LIFE | LIVING – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 30 Jul 2025 05:09:41 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Passion Calling: ‘หมอเจี๊ยบ ลลนา’ จากวันที่วิ่งตามความฝัน สู่วันที่กลับบ้านมาดูแลใจตัวเอง [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/life/passion-calling-dr-jeab-lalana-life-journey Wed, 30 Jul 2025 05:09:41 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1101450 แนะนำใช้ภาพหมอเจี๊ยบในบ้าน/สวน หรือภาพทำงานกับมูลนิธิ (แนวอารมณ์อบอุ่น, จริงใจ, สื่อถึงการกลับมาดูแลใจ)

“แพสชันของเราเปลี่ยนไปได้เสมอ อย่าลืมดูแลสุขภาพกายและใจ […]

The post Passion Calling: ‘หมอเจี๊ยบ ลลนา’ จากวันที่วิ่งตามความฝัน สู่วันที่กลับบ้านมาดูแลใจตัวเอง [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
แนะนำใช้ภาพหมอเจี๊ยบในบ้าน/สวน หรือภาพทำงานกับมูลนิธิ (แนวอารมณ์อบอุ่น, จริงใจ, สื่อถึงการกลับมาดูแลใจ)

“แพสชันของเราเปลี่ยนไปได้เสมอ อย่าลืมดูแลสุขภาพกายและใจให้ดี เพื่อทำตามแพสชันต่อไป” 

 

นี่คงเป็นประโยคสรุปเรื่องราวความทุ่มเทเพื่อแพสชันของ หมอเจี๊ยบ-ลลนา ก้องธรนินทร์ ได้ดีที่สุด เพราะถ้ารู้จักหมอเจี๊ยบ ในฐานะอดีตนางสาวไทย นักแสดง แพทย์หรือผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Let’s be heroes คงเห็นแววตาที่มุ่งมั่นและชัดเจนในความฝันมาตลอด แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังของเส้นทางนี้เต็มไปด้วยการค้นหา และการเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งวันหนึ่งร่างกายประท้วง และบอกกับหมอเจี๊ยบว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องกลับมาดูแลตัวเอง

 

จุดเริ่มต้นของอาชีพหมอ

“ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยอยากเป็นหมอเลย เห็นอาชีพไหนเจ๋งก็ชอบอันนั้น แพสชันที่รุนแรงตอนเด็กก็คือ อยากทำอาชีพอะไรก็ได้ที่มีเงิน จะได้นอนอยู่บ้านเล่นเกม จนกระทั่งเราดัดฟัน แล้วไปถอดรีเทนเนอร์ ค่าพบหมอฟัน 600 บาท ใช้เวลารวดเร็วมากไม่ถึงสองนาที เลยเจอแรงบันดาลใจว่า อยากเป็นหมอฟัน อาชีพนี้แหละที่จะทำให้ฉันได้นอนเล่นเกมอยู่บ้าน”

 

แนะนำใช้ภาพหมอเจี๊ยบในบ้าน/สวน หรือภาพทำงานกับมูลนิธิ (แนวอารมณ์อบอุ่น, จริงใจ, สื่อถึงการกลับมาดูแลใจ)

 

ไม่รู้ว่าโชคชะตาหรือเปล่า ตอนนั้นคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดให้สอบตรง หมอเจี๊ยบจึงอยากลองเข้าไปทำข้อสอบดู แต่การจะเข้าสอบได้ต้องมีชั่วโมงฝึกงานในโรงพยาบาล นั่นเป็นครั้งแรกที่หมอเจี๊ยบได้สัมผัสบรรยากาศในโรงพยาบาลจริง ๆ 

 

“จากที่ไปฝึกงานในโรงพยาบาล เราเห็นคนไข้มารอเป็นร้อยคน แต่มีหมออยู่คนเดียว ตอนนั้นรู้สึกว่า ถ้าเราเป็นหมอตรงนั้นก็คงดี อาจช่วยอะไรได้บ้าง จากเหตุการณ์นั้นเหตุการณ์เดียว เกิดเป็นแรงบันดาลใจเลยว่าอยากเป็นหมอ และอยากเปิดฟรีคลินิกช่วยเหลือผู้ขาดแคลน”

 

นางสาวไทย ในชื่อ ‘ลลนา’

“ช่วงนั้นมีประกวดนางงาม แล้วแม่ชอบนางงามมาก แม่บอกว่าลองดูตัวอย่างจากดาราสิ เขามีชื่อเสียง เวลาขอสมทบทุนจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือมากขึ้น”

 

แน่นอนว่าหมอเจี๊ยบไม่เคยคิดจะก้าวขาสู่วงการบันเทิง แต่มองว่าการประกวดนางสาวไทยเป็นโอกาสที่จะทำให้ความฝันเรื่องฟรีคลินิกเกิดได้เร็วขึ้น หลังจากลังเลอยู่นาน เธอก็ตัดสินใจก้าวขึ้นเวที และคว้าตำแหน่งนางสาวไทย ปี 2549 ได้สำเร็จ 

 

เมื่อประตูสู่ความฝันถูกเปิดออกด้วยการเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง หมอเจี๊ยบใช้โอกาสนี้บอกกับสังคมถึงสิ่งที่อยากทำในอนาคต ไม่ว่าจะไปออกรายการไหน เธอพูดถึงความมุ่งมั่นในการเปิดฟรีคลินิกในอนาคตอยู่เสมอ

 

จุดกำเนิดมูลนิธิ Let’s be heroes

ผ่านมาสิบกว่าปี หมอเจี๊ยบวางแผนจริงจังเพื่อสร้างฟรีคลินิกให้เกิดขึ้นได้ จึงก่อตั้ง ‘มูลนิธิ Let’s be heroes’ ที่จัดตั้งคลินิกแพทย์เฉพาะทางเคลื่อนที่ โครงการช่วยเหลือสัตว์ และโครงการให้ความรู้ เพื่อส่งต่อโอกาสด้านสุขภาพให้กับทุกคน

 

“มูลนิธิเคยไปที่อุ้มผาง เจอคนไข้ต้องการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ แต่ไม่มีเงินทุน โชคดีที่เพื่อนหมอหัวใจช่วยประสานงานโรงพยาบาลราชวิถีจนพาคนไข้ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจได้สำเร็จ วันที่ไปเยี่ยมเขาหลังผ่าตัด เขาบอกว่า ขอบคุณที่ให้ชีวิตใหม่กับเขา เขาสัญญาว่าจะเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี แล้วถ้ามีโอกาส อยากจะให้ลูกส่งต่อสิ่งดี ๆ แบบนี้กับคนอื่น”

 

 

“เรารู้สึกตื้นตันใจมากเวลาได้ช่วยคน เพราะเราไม่ได้ช่วยแค่เขา แต่ช่วยครอบครัวเขาด้วย เราสามารถทำให้เขาเห็นมุมมองของการให้แบบไม่มีที่สิ้นสุด มันชื่นใจ เป็นเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าให้ฟัง”

 

ไล่ล่าแพสชัน จนเป็นแพนิก

ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น แต่การใส่สุดพลังเพื่อไล่ล่าความฝัน ที่เติมเต็มความหมายในหัวใจ กลับทำให้ร่างกายเริ่มไม่ไหว

 

“ยอมรับว่าที่ผ่านมาเราใช้ร่างกายเยอะมาก ทั้งในวงการบันเทิงและวงการหมอ มีวันหนึ่งตื่นมาแล้วร้องไห้ หายใจไม่ออก รู้ว่าทำงานไม่ได้ สุดท้ายไปหาหมอ เพื่อรับยา พอหาสาเหตุก็พบว่า ทุกครั้งที่อดนอนจะเป็นแพนิก”

 

สัญญาณความเจ็บป่วยจากร่างกายทำให้แพสชันใหม่ของหมอเจี๊ยบชัดเจนยิ่งขึ้น

 

“เราเห็นว่าความเจ็บป่วยมันใกล้ตัวมากขึ้น แพสชันก็เปลี่ยนไป เงินทองและชื่อเสียงบางครั้งไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่สิ่งที่ช่วยเยียวยาหัวใจของเราได้คือความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว ตอนนี้แพสชันอันดับหนึ่งก็เลยเปลี่ยนเป็นการใช้เวลากับตัวเอง ครอบครัวและคนที่รักให้ดีที่สุด”

 

กลับบ้านเพื่อดูแลใจตัวเอง

 

สำหรับหมอเจี๊ยบ สถานที่แรกที่ช่วยชุบชูหัวใจเมื่อเจอกับอุปสรรคอันหนักหน่วงในชีวิต ก็คือ ‘บ้าน’ เพราะเป็นเหมือนเซฟโซน ยิ่งเป็นบ้านที่มี space ที่ตอบโจทย์ ก็ยิ่งทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น

 

โครงการ Grande Pleno ทวีวัฒนา

 

