LIFE | LIVING – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sun, 09 Mar 2025 12:44:42 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 แวะคุยกับ Tom Dixon ในรอบ 13 ปี จากแรงบันดาลใจช่วงโควิดสู่ Groove คอลเล็กชันกลางแจ้งตัวแรก https://thestandard.co/life/tom-dixon-interview-groove-outdoor-collection-bangkok Sun, 09 Mar 2025 12:44:42 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1050227 Tom Dixon ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษเปิดตัวคอลเล็กชัน Groove เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี

เป็นเวลากว่า 13 ปีที่เราได้เห็นผลงานของดีไซเนอร์ชื่อดัง […]

The post แวะคุยกับ Tom Dixon ในรอบ 13 ปี จากแรงบันดาลใจช่วงโควิดสู่ Groove คอลเล็กชันกลางแจ้งตัวแรก appeared first on THE STANDARD.

]]>
Tom Dixon ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษเปิดตัวคอลเล็กชัน Groove เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี

เป็นเวลากว่า 13 ปีที่เราได้เห็นผลงานของดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง Tom Dixon วางจำหน่ายที่ร้าน MOTIF แต่ไม่เคยได้เจอตัวจริงของเขาในเมืองไทยสักที จนล่าสุด Tom Dixon ได้เดินทางมาเยือนกรุงเทพฯ ในฐานะจุดแรกของงาน ‘Tom Dixon’s 48 Hours in Bangkok’ ทัวร์เอเชียที่จะพาเขาไปเยือน 5 ประเทศ ใน 9 วัน ทั้งไทย ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ 

 

วันนี้เราเลยได้พบกับเขาที่ Tom Dixon Experience แห่งใหม่ในเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งนับเป็นแห่งที่ 2 ในทวีปเอเชีย 

 

ครั้งนี้นอกจากเราจะได้คุยกับเขาเรื่องอีเวนต์ที่เกิดขึ้นแล้ว เรายังถามถึงคอลเล็กชันเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งอย่าง Groove ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2024 ซึ่งเขาใช้เวลาพัฒนายาวนานถึง 10 ปี

 

บทสนทนาครั้งนี้จะพาเราไปค้นพบแนวคิด Expressive Minimalism ที่ซ่อนอยู่ในคอลเล็กชัน Groove ความท้าทายในการออกแบบที่ใช้เวลาถึง 10 ปี และเหตุใดดีไซเนอร์ชื่อดังถึงมองข้ามเมืองแฟชั่นอย่างมิลานและลอนดอน เพื่อเลือกเปิดตัวในเมืองร้อนๆ อย่างกรุงเทพฯ 

 

ช่วยเล่าให้ฟังถึงงาน Tom Dixon’s 48 Hours in Bangkok หน่อยว่ามันคืออะไร

 

Tom Dixon: ไอเดียคือผมมีแผนเดินทางไปทั่วเอเชีย อย่างเช่น พรุ่งนี้เราจะอยู่ที่ไต้หวัน เราเลยอยากจัดงานที่มีรูปแบบคล้ายกันในหลายๆ ที่ เลยเป็นที่มาของงานนี้ หรือเช่น เมื่อคืนเรามีงานเลี้ยงดื่มสำหรับเพื่อนและอินฟลูเอ็นเซอร์ วันนี้เป็นการสัมภาษณ์สื่อ ช่วงเย็นจะมีทอล์กในโรงภาพยนตร์ที่มีนักออกแบบภายใน สถาปนิก และลูกค้า VIP จากนั้นก็จะมีปาร์ตี้กันต่อ เราอยากให้งานนี้มันพิเศษมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ภายในระยะเวลาสองวันก่อนเดินทางไปไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น และสิงคโปร์

 

แล้วทำไมคุณถึงเลือกกรุงเทพฯ เป็นสถานที่แรกของอีเวนต์นี้ในเอเชีย

 

Tom Dixon: อันนี้ต้องถามคริสเตียน เขาเป็นผู้จัดการของเราในเอเชีย เขาเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าผม (ยิ้ม) ผมคิดว่ามีปัจจัย ทั้งเรื่องเส้นทางการเดินทาง จังหวะเวลา และใครพร้อมที่จะโชว์ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของเรา ซึ่งผมต้องบอกว่าทาง MOTIF มีความกระตือรือร้นมากที่สุดอย่างเห็นได้ชัด

 

 

ล่าสุด MOTIF เปิด Tom Dixon Experience ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ด้วย มันต่างจากปกติอย่างไร

 

Tom Dixon: ตอนนี้ทุกแบรนด์พยายามสร้างพื้นที่เล็กๆ ของตัวเองที่สามารถสร้างจักรวาลของแบรนด์ สำหรับเรามันง่ายกว่าแบรนด์อื่นๆ เพราะเรามีสไตล์ที่คนจดจำได้ง่าย พื้นที่แห่งนี้เป็นเหมือนชุดส่วนประกอบเลโก้ที่ยืดหยุ่น ทำให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงสินค้าได้บ่อย เพราะเรามีแนวคิดใหม่ๆ ตลอดเวลา มันเลยเป็นเรื่องสำคัญที่ร้านจะต้องยืดหยุ่นมากพอสำหรับการปรับเปลี่ยนสินค้า เราตั้งใจทำให้มันเป็นโมดูลาร์ เพื่อให้เราสามารถปรับและพัฒนาพื้นที่ได้บ่อยๆ เพราะคนเราเบื่อเร็วมาก รวมถึงตัวผมเองด้วย แถมเรายังมีสินค้าที่หลากหลาย ทั้งเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่พร้อมจัดวาง

 

Tom Dixon ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษเปิดตัวคอลเล็กชัน Groove เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี

 Tom Dixon Experience

 

และที่นี่ยังมี Groove เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งคอลเล็กชันแรกของแบรนด์ วางโชว์ด้วย ซึ่งเรากำลังนั่งมองมันอยู่เลย ช่วยเล่าให้ฟังถึงคอลเล็กชันนี้หน่อย 

 

Tom Dixon: เรื่องยาวมาก ผมเริ่มจากงานโลหะ เก้าอี้โลหะคือจุดเริ่มต้นของผมก่อนที่จะพัฒนาเป็นสินค้าอื่นๆ อาทิ โคมไฟ แต่ตอนนี้ผมได้กลับมาทำงานโลหะอีกครั้ง เพราะช่วงโควิดทำให้ร้านอาหารทั้งหมดย้ายโต๊ะออกไปข้างนอก ผมเลยได้ไอเดียเรื่องการดีไซน์ที่มีความยืดหยุ่นและการย้ายสิ่งต่างๆ ออกไปข้างนอก ผมอยากให้เรามีเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์สิ่งนั้น ผมคิดว่าการออกแบบจะน่าสนใจยิ่งขึ้นเมื่อคนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม หรือเมื่อเทคโนโลยีเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง

 

ผมพยายามทำเฟอร์นิเจอร์โลหะมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ผมได้เรียนรู้วิธีเสริมความแข็งแรงให้กับโลหะที่บางมากๆ โดยใช้ร่องและลอน และสุดท้ายผมปรับแต่งดีไซน์เพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถผลิตสินค้าเหล่านี้ได้ในราคาที่เหมาะสม สิ่งที่ยากจึงไม่ใช่การออกแบบ แต่เป็นการนำบางสิ่งบางอย่างเข้าสู่การผลิตที่ยังคงรักษาแนวคิดแบบดั้งเดิมไว้ ในขณะที่ราคายังจับต้องได้และใช้งานได้จริง

 

 

คุณใช้เวลาถึง 10 ปีในการสร้างคอลเล็กชันนี้ อยากรู้ว่าอะไรคืออุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด

 

Tom Dixon: อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดคือการทำให้ราคาเหมาะสำหรับคนที่ซื้อหลายๆ ชิ้น ผมอยากเห็นมันในคาเฟ่ ร้านอาหาร ลานเบียร์ และในที่อยู่อาศัย การทำสิ่งที่ดูน่าทึ่งบนปกนิตยสารแต่ไม่มีใครซื้อเป็นเรื่องง่าย ความยากคือการทำให้สิ่งนั้นน่าสนใจและขายได้ การหาจุดสมดุลนี้ค่อนข้างยาก 

