เผลอแป๊บเดียวเราก็เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของปี 2025 แล้ […]
The post ชาว HYROX เตรียมฟิต! เปิดวาร์ป 14 ยิมในกรุงเทพฯ สำหรับซ้อมก่อนแข่งปีหน้า appeared first on THE STANDARD.
]]>
เผลอแป๊บเดียวเราก็เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของปี 2025 แล้ว และเราเชื่อว่าอีกพริบตาเดียวเราก็จะถึงวาระของการแข่งขัน HYROX 2026 ที่จะจัดขึ้นในไทยช่วงมีนาคมปีหน้า แน่นอนว่าหัวใจสำคัญของการพิชิตสนามสุดโหดนี้ก็คือการฝึกซ้อมที่แข็งแกร่ง ครบทั้งเวตและวิ่ง ดังนั้นใครที่กำลังมีแพลนว่าจะลงแข่งแต่ยังไม่เริ่มซ้อม เริ่ม ณ วันนี้ก็ยังไม่สาย!
วันนี้เราจึงรวบรวมลิสต์ 14 ยิมที่เป็น Official Partner ของ HYROX ในกรุงเทพฯ มาให้เหล่าสายฟิตได้ไปเตรียมร่างกายให้ฟิตที่สุดก่อนลงสนามจริง มาดูกันเลยว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง
บูติกฟิตเนสสุดฮอตที่เพิ่งขยายสาขาใหม่แบบเหมาฟลอร์ที่ EmSphere อย่าง CUBIC มีคลาส HYROX ให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น HYROX Sim, HYROX Engine, HYROX Endurance หรือ HYROX Strength ที่มีความเข้มข้นแตกต่างกันไป เรียกได้ว่าอยากโฟกัสการฝึกด้านไหนก็มีให้เลือกครบ

Open: ตรวจสอบเวลาทำการได้ที่แต่ละสาขาโดยตรง
Address: 2 สาขา: ชั้น 4 EmSphere Tower, ชั้น G อาคารเพรสซิเด้นท์ ทาวเวอร์ ชั้น G
Budget: [Trial] 7-Day Unlimited Group Classes: 1,500 บาท สำหรับสาขาชิดลม, 1,850 บาท สำหรับสาขา EmSphere
Website: https://cubicsocialclub.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheCubicFitness
Instagram: https://www.instagram.com/cubicsocialclub/
ยิมคู่ใจของสาย HIIT ที่มาพร้อมวิวสาทรสุดพาโนรามา ภายในสเปซกว้างขวาง โปร่งสบาย และจัดสรรพื้นที่ฝึกอย่างลงตัว อุปกรณ์ครบตั้งแต่คาร์ดิโอ เวต ไปจนถึงโซน Functional ที่รองรับการฝึกแนว HYROX ได้ครบทุกสถานี จุดเด่นของที่นี่คือคลาส HIIT และ Conditioning ที่เข้มข้น เน้นทั้งความทนทาน ความแข็งแรง และได้ความสนุก เป็นกันเองในทุกคลาส

Open: จันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 7.00-21.00 น., เสาร์ เปิดเวลา 9.00-18.00 น., อาทิตย์ เปิดเวลา 10.00-18.00 น.
Address: ชั้น 11 อาคารปัญจภูมิ
Budget: 3 Class Trial: 1,290 บาท
Website: https://www.encoretrainingclub.com/
Facebook: https://www.facebook.com/encoretrainingclub
Instagram: https://www.instagram.com/encoretrainingclub/
ยิมเท่ๆ ที่เลื่องชื่อในฐานะ Personalized Training Gym และยังเป็นอีกเดสทิเนชันที่สาย HYROX เลือกมาฝึกด้วยอุปกรณ์ที่ครบครัน มีแป้นสำหรับ Wall Ball ให้เห็นระยะกันชัดๆ และมีโค้ชคอยบิลด์ ท้าทายความอึดตลอด 45 นาที

Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-21.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-18.00 น.
Address: 483/1 ถนนพระราม 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม
Budget: 800 บาท ต่อคลาส
Website: https://www.ontrackgym.com/
Facebook: https://www.facebook.com/ontrackasia
Instagram: https://www.instagram.com/ontrackgym/
ยิมสาย Performance แบบ Open-Air ในย่านอารีย์ที่นิยมทั้งในชาวไทยและต่างชาติ มาแล้วได้ความ Sweaty ถึงใจด้วยการฝึกแบบเข้มข้น เน้นการพัฒนาศักยภาพอย่างแท้จริง ใครอยากฝึก HYROX แล้วได้เพื่อนต่างชาติในไวบ์เดียวกันลองแวะมาที่นี่กันดู

Open: (หยุดวันอาทิตย์) จันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 6.30-20.30 น., เสาร์ เปิดเวลา 9.00-11.30 น.
Address: 42 ซอย อารีย์ 1 แขวงพญาไท เขตพญาไท
Budget: 800 บาท ต่อวัน
Website: https://www.arifitness.com/
Facebook: https://www.facebook.com/arifitbangkok/
Instagram: https://www.instagram.com/arifitbangkok/
ฟิตเนสสตูดิโอชื่อดังอย่าง BASE ก็เป็นอีกที่ที่ต้องไปลอง ที่นี่มีคลาส HYROX ให้เลือก 2 แบบ ถ้าคุณซ้อมเพื่อแข่งจริงจัง ต้องเข้า BASE HYROX ที่เน้นสร้างพละกำลังและความอึดโดยเฉพาะ แต่ถ้าอยากออกกำลังกายสนุกๆ ได้เหงื่อ และสัมผัสบรรยากาศแบบ HYROX โดยไม่ซีเรียสเกินไป ให้ลองคลาส HYROX CIRCUIT แทน