“เวลากลับมาบ้านจะเหมือนได้ชาร์จพลัง ยิ่งเมื่อโตขึ้น มีบ้านเป็นของตัวเอง เราสามารถสร้างพื้นที่ที่เติมเต็มชีวิตของเราได้เอง เจี๊ยบชอบห้องนอนมาก ทำทุกกิจกรรมในห้องนอน ทั้งพักผ่อน เล่นเกม แทบจะกินข้าวในห้องนอนเลยด้วยซ้ำ”

 

ไม่ใช่แค่เซฟโซน แต่บ้านยังทำให้หมอเจี๊ยบได้ทำตามแพสชันบางอย่างในวัยเด็กเช่นเดียวกัน

 

“ตอนเด็กเราชอบเล่น Harvest moon มาก เกมปลูกผัก ทำฟาร์ม จีบสาว โตขึ้นมาก็ยังมีความคิดอยากทำฟาร์มอยู่ เลยทำมุมสวนไว้ที่บ้าน และยังมีมุมสัตว์เลี้ยงด้วยนะ ก็มาจากแพสชันตอนเด็กนั่นแหละ”

 

 

จากวันที่ทำทุกวิถีทางเพื่อไล่ล่าแพสชัน หมอเจี๊ยบทิ้งท้ายบทเรียนในชีวิตไว้ว่า

 

“นกน้อยควรทำรังแต่พอตัว เวลาเรามีแพสชันจะใช้ชีวิตหนักหน่วงมาก แต่อย่าลืมกลับมาดูแลร่างกายตัวเอง เพราะว่าสิ่งเหล่านี้เมื่อพังแล้วเอาคืนไม่ได้ แต่ถ้าเรายังมีกำลังกาย กำลังใจอยู่ เราสามารถทำตามแพชชันของตัวเองได้เสมอและมีชีวิตดีๆที่เลือกเองได้”

 

สามารถดูรายละเอียดทาวน์โฮมและบ้านแฝดจาก AP ได้ที่ https://www.apthai.com/th/townhome

The post Passion Calling: ‘หมอเจี๊ยบ ลลนา’ จากวันที่วิ่งตามความฝัน สู่วันที่กลับบ้านมาดูแลใจตัวเอง [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
Armani/Casa สุนทรียะของโลกแฟชั่นสู่การแต่งบ้านฉบับ Armani https://thestandard.co/life/armani-casa Tue, 29 Jul 2025 04:35:14 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1101129 Armani/Casa

นอกจากแบรนด์เสื้อผ้าที่เรารู้จักกันดีอย่าง Giorgio Arma […]

The post Armani/Casa สุนทรียะของโลกแฟชั่นสู่การแต่งบ้านฉบับ Armani appeared first on THE STANDARD.

]]>
Armani/Casa

นอกจากแบรนด์เสื้อผ้าที่เรารู้จักกันดีอย่าง Giorgio Armani, Emporio Armani หรือสายโอตกูตูร์ Armani Privé ภายใต้การบริหารของ Armani Group ยังมีแบรนด์ของแต่งบ้านแสนเรียบหรูที่ได้รับความนิยมไม่ต่างจากอื่น นั่นคือ Armani/Casa เฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ในเครือ Armani Group ที่หยิบเอาสุนทรียะของโลกแฟชั่นฉบับ Armani มาสู่โลกแห่งการแต่งบ้าน

 

“บ้านควรให้ความรู้สึกสงบและสวยงาม เช่นเดียวกับเสื้อผ้าที่เราสวมใส่” – Giorgio Armani

 

 

ปรัชญาการออกแบบของ Armani/Casa คือเน้นความเรียบง่าย ลบเลือนความฟุ้งเฟ้อ เน้นสัดส่วนสมมาตรและวัสดุคุณภาพที่เย้ายวนตา ตัวแทนความสง่างาม เงียบขรึม เรียบง่ายทว่าหรูหรา โดยแรงบันดาลใจเบื้องหลังการดีไซน์ของแบรนด์มีต้นกำเนิดมาจาก 4 แหล่ง ได้แก่ ศิลปะ แฟชั่น ธรรมชาติ และทวีปเอเชีย ซึ่งเราสามารถสัมผัสกลิ่นอายของ Claude Monet, Henri Matisse และ Hokusai เคล้าศิลปะแบบ Art Deco ผ่านชิ้นงานต่างๆ ของ Armani/Casa เช่น Straw Marquetry เฟอร์นิเจอร์ฝีมือขั้นสูงซึ่งใช้เวลาทำกว่า 80 ชั่วโมง ในขณะเดียวกันลวดลายไอคอนิกจากฝั่งแฟชั่นของแบรนด์ ก็ถูกเลือกสรรมาเพิ่มความงามให้แก่ลายผ้าและวอลเปเปอร์

 

Armani/Casa มักใช้สีเฉดที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นสีสันจากต้นไม้ ใบไม้ หิน เปลือกหอย นอกจากนี้ ยังมีเฉดสีพิเศษที่ Giorgio Armani เป็นผู้คิดค้นด้วยตนเอง สีนี้มีชื่อว่า ‘Greige’ เทาผสมเบจที่มอบความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ สื่อถึงความเรียบหรู ส่วนวัสดุที่ใช้แน่นอนย่อมเป็นวัสดุระดับพรีเมียม เช่น ไม้เงาวีเนียร์ แก้วมูราโน หินอ่อน ในขณะเดียวกันก็ยังไม่ลืมความสำคัญของฟังก์ชันที่ควบคู่ดีไซน์ เห็นได้ชัดจากโคมไฟ Logo Lamp ที่ออกแบบให้ใช้สะดวกและปลอดภัย

 

นอกจากโรงแรมในเครือ Armani/Hotel ที่คุณจะได้สัมผัสเฟอร์นิเจอร์พรีเมียมจาก Armani/Casa สถานที่สำคัญหลายแห่งยังมีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งอยู่ เช่น Quirinale Contemporaneo หรือทำเนียบประธานาธิบดีอิตาลี, Villa Firenze สถานที่จัดเก็บงานศิลปะอิตาเลียนอันเป็นหนึ่งของสถานทูตอิตาลีประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา สถานทูตอิตาลีประจำกรุงปารีสบนถนน Rue de Varenne ฯลฯ

 

สำหรับใครที่อยากชมเฟอร์นิเจอร์ตัวจริง ตอนนี้ Armani/Casa มีขายแล้วในประเทศไทย โดยสามารถแวะเข้าไปดู ไปสัมผัสได้ที่ MOTIF Showroom ชั้น 4 ศูนย์การค้า Central Embassy ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.30 น.

 

ภาพ: Armani/Casa

The post Armani/Casa สุนทรียะของโลกแฟชั่นสู่การแต่งบ้านฉบับ Armani appeared first on THE STANDARD.

]]>
เมื่อ ‘บ้าน’ ไม่ใช่แค่ที่นอน แต่คือพื้นที่ ‘ฟื้นฟู’ ทั้งร่างกายและจิตใจ ที่ valles HAUS จากแสนสิริ [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/life/valles-haus-holistic-wellness-living Sat, 26 Jul 2025 04:00:09 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1099214 valles HAUS

เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ปี 2025 นิยามของคำว่า ‘Wellness’ ได้ […]

The post เมื่อ ‘บ้าน’ ไม่ใช่แค่ที่นอน แต่คือพื้นที่ ‘ฟื้นฟู’ ทั้งร่างกายและจิตใจ ที่ valles HAUS จากแสนสิริ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
valles HAUS

เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ปี 2025 นิยามของคำว่า ‘Wellness’ ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่เคยมองว่าเป็นการแสวงหากิจกรรมเพื่อผ่อนคลายเป็นครั้งคราว วันนี้เทรนด์สุขภาพได้เปลี่ยนเป็นการสร้างเสริม ‘ความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวม’ (Holistic Well-being) ที่ต้องผสมผสานเป็นเนื้อเดียวกับการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้คนทั่วโลกไม่ได้มองหาแค่การรักษา แต่กำลังมองหาการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีในระยะยาว ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

 

เทรนด์ดังกล่าวได้ส่งผลโดยตรงต่อมุมมองที่เรามีต่อ ‘บ้าน’ อย่างชัดเจน ที่อยู่อาศัยในปัจจุบันไม่ได้ถูกมองเป็นเพียงที่พักพิงอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็น ‘ระบบนิเวศเพื่อสุขภาพ’ (Wellness Ecosystem) ส่วนบุคคล ความต้องการพื้นที่ที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ หรือที่เรียกว่า ‘Biophilic Design’ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผู้คนมองหาพื้นที่ที่มีแสงธรรมชาติส่องถึง, มีสวนหรือพื้นที่สีเขียวให้พักสายตา และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจได้จริง

 

ปรากฏการณ์นี้ทำให้โจทย์ของการเลือกที่อยู่อาศัยซับซ้อนขึ้น จากเดิมที่เน้นเรื่องทำเลหรือดีไซน์ภายนอก มาสู่การตั้งคำถามที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า ว่าพื้นที่นั้นๆ สามารถมอบ ‘คุณภาพชีวิตที่ดี’ ให้เราได้อย่างไร และเราจะสร้างสภาวะแห่งความสุขสงบนั้นให้เกิดขึ้นจริงในทุกตารางเมตรของบ้านเราได้อย่างไร ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นและหัวใจสำคัญในการออกแบบโครงการ valles HAUS