 

บางครั้งคนคิดว่าเฟอร์นิเจอร์ภายนอกควรมีราคาที่ถูกกว่าภายในอาคาร แต่ความจริงคือภายนอกมีสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายกว่า นอกจากนี้อะลูมิเนียมยังแตกต่างจากเหล็ก มันเลยเป็นความท้าทายที่ต่างจากงานชิ้นก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง

 

แต่เราจะยังคงเห็นลายเซ็นของ Tom Dixon ในคอลเล็กชัน Groove บ้างไหม

 

Tom Dixon: มันมีสิ่งที่ผมเรียกว่า Expressive Minimalism (ความเรียบง่ายที่แสดงออก) ผมไม่ใส่การตกแต่งอะไรเพิ่มเติม ถ้าคุณดูงานของ Dolce & Gabbana จะเห็นว่ามีรายละเอียดตกแต่งบนพื้นผิวมากมาย แต่ผมชอบให้วัสดุโดดเด่นและให้โครงสร้างเป็นตัวตกแต่ง คุณจะเห็นรูปทรงที่ไม่ซับซ้อนและมอบฟังก์ชันไปพร้อมๆ กัน ผมพยายามทำให้สิ่งต่างๆ ให้เรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

Groove 

 

ทำไมคุณถึงเลือกใช้สี Moss และ Putty สำหรับคอลเล็กชันนี้

 

Tom Dixon: เราคุยกันหนักเรื่องสี เพราะคนเรามักจะมีอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับสี เมื่อทำเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง ผมคิดว่ามันควรมีสีหนึ่งที่กลมกลืนกับธรรมชาติ และอีกสีหนึ่งที่กลมกลืนกับพื้นที่กลางแจ้งในเมือง

 

สี Moss มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นสีที่กลมกลืนกับหญ้าและต้นไม้ สีเขียวอ่อนนี้ใช้งานได้ดีมากกับพื้นที่นอกอาคารทั้งในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ส่วนสี Putty เหมาะกับคอนกรีตมากกว่า เช่น คาเฟ่ในพิพิธภัณฑ์ ลานกว้าง หรือระเบียง ผมต้องการหนึ่งสีสำหรับเมืองและอีกหนึ่งสีสำหรับธรรมชาติ

 

ในอนาคตผมอยากทำอะลูมิเนียมสีธรรมชาติ เพราะมันสวยมากเมื่อเป็นโลหะล้วนๆ และเราจะมีสีเข้มออกมาด้วย ซึ่งยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเป็นสีอะไร

 

Tom Dixon ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษเปิดตัวคอลเล็กชัน Groove เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี

 

ตื่นเต้นไหมกับการเปิดตัวคอลเล็กชัน Groove ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย

 

Tom Dixon: ผมคิดมาตลอดว่าแทนที่จะเปิดตัวในลอนดอนช่วงเดือนกันยายนหรือในมิลานเดือนเมษายน มันจะดีกว่าถ้าเราจะเปิดตัวในเมืองร้อนและไม่ใช่ศูนย์กลางการออกแบบ ดังนั้นเราจึงเปิดตัวในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และคาซาบลังกาในโมร็อกโก หลังจากนี้เราจะไปลอสแอนเจลิสด้วย ผมว่าการเปิดตัวในเมืองที่ร้อนตลอดเวลาเป็นวิธีที่ดีกว่าในการทำคอลเล็กชันนี้

 

 

คุณมีแผนจะร่วมงานกับนักออกแบบจากเมืองไทยบ้างไหม

 

Tom Dixon: สิ่งที่น่าสนใจของเมืองไทยคือมีวัฒนธรรมด้านงานคราฟต์ที่เข้มแข็งมาก ผมสนใจที่จะทำงานร่วมกับช่างฝีมือมากกว่านักออกแบบ เช่น เซรามิกหรือสิ่งทอ ฯลฯ มันเป็นทักษะที่กำลังจะหายไปอย่างรวดเร็วในโลกสมัยใหม่ และเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องอนุรักษ์เอาไว้ ดังนั้นแนวคิดในการทำงานกับช่างฝีมือไทยเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากสำหรับผมในฐานะนักออกแบบ

 

 

ภาพ: MOTIF

The post แวะคุยกับ Tom Dixon ในรอบ 13 ปี จากแรงบันดาลใจช่วงโควิดสู่ Groove คอลเล็กชันกลางแจ้งตัวแรก appeared first on THE STANDARD.

]]>
Gay Speed Dating ถึงเวลาเจอใครคนนั้นแล้ว! จัด 29 มี.ค. นี้ รีบส่งใบสมัครเลย https://thestandard.co/life/gay-speed-dating-bangkok-chim-chim-march-2025 Sat, 08 Mar 2025 11:29:35 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1050069 Gay Speed Dating ครั้งแรกในไทย จัดโดย OMG Matchmaking ที่ Chim Chim Bangkok วันที่ 29 มีนาคม 2568 สำหรับหนุ่มๆ ที่กำลังมองหาความรัก

ในที่สุดกิจกรรมที่คนโสดหลายคนรอคอยก็มาถึง กับอีเวนต์ Sp […]

The post Gay Speed Dating ถึงเวลาเจอใครคนนั้นแล้ว! จัด 29 มี.ค. นี้ รีบส่งใบสมัครเลย appeared first on THE STANDARD.

]]>
Gay Speed Dating ครั้งแรกในไทย จัดโดย OMG Matchmaking ที่ Chim Chim Bangkok วันที่ 29 มีนาคม 2568 สำหรับหนุ่มๆ ที่กำลังมองหาความรัก

ในที่สุดกิจกรรมที่คนโสดหลายคนรอคอยก็มาถึง กับอีเวนต์ Speed Dating ที่จะทำให้คุณได้พบใครสักคนที่ใจตรงกัน แถมรอบนี้ยังจัดทั้งรอบชาย-หญิง และ ชาย-ชาย ใครรู้ตัวว่าไม่อยากโสดแล้วรีบยื่นใบสมัครได้เลย

 

‘OMG! Sugar Crush Speed Dating’ จัดโดย OMG Matchmaking ร่วมกับ Chim Chim Bangkok ห้องอาหารสีสันสุดอาร์ต ที่จะกลายเป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้ลองเปิดใจพบคนใหม่ๆ เผื่อว่าจะได้เจอใครคนนั้นที่ทำให้ใจเต้นแรงได้ภายใน 5 นาที โดยกิจกรรมมี 2 รอบ คือ

 

  • วันที่ 22 มีนาคม Speed Dating สำหรับชาย-หญิง (Male & Female Speed Dating) ปิดรับใบสมัครวันที่ 17 มีนาคมนี้

 

  • วันที่ 29 มีนาคม Speed Dating สำหรับชาย-ชาย (Gay Speed Dating) ปิดรับใบสมัครวันที่ 24 มีนาคมนี้

 

ผู้ที่สมัครและผ่านเข้ารอบเท่านั้นจะได้รับอีเมลตอบกลับเพื่อซื้อบัตรเข้าร่วมกิจกรรม โดยทุกคนสามารถสมัครได้ที่: https://linktr.ee/omgmatchmaking

 

สำหรับค่าเข้าร่วมกิจกรรม ราคา 1,499 บาทต่อคน เดตได้ 10+ ครั้ง พร้อมได้รับอาหารและเครื่องดื่ม โดยกิจกรรมเริ่มเวลา 19.00-22.00 น. ทั้งสองรอบ สถานที่คือ Chim Chim Bangkok ใน Siam@Siam Design Hotel Bangkok ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ

 

สอบถามหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ OMG Matchmaking  หรือ Chim Chim Bangkok

The post Gay Speed Dating ถึงเวลาเจอใครคนนั้นแล้ว! จัด 29 มี.ค. นี้ รีบส่งใบสมัครเลย appeared first on THE STANDARD.

