ความคืบหน้าเหตุการณ์การรวมตัวกันของกลุ่ม LGBTQIA+ ที่ซอ […]
The post ตำรวจตรวจโรงแรมซอยสุขุมวิท 11 เก็บหลักฐานเหตุรุมทำร้ายร่างกาย ยืนยันถึงออกนอกประเทศแล้วส่งหมายตามจับได้ appeared first on THE STANDARD.
]]>ความคืบหน้าเหตุการณ์การรวมตัวกันของกลุ่ม LGBTQIA+ ที่ซอย สุขุมวิท 11 เมื่อคืนนี้ (4 มีนาคม) ซึ่งสืบเนื่องมาจากการรุมทำร้ายร่างกายจากกลุ่ม LGBTQIA+ ฟิลิปปินส์เมื่อเช้ามืดของวันเดียวกัน
วันนี้ (5 มีนาคม) เวลาประมาณ 14.30 น. ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าตรวจสอบโรงแรมภายในซอยสุขุมวิท 11/1 ที่เกิดเหตุ โดยเป็นการตรวจสอบเพื่อสอบถามข้อมูลเรื่องการเข้าพักของนักท่องเที่ยวต่างประเทศว่าเป็นไปตามขั้นตอนถูกต้องตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ หรือไม่
รวมถึงตรวจสอบบุคคลที่เข้าพักว่าอาศัยอยู่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือโอเวอร์สเตย์หรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล หลังจากตรวจสอบข้อมูลแล้วเสร็จ ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะส่งมอบข้อมูลให้ตำรวจสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ลุมพินี เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานจากข้อมูลการสืบสวนของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองว่ามีชาวฟิลิปปินส์พักอาศัยอยู่ที่โรงแรมดังกล่าวประมาณ 10 คน และมีรายอื่นๆ พักอาศัยกระจายบริเวณโดยรอบ ซึ่งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะทยอยลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งหมด
พ.ต.อ. ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้ก่อเหตุว่าเป็นใครบ้าง โดยเป็นอำนาจของ สน.ลุมพินี ในการพิสูจน์ทราบบุคคลจากกล้องวงจรปิดและภาพวิดีโอทั้งหมด จึงจะสามารถตรวจสอบการเข้า-ออกประเทศได้ว่าบุคคลดังกล่าวหลบหนีออกจากประเทศไทยไปแล้วหรือไม่
ยืนยันว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว และหากผู้ก่อเหตุออกนอกประเทศไปแล้วก็มีขั้นตอนการดำเนินการ เช่น การออกหมายแดงหรือหมายน้ำเงินต่อไป
พ.ต.อ. ระพีพัฒน์ กล่าวต่อว่า เป็นไปได้ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้ามาในไทยแบบวีซ่านักท่องเที่ยว แต่บางส่วนก็ลักลอบทำงานหลังเข้ามาในประเทศแล้ว ซึ่งทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองต้องไล่ตรวจสอบและจับกุมเป็นรายกรณีเมื่อพบ
ในส่วนที่สื่อรายงานว่ามีสถานที่ที่ LGBTQIA+ เข้าไปทำงานหรือนัดพบเพื่อค้าประเวณีนั้น ยืนยันว่าไม่มีสถานที่ลักษณะดังกล่าวแน่นอน สามารถไปตรวจสอบได้
ทั้งนี้ ที่พักทุกแห่งมีหน้าที่จะต้องแจ้งการเข้าพักทุก 24 ชั่วโมง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าหลังจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาไปพักที่ใดบ้าง หากผู้ประกอบการรายใดไม่ให้ความร่วมมือจะมีความผิด
หากเป็นโรงแรมมีโทษปรับ 8,000-10,000 บาทต่อผู้เข้าพัก 1 คน แต่หากเป็นที่พักทั่วไปจะมีโทษปรับ 1,600-2,000 บาทต่อผู้เข้าพัก 1 คน
The post ตำรวจตรวจโรงแรมซอยสุขุมวิท 11 เก็บหลักฐานเหตุรุมทำร้ายร่างกาย ยืนยันถึงออกนอกประเทศแล้วส่งหมายตามจับได้ appeared first on THE STANDARD.
