Business – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 17 Apr 2025 12:02:52 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ‘ญี่ปุ่น’ ส่งผู้แทนการค้าถกสหรัฐฯ เป็นชาติแรก เปิดไพ่ซื้อก๊าซ LNG เพิ่ม ลงทุนอีกล้านล้านดอลลาร์ ทรัมป์ทำเซอร์ไพรส์โผล่ร่วมวง เผยผลเจรจาชื่นมื่น https://thestandard.co/japan-usa-talks-lng/ Thu, 17 Apr 2025 12:02:52 +0000 https://thestandard.co/?p=1065411

‘ทรัมป์’ เผยผลหารือการค้ากับ ญี่ปุ่น ‘ถือเป็นความคืบหน้ […]

The post ‘ญี่ปุ่น’ ส่งผู้แทนการค้าถกสหรัฐฯ เป็นชาติแรก เปิดไพ่ซื้อก๊าซ LNG เพิ่ม ลงทุนอีกล้านล้านดอลลาร์ ทรัมป์ทำเซอร์ไพรส์โผล่ร่วมวง เผยผลเจรจาชื่นมื่น appeared first on THE STANDARD.

]]>

‘ทรัมป์’ เผยผลหารือการค้ากับ ญี่ปุ่น ‘ถือเป็นความคืบหน้าครั้งใหญ่’ หลังพบคณะผู้แทนเจรจาการค้าของญี่ปุ่นซึ่งเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางทั่วโลกจับตาความเคลื่อนไหว เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศกลุ่มแรกๆ ที่ได้เข้าร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่ของ สหรัฐฯ ด้าน ‘เบสเซนต์’ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ย้ำญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรทางทหาร ยินดีให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก

 

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า หลังหารือกับทีมเจรจาการค้าญี่ปุ่นถือว่ามีความ ‘คืบหน้าอย่างมาก’

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

โดยทรัมป์โพสต์บนเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย Truth Social หลังการประชุมว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับคณะผู้แทนการค้าของญี่ปุ่น นับเป็นความคืบหน้าครั้งใหญ่!”

 

แม้การเจรจาไม่ได้ส่งผลให้มีการยุติการขึ้นภาษีในทันที แต่การหารือระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นกำลังเตรียมการสำหรับการเจรจาอีกรอบที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ ทั้งนี้ ญี่ปุ่นนำทีมเจรจาโดย เรียวเซ อากาซาวะ รับบทบาทในฐานะเป็นผู้แทนเจรจา ซึ่งเป็นคนสนิทของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ซึ่งอากาซาวะ เพิ่งได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้วในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงฟื้นฟูเศรษฐกิจ

 

รายงานข่าวระบุว่า การหารือครั้งนี้ เขาได้พบกับทรัมป์เป็นเวลา 50 นาที จากนั้นจึงพบกับผู้เจรจาของสหรัฐฯ จากกระทรวงการคลังและพาณิชย์ของสหรัฐฯ อีก 75 นาที

 

“ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันอย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์ และมุ่งหวังที่จะบรรลุข้อตกลงอย่างรวดเร็ว” อากาซาวะ กล่าว พร้อมเสริมว่า ดูเหมือนว่าสหรัฐฯ กำลังแสวงหาข้อตกลง ก่อนที่การผ่อนผันภาษีศุลกากรก่อน 90 วันจะสิ้นสุดลงอีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม เขายังปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่ามีการหารือเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัย แต่ยืนยันว่ากรณีค่าเงินไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่หลายฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวกับตลาดเงินตลาดทุนจับตามองอยู่ ทั้งนี้ ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งลดลงมากถึง 0.5% ในช่วงก่อนหน้านี้

 

แม้ว่า อากาซาวะ จะไม่ยืนยันเรื่องนี้ แต่สำนักข่าว Kyodo News รายงานว่าทรัมป์ได้หยิบยกประเด็นการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศของญี่ปุ่นมากขึ้นในการเจรจาด้วย

 

ทั้งนี้ รัฐบาลประเทศต่างๆ เตรียมส่งทีมเข้าเจรจาถึงข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าที่สูงซึ่งทรัมป์กำหนดไว้กับคู่ค้าราว 60 ประเทศ โดยญี่ปุ่นถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้ในอัตรา 24% และถูกเรียกเก็บภาษีพื้นฐาน 10% รวมถึงภาษีรถยนต์ เหล็ก และอะลูมิเนียม 25%

 

รายงานข่าว ระบุอีกว่า การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่นกำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในฐานะที่เป็นคู่เจรจาคู่แรก จากประเทศอื่นๆ ที่ต้องการทำข้อตกลงของตนเองท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสัมปทานที่ทรัมป์ต้องการเรียกร้อง

 

ด้าน สก๊อต เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สหรัฐฯ คาดหวังที่จะบรรลุข้อตกลงกับพันธมิตรทางการทหารอย่างญี่ปุ่นและพันธมิตรอื่นๆ ของสหรัฐฯ เพื่อร่วมกันกดดันจีน ดังนั้น จึงคาดว่าญี่ปุ่นจะเสนอข้อตกลงที่ครอบคลุมกับสหรัฐฯ โดยเรียกร้องให้ทรัมป์ลดภาษีนำเข้า 24%

 

ญี่ปุ่นเปิดไพ่ ซื้อ LNG เพิ่ม อัดเม็ดเงินลงทุนอีก 1 ล้านล้านดอลลาร์ ย้ำสถานะญี่ปุ่นคือนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ

 

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการประชุมกับทรัมป์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่นให้คำมั่นที่จะซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ มากขึ้น และเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ เป็น 1 ล้านล้านดอลลาร์

 

อิชิบะ ยังยกย่องสถานะของญี่ปุ่นในฐานะนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่เป็นโรงงานจากผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นซึ่งสร้างงานให้กับสหรัฐฯ มานานและกล่าวว่าหากขึ้นภาษีศุลกากรสูงจะยิ่งทำให้ญี่ปุ่นลดศักยภาพในการลงทุนในสหรัฐฯลง

