Thai League – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 07 Aug 2025 03:06:26 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ไทยลีกจัดแฟชั่นโชว์ เปิดฤดูกาลใหม่ไทยลีก BEYOND THE GAME 2025/26 https://thestandard.co/thai-league-2025-26-season-launch/ Thu, 07 Aug 2025 03:06:26 +0000 https://thestandard.co/?p=1104632 thai-league-2025-26-season-launch

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดฉากฤดูกาลใหม่อย่างยิ่ […]

The post ไทยลีกจัดแฟชั่นโชว์ เปิดฤดูกาลใหม่ไทยลีก BEYOND THE GAME 2025/26 appeared first on THE STANDARD.

]]>
thai-league-2025-26-season-launch

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดฉากฤดูกาลใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “Thai League BEYOND THE GAME 2025/26” ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง พร้อมประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรหลากหลายภาคส่วน ทั้งแฟชั่น ดนตรี ศิลปะ และธุรกิจ ถ่ายทอดจิตวิญญาณของฟุตบอลที่ไม่หยุดอยู่แค่ในสนาม

 

ฤดูกาลนี้ ฟุตบอลอาชีพไทยทั้ง 3 ลีกจะได้รับการสนับสนุนจาก BYD อย่างเต็มรูปแบบ ได้แก่

  • ไทยลีก 1: BYD SEALION 6 ภายใต้สโลแกน Where Greatness Begins
  • ไทยลีก 2: BYD SEAL 5 กับแนวคิด Dream Chaser
  • ไทยลีก 3: BYD DOLPHIN ภายใต้คอนเซปต์ One Team, One Goal

 

มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ ย้ำว่าปีนี้ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของฟุตบอลไทย ด้วยการสนับสนุนครบทุกด้าน ทั้งจำนวนสโมสรที่เพิ่มเป็น 102 ทีม การถ่ายทอดสดครบทั้ง 3 ลีกโดย AIS, GULF และ JAS รวมถึงเงินสนับสนุนที่มากขึ้น

 

โดยจะมีการถ่ายทอดสดรวมกว่า 1,300 นัดผ่าน AIS PLAY ครอบคลุมทั้งฟุตบอลชาย ฟุตบอลหญิง และฟุตบอลเยาวชน ซึ่งเปิดให้แฟนบอลรับชมฟรีทุกเครือข่าย พร้อมทีมพากย์กว่า 60 ชีวิตเติมเต็มอรรถรสในการเชียร์

 

ขณะที่ตัวแทนจากภาคเอกชนอย่าง BYD, GULF, JAS, AIS และเรเว่ ต่างยืนยันความพร้อมที่จะผลักดันฟุตบอลไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชน เยาวชน และแฟนบอลทั่วประเทศ

 

 Thai League 2025/26 เปิดฤดูกาล  Thai League 2025/26 เปิดฤดูกาล  Thai League 2025/26 เปิดฤดูกาล  Thai League 2025/26 เปิดฤดูกาล  Thai League 2025/26 เปิดฤดูกาล  Thai League 2025/26 เปิดฤดูกาล  Thai League 2025/26 เปิดฤดูกาล  Thai League 2025/26 เปิดฤดูกาล  Thai League 2025/26 เปิดฤดูกาล  Thai League 2025/26 เปิดฤดูกาล  Thai League 2025/26 เปิดฤดูกาล

The post ไทยลีกจัดแฟชั่นโชว์ เปิดฤดูกาลใหม่ไทยลีก BEYOND THE GAME 2025/26 appeared first on THE STANDARD.

]]>
สัมภาษณ์พิเศษ เตบาส ประธานลาลีกา ถึงบทเรียนจากสเปนสู่การยกระดับฟุตบอลไทยลีก https://thestandard.co/tebas-la-liga-advice-thai-league-development/ Wed, 25 Jun 2025 12:00:21 +0000 https://thestandard.co/?p=1088315 ฮาเวียร์ เตบาส ประธานลาลีกา ให้สัมภาษณ์พิเศษเรื่องอนาคตฟุตบอลไทยลีก

ในโลกของฟุตบอล ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าสเปนคือหนึ่งในมหาอำน […]

The post สัมภาษณ์พิเศษ เตบาส ประธานลาลีกา ถึงบทเรียนจากสเปนสู่การยกระดับฟุตบอลไทยลีก appeared first on THE STANDARD.

]]>
ฮาเวียร์ เตบาส ประธานลาลีกา ให้สัมภาษณ์พิเศษเรื่องอนาคตฟุตบอลไทยลีก

ในโลกของฟุตบอล ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าสเปนคือหนึ่งในมหาอำนาจฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ

 

ลาลีกาสเปนเป็นบ้านของทีมระดับตำนานอย่างเรอัล มาดริด บาร์เซโลนา และนักเตะชั้นนำระดับโลก ขณะที่ทีมชาติสเปนก็สร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ยูโร 2008, 2012 และ World Cup 2010 การครองแชมป์ 3 สมัยติดต่อกันนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีทีมชาติใดทำได้มาก่อน

 

แล้วเพิ่งจะคว้าแชมป์ยูโร 2024 ด้วยทีมชาติรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยดาวเด่นอย่าง เปดรี กาบี และ ยามัล แสดงให้เห็นว่าระบบการผลิตนักเตะของสเปนยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

 

เบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมดนี้ มีชายคนหนึ่งที่ทำงานอย่างหนักเพื่อยกระดับลาลีกาให้เป็นที่ยอมรับทั่วโลก นั่นคือ ฮาเวียร์ เตบาส ประธานลาลีกาผู้ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2013

 

 

จากทนายความและนักธุรกิจ เตบาสพิสูจน์ให้เห็นว่าการบริหารจัดการลีกฟุตบอลสมัยใหม่ต้องอาศัยมากกว่าแค่ความรักในกีฬา ต้องมีวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ทางธุรกิจ และการปฏิรูปที่กล้าหาญ

 

ภายใต้การนำของเขา ลาลีกาได้กลายเป็นมากกว่าแค่การแข่งขันฟุตบอล แต่เป็น ‘ผลิตภัณฑ์โลก’ ที่มีแฟนบอลติดตามกว่า 2.7 พันล้านคนทั่วโลก (ข้อมูลการถ่ายทอดสดเมื่อฤดูกาล 2017/18) มีรายได้จากสิทธิ์ถ่ายทอดสดสูงขึ้น ระบบ Financial Fair Play ที่เขาริเริ่มขึ้น กลายเป็นแบบอย่างให้ลีกอื่นๆ ทั่วโลกนำไปใช้

 

วันนี้ THE STANDARD SPORT มีโอกาสได้รับเชิญจากลาลีกา ประเทศไทย ให้เดินทางไปยังสิงคโปร์เพื่อพูดคุยกับเตบาส ในประเด็นที่แฟนบอลไทยสนใจ โดยเฉพาะการที่ไทยลีกจะสามารถเรียนรู้และประยุกต์ใช้ประสบการณ์จากลาลีกา เพื่อพัฒนาฟุตบอลไทยให้ไปถึงระดับสากลได้อย่างไร

 

ฮาเวียร์ เตบาส ประธานลาลีกา ให้สัมภาษณ์พิเศษเรื่องอนาคตฟุตบอลไทยลีก

 

นักข่าว: ขอบคุณที่ให้เวลามาสัมภาษณ์วันนี้ครับ คุณเตบาส เริ่มด้วยคำถาม ลีกอาชีพของไทยสามารถเรียนรู้อะไรได้บ้างจากลาลีกาและทีมชาติสเปน ในแง่มุมของการพัฒนาลีกที่แข็งแกร่งและการพัฒนาเยาวชนครับ?

 

เตบาส: มีสองคำถามหลักที่ต้องตอบครับ อย่างแรกคือ หากต้องการให้ทีมชาติแข็งแกร่ง ระบบการแข่งขันฟุตบอลทุกระดับต้องหนักแน่น ดุเดือด และรวดเร็วมาก

 

เราสามารถมีอะคาเดมีที่หลากหลายและมีนักฟุตบอลดีๆ ผ่านระบบนั้นมา แต่ถ้าไม่มีระบบการแข่งขันที่เข้มข้นในระดับ U15, U16, และ U17 จะเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะพัฒนานักฟุตบอลทีมชาติขึ้นมา

 

อย่างที่สองคือลีกระดับประเทศ ลีกอาชีพ ลีกสูงสุด ลีกรองลงมา ต้องมีระบบรายได้ที่แข็งแกร่งมาก มีเงินเยอะเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องยั่งยืนด้วย เพราะถ้าอยากให้การแข่งขันนี้เติบโตขึ้นแบบเป็นอาชีพ และนักเตะทีมชาติได้แข่งขันกันในระดับสูง จนเราสามารถยกระดับขึ้นไปแข่งขันในระดับภูมิภาคหรือทวีปได้ นี่คือสิ่งที่แบ่งปันได้จากประสบการณ์ของฟุตบอลสเปน

 

 

นักข่าว: ในยุคดิจิทัลนี้ ลาลีกาทำอย่างไรในการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่?