]]>
Alpha Skills Summit 2025 อีเวนต์รวมทุกความรู้เพื่อ Gen Alpha https://thestandard.co/life/alpha-skills-summit-2025-bangkok-child-development-event Sat, 08 Mar 2025 09:51:14 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1050042 Alpha Skills Summit 2025 งานใหญ่เพื่อเตรียมพร้อมลูกสู่อนาคต จัดที่ทรูไอคอน ฮอลล์ ไอคอนสยาม วันที่ 7-9 มีนาคม พบกับเวทีเสวนา พื้นที่เล่น และบูธสินค้าสำหรับเด็ก

เหลืออีก 1 วันเท่านั้นกับ ‘Alpha Skills Summit 2025’ งา […]

The post Alpha Skills Summit 2025 อีเวนต์รวมทุกความรู้เพื่อ Gen Alpha appeared first on THE STANDARD.

]]>
Alpha Skills Summit 2025 งานใหญ่เพื่อเตรียมพร้อมลูกสู่อนาคต จัดที่ทรูไอคอน ฮอลล์ ไอคอนสยาม วันที่ 7-9 มีนาคม พบกับเวทีเสวนา พื้นที่เล่น และบูธสินค้าสำหรับเด็ก

เหลืออีก 1 วันเท่านั้นกับ ‘Alpha Skills Summit 2025’ งานเตรียมพร้อมลูกสู่อนาคตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมทุกความรู้และเครื่องมือสำคัญในการพัฒนา Generation Alpha ไว้ในงานเดียว งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 มีนาคม 2568 ณ ทรูไอคอน ฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม 

 

ไฮไลต์ของงานเป็น Main Stage เวทีเสวนาสนุกๆ ที่ชวนคุณหมอ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ มาแชร์ความรู้ในประเด็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคใกล้ตัวที่คาดไม่ถึง เทคนิคการเลี้ยงลูกในยุค AI หรือแม้แต่การทำความเข้าใจและการสอนเรื่องเพศให้กับลูก ฯลฯ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่สามารถปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ทัน 

 

 

นอกจากเวทีเสวนา ภายในงานยังมีโซนอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น การออกบูธสินค้าสำหรับเด็กที่ไม่ใช่แค่ข้าวของเครื่องใช้ แต่ยังรวมคลาสเสริมพัฒนาการหรือกิจกรรมเอาต์ดอร์เพื่อเสริมสร้างความสามารถ โซน Play Space รวมเครื่องเล่นนานาชนิด พื้นที่ปลอดภัยเสริมพัฒนาการ บอกเลยว่าไม่ใช่แค่เด็ก แต่ผู้ใหญ่เองก็ยังอยากเล่นเช่นกัน 

 

ส่วนใครที่มองหาความรู้เฉพาะทาง เวที Mini Stage ก็เตรียมประเด็นที่น่าสนใจไว้ให้นั่งฟังกันฟรี ใครที่พลาดงานในวันนี้ พรุ่งนี้ยังมีหัวข้อเสวนาสุดพิเศษอีกมากมาย มาร่วมกันปั้นอนาคตของ Gen Alpha ให้แข็งแกร่งไปด้วยกัน! 

 

Alpha Skills Summit 2025 งานใหญ่เพื่อเตรียมพร้อมลูกสู่อนาคต จัดที่ทรูไอคอน ฮอลล์ ไอคอนสยาม วันที่ 7-9 มีนาคม พบกับเวทีเสวนา พื้นที่เล่น และบูธสินค้าสำหรับเด็ก Alpha Skills Summit 2025 งานใหญ่เพื่อเตรียมพร้อมลูกสู่อนาคต จัดที่ทรูไอคอน ฮอลล์ ไอคอนสยาม วันที่ 7-9 มีนาคม พบกับเวทีเสวนา พื้นที่เล่น และบูธสินค้าสำหรับเด็ก Alpha Skills Summit 2025 งานใหญ่เพื่อเตรียมพร้อมลูกสู่อนาคต จัดที่ทรูไอคอน ฮอลล์ ไอคอนสยาม วันที่ 7-9 มีนาคม พบกับเวทีเสวนา พื้นที่เล่น และบูธสินค้าสำหรับเด็ก

 

ซื้อบัตรและดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://thestandard.co/alphaskillssummit2025 

The post Alpha Skills Summit 2025 อีเวนต์รวมทุกความรู้เพื่อ Gen Alpha appeared first on THE STANDARD.

]]>
มาเปลี่ยน โทนสีบ้าน ให้ใจเย็นลงถึงแม้อากาศจะร้อนก็ตาม https://thestandard.co/life/cool-down-home-paint Sat, 08 Mar 2025 01:00:54 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1049836 cool-down-home-paint

ถึงอุณหภูมิจะไม่ได้เย็นลง ขอแค่ใจเย็นก็ยังดี   ตอน […]

The post มาเปลี่ยน โทนสีบ้าน ให้ใจเย็นลงถึงแม้อากาศจะร้อนก็ตาม appeared first on THE STANDARD.

]]>
cool-down-home-paint

ถึงอุณหภูมิจะไม่ได้เย็นลง ขอแค่ใจเย็นก็ยังดี

 

ตอนนี้ประเทศไทยของเราก้าวเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะทำอะไรก็รู้สึกร้อน อึดอัดไปหมด แม้แต่การอยู่บ้านเฉยๆ ยังรู้สึกร้อนเลย ในด้านของอุณหภูมิความร้อนเรายังสามารถแก้ได้ด้วยการเปิดพัดลม เปิดแอร์ ทำให้อากาศดีขึ้น ถ่ายเทขึ้น แต่ในด้านความรู้สึกที่มองอะไรก็รู้สึกมันร้อนไปหมด! ส่วนนี้แก้ได้ง่ายๆ ด้วยการปรับโทนสี เพราะโทนสีมีผลต่อความรู้สึกของมนุษย์ วันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำการปรับโทนสีบ้านด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้บรรยากาศในบ้านส่งเสริมให้เราใจเย็นลง

 

เลือกสี Cool Tone เพื่อสร้างบรรยากาศที่เย็นสบาย

 

เลือกสี Cool Tone เพื่อสร้างบรรยากาศที่เย็นสบาย

 

อย่างที่เราเกริ่นไปว่าโทนสีมีผลต่อความรู้สึกของเรา และโทนสีที่เหมาะฤดูร้อนแบบสุดๆ นั่นคือ โทนสีเย็น (Cool Tone) ได้แก่ สีฟ้า สีน้ำเงิน และสีเขียว โทนสีเหล่านี้ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และเยือกเย็น เหมาะสำหรับการสร้างบรรยากาศที่เย็นสบายในบ้านช่วงฤดูร้อน พยายามหลีกเลี่ยงสีโทนร้อนอย่างสีแดง สีส้ม สีเหลือง เพราะจะทำให้รู้สึกถึงความตื่นเต้น ความกระฉับกระเฉง

 

จับสี Cool Tone ไปอยู่ในส่วนต่างๆ

 

จับสี Cool Tone ไปอยู่ในส่วนต่างๆ

 

หลังจากเราได้โทนสีที่ใช่แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการนำสีเหล่านั้นไปอยู่ในส่วนต่างๆ ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นผนังบ้าน พื้นบ้าน สำหรับคนที่อยากให้ภาพรวมดูเย็นสุดๆ แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่าการทาสีผนังใหม่ดูเป็นเรื่องใหญ่ ลองเปลี่ยนเป็นให้สีโทนเย็นไปอยู่ในเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ ที่เราใช้บ่อยๆ อย่างเช่น โต๊ะ โซฟา หรือพรม

 

สีอื่นๆ ที่มีผลทำให้ใจเราเย็นลง

 

สีอื่นๆ ที่มีผลทำให้ใจเราเย็นลง

 

แต่สำหรับใครที่อาจจะไม่ได้ชื่นชอบสีฟ้า สีเขียว ยังมีโทนสีอีกหลายสีที่เหมาะกับการแต่งบ้านในช่วงฤดูร้อน เช่น สีขาว-ครีม ทำให้บ้านดูโล่ง โปร่ง และไม่อมความร้อน หรือสีพีช-ชมพูพาสเทล ให้ความรู้สึกนุ่มนวล อบอุ่น แต่ยังสดใส

The post มาเปลี่ยน โทนสีบ้าน ให้ใจเย็นลงถึงแม้อากาศจะร้อนก็ตาม appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘Life ลาดพร้าว แวลลีย์’ คอนโดติด BTS ห้าแยกลาดพร้าว เปิดโปรโมชันปิดตึกสำหรับ 10 ยูนิตสุดท้าย 8-9 มี.ค. นี้ [PR NEWS] https://thestandard.co/life/life-ladprao-valley-promo Fri, 07 Mar 2025 10:00:35 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1049288 life-ladprao-valley-promo

เตรียมย้ายมาลาดพร้าว ย่านที่รายล้อมด้วยความสะดวกสบายกับ […]

The post ‘Life ลาดพร้าว แวลลีย์’ คอนโดติด BTS ห้าแยกลาดพร้าว เปิดโปรโมชันปิดตึกสำหรับ 10 ยูนิตสุดท้าย 8-9 มี.ค. นี้ [PR NEWS] appeared first on THE STANDARD.