 

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกๆ ที่เริ่มเปิดฉากการเจรจากับสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการทดสอบเบื้องต้นถึงความตั้งใจของรัฐบาลวอชิงตันในการยอมผ่อนปรนเรื่องภาษี หลังจากที่การประกาศมาตรการภาษีส่งผลให้ตลาดการเงินปั่นป่วนและกระตุ้นความวิตกว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

 

ด้านมาร์ติน ชูลซ์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านนโยบาย จาก Fujitsu มองว่า “อุตสาหกรรมของญี่ปุ่นมีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ซึ่งทุกฝ่ายกังวลมากเกี่ยวกับการเจรจาการค้า แม้จะไม่มีฝ่ายไหนชนะในสงครามการค้า แต่เรายังมองค่อนข้างบวกว่า ผลการเจรจาจะนำไปสู่ข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกัน โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ มากที่สุด และยังสนใจที่จะลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากทั้งสองประเทศสามารถรักษาอัตราการเติบโตต่อไปได้ การนำเข้าจากสหรัฐฯ ในปริมาณที่สูงขึ้น”

 

ภาพ: Tomohiro Ohsumi / Getty Images

อ้างอิง:

The post ‘ญี่ปุ่น’ ส่งผู้แทนการค้าถกสหรัฐฯ เป็นชาติแรก เปิดไพ่ซื้อก๊าซ LNG เพิ่ม ลงทุนอีกล้านล้านดอลลาร์ ทรัมป์ทำเซอร์ไพรส์โผล่ร่วมวง เผยผลเจรจาชื่นมื่น appeared first on THE STANDARD.

]]>
ธปท. จ่อหั่น GDP ไทย เหลือต่ำกว่า 2.5% เชื่อเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ Trump Tariff รุนแรง แต่ไม่เท่าโควิด https://thestandard.co/bot-to-cut-gdp-below-2-5-percent/ Thu, 17 Apr 2025 11:52:01 +0000 https://thestandard.co/?p=1065407

ธปท. จ่อหั่น GDP ไทย ในการประชุม กนง. นัดสิ้นเดือนนี้ ม […]

The post ธปท. จ่อหั่น GDP ไทย เหลือต่ำกว่า 2.5% เชื่อเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ Trump Tariff รุนแรง แต่ไม่เท่าโควิด appeared first on THE STANDARD.

]]>

ธปท. จ่อหั่น GDP ไทย ในการประชุม กนง. นัดสิ้นเดือนนี้ มองผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจมี ‘ไม่น้อย’ แต่ ‘ไม่เท่า’ ช่วงโควิด พร้อมเปิด 5 ช่องทางผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

 

วันนี้ (17 เมษายน) สักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงาน Media Briefing หัวข้อ ‘วิเคราะห์ผลกระทบเบื้องต้นของนโยบายการค้าโลกต่อเศรษฐกิจไทย’ โดยระบุว่า กนง. เตรียมปรับประมาณการ GDP ไทยลง จากปัจจุบันที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะโตสูงกว่า 2.5% นิดๆ พร้อมมองผลกระทบไม่เท่าช่วงโควิด

 

“จากการประชุม กนง. ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ กนง. เคยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตสูงกว่า 2.5% นิดๆ แค่ตอนนี้แน่นอนว่าประมาณการ GDP ไทยปีนี้ต้องปรับลดลงแน่นอน แต่ส่วนที่ปรับลดลงจะมากน้อยขนาดไหน ต้องรอดูผลกระทบจากมาตรการ Tariff ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงหลังของปี เพราะฉะนั้น ธปท. จะต้องขอรอดูพัฒนาการก่อน” สักกะภพกล่าว

 

ทั้งนี้ ต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นัดต่อไปในวันที่ 30 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นนัดที่จะมีการเปิดเผยประมาณการเศรษฐกิจใหม่

 

สักกะภพระบุอีกว่า “Shock ครั้งนี้นับว่าใหญ่ แต่มีความลึกแค่บางภาคส่วน (Sector) เท่านั้น ไม่เหมือนกับช่วงโควิด ที่การลงของ Shock กระจายไปทั่ว โดยปัจจุบัน นักเศรษฐศาสตร์จากสำนักต่างๆ ทั่วโลกประเมินว่า ผลกระทบจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ ครั้งนี้ต่อ GDP โลก จะอยู่ที่ราว 0.5% เทียบกับโควิดซึ่งกระทบ GDP โลกราว 2-3% จะเห็นว่าสเกลไม่เท่ากับช่วงโควิด กลับมาที่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ตัวเลขที่เรามองไว้ก็ ‘ไม่ได้น้อย’ แต่ก็ไม่ได้ลงรุนแรงเท่าช่วงโควิด โดยกรอบ (Range) ของ GDP ที่เป็นไปได้ก็ค่อนข้างกว้างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ การเจรจาต่อรอง และอัตราภาษี จึงต้องขอดูความชัดเจนอีกทีก่อนจะให้ตัวเลขไป”

 

ธปท. เปิด 5 ช่องทางผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

 

สักกะภพกล่าวอีกว่า ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ คาดว่าจะใหญ่และยืดเยื้อ (Large and Prolonged Shocks) โดยผลกระทบจะส่งผ่านมายังเศรษฐกิจไทยในหลายช่องทาง และใช้เวลากว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน

 

โดยความรุนแรงของผลกระทบจะขึ้นกับภาษีที่ไทยถูกจัดเก็บเทียบกับประเทศคู่ค้า และการตอบโต้ระหว่างประเทศเศรษฐกิจหลัก และสหรัฐฯ ซึ่งผลต่อเศรษฐกิจการเงินไทยจะมีผ่าน 5 ช่องทางหลัก ดังนี้

 