Open: ตรวจสอบเวลาทำการได้ที่แต่ละสาขาโดยตรง
Address: 3 สาขา ได้แก่ BASE Amarin, BASE Sathorn, BASE Langsuan
Budget: 2 Class Trial: 990 บาท
Website: https://basebangkok.com/
Facebook: https://www.facebook.com/basebangkok
Instagram: https://www.instagram.com/basebangkok/
แม้จะเป็นยิมโหดประจำขา CrossFit แต่ที่นี่ก็มีคลาส HYROX ต้อนรับเช่นกัน การเล่น HYROX ที่นี่จะมีโปรแกรม 6-Week HYROX New Cycle ที่เน้นฝึกแบบครอบคลุม เช่น ความแข็งแรงของขา ความแข็งแรงในท่าบอดี้เวต หรือการเข้าฐานต่างๆ และยังมีการเก็บสถิติของตัวเองตลอดการเทรนนิ่ง 6 สัปดาห์อีกด้วย เรียกว่าเราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวเองอย่างชัดเจนแน่นอน

Open: จันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 06.30-21.30 น., เสาร์ เปิดเวลา 09.30-14.30 น., อาทิตย์ เปิดเวลา 09.30-13.30 น.
Address: 1643/5 ถนนเพชรบุรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี
Budget: 6-Week HYROX New Cycle: 5,650 บาท
Website: https://crossfitarbkk.com/
Facebook: https://www.facebook.com/CrossFit.Arena.Bangkok/
Instagram: https://www.instagram.com/crossfit_arena_bangkok/
สตูดิโอ Circuit Training ชื่อดังจากออสเตรเลียที่ขึ้นชื่อเรื่องคลาสออกกำลังกาย 45 นาทีสุดเข้มข้น โดยเป้าหมายของทุกคลาสคือการสร้างความฟิตโดยรวม ซึ่งคลาส HYROX ของที่นี่อาจจะไม่ได้จำลองการแข่งขัน HYROX แบบ 100% แต่จะเน้นให้คุณมีพื้นฐานร่างกายที่แน่นและอึดถึกขึ้นก่อนไปเจอวันจริง

Open: จันทร์-พฤหัส เปิดเวลา 06.00-20.00 น., ศุกร์ เปิดเวลา 06.00-19.30 น., เสาร์ เปิดเวลา 09.00-13.00 น., อาทิตย์ เปิดเวลา 10.00-13.00 น.
Address: 48 ซอยสุขุมวิท 16 (ชั้น 10 อาคารจอดรถฟู้ดแลนด์)
Budget: (มี Free Trial) 1,200 บาท ต่อคลาส
Website: https://f45training.com/th/studio/asok/
Facebook: https://www.facebook.com/f45asok/
Instagram: https://www.instagram.com/f45_training_asok/
ฟิตเนสคลับสาขาทั่วกรุงเทพฯ ที่ทั้งใหญ่และมีอุปกรณ์ครบครันมากที่สุดแห่งหนึ่ง ที่นี่มีโปรแกรม HYROX หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น HYROX Foundation สำหรับมือใหม่, HYROX Complete คลาสที่รวมทุกอย่างไว้ในคลาสเดียว ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การฝึกที่ครบถ้วน, HYROX Engine เพื่อฝึกความอึด และ HYROX Power เพื่อฝึกความแข็งแรงและพลังระเบิด

Open: ตรวจสอบเวลาทำการได้ทางเว็บไซต์ Fitness First
Address: ตรวจสอบสาขาที่มีคลาส HYROX ได้ทางเว็บไซต์ Fitness First
Budget: รูปแบบสมาชิกรายเดือน/ปี
Website: https://www.fitnessfirst.com/th/th
Facebook: https://www.facebook.com/FitnessFirstThailand
Instagram: https://www.instagram.com/fitnessfirstthailand/
แม้จะโดดเด่นเรื่องศิลปะการต่อสู้ แต่ Elite Fight Club ก็มีโซนฟิตเนสและ Strength & Conditioning ที่เพียบพร้อมและกว้างขวาง แน่นอนว่ายังมีอุปกรณ์สำหรับการซ้อม HYROX ครบครัน ถ้าใครไหวฝึกเสร็จจะไปต่อยมวยอีกสักยกก็ได้นะ

Open: จันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 06.30-22.30 น., เสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 07.00- 21.00 น.
Address: 758/22 Waterford Diamond Tower, ซอยสุขุมวิท 30/1
Budget: 535 บาท ต่อคลาส
Website: https://elitefightclub.com/
Facebook: https://www.facebook.com/elitefightclubbkk
Instagram: https://www.instagram.com/elitefightclubbkk/
อีกหนึ่งยิมสำหรับสาย CrossFit ที่อยากเอาดีด้าน HYROX ด้วย ที่นี่โดดเด่นเรื่องบรรยากาศที่เป็นกันเองแต่การฝึกเข้มข้น เหมาะกับทั้งผู้เริ่มต้นและสายแข็งที่อยากผลักขีดจำกัดของตัวเอง