]]>14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก สำนักงานเขตดุสิต ร่วมกับมห […]
The post เปิดวังเก่า ต้อนรับคู่รัก LGBTQIA+ จดแจ้งทะเบียน ‘ชีวิตคู่’ ในวันแห่งความรัก appeared first on THE STANDARD.
]]>14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก สำนักงานเขตดุสิต ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เปิดพระตำหนักวังเดิม ศูนย์กลางของราชสำนักฝ่ายในแห่งสุดท้ายของสยาม ที่ประทับของพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราช ปดิวรัดา พระอัครชายาเธอในรัชกาลที่ 5 ให้กลายเป็นสถานที่สำหรับคู่รักทุกเพศในการจดทะเบียนในวันแห่งความรัก
ขณะที่ เอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมในวันวาเลนไทน์ นอกจากกิจกรรมที่มีการจัดอย่างปกติคือการจดทะเบียนสมรสแล้ว ในปีนี้ กทม. พร้อมจัดกิจกรรมการจดแจ้งชีวิตคู่ LGBTQIA+ ครบทั้ง 50 เขต
“แม้ว่าการจดแจ้งนี้จะยังไม่มีผลทางกฎหมาย แต่การจดแจ้งนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของกรุงเทพมหานครอยู่ 2 ส่วนคือ การแสดงถึงเจตนารมณ์ของกรุงเทพมหานครที่พร้อมให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน และการแสดงถึงความพร้อมของกรุงเทพมหานครที่หากมีกฎหมายและระเบียบปฏิบัติออกมาอย่างชัดเจน กรุงเทพมหานครก็พร้อมในการดำเนินการตามทันที” เอกวรัญญูกล่าว
The post เปิดวังเก่า ต้อนรับคู่รัก LGBTQIA+ จดแจ้งทะเบียน ‘ชีวิตคู่’ ในวันแห่งความรัก appeared first on THE STANDARD.
]]>วันนี้ (14 กุมภาพันธ์) ช่างภาพข่าว THE STANDARD เดินทาง […]
The post ‘แม้ไม่มีผลทางกฎหมาย แต่เพื่อยืนยันสิทธิ’ คู่รัก LGBTQIA+ เชียงใหม่ ‘จดแจ้งสมรสเท่าเทียม’ appeared first on THE STANDARD.
]]>วันนี้ (14 กุมภาพันธ์) ช่างภาพข่าว THE STANDARD เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเก็บภาพบรรยากาศคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศจำนวน 12 คู่ เดินทางมาขอ ‘จดแจ้งสมรสเท่าเทียม’ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ พร้อมเร่งรัดให้มีการออกกฎหมายสมรสเท่าเทียม
สำหรับกิจกรรมในวันนี้ มีคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศเข้าร่วมจำนวน 12 คู่ โดยมีขบวนแห่ขันหมากและกลองยาวมายังที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ ก่อนจะเข้าไปดำเนินการเขียนคำร้องขอจดทะเบียน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนได้อำนวยความสะดวกให้คู่รักทั้งหมดได้ลงชื่อในแบบคำร้องขอจดทะเบียนและบันทึกทะเบียนครอบครัวตามที่ทุกคู่ประสงค์ หลังจากนั้นผู้จัดกิจกรรมได้แจกทะเบียนสมรสจำลองให้กับคู่รักทุกคู่ จากนั้นคู่รักร่วมกันตัดเค้ก โยนดอกไม้ และมีการแสดง Performance Art ปิดท้าย
ด้าน ศิริศักดิ์ ไชยเทศ แกนนำจัดงานสมรสเท่าเทียมเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมขึ้นในครั้งนี้ เนื่องจากวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันแห่งความรัก หรือ Valentine’s Day คู่รักชาย-หญิงต่างพากันไปจดทะเบียนสมรส ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ อย่างมากมาย แต่คู่รักเพศหลากหลาย (LGBTQIA+) กลับไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้เนื่องจากกฎหมายสมรสปัจจุบันยังคงให้สิทธิจดทะเบียนสมรสสำหรับเพศชายและเพศหญิงเท่านั้น ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมจึงได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา
แม้การขอจดแจ้งในวันนี้จะไม่มีผลใดๆ ในทางกฎหมาย แต่เป็นการร่วมยืนยันสิทธิในการจัดตั้งครอบครัวให้กับทุกเพศ ไม่เฉพาะชายกับหญิงเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นการยืนยันข้อเรียกร้องที่ต้องการเร่งผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมของประเทศไทยให้สามารถประกาศใช้ในปี 2567 เพราะสิทธิในการจดทะเบียนสมรสไม่ใช่สิทธิของเพศใดเพศหนึ่ง แต่เป็นสิทธิพื้นฐานของทุกคนที่ควรได้รับเท่าเทียมกัน
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยมีการเปลี่ยนรัฐบาลบริหารประเทศ ส่งผลให้การผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมชะงักจนต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่วันนี้สามารถรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอกฎหมายเข้าสู่สภาได้แล้ว ดังนั้น ควรเร่งให้ออกกฎหมายเพื่อเป็นการรับรองสิทธิและความเท่าเทียมของคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศโดยเร็ว
The post ‘แม้ไม่มีผลทางกฎหมาย แต่เพื่อยืนยันสิทธิ’ คู่รัก LGBTQIA+ เชียงใหม่ ‘จดแจ้งสมรสเท่าเทียม’ appeared first on THE STANDARD.
]]>วันนี้ (2 กุมภาพันธ์) เอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพ […]
The post กทม. สนับสนุนทุกความเท่าเทียม เตรียมจัดกิจกรรมจดแจ้งชีวิตคู่วันวาเลนไทน์ 50 เขต appeared first on THE STANDARD.
]]>วันนี้ (2 กุมภาพันธ์) เอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมการจดแจ้งชีวิตคู่ LGBTQIA+ ในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์นี้ว่า นอกจากกิจกรรมที่ กทม. ได้จัดอย่างปกติ คือการจดทะเบียนสมรสแล้ว ในปี 2566 ยังมีการจัดกิจกรรมการจดแจ้งชีวิตคู่ LGBTQIA+ นำร่อง 3 เขต
ในปีนี้ที่ประชุมจึงเสนอให้มีการรับจดแจ้งชีวิตคู่ LGBTQIA+ ให้ครบทั้ง 50 เขต เบื้องต้นมีเขตที่พร้อมแจ้งจัดกิจกรรมการจดแจ้งชีวิตคู่ LGBTQIA+ แล้วจำนวน 9 เขต แม้ว่าการจดแจ้งนี้จะยังไม่มีผลทางกฎหมาย แต่สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของกรุงเทพมหานครอยู่ 2 ส่วนคือ
แสดงถึงเจตนารมณ์ของกรุงเทพมหานครที่พร้อมให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน และแสดงถึงความพร้อมของกรุงเทพมหานครที่หากมีกฎหมายแม่พร้อมแล้ว และมีการออกกฎหมายลูกมาอย่างชัดเจน กรุงเทพมหานครก็พร้อมดำเนินการตามทันที
นอกจากนี้ สำนักการแพทย์และสำนักอนามัยย้ำว่า หากจดแจ้ง LGBTQIA+ ในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2567 แล้วนั้น สามารถนำใบจดแจ้งเข้ามาตรวจสุขภาพได้ฟรีที่โรงพยาบาลสังกัด กทม. ทุกแห่ง
The post กทม. สนับสนุนทุกความเท่าเทียม เตรียมจัดกิจกรรมจดแจ้งชีวิตคู่วันวาเลนไทน์ 50 เขต appeared first on THE STANDARD.
]]>เนื่องในวันครูแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคมของทุก […]
The post ‘ปรับปรุงห้องน้ำ-ลดงานเอกสาร-งดนอนเวร’ เปิดผลสำรวจที่สุดปัญหาครูไทย appeared first on THE STANDARD.