 

จากเทรนด์ Well-living สู่บ้านที่โอบรับการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ

แนวคิดเรื่อง ‘Well-living’ หรือการใช้ชีวิตอย่างใส่ใจสุขภาพองค์รวม ได้เปลี่ยนนิยามของคำว่า ‘บ้านที่ดี’ ไปอย่างสิ้นเชิง ผู้คนในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่ที่พักอาศัยที่สวยงามหรือทำเลดี แต่กำลังมองหาพื้นที่ที่ส่งเสริมและโอบอุ้มการใช้ชีวิตให้มีคุณภาพในทุกมิติ ซึ่งจากโจทย์นี้ valles HAUS จึงถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นคำตอบ

 

และหนึ่งในคำตอบที่เป็นรูปธรรมที่สุด คือการที่ valles HAUS เป็น ‘คอนโดปลอดฝุ่น’ จากแสนสิริ ที่สะท้อนความใส่ใจในสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัยเป็นหัวใจสำคัญ ด้วยการติดตั้งนวัตกรรม ‘เครื่องกรองอากาศแรงดันบวก’ ไว้ในที่พักอาศัยทุกห้อง ทุกยูนิต ซึ่งเป็นเทคโนโลยีมาตรฐานเดียวกับห้องปลอดเชื้อในโรงพยาบาล ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะแสนสิริเชื่อว่าสุขภาพกายที่ดี คือจุดเริ่มต้นของคุณภาพชีวิตและสุขภาพใจที่ดีตามไปด้วยอย่างแท้จริง

 

ปลดล็อกการพักผ่อนผ่านสายน้ำและธรรมชาติ

หัวใจสำคัญของการฟื้นฟูคือการกลับสู่ความสงบของธรรมชาติ valles HAUS จึงยกองค์ประกอบเหล่านี้มาไว้ใจกลางโครงการ โดยมีสระว่ายน้ำที่ผสานศาสตร์แห่งวารีบำบัด ใช้การนวดด้วยน้ำเพื่อช่วยลดอาการปวดเมื่อยและส่งเสริมการผ่อนคลายอย่างแท้จริง

 

เติมเต็มสุขภาพกายและใจใน Clubhouse ส่วนตัว

พื้นที่ส่วนกลางถูกคิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยในทุกรูปแบบและทุกไลฟ์สไตล์ โดยมีทั้งฟิตเนสและห้องพิลาทีสจัดเตรียมไว้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย และสำหรับช่วงเวลาที่ต้องการการผ่อนคลาย ก็ยังมีห้องอบไอน้ำ รวมถึงนวัตกรรมการอาบน้ำที่สามารถปรับแสงและเสียงให้สอดคล้องกัน เพื่อสร้างบรรยากาศการพักผ่อนอันเหนือระดับ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยมอบการผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์แบบหลังเสร็จสิ้นจากการออกกำลังกาย

 

พื้นที่ที่ใส่ใจทุกสมาชิก รวมถึงเพื่อนสี่ขา

ที่ valles HAUS นิยามของคำว่า Well-living ได้ถูกขยายให้ครอบคลุมถึงความสุขของสมาชิกทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง ด้วยการถือกำเนิดเป็นโครงการคอนโด ‘Pet-welcome’ ของ HAUS โครงการแรกในกรุงเทพฯ จากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าความสุขของเจ้าของนั้นเชื่อมโยงโดยตรงกับความสุขของสัตว์เลี้ยง โครงการจึงได้จัดสรรทั้งพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นมาเพื่อสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เพื่อรองรับการอยู่อาศัยร่วมกันอย่างลงตัวและมีความสุข

 

valles HAUS จึงเป็นมากกว่าคอนโดมิเนียม หากแต่คือการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิต ผ่านพื้นที่ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ทุกวันของการอยู่อาศัยคือการ ‘พักผ่อน’ และ ‘ฟื้นฟู’ อย่างแท้จริง เพราะบางที Wellness ที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่การต้องออกไปตามหาจากที่ไหนไกล แต่อาจเป็นการค้นพบว่าสิ่งนั้นมีอยู่แล้ว ณ ‘บ้าน’ ของเราเอง อันเป็นดั่งหุบเขาแห่งความสงบใจกลางเมืองนี่เอง

 

ค้นพบและสัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ซึ่งการ ‘ฟื้นฟู’ คือส่วนหนึ่งของทุกวัน ได้ที่โครงการ valles HAUS จากแสนสิริ พร้อมเจาะลึกรายละเอียดทั้งหมดของโครงการได้ที่: https://siri.ly/cONTIV6

The post เมื่อ ‘บ้าน’ ไม่ใช่แค่ที่นอน แต่คือพื้นที่ ‘ฟื้นฟู’ ทั้งร่างกายและจิตใจ ที่ valles HAUS จากแสนสิริ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
HOW DO YOU LIVE? บ้านที่พอดีกับใจ และเติมเต็มด้วยคนที่รัก ของ โน้ต ศรัญ https://thestandard.co/life/how-do-you-live-note-sarun Sat, 26 Jul 2025 02:30:47 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1099716

นิยามของคำว่าบ้านของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป บ้างหมายถึงส […]

The post HOW DO YOU LIVE? บ้านที่พอดีกับใจ และเติมเต็มด้วยคนที่รัก ของ โน้ต ศรัญ appeared first on THE STANDARD.

]]>

นิยามของคำว่าบ้านของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป บ้างหมายถึงสิ่งปลูกสร้างสำหรับอาศัย บ้างหมายถึงสถานที่ที่ใช้สำหรับพึ่งพิงทางจิตใจ แต่สำหรับพี่โน้ต-ศรัญ คุ้งบรรพต แล้ว ความหมายของบ้านลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เพราะบ้านในความหมายที่สมบูรณ์หมายถึงสมาชิกในครอบครัว ที่ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง หรือเพื่อนสนิทรู้สึกเป็นเจ้าของ รู้สึกเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน มีความสุข และทุกคนได้เป็นตัวของตัวเอง

 

หากย้อนกลับไปในวัยเด็กก่อนถึงบ้านหลังปัจจุบัน พี่โน้ต ศรัญ อาศัยอยู่กับพ่อแม่และญาติที่จังหวัดนครสวรรค์ในรูปแบบครอบครัวขยาย ก่อนย้ายมาที่หอพักในมหาวิทยาลัย ย้ายไปประจำอยู่ที่ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกาในช่วงสั้นๆ ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมขนาด 60 ตารางเมตรเป็นของตัวเองครั้งแรก

 

แม้ว่าชีวิตในคอนโดมิเนียมจะพอดีสำหรับการใช้ชีวิตคนเดียว แต่ทุกครั้งที่พ่อแม่เดินทางมาหากลับทิ้งตัวได้ไม่เต็มที่ เพราะคุ้นเคยกับบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวางแบบบ้านต่างจังหวัด ทำให้เขาและครอบครัวตัดสินใจร่วมกันว่าอาจต้องมีบ้านที่เป็นบ้านจริงๆ ของตัวเองสักที

 

ช่วงโควิด-19 พี่โน้ต ศรัญตระเวนดูบ้านหลายโครงการนานหลายเดือน จนพบว่าย่านติวานนท์ งามวงศ์วาน เป็นย่านที่เขาอยากอยู่ เพราะใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก ใกล้ห้างสรรพสินค้าและแหล่งอาหาร รวมถึงมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดอย่างคาเฟ่ เขาสะดุดตากับบ้านหลังหนึ่งซึ่งแต่เดิมเป็นบ้านตัวอย่างโครงการ เนื่องจากมีขนาดพอดีอย่างที่ต้องการ และมีสนามด้านหน้าให้พ่อแม่ได้เดินเล่น ทำให้เขาตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ได้โดยไม่ยาก

 

 

พี่โน้ต ศรัญค่อยๆ ตกแต่งบ้านหลังนี้โดยหยิบยืมกลิ่นไอจากบ้านที่นครสวรรค์ เติมให้บ้านเป็นบ้านมากยิ่งขึ้นด้วยความชอบของพ่อแม่ ตั้งแต่สนามหญ้าหน้าบ้านที่ปูด้วยหญ้าเทียมสำหรับเดินเล่น ชานหน้าบ้านที่ปูด้วยระแนงไม้คล้ายกับที่ต่างจังหวัด ถัดเข้ามาในตัวบ้านเป็นโซฟาตัวใหญ่ไว้สำหรับเอนกาย และลึกเข้าไปเป็นโต๊ะรับประทานอาหารที่ทำจากไม้ทั้งต้นตามความตั้งใจของพ่อ และส่วนในสุดคือครัวไทยสำหรับแม่ใช้ทำอาหารจากเตาแก๊ส และที่สำคัญที่สุดคือเขายกห้องนอนใหญ่ให้พ่อกับแม่ ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว

 

 