]]>
life-ladprao-valley-promo

เตรียมย้ายมาลาดพร้าว ย่านที่รายล้อมด้วยความสะดวกสบายกับโปรปิดตึกของ ‘Life ลาดพร้าว แวลลีย์’ ตรงข้ามเซ็นทรัล ลาดพร้าว ติด BTS และ MRT จะอยู่ก็ตอบทุกโจทย์ของชีวิต จะปล่อยเช่าก็คุ้มค่า

 

8-9 มีนาคมนี้ พบโปรปิดตึกโครงการ Life ลาดพร้าว แวลลีย์ ตรงข้ามเซ็นทรัล ลาดพร้าว ติดอินเตอร์เชนจ์สเตชัน สถานีห้าแยกลาดพร้าว ปล่อยเช่าง่าย Yield 5%

 

📍ลาดพร้าว ทำเลที่มองในแง่อยู่เองก็สะดวกมากๆ หรือจะซื้อไว้ลงทุนก็คุ้มค่า ตอบโจทย์ทุกแง่มุมของความต้องการ

 

Life ลาดพร้าว แวลลีย์คอนโดติด BTS ห้าแยกลาดพร้าว

 

🏢มองในแง่ของการอยู่อาศัย

  • รายล้อมด้วยโรงแรมและมหาวิทยาลัยชื่อดัง
  • ใกล้รถไฟฟ้าอินเตอร์เชนจ์ทั้ง BTS และ MRT
  • ใกล้ทางด่วน เชื่อมต่อสนามบินดอนเมืองได้ภายใน 15 นาที

 

💸มองในแง่ของการลงทุน

  • ทำเลนี้ถือเป็นจุดที่มีศักยภาพสูง
  • ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
  • อยู่ในพื้นที่ขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาต่อเนื่อง
  • ปล่อยเช่าง่าย ดีมานด์มีแน่นอน

 

Life ลาดพร้าว แวลลีย์คอนโดติด BTS ห้าแยกลาดพร้าว

Life ลาดพร้าว แวลลีย์คอนโดติด BTS ห้าแยกลาดพร้าว

Life ลาดพร้าว แวลลีย์คอนโดติด BTS ห้าแยกลาดพร้าว

 

🌳ตอกย้ำความน่าอยู่ของโครงการด้วยพื้นที่ส่วนกลางกว่า 39 โซน ภายใต้แนวคิด Luxury Adventure จัดเต็มกว่า 4 ชั้น ตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิต ครบครันด้วยกิจกรรมแบบ Active และ Passive จะไลฟ์สไตล์แบบไหนก็ครบ จบ ที่นี่จริงๆ

 

Life ลาดพร้าว แวลลีย์คอนโดติด BTS ห้าแยกลาดพร้าว

 

โอกาสสุดท้ายจริงๆ ย้ำอีกครั้งว่าคุ้มที่สุดตั้งแต่เปิดขายมา

10 ยูนิตสุดท้าย การันตีราคาดีที่สุด ชั้นไหนก็ราคาเดียว ➤ https://apth.ly/8jf6 

 

Life ลาดพร้าว แวลลีย์คอนโดติด BTS ห้าแยกลาดพร้าว

 

💥ดีลแรง พร้อมซัพพอร์ตโบนัส 4 ต่อ มูลค่ากว่า 350,000 บาท*

🔥ฟรีค่าส่วนกลาง 24 เดือน*

🔥ฟรีพรีเมียมเฟอร์นิเจอร์ยกห้อง*

🔥ฟรีผ้าม่าน*

🔥ฟรีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต*

 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

The post ‘Life ลาดพร้าว แวลลีย์’ คอนโดติด BTS ห้าแยกลาดพร้าว เปิดโปรโมชันปิดตึกสำหรับ 10 ยูนิตสุดท้าย 8-9 มี.ค. นี้ [PR NEWS] appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘ASAHIKAWA SERIES’ เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงสไตล์ Mid-Century ที่ถ่ายทอดวิถีชีวิตแบบ ‘ย้อนยุคแต่เรียบง่าย-ดั้งเดิมแต่ร่วมสมัย’ [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/life/asahikawa-series-mid-century Thu, 06 Mar 2025 05:00:55 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1048378

ถ้าคุณกำลังมองหาสไตล์การแต่งบ้านที่ถ่ายทอดวิถีชีวิตแบบย […]

The post ‘ASAHIKAWA SERIES’ เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงสไตล์ Mid-Century ที่ถ่ายทอดวิถีชีวิตแบบ ‘ย้อนยุคแต่เรียบง่าย-ดั้งเดิมแต่ร่วมสมัย’ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

ถ้าคุณกำลังมองหาสไตล์การแต่งบ้านที่ถ่ายทอดวิถีชีวิตแบบย้อนยุคแต่เรียบง่าย ดั้งเดิมแต่ร่วมสมัย งานดีไซน์สไตล์ ‘Mid-Century’ น่าจะตอบโจทย์ที่สุด 

 

เส้นสายเรียบง่าย เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย สะท้อนถึงการแสวงหาความรื่นรมย์และอิสรภาพในการใช้ชีวิต คือตัวตนที่ชัดเจนของ ‘Mid-Century’ ก่อให้เกิดการคิดหาวัสดุใหม่ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของสไตล์ Mid-Century ที่หลอมรวมความงามจากธรรมชาติเจือกลิ่นอาย Bauhaus ด้วยรูปทรงเรขาคณิต ความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เน้นใช้สัจวัสดุเป็นหลัก 

 

การหวนกลับของกระแสนิยม Mid-Century เกิดขึ้นอีกครั้งในปี 1984 หลังหนังสือ Mid-Century Modern: Furniture of the 1950s ที่เขียนโดย Cara Greenberg (คารา กรีนเบิร์ก) วางจำหน่าย ผู้เขียนไม่เพียงบัญญัติคำว่า ‘Mid-Century Modern’ แต่ได้สร้างปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่ส่งอิทธิพลต่อสังคมในวงกว้าง ผ่านความเรียบง่าย ประโยชน์ใช้สอย และความงามที่ไม่มีวันล้าสมัย ​​​​​​​​​​​​

 

เธอเพิ่งให้สัมภาษณ์กับ Dezeen นิตยสารออนไลน์ด้านงานออกแบบและสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เกี่ยวกับวัฏจักรของงานดีไซน์ เธอบอกว่า “Mid-Century คือความคลาสสิก และมันจะไม่มีวันหายไปไหน”  

 

 

เมื่อเสน่ห์ของ ‘Mid-Century’ คือความเรียบง่ายในรูปทรงแต่ยังคงฟังก์ชันครบครัน เมื่อนำไปจัดวางกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์ไหนก็ไม่เคอะเขิน สร้างบรรยากาศที่สงบ ไม่หวือหวา แต่ซ่อนความหรูหราแบบไม่ตะโกน

 

ที่สำคัญ Mid-Century ยังมีกลิ่นอายของอดีตแทรกซึม จึงตอบโจทย์เทรนด์ Nostalgia Living ของคนที่โหยหาชีวิตเรียบง่าย เน้นความรู้สึกผูกพันเหมือนในอดีต จึงเชื่อมโยงช่วงเวลาวันวานเข้ากับปัจจุบันผ่านการตกแต่ง ทำให้การแต่งบ้านสไตล์นี้เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน 

 

 