1. ตลาดการเงิน: ราคาสินทรัพย์ในตลาดการเงินโลกและไทยผันผวนมากขึ้น

 

โดยรวมสภาพคล่องและกลไกการทำธุรกรรม (Market Functioning) ยังเป็นไปตามปกติ ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจาก ช่วงก่อนวันที่ 2 เมษายน เล็กน้อย (2.71% ณ 12.00 น. 17 เมษายน 2568 เทียบกับ JPY และ KRW ที่แข็งค่าขึ้น 4.75% และ 3.11% ตามลำดับ) สอดคล้องกับภูมิภาค ตามค่าเงิน USD ที่อ่อนเร็วจากความกังวลต่อผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ 

 

ส่วนตลาดหุ้นปรับลดลงสอดคล้องกับภูมิภาค ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ยังไม่เห็นการทำธุรกรรมที่ผิดปกติจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ในส่วนของภาวะการระดมทุนผ่านหุ้นกู้โดยรวมยังเป็นปกติ โดยต้องติดตามผลจากภาวะการเงินต่อธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก Tariff อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ เสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี

 

2. การลงทุน: ความไม่แน่นอนที่ยังสูงต่อเนื่อง ทำให้การตัดสินใจทางธุรกิจและการลงทุนชะลอออกไป (Wait and See)

 

โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ส่งออกไปสหรัฐฯ เป็นหลัก (อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร และยานยนต์) ซึ่งเริ่มเห็นผลดังกล่าวบ้างแล้ว จากการหารือกับผู้ประกอบการในกลุ่มดังกล่าวมีบางส่วนรอความชัดเจนเพื่อตัดสินใจการลงทุนใหม่จากแผนเดิมที่วางไว้ ในระยะต่อไป หากไทยถูกเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่าประเทศอื่นอาจเห็นการย้ายฐานการผลิตออกจากไทย

 

3. การส่งออก: เป็นช่องทางหลักที่ได้รับผลกระทบจาก Tariff แต่ยังมีความไม่แน่นอนของนโยบายภาษี

 

เนื่องจากมีการชะลอการบังคับใช้ Reciprocal Tariff ออกไป 90 วัน จึงคาดว่าจะเริ่มเห็นผลกระทบชัดเจนขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีเป็นต้นไป และน่าจะเห็นการเร่งส่งออกในไตรมาส 2 เช่น อาหารแปรรูป โดย Exposure ของการส่งออกไทยไปสหรัฐฯ คิดเป็น 18% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย และคิดเป็น 2.2% ของ GDP

 

โดยsector หลักๆ ที่จะได้รับผลกระทบ ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหารแปรรูป นอกจากนี้ จะมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยที่อยู่ใน supply chain ของโลก ที่ผลิตเพื่อส่งออกไปสหรัฐฯ ด้วย (ยาง ชิ้นส่วนยานยนต์ เหล็ก และเคมีภัณฑ์ คิดเป็นประมาณ 4.3% ของการส่งออกไทย)

 

4. การแข่งขันที่จะรุนแรงขึ้น

 

สินค้าไทยจะต้องเผชิญกับการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ได้น้อยลง และหันมาส่งออกไปยังตลาดเดียวกับไทย รวมถึงส่งมายังไทย โดยเฉพาะหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โลหะ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และเคมีภัณฑ์ ซึ่งจะซ้ำเติมปัญหาในภาคการผลิตที่มีอยู่เดิม

 

5. เศรษฐกิจโลกที่จะชะลอ

 

การส่งออกโดยรวมและรายรับการท่องเที่ยวอาจถูกกระทบจาก
เศรษฐกิจคู่ค้าที่ชะลอตัว รวมทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกจะปรับลดลง ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการนำเข้าและเงินเฟ้อของไทยชะลอลงจากปัจจัยด้านอุปทาน

 

นโยบายการเงินต้องผ่อนคลายลงหรือไม่ 

 

เมื่อถูกถามว่า ธปท. จำเป็นต้องผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น สักกะภพตอบว่า ลักษณะของ Shock ครั้งนี้มีผลกระทบต่อภาคการผลิตและส่งออกเป็นหลัก เพราะฉะนั้น นโยบายที่ตรงจุดและมีต้นทุนน้อยที่สุดหากจะทำ คือ การปรับปรุงภาคการผลิต ไม่ใช่แค่การดูแลระยะสั้น รวมไปถึงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การขยายตลาด การลดต้นทุนการผลิต เป็นต้น

 

แนะวิธีรับมือนโยบายการค้าโลกที่เปลี่ยนไป

 

โดยนโยบายการค้าโลกที่เปลี่ยนไป ถือเป็นปัจจัยที่จะเปลี่ยนโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยและโลกอย่างถาวร ทำให้ต้องเร่งปรับตัว

 

ในระยะสั้น นอกจากเรื่องการเร่งเจรจากับสหรัฐฯ ไทยควรมีมาตรการรับมือ ทั้งการแข่งขันของสินค้าจากต่างประเทศ และป้องกันการนำเข้าสินค้ามาเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐฯ ผ่านไทย (Transshipment) เช่น กำหนดมาตรฐานสินค้านำเข้าและความคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศ การเร่งรัดกระบวนการไต่สวน (AD/CVD และ AC) ข้อพิพาทกับต่างประเทศ การเข้มงวดกับการตรวจสอบสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ ป้องกันการสวมสิทธิจากประเทศที่สาม เป็นต้น 

 

ในระยะยาว ไทยควรขยายตลาดและเสริมสร้าง Supply Chain โดยเฉพาะกับประเทศในภูมิภาค และต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อให้แข่งขันในห่วงโซ่อุปทานของโลกได้ เช่น ยกระดับภาคการผลิตและ
ภาคบริการที่ไทยมีศักยภาพ เช่น สินค้าเกษตรแปรรูป อาหาร การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ โดยเฉพาะการวิจัยและนวัตกรรม ทักษะแรงงาน และการปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค

The post ธปท. จ่อหั่น GDP ไทย เหลือต่ำกว่า 2.5% เชื่อเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ Trump Tariff รุนแรง แต่ไม่เท่าโควิด appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: หุ้นร่วง พอร์ตติดดอย สิ่งที่ต้องรู้ก่อน ‘ถัวเฉลี่ยขาลง’ มีอะไรบ้าง? I NEW GEN INVESTOR (HL) https://thestandard.co/new-gen-investor-ep-50-2/ Thu, 17 Apr 2025 11:00:00 +0000 https://thestandard.co/?p=1065316

การลงทุนในตลาดหุ้นไม่เคยขาดความเสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงที่ […]

The post ชมคลิป: หุ้นร่วง พอร์ตติดดอย สิ่งที่ต้องรู้ก่อน ‘ถัวเฉลี่ยขาลง’ มีอะไรบ้าง? I NEW GEN INVESTOR (HL) appeared first on THE STANDARD.

]]>

การลงทุนในตลาดหุ้นไม่เคยขาดความเสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นร่วงจนทำให้พอร์ตของคุณติดดอย! แต่ก่อนที่จะตัดสินใจ ‘ถัวเฉลี่ยขาลง’ มีหลายสิ่งที่นักลงทุนต้องเข้าใจและคิดให้รอบคอบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการถัวเฉลี่ยผิดเวลา และสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย การถัวเฉลี่ยขาลงไม่ใช่แค่การซื้อเพิ่มเพื่อเฉลี่ยราคาหุ้น แต่ต้องพิจารณาปัจจัยหลายๆ ด้านประกอบกัน มีเรื่องอะไรที่ต้องพิจารณาบ้าง ดูได้ในคลิปนี้

 

รับชมคลิปเต็มๆ ได้ที่

 

 

The post ชมคลิป: หุ้นร่วง พอร์ตติดดอย สิ่งที่ต้องรู้ก่อน ‘ถัวเฉลี่ยขาลง’ มีอะไรบ้าง? I NEW GEN INVESTOR (HL) appeared first on THE STANDARD.

]]>
วางแผนการเงิน สร้างเงิน 1 ล้านแรกว่าต้องออมเดือนละเท่าไร ลงทุนให้ได้ผลตอบแทนอย่างไร https://thestandard.co/financial-planning-save-invest-1-million/ Thu, 17 Apr 2025 10:11:07 +0000 https://thestandard.co/?p=1065370 1 ล้านแรก

‘1 ล้านแรก’ คงเป็นหมุดหมายแรกๆ ที่สำคัญของคนวัยทำงานหลา […]

The post วางแผนการเงิน สร้างเงิน 1 ล้านแรกว่าต้องออมเดือนละเท่าไร ลงทุนให้ได้ผลตอบแทนอย่างไร appeared first on THE STANDARD.

]]>
1 ล้านแรก

‘1 ล้านแรก’ คงเป็นหมุดหมายแรกๆ ที่สำคัญของคนวัยทำงานหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำหรือเจ้าของกิจการ เพราะหากใครก็ตามสามารถไปแตะที่ตัวเลขดังกล่าวได้แล้ว การจะสร้างเงินล้านถัดไปก็ดูเหมือนจะง่ายขึ้นอย่างที่ใครหลายๆ คนกล่าวไว้

 

การจะสร้างเงินล้านแรกได้นั้นก็คงมีหลายวิธี และหากตอบแบบกำปั้นทุบดินก็จะบอกได้ว่า ก็เก็บเงิน 1 แสนบาท เป็นเวลา 10 เดือน ก็สามารถแตะ 1 ล้านบาทได้แล้วภายในเวลาไม่ถึงปี แต่ในความเป็นจริงแล้ว จะมีคนสักกี่เปอร์เซ็นต์ในประเทศไทยที่สามารถออมเงินด้วยสัดส่วนดังกล่าวได้ 

 

ดังนั้นแล้วการออมเงินและวางแผนเพื่อการลงทุน จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่หากเริ่มต้นได้ไว เดินไปอย่างมีวินัย และมีความแน่วแน่ ใครๆ ก็สามารถไปถึงได้อย่างแน่นอน

 

ทั้งนี้ ผลตอบแทนที่จะทำได้ขึ้นกับปัจจัยหลักๆ 3 ส่วน ดังที่ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนผู้บุกเบิกแนว VI (Value Investor) ของประเทศไทย ได้แก่ เงินต้น (เงินลงทุนต่อเดือน), ผลตอบแทนที่ทำได้ (% ต่อปี) และระยะเวลา (ปี)

 

ในบทความนี้ทีมงาน THE STANDARD WEALTH จะพาไปสำรวจ ‘วิธีการวางแผนสู่เงิน 1 ล้านแรกกัน’ ว่าต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไร จะสามารถมีเงิน 1 ล้านบาทได้ภายใน 10 ปี 20 ปี หรือ 30 ปี

 

 

ภาพประกอบ: ธิดามาศ เขียวเหลือ

The post วางแผนการเงิน สร้างเงิน 1 ล้านแรกว่าต้องออมเดือนละเท่าไร ลงทุนให้ได้ผลตอบแทนอย่างไร appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: ภาษีการค้ายืดเยื้อ! ‘ทองคำ’ จะไปทางไหน ลงทุนอย่างไร | THE STANDARD WEALTH https://thestandard.co/morning-wealth-17042025-3/ Thu, 17 Apr 2025 07:08:29 +0000 https://thestandard.co/?p=1065281

สถานการณ์ทองคำในเวลานี้ได้รับอิทธิพลจากอะไรบ้าง แนวโน้ม […]

The post ชมคลิป: ภาษีการค้ายืดเยื้อ! ‘ทองคำ’ จะไปทางไหน ลงทุนอย่างไร | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>