คำว่าครอบครัวสำหรับพี่โน้ต ศรัญ ไม่ได้หมายถึงพ่อแม่เพียงเท่านั้น แต่เขายังนับรวมถึงเพื่อนสนิทที่เป็นที่พึ่งพิงทางใจ ได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งบ้านหลังนี้ราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน เขาออกแบบให้โซฟาด้านหน้าหันหน้าเข้าหากัน สำหรับเวลาเพื่อนมาบ้านได้ล้อมวงพูดคุยแลกเปลี่ยนสารทุกข์สุขดิบ และได้เป็นตัวของตัวเอง ถัดเข้าไปเป็นห้องนันทนาการที่ใช้ชมภาพยนตร์ รวมถึงบางครั้งเพื่อนก็สามารถค้างคืนที่บ้านของเขาได้อย่างสะดวกใจ

 

 

ความหมายของครอบครัวยังรวมไปถึงสุนัขพันธุ์คอร์กี้และอาคิตะรวม 6 ชีวิต ที่เขาเลี้ยงดูเหมือนลูก และบ้านที่เขาเลือกก็ตอบโจทย์ให้สุนัขเหล่านี้ได้มีพื้นที่วิ่งเล่น รวมถึงบริเวณใกล้เคียงโครงการยังมีสระว่ายน้ำสุนัข และห้างสรรพสินค้าที่สามารถพาสุนัขไปเดินเล่นได้

 

 

สำหรับพื้นที่ของตัวเอง เขามีห้องทำงานของตัวเองที่ต่อขยายไว้ใช้สำหรับทำงานประจำ และงานพิเศษอย่างการสอนร้องเพลง รวมถึงยังมีห้องพระ ที่ใช้สะสมพระพุทธรูปและพระพิฆเนศที่สร้างสรรค์โดยศิลปินที่เขาชื่นชอบ

 

 

ดังนั้นแล้วสำหรับพี่โน้ต ศรัญ ‘บ้าน’ จึงไม่ใช่ที่ที่สำหรับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่คือสถานที่ที่คนที่เขารักได้มาใช้เวลาร่วมกัน รู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน สร้างความหมายดีๆ ที่ลงตัวสำหรับทุกคน

 

รับชม ความหมายคำว่าบ้านของพี่โน้ต ศรัญ ได้ในรายการ HOW DO YOU LIVE? ทาง YouTube ของ THE STANDARD LIFE คลิกชมได้ที่: แทรกลิงก์ YouTube

The post HOW DO YOU LIVE? บ้านที่พอดีกับใจ และเติมเต็มด้วยคนที่รัก ของ โน้ต ศรัญ appeared first on THE STANDARD.

]]>
CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (24-30 กรกฎาคม 2568) https://thestandard.co/life/calendar-24-30-july-2025 Thu, 24 Jul 2025 12:40:06 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1099512 กิจกรรมน่าสนใจ

สุดสัปดาห์นี้ เราอยากชวนคุณออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่ กับก […]

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (24-30 กรกฎาคม 2568) appeared first on THE STANDARD.

]]>
กิจกรรมน่าสนใจ

สุดสัปดาห์นี้ เราอยากชวนคุณออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่ กับกิจกรรมดีๆ ที่คัดมาแล้วว่าไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะไปเดินชมนิทรรศการเซรามิกที่ผสมผสานความเป็นไทยและญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน งานวิ่งสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ หรือเสพแรงบันดาลใจผ่านงานศิลป์ที่ทั้งลึกซึ้ง สวยงาม และยังมีน้องแพนด้ายักษ์รอให้คุณไปเซลฟีแบบไม่ต้องบินไปถึงจีนด้วย

 

ใครกำลังเบื่อๆ อยากหากิจกรรมอะไรสนุกๆ ทำสัปดาห์นี้ ลองดูอีเวนต์ที่เราหยิบมาเสิร์ฟให้ รับรองว่าไม่น่าเบื่อแถมน่ารักแน่นอน

 

 

Ballad for the Breathing (ลำนำแห่งลมหายใจ)

 

นิทรรศการของ Riety Pahn ชวนคุณก้าวเข้าสู่โลกอีกใบ โลกที่ทุกอย่างกลับหัวกลับหาง ประวัติศาสตร์ถูกฝังลึกอยู่ใต้ผืนผ้าใบ และกระแสไฟฟ้าถูกเปรียบเสมือนเวทมนตร์

 

ผลงานนี้ตีแผ่ผลกระทบต่อสัตว์ป่าและความหลากหลายทางชีวภาพ ผ่านเส้น สี สัญลักษณ์ที่ทั้งสะเทือนใจและได้รับแรงบันดาลใจจากจินตนาการ ผ่าน 16 ภาพวาดและเรื่องเล่าประกอบที่จะพาเราเดินทางข้ามกาลเวลาเปิดประตูไปสู่ตำนานที่ยังไม่ถูกเล่า และปล่อยให้คุณเป็นคนไขปริศนาโลกใบนี้อาจไม่เหมือนที่คุณเคยรู้จัก แต่มันรอให้คุณมองเห็นด้วยสายตาใหม่

 

When: วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00-19.00 น.

Where: The StandardX ถนนท่าพระอาทิตย์

More Info: THE STANDARDXBANGKOK

 

 

BROWN PANDA SEVEN

 

‘Seven’ เจ้าแพนด้าสีน้ำตาลตัวใหญ่กลางไอคอนสยาม ผลงานสุดน่ารักจาก ลีโอ หวง ศิลปินรุ่นใหม่จากประเทศจีน เนื่องในโอกาสร่วมฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ผ่านผลงานชุด Guardians of the Loong: มหาสมบัติแห่งเขาฉินหลิ่ง 

 

ผลงานนี้ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ถ่ายทอดผ่านคาแรกเตอร์แพนด้าชื่อ Seven หรือ ชีไจ่ ที่นั่งเหยียดขา พร้อมลูบท้องกลมๆ หลังจากอิ่มท้องมื้อใหญ่ พร้อมรอยยิ้มแบบสบายใจ โดยลีโอได้เรียกสิ่งนี้ว่า ‘ปรัชญาท้องกลม’  คือความสุขที่เรียบง่าย ที่เราอาจกำลังมองข้ามไป

 

อย่าลืมแวะมาเจอน้องแพนด้ายักษ์ชีไจ่ แล้วเก็บภาพความน่ารักกลับบ้านกันนะ

 

When: วันนี้ – 15 สิงหาคม 2568 

Where: ลานชั้น 2 ICONSIAM Park 

More Info: ICONSIAM

 

 

ROXY ACTIVE BY NATURE 2025

 

งานวิ่งและโยคะจาก Roxy ที่อยากเชิญชวนให้ผู้หญิงทุกคนมาโชว์ความแข็งแกร่งและพลังของผู้หญิงที่มีมากกว่าความสวยงาม กับกิจกรรมเพื่อสุขภาพที่จัดมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ

 

อย่าพลาด ภายในงานกับสินค้า Limited Edition จาก ROXY THAILAND x BEERPITCH ออกแบบพิเศษเฉพาะงานนี้ ไม่มีวางจำหน่ายที่อื่น และโชว์พิเศษ ROXY SUNSET CHORUS PERFORMANCE จาก Suanplu Chorus และ Umano Brass ที่จะมอบความประทับใจไม่รู้ลืมในงานวิ่งครั้งนี้ เตรียมตัวให้พร้อมมาเติมพลังและแรงบันดาลใจจากผู้หญิงถึงผู้หญิงด้วยกัน

=

When: วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00-20.00 น. 

Where: สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)

More Info: Roxy Thailand

 

pink run

 

PINK PARK RUN 2025 

 

เชิญชวนทุกคนมาวิ่งด้วยหัวใจ ภายใต้แนวคิด ‘ให้ทุกก้าวมีความหมาย’ เพราะนี่ไม่ใช่แค่การวิ่งแต่คือการส่งต่อพลังให้ผู้หญิงอีกหลายคนได้มีบ้านหลังสุดท้ายที่อบอุ่น

รายได้จากกิจกรรมนี้จะถูกนำไปสมทบทุนสร้างและสนับสนุนการดำเนินงาน ‘โครงการบ้านพิงพัก’ ศูนย์พักฟื้นและฟื้นฟูสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะท้าย ที่ไร้ญาติ หรือขาดโอกาสในการเข้าถึงการดูแลที่เหมาะสม

มาร่วมเปลี่ยนแรงวิ่งเป็นพลังใจเพื่อส่งต่อความหวังให้พวกเธอไม่ต้องต่อสู้อย่างเดียวดาย

 

When: วันนี้ 5 ตุลาคม 2568 

Where: STADIUM ONE (ซอยจุฬาลงกรณ์ 5, ถนนบรรทัดทอง)

More Info: PINK PARK RUN  

 

 

Flowertales – When the Dragon meets Flower

 

ชวนออกเดินทางสู่โลกแห่งจินตนาการ กับ The Flowertales: When the dragon meets flowers นิทรรศการโดย เฟิร์น-ปิยาภา เดชะไกศะยะ ที่นำความละมุนของดอกไม้หลากสีมาหลอมรวมกับพลังลึกลับของ ‘Amphithere’ มังกรในตำนาน

 

เมื่อสองสิ่งต่างขั้วมาพบกันกลางภาพฝันจึงเป็นงานศิลปะที่ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังบอกเล่าเรื่องราวของความกลมกลืนในความต่างได้อย่างมีเสน่ห์และการอยู่ร่วมกันของสิ่งที่ดูแตกต่าง แต่กลับเติมเต็มกันได้อย่างพอดิบพอดี

 

When: วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.30-21.30 น.

