LIFE | LIVING – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 06 Jun 2025 13:14:01 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 การอยู่อาศัยแบบ Vertical Living on Ground ทางเลือกใหม่ของครอบครัวใหญ่ที่อยากอยู่ในเมือง https://thestandard.co/life/vertical-living-on-ground Sat, 07 Jun 2025 03:00:30 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1082475

การอยู่อาศัยในรูปแบบ Vertical Living ทางเลือกใหม่ของครอ […]

The post การอยู่อาศัยแบบ Vertical Living on Ground ทางเลือกใหม่ของครอบครัวใหญ่ที่อยากอยู่ในเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>

การอยู่อาศัยในรูปแบบ Vertical Living ทางเลือกใหม่ของครอบครัวใหญ่ที่อยากอยู่ในเมือง

 

ในวันที่เมืองมีการขยายตัวขึ้นทุกวันและที่ดินกลับเล็กลงเรื่อยๆ การอยู่อาศัยแบบ ‘ครอบครัวใหญ่ใจกลางเมือง’ จึงดูเหมือนเป็นภาพในฝันมากกว่าจะเกิดขึ้นได้จริง เพราะความเป็นจริงแล้วการจะหาบ้านหลังใหญ่ที่มีพื้นที่พอให้หลายเจเนอเรชันอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ต้องย้ายออกไปชานเมืองหรือปรับลดขนาดครอบครัวไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ดินมีราคาสูงและมีจำกัดอย่างกรุงเทพฯ แต่นี่แหละคือที่มาของแนวคิด Vertical Living on Ground คำว่า ‘Vertical Living’ ในที่นี้ไม่ใช่แค่การอยู่คอนโดสูงๆ หรือทาวน์โฮมแบบทั่วไป แต่คือการออกแบบบ้านที่แบ่งฟังก์ชันการใช้งานตามชั้น เพื่อให้พื้นที่ถูกใช้ได้อย่าง Efficient Vertical โดยยังเก็บความรู้สึก ‘อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว’ ไว้ได้อย่างครบถ้วน

 

 

ทำไมบ้านสไตล์ Vertical Living จึงตอบโจทย์ครอบครัวไทยยุคนี้

 

ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่าครอบครัวไทยจำนวนไม่น้อยยังคงมีลักษณะเป็นครอบครัวใหญ่ คืออยู่อาศัยกันทั้งพ่อ แม่ ลูก และบางทีก็รวมถึงปู่ ย่า ตา ยาย ที่อยากอยู่ด้วยกัน เพราะความอบอุ่นและการดูแลกันเป็นสิ่งสำคัญในวัฒนธรรมเรา แต่ในขณะเดียวกัน คนรุ่นใหม่ก็ยังอยากอยู่ในเมือง เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ใกล้ที่ทำงาน โรงเรียน หรือแหล่งไลฟ์สไตล์ แต่ด้วยราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นทุกปี การจะหาบ้านแนวราบขนาดใหญ่ในทำเลเมืองก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ การอยู่อาศัยแนวตั้งจึงกลายเป็นคำตอบที่สมดุลระหว่างความต้องการและข้อจำกัดไม่ว่าจะเป็น การใช้พื้นที่แบบ Vertical Living ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การจัดแบ่งพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนรวมอย่างมีระบบ และการออกแบบที่เอื้อให้แต่ละเจเนอเรชันมีพื้นที่ของตัวเอง แต่ยังเชื่อมโยงกันได้เสมอ

 

 

ถ้าจะอยู่บ้านสไตล์ Vertical Living ควรออกแบบพื้นที่อย่างไร

 

บ้านแบบ Vertical Living ที่ดีไม่ใช่แค่การสร้างบ้านหลายชั้นเท่านั้น แต่คือการวางแผนพื้นที่ให้ตอบสนองกับพฤติกรรมของคนในบ้านอย่างแท้จริง

 

  • ชั้นล่างเป็นพื้นที่รับรองของแขกที่ถูกแบ่งการใช้งานเพื่อความเป็นส่วนตัว เช่น ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ครัว พื้นที่สำหรับสังสรรค์
  • ชั้นกลางอาจเป็นพื้นที่ส่วนกลางและห้องนอน เพื่อเป็นพื้นที่ศูนย์รวมของคนในบ้านและห้องนอนของผู้สูงวัยหรือห้องเด็กให้อยู่ในจุดที่เข้าถึงง่าย ไม่ต้องเดินขึ้นลงมาก 
  • ชั้นบนสุดอาจเป็นโซนของพ่อแม่หรือพื้นที่ทำงานเงียบๆ พร้อมวิวที่เปิดโล่ง

 

นอกจากนี้หากออกแบบให้พื้นที่สีเขียวหรือสวนเล็กๆ แทรกอยู่ตามแต่ละชั้น ก็จะช่วยให้บ้านแนวตั้งดูไม่ทึบตันจนเกินไป และยังช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก

 

 

ตัวอย่างแนวคิดบ้านสไตล์ Vertical Living จาก BAAN KLANG KRUNG โดย AP

 

หนึ่งในโครงการที่หยิบเอาแนวคิดบ้านแบบ Vertical Living มาพัฒนาอย่างจริงจังและมีสไตล์คือ BAAN KLANG KRUNG สาธุประดิษฐ์ 57 บ้านหรูที่ตั้งอยู่บนทำเลใกล้เมือง ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้ชีวิตของครอบครัวใหญ่ได้อย่างครบถ้วน โครงการนี้จัดวางพื้นที่แบบ Vertical Living อย่างชาญฉลาด แยกฟังก์ชันแต่ละชั้นให้เป็นสัดส่วน พร้อมแทรกสวนเล็กๆ ไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อให้ทุกคนในบ้านได้สัมผัสธรรมชาติแม้อยู่กลางเมือง

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://apth.ly/m1vh

 

[Content in Partnership with AP]

The post การอยู่อาศัยแบบ Vertical Living on Ground ทางเลือกใหม่ของครอบครัวใหญ่ที่อยากอยู่ในเมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>
พามาดูมุมพักใจถึงแม้ว่างานจะเดือด จากซีรีส์สงคราม ส่งด่วน https://thestandard.co/life/tea-breaks-mad-unicorn-series Fri, 06 Jun 2025 06:29:10 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1082444 สงคราม ส่งด่วน

ทำไมเราควรมีมุมพักใจ ถึงแม้ว่างานจะเดือด?   ช่วงสั […]

The post พามาดูมุมพักใจถึงแม้ว่างานจะเดือด จากซีรีส์สงคราม ส่งด่วน appeared first on THE STANDARD.

]]>
สงคราม ส่งด่วน

ทำไมเราควรมีมุมพักใจ ถึงแม้ว่างานจะเดือด?

 

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีอะไรร้อนแรงไปกว่ากระแสซีรีส์ สงคราม ส่งด่วน ทาง Netflix ที่เนื้อเรื่องได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของสตาร์ทอัพเอ็กซ์เพรสที่ได้เป็นยูนิคอร์นรายแรกของไทย เรื่องราวภายในซีรีส์เห็นได้ว่าเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด เร่งรีบ ทุกคนพร้อมทำงานหนักเพื่อประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเราลองสังเกตดีๆ จะพบว่าถึงแม้ซีนนั้นจะเครียดแค่ไหน สถานการณ์ของตัวละครจะกดดันอย่างไร ก็มันจะมีฉากชงชาและเทชาให้กันก่อนที่จะเริ่มคุยเรื่องสำคัญ หรือถึงแม้งานจะเดือดหรือรีบแค่ไหนก็ยังมีมุมที่ทั้งทีมได้พักผ่อน ไปทะเลด้วยกัน ได้ปาร์ตี้กัน วันนี้เราเลยอยากพาทุกคนมาดูมุมพักใจ ถึงแม้ว่างานจะเดือด พร้อมทั้งไอเดียสร้างมุมพักใจเพื่อมีแรงไปลุยกับงานต่อ!