 

เตบาส: ระบบดิจิทัลของลีกทั้งหมดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ใช่แค่ระบบ แต่วิธีการเสพสื่อดิจิทัลอีกด้วย และขึ้นอยู่กับประเทศ เพราะรูปแบบการเสพสื่อแตกต่างกัน

 

Social media ก็ใกล้กับสื่อที่วัยรุ่นเสพมาก และหัวข้อของแต่ละอันที่แฟนๆ ชื่นชอบ และในแต่ละประเทศ เรามุ่งไปสู่รูปแบบเกมที่ใช้สื่อสารกับแฟนๆ

 

แต่ทุกที่ก็มีความแตกต่างกัน เพราะในสเปนบางที วัยรุ่นเยาวชนชื่นชอบฟุตบอล แต่ไม่อินกับสื่อดิจิทัล เด็กที่อายุน้อยกว่า 14 ปี ที่อยู่ในกลุ่มสะสมสติกเกอร์และการ์ด นี่คือการสัมผัสฟุตบอลครั้งแรกของพวกเขา ทั้งที่ไม่ได้เล่นฟุตบอล แต่พวกเขารู้จักนักเตะและทีมหมดแล้ว

 

แน่นอนเราใช้สื่อออนไลน์เป็นหลัก แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ และ วิธีที่เราสื่อสารด้วย 

นักข่าว: หลังจากทำงานกับลาลีกามาเป็นเวลานาน สิ่งที่คุณภูมิใจที่สุดคืออะไร?

 

เตบาส: ผมต้องบอกว่าเป็นระบบการเงินของฟุตบอลสเปน กฎการเงินสำหรับลีกที่เขาเป็นคนเริ่มต้นขึ้นมา และเริ่มต้นใช้เป็นวงกว้างในลีกยุโรป และในเอเชียมีมาเลเซีย ลีกฟุตบอลของมาเลเซีย

 

มีปัญหาเรื่องภาษี หรือค่าเหนื่อยนักเตะที่สโมสรต้องจ่าย แต่ตอนนี้พวกเขาจ่ายกันหมด นับเป็นการปฏิวัติกฎการเงินของสโมสร FFP ของลาลีกาไม่ใช่แค่เรื่องของการแก้ไข แต่ป้องกันปัญหาในอนาคตด้วย

 

 

นักข่าว: เรื่องโควตานักเตะต่างชาติ ทำอย่างไรถึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด?

 

เตบาส: สิ่งแรกคือเราต้องมีระบบลีกที่แข็งแกร่งก่อนในทุกรุ่นอายุ เพื่อให้เมื่อพวกเขาอายุ 18 ปีแล้ว พวกเขาสามารถแข่งขันได้ในระดับสูงสุดของประเทศ

 

เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่ต้องมีนักเตะต่างชาติในลีก เพราะพวกเขาทำให้การแข่งขันยากขึ้น แต่เมื่อคุณไม่มีระบบลีกที่ดีและแข็งแกร่งตั้งแต่เยาวชน พวกเขาก็จะโตมาแข่งขันไม่ได้

 

ดังนั้นคุณต้องดูก่อนเลยว่าโครงสร้างการแข่งขันเยาวชนเข้มข้นพอไหม และต้องดูว่าการเข้ามาของนักเตะต่างชาติสามารถแข่งขันกับความสามารถของนักเตะในประเทศหรือไม่

 

ในประเทศที่มีประชากรเยอะ มีนักเตะมาก มีระบบเยาวชนที่ดี แต่เมื่อถึงการแข่งขันถ้านักเตะของพวกเขากลับทำได้ไม่ดี แสดงว่าโครงสร้างการแข่งขันที่ไม่ดี

 

สิ่งหนึ่งคือนักเตะที่ดีในสนาม และนักเตะเหล่านั้นต้องทำสุดความสามารถในการแข่งขัน นั่นแสดงว่าลีกนั้นเป็นลีกที่แข็งแกร่งดี หลายประเทศสร้างนักเตะที่ดีมากก็จริง แต่นักเตะเหล่านั้นกลับไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อการแข่งขันที่ดีและดุเดือด

 

 

นักข่าว: ในไทยมีการพูดถึงการแยกไทยลีกออกจากสมาคมกีฬาฟุตบอล ในมุมของลาลีกา ทำงานร่วมกับสมาคมอย่างไร แยกกันแค่ไหนถึงจะดี?

 

เตบาส: ผมคิดว่าเราแยกกับสหพันธ์เลยไม่ได้ ต้องทำงานด้วยตัวเองได้ เป็นอิสระ แต่ไม่ใช่แยกการทำงานกับสมาคมฟุตบอลแบบ 100%

 

สิ่งที่สหพันธ์หรือสมาคมควรควบคุม คือ กรรมการ และบทลงโทษต่างๆ สโมสรต้องเลือกผู้บริหารลีกเอง สโมสรต้องเลือกผู้สนับสนุนเอง สโมสรต้องขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเอง และพวกเขาต้องแบ่งรายได้กับสโมสรอาชีพด้วยกันเอง

 

ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองหน่วยงานควรเป็นแค่ กรรมการ และบทลงโทษต่างๆ การลงโทษ และในพีระมิดของฟุตบอล ยอดสูงสุดคือการแข่งขันลีกอาชีพ

 

เพราะมีความแตกต่างในจุดประสงค์ของสหพันธ์และลีกฟุตบอลอาชีพ สหพันธ์มีหน้าที่คัดเลือกทีมชาติและฟุตบอลสมัครเล่น แต่สโมสรมีจุดประสงค์เพื่อการสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดจากการลงทุนในการแข่งขัน

 

ดังนั้นเป็นสิ่งที่ทำงานต่างกันมาก และต้องแยกกันในแง่ของการบริหารจัดการ ไม่ใช่แยกกันทั้งหมด แต่เป็นอิสระในเรื่องของการเงินและการแข่งขันอาชีพ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในสเปนมามากกว่า 40 ปี และทั่วไปในยุโรป

 

 

นักข่าว: คำถามสุดท้าย ทำอย่างไรให้ลีกปัง คนดูเยอะ คนเชียร์มาก และสปอนเซอร์เข้าเต็มๆ ทั้งในและต่างประเทศ?

 

เตบาส: ผมอาจจะต้องรู้เกี่ยวกับลีกอาชีพในไทยมากกว่านี้ก่อน แต่สิ่งแรกคือการสร้างระบบของทุนมนุษย์ Human Capital

 

ผมเชื่อว่าไทยมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นมืออาชีพเป็นจำนวนมาก แต่พวกเขาต้องมีทุนมนุษย์ในพื้นที่ๆ สำคัญที่อุตสาหกรรมกำลังเคลื่อนตัวไป

 

ถ้าอยากเติบโตทั้งในโลกสากลและในประเทศ สิ่งที่สำคัญมากๆ คือในลีกเล่นฟุตบอลกันอย่างไร และถ่ายทอดสดออกไปอย่างไร และสนามฟุตบอลเป็นอย่างไร

 

เพราะรูปแบบที่คุณเห็นผ่านการถ่ายทอดสด คือความสัมพันธ์ระหว่างสโมสรกับลีกการแข่งขัน คุณคิดว่าทุกอย่างทุกเกมเราถ่ายทอดสดด้วยรูปแบบเดียวกัน ซึ่งมันไม่ใช่เลย นี่คือคำแนะนำจากมุมมองของผม

 

จากการที่ได้ศึกษาและเรียนรู้จากสมาคมกีฬาฟุตบอลญี่ปุ่น (JFA) ทำให้เข้าใจถึงรากฐานสำคัญของการพัฒนาระบบฟุตบอลเยาวชนอย่างลึกซึ้ง รวมถึงเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า Dream 2050 ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ระยะยาวในการยกระดับฟุตบอลญี่ปุ่นสู่ระดับโลก นอกจากนี้ การได้มีโอกาสพูดคุยกับ อาร์แซน เวนเกอร์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาฟุตบอลของ FIFA ที่แนะนำให้เรา ‘Find, Train and Play’ ยังช่วยให้เห็นภาพรวมของกรอบแนวคิดและหลักการทำงานในการพัฒนาฟุตบอลในแต่ละประเทศได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