Where: ชั้น 3 แมด, มันมัน ศรีนครินทร์

More Info: MMAD – MunMun Art Destination

 

 

The Art Walk 

 

เมื่อความประณีตแบบญี่ปุ่นมาบรรจบกับจริตความงามแบบไทย งานศิลป์ชุดนี้จึงไม่ใช่แค่สวย แต่เล่าเรื่องได้ลึกถึงรากวัฒนธรรม ทั้งในรูปของเซรามิก ประติมากรรม และงานหัตถศิลป์ร่วมสมัย 
นิทรรศการนี้จึงจะพาเราก้าวข้ามพรมแดนของศิลปะ ผ่านสายตาและฝีมือของ โทโมโกะ คอนโนะ ศิลปินชาวญี่ปุ่นชื่อดัง ร่วมด้วย 8 ศิลปินชั้นนำของไทย กับผลงานกว่า 70 ชิ้น

 

พร้อมกับเวิร์กช็อปพิเศษที่จัดรอบสุดท้ายในวันเสาร์นี้ กับ Hand-Building Pottery Workshop with Hiroyuki Matsui คลาสสอนปั้นงานเซรามิกโดยใช้วิธีการปั้นด้วยมือแบบดั้งเดิม สอนโดย ฮิโรยูกิ มัตสึอิ ศิลปินช่างปั้นดินเผาชาวญี่ปุ่น โดยเวิร์กช็อปแบ่งเป็น 4 รอบเวลา คือ 11.00 / 13.00 / 14.00 / 15.00 น. มีค่าสมัคร 500 บาทต่อคน จำกัดรอบละ 4 คนเท่านั้น 

 

โดยผู้สมัครทุกท่านจะได้รับของที่ระลึกเป็นเซรามิกชิ้นเล็กที่ทำโดยคุณฮิโรยูกิ มัตสึอิ และผลงานที่สร้างสรรค์ระหว่างกิจกรรมจะไม่สามารถนำกลับบ้านได้ เนื่องจากกิจกรรมนี้มุ่งเน้นการสนุกกับกระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน ณ สถานที่จัดกิจกรรม โดยไม่มีการเผาเซรามิก

 

When: วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00-22.00 น.

Where: Event Space ชั้น 4 สยาม ทาคาชิมายะ ไอคอนสยาม 

More Info: Siam Takashimaya

 

 

TRACES OF A QUIET SCENE

 

นิทรรศการโดย Thireq Pecko ที่จะพาคุณเข้าไปอยู่ใน ‘ฉากเงียบ’ ซึ่งเงียบพอจะได้ยินเสียงของความรู้สึก ในความว่างเปล่าที่ดูไม่มีอะไร อาจมีบางอย่างซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำ ความรู้สึก หรือร่องรอยของใครบางคนที่เคยอยู่ตรงนั้น

 

ผลงานที่จัดแสดงในงานไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวแบบตรงไปตรงมา แต่ใช้แสง สี เงา และรูปทรงต่างๆ เพื่อสื่อสารกับหัวใจมากกว่าที่ดวงตามองเห็น แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และพลังบางอย่างในตัวมนุษย์ ถูกถ่ายทอดผ่านภาพที่ดูเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความหมาย

 

When: วันนี้ – 3 สิงหาคม 2568 เวลา 11.00-18.00 น.

Where: Joyman Gallery สามยอด 

More Info: Joyman Gallery 

 

 

Spring in Central Park, New York

 

ART IN THE PARK: Spring in Central Park, New York 

ชวนล่องลอยไปกับภาพวาดกลิ่นอายฤดูใบไม้ผลิกลางมหานครนิวยอร์ก นิทรรศการนี้คือภาพวาดสไตล์อิมเพรสชันนิสม์โดย WoodyWind ศิลปินที่ใช้เวลาหลายปีเฝ้าดูการเปลี่ยนผ่านของ Central Park จากความหนาวเหน็บสู่ความสดใสสะท้อนออกมาผ่านปลายพู่กัน ศิลปินผู้เก็บแรงบันดาลใจจากสวนสาธารณะทั่วโลกวาดภาพตรงหน้าให้กลายเป็นงานศิลปะที่อบอุ่นและเยียวยาหัวใจ

 

ภายในนิทรรศการชุดนี้ประกอบด้วยภาพวาด 15 ชิ้น ที่สร้างสรรค์ด้วยสีอะคริลิกบนผ้าใบ และเทคนิคภาพพิมพ์ Woodcut งานนี้จึงไม่ใช่แค่ภาพวาดฤดูใบไม้ผลิ แต่เปรียบเสมือนความรู้สึกของการเริ่มต้นใหม่ ที่เราทุกคนอาจกำลังรออยู่

 

When: วันนี้ – 13 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00-19.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)

Where: River City Bangkok ชั้น 2

More Info: River City Bangkok

 

 

Fluffy Universe

 

Fluffy Universe: จักรวาลปุกปุย คือนิทรรศการเดี่ยวของ JAJA ที่สร้างขึ้นเป็นพื้นที่ใจชั่วคราวสำหรับการพักผ่อนและฟื้นพลัง

 

ภายในงานจัดแสดงภาพวาดอะคริลิก ประติมากรรมขนาดเล็ก และการตกแต่งโทนสีหวานละมุน พร้อมตัวละครหลัก ‘น้องแมวสีขาว’ ที่มีเงาสีชมพูและใบโคลเวอร์สี่แฉกบนหัว สื่อถึงความสุข โชคดี และความหวัง 

 

เบื้องหลังความน่ารักคือประสบการณ์จริงของศิลปินที่เคยผ่านช่วงเวลายากลำบาก ก่อนจะกลับมาหาสิ่งที่รักที่สุดอย่างงานศิลปะ โลกที่เธอสร้างขึ้นได้ตามใจ นิทรรศการนี้จึงไม่ใช่แค่พื้นที่ปลอดภัยแต่คือการเปลี่ยนความรู้สึกหนักหนาให้กลายเป็นพลังอ่อนโยนที่ต้องการส่งต่อถึงผู้อื่นด้วยเช่นกัน

 

When: วันนี้ – 18 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00-19.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)

Where: River City Bangkok ชั้น 3

More Info: River City Bangkok

 

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (24-30 กรกฎาคม 2568) appeared first on THE STANDARD.

]]>
ติดฝนอยู่บ้านไม่ใช่เรื่องแย่ ถ้าเราเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นที่พักใจ https://thestandard.co/life/rainy-season-home-sanctuary Wed, 23 Jul 2025 00:27:00 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1098623 มุมบ้านอบอุ่นสะท้อนในกระจกพร้อมแสงโทนอุ่น

ติดฝนอยู่บ้านไม่ใช่เรื่องแย่ ถ้าเราเปลี่ยนบ้านให้กลายเป […]

The post ติดฝนอยู่บ้านไม่ใช่เรื่องแย่ ถ้าเราเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นที่พักใจ appeared first on THE STANDARD.

]]>
มุมบ้านอบอุ่นสะท้อนในกระจกพร้อมแสงโทนอุ่น

ติดฝนอยู่บ้านไม่ใช่เรื่องแย่ ถ้าเราเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นที่พักใจ

 

ช่วงฝนตกหนัก หลายคนอาจรู้สึกอึดอัดเมื่อจำเป็นต้องอยู่บ้านนานกว่าปกติ แต่แทนที่จะมองว่าเป็นการ “ติดฝน” เป็นเรื่องน่าเศร้า เราอาจใช้เวลานี้ปรับบ้านให้กลายเป็นพื้นที่พักใจที่เข้ามาแล้วไม่อยากออกไปไหนเลย เพราะเสียงฝน แสงสลัว และอากาศเย็นเฉียบอาจเป็นสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบสำหรับการหยุดพักและกลับมาอยู่กับตัวเอง งานวิจัยจาก Frontiers in Psychology (2020) พบว่าเสียงธรรมชาติอย่างเสียงฝนมีส่วนช่วยให้คลื่นสมองเข้าสู่สภาวะสงบ ลดความเครียด และเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายได้จริง

 

มุมบ้านอบอุ่นสะท้อนในกระจกพร้อมแสงโทนอุ่น

 