Open: จันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 06.30-21.00 น., เสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 08.30-15.00 น.
Address: PR Court Apartment, 19 ซอยต่อศักดิ์ 1 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา
Budget: 850 บาท ต่อคลาส
Website: https://www.crossfit.com/gym/34784/crossfit-naga
Facebook: https://www.facebook.com/profile.php?id=61565654665492
Instagram: https://www.instagram.com/crossfit_naga/?hl=en
ยิมฮิตของสายกินเหล็กที่ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายการออกกำลังกาย ที่นี่มีการฝึก HYROX สำหรับทั้งมือใหม่และสายฟิตที่อยากเน้นสร้างความอึดและความแข็งแรงไปพร้อมกัน ตัวคลาสยาว 60 นาที รองรับผู้เล่น 7-12 คน ทำให้ได้รับคำแนะนำจากโค้ชอย่างใกล้ชิดในทุกเซสชัน

Open: จันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 06.00-22.00 น., เสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 08.00-18.00 น.
Address: 1022 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย
Budget: 800 บาท ต่อคลาส, Unlimited Class 2,300 บาท ต่อสัปดาห์
Website: https://www.ironhivegymbkk.com/
Facebook: https://www.facebook.com/ironhivegym
Instagram: https://www.instagram.com/ironhivegym/
คลับพรีเมียมของ Jetts ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มาพร้อมอุปกรณ์ครบทั้งโซนคาร์ดิโอ เวตเทรนนิ่ง และ Functional Training สำหรับใครที่อยากฝึก HYROX ที่นี่มีคลาส HYROX ให้ร่วมซ้อมจริงจัง ทั้งการฝึกความทนทานและแรงระเบิดในรูปแบบคอนดิชันนิ่ง พร้อมลานหญ้าเทียมสำหรับฝึก Sled Push/Pull และสถานีจำลองอื่นๆ ของ HYROX ได้สมจริง

Open: เปิด 24 ชม.
Address: Jetts Black The ParQ, Jetts Black Park Silom
Budget: รูปแบบสมาชิกรายเดือน/ปี
Website: https://www.jetts.co.th/
Facebook: https://www.facebook.com/JettsThailand
Instagram: https://www.instagram.com/jettsfitnessthailand/
ยิม Open-Air ขนาดใหญ่ในย่านเลียบด่วนรามอินทรา ที่อุปกรณ์ครบครันมากกว่า 100 เครื่อง และยังมี Functional Zone ที่กว้างกว่า 300 ตร.ม. ตอบโจทย์ใครที่อยากฝึก HYROX ในบรรยากาศฮาร์คอร์สมจริง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Hyrox 365 Challenge ให้เหล่าสายฟิตได้ร่วมสนุกกันอีกด้วย

Open: จันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 07.00-23.00 น., เสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 08.00-22.00 น.
Address: 40, 1 ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน
Budget: (มี Free Trial), รูปแบบสมาชิกรายเดือน
Website: https://www.realgymth.com/
Facebook: https://www.facebook.com/Realgymbangkok/
Instagram: https://www.instagram.com/realgym_bangkok/
หนึ่งในยิมสาย Functional Training ชื่อดังในไทย ที่ขึ้นชื่อเรื่องคลาสเข้มข้นและโค้ชผู้เชี่ยวชาญด้านการเตรียมความฟิตระดับแข่งขัน โดยเฉพาะโปรแกรม HYROX ที่นี่มีทั้งคลาสกลุ่มและ Personal Training สำหรับเตรียมตัวลงแข่งจริง เรียกว่าใครอยากพัฒนาไว ยกระดับสมรรถภาพให้ถึงขีดสุด ต้องลอง

Open: จันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 07.00-20.30 น., เสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 09.00-16.00 น.
Address: 36/2 ซอยสุขุมวิท 69 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา
Budget: 5,450 บาท ต่อเดือน
Website: https://www.traininggroundbkk.com/
Facebook: https://www.facebook.com/tgbangkok/
Instagram: https://www.instagram.com/traininggroundsukhumvit69/
ภาพ: Courtesy of the Gyms, ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์
The post ชาว HYROX เตรียมฟิต! เปิดวาร์ป 14 ยิมในกรุงเทพฯ สำหรับซ้อมก่อนแข่งปีหน้า appeared first on THE STANDARD.
]]>
*บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของรายการแข่งขันบางส […]
The post ถอดรหัส 3 ทริกเกอร์ปลุกพลัง ‘โกงขีดจำกัด’ จาก Physical: Asia appeared first on THE STANDARD.
]]>
เพียงไม่กี่วันจากการสตรีมวันแรก Physical: Asia (คนแกร่งแข่งอึด: ศึกแห่งเอเชีย) แฟรนไชส์ของรายการเรียลลิตี้ฮิต Physical: 100 ก็พุ่งทะยานขึ้นอันดับ 1 Top 10 TV Shows ของ Netflix ประเทศไทยทันที
นั่นก็เพราะการกลับมาของสมรภูมิเดือดในครั้งนี้ คือการยกระดับด้วยการรวบตึง 48 ยอดมนุษย์จาก 8 ประเทศ เป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มองโกเลีย ตุรกี อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศไทย มาปะทะกันในภารกิจสุดหิน โดยมีเดิมพันเป็นเงินรางวัล 1 พันล้านวอน

สำหรับทีมไทยของเรานั้นประกอบไปด้วย ซุปเปอร์บอน นักมวยไทย ผู้รับหน้าที่เป็นกัปตันทีม, ซันนี่-เกิดเก้า เวชโชกิตติกร นักกีฬารักบี้, สอง-อนุชา ยศปัญญา นักมวยปล้ำ, พลอย-นวลนารี โอลเซ่น นักเพาะกาย, จ๋า-อุรชา ตีระวานิชสันติ์ นักกีฬาครอสฟิต และรัศมีแข อดีตนักวอลเลย์บอล ผู้สร้างสีสันให้กับรายการตั้งแต่อีพีแรกด้วยการใส่ส้นสูงเดินสับให้ชาติอื่นตะลึง