แต่งบ้านสไตล์ Mid-Century ต้องให้เฟอร์นิเจอร์เป็นพระเอก 

 

สุนทรียศาสตร์แบบ Mid-Century คือการเน้นเส้นสายที่เรียบง่ายและการใช้วัสดุที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติกับสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นอย่างลงตัว  

 

ถ้าอยากถ่ายทอดสไตล์ Mid-Century ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น การเลือก ‘เฟอร์นิเจอร์’ ที่ถูกต้องคือสิ่งสำคัญ นี่คือเหตุผลที่เราอยากให้คุณได้รู้จัก ‘ASAHIKAWA’ (อา-ซา-ฮิ-กา-วะ) เฟอร์นิเจอร์ซีรีส์ใหม่ล่าสุดของ ‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’  

 

 

‘ASAHIKAWA SERIES’ เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงสไตล์ Mid-Century บอกเล่าเรื่องราวผ่านวัสดุไม้ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากงานไม้จริงคุณภาพจากเมือง Asahikawa ประเทศญี่ปุ่น ผสานการใช้วัสดุที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ไม้ยางพารา ไม้รีไซเคิล เหล็กชุบโครม หวายธรรมชาติ และการสร้างสรรค์ด้วยเส้นสายเรขาคณิตที่มีสัดส่วนสมดุลระหว่างความดั้งเดิมและทันสมัย ทำให้ ‘ASAHIKAWA SERIES’ เป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงที่ดูสนุก แต่ไม่ลดทอนความคลาสสิก ดีไซน์ครบฟังก์ชัน ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น มุมทำงาน และมุมครัว

 

ASAHIKAWA SERIES

 

เตียงไม้จริงขนาด 5 ฟุต และ 6 ฟุต โดดเด่นด้วยการดีไซน์ขอบโค้งของหัวเตียงให้โค้งมนเป็นธรรมชาติสอดรับกับการออกแบบขาโลหะชุบโครมที่โค้งมนเช่นกัน สะท้อนเสน่ห์ย้อนยุคได้อย่างดี เข้าคู่กับ ‘โต๊ะข้างเตียง’ ที่สวยงามด้วยงานไม้ฉลุลายเรขาคณิตซ้อน 2 สี สร้างมิติที่แตกต่าง

 

 

ตู้เสื้อผ้ากระจกใส 4 บาน มาพร้อมมือจับเหล็กชุบโครม ราวแขวน 2 ชั้น และราวแขวนชุดยาว ลดทอนดีเทลที่ไม่จำเป็น แต่คงไว้ซึ่งฟังก์ชันครบครัน 

 

 

โต๊ะเครื่องแป้ง โดดเด่นด้วยการดีไซน์กระจกเข้ามุม 45 องศา ช่วยเพิ่มมุมมองที่แปลกใหม่และความสนุกให้กับผู้ใช้งาน มาพร้อมลิ้นชักหน้าบานกดกระเด้ง 

 

ASAHIKAWA SERIES

 

มาสเตอร์พีชของ ‘ASAHIKAWA SERIES’ ที่ถ่ายทอดความสมดุลระหว่างความดั้งเดิมแต่ร่วมสมัยได้อย่างชัดเจนที่สุดก็คือ ‘โต๊ะกลาง’ เป็นการคอนทราสต์ระหว่างไม้ หวาย เหล็ก และกระจกที่เพิ่มความสนุกให้กับชิ้นงานได้อย่างลงตัว และยังเพิ่มมิติด้วยเลเยอร์โต๊ะสองระดับ จึงสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์  

 

 

จัดวางเข้าคู่กับโซฟาต่างขนาดกับที่นั่งบุนวม เพิ่มความสนุกให้กับมุมต่างๆ ของห้องนั่งเล่นด้วยตู้วางทีวีที่เล่นกับเสน่ห์ลวดลายไม้ธรรมชาติให้สนุกยิ่งขึ้นด้วยกระจกสีชาดำแบบ Seamless Push-to-Open และลูกเล่นของขาโลหะชุบโครมทรงโค้งช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ดูอบอุ่นและสนุกยิ่งขึ้น 

 

 

โต๊ะทำงานที่รวมทุกฟังก์ชันการใช้งาน ทั้งพื้นที่ทำงานที่กว้าง ลิ้นชั้นและช่องเก็บของที่หยิบง่ายใช้สะดวก มาพร้อมช่องต่อ USB และลำโพงบลูทูธในตัว 

 

ASAHIKAWA SERIES

 

โต๊ะรับประทานอาหาร มาสเตอร์พีชอีกชิ้นที่จะเปลี่ยนห้องกินข้าวของคุณให้อบอวลไปด้วยบรรยากาศแสนอบอุ่นของวันวาน ท็อปโต๊ะใช้วัสดุไม้จริงทรงวงรีโค้งมน ช่วยสร้างความรู้สึกใกล้ชิดและผ่อนคลาย มาพร้อมชุดเก้าอี้โครงเหล็กชุบโครม ดูทันสมัย พนักพิงใช้กรอบไม้ยางพารา ประดับด้วยลายหวายจริงสุดคลาสสิกและมีเอกลักษณ์ 

 

Buffet Cabinet เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอกที่ตอบโจทย์การจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบให้กับมุมครัว ด้วยดีไซน์เรียบง่าย ใช้งานสะดวก มาพร้อม LED ปรับแสงได้ 3 โทนสี ได้แก่ Warm White, Cool White และ Daylight จะดีไซน์เป็นมุมกาแฟหรือมุมสำหรับเตรียมอาหารก็ได้ 

 

อีกหนึ่งความโดดเด่นของซีรีส์นี้คือ หลักคิดเพื่อสร้างความยั่งยืน เน้นการใช้วัสดุไม้จริงตามคอนเซปต์ ‘Real Wood For Modern Living’ ด้วยการใช้ไม้ยางพาราที่ไม่สามารถผลิตน้ำยางได้แล้วมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกษตรกร พร้อมกันนี้ยังได้ผสานไม้ MDF Forescolor ไม้รีไซเคิล เป็นการส่งเสริมการใช้วัสดุอย่างรู้ค่าเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน 

 

ใครที่อยากให้การแต่งบ้านสไตล์ Mid-Century สนุกขึ้นมาอีกหน่อย อย่าลืมหยอดกิมมิกสนุกๆ ด้วยของแต่งบ้านอย่าง โคมไฟ พรม แจกัน เข้าไปด้วย จะยึดฟอร์มที่เรียบง่าย เน้นรูปทรงเรขาคณิตให้ล้อไปกับสไตล์หลัก หรือจะฉีกกรอบหยอดสไตล์อื่นๆ เข้าไปก็ยังได้ เพราะอย่างที่บอก ‘ความเรียบง่าย’ ของสไตล์ Mid-Century จับคู่กับสไตล์ไหนก็ไม่เขิน 

 

ถ้าไม่เชื่อ…ลองเลือกเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Mid-Century จาก ASAHIKAWA SERIES สักชิ้นมาแต่งบ้าน ที่ www.indexlivingmall.com หรือจะแวะเข้าไปดูสินค้าจริงได้ที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถาม โทร. 1379   

 

อ้างอิง:

The post ‘ASAHIKAWA SERIES’ เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงสไตล์ Mid-Century ที่ถ่ายทอดวิถีชีวิตแบบ ‘ย้อนยุคแต่เรียบง่าย-ดั้งเดิมแต่ร่วมสมัย’ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
คุยกับ บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแต่สวยงามของเอกมัยและ Reference Ekkamai https://thestandard.co/life/simple-elegance-ekkamai Thu, 06 Mar 2025 01:00:33 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1043238 simple-elegance-ekkamai

พูดคุยกับคนที่หลงรักความเรียบง่ายแต่สวยงามของ Reference […]

The post คุยกับ บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแต่สวยงามของเอกมัยและ Reference Ekkamai appeared first on THE STANDARD.