ดังนั้นการสร้างบรรยากาศที่ช่วยให้จิตใจนิ่งลงอาจทำได้ง่ายกว่าที่คิด เช่น เปลี่ยนมาใช้แสงโทนอุ่นจากโคมไฟหรือเทียนหอมเพื่อให้ห้องไม่สว่างเกินไป เปิดกลิ่นอโรมากลิ่นลาเวนเดอร์หรือไม้ซีดาร์ซึ่งมีผลทางประสาทสัมผัสในการลดความวิตกกังวล (อ้างอิงจาก Harvard Health Publishing) หรือแม้แต่การจัดมุมเล็กๆ ข้างหน้าต่างพร้อมหนังสือเล่มโปรดก็ช่วยให้ใจสงบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บ้านจึงไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่สามารถเป็นพื้นที่ที่พาเรา “หยุด” เพื่อฟังเสียงข้างในได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในวันที่โลกภายนอกเต็มไปด้วยความวุ่นวาย

 

ภาพ: Shutterstock

The post ติดฝนอยู่บ้านไม่ใช่เรื่องแย่ ถ้าเราเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นที่พักใจ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Big Bad Wolf Books 2025 เทศกาลหนังสือภาษาอังกฤษที่ใหญ่ที่สุด จัดที่เมืองทองธานี 7-17 ส.ค.นี้ https://thestandard.co/life/big-bad-wolf-books-2025 Fri, 18 Jul 2025 06:31:15 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1097735 ภาพบรรยากาศงาน Big Bad Wolf Books 2025 ณ เมืองทองธานี เต็มไปด้วยหนังสือภาษาอังกฤษหลายหมวดหมู่

งานนี้หิ้วแค่ตะกร้าอาจไม่พอ เพราะนี่คือเทศกาลหนังสือภาษ […]

The post Big Bad Wolf Books 2025 เทศกาลหนังสือภาษาอังกฤษที่ใหญ่ที่สุด จัดที่เมืองทองธานี 7-17 ส.ค.นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ภาพบรรยากาศงาน Big Bad Wolf Books 2025 ณ เมืองทองธานี เต็มไปด้วยหนังสือภาษาอังกฤษหลายหมวดหมู่

งานนี้หิ้วแค่ตะกร้าอาจไม่พอ เพราะนี่คือเทศกาลหนังสือภาษาอังกฤษที่ใหญ่ที่สุดในโลก กับ ‘Big Bad Wolf Books 2025’ งานหนังสือภาษาอังกฤษที่ยกทุกเล่มทุกแนวมาให้คนรักการอ่านเลือกซื้อ แต่ที่เด็ดกว่านั้นจนทุกคนต้องแวะไปงานทุกปีก็คือ โปรโมชั่นสุดโหดที่อาจทำให้ทุกคนกลายร่างเป็นหมาป่าเพื่อตามล่าเล่มที่ชอบ!

 

ใครที่เคยไปเทศกาล Big Bad Wolf Books มาก่อนจะรู้ดีว่างานนี้ยิ่งใหญ่และละลานตาแค่ไหน เพราะภายในงานเต็มไปด้วยกองหนังสือที่ขนมาครบทุกสไตล์ทุกเรื่องราวจากทั่วโลกจนหลายคนเลือกอ่านไม่ถูก อาทิ หนังสือภาพแบบ Pop-up นิยายคลาสสิก วรรณกรรมเยาวชน หนังสือประวัติศาสตร์ หนังสือสุขภาพและไลฟ์สไตล์ หนังสือท่องเที่ยว คู่มือทำอาหารจากทั่วโลก รวมถึงหนังสือด้านกราฟิก สถาปัตยกรรม และรถยนต์ที่หลายคนถามหาด้วย

 

ทว่าไฮไลต์สำคัญในปีนี้คือ ภายในงานจะมีหนังสือกว่า 2 ล้านเล่ม ที่ขนมาให้ทุกคนเดินซื้อกันจนสะใจกว่าเดิม เนื่องจาก Big Bad Wolf Books 2025 จะจัดขึ้นที่ อิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี ซึ่งตอนนี้สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีชมพูได้แล้ว

 

เพราะฉะนั้น คนที่รักการอ่านอย่างเราๆ จะพลาดงานหนังสือดีๆ แบบนี้ได้อย่างไร

 

Big Bad Wolf Books 2025 จะจัดขึ้นวันที่ 7 – 17 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ อิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Big Bad Wolf Books

 

ภาพ: Big Bad Wolf Books

The post Big Bad Wolf Books 2025 เทศกาลหนังสือภาษาอังกฤษที่ใหญ่ที่สุด จัดที่เมืองทองธานี 7-17 ส.ค.นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (17-23 กรกฎาคม 2568) https://thestandard.co/life/calendar-17-23-july-2025 Thu, 17 Jul 2025 06:00:57 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1097155

สัปดาห์นี้เราคัดสรรกิจกรรมสบายๆ แต่รับรองว่าสนุกสนานเพล […]

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (17-23 กรกฎาคม 2568) appeared first on THE STANDARD.

]]>

สัปดาห์นี้เราคัดสรรกิจกรรมสบายๆ แต่รับรองว่าสนุกสนานเพลิดเพลินมาให้ทุกคนออกไปสัมผัสด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลโคมไฟญี่ปุ่น ปาร์ตี้สุดชิค ตลาดนัดชิลๆ นิทรรศการลึกซึ้งกระตุ้นความเป็นศิลปินในตัวคุณ หรือชวนให้หวนกลับไปคิดถึงความสุขในวัยเยาว์

 

เอาเป็นว่าใครอยากหาอะไรใหม่ทำ ออกไปใช้ชีวิตให้มีชีวิตชีวาช่วงสุดสัปดาห์นี้ ลองมาดูอีเวนต์ที่เราหยิบมาเสิร์ฟให้แล้วกันเลย

 


 

 

VINYL & WINE 1st ANNIVERSARY

 

ร้านไวนิลและไวน์จากจังหวัดเชียงรายเตรียมฉลองครบ 1 ปีที่ได้มาเดบิวต์ไวบ์ดีๆ ให้ชาวกรุงเทพฯ ด้วยดนตรีสดจากวง The Parkinson งานนี้ใครไม่อยากพลาดต้องรีบชวนเพื่อนเลย แล้วมานั่งจิบไวน์ฟังเพลงด้วยกันที่ชั้น 5 โซน EM WONDER ที่ EMSPHERE

 

จองที่นั่งได้ทาง https://lin.ee/en56NZS

 

When: 17 กรกฎาคม 2568 เวลา 18:00 น. เป็นต้นไป

Where: Vinyl & Wine, 5F EM WONDER, EMSPHERE

More Info: IG: EM WONDER (@emwonder)

 


 

 

Morning Affair Vol. 4 

 

Morning Affair ครั้งที่ 4 กลับมาแบบจัดใหญ่จัดเต็ม เพราะนี่คืองาน Coffee Rave แรกของประเทศไทยและเคยสร้างปรากฏการณ์ Sold out ติดต่อกันถึง 3 ครั้ง นับตั้งแต่การจัดครั้งแรกเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา โดยงานนี้เป็นการชวนทุกคนมาเติมพลังพร้อมทำความรู้จักเพื่อนใหม่ผ่านบรรยากาศปาร์ตี้ที่มีกาแฟเป็นตัวนำ แต่การกลับมาในครั้งนี้ทุกคนจะสนุกกว่าครั้งไหน เพราะมีการเพิ่มความมันด้วยการเพิ่มเวทีดีเจเป็น 2 จุด 

ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นคอกาแฟ รักเสียงดนตรี หรือแค่อยากเริ่มต้นวันอาทิตย์ด้วยพลังบวกแบบไม่เหมือนใคร อย่าพลาด Morning Affair ครั้งนี้ โดยบัตรเข้าร่วมราคา 490 บาท/คน รวมเครื่องดื่ม 2 แก้ว สามารถเข้าได้ทั้งสองเวที

ป.ล. จำกัดอายุ 20 ปีขึ้นไป (กรุณาแสดงบัตรประชาชนก่อนเข้างาน)

 

When:  วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.30 – 16.00 น.

Where: Tictactoe, 5F EM WONDER, EMSPHERE

More Info: IG: EM WONDER (@emwonder)

 


 

 

GROOVE by WOLF Wellness

 

มาเปิดจอย Wellness Party แบบใหม่กัน โดยงานนี้ผสานพลังของการเคลื่อนไหว สติ และเสียงดนตรีไว้ในที่เดียว คุณจะได้สัมผัสกับโซน KATSU ที่ชวนคุณดิ่งลึกสู่ความสงบผ่านการทำสมาธิและ Sound Healing, คลาสออกกำลังกายแนวใหม่ที่ BEAM นำโดยดีเจ ทั้ง Functional Training และโยคะ พร้อมกับปาร์ตี้มัทฉะแสนสดชื่นที่ BEAMBAR by BPM ที่มีจังหวะดนตรีมาเติมพลังให้ทั้งวันด้วย

 

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหลากหลายอีกตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น 12 ดีเจ 7 คลาสเคลื่อนไหว เวิร์กช็อปฟรี Wellness Market หรือโซนพักผ่อน 

 

นี่จึงไม่ใช่งาน wellness ทั่วไป แต่ออกแบบมาเพื่อเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมปลุกพลังชีวิตในแบบที่คุณอาจไม่เคยสัมผัสมาก่อน

 

When:  20 กรกฎาคม 2568 เวลา 12.00-21.00 น. 