สถานการณ์ทองคำในเวลานี้ได้รับอิทธิพลจากอะไรบ้าง แนวโน้มเป็นอย่างไร พูดคุยกับ ศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บจก.ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดอ่านหนังสือชี้ชวน และศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: ภาษีการค้ายืดเยื้อ! ‘ทองคำ’ จะไปทางไหน ลงทุนอย่างไร | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: ‘พินัยกรรมชีวิต’ คืออะไร สำคัญแค่ไหนสำหรับความปรารถนาสุดท้ายของชีวิต | THE STANDARD WEALTH https://thestandard.co/morning-wealth-17042025-2/ Thu, 17 Apr 2025 06:58:34 +0000 https://thestandard.co/?p=1065273 พินัยกรรมชีวิต

ทำความรู้จัก ‘พินัยกรรมชีวิต’ คืออะไร มีความสำคัญและเป็ […]

The post ชมคลิป: ‘พินัยกรรมชีวิต’ คืออะไร สำคัญแค่ไหนสำหรับความปรารถนาสุดท้ายของชีวิต | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
พินัยกรรมชีวิต

ทำความรู้จัก ‘พินัยกรรมชีวิต’ คืออะไร มีความสำคัญและเป็นประโยชน์แค่ไหนสำหรับความปรารถนาสุดท้ายของชีวิต พูดคุยกับ ดร.นิติ เนื่องจำนงค์ ผู้อำนวยการอาวุโส Wealth Planning and Family Office ธนาคารไทยพาณิชย์

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: ‘พินัยกรรมชีวิต’ คืออะไร สำคัญแค่ไหนสำหรับความปรารถนาสุดท้ายของชีวิต | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: Boeing อ่วม! จีน ‘แบน’ ส่งมอบเครื่องบิน ท้าชนภาษีทรัมป์ | Morning Wealth 17 เม.ย. 2568 https://thestandard.co/morning-wealth-17042025/ Thu, 17 Apr 2025 06:25:53 +0000 https://thestandard.co/?p=1065250 Boeing

จีนสั่ง ‘แบน’ การส่งมอบเครื่องบิน Boeing ตอบโต้ภาษีทรัม […]

The post ชมคลิป: Boeing อ่วม! จีน ‘แบน’ ส่งมอบเครื่องบิน ท้าชนภาษีทรัมป์ | Morning Wealth 17 เม.ย. 2568 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Boeing

จีนสั่ง ‘แบน’ การส่งมอบเครื่องบิน Boeing ตอบโต้ภาษีทรัมป์ กระทบบริษัทยักษ์ใหญ่อเมริกาเต็มๆ รายละเอียดเป็นอย่างไร

 

สถานการณ์ทองคำในเวลานี้ได้รับอิทธิพลจากอะไรบ้าง แนวโน้มเป็นอย่างไร พูดคุยกับ ศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บจก.ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

ทำความรู้จัก ‘พินัยกรรมชีวิต’ คืออะไร มีความสำคัญแค่ไหน พูดคุยกับ ดร.นิติ  เนื่องจำนงค์ ผู้อำนวยการอาวุโส Wealth Planning and Family Office ธนาคารไทยพาณิชย์

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 . ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

 

The post ชมคลิป: Boeing อ่วม! จีน ‘แบน’ ส่งมอบเครื่องบิน ท้าชนภาษีทรัมป์ | Morning Wealth 17 เม.ย. 2568 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Fitness First ‘สวนกระแส’ ฟิตเนสแข่งเดือด! สมาชิกทะลุ 6.5 หมื่นคน โตต่อเนื่อง 5-7% เตรียมจัดงานใหญ่ ดึงดูดนักฟิตเนสทั่วโลก https://thestandard.co/fitness-first-membership-exceeds-65k-steady-growth/ Thu, 17 Apr 2025 02:57:57 +0000 https://thestandard.co/?p=1065188 Fitness First

ในยุคที่ฟิตเนสผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ทั้งโรงยิมขนาดเล็ก 1 […]

The post Fitness First ‘สวนกระแส’ ฟิตเนสแข่งเดือด! สมาชิกทะลุ 6.5 หมื่นคน โตต่อเนื่อง 5-7% เตรียมจัดงานใหญ่ ดึงดูดนักฟิตเนสทั่วโลก appeared first on THE STANDARD.

]]>
Fitness First

ในยุคที่ฟิตเนสผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ทั้งโรงยิมขนาดเล็ก 1-2 สาขาในชุมชน และเทรนเนอร์ออนไลน์ที่เพิ่มทางเลือกให้คนอยากออกกำลังกาย การอยู่รอดในธุรกิจนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ Fitness First Thailand กลับสวนกระแสด้วยการขยายฐานลูกค้าและพัฒนาบริการต่อเนื่อง ท่ามกลางตลาดที่การแข่งขันเดือด

 

อรวรรณ เกลียวปฏินนท์ หัวหน้าทีมการตลาด บริษัท อีโวลูชั่น เวลล์เนสส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า การออกกำลังกายในยุคหลังโควิดเปลี่ยนโฉมไปมาก เพราะผู้คนใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ ทำให้หันมาออกกำลังกายที่บ้านกันเพิ่มขึ้น

 

“เทรนด์การออกกำลังกายเปลี่ยนไปมากหลังโควิด แต่จุดแข็งของ Fitness First ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ครบครัน และคลาสที่หลากหลายสำหรับผู้แสวงหาสไตล์การออกกำลังที่ใช่” อรวรรณกล่าว

 

ปัจจุบัน Fitness First มีสมาชิกที่ใช้บริการอยู่ประมาณ 65,000 คน (Active member) โดยเฉลี่ยมาใช้บริการ 7.6 ครั้งต่อเดือน และมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นทุกเดือนประมาณ 2,500-3,000 คน ขณะที่การเติบโตของธุรกิจอยู่ที่ 5-7% ต่อปี

 