 

สิ่งที่ค้นพบจากการศึกษาและพูดคุยนี้คือ แต่ละประเทศมีหลักการและวิธีการพัฒนาฟุตบอลในประเทศของตนเองที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับบริบทและความท้าทายเฉพาะตัวของแต่ละที่ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ‘One Size Fits All’ หรือหลักการเดียวที่สามารถนำไปใช้แก้ไขปัญหาได้ทุกอย่างในทุกประเทศได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

แน่นอนว่าคำแนะนำของเตบาสในครั้งนี้จึงเปี่ยมไปด้วยเหตุผลและประสบการณ์อันล้ำค่าจากลีกชั้นนำระดับโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติสเปน อย่างไรก็ตาม หากประเทศไทยจะเลือกนำหลักการและเหตุผลเหล่านี้มาปรับใช้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการปรับจูนให้เข้ากับระบบที่เรามีอยู่ และสถานการณ์ปัจจุบันของฟุตบอลไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเหมาะสมกับบริบทของประเทศเราอย่างแท้จริง

The post สัมภาษณ์พิเศษ เตบาส ประธานลาลีกา ถึงบทเรียนจากสเปนสู่การยกระดับฟุตบอลไทยลีก appeared first on THE STANDARD.

]]>
ก้าวต่อไปในบ้านหลังใหม่ของฟุตบอลไทยลีก https://thestandard.co/thai-leagues-new-home-next-steps/ Tue, 10 Jun 2025 14:09:13 +0000 https://thestandard.co/?p=1083798

ข่าวการให้บริการถ่ายทอดสด ‘ไทยลีก’ แบบฟรีๆ […]

The post ก้าวต่อไปในบ้านหลังใหม่ของฟุตบอลไทยลีก appeared first on THE STANDARD.

]]>

ข่าวการให้บริการถ่ายทอดสด ‘ไทยลีก’ แบบฟรีๆ ผ่านผู้ให้บริการหลัก 2 เจ้า ทั้ง AIS PLAY และ MONOMAX กลายเป็นสิ่งที่แฟนบอลพูดถึงในวงกว้างทันที หลังจากที่ สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS เปิดเผยเรื่องดังกล่าวในช่วงการตอบคำถามสื่อมวลชนในงาน ‘เปิดตัวพันธมิตรครั้งสำคัญ ร่วมพลิกโฉมฟุตบอลไทยลีก’ ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (10 มิถุนายน)

 

การยืนยันดังกล่าวถือเป็นก้าวประวัติศาสตร์ที่สำคัญสำหรับวงการฟุตบอลไทย เพราะนับเป็นครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดครบทุกลีกฟุตบอลระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นไทยลีก 1, 2, 3, ฟุตบอลถ้วยเอฟเอคัพ และลีกคัพ รวมถึงฟุตบอลลีกเยาวชน U21 และฟุตบอลหญิงลีก 1 และ 2 หลังจากที่กลุ่มพันธมิตร AIS-GULF-JAS ชนะการประมูลลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยเป็นเงินสด 350 ล้านบาท และยังออกค่าโปรดักชันต่างๆ ที่ตกปีละ 150 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 4 ปี รวมมูลค่าราว 2,000 ล้านบาท

 

การเข้าถึงที่ครอบคลุมเช่นนี้จะช่วยให้แฟนบอลทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย สามารถเข้าถึงประสบการณ์การชมฟุตบอลในประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มของ AIS PLAY ที่สามารถสมัครสมาชิกได้ฟรี ซึ่งจะกลายมาเป็นแพลตฟอร์มหลักที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการนำเสนอฟุตบอลไทยสู่สายตาของแฟนๆ

 

โอกาสในการเข้าถึงที่กว้างขวาง

 

แม้จะยังไม่มีการยืนยัน แต่การที่ JAS ซึ่งมีสื่อในมือทั้ง MONOMAX และ MONO29 ก็มีโอกาสถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยไปสู่สายตาแฟนๆ ทั่วไปให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งหากมีการถ่ายทอดสดผ่านช่อง MONO29 ซึ่งเป็นดิจิทัลฟรีทีวี ก็ถือเป็นการขยายฐานผู้ชมให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

 

ในงานยังมีการยืนยันว่า การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกในครั้งนี้ จะถ่ายทอดสดไปถึงไทยลีก 3 ยกเว้นเพียงบางคู่ที่อาจจะมีความลำบากเรื่องการถ่ายทอดสัญญาณจากบางพื้นที่ซึ่งยากต่อการเข้าถึงเท่านั้น นั่นยังทำให้ฟุตบอลระดับภูมิภาคอาจจะเข้ามาสู่สายตาคนทั่วไปได้มากขึ้น เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้ ฟุตบอลลีกภูมิภาคเป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่มในพื้นที่เท่านั้น และทำให้ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจด้วย

 

โดยทาง มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เน้นย้ำถึงการกลับมามีมูลค่าของฟุตบอลไทยลีก ซึ่งจะนำมาซึ่งความมั่นคงในระยะยาวให้กับสมาคมฯ และสโมสรสมาชิกกว่า 100 สโมสรทั่วประเทศ การสนับสนุนการถ่ายทอดสดที่เข้าถึงทุกครัวเรือนและทุกมือถือ จะช่วยเพิ่มความนิยมในวงการฟุตบอลไทย นำมาซึ่งการสร้างงาน สร้างอาชีพ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

 

อีกด้านของความสะดวกสบาย

 

อย่างไรก็ตาม มีมุมมองในแง่ดี ก็ย่อมมีมุมมองด้านตรงข้าม การที่ฟุตบอลไทยลีกในทุกระดับเข้าถึงได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว อาจจะส่งผลถึงความสะดวกสบาย แต่ในทางตรงกันข้าม สิ่งนี้อาจจะทำให้แฟนๆ เข้าสนามน้อยลงด้วยก็เป็นได้

 

สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในวงการฟุตบอลอิตาลี ที่มักมีภาพจำว่าเป็นลีกสนามว่าง ซึ่งแม้ในความเป็นจริงจะมีหลายเหตุผลที่ทำให้แฟนบอลในลีกอิตาลีไม่เข้าไปดูบอลในสนาม แต่หนึ่งในเหตุผลคือการที่พวกเขาเลือกดูบอลที่บ้านนั้นสะดวกและประหยัดกว่า สิ่งเหล่านี้อาจจะคล้ายประเทศไทยอยู่ไม่น้อย เพราะการเดินทางไปดูบอลแต่ละนัดต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายไม่น้อย ซึ่งนอกจากค่าตั๋วแล้ว ค่าเดินทางรวมกับค่าอาหาร (ในกรณีที่เลือกจะรับประทาน) อาจจะทำให้การออกไปดูบอลในช่วงสุดสัปดาห์แต่ละครั้งสูงถึง 300-500 บาทเลยก็ได้

 

นั่นอาจจะเป็นเรื่องง่ายกว่า ที่บางคนอาจจะเลือกเชียร์ทีมรักอยู่ที่บ้าน และจะออกไปเชียร์ในสนามเฉพาะนัดสำคัญๆ ซึ่งก็จะส่งผลต่อยอดผู้เข้าสนามและรายได้ของสโมสรโดยตรง แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้เช่นกัน

 

ผู้เล่นยักษ์ใหญ่รายใหม่ในวงการถ่ายทอดสดกีฬา

 

ตัดภาพกลับมาที่การถือลิขสิทธิ์ของ GULF, AIS และ JAS ในครั้งนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญ ที่พวกเขากลายเป็นผู้เล่นยักษ์ใหญ่รายใหม่ ที่เดินหน้าเข้ามาสู่วงการการถ่ายทอดสดกีฬา อันที่จริง AIS ไม่ใช่หน้าใหม่สำหรับพื้นที่ตรงนี้ พวกเขามี AIS PLAY ที่ถ่ายทอดสดกีฬาต่างๆ มาหลายปีแล้ว และประสบความสำเร็จอย่างมากกับการถ่ายทอดสดโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีสเมื่อปีก่อนด้วย

 

แต่ JAS เจ้าของลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไปนี่เอง ที่เป็นหน้าใหม่พอสมควร พวกเขาอาจจะประสบความสำเร็จกับการนำภาพยนตร์และซีรีส์เข้ามาฉายในประเทศไทย แต่ในมุมของกีฬาที่พวกเขาเคยลองนำมาถ่ายทอด ทั้งบาสเกตบอล NBA หรือมวยปล้ำ WWE ก็ยังไม่ได้สร้างอิมแพ็คมากขนาดนั้น