View this post on Instagram
ใน 4 ตอนแรก ผู้เข้าแข่งขันต้องประจัญบานใน 2 ภารกิจสุดโหดอย่าง Territorial Conquest (ศึกยึดครองพื้นที่) และ Shipwreck Transportation (ขนย้ายสัมภาระจากเรืออับปาง) ที่แค่ชมจากทางบ้านก็ยังหอบแทน

แต่ในนาทีที่เหล่าคนแกร่งกำลังหมดแรงจนร่างกายไปต่อแทบไม่ไหว เรากลับเห็นแรงระเบิดพลังฮึดสุดท้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่น่าเชื่อ…และนี่คือ 3 ทริกเกอร์สำคัญแห่งการ ‘โกงขีดจำกัด’ ที่เราเห็นได้ชัดเจนในรายการ
ในภารกิจขนย้ายสัมภาระจากเรืออับปาง คะแนนของแต่ละทีมถูกเปิดเผยระหว่างการทำภารกิจ ทันทีที่สมองรับรู้ว่า ‘เรากำลังจะแพ้’ มันจะตีความว่านี่คือ ‘ภัยคุกคาม’ และสับสวิตช์เข้าสู่โหมดเอาตัวรอดทันที

กลไกนี้คือ ภาวะตื่นตัวสู้ภัย (Acute Stress Response) หรือการตอบสนองต่อความเครียดเฉียบพลันที่บังคับ ให้สมองสั่งการร่างกายให้ทุ่มเททรัพยากรทุกหยดไปที่ภารกิจตรงหน้า
เป้าหมายจะเปลี่ยนจาก ‘เราต้องชนะ’ กลายเป็น ‘เราห้ามแพ้ตอนนี้!’ ซึ่งเป็นสภาวะ ไม่มีอะไรจะเสียที่ช่วยปลดล็อก Hyper-focus และพลังแฝงที่เราไม่เคยรู้ว่ามี

ไม่ว่าจะเป็นภารกิจแรกที่เหล่าคนแกร่งต้องคลุกทรายปะทะแย่งถิ่นฐาน หรือในจุดที่เพื่อนร่วมทีมกำลังจะสิ้นใจจากการขนย้ายลัง เสียงเชียร์จากทีมก็ดังขึ้นไม่เคยหยุด
เสียงเชียร์นี้เปรียบเสมือนเกราะกันชนทางอารมณ์ (Emotional Buffer) ที่ทรงพลัง มันช่วยบรรเทาความเครียดและความกังวลในสถานการณ์กดดัน ทำให้ผู้เล่นสามารถกลับมาโฟกัสกับเกมได้

ที่สำคัญกว่านั้น เมื่อสมองได้รับกำลังใจ มันจะตอบสนองด้วยการหลั่งโดปามีน (Dopamine) สารสื่อประสาทแห่งความสุขและรางวัล โดปามีนที่พุ่งสูงขึ้นนี้เองที่ช่วยปลุกแรงจูงใจและกระตุ้นสมองส่วนที่ใช้ในการตัดสินใจ ทำให้เราฮึดสู้ต่อได้แม้ร่างกายกำลังจะหมดแรง

โมเมนต์ไวรัลที่ใครต่างพูดถึงก็คือซีนที่รัศมีแขแบกลังหนัก 50 กก. ขึ้นหลังแล้ว เปล่งเสียงตะโกนคำรามดุจอสูรจนทีมเกาหลียังหวั่น นั่นไม่ใช่แค่การปลุกใจ แต่มันคือการ ‘พุช’ ร่างกายให้ไปต่อ