]]>
simple-elegance-ekkamai

พูดคุยกับคนที่หลงรักความเรียบง่ายแต่สวยงามของ Reference Ekkamai ดีไซน์คอนโดใหม่ ใจกลางเอกมัย

 

การจะเลือกที่อยู่อาศัยสักหนึ่งที่ คุณคิดว่าต้องมีปัจจัยอะไรบ้าง? สภาพแวดล้อมที่ดี การเดินทางที่สะดวก หรือแม้แต่อาหารการกินที่หลากหลาย ซึ่งย่านเอกมัยคือหนึ่งในย่านที่มีครบในทุกมิติ จนใครหลายคนหลงรัก เช่นเดียวกันกับที่ บอย-พงศ์ภัทร เอื้อสังคมเศรษฐ์ หลงรักย่านนี้ จนเลือกใช้ชีวิตอยู่ในเอกมัยมาหลายปี บอยเล่าว่าเขาเป็นสถาปนิกและเป็นเจ้าของออฟฟิศ Anonym Studio ซึ่งตั้งอยู่ในเอกมัย และบอยเองก็มีบ้านอยู่ที่เอกมัย ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของย่านนี้มาโดยตลอด เอกมัยเป็นย่านที่มีเสน่ห์ในหลายๆ ด้าน ทั้งผู้คน บรรยากาศที่คึกคัก แต่ไม่ได้วุ่นวายมาก ร้านค้าหรือสถานที่ต่างๆ ก็ดูตอบโจทย์ชีวิตคนยุคใหม่ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้บอยอยากมีที่อยู่อาศัยอีกสักหนึ่งที่ในเอกมัย

 

 

แต่โจทย์ของบอยคือการหาคอนโดที่ดีไซน์เรียบง่าย ไม่ดูเยอะเกินไป แต่สวยงามอยู่เหนือกาลเวลา และสุดท้ายบอยก็เลือกคอนโด Reference Ekkamai เป็นบ้านอีกหนึ่งหลัง แต่ในเมื่อบอยอาศัยอยู่ในย่านนี้อยู่แล้ว เราจึงสงสัยว่า “แล้วทำไมถึงซื้อคอนโดอีกหลังในย่านเดิมที่ใช้ชีวิตอยู่” และ “ในมุมมองของคนรักงานดีไซน์ ทำไมถึงเลือก Reference Ekkamai” วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน 

 

ในฐานะที่บอยเป็นชาวเอกมัยมาอย่างยาวนาน เราเลยอยากจะรู้ว่าชาวเอกมัยเขามีมุมมองต่อย่านนี้อย่างไรบ้าง และเสน่ห์ของเอกมัยคืออะไร

 

บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแ

 

“ผมว่าเอกมัยเป็นย่านที่มีการพัฒนาแต่ยังคงน่ารัก” นี่คือประโยคแรกที่บอยพูดขึ้นมา เพราะในแต่ละช่วงบนถนนเอกมัยจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป อย่างช่วงปากซอยมีทั้งโรงหนังและยิม ถัดมามีร้านอาหาร หลังจากนั้นมีที่พักอาศัย นอกจากนั้นเอกมัยยังเป็นย่านที่เหมาะกับการเดิน เพราะถนนเป็นเส้นตรง เข้าใจง่าย แถมทางเท้าก็กว้างสบาย บอยบอกว่าความกว้างแบบนี้ให้ติดอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ เลย

 

บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแ

 

และในอีกมุมบอยมองว่าเอกมัยมีความเป็นพื้นที่ของคน Quiet Luxury มีความหรูหราแต่ไม่ตะโกน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของโครงการ Reference Ekkamai ที่มีความหรูหรา ดูเรียบนิ่ง แต่ Tasteful และให้ความรู้สึกสบาย ไม่ต้องตกแต่งเยอะจนเกินไป อีกทั้งยังอยู่เหนือกาลเวลา 

 

จากที่ได้นั่งคุยกับบอยมาสักระยะก็ได้รู้ว่าบอยอยู่ที่เอกมัยมาเกิน 10 ปีแล้ว ซึ่งเขามีออฟฟิศอยู่ที่เอกมัยและมีบ้านอยู่ที่เอกมัยด้วย และล่าสุดบอยก็ได้ตัดสินใจมาเป็นลูกบ้านของ Reference Ekkamai อีก เราเลยอยากรู้ว่าการเลือกดีไซน์คอนโดในย่านเอกมัยต่างจากย่านอื่นอย่างไร

 

บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแ

 

บอยเล่าว่า “อาจจะไม่สามารถเทียบกับย่านอื่นได้ แต่ถ้าเทียบกับทองหล่อหรือปรีดี พนมยงค์ เอกมัยจะเป็นย่านที่เรียบง่ายกว่า ด้วยความที่ถนนเป็นเส้นตรง เทียบกับย่านข้างๆ ที่มีความโค้งของถนน ทำให้รู้สึกตรงไปตรงมา ในอีกมุมย่านนี้ก็เป็นย่านที่ไลฟ์สไตล์มีความ Flexible กว่า มีทั้งร้านอาหารหรูไปยันร้านเก่าแก่ เป็นเหมือนย่านที่ Lively เหมาะกับคนหลายเจเนอเรชัน” 

 

บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแ

 

บอยแอบพูดถึงไลฟ์สไตล์มาคร่าวๆ เราเลยอยากเจาะลึกว่า สำหรับบอยไลฟ์สไตล์ในเอกมัย ในหนึ่งวันสามารถทำอะไรได้บ้าง

บอยบอกกับเราว่าหนึ่งวันสามารถทำได้หลายอย่างมาก เริ่มตั้งแต่เรื่องกินที่มีตัวเลือกร้านที่หลากหลาย รวมไปถึงคาเฟ่ที่มีเยอะมากๆ แทบจะมีอะไรให้กินทั้งวัน และในปัจจุบันก็เริ่มมีออฟฟิศเข้ามาอยู่ในเอกมัยมากขึ้น รวมถึงยิมที่มีหลายที่ในย่านนี้ 

 

บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแ

 

อินกับความเป็นเอกมัยไปแล้ว เราเลยอยากมาถามถึงมุมมองในด้านการออกแบบกันบ้าง ในฐานะที่บอยก็เป็นหนึ่งในนักออกแบบชื่อดัง ว่างานออกแบบที่เป็น Passage of Time สำหรับบอยหมายถึงอะไร

 

บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแ

 

Passage of Time ก็คือหนึ่งในหัวใจหลักในการออกแบบคอนโดนี้ ซึ่งมันตรงกับความชอบของบอยที่มันเรียบง่าย ไม่ต้องตะโกน บอยบอกว่า “ผมเป็นคนชอบงานที่มันดูมีจังหวะเรียบๆ ผมรู้สึกว่ามัน Timeless กว่า” ซึ่งความเรียบนี้มันเข้ากับบริบทของเอกมัยที่ทันสมัยหน่อย เข้ากับวัยรุ่นถึงวัยกลางคน

 

สลับกลับมาที่มุมมองของลูกบ้านกันบ้าง เราอยากถามบอยในฐานะคนที่ค่อนข้างเข้าใจเทรนด์การอยู่อาศัย ว่าในมุมมองของบอยดีไซน์คอนโดแบบไหนที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่

 

บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแ

 

บอยให้ความเห็นว่าขั้นแรกคือสิ่งอำนวยความสะดวกที่โครงการให้มา มาครบครันและตอบโจทย์การใช้งานไหม รวมไปถึงความสงบ อย่างโครงการนี้ที่หันหน้าไปทางเอกมัยแทนด้านทองหล่อ เราจะได้วิวที่สงบ และอีกหนึ่งสิ่งที่บอยชอบคือสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้น 43 บอยบอกว่า “การมีสระว่ายน้ำอยู่ชั้นเกือบจะรูฟท็อป ผมว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะอิมแพ็กต์” ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยเห็นในเอกมัย ส่วนคนที่ชอบเข้ายิมเขาก็มียิมที่เปิดรับวิวสวน ทำให้โครงการนี้มีวิวที่หลากหลาย

 

บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแ

 

อันที่จริงสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการนอกจากจะมีสิ่งอำนวยความสะดวก บริเวณพื้นที่ส่วนกลางที่สงบ เป็นส่วนตัว เหมาะกับคนหลายเจเนอเรชันแล้ว ยังมีบริการเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ลูกบ้านอยู่แล้วสบายใจ ใช้ชีวิตสะดวกขึ้น เช่น มีบริการทำความสะอาดให้เดือนละครั้ง บริการรีดผ้าให้เดือนละ 20 ชิ้น หรือแม้แต่รถรับส่งตามสถานีรถไฟฟ้า เรียกว่าเป็นการอยู่คอนโดที่สบายใจเหมือนได้อยู่บ้านเลย