 

แต่ในคราวนี้ พวกเขาได้พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญอย่าง AIS เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ และการที่มีคอนเทนต์ทั้งฟุตบอลลีกไทย และฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษในมือ ยิ่งถือว่าพวกเขามีอาวุธพร้อมสรรพ ที่จะต่อสู้ในเวทีการถ่ายทอดสดกีฬา…โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนึ่งในอาวุธชั้นยอดที่มีในมือ เป็นอาวุธยอดนิยมที่สามารถแย่งมาได้จากมือคู่แข่งทางธุรกิจ

 

ดังนั้นการผนึกกำลังของ GULF, AIS และ JAS ในครั้งนี้ จึงมิใช่เพียงแค่การซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด แต่เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง การผสมผสานระหว่างพลังของเงินทุนของ GULF ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารของ AIS และประสบการณ์ด้านคอนเทนต์และการถ่ายทอดสดของ JAS พร้อมด้วยวิสัยทัศน์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่ต้องการยกระดับวงการฟุตบอลไทยในทุกมิติ

 

ความร่วมมือในครั้งนี้ จึงจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนให้ฟุตบอลไทยเพิ่มความนิยมต่อคนภายในชาติ และยังอาจจะสามารถก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่บนเวทีระดับโลกได้ด้วย

 

บทพิสูจน์ที่สำคัญหลังจากนี้จึงเป็นเรื่องที่ว่า เมื่อคนไทยสามารถเข้าถึงฟุตบอลลีกไทยได้ทุกระดับบนบ้านหลังใหม่ที่ GULF, AIS และ JAS รวมถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลร่วมกันสร้างแล้ว ฟุตบอลไทยจะเติบโตได้ขนาดไหน และฐานของฟุตบอลลีกไทยที่เคยตกลงไป จะสามารถกลับมาได้อีกครั้งหรือไม่?

 

คำตอบของคำถามนี้ในอีก 6 ปีข้างหน้า จึงน่าสนใจอย่างยิ่ง…

The post ก้าวต่อไปในบ้านหลังใหม่ของฟุตบอลไทยลีก appeared first on THE STANDARD.

]]>
ไทยลีกดูฟรี! AIS-GULF-JAS เปิดตัวลิขสิทธิ์บอลไทยลีก ยิงสดผ่าน AIS PLAY และ MONOMAX https://thestandard.co/thai-league-free-ais-play-monomax/ Tue, 10 Jun 2025 09:27:33 +0000 https://thestandard.co/?p=1083692

วันนี้ (10 มิถุนายน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จ […]

The post ไทยลีกดูฟรี! AIS-GULF-JAS เปิดตัวลิขสิทธิ์บอลไทยลีก ยิงสดผ่าน AIS PLAY และ MONOMAX appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (10 มิถุนายน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ร่วมกับบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS จับมือแถลงข่าวยืนยันคว้าลิขสิทธิ์ ไทยลีก ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในงาน ‘เปิดตัวพันธมิตรครั้งสำคัญ ร่วมพลิกโฉมฟุตบอลไทยลีก’

 

ในงานมีตัวแทนจากทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็น สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS, สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GULF, ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS และ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

 

ไฮไลต์สำคัญในงานนี้คือ การประกาศเซ็นสัญญาลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยลีกระหว่าง AIS, GULF และ JAS โดยมีการประกาศราคาสมาชิกการชมไทยลีกในฤดูกาลต่อไป

 

โดยมีการเปิดเผยว่า ฟุตบอลไทยลีกจะได้รับการถ่ายทอดสดในระบบ HD ไปทั่วประเทศ ซึ่งสมาชิกของทั้ง AIS PLAY และ MONOMAX สามารถรับชมการแข่งขันได้ฟรี เพียงแค่เป็นสมาชิกของแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง

The post ไทยลีกดูฟรี! AIS-GULF-JAS เปิดตัวลิขสิทธิ์บอลไทยลีก ยิงสดผ่าน AIS PLAY และ MONOMAX appeared first on THE STANDARD.

]]>
แยกไทยลีกอาจเป็นการตอบที่ไม่ตรงคำถาม รอดแค่วันนี้…แล้ววันหน้ายังไหวหรือ? https://thestandard.co/thai-league-breakaway/ Thu, 29 May 2025 10:30:58 +0000 https://thestandard.co/?p=1080074 thai-league-breakaway

ฟุตบอลไทยเดินทางมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่ออีกครั้ง เมื่อกร […]

The post แยกไทยลีกอาจเป็นการตอบที่ไม่ตรงคำถาม รอดแค่วันนี้…แล้ววันหน้ายังไหวหรือ? appeared first on THE STANDARD.

]]>
thai-league-breakaway

ฟุตบอลไทยเดินทางมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่ออีกครั้ง เมื่อกระแสการ ‘แยกตัว’ ของสโมสรในระดับไทยลีก 1 เริ่มก่อตัวรุนแรงขึ้น

 

โดยวัตถุประสงค์ของการแยกตัวนั้นอยู่บนเรื่องของผลประโยชน์ ที่มีการหยิบยกกรณีการแยกตัวของสโมสรฟุตบอลในระดับสูงสุดของอังกฤษเพื่อก่อตั้งพรีเมียร์ลีก เป็นกรณีตัวอย่างเทียบเคียง

 

แต่ในความเป็นจริงแล้วเราไม่สามารถใช้กรณีของพรีเมียร์ลีกเป็นตัวอย่างได้ทั้งหมด เพราะมีความแตกต่างกันทางรายละเอียดค่อนข้างมาก

 

โดยเฉพาะบนคำถามถึงอนาคตของฟุตบอลไทย

 

ว่ามันจะไปต่อได้จริงไหม? และที่ว่าไปนั้นจะไปทางไหน? หรือจริงๆ แล้วเรามีสิ่งที่ควรหาคำตอบเรื่องอื่นกันแน่

 

ความจริงเรื่องของการแยกลีกไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่สำหรับวงการฟุตบอลไทย เพราะเคยมีการหยิบประเด็นนี้ขึ้นมา ‘จุดพลุ’ กันไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้วในช่วงที่มีการประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก 1 ที่มีปัญหากันเพราะตัวเลขค่าลิขสิทธิ์ที่เคยได้ในระดับ ‘ลีกพันล้าน’ หดลงมาเหลือแค่ปีละ 50 ล้านบาท

 

แต่เรื่องได้เงียบหายไปในเวลาต่อมา

 

ก่อนที่เรื่องจะวนกลับมาใหม่ในจังหวะใกล้เคียงกับของเดิมคือเป็นช่วงที่ทุกสโมสรยังคงรอคอยเรื่องการประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกรอบใหม่ ซึ่งความจริงควรจะมีความคืบหน้าที่ชัดเจนแล้วแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการ

 

นี่จึงเป็นจังหวะที่มีการจุดพลุเรื่องของการแยกไทยลีกออกมาอีกครั้ง เพื่อขอบริหารจัดการสิทธิประโยชน์กันเองระหว่าง 16 สโมสรในลีกสูงสุด ซึ่งจะเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่เท่ากันทั้งหมด

 

ส่วนสโมสรในระดับลีกรองอย่างไทยลีก 2 และไทยลีก 3 ข้อเสนอแนะใหม่จากเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์​ ยูไนเต็ด ที่มีต่อสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์คือการปรับให้กลับไปเป็นรูปแบบ ‘เซมิ-โปรลีก’ หรือลีกฟุตบอลกึ่งอาชีพ

 

เพื่อให้สโมสรในระดับไทยลีก 2 และ 3 ยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ประหนึ่งการต่อท่อออกซิเจนให้ โดยที่ไทยลีก 1 จะแบ่งรายได้ ‘บางส่วน’ ให้ด้วย

 

หากทำแบบนี้ฟุตบอลไทยจะไปต่อได้

 

คำถามที่น่าคิดคือทำแบบนี้แล้วฟุตบอลไทยจะไปต่อได้จริงไหม?

 

แยกไทยลีก ทางออกจริงหรือแค่แก้ปัญหาระยะสั้น?