เสียงคำรามเต็มพลังนั้นคือการบังคับให้ร่างกายเข้าสู่โหมด ‘สู้หรือหนี’ (Fight-or-Flight) โดยกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติกให้ทำงานทันที ร่างกายจะหลั่งอะดรีนาลีนเข้าสู่กระแสเลือดทำให้กล้ามเนื้อหดตัวแรงขึ้น, สั่งให้ตับปล่อยน้ำตาลมาเป็นพลังงานด่วน และทำให้ลืมความเจ็บปวดล้าของร่างกายไปชั่วขณะ
ในขณะเดียวกัน การเปล่งเสียงดังๆ ยังบังคับให้แกนกลางลำตัวเกร็งอย่างรุนแรง สร้างแรงดันในช่องท้องที่ทำหน้าที่เหมือนเข็มขัดยกน้ำหนักตามธรรมชาติ ช่วย ล็อกกระดูกสันหลังให้มั่นคง ทำให้ส่งแรงมหาศาลได้อย่างปลอดภัย เรียกว่าเป็นการอัดฉีดอะดรีนาลีนให้ตัวเอง และยังสร้างเกราะให้ร่างกายไปพร้อมๆ กัน
View this post on Instagram
งานนี้ทีมไหนจะคว้าชัยชนะจากสมรภูมิสุดเดือดนี้ไปได้ ติดตามชมได้ทาง Netflix
อ้างอิง:
The post ถอดรหัส 3 ทริกเกอร์ปลุกพลัง ‘โกงขีดจำกัด’ จาก Physical: Asia appeared first on THE STANDARD.
]]>
เราอาจเคยได้ยินหรือเห็นรีวิวในโซเชียลว่า การโหนบาร์ช่วย […]
The post โหนบาร์แล้วสูงขึ้นจริงหรือแค่ความเชื่อ? appeared first on THE STANDARD.
]]>
เราอาจเคยได้ยินหรือเห็นรีวิวในโซเชียลว่า การโหนบาร์ช่วยให้สูงขึ้น คำตอบคือ ‘จริง’ แต่มันคือความสูงที่ได้มาแบบ ‘ชั่วคราว’ และไม่ได้เกิดจากการที่กระดูกของคุณยาวขึ้นเลย
แม้ในวัยเด็กที่ร่างกายกำลังเติบโตอาจดูเหมือนจะได้ผล แต่สำหรับผู้ใหญ่ กลไกของมันคือการ ‘ยืดแนวกระดูกสันหลัง’ เพื่อต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงที่ค่อยๆ กดทับให้หมอนรองกระดูกของเรายุบตัวลงในแต่ละวัน การโหนบาร์จึงช่วยคลายการกดทับนั้น ทำให้เรารู้สึกตัวสูงขึ้น ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือการเผยความสูงที่ซ่อนอยู่ในตัวเราออกมานั่นเอง
แม้ความสูงที่เพิ่มขึ้นจะเป็นผลชั่วคราว แต่การโหนบาร์ก็ยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพโดยตรง
ช่วยแก้ปัญหาหลังค่อม ไหล่ห่อ จากการนั่งทำงานได้โดยตรง ทำให้คุณกลับมายืนในท่าที่สง่างามยิ่งขึ้น
ช่วยคลายแรงกดทับที่กระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดหลัง ทำให้รู้สึกโล่งสบายหลังมากขึ้น
ช่วยเพิ่มแรงบีบมือ ซึ่งมีงานวิจัยชี้ว่าเป็นตัวชี้วัดสุขภาพโดยรวมและสัมพันธ์กับอายุขัยที่ยืนยาว (Longevity)
สรุปแล้วการโหนบาร์ในผู้ใหญ่ไม่ได้ทำให้กระดูกยาวขึ้น แต่ช่วยยืดกระดูกสันหลัง ปรับบุคลิกภาพ และยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมในระยะยาวอีกด้วย
อ้างอิง:
The post โหนบาร์แล้วสูงขึ้นจริงหรือแค่ความเชื่อ? appeared first on THE STANDARD.
]]>
สายพิลาทิสตัวจริงคงรู้ดีว่าการจะฝึกด้วยเครื่อง Cadillac […]
The post ห้อยโหนกับ ‘Anti Gravity’ กรุ๊ปคลาส Cadillac แรกในไทยที่ BellyBurn Pilates Lab appeared first on THE STANDARD.
]]>
สายพิลาทิสตัวจริงคงรู้ดีว่าการจะฝึกด้วยเครื่อง Cadillac ที่ห้อยโหน ตีลังกา ทำคอนเทนต์สวยๆ ได้นั้น ต้องเป็นการฝึกแบบไพรเวต 1:1 เท่านั้น แต่ที่ BellyBurn Pilates Lab ได้ฉีกกฎด้วยการทำกรุ๊ปคลาสที่ใช้ Cadillac ครั้งแรกในไทย เอาใจใครที่อยากชวนเพื่อนมาลีนร่างสร้างความฟิตไปด้วยกัน

BellyBurn Pilates Lab ที่เรามาเป็นสาขาใหม่บนชั้น 5 ของ centralwOrld ถือเป็นโคเลชันที่เอาใจคนเมืองของแท้

ตัวสตูดิโอถูกออกแบบในคอนเซ็ปต์ถ้ำภูเขาไฟ Pink Lava สวยเก๋ไม่ซ้ำใคร มีล็อกเกอร์ ห้องอาบน้ำในตัวพร้อม Amenities จากแบรนด์ THREE ให้บริการ

ในส่วนของห้องพิลาทิสจะแบ่งเป็น The Caformer Room สำหรับเครื่อง Caformer ที่เป็นการรวมร่างระหว่าง Reformer และ Cadillac และ The Flex Room สำหรับ Mat Pilates โดยแต่ละคลาสสามารถรองรับผู้เล่นได้สูงสุด 5 คน

แน่นอนว่าอีกไฮไลต์ที่ทำให้ BellyBurn โดดเด่นไม่ซ้ำใครคือเรื่องของบรรยากาศ แสงสีที่เห็นนั้นสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายสไตล์ ถูกใจสายคอนเทนต์แน่นอน

สำหรับคลาสที่เรามาลองในวันนี้มีชื่อว่า ‘Anti Gravity’ เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์เล่นพิลาทิสในระดับ Intermediate และ Advanced โดยจะเป็นการผสมผสานการเคลื่อนไหวในลักษณะห้อยโหน เพื่อท้าทายทุกสัดส่วนของร่างกายอย่างเต็มที่
แน่นอนว่ายังคงคอนเซ็ปต์การสร้างความแข็งแกร่งจากแกนกลางลำตัวส่วนลึก และพาวเวอร์เฮาส์ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ใต้ซี่โครงลงไปจนถึงสะโพก พร้อมปรับสรีระให้สมดุลและสง่างาม
ครูผู้สอนของเราในวันนี้คือ 2 ผู้ก่อตั้งสตูดิโอ โดยมีครูโอ๋เป็นหลัก และมีครูเปรียวคอยซัพพอร์ตตลอดคลาส เริ่มจากการวอร์มร่างกาย Activate หน้าท้อง และฝึกลมหายใจ