 

ฉากชงชาก่อนคุยประเด็นสำคัญในซีรีส์ สงคราม ส่งด่วน – ภาพจาก Netflix

ภาพ: Netflix

 

หากอยากให้เรื่องเครียดที่กำลังจะคุยเบาลงก็จิบชากันก่อน

 

ต้องบอกว่าในซีรีส์เรื่องนี้ตัวละครหลายๆ ตัวต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน ต้องตัดสินใจ หรือ ต้องเจรจาเรื่องสำคัญ ก่อนที่พวกเขาจะทำอะไร เรามักจะเห็นฉากการค่อยๆ ชงชา และเทชาให้กัน เพราะการชงชาจะช่วยให้บรรยากาศในพื้นที่นั้นๆ ผ่อนคลาย และการเทชาให้กันเหมือนเป็นการให้เกียรติและแสดงความเคารพต่ออีกฝ่าย ทำให้การพูดคุยเรื่องต่างๆ ราบรื่นยิ่งขึ้น

 

ภาพ: Netflix

 

แม้งานจะหนักแค่ไหน เราก็ควรมีเวลาพักผ่อน เพื่อค้นหาไอเดียใหม่ๆ

 

ถึงแม้ว่าการทำสตาร์ทอัพมันจะต้องทุ่มเทแรงทั้งกายทั้งใจมากแค่ไหน ทุกวินาทีในการทำงานมันมีค่ามากเท่าไหร่ เราต้องอย่าลืมหาเวลาพักผ่อน หามุมพักผ่อน ปิดสวิตช์คอมพิวเตอร์ ไปทำสิ่งที่ชอบ ไปหาอะไรกิน หรืออย่างในซีรีส์ที่ สันติ ตัวเอกของเรื่องตัดสินใจพาทุกคนไปเที่ยวพักผ่อน และ พาทุกคนจัดปาร์ตี้ ถึงแม้ช่วงนั้นเป็นเวลาที่ทุกคนต้องทุ่มเทกับงานมากก็ตาม เพื่อการพักผ่อนนิดหน่อย ไม่ได้ทำให้เสียเวลาทำงาน แต่มันเหมือนเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวเอง ส่งผลให้ร่างกาย จิตใจ และสมองได้พัก เพื่อมีแรงไปลุยกับงานต่อ บางทีเราอาจจะเจอไอเดียอะไรใหม่ๆ แบบที่สันติและทีมได้ไอเดียจากการไปเที่ยวก็เป็นได้!

 

ภาพ: Netflix

 

อย่าลืมหามุมพักผ่อนพักใจในสถานที่ที่เราคุ้นเคย

 

สุดท้ายหากคุณเป็นคนที่อยากทุ่มเทกับงานหรือทุ่มเทกับธุรกิจ อย่าลืมถามตัวเองว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร เหนื่อยเกินไปหรือเปล่า และเราแนะนำว่าถึงแม้งานจะหนักขนาดไหน เราควรหยุดพักเอาตัวเองออกมา ทำอะไรใหม่ๆ หรือเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานเพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ อาจจะจัดพื้นที่ในบ้านให้เอื้อต่อการพักผ่อนที่คุณชอบ เช่น ทำพื้นที่จิบชาให้ได้พักผ่อนหลังจากจ้องหน้าจอรอมมานาน หรือมุมนั่งพักปล่อยใจไม่ต้องคิดอะไรไม่ต้องทำอะไร ไม่แน่คุณอาจจะได้ไอเดียอะไรใหม่ๆ ในการทำงานก็ได้

 

ภาพ: Netflix

The post พามาดูมุมพักใจถึงแม้ว่างานจะเดือด จากซีรีส์สงคราม ส่งด่วน appeared first on THE STANDARD.

]]>
BAAN KLANG KRUNG ‘Vertical Estate Living on Ground’ ที่ทุกเจเนอเรชันอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/life/baan-klang-krung Thu, 05 Jun 2025 10:30:43 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1081687 BAAN KLANG KRUNG

การเติบโตของเมืองไม่ได้หยุดแค่ที่ตึกสูงระฟ้าและถนนที่พล […]

The post BAAN KLANG KRUNG ‘Vertical Estate Living on Ground’ ที่ทุกเจเนอเรชันอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
BAAN KLANG KRUNG

การเติบโตของเมืองไม่ได้หยุดแค่ที่ตึกสูงระฟ้าและถนนที่พลุกพล่าน แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของครอบครัวด้วยเช่นกัน ในยุคที่ครอบครัวไทยเริ่มกลับมาอยู่ร่วมกันแบบหลายเจเนอเรชัน ทั้งผู้สูงวัย พ่อแม่ และเด็กเล็ก บ้านที่สามารถตอบรับความหลากหลายเช่นนี้ได้จึงกลายเป็นคำตอบของการใช้ชีวิตในเมืองอย่างแท้จริง

 

BAAN KLANG KRUNG จึงไม่ใช่แค่บ้านที่สูงขึ้น แต่คือแนวคิดของ ‘Multi-Level Living’ ที่คิดลึกลงไปในเรื่องของการใช้ชีวิตจริง ทั้งเรื่องความเป็นส่วนตัว ความสะดวกสบาย การเข้าถึง และความเชื่อมโยงทางใจระหว่างสมาชิกในบ้าน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความเป็น ‘พื้นที่ของตัวเอง’ และ ‘ความผูกพันของครอบครัว’ ในรูปแบบที่เหมาะกับคนเมือง

 

 

Private Space ที่เข้าใจทุกช่วงวัย

 

บ้านแต่ละหลังในโครงการ BAAN KLANG KRUNG มีความสูงตั้งแต่ 5-6 ชั้น

พร้อมพื้นที่ใช้สอยมากถึง 403 – 915 ตารางเมตร และมีห้องนอนตั้งแต่ 3–5 ห้อง ซึ่งถือเป็นขนาดที่รองรับการอยู่อาศัยของครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ได้สบายๆ

 

สิ่งที่น่าสนใจคือการออกแบบให้แต่ละชั้นสามารถแปลงเป็น ‘เพนต์เฮาส์ส่วนตัว’ สำหรับสมาชิกแต่ละคนได้จริง ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องอ่านหนังสือ หรือโฮมออฟฟิศ นี่คือพื้นที่ที่ให้สมาชิกแต่ละวัยได้ใช้เวลาและใช้ชีวิตตามจังหวะของตัวเอง โดยมีพื้นที่เป็นของตัวเองและอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว

 

 

Connecting Space ที่เชื่อมทุกวัยอย่างกลมกลืน

 

แม้แต่ละชั้นจะมีฟังก์ชันที่สามารถเป็นโลกส่วนตัวได้ แต่ BAAN KLANG KRUNG ก็ไม่ลืมที่จะออกแบบพื้นที่ ‘เชื่อมโยง’ กันอย่างนุ่มนวลผ่านลิฟต์ภายในบ้าน ที่รองรับได้มากถึง 5 คน ซึ่งไม่ใช่แค่ช่วยให้ผู้สูงวัยหรือเด็กเล็กขึ้นลงสะดวก แต่ยังเป็นการส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันอย่างไม่รู้ตัว

 

ในบ้านหลังเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างวัยคือสิ่งสำคัญ บางทีแค่การขึ้นลิฟต์ไปกินข้าวพร้อมกัน หรือแวะไปห้องพ่อแม่ตอนเย็น ก็เพียงพอที่จะรักษาความใกล้ชิดไว้ได้อย่างไม่ลำบาก และลิฟต์ที่ออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของบ้านอย่างเป็นธรรมชาตินี้เองที่เป็นสื่อกลางของความสัมพันธ์

 

 

ที่จอดรถในแนวคิด Vertical Efficiency

 

