นกระแสและกิจกรรมสุดฮิปก็คือ Bangkok Offline Reading Club อันเป็นหนึ่งอีเวนต์ของ Offline Book Club series ที่จัดโดยทีม BKK Lit Fest ซึ่งเป็นกิจกรรมกลางแจ้งชวนเอกเขนกหมู่กลางสวนสาธารณะ มาปิดมือถือ แล้วโฟกัสที่การอ่านหนังสือไปด้วยกัน โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมทุกคนจะต้องเตรียมเสื่อหรืออุปกรณ์ปูนั่ง พร้อมหนังสือเล่มโปรดมากันเอง โดยจะเป็นหนังสือเล่มหรือเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-reader) ก็ได้ จากนั้นก็มาอ่านด้วยกัน รวมถึงตอนท้ายอาจมีกิจกรรมกลุ่มสนทนากันด้วย เป็นมหกรรมการอ่านสุดชิลที่เจ๋งดีทีเดียว

 

เข้าไปดูได้ที่ https://www.facebook.com/bkklitfest/

 

Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน 8

Photo Credit: BKKLITFEST

 

คลับ Just Read

 

Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน 9

Photo Credit: Just Read

 

สายอ่านเพลินคุยชิลต้องลองมาแจม คลับ Just Read ดูเลย เป็นอีกหนึ่งคลับของไทยที่ได้รับความสนใจมากทีเดียว Book Club เจ้านี้จะจัดกิจกรรม “ชวนกันอ่านคลับ” ในทุกเดือน ตระเวนจัดไปตามร้านหนังสือต่าง ๆ ในย่านพระนคร กรุงเทพฯ แต่ละครั้งจะมีรูปแบบกิจกรรมผสมผสานต่างๆ กันไป อย่างเช่น อ่านแล้วไปเดินตามรอยแมว รวมถึงเกมเสริมแทรกต่างๆ ที่รับรองว่าสนุกไม่มีเบื่อแน่นอน รวมถึงได้พูดคุยและเปลี่ยนหนังสือชวนกันอ่านในธีมแต่ละครั้งด้วย

 

เข้าไปดูได้ที่ https://www.facebook.com/justread.co.th

 

Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน 10

Photo Credit: Just Read

 

เพจอ่านออกเสียง

 

Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน 11

Photo Credit: อ่านออกเสียง

 

สายอ่านจริงจังอาจจะเลิฟคลับนี้ เพราะ Book Club ของ เพจอ่านออกเสียง จะชวนกันอ่านหนังสือเล่มโจทย์แล้วมานั่งถกเถียงพูดคุยกัน เสวนาตั้งแต่เชิงวรรณกรรมไปจนถึงเชิงสังคม ออกรสหลากหลายมิติ สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามสถานที่ต่างๆ สนุกกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สมกับปณิธานเพจที่ชักชวนมาอ่านออกเสียง ร่วมแลกเปลี่ยนเสียงแห่งความคิดเห็นกัน “เพราะเราเชื่อว่าเสียงทุกเสียงเท่ากันและสำคัญเสมอ”

 

เข้าไปดูได้ที่ที่ https://www.facebook.com/wereadaloud

 

Bangkok Book Club

 

Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน 12

Photo Credit: Bangkok Book Club

 

ส่วนใครเลิฟฟีล Book Club สายอินเตอร์ อ่าน-คุย-ปาร์ตี้ กลุ่มเล็กๆ สบายๆ แนะนำให้ลองไปแจมกับ Bangkok Book Club นี้ดู คลับเล็กๆ แต่มั่นคง มีกิจกรรมจัดสม่ำเสมอทุกเดือน มาพบเพื่อนใหม่ทั้งไทยและต่างชาติ มิตรภาพเฟรนด์ลี่ พูดคุยสบายๆ กิจกรรม Bangkok Book Club Meet นี้จะจัดกันเป็นประจำทุกเดือนที่โซนโต๊ะไม้ยาวบนศูนย์อาหารของ IKEA สาขาสุขุมวิท ใครสนใจก็ไปแจมกันได้เลย