การเคลื่อนไหวที่ช้าแต่โฟกัสทำให้เราฟีลได้ถึงการทำงานของกล้ามเนื้ออย่างตรงจุด

เมื่อวอร์มร่างเสร็จก็เริ่มฝึกความแข็งแรงของแกนกลางลำตัวด้วยการนั่งตัวตรง เหยียดขาไปด้านหน้า จับ Roll-down Bar แล้วเอนตัวลงนอน ไล่เรียงกระดูกสันหลังตั้งแต่หลังล่าง หลังกลาง หลังบน ขณะที่ออกแรงต้านเพื่อรักษาสมดุลตลอดการเคลื่อนไหว

ตามด้วยการฝึก Upper Body ไม่ว่าจะเป็น Kneeling Arm Springs ด้วยการนั่งคุกเข่าจับ Roll-down Bar เช่นเดิม แล้วเอนลำตัวจากข้อเข่าไปด้านหลังเล็กน้อย งานนี้ใครที่ต้นขาตึงก็จะรู้สึกซี๊ดซ๊าดเป็นพิเศษ จากนั้นดึงบาร์เข้าหาตัว เพื่อฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังและแขน พร้อมสร้างสมดุลของแกนกลางลำตัวไปพร้อมๆ กัน

สลับมาใช้ Handles และเพิ่มชาเลนจ์ขึ้นอีกนิดด้วยการคุกเข่าเอนตัวไปด้านหน้าพร้อมชก Handles ลงและต้านกลับอย่างช้าๆ หากใครบาลานซ์ไม่ดีหรือสติหลุดก็อาจจะมีหน้าคะมำได้

มาถึงการฝึกกำลังขากันบ้าง ใครที่ท่อนล่างแข็งแรงครูฝึกก็จะให้เปลี่ยนน้ำหนักของสปริงเพื่อความท้าทายยิ่งขึ้น
เริ่มจากนอนหงาย สวม Straps ที่เท้า ยึดจับเสาให้แน่น แล้วออกแรงกดขาลงต้านกับแรงสปริง

จังหวะที่ไฟเปลี่ยนเป็นสีแดงก็ให้ฟีลดูเหมือนเราได้ไปเล่นพิลาทิสในห้องของ Mr.Gray อย่างไรอย่างนั้น

เพิ่มชาเลนจ์ต่อด้วยท่า Overhead โดยการออกแรงยกขาพับข้ามศีรษะ ซึ่งบังคับให้เราต้องออกแรงเกร็งแกนกลางลำตัวโดยอัตโนมัติ คนที่ใช้สปริงแบบยาวก็จะต้องออกแรงที่หน้าท้องมากเป็นพิเศษ ส่วนใครที่ใช้สปริงสั้นก็จะมีน้ำหนักของตัวสปริงเป็นตัวช่วยพยุงให้พับตัวไปง่ายขึ้น

สลับมากระตุ้นกล้ามเนื้อก้นกับท่า Glute Bridge แต่เป็นการวางเท้าบน Push-through Bar โดยให้บาร์นิ่งที่สุด จากนั้นเพิ่มความร้าวด้วยการถีบขาออกไปแล้วดึงขากลับมาในตำแหน่งเดิม

ทรมานช่วงล่างแล้วสลับมาทรมานแกนกลางต่อด้วยการ Plank แบบวางเท้าบน Push-through Bar เหมือนเดิม เรียกว่าเป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อครบทุกส่วนของร่างกายจริงๆ

ถ้าไม่มีท่าห้อยโหนก็คงไม่ใช่คลาส Cadillac ต้องบอกว่าการฝึกห้อยตัวนั้นทำให้เรารู้จักร่างกายตัวเองได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นแรง Grip, ความแข็งแรงของแขน แกนกลาง รวมไปถึง ‘สติและสมาธิ’ ซึ่งใครที่กลัวก็ไม่ต้องกังวล เพราะครูฝึกจะคอยประกบและจัดแจงท่าให้ถูกต้องอย่างใกล้ชิด

สำหรับท่าที่มีการห้อยหัว หลังทำเสร็จหากมีอาการวิงเวียนศีรษะก็ไม่ต้องตกใจ เพราะร่างกายกำลังปรับความดันโลหิตที่ไปเลี้ยงสมองอย่างรวดเร็ว นั่งพักสักครู่ก็หาย

หากคิดว่าเล่น Cadillac แล้วไม่เบิร์น บอกเลยว่าคิดผิด แม้จะเคลื่อนไหวไม่เร็ว แต่โดนทุกส่วนของร่างกาย มีเกร็งจนหน้าสั่นแน่นอน และถึงแม้จะเป็นคลาสกลุ่มย่อย เรายังคงได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงจากครูผู้สอนที่มีเทคนิคละเอียด จะท่าไหนก็ได้ฟีล
คลาส Anti Gravity เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานพิลาทิสอยู่แล้ว และอยากลองเล่น Cadillac ในราคาที่น่ารักขึ้น แต่ความพิเศษยิ่งกว่าคือประสบการณ์ใหม่ๆ เพราะการได้ฝึกไปพร้อมกับเพื่อนจะให้ความรู้สึกสนุกไปอีกแบบ อีกทั้งบรรยากาศของแสงสีที่เปลี่ยนไปตามจังหวะเพลงที่คัดสรรมาอย่างมีสไตล์ รับรองว่าไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน

𝗕𝗲𝗹𝗹𝘆𝗕𝘂𝗿𝗻 𝗣𝗶𝗹𝗮𝘁𝗲𝘀 𝗟𝗮𝗯 
Open: ทุกวัน 8.00-20.00 น.
Address: ชั้น 5, โซน Urban Balance
Budget:
Social Media:
The post ห้อยโหนกับ ‘Anti Gravity’ กรุ๊ปคลาส Cadillac แรกในไทยที่ BellyBurn Pilates Lab appeared first on THE STANDARD.
]]>
ถ้าพูดถึงรองเท้าวิ่งตระกูล BLAST ของ ASICS หลายคนน่าจะค […]
The post รีวิว ASICS MEGABLAST คู่เดียวจบ ทั้งวันซ้อมและวันวิ่งจริง appeared first on THE STANDARD.
]]>
ถ้าพูดถึงรองเท้าวิ่งตระกูล BLAST ของ ASICS หลายคนน่าจะคุ้นชื่อ NOVABLAST หรือ SUPERBLAST กันดีอยู่แล้ว ในฐานะรุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความเด้ง ใส่สบาย และใส่ง่าย จนแทบไม่อยากถอด แต่ปีนี้ ASICS จัดหนักกว่าเดิมด้วยปล่อยมาสองรุ่นพร้อมๆ กัน เริ่มด้วย ASICS MEGABLAST
ที่เปิดตัวในคอลเลกชัน Tokyo Collection ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสนามกีฬาแห่งชาติ (National Stadium) ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน World Athletics Championships Tokyo 2025 พร้อมพี่น้องร่วมสายอย่าง SONICBLAST
ที่ออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ MEGABLAST
รุ่นนี้จะแตกต่างด้วยฟีลลิ่งที่ “นุ่ม เด้ง และเต็มแรงส่ง” โดยไม่ต้องพึ่งแผ่น ASTROPLATE
เหมือน SONICBLAST

เพราะหัวใจของ MEGABLAST
คือโฟม FF TURBO
SQUARED Foam ซึ่งเป็นโฟมตัวท็อปที่พัฒนาให้เด้งกว่าเดิมจากรุ่นก่อน ให้ฟีลที่เด้งมากและการซัปพอร์ตที่ชัดเจนตั้งแต่ก้าวแรก พอวิ่งแล้วรู้สึกเท้าดีดกลับในทุกจังหวะการลงเท้า โดยเฉพาะตอนเร่งเพซ ตัวรองเท้ามี stack สูงราว 45 มม. ที่ส้น และ 37 มม. ที่หน้าเท้า ส่วนดร็อปอยู่ที่ 8 มม. จึงให้ความมั่นคงแต่ยังรู้สึกคล่อง น้ำหนักเพียง 224 กรัม (ขนาด US 9) ซึ่งถือว่าเบามากสำหรับรองเท้าที่มีคูชชันหนาขนาดนี้ เราใส่วิ่งยาว ๆ แล้วไม่รู้สึกแบกน้ำหนักเพิ่มเลย

ต้องบอกว่า MEGABLAST
ทำได้ดีตั้งแต่การวิ่งแบบ Recovery วิ่งไม่เร็วมากไปจนถึงวิ่งสับๆ แบบเทมโป้ มีการตอบสนองที่ไว ยิ่งเร่งยิ่งรู้สึกว่ารองเท้าช่วยส่งแรงกลับในทุกก้าว เราชอบฐานรองเท้าที่กว้างและมั่นคง ทำให้จังหวะลงเท้าไม่โคลง แม้ stack จะสูงมากก็ตาม ส่วนความเด้งของรุ่นนี้เราว่าสูงกว่า SUPERBLAST แบบรู้สึกได้ แต่ก็แลกมาด้วยเสถียรภาพที่ลดลงเล็กน้อย วัสดุ Engineered woven mesh ที่ใช้ทำ Upper เบา โปร่ง และระบายอากาศได้ดี โปร่งจนแทบเห็นถุงเท้าเลยทีเดียว เหมาะกับอากาศเมืองไทย เราลองใส่วิ่ง 15–20 กิโลเมตรยังไม่รู้สึกอับเท่าไรนัก
สำหรับเราแล้วในฐานะที่ใส่ SUPERBLAST 2 มาก่อน เมื่อมาลองรุ่นนี้ยิ่งรู้สึกว่าเข้าขาดีมาก ไม่ต้องปรับสไตล์การวิ่งเท่าไรนัก ให้ฟีลลิ่งที่คล้ายคลึงกัน ได้ทั้งวิ่งอีซี่และอยากจะหวด ถือเป็นรองเท้าอเนกประสงค์ที่พกพาไปได้ทุกสถานการณ์ เพราะมันทั้งเด้ง นุ่ม และมั่นคงในคู่เดียว เหมาะกับคนที่อยากได้รองเท้าสำหรับซ้อมทุกวัน วิ่งยาว หรือวิ่งเทมโป้แบบไม่ต้องเปลี่ยนคู่
สนนราคาประมาณ 8,200 บาท อาจดูแรง แต่เมื่อเทียบกับความรู้สึกสบาย ความทน และแรงส่งที่ได้ เราว่ามันคือความคุ้มค่าที่เราสามารถหยิบใส่ได้ทุกสถานการณ์ จะบอกว่าสำหรับใครที่รักฟีลเด้งๆ แบบ BLAST รุ่นนี้อาจกลายเป็นรองเท้าที่คุณไม่อยากถอดเลยก็ได้
ภาพ: นราสิทธิ์ เกษาประสิทธิ์
The post รีวิว ASICS MEGABLAST คู่เดียวจบ ทั้งวันซ้อมและวันวิ่งจริง appeared first on THE STANDARD.
]]>
นับเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการสายฟิตไม่น้อย เมื่อ Absolute […]
The post มาแน่! Absolute x AARMY เตรียมเปิด Bootcamp สุดโหดในไทย appeared first on THE STANDARD.
]]>
นับเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการสายฟิตไม่น้อย เมื่อ Absolute Boutique Fitness ประกาศจับมือ AARMY ฟิตเนสสายโหดจากนิวยอร์กโดยโค้ชชื่อดังอย่าง Akin Akman เตรียมนำ AARMY Bootcamp มาให้ชาวเอเชียได้สัมผัสเป็นครั้งแรก โดยจะเปิดตัวที่สิงคโปร์ก่อน แล้วตามมาติดๆ ที่บ้านเรา ซึ่งงานนี้นับเป็นการขยายแฟรนไชส์อย่างเป็นทางการครั้งแรกของ AARMY เลยทีเดียว