Where: BEAM Thonglor ในโครงการ 72 Courtyard

More Info: Roxy Thailand

 


 

 

Lantern Art Festival 2025

 

กลับมาอีกครั้งกับเทศกาลโคมไฟสุดสร้างสรรค์ที่สามย่านมิตรทาวน์ พร้อมธีมใหม่ ‘LUMIGAMI – Folding Light, Flowing Vibes’ ที่จะเปลี่ยนค่ำคืนธรรมดาให้เต็มไปด้วยสีสันและแรงบันดาลใจ

 

ในงานนี้ทุกคนจะได้พบกับโคมไฟญี่ปุ่นเพนต์ด้วยมือกว่า 3,000 ดวง ที่ใช้เทคนิคการพับกระดาษแบบ Origami ผสมการระบายที่เข้ากับแสงไฟ นอกจากนี้ยังมีพร้อมกิจกรรมอื่นๆ ให้ร่วมสนุกด้วย เช่น เวิร์กช็อปพับกระดาษและระบายสีโคมไฟ ตลาดนัดรวมของดีไซน์และงานคราฟต์

 

When: วันที่ 18-31 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00-20.00 น.

Where: Samyan Mitrtown

More Info: Samyan Mitrtown

 


 

 

Intersect Vintage Flea Market

 

สายชิค สายชิล สายแฟ ห้ามพลาด กับตลาดนัด ‘INTERSECT Flea Market’ ตลาดนอกกระแสใจกลางเมืองที่รวมทุกอย่างไว้ครบในที่เดียว ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่นสุดจี๊ด อาหารที่คัดสรรมาอย่างดี และดนตรีสดที่ชวนให้โยกเบาๆ 

 

บรรยากาศของงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง จะมาเดินชิล ซื้อของ กินของอร่อย หรือแวะมานั่งฟังดนตรีสบายๆ กับเพื่อนก็น่าสน เพราะฉะนั้นรีบนัดเพื่อนไว้ให้พร้อม แล้วไปเจอกันในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยสไตล์และความสนุกนี้เลย โดยงานเปิดยาวถึงเที่ยงคืน เข้างานฟรี ไม่มีข้ออ้างให้พลาดแล้วล่ะ

 

When: วันที่ 18-20 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.00-00.00 น.

Where: Slowcombo (ข้างสามย่านมิตรทาวน์)

More Info: Lets Intersect

 


 

 

LamunLamai: Blooming Once Again

 

นิทรรศการโดย การ์ตูน-พิรญาณ์ นุชอำพันธุ์ คือการเดินทางกลับเข้าสู่ใจกลางของตัวเอง พื้นที่แห่งการเยียวยา ค้นพบ และเฉลิมฉลองการ ‘กลับมา’ ของบางสิ่งที่เคยเงียบงัน แต่ยังไม่เคยหายไป เหมือนเมล็ดพันธุ์ที่รอเวลาจะผลิใบ 

 

นิทรรศการนี้จึงเป็นการบอกเล่าถึงการฟื้นตัวจากบาดแผล ด้วยภาษาภาพที่อ่อนโยน ละเมียดละไม และเปี่ยมไปด้วยความหวัง LamunLamai จึงไม่ใช่แค่การชมนิทรรศการ แต่มันคือการเปิดใจให้ความเปราะบางได้หายใจ และให้ความกล้าหาญได้เติบโตอีกครั้ง

 

When: วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2025 เวลา 10.30-21.30 น.

Where: ชั้น 2 แมด, มันมัน ศรีนครินทร์

More Info: MMAD – MunMun Art Destination

 


 

 

Morning Affair Vol. 4 

 

Morning Affair ครั้งที่ 4 กลับมาแบบจัดใหญ่จัดเต็ม เพราะนี่คืองาน Coffee Rave แรกของประเทศไทยและเคยสร้างปรากฏการณ์ Sold out ติดต่อกันถึง 3 ครั้ง นับตั้งแต่การจัดครั้งแรกเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา โดยงานนี้เป็นการชวนทุกคนมาเติมพลังพร้อมทำความรู้จักเพื่อนใหม่ผ่านบรรยากาศปาร์ตี้ที่มีกาแฟเป็นตัวนำ แต่การกลับมาในครั้งนี้ทุกคนจะสนุกกว่าครั้งไหน เพราะมีการเพิ่มความมันด้วยการเพิ่มเวทีดีเจเป็น 2 จุด 

 

ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นคอกาแฟ รักเสียงดนตรี หรือแค่อยากเริ่มต้นวันอาทิตย์ด้วยพลังบวกแบบไม่เหมือนใคร อย่าพลาด Morning Affair ครั้งนี้ โดยบัตรเข้าร่วมราคา 490 บาท/คน รวมเครื่องดื่ม 2 แก้ว สามารถเข้าได้ทั้งสองเวที

 

ป.ล. จำกัดอายุ 20 ปีขึ้นไป (กรุณาแสดงบัตรประชาชนก่อนเข้างาน)

 

When:  วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.30-17.00 น.

Where: Tictactoe Bangkok 

More Info: Tictactoe Bangkok

 


 

 

Grow Together: พา “ใจ” ออกเดิน

 

บางเส้นทางอาจไม่ต้องรีบไปให้ถึง แค่ได้ ‘ออกเดิน’ ก็เพียงพอแล้ว 

 

นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ หอม บุลากร จันทรมิตร ภาคต่อของ ‘น้องหน่อไม้’ จาก may you grow: ขอให้เธองอกงาม ครั้งนี้หน่อไม้น้อยจะพาใจของเราทุกคนออกเดินสู่พื้นที่ที่เปิดรับความเปราะบาง ความเข้าใจและการเติบโตจากหลากหลายความรู้สึก ภายในงานพบกับผลงาน Drawing, Painting และ Sculpture ที่ศิลปินตั้งใจสร้างสรรค์ร่วมกับบทกวีโดยคิวเรเตอร์ของงาน ชวนเราค่อยๆ มองเห็นพลังของการเติบโต แม้จะเริ่มจากหัวใจที่แสนบางเบา

 

When: วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2568  เวลา 11.00-20.00 น. (ปิดวันพุธ)

Where: Explode Gallery ชั้น 2 ร้านกาแฟบ้านบางอ้อ จรัญสนิทวงศ์ 84

More Info: Explode Gallery

 


 

 

Happiness is Youthful (ความสุขในวัยเยาว์) 

 

นิทรรศการศิลปะจากศิลปิน 13 คน ที่พาย้อนกลับไปหาความสุขเล็กๆ ในวัยเยาว์ เสียงหัวเราะในสนามเด็กเล่น กลิ่นดินสอสีกล่องใหม่ ความฝันที่ไม่มีกรอบ

 

เมื่อโตขึ้นมีหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามาในชีวิต เราจึงมักหลงลืมสิ่งเหล่านี้ ท่ามกลางบทบาทและความคาดหวังในโลกของผู้ใหญ่

 

นิทรรศการนี้คือพื้นที่ปลอดภัย ที่ศิลปินแต่ละคนใช้ความทรงจำเป็นพู่กัน วาดภาพอดีตที่เต็มไปด้วยพลัง ความหวัง และความสุขที่เรียบง่าย บางชิ้นดูสดใส บางชิ้นชวนคิดถึง แต่ทั้งหมดกำลังชวนเรา ‘กลับไปหาตัวเองในวัยเยาว์’

 

เพราะบางทีความสุขก็ไม่ได้หายไปไหน แค่อยู่ในมุมที่เรายังไม่ได้มองกลับไปเท่านั้นเอง

 

When: วันนี้ – 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 12.00-20.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)

Where: 6060 Arts Space ซ.ประดิพัทธ์ 21 (BTS สะพานควาย)

More Info: 6060 Arts Space

 


 

 

Responding to Nature

 

นิทรรศการโดย Thomas Radzienda ที่จะชวนเราย้อนกลับไปสัมผัสถึงรากเหง้าของความเป็นศิลปินที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของทุกคนเองมาโดยตลอด ผ่านผลงานที่ใช้ ‘ท่อนไม้จากต้นไม้ล้ม’ เป็นวัสดุหลัก เขาสร้างบทสนทนาระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ด้วยภาพวาด บทกวี หนังสือ และเสียงสะท้อนจากความเงียบ แรงบันดาลใจจากภาษาของธรรมชาติ ลวดลาย สีสัน เสียง วัฏจักร และความนิ่ง หลอมรวมเป็นผลงานที่บอกเล่าเรื่องราวเฉพาะของต้นไม้แต่ละต้นและในทุกชิ้นงาน กำลังมีบางสิ่งกระซิบว่า เราทุกคนคือศิลปิน และชีวิตก็อาจเป็นบทกวี หากเรารับฟังธรรมชาติด้วยใจที่เปิดและมือที่อ่อนโยนนั่นเอง

 

When: วันนี้ – 27 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.00-19.00 น.

Where: สารัตถะ สเปซ โรงแรมรีโนบางกอก (BTS สนามกีฬาแห่งชาติ)

More Info: Saratta – สารัตถะ

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (17-23 กรกฎาคม 2568) appeared first on THE STANDARD.