 

เข้าไปดูได้ที่ https://www.instagram.com/BangkokBookClub/

The post Book Club ในความหมายใหม่: อ่าน เล่น คุย และใช้ชีวิตไปพร้อมกัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
เกษรวิลเลจ (Gaysorn Village) เนรมิต “The Enchanting Winter Garden” สวนแห่งความสุขเฉลิมฉลองส่งท้ายปี 2568 [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/life/gaysorn-village-the-enchanting-winter-garden/ Tue, 16 Dec 2025 06:30:39 +0000 https://thestandard.co/?p=1155010

เกษรวิลเลจ (Gaysorn Village) ขอเชิญทุกคนมาร่วมเฉลิมฉลอง […]

The post เกษรวิลเลจ (Gaysorn Village) เนรมิต “The Enchanting Winter Garden” สวนแห่งความสุขเฉลิมฉลองส่งท้ายปี 2568 [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

เกษรวิลเลจ (Gaysorn Village) ขอเชิญทุกคนมาร่วมเฉลิมฉลองฤดูกาลแห่งความสุขใจกลางย่านราชประสงค์กับแคมเปญ The Enchanting Winter Garden : Step into the Garden of Delights & Celebrate the Flourish Happiness  ระหว่างวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2569 ที่เกษรวิลเลจตั้งใจรังสรรค์บรรยากาศของสวนสไตล์ยูโรเปียนคลาสสิคทั่วทั้ง 3 อาคาร พร้อมทั้งประสบการณ์แห่งความสุขมากมายส่งท้ายปี

 

 

โดยปีนี้เกษรวิลเลจได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามของการจัดสวนในรูปแบบตะวันตกที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันวิจิตรตระการตา ผสมผสานเข้ากับเรื่องราวของเหล่าภูติ (GNOME) ตัวละครในเทพนิยายที่ทำหน้าที่คุ้มครองและดูแลสวนให้งอกงาม เกิดเป็นสวนแห่งจินตนาการที่เปล่งประกายด้วยแสงไฟและการตกแต่งสุดคลาสสิค ตั้งแต่เกษรอัมรินทร์ เกษรเซ็นเตอร์ จนถึงเกษรทาวเวอร์  พร้อมทั้งเหล่าภูติที่จะมาร่วมร่ายมนต์แห่งการเฉลิมฉลองทั่วทั้งวิลเลจในปีนี้

 

 

ภายใน The Enchanting Winter Garden ของเกษรวิลเลจประกอบไปด้วยสวนแห่งความสุขในธีมต่างๆ ได้แก่ 

 

 

The Garden of Joy ที่ Forum ชั้น G เกษรอัมรินทร์ 

 

Christmas Market ที่เต็มไปด้วยร้านของขวัญ ของตกแต่ง อาหารและเครื่องดื่มมากมายให้เลือกสรร ท่ามกลางบรรยากาศสวนสไตล์ยูโรเปียนคลาสสิคและแสงไฟระยิบระยับ พร้อมกับไฮไลท์สุดพิเศษประจำปีนี้ “The Blessing Chamber” Digital Art Experience ในบ้านของเหล่าภูติใต้ต้นคริสมาสต์ รวมไปถึง D.I.Y. Art & Craft Workshops ที่ให้คุณออกแบบของขวัญสุดพิเศษในแบบของคุณเอง 

 

 

The Glowing Garden ที่ ชั้น 2 เกษรเซ็นเตอร์

 

สวนแห่งความเปล่งประกาย ที่รวบรวมของขวัญและสินค้าจากแบรนด์ Beauty และ Wellness ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ เครื่องหอม เทียนหอม พร้อมกับกิจกรรม “The Selected Blend : Make a Mist” ที่ให้คุณรังสรรค์กลิ่นหอมในแบบฉบับของคุณ 

 

 

Midnight Bloom – NYE Countdown Gathering ที่ Gaysorn Urban Resort ชั้น 19 เกษรทาวเวอร์

 

มิวสิคปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟบนดาดฟ้าใจกลางเมือง พร้อมดีเจชั้นนำจากเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Burning Man, Coachella, Tomorrowland และ Wonderfruit ที่จะมามอบประสบการณ์ทางดนตรีในแบบไม่ซ้ำใคร

 

 

Countdown Collective ที่ RAYNUE ชั้น 3 เกษรอัมรินทร์ 

 

ดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองบน Terrace แห่งย่านราชประสงค์ พร้อมอาหาร เครื่องดื่ม และดนตรีหลากสไตล์ ที่จะมาเติมเต็มคืนสิ้นปีอันแสนพิเศษของคุณ

 

 

นอกจากนี้ยังมีจุดถ่ายรูป เมนู Festive สำหรับสังสรรค์ และของขวัญมากมายจากร้านค้าต่างๆ ในเกษรวิลเลจที่พร้อมให้คุณเลือกสรรในช่วงเทศกาลแห่งความสุขสิ้นปีนี้ และพิเศษกว่าทุกๆปีกับกิจกรรม “Garden Blessing Hunt” เกมค้นหาเหล่าภูติประจำ The Enchanting Winter Garden เพื่อรับสิทธิ์ทำ Tote Bag ในลวดลายสุดพิเศษเฉพาะคริสมาสต์นี้ ที่บริเวณ The Garden of Joy ชั้น G เกษรอัมรินทร์

 

   

 

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/GaysornVillage, www.instagram.com/gaysornvillage/ และ www.gaysornvillage.com

The post เกษรวิลเลจ (Gaysorn Village) เนรมิต “The Enchanting Winter Garden” สวนแห่งความสุขเฉลิมฉลองส่งท้ายปี 2568 [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘รศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล’ พื้นที่สีเขียวและการพัฒนาเมืองเพื่อยกระดับ Living Quality ที่ดี https://thestandard.co/life/green-space-urban-living-quality/ Sun, 14 Dec 2025 08:30:14 +0000 https://thestandard.co/?p=1153355 ‘ผศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล’ พื้นที่สีเขียวและการพัฒนาเมืองเพื่อยกระดับ Living Quality ที่ดี

เมืองเป็นศูนย์กลางความเจริญ ขณะเดียวกันก็เริ่มเป็นศูนย์ […]

The post ‘รศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล’ พื้นที่สีเขียวและการพัฒนาเมืองเพื่อยกระดับ Living Quality ที่ดี appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘ผศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล’ พื้นที่สีเขียวและการพัฒนาเมืองเพื่อยกระดับ Living Quality ที่ดี

เมืองเป็นศูนย์กลางความเจริญ ขณะเดียวกันก็เริ่มเป็นศูนย์กลางของวิกฤตด้วย…เมืองเลยถูกมองว่าเป็นทั้ง ‘ปัญหา’ และ ‘ทางออก’ ในเวลาเดียวกัน เราจะทำอย่างไรให้การพัฒนาเมืองมันยั่งยืนมากขึ้น นี่คือที่มาของ UddC

 

รศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล, ผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC)

 

ในวันที่โลกเปลี่ยนเร็วกว่าเดิม เมืองที่เราอาศัยอยู่ไม่ได้เป็นเพียงฉากหลังของชีวิต แต่เป็นตัวที่กำหนด Living Quality ของเราทั้งร่างกาย จิตใจ รวมไปถึงเวลาที่เราใช้ไปในแต่ละวันด้วย ทำไมคุณภาพชีวิตเราถึงถูกกำหนดด้วยเมือง เมืองที่ดีต้องมีหน้าตาเป็นเช่นไร และจะทำอย่างไรให้ประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ ‘อยู่ดี’ และ ‘อยู่ได้’ ไปพร้อมกัน

 

Eco-Curious ตอนนี้ เราพาคุณไปคุยกับ ‘รศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล’ ผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) นักออกแบบเมืองที่ทำงานกับคำถามใหญ่ระดับประเทศ ถึงแนวทางการพัฒนาเมืองและแนวคิดการออกแบบผังเมืองที่เชื่อมคนและพื้นที่สีเขียวเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่ม Living Quality ที่ดีในทุกวัน

 

‘ผศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล’ พื้นที่สีเขียวและการพัฒนาเมืองเพื่อยกระดับ Living Quality ที่ดี 1 

What is ‘UddC’?