 

เริ่มที่ ‘ข้อดี’ ของการแยกตัวก่อน

 

โดยแนวคิดและแนวทางแล้วคือการแยกไทยลีกออกมาตั้งเป็นบริษัทใหม่เพื่อบริหารจัดการและดูแลสิทธิประโยชน์กันเอง ไม่ยึดติดอยู่กับสมาคมฟุตบอลอีกต่อไป

 

ในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เชื่อว่าหลายฝ่ายเห็นด้วย เพราะลีกฟุตบอลอาชีพที่มีมาตรฐานจะมีบริษัทเฉพาะที่ตั้งขึ้นเพื่อบริหารจัดการการแข่งขันและบริหารธุรกิจขึ้นโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น พรีเมียร์ลีกที่แยกตัวจากเอฟเอ, ในเยอรมนีมีบุนเดสลีกาที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับเดเอฟเบ, สเปนมีลาลีกาที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับสหพันธ์ฟุตบอลสเปน หรือเลกากัลโชที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี

 

การแยกตัวออกมาแบบนี้ทำให้การบริหารธุรกิจเป็นเรื่องง่าย เพราะดูแลแค่สโมสรฟุตบอลที่อยู่ในลีก ไม่ต้องดูแลทั้งองคาพยพซึ่งรวมถึงทีมชาติชาย/หญิง ทีมชาติเยาวชน ไปจนถึงงานด้านการพัฒนากีฬาฟุตบอลซึ่งเป็นพันธกิจใหญ่ของสมาคมฟุตบอลที่เป็นชาติสมาชิกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ FIFA อีกทอดหนึ่ง

 

เปรียบให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เหมือนสมาคมฟุตบอลเป็นภาครัฐ ลีกฟุตบอลเป็นเอกชน หน้าที่แตกต่างกันแต่ทำงานร่วมกัน

 

อันนี้เห็นด้วย ไม่ติด

เรื่องของการที่ฟุตบอลไทยลีก 1 จะ ‘รับเต็ม’ ในเรื่องของค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ อันนี้ก็ไม่ติดเช่นกัน เพราะเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ ฟุตบอลอังกฤษที่ก่อตั้งมายาวนานนับร้อยปีก็มีปัญหาเรื่องของความรู้สึกไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการจัดสรรเงินส่วนแบ่งของแต่ละสโมสร (จนนำไปสู่การ ‘แยกพรีเมียร์ลีก’ – อ่านเรื่องการแยกตัวของพรีเมียร์ลีกได้ที่: ไทยลีกเตรียมแยกตัว? ย้อนรอยการแยกตัวพรีเมียร์ลีก จุดเปลี่ยนวงการฟุตบอลอังกฤษ )

 

ทีมเก่งไม่เท่ากัน ทีมดึงดูด Eyeball ไม่เท่ากัน จะรับค่าตัวเท่ากันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกเสมอไป

 

ในพรีเมียร์ลีกปัจจุบันยังมีการแบ่งเงินรายได้เป็น 2 ระบบ คือ ระบบส่วนแบ่งหลักที่ทุกสโมสรจะได้รับเท่าเทียมกัน และระบบที่เรียกว่า Merit systems ที่จะดูจากผลงานในตารางคะแนน ไปจนถึงการถูกเลือกให้เป็นแมตช์ถ่ายทอดสด ทีมไหนทำผลงานดี ได้ออกทีวีบ่อยก็ได้ส่วนแบ่งมากกว่า

 

มองแบบนี้ถือว่า ‘สารตั้งต้น’ มีความคล้ายคลึงกัน คือเป็นเรื่องของสิทธิประโยชน์ส่วนแบ่ง 

 

ส่วนเหตุผลที่มีการพยายามบอกว่า “ถ้าได้เงินส่วนแบ่งมากขึ้น ทีมจะได้งบกลับมาพัฒนามากขึ้น ลีกฟุตบอลจะแข็งขึ้น น่าดูขึ้น” อันนี้ยังไม่ซื้อเท่าไร เพราะในความเป็นจริงต่างรู้กันดีว่าที่พยายามผลักดันทางนี้เพราะปัจจุบันรายได้ที่มีมันไม่มีทางพอสำหรับการทำทีมฟุตบอลได้อยู่แล้ว

 

รายได้ส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ปีละ 10 ล้านบาท แต่ทีมมีรายจ่ายในการทำทีมฟุตบอลปีละหลัก ‘ร้อยล้าน’ จะหารายได้จากไหนถึงจะเพียงพอ?

 

มีเพียงบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมเดียวที่ในเชิง Business แล้วไปรอด (แต่ก็ไม่ได้อยู่รอดด้วย Pure football business) ขณะที่ผลเสียที่เกิดขึ้นคือศักยภาพของการแข่งขันภายในลีกต่ำลงจากในอดีตมาก สโมสรที่เคยเป็นคู่แข่ง อาทิ ชลบุรี เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด ต่างล้มหายตายจากไปเพราะไม่มีเงินมากพอ จะทำทีมให้แข่งขันในระดับสูงสุดได้

 

แยกไทยลีก ทางออกจริงหรือแค่แก้ปัญหาระยะสั้น?

 

ส่วนข้อเสียของการแยกตัวที่หลายคนกังวลคือการผลักไสไทยลีก 2 และ 3 ออกไป ถูกมองว่าไม่ต่างอะไรจากการ ‘ไล่ให้ไปตาย’

 

เพราะไม่ใช่ทุกสโมสรในไทยลีก 2 และ 3 ที่จะมีฐานแฟนฟุตบอลใหญ่พอที่จะพยุงสโมสรได้ด้วยรายได้จากการจำหน่ายค่าตั๋วเข้าชมเกมในสนาม หรือสินค้าที่ระลึก ท่อหายใจเดียวที่รักษาชีพจรของพวกเขาได้คือรายได้ส่วนแบ่งจากค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด

 

แต่ใครจะซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของลีกที่ไม่มีมูลค่า ไม่มีสายตาผู้ชมจับจ้องมากพอสำหรับการลงทุน

 

การ ‘แนะ’ ให้กลับไปเป็นลีกฟุตบอลกึ่งอาชีพเพื่อให้รัฐช่วยพยุงจากกองทุนการกีฬาแห่งชาติยิ่งแล้วหนัก เพราะไม่ต่างอะไรจากการเดินถอยหลังกลับไปอีก 20 ปี

 

กว่าจะได้เป็นลีกฟุตบอลอาชีพต้องพยายามมากแค่ไหน กว่าจะอยู่รอดกันมาได้จนถึงทุกวันนี้เลือดตาแทบกระเด็นกันขนาดไหน 

 

อดทนแค่ไหน อดมื้อกินมื้อกันมานานแค่ไหน แล้วจะกลับไปจุดเดิมเพื่อเริ่มต้นกันใหม่แบบไม่มีความหวัง?

 

ความตายของไทยลีก 2 และ 3 ถูกมองว่าจะเป็นความตายของฟุตบอลไทยทั้งระบบ เพราะสุดท้ายแล้วจะเป็นการแข่งขันที่ไม่มีใครสนใจ ไม่มีความหมาย

 

เพียงแต่สิ่งที่มีความกังวลกันคือไม่มีฟุตบอลของประเทศไหนที่ยอดจะอยู่รอดได้หากฐานพัง

 

เพราะความจริงสิ่งสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่ยอด แต่อยู่ถึงระดับ ‘รากหญ้า’ (Grassroots) หรือฟุตบอลตามชุมชนท้องถิ่นเลยด้วยซ้ำ

 

คำถามคือในชุมชนมีสนามฟุตบอลสำหรับเด็กๆ กี่สนามที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ดี? เส้นทางหรือแนวทางสำหรับการพัฒนาเยาวชนชัดเจน ดีพอ และพอดีกับบ้านเราไหม?

 

อย่างไรก็ดี ในเรื่องนี้นำมาซึ่งคำถามอีกมากมายที่ผุดขึ้นมาในหัว และคิดว่าบางทีมันอาจเป็นจังหวะเวลาเหมาะสมที่เราจะทบทวนกัน

 

คราวนี้ไม่ใช่เรื่องของการแยกลีกไม่แยกลีกแล้ว แต่เป็นเรื่องความเป็นลีกฟุตบอลอาชีพของไทย ตกลงแล้วเราเป็นฟุตบอลอาชีพจริงอย่างที่เรียกตัวเองหรือไม่?

 

แยกไทยลีก ทางออกจริงหรือแค่แก้ปัญหาระยะสั้น?