หนึ่งในปัญหาหลักของบ้านในเมืองคือที่จอดรถ โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีรถหลายคัน BAAN KLANG KRUNG ตอบโจทย์นี้ด้วยการจัดสรรพื้นที่จอดรถแนวตั้งอย่างชาญฉลาด แต่ละยูนิตมีที่จอดรถถึง 5 คัน และในบางแบบบ้านสามารถรองรับได้มากกว่านั้น

 

แนวคิด Vertical Parking ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่มีที่จอดพอ แต่หมายถึงการจัดโครงสร้างบ้านให้พื้นที่จอดรถอยู่ในจุดที่เชื่อมต่อกับตัวบ้านได้สะดวก ปลอดภัย และยังคงสอดคล้องกับดีไซน์โดยรวมของบ้าน ไม่ทำลายความสวยงาม หรือรบกวนฟังก์ชันการอยู่อาศัยอื่นๆ

 

ในบริบทของเมืองที่พื้นที่ทุกตารางเมตรมีความหมาย การออกแบบที่ทำให้รถไม่เป็นภาระต่อการอยู่อาศัยจึงเป็นอีกหนึ่งความใส่ใจที่ไม่ควรมองข้าม

 

 

Universal Design ที่มองไปไกลกว่าวัย

 

บ้านที่ดีไม่ใช่แค่ตอบโจทย์วันนี้ แต่ต้องเผื่อไปถึงอนาคต BAAN KLANG KRUNG ใช้แนวคิด Universal Design มาเป็นแนวทางในการออกแบบ โดยเฉพาะการออกแบบให้สอดคล้องกับการใช้งานของผู้สูงวัย และผู้ที่มีข้อจำกัดทางการเคลื่อนไหว

 

เพียงการมีลิฟต์ภายในบ้าน พื้นที่ทางเดินกว้าง พื้นราบไม่มีสเต็ป และห้องน้ำที่ปรับได้ ล้วนช่วยให้สมาชิกในบ้านสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นอิสระ และปลอดภัยมากขึ้น

 

Universal Design จึงไม่ใช่เพียงการออกแบบเพื่อวัยใดวัยหนึ่ง แต่คือการเตรียมบ้านให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในทุกช่วงชีวิตของสมาชิกในครอบครัว

 

Multi-Level Living = ความยืดหยุ่นของชีวิตในทุกระดับ

 

สุดท้าย บ้านที่ดีไม่ใช่แค่การออกแบบที่สวยงาม แต่ต้องมีความยืดหยุ่นพอให้ชีวิตปรับตัวได้ตามกาลเวลา ทุกฟังก์ชันใน BAAN KLANG KRUNG ถูกออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนได้

 

Multi-Level Living จึงหมายถึง การออกแบบที่มองเห็นภาพรวมของชีวิต เห็นจังหวะการเติบโตของครอบครัว และให้พื้นที่นั้นพร้อมสำหรับทุกจังหวะอย่างแท้จริง

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://apth.ly/m1vh

 

BAAN KLANG KRUNG

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

The post BAAN KLANG KRUNG ‘Vertical Estate Living on Ground’ ที่ทุกเจเนอเรชันอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
Bangkok Pride Parade 2025 สะบัดธงสีรุ้ง-ปูธงอัตลักษณ์ เฉลิมฉลอง Pride Month https://thestandard.co/life/bangkok-pride-parade-2025-born-this-way Mon, 02 Jun 2025 05:19:11 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1081295 ขบวน Bangkok Pride Parade 2025 บนถนนพระรามที่ 1

เพิ่งจบกันไปเมื่อวานนี้ (1 มิถุนายน) กับ Bangkok Pride […]

The post Bangkok Pride Parade 2025 สะบัดธงสีรุ้ง-ปูธงอัตลักษณ์ เฉลิมฉลอง Pride Month appeared first on THE STANDARD.

]]>
ขบวน Bangkok Pride Parade 2025 บนถนนพระรามที่ 1

เพิ่งจบกันไปเมื่อวานนี้ (1 มิถุนายน) กับ Bangkok Pride Parade 2025 ขบวนพาเหรดที่รวมเอาชาว LGBTQIA+ หลากหลายเชื้อชาตินับพันชีวิต มาพร้อมใจกันเดินขบวนฉลองเดือนแห่ง Pride Month ประจำปี 2025 ณ กรุงเทพมหานคร บริเวณถนนพระรามที่ 1 ตั้งแต่สนามกีฬาแห่งชาติไปจนถึงแยกราชประสงค์ รวมระยะทางทั้งสิ้น 2.5 กิโลเมตร โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม ‘Born This Way’ การเดินทางจากชัยชนะของกฎหมายสมรสเท่าเทียม สู่จุดมุ่งหมายถัดไปคือการรับรองอัตลักษณ์อย่างเต็มรูปแบบ!

 

สำหรับขบวนพาเหรดนั้นยิ่งใหญ่กว่าปีไหนๆ เพราะนอกจากธงสีรุ้งที่ยาวกว่าใครในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังเป็นครั้งแรกที่มีเดินชู ‘ธงอัตลักษณ์’ ความยาวกว่า 200 เมตร ซึ่งแบ่งเป็น 5 สี 5 ความหมาย ได้แก่ สีแดง (Born to be Loved), ม่วง (Born to be Me), เขียว (Born to be Part of one), เหลือง (Born to Create & Inspire) และฟ้า (Born to Heal Generation)

 

งานนี้ยังได้รับเกียรติจาก แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมงานและร่วมเดินขบวนพาเหรดไปพร้อมๆ กับชาว LGBTQIA+ ที่ปีนี้คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน รวมทั้งศิลปินและดารามากมาย

 

ขบวน Bangkok Pride Parade 2025 บนถนนพระรามที่ 1 ขบวน Bangkok Pride Parade 2025 บนถนนพระรามที่ 1

 

ภาพ: ณัฐนิชา หมั่นหาดี

The post Bangkok Pride Parade 2025 สะบัดธงสีรุ้ง-ปูธงอัตลักษณ์ เฉลิมฉลอง Pride Month appeared first on THE STANDARD.

]]>
อยู่อาศัยกันหลายเจเนอเรชันในบ้าน ควรจัดพื้นที่อย่างไรให้ไม่ขัดแย้งกัน https://thestandard.co/life/multi-gen-home-design Sat, 31 May 2025 02:30:25 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1079924 multi-gen-home-design

อยู่อาศัยกันหลายเจเนอเรชันในบ้าน ควรจัดพื้นที่อย่างไรให […]

The post อยู่อาศัยกันหลายเจเนอเรชันในบ้าน ควรจัดพื้นที่อย่างไรให้ไม่ขัดแย้งกัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
multi-gen-home-design

อยู่อาศัยกันหลายเจเนอเรชันในบ้าน ควรจัดพื้นที่อย่างไรให้ไม่ขัดแย้งกัน

 

ในวัฒนธรรมครอบครัวไทย การอยู่อาศัยแบบหลายเจเนอเรชันหรือครอบครัวใหญ่ ไม่ใช่เรื่องแปลก บ้านหนึ่งหลังอาจมีทั้งปู่ย่าตายาย พ่อแม่ และลูกหลานใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น ภาพคุณตานั่งดูทีวีกับหลาน หรือเสียงเรียกมาทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาในห้องครัว เป็นภาพที่เราคุ้นตากันดี ซึ่งการใช้ชีวิตร่วมกันแบบนี้ก็มีข้อดีอยู่มาก ทั้งความอบอุ่นทางจิตใจ การแบ่งเบาภาระดูแลซึ่งกันและกันของคนในแต่ละช่วงวัย แต่ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อแต่ละคนมีวิถีชีวิต ความคิด และภาระหน้าที่ที่แตกต่างกัน ‘ช่องว่างระหว่างวัย’ หรือ Generation Gap ก็มักจะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าที่คิด เราจึงอยากจะชวนทุกคนมาแก้ปัญหานี้ไปด้วยกัน โดยใช้วิธีการจัดสรรพื้นที่ภายในบ้าน