]]>เนื่องในวันครูแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคมของทุกปี Rocket Media Lab ร่วมกับมูลนิธิแพธทูเฮลท์ จัดทำแบบสอบถามครูผู้สอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทั่วประเทศ ในช่วงวันที่ 9-15 มกราคม 2567 เพื่อสำรวจความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณฑ์ในโรงเรียน การเรียนการสอน หรือนักเรียน
จำนวนครูที่ตอบแบบสอบถามออนไลน์ทั่วประเทศทั้งหมด 303 คน แยกเป็น
แยกตามลำดับชั้น
แยกตามพื้นที่ของครูที่ตอบแบบสอบถาม
นอกจากนี้ยังพบว่า ไม่ว่าจะเป็นครูชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา หรือ ปวช. ต่างก็เลือกให้ห้องน้ำเป็นสถานที่ที่อยากให้ปรับปรุงมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายภาคก็พบว่า ครูทุกภาคต่างลงความเห็นเหมือนกันว่าอยากให้โรงเรียนปรับปรุงห้องน้ำมากที่สุด
หากมองรายภาคพบว่า การต้องใส่กระโปรง (ยกเว้นครูพละ) เป็นกฎที่ครูในภาคกลางไม่ชอบที่สุด ส่วนการเช็กชื่อก่อนเข้าแถวเป็นกฎที่ครูภาคเหนือไม่ชอบมากที่สุด ส่วนการแต่งกายผ้าไทยเป็นกฎที่ครูภาคใต้ไม่ชอบมากที่สุด
หากมองในรายสังกัดของโรงเรียน ทั้งครูโรงเรียนรัฐและเอกชนไม่ชอบการแต่งกายประจำวันมากที่สุด นอกจากนี้หากมองครูประถมและมัธยมพบว่า ครูประถมไม่ชอบการเช็กชื่อก่อนเข้าแถวเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนครูมัธยมยังคงยกให้การแต่งกายประจำวันเป็นกฎที่ไม่ชอบมากที่สุด
หมายเหตุ: การแต่งกายประจำวันคือการกำหนดชุดการแต่งกายของครูในแต่ละวัน เช่น วันจันทร์ – ชุดข้าราชการ (สีกากี), วันอังคาร – ชุดเสื้อกีฬา, วันพุธ – ชุดสุภาพ และวันพฤหัส – ชุดลูกเสือ เป็นต้น
หากพิจารณารายภาคพบว่า ครูภาคเหนือและภาคใต้ไม่อยากให้นักเรียนพูดจาหยาบคายมากที่สุด เช่นเดียวกับการจำแนกตามสังกัดของโรงเรียน ครูโรงเรียนเอกชนไม่อยากให้นักเรียนพูดจาหยาบคายมากที่สุด นอกจากนี้ครูประถมให้การพูดจาหยาบคายเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้นักเรียนทำมากที่สุด
นอกจากนี้พบว่า ไม่ว่าจะครูประถม-มัธยม ครูโรงเรียนรัฐ-เอกชน ครูทุกภาค หรือทุกเพศ ต่างก็เลือกให้การเพิ่มเงินเดือน / ค่าวิทยฐานะ เป็นสิ่งที่ครูอยากได้มากที่สุด
นอกจากนี้ยังพบว่า ครูทุกภาค ทุกระดับชั้น เลือกไม่อยากอยู่เวรนอกเวลามากที่สุด ในขณะที่อันดับ 2 นั้นหากดูรายภาคจะพบว่า ภาคเหนือเป็นเรื่องงานพัสดุ ส่วนภาคใต้เป็นเรื่องงานการเงินกับงานการประกันคุณภาพที่มีการเลือกในจำนวนเท่ากัน
เมื่อพิจารณาสัดส่วนผู้เลือกกิจกรรมพานักเรียนไปแข่งขันนอกสถานที่พบว่า เป็นครูที่ทำงานมากกว่า 20 ปีมากที่สุด 25 คน คิดเป็น 31.25% สัดส่วนน้อยที่สุดคือ ครูที่ทำงานน้อยกว่า 1 ปี มี 1 คน คิดเป็น 1.25% โดยที่อันดับ 2 เป็นครูซึ่งทำงานมาแล้ว 5-10 ปี มี 17 คน คิดเป็น 21.25% และอันดับ 3 เป็นครูที่ทำงานมาแล้ว 15-20 ปี 16 คน คิดเป็น 20% ของผู้ที่เลือกคำตอบนี้