ลูกค้าของ Fitness First มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 34 ปี แต่ตัวเลขที่น่าสนใจคือการเติบโตของลูกค้าแบบสองขั้วอายุ ทั้งกลุ่มผู้สูงวัยที่ยังฟิตและกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังหัดฟิต

“ผู้สูงวัยมาใช้บริการไม่น้อยเลย ส่วนหนึ่งเพราะลูกค้าบางคนสมัครฟิตเนสไว้ให้พ่อแม่มาเติมชีวิตชีวา และใช้เวลาว่างไม่ให้เบื่อ” อรวรรณเปิดเผย

 

สาขาที่ลูกค้าหลั่งไหลมาใช้บริการมากที่สุดได้แก่ เมกา บางนา, ไอคอนสยาม และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต สะท้อนให้เห็นว่าทำเลยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการดึงดูดนักล่าแคลอรี

 

ในภาวะเศรษฐกิจที่เหมือนกำลังวิ่งบนลู่วงรี อรวรรณยอมรับว่าต้องปรับตัวหนัก “เราโฟกัสที่การรักษาฐานสมาชิกเดิมให้แน่นและกระตุ้นให้พวกเขาชวนเพื่อนมาร่วมวงการฟิต คีย์เวิร์ดสำคัญคือต้องเจาะลึก Customer Insight ให้ทะลุปรุโปร่ง

 

“ราคาถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งาน สำหรับ Fitness First เราเชื่อว่าราคาอยู่ในจุดที่ทั้งเราและลูกค้ายิ้มได้ เมื่อกลุ่มเป้าหมายของเราคือคนทำงานที่รักสุขภาพ ค่าบริการของเราถือว่าคุ้มค่าและไม่แพงเลย” อรวรรณกล่าวถึงประเด็นราคาสมาชิก

 

อรวรรณเผยว่า ปัจจุบัน Fitness First ครองบัลลังก์ผู้นำตลาดด้านจำนวนสมาชิก โดยวางกลยุทธ์แบบการสร้างสัมพันธ์ระยะยาวมากกว่าการหาลูกค้าแบบวันเวย์

 

“ตลาดฟิตเนสมีความผันผวนพอสมควร มีทั้งเปิดและปิดตัว แต่เราเชื่อว่าถ้าผู้ให้บริการตีโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ ธุรกิจจะเติบโตอย่างแน่นอน” อรวรรณกล่าว

 

Fitness First Thailand ประกาศความร่วมมือกับ ICONSIAM และ Les Mills Asia Pacific จัดงาน The Ultimate Fitness Force 2025 (TUFF 2025) ในวันที่ 7-8 มิถุนายน 2568 ณ TRUE ICON HALL, ICONSIAM

 

ในโอกาสนี้มีการตั้งเป้าผู้เข้าร่วมงาน 8,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มี 4,000 คน โดยหวังดึงดูดชาวต่างชาติเพิ่มจาก 10% เป็น 20% เพราะความนิยมของการออกกำลังกายแบบกลุ่มกำลังเป็นที่นิยมในแถบเอเชีย โดยเฉพาะเวียดนาม และสิงคโปร์ พร้อมขยายพื้นที่จัดงานเป็น 3,000 ตารางเมตร

The post Fitness First ‘สวนกระแส’ ฟิตเนสแข่งเดือด! สมาชิกทะลุ 6.5 หมื่นคน โตต่อเนื่อง 5-7% เตรียมจัดงานใหญ่ ดึงดูดนักฟิตเนสทั่วโลก appeared first on THE STANDARD.

]]>
เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือน จับตาแนวโน้มจ่อแข็งค่าต่อ https://thestandard.co/thai-baht-strongest-in-6-months/ Thu, 17 Apr 2025 02:13:16 +0000 https://thestandard.co/?p=1065181 เงินบาทแข็งค่า

เงินบาทแข็งค่าสุดรอบ 6 เดือน หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่ […]

The post เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือน จับตาแนวโน้มจ่อแข็งค่าต่อ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เงินบาทแข็งค่า

เงินบาทแข็งค่าสุดรอบ 6 เดือน หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) จากความไม่แน่นอนของนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ จับตาแนวโน้มเงินบาทจ่อแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เหนือความคาดหมาย

 

วันนี้ (17 เมษายน) พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.12 บาทต่อดอลลาร์ ‘แข็งค่าขึ้น’ จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 33.23 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.00-33.25 บาท/ดอลลาร์

 

“โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังหลุดโซนแนวรับ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ตั้งแต่ช่วงวันก่อนหน้า (แกว่งตัวในกรอบ 33.07-33.27 บาทต่อดอลลาร์) โดยการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทยังคงได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำ (XAUUSD) สามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (New All-Time High) ท่ามกลางบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) จากความไม่แน่นอนของนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ และความกังวลผลกระทบของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ Fed ที่ต่างระบุว่า นโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาล Trump 2.0 นั้นอาจเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้ นอกเหนือจากหนุนให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น” พูนกล่าว

 

อย่างไรก็ดี เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ได้ระบุว่า Fed จะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวังและรอบคอบ สะท้อนว่า Fed ยังไม่เร่งรีบปรับลดดอกเบี้ย หากไม่จำเป็น ซึ่งมุมมองดังกล่าวก็ดูจะสวนทางกับมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ต่างประเมินว่า Fed มีโอกาสราว 63% ที่จะลดดอกเบี้ยได้ถึง 4 ครั้ง ในปีนี้ และนอกเหนือจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ เงินบาทยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงบ้างของเงินดอลลาร์ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจออกมาผสมผสาน โดยยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนมีนาคม ปรับตัวขึ้น +1.4%m/m ดีกว่าคาดเล็กน้อย แต่ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) เดือนมีนาคม กลับหดตัว -0.3%m/m แย่กว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังไม่มั่นใจในภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ 

 

จับตา 24 ชั่วโมงหลังจากนี้

 