 

จัดบ้านให้อยู่ร่วมกันหลายเจเนอเรชันแบบลงตัว ลดความขัดแย้ง

 

เมื่อเกิด ‘ช่องว่างระหว่างวัย’ บ้านจึงอาจไม่ใช่ Safe Space ของทุกคน

 

หลายครั้งความขัดแย้งเล็กๆ มักเริ่มต้นจากเรื่องง่ายๆ อย่างเสียงทีวีที่ดังไปสำหรับคนวัยทำงาน การตื่นสายของวัยรุ่นที่ดูไม่ค่อยเข้าท่ากับตารางชีวิตของผู้สูงวัย หรือแม้แต่การที่สมาชิกในบ้านไม่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง ทำให้เกิดการ ‘ล้ำเส้น’ โดยไม่ตั้งใจ และนั่นจึงอาจทำให้เกิด ‘ช่องว่างระหว่างวัย’ ทำให้คนไม่เข้าใจกัน แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราจัดบ้านให้รองรับความต่างได้อย่างพอดี

 

จัดบ้านให้อยู่ร่วมกันหลายเจเนอเรชันแบบลงตัว ลดความขัดแย้ง

 

บ้านที่ดีต้องมีทั้ง Me Time และ We Time

 

แนวทางที่ช่วยลดความตึงเครียดจากช่องว่างระหว่างวัยได้อย่างได้ผล คือการออกแบบพื้นที่ภายในบ้านให้ตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตแบบเดี่ยวและแบบร่วมกัน โดยแบ่งพื้นที่หลักๆ ออกเป็น 2 ส่วน คือ

 

  • Me Time พื้นที่ส่วนตัวที่ทุกคนสามารถใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ทำในสิ่งที่ชอบ โดยไม่ถูกรบกวน
  • We Time พื้นที่ที่เหมาะสำหรับให้สมาชิกในครอบครัวได้มาใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณภาพ เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องครัว หรือสวนหลังบ้าน

 

แนวคิดนี้ไม่ได้เป็นแค่ทฤษฎี แต่ถูกนำมาปรับใช้จริงในการออกแบบบ้านหลายโครงการของ AP โดยเฉพาะในกลุ่มบ้านหรูระดับ Ultra Luxury ที่ต้องรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยหลายเจเนอเรชันอย่างแท้จริง

 

จัดบ้านให้อยู่ร่วมกันหลายเจเนอเรชันแบบลงตัว ลดความขัดแย้ง

 

เช่นที่โครงการ THE PALAZZO โครงการบ้านหรูที่ยึดแนวคิด Multi Generation Living มาใช้ในการออกแบบอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนที่จัดไว้ให้ผู้สูงอายุอยู่ชั้นล่าง การมีพื้นที่ส่วนตัวให้คนแต่ละเจเนอเรชัน หรือห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกแต่ละวัย เช่น เป็นห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย หรือห้องเรียนออนไลน์

 

จัดบ้านให้อยู่ร่วมกันหลายเจเนอเรชันแบบลงตัว ลดความขัดแย้ง

 

หรืออย่างเช่นที่โครงการ BAAN KLANG KRUNG โครงการบ้านหรูที่จัดพื้นที่เป็น Vertical Estate Living on ground ให้ทุกคนมีชั้นของตัวเอง เช่น ชั้นล่างสำหรับผู้สูงวัย ชั้นกลางเป็นโซนของครอบครัว และชั้นบนสุดเป็นพื้นที่ของลูกหลานวัยรุ่นที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แนวทางนี้ไม่เพียงช่วยลดความตึงเครียด แต่ยังส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน

 

จัดบ้านให้อยู่ร่วมกันหลายเจเนอเรชันแบบลงตัว ลดความขัดแย้ง

 

บ้านที่เข้าใจคนทุกวัย คือบ้านที่อยู่แล้วสบายใจ

 

เพราะบ้านไม่ได้มีหน้าที่แค่ ‘อยู่’ แต่ควรเป็นที่ที่ทุกคนรู้สึกว่า “อยู่แล้วเป็นตัวเอง” ได้อย่างเต็มที่ การออกแบบบ้านให้รองรับครอบครัวหลายเจเนอเรชัน จึงไม่ใช่แค่เรื่องของฟังก์ชัน แต่คือการใส่ใจความสัมพันธ์ในครอบครัวอย่างลึกซึ้ง

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  https://apth.ly/xkca

The post อยู่อาศัยกันหลายเจเนอเรชันในบ้าน ควรจัดพื้นที่อย่างไรให้ไม่ขัดแย้งกัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (29 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2568) https://thestandard.co/life/calendar-29-4-june-2025 Thu, 29 May 2025 02:16:31 +0000 https://thestandard.co/?p=1079793

สัปดาห์นี้มีอะไรให้ทำเยอะแยะขนาดนี้ คนรักการใช้ชีวิตแบบ […]

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (29 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2568) appeared first on THE STANDARD.

]]>

สัปดาห์นี้มีอะไรให้ทำเยอะแยะขนาดนี้ คนรักการใช้ชีวิตแบบเราจะยอมเก็บตัวอยู่แต่ในห้องได้ยังไง! วีคนี้รีบชวนเพื่อน ชวนคนสนิทไปสนุกกับอีเวนต์เหล่านี้ที่เราคัดมาให้กันดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้ส่งท้ายเดือนพฤษภาคมอันยาวนาน นิทรรศการศิลปะ เทศกาลหนังสือ หรือใครอยากฮีลจิตใจและร่างกายด้วยคลาสทำสมาธิ เราก็มีให้ในลิสต์นี้เช่นกัน

 

เพราะฉะนั้นใครไม่อยากปล่อยให้เดือนนี้จบลงไปทั้งที่ยังไม่ทันให้รางวัลตัวเอง มาลองดูกันเลยว่าสัปดาห์นี้จะมีอีเวนต์อะไรรออยู่บ้าง

 


 

 

EM WONDER BEATOLOGY

 

ถึงเวลาปาร์ตี้สุดสัปดาห์ฉลองวันหยุดยาวนี้แล้ว เตรียมชวนเพื่อนไปสนุกกันที่โซน EM WONDER ได้เลย เพราะเขาจัดงาน BEATOLOGY ที่มาพร้อมโชว์พิเศษให้ทุกคนแวะไปได้ตามบรรยากาศที่ชอบ เริ่มจาก ‘KAIWA’ ในวันที่ 29-31 พฤษภาคมนี้ เวลา 22.30 น. เป็นต้นไป พบกับเสียงดนตรีสดจาก 3 ศิลปิน ได้แก่ TABITHA, THE BAR-BEE-Q และ SIRKIENG

 

ส่วนที่ ‘THE GARDEN BY HOME EKKAMAI’ ในคืนวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป พบกับค่ำคืนแห่งเพลงป๊อปใน THE 21ST CENTURY’S GREATEST POP STAR NIGHT เช่นเดียวกับ ‘MAMI ROSE’ ในคืนเดียวกัน ตั้งแต่เวลา 20.00 น. พบกับค่ำคืนแห่งเสียงเพลงแนว Afro House, Melodic House และ Organic House โดยโปรดิวเซอร์และดีเจชื่อดังชาวสวีเดน

 

แต่ถ้าใครไม่ถนัดปาร์ตี้ตอนค่ำเพราะเป็นสายตื่นเช้าไปออกกำลังกายและจบด้วยกาแฟสักแก้ว MAMI ROSE ก็มีอีกหนึ่งอีเวนต์ในวันที่ 31 พฤษภาคม เวลา 10.00 – 15.00 น. กับ MORNING COFFEE PARTY ชวนทุกคนมากินมื้อสาย จิบกาแฟ ฟังดนตรีจากดีเจ ซึ่งหลังจากนั้นในวันเดียวกัน ‘TRIBE’ ยังจัด Pool Party ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ในธีมละครสัตว์ให้ทุกคนมาสนุกด้วยกันแบบยาวๆ