 

และคำถามสุดท้ายที่เราสงสัยมากที่สุดคือบอยเป็นคนเอกมัย ทำไมถึงยังเลือกจะซื้อดีไซน์คอนโดที่ Reference Ekkamai

 

บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแ

 

บอยบอกกับเราว่าเหตุผลที่ซื้อที่นี่ จริงๆ แเล้วเริ่มพิจารณารายละเอียดขั้นแแรกในมุมมองของราคาที่เมื่อเทียบกับทองหล่อ ทำเลที่เราสามารถมี Lifestyle แบบเดียวกัน ซึ่งที่นี่ราคาเริ่มต้นเป็นราคาที่เราเข้าถึงได้

 

รวมถึงบอยได้พูดคุยปรึกษาเพิ่มเติมกับเพื่อนที่เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบโครงการนี้ ทำให้ได้ข้อมูลในมุมของงานสถาปัตยกรรมที่มีแนวคิด Passage of Time ที่เป็นแกนหลักในการออกแบบ รู้สึกว่าตัวโครงการนี้มีความยูนีก แตกต่างจากหลายๆ โครงการในเอกมัย และดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในก็เป็นแนวทางที่ตรงกับความชอบส่วนตัว

 

อีกเรื่องหนึ่งที่บอยพูดไปว่าสิ่งอำนวยความสะดวกดี แม้กระทั่งที่จอดรถที่เป็นการจอดในตึกแทนการใช้ลิฟต์ 

 

บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแ

 

ในด้านทำเลที่ตั้งบอยบอกว่า “ผมชอบโลเคชันที่อยู่กลางซอย เดินไปไหนก็สะดวก ปากซอยมีรถไฟฟ้า ท้ายซอยมีของกิน ช่วงรถติดเดินไปทองหล่อได้” และในด้านของเลย์เอาต์ของห้องได้รับการออกแบบจัดวางฟังก์ชันมาครบและไม่มีอะไรที่ติดเลย ซึ่งบอยมองว่าเลย์เอาต์ห้องที่นี่อยู่เองก็ได้หรือจะปล่อยเช่าก็สบาย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เลือก Reference Ekkamai

 

บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแ

 

Reference Ekkamai ดีไซน์คอนโดใหม่ใจกลางเอกมัย Presales 29-30 มีนาคมนี้ รับส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท* ลงทะเบียนรับส่วนลด 100,000 บาท*

 

เยี่ยมชมเว็บไซต์หรือติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

https://m.scasset.com/U5R9

The post คุยกับ บอย พงศ์ภัทร สถาปนิกที่หลงรักความเรียบง่ายแต่สวยงามของเอกมัยและ Reference Ekkamai appeared first on THE STANDARD.

]]>
Brutalist ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อหนัง แต่ยังเป็นสไตล์งานออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา https://thestandard.co/life/brutalist-more-than-movie Thu, 06 Mar 2025 00:50:17 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1049030

Brutalist ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อหนัง แต่ยังเป็นสไตล์งาน […]

The post Brutalist ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อหนัง แต่ยังเป็นสไตล์งานออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา appeared first on THE STANDARD.

]]>

Brutalist ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อหนัง แต่ยังเป็นสไตล์งานออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา

 

หลายคนอาจจะได้ยินคำว่า Brutalist บ่อยในช่วงนี้ เพราะมีภาพยนตร์ชื่อนี้กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ แต่ในขณะเดียวกันคำว่า Brutalist ไม่เคยห่างหายไปจากงานออกแบบเลย โดยเฉพาะงานสถาปัตยกรรม ซึ่งการออกแบบสไตล์นี้เริ่มต้นตั้งแต่ยุคกลางศตวรรษที่ 20 และได้รับความนิยมสูงสุดในยุค 1970 ภาพจำของอาคาร Brutalist มักจะเป็นอาคารที่โชว์พื้นผิวจริงของวัสดุ หรือที่เราเรียกกันว่าสัจจะวัสดุ และส่วนใหญ่วัสดุที่เป็นที่นิยมในสไตล์นี้คือคอนกรีตเปลือย

 

 

ในด้านของรูปทรงอาคารแนว Brutalist มักจะเป็นรูปทรงเรียบง่าย เน้นการใช้รูปทรงเรขาคณิตมาเป็นส่วนประกอบ แต่ในขณะเดียวกันเมื่อรูปทรงที่เรียบง่ายมาเจอกับวัสดุที่มีความดิบอย่างคอนกรีตเปลือย เราจะได้อาคารที่ดูเรียบแต่ทรงพลัง หนักแน่น ตรงไปตรงมา เราจึงได้เห็นงานออกแบบสไตล์นี้ในสถานที่สาธารณะต่างๆ อย่างเช่น อาคารสำนักงาน หรือห้องสมุด และอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของงานดีไซน์สไตล์นี้คือ งานดีไซน์ที่ล้ำยุค ไม่ว่าจะมองในปีไหนก็ยังดูล้ำ ทำให้ Brutalist ยังคงเป็นที่พูดถึงอยู่เรื่อยๆ ในวงการออกแบบ

 

 

เรามาสามารถพบเห็นอาคารที่ดีไซน์ในแบบ Brutalist ได้หลากหลายการใช้งาน อย่างเช่น อาคาร The Barbican Estate เป็นหนึ่งในโครงการที่อยู่อาศัยแนว Brutalist ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดดเด่นด้วยโครงสร้างคอนกรีตเปลือยที่ดูดิบๆ และรูปทรงเรขาคณิตที่ซับซ้อน ภายในยังมีโรงละคร หอศิลป์ และศูนย์การแสดงด้วย

 

 

หากพูดถึงอาคารสาธารณะขนาดใหญ่ที่ดีไซน์ในแบบ Brutalist แล้วยังมีการใช้งานอยู่เรื่อยๆ ชื่อของ National Theatre น่าจะโผล่ขึ้นมาแน่นอน เพราะนี่คือโรงละครในลอนดอนที่ถูกดีไซน์มาได้อย่างเรียบง่ายตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นการสื่อความหมายแบบ Brutalist ได้อย่างชัดเจน

 

 

และสุดท้ายอาคารที่ทำให้ภาพของ Brutalist กลายเป็นงานดีไซน์ที่ดูล้ำยุคคือ Geisel Library ห้องสมุดขนาดใหญ่ใน University of California มีลักษณะเป็นรูปทรงเหลี่ยมซ้อนกันแบบเรขาคณิต และไม่น่าเชื่อว่าอาคารนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1970!

 

ภาพ: shutterstock

The post Brutalist ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อหนัง แต่ยังเป็นสไตล์งานออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา appeared first on THE STANDARD.

]]>
THE ADDRESS Siam-Ratchathewi คอนโดหรูใกล้สยาม เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ https://thestandard.co/life/address-siam-ratchathewi Fri, 28 Feb 2025 10:00:19 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1045426 address-siam-ratchathewi_2

THE ADDRESS Siam-Ratchathewi ที่รองรับได้ทุกรสนิยมการใช […]

The post THE ADDRESS Siam-Ratchathewi คอนโดหรูใกล้สยาม เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
address-siam-ratchathewi_2

THE ADDRESS Siam-Ratchathewi ที่รองรับได้ทุกรสนิยมการใช้ชีวิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘STATELY LUXURY LEISURE’ พร้อมความสะดวกสบายที่เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์

 

ชีวิตในเมืองไม่จำเป็นต้องวุ่นวาย ขอเพียงมีพื้นที่ส่วนตัวที่สะดวกสบาย ผสานเข้ากับความหรูหรา ‘THE ADDRESS Siam-Ratchathewi’ คือคอนโดมิเนียมที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการอยู่อาศัย ทำให้ทุกตารางนิ้วของที่นี่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย รวมทั้งเป็นพื้นที่ที่หลอมรวมความสง่างามและความผ่อนคลายไว้ด้วยกัน

 