 

ฟุตบอลอาชีพที่สโมสรอยู่รอดได้ด้วยสองขาของตัวเอง ผ่านการหารายได้จากช่องทางต่างๆ การมีทุนเข้ามาสนับสนุน จนถึงสายสัมพันธ์กับชุมชน (Community) มีฐานแฟนฟุตบอลที่พร้อมให้การสนับสนุนจริงๆ หรือไม่

 

เพราะบ้านเราไม่ใช่จะไม่มีแฟนฟุตบอลเลย

 

ในขณะที่ฟุตบอลอาชีพซบเซา หลายปีที่ผ่านมา ‘ฟุตบอลเดินสาย’ กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในบ้านเรา ด้วยรูปแบบที่พัฒนาขึ้นจากอดีต ลดปัญหาความรุนแรงและการพนันขันต่อที่เป็นรอยด่างพร้อย เงินรางวัลจากผู้สนับสนุนมากพอที่จะดึงดูดให้แม้แต่นักฟุตบอลอาชีพก็ร่วมทีมลงแข่งขันด้วย (ต่อให้เสี่ยงต่อการทำผิดกฎและวินัยของนักฟุตบอลอาชีพ) เพราะใช้เวลาแข่งน้อยและที่สำคัญได้เงินจริง อิ่มท้องจริงไม่อิ่มทิพย์

 

มันน่าคิดว่าทำอย่างไรฟุตบอลอาชีพในไทยจะได้รับความสนใจในแบบนี้บ้าง? ซึ่งบางทีหลักการตลาดทั่วไปที่ได้ผลในต่างประเทศอาจจะไม่ตอบโจทย์กับฟุตบอลในบริบทแบบไทยๆ ก็เป็นได้

 

หรือบางทีเราควรจะคิดใหม่ทำใหม่ กดปุ่ม ‘รีเซ็ต’ เพื่อเริ่มต้นกันใหม่ทุกอย่าง

 

สร้างทีมฟุตบอลที่พร้อมและมีศักยภาพจริง โดยที่มีภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันสนับสนุน

 

ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ในปี 1993 ฟุตบอลเจลีก เริ่มต้นโดยมีจำนวนทีม 10 ทีมด้วยกัน ซึ่งแต่ละทีมจะกระจายไปตามแต่ละจังหวัดทั่วญี่ปุ่น​ โดยที่แต่ละทีมจะมีผู้สนับสนุนเป็นบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพพร้อมที่จะให้งบประมาณสนับสนุนซึ่งถือเป็นงานด้าน CSR 

 

โดยที่เจลีก (ซึ่งก็แยกตัวจากสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นหรือ JFA) วางแผนอย่างละเอียดในการสร้างลีก มีการกำหนดกลยุทธ์ (หานักเตะดาวดังระดับโลกในวัยใกล้เกษียณมาโชว์ตัว) แผนการตลาด ไปจนกระทั่งแม้แต่เรื่องของแบรนดิ้งอย่างการออกแบบโลโก้ มัสคอต และ CI ของแต่ละทีมโดยมีสตอรีสอดคล้องกับท้องถิ่น โดยมีการวางแผนงานกันล่วงหน้าเป็นเวลาหลายปี เพื่อให้ฟุตบอลมันน่าดู

 

การเริ่มด้วยจำนวนทีมให้น้อยที่สุด ทำให้บริหารจัดการกันได้ง่าย ทีมไหนไปไม่รอดก็มีการยุบและรวมกับทีมอื่นได้ด้วย

 

แยกไทยลีก ทางออกจริงหรือแค่แก้ปัญหาระยะสั้น?

 

เช่นกันกับในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (MLS) ของสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มในปี 1996 เพื่อต่อยอดกระแส ‘ซอกเกอร์’ จากฟุตบอลโลก 1994 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน ก็เริ่มต้นจากจำนวนทีมแค่ 10 ทีม (สายตะวันออก 5 สายตะวันตก 5) 

 

แต่ละทีม – หรือที่คนอเมริกันเรียกว่าแฟรนไชส์ (Francise) – ต้องผ่านการคัดเลือกจาก MLS ว่าทีมมีศักยภาพและมีโอกาสที่จะไปรอดหรือไม่ ซึ่งเป็นปกติของทีมกีฬาในสหรัฐอเมริกาที่จะมีการพิจารณาอย่างเข้มข้น

 

การพิจารณานั้นมองลึกถึงเจ้าของสโมสรหรือนักลงทุนว่ามีความพร้อมแค่ไหนสำหรับการลงทุน

 

มีเงินจริงไหม มีแผนระยะยาวไหม และไว้ใจได้ใช่ไหม ซึ่งในพรีเมียร์ลีกก็มีการตรวจสอบที่เรียกว่า ‘Fit and Proper Test’ เพื่อป้องกันเจ้าของสโมสรที่หวังเข้ามากอบโกยหรือมีความไม่ชอบมาพากล

 

ในไทยไม่มีการตรวจสอบแบบนี้ ใครมีเงินก็เข้ามา ซึ่งการทำทีมฟุตบอลมีความเชื่อกันว่าเป็นการ ‘เผาเงินทิ้ง’ ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาลงทุนจริงจัง นอกจากนักการเมืองที่หวังใช้ความนิยมหรือสร้างชื่อเสียงจากการทำทีมฟุตบอลเอาเงินมาลงทุน

 

และสโมสรก็ต้องบริหารให้อยู่ในต้นทุนที่มี ซึ่งหมายถึงการจ้างนักฟุตบอลเองก็ไม่ควรจะ ‘เฟ้อ’ เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ลีกฟุตบอลถึงทางตันจนแทบเอาตัวไม่รอดในทุกวันนี้ 

 

ทำอย่างไรสโมสรในฟุตบอลไทยถึงจะเป็นธุรกิจที่อยู่รอดได้จริง ลีกฟุตบอลมีมูลค่า โดยไม่ต้องหวังพึ่ง ‘ใคร’ และนักฟุตบอลก็อยู่รอดได้ มีกินมีใช้ อาจจะไม่อู้ฟู่แต่อย่างน้อยก็ขอให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีและสบาย

 

เรื่องนี้ฟุตบอลไทยเรากด ‘ข้าม’ ไม่เคยตอบคำถามและไม่เคยคิดหาคำตอบอย่างจริงจัง

 

แน่ล่ะว่ามันต้องใช้เวลา (อาจจะหลายปี) พลัง และความอดทนอย่างมาก ซึ่งวันนี้ความอดทนของทีมฟุตบอลไทยเราต่ำมากและไม่ใช่จะไม่เข้าใจ เพราะความเป็นกับความตายอยู่ใกล้กันมากเหลือเกิน ไม่ใช่คนในวงการจะไม่รู้ แต่วันนี้อาจจะคิดว่า ‘ต้องรอด’ ก่อน

 

แต่ถ้าหาคำตอบนี้ได้เมื่อไร วันนั้นฟุตบอลไทยจึงจะมองเห็นอนาคตและไปต่อกันได้จริงๆ

The post แยกไทยลีกอาจเป็นการตอบที่ไม่ตรงคำถาม รอดแค่วันนี้…แล้ววันหน้ายังไหวหรือ? appeared first on THE STANDARD.

]]>
ลำพูน วอริเออร์ เปิดตัว ‘The Air Pollution Jersey’ เสื้อบอลแจ้งค่าฝุ่น PM2.5 https://thestandard.co/lamphun-warriors-the-air-pollution-jersey/ Wed, 26 Mar 2025 10:45:16 +0000 https://thestandard.co/?p=1056895 เสื้อบอลแจ้งค่าฝุ่น PM2.5 ของ ลำพูน วอริเออร์

ลำพูน วอริเออร์ สโมสรฟุตบอลไทยลีก ร่วมกับสภาลมหายใจภาคเ […]

The post ลำพูน วอริเออร์ เปิดตัว ‘The Air Pollution Jersey’ เสื้อบอลแจ้งค่าฝุ่น PM2.5 appeared first on THE STANDARD.