 

‘RAZE ARCADE’ ชวนสายกีฬาที่ไม่อยากพลาดเชียร์ F1 ทีมโปรด มาชมการถ่ายทอดสดสนาม BARCELONA ด้วยกันตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม – 1 มิถุนายนนี้ เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป

 

ปิดท้ายด้วย ‘Vinyl Wonder’ พบกับ 12 ร้านแผ่นเสียงชื่อดังที่จะมาพูดคุยเกี่ยวกับศิลปินคนโปรด พร้อมแชร์มุมมองแผ่นเสียงจากวัยเก๋าสู่คนรุ่นใหม่ ในงานนี้ยังมีของให้ช้อป เครื่องดื่มให้จิบ พร้อมของรางวัลพิเศษด้วย โดยงานจัดตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม – 1 มิถุนายนนี้

 

When: วันที่ 29-31 พฤษภาคม 2568

Where: EWONDER ใน EMSPHERE

More Info: EMSPHERE at EM DISTRICT

 


 

 

HIDDEN BOOK & BAR

 

เทศกาลหนังสือที่ไม่ได้มีแค่หนังสือ เพราะในงานนี้ยังมีเครื่องดื่ม งานศิลปะ และดนตรี มาช่วยเติมบรรยากาศให้คอมมูนิตี้ของหนอนหนังสือมีความสนุกมากขึ้นไปอีก โดยกิจกรรมภายในงานนี้ อาทิ ‘นิทรรศการ Unpublished’ เปิดโลกต้นฉบับ ปกร่างที่ไม่เคยเผยแพร่ ภาพประกอบหนังสือ หรือตัวละครลับที่ถูกลืม

 

‘Book Showcase’ รวมหนังสือหลากแนวจากสำนักพิมพ์กว่า 30 แห่ง ‘Art & Craft Showcase’ ตลาดนัดรวมของแฮนด์เมด เครื่องประดับ และสินค้าแฟชั่น ‘Workshop Zone’ โซนเวิร์กช็อปที่จะเปลี่ยนกิจกรรมไปตลอด 10 วัน ‘Beverage Showcase’ โซนรวมร้าน Home Brew มากกว่า 10 ร้าน พร้อมเครื่องดื่มพิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ‘Check-in Point’ กิจกรรม Book Swap แบ่งปันหนังสือเล่มโปรดให้คนต่อไปได้อ่าน หรือ ‘Moo MunMun’ จุดเช็กดวงชะตาเอาใจสายมู

 

When: วันที่ 30 พฤษภาคม – 8 มิถุนายน 2568 เวลา 11.00-21.00 น.

Where: ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์

More Info: MunMun Srinakarin

 


 

 

QUIZ NIGHT ละครไทย

 

ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ละครไทยและอยากวัดความรู้ตัวเอง งานนี้ห้ามพลาดเลย เพราะบาร์น้องใหม่ย่านอารีย์-สะพานควายอย่าง Joji จัดกิจกรรมพิเศษให้คุณมาจับกลุ่มตอบคำถาม ต่อบท ทายเพลง เพื่อชิงไหวพริบกัน โดยจะมาเดี่ยวหรือมากลุ่มก็ได้ และถ้าหากใครสร้างผลงานโดดเด่นก็จะเป็นผู้ชนะและคว้ารางวัลไปเลย

 

งานนี้มีค่าเข้าร่วม บัตรราคา 450 บาทต่อคน (ได้รับเครื่องดื่ม 1 แก้ว) กิจกรรมเริ่มเวลาสองทุ่มเป็นต้นไป

 

When: วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป

Where: โครงการ The HUB พหล-อารีย์

More Info: Joji’s BKK

 


 

 

Only Faces on My Mind

 

หอศิลป์แห่งใหม่ในซอยร่วมฤดี Agni Gallery (อัคนี่ แกลเลอรี) ชวนทุกคนมาชมนิทรรศการ Only Faces on My Mind ที่รวมผลงานของ 5 ศิลปินร่วมสมัยระดับโลกมาจัดแสดงให้ชม เพื่อเป็นการเชิดชูศิลปะการวาดภาพเหมือนซึ่งเป็นหนึ่งในงานศิลป์ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก แต่ยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยงานนี้เปิดให้เข้าชมฟรี

 

When: วันที่ 30 พฤษภาคม – 30 กรกฎาคม 2568

Where: ซอยร่วมฤดี

More Info: Agni Gallery

 


 

 

NARUTO THE GALLERY IN BANGKOK

 

เหล่านินจาเตรียมตัวให้พร้อม! เพราะหมู่บ้านโคโนฮะพร้อมเปิดให้เหล่านินจาเข้าไปตามรอยคาแรเตอร์โปรดกันแล้ว ใน NARUTO THE GALLERY in Bangkok นิทรรศการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของมังงะเรื่อง ‘นารูโตะ’

 

ในงานนี้ทุกคนจะได้สัมผัสการเดินทางของนารูโตะและซาสึเกะผ่าน 7 โซนที่ได้รับแรงบันดาลมาจากฉากอันทรงพลังจากอนิเมะ สตอรี่บอร์ดต้นฉบับ รวมไปถึงฉากสำคัญต่างๆ นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์น่าสนใจอื่นๆ อีก อาทิ ผลงานพิเศษจาก 5 ศิลปินที่เลือกฉากจากอนิเมะมาตีความใหม่ในสไตล์ของตัวเอง โดยมีให้ชมเฉพาะในนิทรรศการนี้เท่านั้น

 

โดยนิทรรศการจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2568 บัตรเข้าชมทั่วไปราคา 450 บาท เด็กและผู้สูงอายุ 250 บาท ซื้อบัตรได้ที่ https://www.eventpop.me/e/87167/narutothegallery-thailand

 

When: วันที่ 31 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2568

Where: ห้อง RCB Galleria ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก

More Info: River City Bangkok

 


 

 

Heart & Body Ritual By Tasha

 

ไปฮีลร่างกายและจิตใจกันในเวิร์กช็อปทำสมาธิ เคลื่อนไหวร่างกาย พร้อมมีคาเคาเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรารู้สึกสงบ คลาสนี้นำโดย Tasha ผู้จะพาทุกคนไปผ่อนคลายตลอดเวลา 2 ชั่วโมง โดยมีค่าเข้าร่วม 1,414 บาทต่อคน คลาสจัดขึ้นที่โครงการ Slowcomba สามย่าน

 

สามารถจองคลาสได้ผ่าน IG: @tash.fl

 

When: วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เวลา 18.00-20.00 น.

Where: สามย่าน

More Info: Slowcombo

 


 

 

The Commons Open Mic

 

เตรียมเปิดฟลอร์ต้อนรับกิจกรรม Open Mic ที่ The Commons จะชวนคนที่มีความสนใจหรืออยากทำในสิ่งที่ชอบมาขึ้นเวทีโชว์ความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง นักดนตรี นักแสดง นักอ่าน นักเล่าเรื่องตลก ไปจนถึง Drag show

 

โดยเวทีนี้อยากเป็นพื้นที่สำหรับทุกคนและการแสดงทุกรูปแบบ ซึ่งกิจกรรม Open Mic ครั้งแรกนี้จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม เวลา 16.30-17.00 น. ด้วยการแสดงเปิดตัวกิจกรรมจาก Valentina Ploy ศิลปินแนวเพลงป๊อป-โฟล์กที่จะมาเปิดตัวซิงเกิลใหม่ล่าสุด

 

When: วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เวลา 16.30-17.00 น.