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์และเรา ต่างคาดว่า ECB จะเดินหน้าลดดอกเบี้ย (Deposit Facility Rate) 25bps สู่ระดับ 2.25% เพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจท่ามกลางความเสี่ยงจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนก็มีแนวโน้มชะลอตัวลง ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของประธาน ECB ในช่วง Press Conference หลังรับรู้ผลการประชุม เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของ ECB

 

ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มตลาดแรงงาน ผ่านรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) พร้อมทั้งรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด 

 

และในฝั่งเอเชีย ช่วงราว 06.30 น. ของเช้าวันศุกร์นี้ ตามเวลาประเทศไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของญี่ปุ่น ในเดือนมีนาคม ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) 

 

นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน พร้อมติดตามแนวโน้มการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง

 

เปิดแนวโน้มของค่าเงินบาท

 

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เงินบาทยังคงทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เหนือความคาดหมายของเรา โดยเรามองว่า ปัจจัยสำคัญที่หนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงนี้ คือ โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่และการเร่งปรับลดสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) ของผู้เล่นในตลาด ซึ่งส่วนหนึ่งก็ใช้ราคาทองคำ เป็นหนึ่งในปัจจัยประเมินแนวโน้มเงินบาท ทำให้เรายอมรับว่า เงินบาทยังมีโอกาสทยอยแข็งค่าทดสอบโซนแนวรับสำคัญ 32.90-33.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก หากราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นต่อได้ 

 

เห็นสัญญาณรีบาวด์ดอลลาร์

 

อย่างไรก็ดี เราเริ่มเห็นสัญญาณการกลับตัวของเงินดอลลาร์ หลังผู้เล่นในตลาดมีมุมมองเชิงลบ (Bearish) ต่อเงินดอลลาร์มากพอสมควร ทำให้เงินดอลลาร์มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง ซึ่งต้องอาศัยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่สดใส เพื่อหนุนความเชื่อมั่นในการถือครองสินทรัพย์สหรัฐฯ ให้กลับมาอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่สูงอยู่นั้น จะเป็นปัจจัยกดดันและจำกัดการรีบาวด์ขึ้นของเงินดอลลาร์ในช่วงนี้   การแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินบาทอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ 

 

ตลาดปิดรับความเสี่ยง สินทรัพย์เสี่ยงเอเชีย อาจเผชิญแรงขาย

 

นอกจากนี้ ในช่วงตลาดการเงินอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง เรามองว่า สินทรัพย์เสี่ยงฝั่งเอเชีย อาจเผชิญแรงขายเพิ่มเติมได้ ทำให้การแข็งค่าขึ้นเงินบาท (ที่จะได้แรงหนุน หากราคาทองคำปรับตัวขึ้น) ถูกชะลอลงบ้าง หากนักลงทุนต่างชาติต่างทยอยขายหุ้นไทยออกมา และที่สำคัญ เรามองว่า การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา ถือว่า “เร็ว แรง” จนเริ่มมีลักษณะ Parabolic Rise (โดยเฉพาะเมื่อดูจากกราฟ Log Scale) ทำให้ราคาทองคำเสี่ยงปรับตัวลงพอสมควร เข้าสู่ช่วงการพักฐาน

 

หากขาดปัจจัยหนุนเพิ่มเติม ซึ่งจากสถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2000 เราพบว่า หลังการปรับตัวขึ้นเร็วและแรง แบบ Parabolic Rise นั้น ราคาทองคำเสี่ยงปรับตัวลงได้เฉลี่ย -12% ซึ่งหากความสัมพันธ์ระหว่างเงินบาทกับราคาทองคำยังไม่เปลี่ยนแปลง การปรับตัวลงดังกล่าวของราคาทองคำ ก็อาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้ไม่ยาก (หากราคาทองคำปรับตัวลดลง -10% อาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้เกือบ 1 บาทต่อดอลลาร์)

 

ท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในช่วงปีหน้าที่จะเผชิญกับ Trump’s Uncertainty ทำให้เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้

The post เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือน จับตาแนวโน้มจ่อแข็งค่าต่อ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ซีอีโอ UNIQLO ซัด Trump ‘ไร้เหตุผล’ ลั่นภาษีนำเข้า ‘อยู่ไม่นาน’ ชี้สหรัฐฯ จะถูกโดดเดี่ยว พร้อมหั่นกำไรรับมือสงครามภาษี https://thestandard.co/uniqlo-ceo-criticizes-trumps-unreasonable-tariffs/ Thu, 17 Apr 2025 01:58:46 +0000 https://thestandard.co/?p=1065178 UNIQLO

ในขณะที่ ‘สงครามภาษี’ กำลังลุกโชนระหว่างมหาอำนาจเศรษฐกิ […]

The post ซีอีโอ UNIQLO ซัด Trump ‘ไร้เหตุผล’ ลั่นภาษีนำเข้า ‘อยู่ไม่นาน’ ชี้สหรัฐฯ จะถูกโดดเดี่ยว พร้อมหั่นกำไรรับมือสงครามภาษี appeared first on THE STANDARD.