]]>
เสื้อบอลแจ้งค่าฝุ่น PM2.5 ของ ลำพูน วอริเออร์

ลำพูน วอริเออร์ สโมสรฟุตบอลไทยลีก ร่วมกับสภาลมหายใจภาคเหนือ เปิดตัวเสื้อแข่งคอลเลกชันพิเศษ ‘The Air Pollution Jersey’ หรือ ‘เสื้อบอลแจ้งค่าฝุ่น’ ซึ่งเป็นแคมเปญที่ต้องการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนในภาคเหนือ โดยเฉพาะนักฟุตบอลที่ต้องใช้ชีวิตและแข่งขันกลางแจ้งตลอดทั้งฤดูกาล

 

โดยจุดเด่นของแคมเปญนี้คือการใช้สีเสื้อเพื่อแจ้งระดับค่าฝุ่นในแต่ละวัน ซึ่งเปลี่ยนจากสีขาวของเสื้อเหย้า มาเป็น 6 สีตามมาตรฐานดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index: AQI) เพื่อให้แฟนบอลและผู้ชมในสนามรับรู้ถึงระดับฝุ่นละอองที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในวันแข่งขัน

 

6 สีของเสื้อ The Air Pollution Jersey และความหมาย มีดังนี้

 

🟢 สีเขียว: อากาศดี ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ

🟡 สีเหลือง: อากาศปานกลาง อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ กลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง

🟠 สีส้ม: อากาศเริ่มแย่ มีผลกระทบต่อสุขภาพของกลุ่มเสี่ยง ควรลดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

🔴 สีแดง: อากาศแย่ มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและปอด ควรจำกัดเวลาอยู่กลางแจ้ง

🟣 สีม่วง: อากาศวิกฤติ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพชัดเจน ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและสวมหน้ากากอนามัย

🟤 สีน้ำตาลแดง: อากาศเป็นพิษ เสี่ยงต่ออาการระคายเคืองรุนแรง ควรอยู่ภายในอาคารและหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งโดยเด็ดขาด

 

สำหรับเสื้อแข่งนี้จะถูกสวมใส่ก่อนเริ่มเกมในแต่ละนัด เพื่อให้ผู้ชมทั้งในสนามและทางบ้านรับรู้ถึงสถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศอย่างหนักในช่วงต้นปี โดยเฉพาะจากปัญหาการเผาป่า การเผาเศษวัสดุทางการเกษตร และไอเสียจากยานพาหนะ

 

แคมเปญนี้เกิดขึ้นจากข้อเท็จจริงที่ว่า “นักฟุตบอล” เป็นหนึ่งในกลุ่มอาชีพที่ต้องใช้ชีวิตกลางแจ้งมากกว่าคนทั่วไป แม้ในช่วงที่ฝุ่น PM2.5 สูงขึ้นจนเป็นอันตราย นักเตะยังคงต้องซ้อมและแข่งขันตามตาราง โดยไม่มีการเลื่อนการแข่งขันเหมือนการ Work From Home ในอาชีพอื่นๆ ทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับมลพิษในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว รวมถึงประสิทธิภาพการเล่นในสนาม

 

โดยทาง ลำพูน วอริเออร์ ตั้งใจใช้แคมเปญนี้เพื่อส่งเสียงให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมาให้ความสำคัญกับปัญหาฝุ่น PM2.5 มากขึ้น ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

 

  • ระยะสั้น: เรียกร้องให้มีการพิจารณาตารางแข่งขันในช่วงที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน เพื่อปกป้องสุขภาพของนักเตะและแฟนบอล
  • ระยะยาว: ผลักดันให้มีมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้ฤดูกาลแข่งขันในอนาคตต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศอย่างรุนแรง

 

ทั้งนี้ เสื้อ The Air Pollution Jersey เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเกมที่ ลำพูน วอริเออร์ พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยถือเป็นก้าวแรกของการใช้กีฬาเป็นเครื่องมือสร้างความตระหนักรู้ และเป็นกระบอกเสียงให้กับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมากในพื้นที่ภาคเหนือ

 

The post ลำพูน วอริเออร์ เปิดตัว ‘The Air Pollution Jersey’ เสื้อบอลแจ้งค่าฝุ่น PM2.5 appeared first on THE STANDARD.

]]>
มาดามแป้งคอนเฟิร์ม TrueVisions ได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก 2024/25 https://thestandard.co/truevisions-thai-league-2024-25/ Thu, 25 Jul 2024 02:49:53 +0000 https://thestandard.co/?p=962538 ลิขสิทธิ์ ไทยลีก 2024-25

วานนี้ (24 กรกฎาคม) มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกี […]

The post มาดามแป้งคอนเฟิร์ม TrueVisions ได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก 2024/25 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ลิขสิทธิ์ ไทยลีก 2024-25

วานนี้ (24 กรกฎาคม) มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยข่าวดีหลังงาน FA Thailand Awards ระบุว่า “ปีที่แล้วตลอดทั้งปี สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ไม่สามารถขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดได้ ทำให้ตั้งแต่แป้งเข้ามารับตำแหน่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก็พยายามทำงานเรื่องนี้เต็มที่ จนเราบรรลุสัญญากับทาง TrueVisions ที่จะเป็นผู้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของไทยลีก 1 และไทยลีก 2 รวมถึงฟุตบอลถ้วย 2 รายการ (ช้างเอฟเอคัพและรีโว่คัพ)

 

“ท่ามกลางข่าวลือที่สะพัดมากมายว่าปีนี้จะไม่มีการถ่ายทอดสด ต้องขอบคุณ TrueVisions และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องขอบคุณ เนวิน ชิดชอบ ที่ปรึกษาของ แป้ง ที่เป็นผู้พูดคุยกับ TrueVisions ร่วมกับแป้ง จนเราได้ข้อสรุปร่วมกัน ดีใจที่วันนี้ฟุตบอลไทยลีกจะกลับมาถ่ายทอดสดผ่านทางทีวีอีกครั้ง อยากฝากแฟนบอลสนับสนุน TrueVisions และรับชมผ่านช่องทางที่ถูกต้อง เพื่อเป็นกำลังใจให้ TrueVisions และสมาคมด้วย

 

“ส่วนไทยลีก 2 ทาง TrueVisions แจ้งว่าตอนแรกจะถ่ายทอดสดขั้นต่ำ 30 นัด แต่ก็จะพยายามเจรจาให้ได้มากกว่านั้นเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ที่การันตีแล้วคือทีมไทยลีก 1 จะได้รับเงินเพิ่มขึ้นจาก 7 ล้านบาทเป็น 10 ล้านบาท และทีมไทยลีก 2 จาก 1.5 ล้านบาทเป็น 3 ล้านบาท โดยไทยลีก 1 และ 2 จะจ่ายงวดแรก 25% วันที่ 5 สิงหาคมนี้ อย่างน้อยก็พิสูจน์ว่า ในขณะที่แป้งเข้ารับตำแหน่งได้ 5 เดือน การทำงานของสภากรรมการชุดนี้เรามีความโปร่งใสเรื่องเงินและไม่เคยติดค้างทีมไหนเลย”

 

ทั้งนี้ ฟุตบอลไทยลีกจะกลับมาเปิดฤดูกาล 2024/25 ในวันที่ 9 สิงหาคมนี้

The post มาดามแป้งคอนเฟิร์ม TrueVisions ได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก 2024/25 appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผลวิจัยชี้ แฟนบอลไทยพร้อมหนุนไทยลีก ฝากมาดามแป้งแก้ปัญหาถ่ายทอดสด https://thestandard.co/research-thai-fans-thai-league/ Mon, 08 Apr 2024 07:46:42 +0000 https://thestandard.co/?p=920664 ผลวิจัยชี้ แฟนบอลไทย พร้อมสนับสนุน ไทยลีก

วานนี้ (7 เมษายน) ได้มีการเผยแพร่งานวิจัยหัวข้อ ‘ปัจจัย […]

The post ผลวิจัยชี้ แฟนบอลไทยพร้อมหนุนไทยลีก ฝากมาดามแป้งแก้ปัญหาถ่ายทอดสด appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผลวิจัยชี้ แฟนบอลไทย พร้อมสนับสนุน ไทยลีก

วานนี้ (7 เมษายน) ได้มีการเผยแพร่งานวิจัยหัวข้อ ‘ปัจจัยในการตัดสินใจซื้อของแฟนฟุตบอลไทยต่อการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2566-2567 ในระบบบอกรับสมาชิก’ โดยคณะบริหารธุรกิจ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งสำรวจเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ก่อนเปิดฟุตบอลไทยลีก เลก 2 และการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คนใหม่แทน พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่เพิ่งหมดวาระ

 

จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างผ่านช่องทางออนไลน์ของสื่อ อินฟลูเอ็นเซอร์กีฬา และกลุ่มแฟนคลับฟุตบอลไทย พบว่า ช่องทางยอดนิยมที่มีผู้สมัครรับชมการถ่ายทอดสดมากที่สุด ได้แก่ AIS PLAY ร้อยละ 59.14 รองลงมา ได้แก่ TrueID และ 3BB GIGA TV ตามลำดับ 

 