Where: ทองหล่อ

More Info: theCOMMONS Thonglor

 


 

 

Shadow of Triangle

 

นิทรรศการที่เกิดขึ้นจากการกลับมาของเพื่อนเก่าแก๊งเดียวกันสมัยยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากรจากคณะจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ และศิลปะไทย หลังจากพวกเขาเรียนจบและแยกย้ายกันไปใช้ชีวิต นี่คือการกลับมารวมตัวกันเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองซึ่งแม้จะดำเนินไปบนเส้นทางที่แตกต่างกัน แต่กลับเชื่อมโยงกันด้วยคำว่าศิลปะ

 

งานนี้เปิดให้เข้าชมฟรีที่ BACC ชั้น 4

 

When: วันที่ 20 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2568

Where: หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

More Info: Bacc หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (29 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2568) appeared first on THE STANDARD.

]]>
Mette Hay ผู้อยู่เบื้องหลังสีสันและปรัชญาความเรียบง่ายของแบรนด์ขวัญใจคนเมือง ‘HAY’ https://thestandard.co/life/hay-brand-philosophy-mette-hay Wed, 28 May 2025 03:14:43 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1079274 Mette Hay

“ถ้าเราต้องใช้ของทุกวันอยู่แล้ว ทำไมไม่ทำให้สวยด้วยล่ะ” […]

The post Mette Hay ผู้อยู่เบื้องหลังสีสันและปรัชญาความเรียบง่ายของแบรนด์ขวัญใจคนเมือง ‘HAY’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Mette Hay

“ถ้าเราต้องใช้ของทุกวันอยู่แล้ว ทำไมไม่ทำให้สวยด้วยล่ะ” – Mette Hay

 

ใครที่หลงรักงานดีไซน์สไตล์สแกนดิเนเวียนน่าจะคุ้นชื่อ HAY อยู่ไม่น้อย แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านจากโคเปนเฮเกนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเรียบง่าย สีสันสดใส และใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เบื้องหลังความสำเร็จของ HAY คือ Mette Hay ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้ดูแลงานออกแบบของ HAY Accessories ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้แบรนด์กลายเป็นที่รักของคนทั่วโลก

 

เนื่องในโอกาสเปิดแสดงนิทรรศการ HAY ICON EXHIBITION เธอจึงเดินทางมาเยือนกรุงเทพฯ ครั้งแรก และเปิดโอกาสให้เราได้ซักถามพูดคุยเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของ HAY วิธีคิดเบื้องหลังการเลือกสี ออกแบบ รวมถึงสิ่งที่เธอเรียนรู้จากการทำงานร่วมกับนักออกแบบระดับโลกมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

 

คุณรู้ตัวเมื่อไรว่าอยากเริ่มต้นทำแบรนด์ของตัวเอง 

 

Mette Hay: ฉันเริ่มก่อตั้ง HAY ตอนอายุ 23 ปี ร่วมกับ Rolf สามี ซึ่งอายุมากกว่า 10 ปี ตอนนั้นเขาทำงานอยู่ในวงการออกแบบอยู่แล้ว ส่วนตัวก็ฉันเติบโตมาในร้านดีไซน์สโตร์ของพ่อแม่ พวกเขาทำธุรกิจมานานกว่า 25 ปี หลังเลิกเรียนฉันมักไปอยู่ที่นั่นเสมอ ก็เลยรู้ตัวว่าอยากทำอะไรตั้งแต่เด็ก เพียงแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไร จนกระทั่งมาเจอกับ Rolf ซึ่งตอนนั้นเขามีดีไซน์ของเก้าอี้ โต๊ะ และโซฟาเลานจ์ ที่อยากผลิต เราจึงตัดสินใจเริ่มต้นแบรนด์นี้ร่วมกับผู้ก่อตั้งอีกคน โดยมีเป้าหมายสร้างแบรนด์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นของเราเอง

 

ตอนนั้นคุณเห็นโอกาสหรือช่องว่างอะไรในตลาด

 

Mette Hay: เราเห็นช่องว่างระหว่างเฟอร์นิเจอร์ระดับล่างที่ทุกคนเข้าถึงได้ กับเฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ที่คนจำนวนมากเข้าใจคุณค่าแต่ไม่สามารถซื้อได้ ตอนนั้นแบรนด์ที่อยู่ตรงกลางมีน้อยมาก เราเลยมุ่งมั่นอยากสร้างบางอย่างที่เข้าถึงได้แต่ยังมีดีไซน์ที่ดี

 

ช่วยเล่าถึงแนวคิดของ ‘Design for Everyone’ ถึงเป็นปรัชญาสำคัญของ HAY หน่อย

 

Mette Hay: ฉันชอบแนวคิด Design for Everyone มาก เพราะหมายถึงการที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของดีไซน์ดีๆ ได้ ไม่ใช่แค่คนที่เข้าถึงงานแกลเลอรี่หรือสินค้าหรูเท่านั้น เราชอบหยิบผลงานของศิลปินหรือนักออกแบบที่ทำงานในระดับสูง แล้วนำมาปรับให้ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน นั่นคือสิ่งที่เราทำที่ HAY

 

 

ในการออกแบบชิ้นงานแต่ละครั้ง คุณเริ่มออกแบบจากอะไรเป็นลำดับแรก ดีไซน์ ฟังก์ชัน หรือแรงบันดาลใจ

 

Mette Hay: แล้วแต่โปรเจกต์เลยค่ะ บางครั้งเริ่มจากฟังก์ชัน บางครั้งเริ่มจากวัสดุ หรือดีไซเนอร์ที่มีไอเดียดีๆ แต่โดยทั่วไปฉันจะดูแลงานที่เกี่ยวกับวัตถุและของตกแต่ง ส่วน Rolf จะดูแลเรื่องเฟอร์นิเจอร์และโคมไฟ ซึ่งเป็นทักษะคนละแบบกัน

 

แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้ HAY แตกต่างจากแบรนด์ดีไซน์อื่นๆ ในสแกนดิเนเวีย

 

Mette Hay: ฉันกับสามีพยายามไม่เปรียบเทียบตัวเองกับแบรนด์อื่นมากนัก เราแค่ตั้งใจทำในสิ่งที่เรารู้สึกว่าใช่ และทำด้วยความเชื่อมั่นในรากฐานของการออกแบบแบบเดนมาร์กซึ่งให้ความสำคัญกับการอยู่กับสิ่งของสวยงาม ใช้งานได้ และอยู่ได้นาน  ฉันว่าสิ่งนี้อยู่ในสายเลือดของเรา

 

สีสันถือเป็นเอกลักษณ์ของ HAY คุณเลือกสีอย่างไรสำหรับแต่ละคอลเล็กชัน

 

Mette Hay: หลายบริษัทใช้พาเลตต์สีประจำปี แต่ที่ HAY เรามองผลิตภัณฑ์เป็นรายตัว และให้แต่ละคอลเล็กชันมีพาเลตต์สีของตัวเอง บางครั้งคุณอาจเห็นสีแดงเดียวกันปรากฏบนเก้าอี้และกระเป๋าโท้ต แต่ทั้งหมดถูกเลือกอย่างตั้งใจและก็ไปด้วยกันได้ดีด้วย เพราะทีมออกแบบของเรามีไม่กี่คน และเราทำงานด้วยความคิดแบบเดียวกัน เหมือนคนคนเดียวกันเลือกของเข้าบ้าน

 

 

คุณมีเทคนิคการผสมผสานความสวยงามเข้ากับฟังก์ชันอย่างไร

 

Mette Hay: สำหรับฉัน ถ้าสิ่งของไหนใช้ไม่ได้ ถือว่าก็ไม่เวิร์กค่ะ แน่นอนว่าสิ่งของที่แค่มองแล้วสวยนั่นมีเสน่ห์ แต่สิ่งที่เราทำที่ HAY เน้นใช้งานได้จริง ฉันชอบแนวคิดที่ว่า ถ้าคุณต้องใช้ของบางอย่างอยู่ทุกวัน ทำไมจะไม่ทำให้มันสวยล่ะ? ความสวยงามและสีสันสำคัญกับฉันพอๆ กับแสงแดดหรืออาหารดีๆ มันทำให้เรามีความสุขขึ้นในชีวิตประจำวัน