 

หลายคนอาจไม่คุ้นหูชื่อ ‘ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC)’ แต่ที่นี่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 แล้ว ภายใต้การดูแลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีพันธกิจสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ การออกแบบและวางผังเมือง การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลเมือง การสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและภาคีพัฒนา การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ และการฝึกอบรม

 

“ตอนนั้นโลกกำลังเข้าสู่ยุคที่เรียกว่า Planetary Urbanism คือทั้งโลกกำลัง ‘กลายเป็นเมือง’ กระบวนการ Urbanization เกิดขึ้นทุกที่ทั้งวิถีชีวิต เศรษฐกิจ สังคม ทุกอย่างถูกกำหนดด้วยตรรกะของเมือง หรือ Urban Logic

 

“เมืองเลยกลายเป็นศูนย์กลางความเจริญ แต่ในขณะเดียวกันก็เริ่มกลายเป็นศูนย์กลางของวิกฤตด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม สุขภาพสาธารณะ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การจราจรติดขัด มลภาวะทางอากาศ ฯลฯ เพราะฉะนั้น เมืองเลยถูกมองว่าเป็นทั้งปัญหาและทางออกในเวลาเดียวกัน”

 

UddC ทำงานด้วยวิธีคิดใหม่ เน้นการวางผังเมืองในระดับ ‘ย่าน’ ซึ่งเป็นสเกลที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันมากที่สุด พร้อมส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อให้เมืองถูกออกแบบบนความต้องการของผู้ใช้พื้นที่จริง บทบาทสำคัญอีกด้านของ UddC คือการสร้าง ‘นักเลงเมืองพันธุ์ใหม่’ ผู้เชี่ยวชาญข้ามศาสตร์ที่เข้าใจเมืองในฐานะระบบซับซ้อน ไม่ใช่แค่พื้นที่กายภาพ แต่ยังช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ตั้งแต่การพัฒนาเมืองเดินได้ ไปจนถึงโมเดล ‘หย่อมป่า’ โปรเจกต์ออกแบบพื้นที่สีเขียว ที่ AP ให้ความสำคัญจนนำไปใช้ในหลายโครงการบ้าน เพื่อส่งมอบ Living Quality ภายในบ้าน และรอบๆ บ้าน จุดเด่นของหย่อมป่าคือการออกแบบพื้นที่สีเขียวขนาดเล็กในบริเวณบ้านเอื้อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพจนเกิดเป็น ‘ถิ่นที่อยู่อาศัยย่อย’ คืน Living Quality ให้ผู้คนที่อยู่อาศัยอยู่ในบ้านไปจนถึงระดับย่าน

 

 

How sustainable is it?

 

“มาตรฐานของ WHO บอกว่า เมืองที่ดีควรมีพื้นที่สีเขียวหรือสวนสาธารณะอย่างน้อย 9 ตารางเมตรต่อคน และคนควรเข้าถึงสวนระดับละแวกบ้านได้ในระยะประมาณ 1 กิโลเมตร หรือใช้เวลาเดินไม่เกิน 15 นาที

 

“กรุงเทพฯ เคยรายงานตัวเลขประมาณ 7.6 ตารางเมตรต่อคน ฟังดูใกล้เคียง 9 แต่ไปดูวิธีคำนวณ เขานับจากภาพถ่ายดาวเทียม เห็นพื้นที่สีเขียวตรงไหนก็นับหมด ไม่ว่าจะใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ ถ้าเรานับเฉพาะ ‘สวนสาธารณะ’ และรวมประชากรกลางวันที่หลั่งไหลเข้ามาจากปริมณฑล ตัวเลขจะเหลือแค่ประมาณ 2.3 ตารางเมตรต่อคน ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐาน WHO เยอะมาก ปัญหาจริงๆ เลยไม่ใช่แค่ ‘มีเท่าไหร่’ แต่คืออยู่ตรงไหน เข้าถึงได้ไหม และใครได้ใช้”