โดยผู้สมัครส่วนมากเลือกสมัครรับชมผ่านทางระบบ QR Code มากที่สุดร้อยละ 68.8 ตามด้วยผ่านระบบ SMS และการกรอกโค้ดที่ซื้อผ่านทางออนไลน์

 

ด้านปัญหาของฤดูกาล 2566-2567 ที่ประชาชนต้องสมัครสมาชิกเพื่อรับชมการถ่ายทอดสดไทยลีกเองนั้น ร้อยละ 79.5 ระบุว่า เป็นปัญหาในการขาดประสิทธิภาพที่ทำให้เกิดปัญหาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดไทยลีก  

 

นอกจากนี้งานวิจัยยังระบุอีกว่า ร้อยละ 41 ไม่เคยเห็นมาตรการการปราบปรามลิงก์เถื่อนจากทางสมาคมฟุตบอลฯ และผู้บริหารสิทธิประโยชน์

 

ขณะที่ความคาดหวังต่อสมาคมฟุตบอลฯ ยุคใหม่ของ มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ ร้อยละ 67.3 เชื่อว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ จะทำให้ฟุตบอลไทยมีโอกาสพัฒนามากขึ้น ร้อยละ 88.7 ระบุว่า ปัญหาเรื่องคุณภาพกรรมการ หากมีการปรับปรุงจะสร้างมาตรฐานให้กับฟุตบอลไทยลีกมากขึ้น ร้อยละ 85.9 มองว่า ราคาแพ็กเกจรับชมการถ่ายทอดสดเดือนละ 59 บาท และฤดูกาลละ 500 บาท เหมาะสม โดยร้อยละ 72.2 ระบุว่า หากฤดูกาล 2567-2568 ต้องเสียเงินสมัคร ก็จะสมัครเพื่อรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกอีกเช่นเดิม

The post ผลวิจัยชี้ แฟนบอลไทยพร้อมหนุนไทยลีก ฝากมาดามแป้งแก้ปัญหาถ่ายทอดสด appeared first on THE STANDARD.

]]>
มาดามแป้ง นั่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก https://thestandard.co/madam-pang-named-thai-league-ceo/ Mon, 01 Apr 2024 13:30:44 +0000 https://thestandard.co/?p=918114 มาดามแป้ง นั่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก

มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ นั่งตำแหน่งนั่งประธานเจ้าหน้าที […]

The post มาดามแป้ง นั่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก appeared first on THE STANDARD.

]]>
มาดามแป้ง นั่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก

มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ นั่งตำแหน่งนั่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด หลังมีการผ่านมติในการประชุมสภากรรมการ

 

ช่วงบ่ายวันนี้ (1 เมษายน) ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร HOUSE OF THAI FOOTBALL สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีการประชุมสภากรรมการ ครั้งที่ 3/2567 ซึ่งมี มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ เป็นประธาน 

 

โดยการประชุมมีวาระสำคัญหลายประการ ทั้งความคืบหน้าการจัดประชุม FIFA Congress ครั้งที่ 74, ประเด็นเรื่องคณะกรรมการผู้ตัดสิน, แนวทางการบริหารจัดการ บริษัท ไทยลีก จำกัด, รวมถึงวาระที่ต้องขอมติจากสภากรรมการ เช่น การรับรายงานด้านทรัพย์สิน หนี้สิน และพันธสัญญาของสมาคมฯ 

 

สำหรับวาระที่ถูกจับตามอง คือการบริหารจัดการ บริษัท ไทยลีก จำกัด หลังมีกรรมการเดิมเหลือเพียง 1 ท่าน ส่งผลให้การดำเนินงานด้านต่างๆ ของบริษัทเป็นไปด้วยความยากลำบาก ที่ประชุมจึงมีมติให้ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ เป็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด เพื่อให้การบริหารกิจการของบริษัทเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนของบริษัท ไทยลีก ต่อไป

 

ขณะที่อีกเรื่องที่ถูกจับตามอง คือการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ที่แม้จะมีการจับสลากเพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้นแล้ว ก็ยังมีปัญหาในเกมสัปดาห์ล่าสุดอยู่ดี ซึ่งมาดามแป้งก็เปิดเผยว่าได้มีการพูดคุยกันเพื่อแก้ปัญหาในที่ประชุมด้วย

 

นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวว่า “สำหรับด้านผู้ตัดสินนั้น ก็ได้มีการพูดคุยกันในที่ประชุมด้วย เพื่อหาทางแก้ไขระยะสั้นและระยะยาว โดยการจับสลากแบบมีเงื่อนไขเพิ่มเติม แผนการสร้างผู้ตัดสินเพิ่มขึ้น ทั้งผู้ตัดสินในสนาม และผู้ตัดสินที่สามารถทำหน้าที่ VAR ได้ รวมถึงการเร่งจัดอบรมผู้ตัดสินให้มีความถี่มากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีตัวเลือกผู้ตัดสินที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดปัญหาการตัดสินที่ผิดพลาด เพราะเข้าใจความรู้สึกของคนทำทีมโดยเฉพาะแฟนบอล ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก”

The post มาดามแป้ง นั่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก appeared first on THE STANDARD.

]]>
จับสลากผู้ตัดสิน! มาดามแป้งใช้แผนสุ่มกรรมการ กำจัดปัญหาเอื้อประโยชน์ https://thestandard.co/madampang-random-selection-refs/ Tue, 20 Feb 2024 09:19:59 +0000 https://thestandard.co/?p=902179

วันนี้ (20 กุมภาพันธ์) มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาค […]

The post จับสลากผู้ตัดสิน! มาดามแป้งใช้แผนสุ่มกรรมการ กำจัดปัญหาเอื้อประโยชน์ appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (20 กุมภาพันธ์) มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า พร้อมลองทุกวิธีเพื่อความโปร่งใสในการจัดทีมผู้ตัดสินไปทำหน้าที่ในแต่ละสนามตามแนวทางที่ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ว่าที่ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน โดยขอแก้ปัญหาเร่งด่วนด้วยการจับสลากแบบเปิดเผยและโปร่งใส เพื่อให้สโมสรและแฟนบอลได้รับทราบพร้อมกัน 

 

โดยระบบการคัดเลือกและวางตัวกรรมการผู้ตัดสินให้ไปทำหน้าที่ในการแข่งขันนัดต่างๆ ที่ผ่านมานั้น ใช้ระบบการคัดเลือกและจัดสรรกันด้วยเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน โดยมีเงื่อนไขบางประการ เช่น กรรมการที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดที่แข่งขันจะไม่สามารถไปตัดสินในคู่นั้นได้ หรือกรรมการที่ถูกสโมสรไหนร้องเรียนก็จะไม่ถูกจัดไปทำหน้าที่ในคู่ที่สโมสรนั้นแข่งขัน ซึ่งแม้จะมีเหตุผล แต่ก็ทำให้มีการใช้ดุลพินิจของผู้จัดมาก และมักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการสมยอม หรือมี ‘ใบสั่ง’ ในการวางตัวกรรมการผู้ตัดสินไปทำหน้าที่ในนัดต่างๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ทีมต่างๆ

 

ดังนั้นการจัดกรรมการผู้ตัดสินแบบ ‘สุ่ม’ (Random) จึงน่าจะเป็นวิธีการที่โปร่งใส และอธิบายได้มากกว่าการใช้ดุลพินิจของผู้จัดที่อาจเลือกที่รักมักที่ชัง โดยจะประเดิมจับสลากไทยลีก 1 ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางแฟนเพจไทยลีก

 

นอกจากนี้ประเด็นสำคัญที่ประธานคณะผู้ตัดสินและนายกสมาคมฯ เห็นตรงกันที่ต้องทำควบคู่คือ การพัฒนาศักยภาพของผู้ตัดสินไทยให้ดีขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อสโมสรและสาธารณชน รวมถึงการเพิ่มปริมาณผู้ตัดสินในระดับต่างๆ เพื่อเป็นตัวเลือกในการทำหน้าที่ คือสิ่งที่ต้องเร่งทำไปพร้อมกัน ซึ่งคงต้องมองในโครงสร้าง ทั้งการฝึกอบรม ค่าตอบแทน และสวัสดิการต่างๆ โดยต้องอาศัยการทำงานในระยะยาวแบบต่อเนื่อง รวมถึงยังจะมีการแก้ไขบทลงโทษผู้ตัดสินที่ชัดเจนมากขึ้นด้วย

The post จับสลากผู้ตัดสิน! มาดามแป้งใช้แผนสุ่มกรรมการ กำจัดปัญหาเอื้อประโยชน์ appeared first on THE STANDARD.

]]>