]]>
เมื่อชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน บ้านก็ควรเปลี่ยนตาม https://thestandard.co/life/life-changes-home-changes-too Wed, 16 Jul 2025 10:43:14 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1096799

เมื่อชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน บ้านก็ควรเปลี่ยนตาม   ใน […]

The post เมื่อชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน บ้านก็ควรเปลี่ยนตาม appeared first on THE STANDARD.

]]>

เมื่อชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน บ้านก็ควรเปลี่ยนตาม

 

ในยุคที่เราสื่อสารกันผ่านอีโมจิแค่รูปเดียว แต่กลับเข้าใจได้ทั้งความรู้สึก ความคิด และเจตนา มันก็สะท้อนบางอย่างได้ดีเหมือนกันว่า คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการแสดงออกอย่างตรงจุดและรวดเร็ว เช่นเดียวกับการใช้ชีวิต ที่มักจะเปลี่ยนไปพร้อมๆ กับอารมณ์ ความสัมพันธ์ หรือเป้าหมายในแต่ละช่วง

 

จากคนโสดที่เคยอยู่เงียบๆ ก็อยากแชร์เวลาว่างกับใครสักคน จากคนมีคู่ก็เริ่มมองหาพื้นที่สำหรับลูกน้อย หรือบางคนแค่ต้องการเพื่อนให้น้องหมาเลิกเหงา ชีวิตเปลี่ยนไม่หยุด และทุกการเปลี่ยนแปลงมักตามมาด้วยคำถามว่า “บ้านยังใช่สำหรับเราอยู่ไหม?”

 

 

เพราะเมื่อไลฟ์สไตล์เปลี่ยน พื้นที่ใช้ชีวิตก็ควรเปลี่ยนตาม

 

เหมือนกับที่เราสื่อสารด้วยอีโมจิแทนข้อความยืดยาว คนรุ่นใหม่ก็เริ่มมองหาบ้านที่ตอบโจทย์ชีวิตได้แบบตรงจุด ไม่ต้องมากแต่ต้องใช่ ฟังก์ชันในบ้านที่เคยเพียงพอ อาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไปเมื่อบทบาทในชีวิตเพิ่มขึ้น ทั้งโฮมออฟฟิศที่แยกจากมุมพักผ่อน มุมเล็กๆ ที่กลายเป็นห้องนอนลูก หรือโซนสัตว์เลี้ยงที่ไม่รบกวนพื้นที่หลัก บ้านที่ดีควรยืดหยุ่นได้ เปลี่ยนตามความต้องการเหมือนที่เราเปลี่ยนการใช้ชีวิตในแต่ละช่วงเวลา

 

 

ไม่ว่าชีวิตคุณจะเปลี่ยนไปแค่ไหน AP ก็มีทาวน์โฮม & บ้านแฝด ที่พร้อมเปลี่ยนไปกับคุณ

 

ในโลกที่ผู้คนใช้แค่อีโมจิก็สามารถสื่อสารเรื่องใหญ่ได้ บ้านเองก็ไม่ควรซับซ้อน แต่ควรเข้าใจและปรับตามชีวิตคุณได้ง่ายๆ เช่นกัน AP มีทาวน์โฮมหลากหลายแบบ ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกจังหวะชีวิต ไม่ว่าคุณจะอยู่คนเดียว อยู่เป็นคู่ หรือมีครอบครัวเล็ก ไลฟ์สไตล์คุณจะเปลี่ยนไปแค่ไหน บ้านก็พร้อมเปลี่ยนตามคุณทุกก้าว เพราะพื้นที่ที่ใช่ ไม่ได้แค่ “อยู่ได้” แต่ต้อง “อยู่แล้วเข้าใจ” เหมือนอีโมจิที่ถูกจังหวะในบทสนทนา

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://apthai.ly/TyLLq6 

The post เมื่อชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน บ้านก็ควรเปลี่ยนตาม appeared first on THE STANDARD.

]]>
ไม่ต้องพูดแต่เข้าใจ ทำไมคนยุคนี้นิยมใช้อีโมจิสื่อสารแทนการพูดหรือตัวอักษร https://thestandard.co/life/emoji-trend Sat, 12 Jul 2025 11:00:23 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1094043

ไม่ต้องพูดแต่เข้าใจ    ในยุคดิจิทัลที่การสื่อ […]

The post ไม่ต้องพูดแต่เข้าใจ ทำไมคนยุคนี้นิยมใช้อีโมจิสื่อสารแทนการพูดหรือตัวอักษร appeared first on THE STANDARD.

]]>

ไม่ต้องพูดแต่เข้าใจ 

 

ในยุคดิจิทัลที่การสื่อสารส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันแชตหรือโซเชียลมีเดีย อีโมจิ (Emoji) ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การสนทนามีสีสันและเข้าถึงอารมณ์ได้มากขึ้น เพราะอีโมจิเข้ามาเติมเต็มสิ่งที่การสื่อสารแบบข้อความขาดหายไป นั่นคือ อารมณ์และบริบท ทำให้ผู้คนสามารถแสดงความรู้สึกและสื่อสารความหมายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมความนิยมในการใช้อีโมจิในการสื่อสาร เริ่มแพร่หลายไปสู่คนในหลายๆ เจเนอเรชันถึงขั้นที่ มีการเพิ่มวัน World Emoji Day ขึ้นมา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการสื่อสารรูปแบบนี้ โดยตรงกับวันที่ 17 กรกฎาคมของทุกปี

 

แต่อันที่จริงยังมีเหตุผลอีกมากมายที่วัฒนธรรมนี้เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เราเลยอยากจะมาสรุปเหตุผลว่า ทำไมคนยุคนี้นิยมใช้อีโมจิสื่อสารแทนการพูดหรือตัวอักษร

 

 

อีโมจิช่วยเติมเต็มอารมณ์และบริบทในการสนทนา

 

ในโลกของการสื่อสารแบบข้อความ สิ่งที่มักจะขาดหายไปคือ น้ำเสียง สีหน้า และท่าทาง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารแบบเห็นหน้า อีโมจิเข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างนี้ ทำให้ผู้รับสารสามารถเข้าใจอารมณ์ของผู้ส่งได้ดีขึ้น เช่น การส่งอีโมจิรูปหน้ายิ้ม 😊 จะสื่อถึงความสุข ความเป็นมิตร หรือการเห็นด้วย ในขณะที่อีโมจิหน้านิ่วคิ้วขมวด 😠 อาจหมายถึงความไม่พอใจหรือไม่เห็นด้วย หากไม่มีอีโมจิ ข้อความอาจถูกตีความผิดพลาดได้ง่าย

 

 

อีโมจิช่วยประหยัดเวลาและทำให้การสื่อสารรวดเร็วขึ้น

 

บางครั้งการใช้เพียงอีโมจิเดียวก็สามารถสื่อสารเรื่องราวหรือความรู้สึกได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องพิมพ์ข้อความยาว ๆ เช่น แทนที่จะพิมพ์ว่า “ฉันหัวเราะจนปวดท้องเลย” ก็สามารถส่งเพียง 🤣 หรือ 😹 ได้เลย การใช้อีโมจิจึงช่วยให้การสื่อสารรวดเร็วและกระชับ เหมาะกับวิถีชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน

 

 

อีโมจิเป็นภาษาสากล

 

ไม่ว่าจะเป็นคนไทย คนอเมริกัน หรือคนญี่ปุ่น อีโมจิส่วนใหญ่มีความหมายที่เข้าใจตรงกันในระดับสากล ทำให้การสื่อสารข้ามวัฒนธรรมเป็นไปได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้สื่อสารมีข้อจำกัดทางภาษา อีโมจิสามารถเป็นสะพานเชื่อมให้เข้าใจกันได้มากขึ้น

 

 

อีโมจิช่วยสร้างความสนุกสนานและเป็นกันเอง

 

การใช้อีโมจิทำให้การสนทนาดูมีชีวิตชีวาและเป็นกันเองมากขึ้น ไม่ได้ดูเป็นทางการหรือเคร่งเครียดจนเกินไป ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการสื่อสาร และยังเป็นเครื่องมือในการแสดงความเป็นตัวตนของผู้ใช้แต่ละคนผ่านการเลือกใช้อีโมจิที่หลากหลาย

 

 

อิทธิพลจากวัฒนธรรมป๊อปและโซเชียลมีเดีย

 

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันแชตต่าง ๆ ได้ส่งเสริมการใช้อีโมจิอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มอีโมจิใหม่ ๆ การออกแบบให้มีลักษณะเฉพาะ หรือฟังก์ชันการตอบสนองด้วยอีโมจิ (Reaction) สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้อีโมจิเป็นที่นิยมและถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน

 

[Content in Partnership with AP]

The post ไม่ต้องพูดแต่เข้าใจ ทำไมคนยุคนี้นิยมใช้อีโมจิสื่อสารแทนการพูดหรือตัวอักษร appeared first on THE STANDARD.

]]>