เมื่อพิจารณาครูที่อยากให้ยกเลิกวิชาลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด และบำเพ็ญประโยชน์ พบว่า ทุกช่วงอายุการทำงานเลือกตอบข้อนี้เป็นสัดส่วนมากที่สุด ครูที่ทำงานมากกว่า 20 ปี มีสัดส่วน 29.76% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ ครูที่ทำงาน 15-20 ปี มี 39.02% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ ครูที่ทำงาน 10-15 ปี มี 37.25% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ ครูที่ทำงาน 5-10 ปี มี 40.48% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ 1-5 ปี มี 42.55% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ น้อยกว่า 1 ปี มี 44.74% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้
เมื่อพิจารณาครูที่ตอบว่า ต้องการให้ยกเลิกนโยบายประกันเกรดพบว่า จากผู้ตอบ 123 คน เป็นครูมัธยมมากที่สุด 87 คน หรือคิดเป็น 50.29% ของครูมัธยมทั้งหมด 171 คน ครูประถม 30 คน หรือคิดเป็น 25.42% ของครูประถมทั้งหมด 118 คน ครู ปวช. 6 คน หรือคิดเป็น 42.85% ของครู ปวช. ทั้งหมด 14 คน
หากจำแนกผู้ที่เลือกข้อนี้ตามระยะเวลาในการทำงานพบว่า ครูที่ทำงานมานานมากกว่า 20 ปี มีสัดส่วนมากที่สุด 30 คน คิดเป็น 24.59% ของครูที่เลือกข้อนี้ รองลงมา ครูที่ทำงาน 1-5 ปี 24 คน คิดเป็น 19.67% และอันดับ 3 ครูที่ทำงาน 15-20 ปี 19 คน คิดเป็น 15.57%
เมื่อพิจารณาเฉพาะการลดภาระงานเอกสารที่ต้องทำส่งกระทรวงพบว่า เป็นครูที่ทำงานมานานกว่า 20 ปี มากที่สุด 37 คน คิดเป็น 25.34% รองลงมา ครูที่ทำงานมาแล้ว 10-15 ปี 28 คน คิดเป็น 19.17% อันดับ 3 ครูที่ทำงานน้อยกว่า 1 ปี 23 คน คิดเป็น 15.75%
ดูข้อมูลฉบับเต็มได้ที่: https://rocketmedialab.co/database-teacher-q1-2024
The post ‘ปรับปรุงห้องน้ำ-ลดงานเอกสาร-งดนอนเวร’ เปิดผลสำรวจที่สุดปัญหาครูไทย appeared first on THE STANDARD.
]]>Rocket Media Lab ร่วมกับมูลนิธิแพธทูเฮลท์ จัดทำแบบสอบถา […]
The post ‘ห้องน้ำ-ยกเลิกลูกเสือ’ เปิดที่สุดปัญหาโรงเรียนไทย appeared first on THE STANDARD.
]]>Rocket Media Lab ร่วมกับมูลนิธิแพธทูเฮลท์ จัดทำแบบสอบถามนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทั่วประเทศ ในช่วงวันที่ 9-11 มกราคม 2567 จากจำนวนนักเรียนที่ตอบแบบสอบถามทั่วประเทศทั้งหมด 1,985 คน พบว่า เป็นเพศชาย 488 คน, เพศหญิง 1,247 คน, LGBTQIA+ 199 คน และไม่ต้องการระบุเพศ 51 คน
เป้าหมายการสำรวจครั้งนี้เพื่อสำรวจความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณฑ์ในโรงเรียน การเรียนการสอน หรือครู เพื่อนำเสนอในวาระวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมของทุกปี โดยมีผลการสำรวจที่น่าสนใจดังนี้
คลิกอ่านผลสำรวจฉบับเต็มที่ https://rocketmedialab.co/database-student-q1-2024/
ภาพประกอบ: เทียนจรัส วงศ์พิเศษกุล
The post ‘ห้องน้ำ-ยกเลิกลูกเสือ’ เปิดที่สุดปัญหาโรงเรียนไทย appeared first on THE STANDARD.
]]>