]]>
UNIQLO

ในขณะที่ ‘สงครามภาษี’ กำลังลุกโชนระหว่างมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก Tadashi Yanai ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของยักษ์ใหญ่วงการเสื้อผ้า UNIQLO ออกมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน เขาเรียกมาตรการภาษีนำเข้าของประธานาธิบดี Donald Trump ว่าเป็นการกระทำที่ ‘ไร้เหตุผล’ และทำนายอย่างมั่นใจว่านโยบายภาษีเหล่านี้ ‘จะไม่อยู่ยาวนาน’ เพราะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ในระบบเศรษฐกิจโลก 

 

ถ้อยคำเหล่านี้มาพร้อมกับการที่บริษัทต้องปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในครึ่งหลังของปีงบประมาณเนื่องจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

 

“ระบบภาษีที่เห็นแก่ประเทศตัวเองเพียงอย่างเดียวเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้” Yanai กล่าวอย่างเด็ดขาดในงานแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี ก่อนจะเสริมด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มันจะนำไปสู่การที่สหรัฐฯ ถูกโดดเดี่ยวในเวทีโลก”

 

แม้ว่าตลาดอเมริกาเหนือจะมีส่วนแบ่งเพียงกว่า 10% ของยอดขาย UNIQLO ในต่างประเทศในปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2024 ของบริษัทแม่ Fast Retailing แต่ผลกระทบจากนโยบายภาษีใหม่ไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้ามได้อย่างง่ายดาย

 

สถานการณ์ยังคงหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุด Trump ประกาศเลื่อนการบังคับใช้ภาษีระลอกที่สองออกไปอีก 90 วัน แต่ภาษีนำเข้า 10% สำหรับสินค้าทั้งหมดที่เข้าสหรัฐฯ ยังคงบังคับใช้อยู่อย่างเข้มงวด การตัดสินใจอันฉับพลันนี้ได้สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดการค้าระหว่างประเทศอย่างมาก

 

เบื้องหลังม่านธุรกิจอันยิ่งใหญ่ Fast Retailing ซื้อสินค้าจากโรงงานเสื้อผ้าถึง 488 แห่งทั่วโลก หากจำแนกตามประเทศ 74 แห่งอยู่ในเวียดนาม 34 แห่งในบังกลาเทศ และ 30 แห่งในกัมพูชา ซึ่งล้วนเป็นประเทศที่จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาษีเพิ่มเติมในระยะที่สองของ Trump หากมีการบังคับใช้

 

“หากโลกยังคงทำสงครามภาษีต่อไป มันจะเป็นหายนะสำหรับประเทศกำลังพัฒนา” Yanai กล่าวอย่างตรงไปตรงมา

 

ด้วยความระมัดระวังและการวางแผนอย่างรอบคอบ บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์กำไรธุรกิจในครึ่งหลังลง 1 หมื่นล้านเยน เพื่อ ‘สะท้อนผลกระทบที่คาดการณ์จากภาษี’ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทยังเสริมอีกว่า มุมมองนี้เป็นเพียง ‘การประเมินแบบชั่วคราวและระมัดระวัง’ เท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม ในท่ามกลางเมฆหมอกแห่งความไม่แน่นอนยังพอมีความหวังอยู่บ้าง เพราะแม้จะมีการปรับลดคาดการณ์ในครึ่งหลัง Fast Retailing ก็ยังสามารถปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสำหรับทั้งปีได้ เนื่องจากผลประกอบการครึ่งแรกที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ’ ในตลาดสำคัญอย่างญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป ที่สามารถช่วยพยุงธุรกิจได้เป็นอย่างดี

 

ในช่วงหกเดือนสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ กำไรสุทธิของ Fast Retailing พุ่งสูงขึ้นถึง 19.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 2.33 พันล้านเยน ยอดขายในต่างประเทศของ UNIQLO เติบโต 14.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน และยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น 11.6% แสดงให้เห็นถึงสถานะทางธุรกิจที่มั่นคงแม้จะเผชิญกับความท้าทาย

 

ด้วยความมั่นใจในศักยภาพของบริษัท Yanai ยืนยันว่า Fast Retailing สามารถรับมือกับผลกระทบจากภาษีได้ไม่ว่าภาษีจะยังคงอยู่ต่อไปหรือไม่ “เราสามารถเปลี่ยนสถานที่ผลิตได้ตามใจชอบ” เขากล่าว

 

Yanai ยังได้มองไปข้างหน้าและชี้ให้เห็นว่า การผลิตเสื้อผ้าจะไม่มีวันกลับไปที่สหรัฐฯ อีกต่อไป เนื่องจากประเทศนี้ได้กลายเป็นเศรษฐกิจที่เน้นด้านการเงินและข้อมูลเป็นหลักไปแล้ว 

 

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการย้ายการผลิตจากจีนไปยังภูมิภาคที่มีต้นทุนต่ำกว่าจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะในโลกปัจจุบัน “เศรษฐกิจ การเงิน และข้อมูลไม่มีพรมแดน”

 

Fast Retailing จัดหาเสื้อผ้าประเภทต่างๆ จากโรงงาน 380 แห่งทั่วโลก โดยจีนยังคงครองส่วนแบ่งใหญ่ที่สุดถึง 206 แห่ง ตามมาด้วยเวียดนาม บังกลาเทศ และกัมพูชา แต่ Yanai ส่งสัญญาณชัดเจนว่า จะมีการกระจายห่วงโซ่อุปทานออกจากจีนเพิ่มเติมในอนาคต 

 

เขาอธิบายว่ารูปแบบ ‘จีนบวกหนึ่ง’ ซึ่งบริษัทกระจายการผลิตออกจากจีนไปยังเพียงประเทศเดียว กำลังถูกแทนที่ด้วยยุคใหม่ที่ธุรกิจจะกระจายความเสี่ยงโดยพึ่งพาหลายประเทศในการผลิตสินค้าที่มีต้นทุนต่ำกว่า

 

ในโลกที่พรมแดนทางการค้าถูกท้าทายด้วยนโยบายกีดกันและภาษี มันคือความสามารถในการปรับตัวที่จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความอยู่รอด และดูเหมือนว่า Yanai กับ UNIQLO ได้ถือกุญแจดอกนั้นไว้ในมือเรียบร้อยแล้ว


ภาพ: Tooykrub / Shutterstock

อ้างอิง:

The post ซีอีโอ UNIQLO ซัด Trump ‘ไร้เหตุผล’ ลั่นภาษีนำเข้า ‘อยู่ไม่นาน’ ชี้สหรัฐฯ จะถูกโดดเดี่ยว พร้อมหั่นกำไรรับมือสงครามภาษี appeared first on THE STANDARD.

]]>