ทำเลศักยภาพ เชื่อมต่อทุกจุดหมายในพริบตา

 

เพราะทำเลที่ดีไม่ใช่แค่ ‘อยู่กลางเมือง’ แต่ต้องให้คุณใช้ชีวิตได้เต็มที่ THE ADDRESS Siam-Ratchathewi ตั้งอยู่บนจุดที่ดีที่สุดของราชเทวี เพียง 150 เมตรจาก BTS ราชเทวี และใกล้ MRT ใหม่สายสีส้มเพียง 1 นาที  ทำให้คุณสามารถเดินทางสู่ทุกจุดหมายได้ง่ายดาย

  • ใกล้แหล่งช้อปปิ้งระดับไฮเอนด์: สยามพารากอน, เซ็นทรัลเวิลด์, เกษรวิลเลจ
  • โอบล้อมด้วยสถาบันการศึกษาชั้นนำ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
  • ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ: โรงพยาบาลพญาไท 1, โรงพยาบาลรามาธิบดี

 

ดีไซน์หรูหรา ที่สะท้อนตัวตนของคุณ

 

เพราะความหรูหราของ THE ADDRESS Siam-Ratchathewi ไม่ได้มีเพียงแค่รูปลักษณ์ที่ก่อรูปออกมาเป็นคอนโดหรู แต่มากกว่านั้นคือประสบการณ์การอยู่อาศัยที่คุณสามารถสัมผัสได้

  • Hermès Furnishing Fabrics and Wallpaper ผ้าบุและวอลเปเปอร์ที่สะท้อนรสนิยมเหนือระดับ
  • ผนังหินอ่อน Statuario จากอิตาลี ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ หรูหรา และมีมูลค่าสูง ซึ่งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญสกัดออกมาโดยเฉพาะ
  • Technogym แบรนด์อุปกรณ์ออกกำลังกายชั้นนำจากอิตาลี ผู้นำด้าน Luxury Wellness คุณภาพสูง ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้รักสุขภาพทั่วโลก

 

ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยระดับสูงสุด

 

ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดที่ THE ADDRESS Siam-Ratchathewi ได้ออกแบบมาเพื่อความอุ่นใจของผู้อาศัย ไม่ว่าจะเป็น

  • Face Recognition System: ปลอดภัยทุกการเข้า-ออก
  • ลิฟต์ล็อกชั้น: ให้ความเป็นส่วนตัวเหนือระดับ
  • ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง: อุ่นใจตลอดการอยู่อาศัย

 

พื้นที่สีเขียว ใจกลางมหานคร

 

แม้จะต้องอยู่กลางเมืองที่เป็นทำเลศักยภาพ แต่ความสงบและการถูกโอบกอดโดยธรรมชาติจะเป็นบรรยากาศที่ผู้อาศัยจะได้รับตลอดการอาศัยอยู่ใน THE ADDRESS Siam-Ratchathewi นี้

  • สวนขนาดใหญ่กว่า 4 ไร่: เติมพลังชีวิตด้วยธรรมชาติ แม้อยู่กลางเมือง
  • พื้นที่ส่วนกลางสุดหรู: สระว่ายน้ำลอยฟ้าบนชั้น 50 ฟิตเนส ห้องสมุด และโซนพักผ่อน

 

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันพิเศษ รับส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท* สำหรับผู้ปกครองของนักเรียนและนักศึกษาที่กำลังมองหาที่พักอาศัยใกล้สถานศึกษา

 

ยูนิตพร้อมเข้าอยู่

  • 1 Bedroom Sky Series (35 ตร.ม.) วิวเมือง เริ่มต้นที่ 8.59 ล้านบาท*
  • 2 Bedroom High Floor with Sunset View เริ่มต้นที่ 14.9 ล้านบาท*

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1623

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: https://apth.ly/qusw

The post THE ADDRESS Siam-Ratchathewi คอนโดหรูใกล้สยาม เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
แต่งบ้านแบบ Niksen ไม่มีอะไร ไม่ต้องทำอะไร แต่มีความสุข https://thestandard.co/life/niksens-approach-to-happy-home-decorating Fri, 28 Feb 2025 08:42:21 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1047058 Niksen

จัดบ้านเพื่อไม่ทำอะไร แต่มีความสุข   ในสังคมปัจจุบ […]

The post แต่งบ้านแบบ Niksen ไม่มีอะไร ไม่ต้องทำอะไร แต่มีความสุข appeared first on THE STANDARD.

]]>
Niksen

จัดบ้านเพื่อไม่ทำอะไร แต่มีความสุข

 

ในสังคมปัจจุบันมีเรื่องมากมายให้เราได้ปวดหัว ทั้งเรื่องงาน สังคม เศรษฐกิจ และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยเหตุผลนี้เราเลยอยากพาทุกคนมารู้จักกับ Niksen แนวคิดจากประเทศเดนมาร์กที่ว่าด้วยเรื่องการพักผ่อนโดยวิธีการอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องคิดอะไร ซึ่งบางทีเมื่อเราเจอปัญหา การที่เรานั่งนิ่งๆ สักพัก มันช่วยให้เราได้ตั้งสติ หรือถ้าคิดอะไรไม่ออก การอยู่นิ่งๆ ก็ช่วยให้สมองด้านความคิดสร้างสรรค์ของเราทำงานได้ดีขึ้น เพราะเราจะโฟกัสมากขึ้น นั่นจึงทำให้เราควรมีสักมุมหนึ่งในบ้านที่มีไว้ทิ้งตัว ไม่ต้องทำอะไร และมาดูกันว่าในมุมนั้นเราต้องเตรียมพื้นที่อย่างไรบ้าง

 

 

Niksen ทำอย่างไร

 

อย่างที่เกริ่นไปว่า Niksen คือการพักผ่อนที่เน้นการอยู่นิ่งๆ ไม่คิดอะไร ไม่ทำอะไร เราเพียงต้องปล่อยวางทุกอย่างในแต่ละวันที่เราเจอเรื่องอะไรมามากมาย พยายามหาเวลาสักวันละ 5-10 นาที นั่งพัก ปิดโทรศัพท์หรือสิ่งรบกวนทุกอย่าง แล้วนั่งเหม่อ ในท่าที่คุณสบาย จะนั่งหรือจะนอนก็ได้ หรือมองออกไปนอกหน้าต่าง มองสิ่งรอบตัวแบบไม่ต้องตัดสิน แค่นี้ก็จะช่วยให้เราโฟกัสมากขึ้นแล้ว

 

 

มุม Niksen ที่ดีควรเป็นแบบไหน

 

การจะนั่งเหม่อแบบมีประสิทธิภาพควรเริ่มจากพื้นที่นั้นต้องมีสิ่งรบกวนน้อยที่สุด เช่น เสียงรบกวนต้องน้อย แสงต้องไม่จ้าจนเกินไป ควรมีเก้าอี้หรือโซฟาที่นั่งสบายๆ สักตัว พร้อมทั้งหมอนหรือผ้าห่มนุ่มๆ ทำเลที่เหมาะกับการทำ Niksen ที่ดีที่สุดในบ้าน แนะนำให้เป็นมุมใกล้หน้าต่าง เราจะได้มองออกไปไกลๆ หรืออาจจะเป็นระเบียงสำหรับคนชอบใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ถ้าไม่มีพื้นที่เหลือ แนะนำเป็นมุมห้องสักมุมที่สงบ ไม่มีสิ่งรบกวน แค่นั้นก็พอแล้ว

 

การทำ Niksen ไม่ใช่การหลีกหนีปัญหา แต่เป็นการพักผ่อนเพื่อกลับมาเผชิญหน้ากับปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การอยู่นิ่งๆ ไม่ทำอะไร ควรจัดสรรเวลาอย่างเหมาะสมว่าเวลานั้นเป็นเวลาที่ใช้พักผ่อนจริงๆ และระยะเวลาในการพักควรอยู่ในช่วงที่เหมาะสม ไม่สั้นเกินไปและไม่ยาวเกินไป

 

 

ภาพ: Shutterstock

 

The post แต่งบ้านแบบ Niksen ไม่มีอะไร ไม่ต้องทำอะไร แต่มีความสุข appeared first on THE STANDARD.

]]>