 

คุณทำงานกับนักออกแบบทั่วโลก คุณได้เรียนรู้อะไรจากพวกเขาบ้าง

 

Mette Hay: ฉันเรียนรู้จากทุกคนที่เราทำงานด้วย แม้แต่จากลูกค้าด้วยค่ะ ในช่วงหลังมานี้ฉันชอบทำงานกับคนที่ไม่ใช่นักออกแบบในอุตสาหกรรมเดียว เช่น เชฟ สไตลิสต์อาหาร หรือศิลปิน มันช่วยเติมพลังและทำให้แบรนด์สดใหม่อยู่เสมอ การเปิดรับผู้คนจากธุรกิจอื่นทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ที่เราคาดไม่ถึง

 

มีนักออกแบบหรือศิลปินไทยที่คุณอยากร่วมงานด้วยไหม

 

Mette Hay: ฉันอยากร่วมงานมากเลยค่ะ ถึงตอนนี้เรายังไม่มีใครในลิสต์ แต่บางทีฉันอาจจะได้พบใครสักคนในเร็วๆ นี้ ฉันคิดว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่งดงามและฉันรู้สึกขอบคุณที่ได้มาเยือน อยากมีโอกาสมาให้บ่อยกว่านี้ด้วย

 

ในฐานะผู้หญิงที่มีบทบาทผู้นำในแบรนด์ออกแบบระดับโลก คุณมองเห็นบทบาทของผู้หญิงในวงการนี้อย่างไรบ้าง

 

Mette Hay: เราทำงานกับผู้หญิงจำนวนมากทั้งในทีมและในกลุ่มดีไซเนอร์ อย่างเช่น Clara von Zweigbergk, Inga Sempé, Ana Kras, Nipa Doshi จาก Doshi Levien และอีกหลายคน สำหรับฉัน ฉันไม่เคยสนว่าดีไซเนอร์ที่ทำงานด้วยเป็นใคร มาจากไหน เพศอะไร หรือศาสนาอะไร แต่ฉันสนใจมากกว่าว่าเราจะสร้างอะไรด้วยกันได้บ้าง ฉันสนใจที่แนวคิด ผลิตภัณฑ์ และพลังสร้างสรรค์

 

เคยจินตนาการไหมว่า ‘งานดีไซน์ในอนาคต’ เป็นแบบไหน

 

Mette Hay: สำหรับฉัน การออกแบบเป็นเรื่องของสัญชาตญาณและความรู้สึก มากกว่า เราไม่สามารถบอกกับตัวเองว่า “วันนี้ฉันมีแรงบันดาลใจ” แล้วทุกอย่างจะเกิดขึ้นเลย สำหรับฉันแรงบันดาลใจมาจากสิ่งรอบตัว และประสบการณ์ที่เราเปิดรับในแต่ละวัน ฉันไม่เคยจินตนาการเลยว่างานออกแบบในอนาคตจะเป็นอย่างไร ฉันมักอยู่กับปัจจุบัน และใช้ความรู้สึกมากกว่าในการออกแบบ

 

 

ตอนนี้ HAY มีงานนิทรรศการ ‘HAY ICON EXHIBITION’ และคุณก็เดินทางมาเพื่องานนี้ด้วย อยากให้เล่าแนวคิดของนิทรรศการในครั้งนี้หน่อย

 

Mette Hay: เราต้องการแสดงความหลากหลายของ HAY ให้เห็นอย่างชัดเจน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ ของใช้จุกจิก เรามีตั้งแต่โซฟาคุณภาพสูง ไปจนถึงถ้วยชาและแปรงสีฟัน ฉันหวังว่าผู้ชมจะมองเห็น ‘ด้ายแดง’ ที่เชื่อมทุกชิ้นงานเข้าด้วยกัน แม้ของจะแตกต่างกันมาก แต่เมื่อจัดรวมกันแล้ว มันคือจักรวาลเดียวกัน

 

มีไฮไลต์หรือของชิ้นไหนที่คุณไม่อยากให้ผู้ชมพลาดบ้าง

 

Mette Hay: ถ้าพูดถึงไฮไลต์ ฉันอยากให้ลองดูคอลเล็กชัน Palisade ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์เอาต์ดอร์ที่อยู่กับเรามานาน มีความเป็นกราฟิกสูงมาก และยังคงให้ความรู้สึกทันสมัยอยู่เสมอ ที่สำคัญคือ การที่ทุกชิ้นของ HAY ถูกจัดแสดงรวมกันทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง และโคมไฟ ทำให้เรามองเห็นภาษาเดียวกันของแบรนด์ ซึ่งก็คือความเรียบง่าย สดใส และร่วมสมัย

 

สำหรับใครที่อยากแวะไปชมนิทรรศการ ‘HAY ICON EXHIBITION’ สามารถไปชมได้ตั้งแต่วันนี้ – 1 มิถุนายน 2568 ณ HAY Bangkok ซอยเจริญกรุง 30

The post Mette Hay ผู้อยู่เบื้องหลังสีสันและปรัชญาความเรียบง่ายของแบรนด์ขวัญใจคนเมือง ‘HAY’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เจอกันวันอาทิตย์นี้! Bangkok Pride 2025 เริ่มที่สนามกีฬาแห่งชาติ-แยกราชประสงค์ จัดเต็ม 90 ขบวน https://thestandard.co/life/bangkok-pride-parade-2025 Mon, 26 May 2025 08:45:46 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1078639 bangkok-pride-parade

นับถอยหลังอีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ก็จะถึงอีกหนึ่งวันส […]

The post เจอกันวันอาทิตย์นี้! Bangkok Pride 2025 เริ่มที่สนามกีฬาแห่งชาติ-แยกราชประสงค์ จัดเต็ม 90 ขบวน appeared first on THE STANDARD.

]]>
bangkok-pride-parade

นับถอยหลังอีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ก็จะถึงอีกหนึ่งวันสำคัญที่ทั่วโลกจับตามองกับเทศกาล Bangkok Pride 2025 วันเฉลิมฉลองให้กับทุกความหลากหลายทางเพศซึ่งจะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เต็มไปด้วยสีสัน ความสุข และการขับเคลื่อนสังคมแห่งความเท่าเทียม โดยไฮไลต์ของทุกๆ ปีแน่นอนว่าคือ ‘การเดินขบวนพาเหรด’ ที่จะมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมารวมตัวกันเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับทุกเพศบนโลกใบนี้

 

อีกทั้ง Bangkok Pride 2025 ยังพิเศษกว่าปีไหน เนื่องจากนี่เป็นการเฉลิมฉลอง Pride Month ครั้งแรกหลังจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมได้รับการรับรอง เพราะฉะนั้นใครที่ไม่เคยไปสัมผัสบรรยากาศจริง หรือไปไม่เคยพลาดเลยสักปี วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายนนี้ รีบเตรียมตัวให้ดี แล้วออกไปเจอกันได้ตามจุดนัดพบตลอดเส้นทางตั้งแต่สนามกีฬาแห่งชาติ ไปจนถึงแยกราชประสงค์

 

โดยเราสรุปข้อมูลคร่าวๆ มาให้ตามด้านล่างนี้เลย

 

สำหรับขบวนพาเหรด

 

Bangkok Pride Parade 2025 จัดวันที่ 1 มิถุนายน 2568 เวลา 14.00 – 22.00 น. โดยขบวนจะเริ่มเดินจากสนามกีฬาแห่งชาติ ศุภชลาศัย > หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร > สยามดิสคัฟเวอรี่ > สยามเซ็นเตอร์ > สยามพารากอน > วัดปทุมวนาราม > มาจบที่แยกราชประสงค์ บริเวณลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยรวมระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร 