 

หากมองผ่านเลนส์ความยั่งยืน UddC คือหนึ่งในหน่วยงานด้านเมืองที่ขับเคลื่อนประเด็นนี้อย่างเป็นรูปธรรมที่สุดในประเทศไทย เพราะการทำงานของ UddC ไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาแบบปลายเหตุ แต่เริ่มตั้งแต่ ‘โครงสร้างของเมือง’ ที่กำหนดคุณภาพชีวิตและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว การเน้นวางผังในระดับย่านทำให้สามารถปรับเปลี่ยนระบบพื้นที่ การเดินเท้า ขนส่งมวลชน พื้นที่สีเขียวซึ่งเป็นรากฐานของเมืองที่ยั่งยืนจริงๆ

 

‘ผศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล’ พื้นที่สีเขียวและการพัฒนาเมืองเพื่อยกระดับ Living Quality ที่ดี 3

 

UddC ใช้ข้อมูลเมือง (Urban Data) และเทคนิคมองอนาคต เพื่อทำให้การออกแบบตอบสนองโลกที่เปลี่ยนเร็ว ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาของวันนี้ แต่เตรียมพร้อมสำหรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในทศวรรษหน้า พวกเขายังเป็นผู้ผลักดันแนวคิด ‘เมืองเดินได้ – เมืองเข้าถึงได้’ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการลดคาร์บอนจากภาคการเดินทาง อันเป็นแหล่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหลักของเมืองใหญ่

 

อีกมิติคือความยั่งยืนทางสังคม UddC มุ่งสร้างเมืองที่ทุกคนเข้าถึง Living Quality อย่างเท่าเทียม ไม่ว่ารายได้หรือสถานะทางสังคมจะเป็นอย่างไร ผ่านการออกแบบพื้นที่สาธารณะ พื้นที่สีเขียวใกล้บ้าน และระบบทางเท้าที่ปลอดภัย ซึ่งช่วยลดความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้างได้จริง

 

‘ผศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล’ พื้นที่สีเขียวและการพัฒนาเมืองเพื่อยกระดับ Living Quality ที่ดี 4

ผังเมืองกรุงเทพฯ ที่มีปัญหาหลายด้าน

 

‘ผศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล’ พื้นที่สีเขียวและการพัฒนาเมืองเพื่อยกระดับ Living Quality ที่ดี 5

ตัวอย่างโปรเจกต์ ‘กรุงเทพฯ เมืองเดินได้-เมืองเดินดี’

 

“เมื่อก่อนนิยามของเมืองที่ดีคือเมืองที่เติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนทุนและแรงงาน…แต่ทุกวันนี้เราอยู่ในยุค Anthropocene คือยุคที่มนุษย์สร้างแรงสั่นสะเทือนให้โลก เกิดวิกฤตซ้อนวิกฤต ทั้งภูมิอากาศสุดขั้ว มลภาวะ และความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ การเข้าถึง Living Quality ที่ดีกลายเป็นสิทธิของคนแค่บางกลุ่มที่มีกำลังซื้อ

 

“เพราะฉะนั้นเมืองที่ดีในยุคนี้อาจต้องเปลี่ยนจากการมองแค่ ‘โตแค่ไหน’ มาเป็น ‘ทุกคนอยู่รอดได้ไหม และอยู่รอดดีแค่ไหน’ เมืองที่ดีคือเมืองที่ทำให้คนส่วนใหญ่ในเมือง “เข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีได้” โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินหรือใช้ทรัพยากรจนเกินพอดี”

 

ใครสนใจอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์ต่างๆ ของ UddC สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.UddC.net

The post ‘รศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล’ พื้นที่สีเขียวและการพัฒนาเมืองเพื่อยกระดับ Living Quality ที่ดี appeared first on THE STANDARD.

]]>