 

ส่วนธีมในปีนี้คือ Born This Way มาพร้อมพาเหรด 5 ขบวน 5 สี 5 คอนเซปต์ ได้แก่

 

  1. สีแดง: Born to be Loved ฉลองความรักและสิทธิสมรสเท่าเทียม
  2. สีม่วง: Born to be Me ส่งเสริมการรักตัวเองและความภาคภูมิใจในตัวตน
  3. สีเขียว: Born to be Part of One สะท้อนความเชื่อมโยงของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม สังคม และโลก 
  4. สีเหลือง: Born to Create & Inspire โชว์ศิลปะและวัฒนธรรมของชุมชน LGBTQIAN+
  5. สีฟ้า: Born to Heal Generations เน้นการเยียวยาและการเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียม

 

อีกทั้งในปีนี้จะมีธงสีรุ้งความยาวกว่า 200 เมตร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและครั้งแรกของโลกด้วย

 

กิจกรรมอื่นๆ

 

  • Bangkok Pride Awards จัดวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เพื่อเชิดชูบุคคลและองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสิทธิความหลากหลายทางเพศและความเท่าเทียม 

 

  • Bangkok Pride Forum พื้นที่พูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสุขภาวะ LGBTQIAN+, เศรษฐกิจสีรุ้ง, เทคโนโลยี, สิ่งแวดล้อม, สิทธิมนุษยชน และการศึกษา โดยจัดตลอด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2568 

 

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บางกอก ไพรด์ 

The post เจอกันวันอาทิตย์นี้! Bangkok Pride 2025 เริ่มที่สนามกีฬาแห่งชาติ-แยกราชประสงค์ จัดเต็ม 90 ขบวน appeared first on THE STANDARD.

]]>
Obj: ตลาดช้อปของเก๋ ที่เปลี่ยนโต๊ะ ตู้ เตียง ในโรงแรมเป็นแกลเลอรี https://thestandard.co/life/obj-art-market Sun, 25 May 2025 07:49:49 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1078240 obj-art-market

ไม่ใช่ครั้งแรกในไทยที่มีตลาดเทสต์ดี เปลี่ยนห้องพักในโรง […]

The post Obj: ตลาดช้อปของเก๋ ที่เปลี่ยนโต๊ะ ตู้ เตียง ในโรงแรมเป็นแกลเลอรี appeared first on THE STANDARD.

]]>
obj-art-market

ไม่ใช่ครั้งแรกในไทยที่มีตลาดเทสต์ดี เปลี่ยนห้องพักในโรงแรมให้กลายเป็นแกลเลอรีจัดแสดงงานและปล่อยของเก๋ ให้ผู้ชมช้อปเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือตกแต่งบ้านได้ เรากำลังพูดถึง Obj: หรือ Object as Art โปรเจกต์ต่อยอดจาก Hotel Art Fair ที่เปลี่ยนห้องพักในโรงแรมระหว่างชั้น 5-7 ของ The Salil Hotel Riverside ให้เป็นกลายเป็นแกลเลอรีขนาดย่อม พร้อมปล่อยของให้ผู้เยี่ยมชมช้อปของติดไม้ติดมือกลับบ้านไปเลย ไม่ว่าจะเป็นถ้วยชาม แก้วชา กระเป๋าหนังใบสวย เสื้อผ้า เก้าอี้โซฟา ฯลฯ แทนที่จะกลายเป็นชิ้นงานศิลปะที่ราคาสูงและเข้าถึงยากอย่างโปรเจกต์รุ่นพี่

 

งานนี้มีแกลเลอรีและแบรนด์ดีๆ ทั่วไทยกว่า 40 แบรนด์จาก 39 ห้องโรงแรม ให้ดู เดินเสพ เดินช้อปกันแบบจุใจ เพียงสุดสัปดาห์นี้เท่านั้น วันนี้วันสุดท้ายแล้ว ใครสนใจ แวะไปได้ที่ The Salil Hotel Riverside ซอยเจริญกรุง 72/1 จนถึงเวลา 21.00 น.

 

Obj ตลาดช้อปสุดเก๋ เปลี่ยนโรงแรมเป็นแกลเลอรีศิลปะ Obj ตลาดช้อปสุดเก๋ เปลี่ยนโรงแรมเป็นแกลเลอรีศิลปะ Obj ตลาดช้อปสุดเก๋ เปลี่ยนโรงแรมเป็นแกลเลอรีศิลปะ Obj ตลาดช้อปสุดเก๋ เปลี่ยนโรงแรมเป็นแกลเลอรีศิลปะ Obj ตลาดช้อปสุดเก๋ เปลี่ยนโรงแรมเป็นแกลเลอรีศิลปะ Obj ตลาดช้อปสุดเก๋ เปลี่ยนโรงแรมเป็นแกลเลอรีศิลปะ Obj ตลาดช้อปสุดเก๋ เปลี่ยนโรงแรมเป็นแกลเลอรีศิลปะ Obj ตลาดช้อปสุดเก๋ เปลี่ยนโรงแรมเป็นแกลเลอรีศิลปะ Obj ตลาดช้อปสุดเก๋ เปลี่ยนโรงแรมเป็นแกลเลอรีศิลปะ Obj ตลาดช้อปสุดเก๋ เปลี่ยนโรงแรมเป็นแกลเลอรีศิลปะ

The post Obj: ตลาดช้อปของเก๋ ที่เปลี่ยนโต๊ะ ตู้ เตียง ในโรงแรมเป็นแกลเลอรี appeared first on THE STANDARD.

]]>
HAY ICON EXHIBITION นิทรรศการที่บอกเล่าการเดินทางตลอด 23 ปีของ HAY https://thestandard.co/life/hay-icon-exhibition Fri, 23 May 2025 08:21:41 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1077672 HAY ICON EXHIBITION

นิทรรศการที่บอกเล่าการเดินทางตลอด 23 ปีของ HAY   H […]

The post HAY ICON EXHIBITION นิทรรศการที่บอกเล่าการเดินทางตลอด 23 ปีของ HAY appeared first on THE STANDARD.

]]>
HAY ICON EXHIBITION

นิทรรศการที่บอกเล่าการเดินทางตลอด 23 ปีของ HAY

 

HAY ICON EXHIBITION นิทรรศการพิเศษที่จัดแสดงผลงานไอคอนิกตลอด 23 ปีที่ผ่านมาของแบรนด์ HAY แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านสัญชาติเดนมาร์ก พร้อมบอกเล่าตัวตนของแบรนด์ผ่านมุมมองของนักออกแบบระดับโลกที่ร่วมสร้างสรรค์ผลงานกับ HAY ตลอดหลายปี

 

 

ภายในงาน HAY ICON EXHIBITION คุณจะได้พบกับคอลเล็กชันเฟอร์นิเจอร์และของใช้กว่า 50 ชิ้นที่ล้วนมีดีไซน์เรียบง่าย สีสันโดดเด่น และเต็มเปี่ยมด้วยรายละเอียด ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา อาร์มแชร์ รวมถึงของใช้ในชีวิตประจำวันที่หลายคนอาจคุ้นตาอย่างโคมไฟหรือเครื่องครัว เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ที่ได้แรงบันดาลใจจากสามแหล่งสำคัญ ได้แก่ ศิลปะ สถาปัตยกรรม และแฟชั่น

 

 

 

นิทรรศการครั้งนี้จัดขึ้นที่ HAY Bangkok ซึ่งเป็น Flagship Store แห่งแรกของ HAY ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ใน Warehouse 30 ซอยเจริญกรุง 30 โดยเปิดให้เข้าชมฟรีระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00-19.00 น.

The post HAY ICON EXHIBITION นิทรรศการที่บอกเล่าการเดินทางตลอด 23 ปีของ HAY appeared first on THE STANDARD.

]]>