จุดเด่นที่ทำให้ AARMY แตกต่างคือ การนำเสนอโปรแกรมฝึกซ้อมที่เข้มข้นเหมือนการฝึกทีมนักกีฬามืออาชีพที่พร้อมฉีกทุกขีดจำกัดทั้งร่างกาย โดยทีมโค้ชของ AARMY ได้รับการคัดเลือกโดยตรงจากเหล่านักกีฬาอาชีพหรือผู้ที่ผ่านระบบการเทรนนิ่งสุดเข้มข้นของ AARMY โดยเฉพาะ

เรียกว่าใครที่อยากสัมผัสโปรแกรมเทรนนิ่งที่เข้มข้นถึงใจก็ไม่ต้องเดินทางไกลอีกต่อไป รอติดตามการประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการจาก Absolute ได้เลย
The post มาแน่! Absolute x AARMY เตรียมเปิด Bootcamp สุดโหดในไทย appeared first on THE STANDARD.
]]>
ใครที่กำลังซุ่มซ้อมเตรียมตัวไปแข่ง HYROX ในปีหน้า นี่คื […]
The post ไปซ้อมก่อนแข่งจริงกัน! เซ็นทรัลเวิลด์จัดแข่งขัน HYROX ให้ทดสอบความอึด จัดวันที่ 8 พ.ย.นี้ appeared first on THE STANDARD.
]]>
ใครที่กำลังซุ่มซ้อมเตรียมตัวไปแข่ง HYROX ในปีหน้า นี่คือโอกาสที่ทุกคนจะได้ลองทดสอบดูว่าร่างกายเราพร้อมมากแค่ไหน เนื่องจากสนามนี้เป็นการแข่งที่เน้นให้ทุกคนได้ลองทำทั้ง 10 สถานี ภายในเวลาที่กำหนด ไม่ได้แข่งกันที่ความเร็ว
‘FITNESS FIRST X HYROX365 Challenge’ จะจัดขึ้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 เปิดรับสมัครทั้งแบบเดี่ยว แบบคู่ และแบบกลุ่ม การแข่งขันจะเกิดขึ้นบนพื้นที่ centralwOrld Live พร้อมมีฐานครบ 10 สเตชันเหมือนการแข่งขัน HYROX ของจริง เช่นเดียวกับกติกาและอุปกรณ์แบบเดียวกันให้ทุกคนมาทดสอบความอึดได้เลยเต็มที่ โดยงานนี้เปิดรับผู้แข่งขันอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปเท่านั้น
รูปแบบการแข่งจะเน้นการทำให้ครบและสำเร็จทั้ง 10 สเตชัน จำกัดสเตชันละ 5 นาที หากทำไม่สำเร็จในสถานีนั้นๆ ผู้แข่งขันต้องเคลื่อนตัวต่อไปยังสถานีถัดไปเมื่อหมดเวลา
ส่วนความท้าทายที่ทุกคนจะได้พบทั้ง 10 สเตชัน ได้แก่
1) Running: การวิ่งระยะทาง ชาย 900 เมตร, หญิง 800 เมตร
2) Farmers Carry: การเดินถือเคตเทิลเบลล์ (Kettlebell)
3) Ski Erg: เครื่องออกกำลังกายจำลองการเล่นสกี
4) Barbell Bench Press: การดันบาร์เบล ตามจำนวนครั้งและน้ำหนักที่กำหนด
5) Rowing Erg: การออกกำลังกายด้วยเครื่องเสมือนการพายเรือ
6) Barbell Bent Over Row: การดึงบาร์เบล ตามจำนวนครั้งและน้ำหนักที่กำหนด
7) TIRE FLIP: การยกยาง
8) Core Bag Walking Lunges: การเดินย่อขาพร้อมแบกกระสอบทราย
9) Burpee Broad Jump: การระเบิดพลังด้วยการกระโดดไปข้างหน้าด้วยท่า Burpee
10) Wall Ball Squat: การย่อในท่าสควอตและโยนลูกบอลใส่แป้นตามความสูงที่กำหนด
สำหรับบัตรเข้าร่วม มี 3 ราคาดังนี้
ในการแข่งขันนี้จะมี Certified HYROX Coach เป็นกรรมการประจำทุกฐาน พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล สำหรับคนที่เข้าร่วมและพิชิตได้ครบทั้ง 10 สเตชัน จะได้รับ Finisher Patch ลิมิเต็ดเอดิชั่นจาก FITNESS FIRST นอกจากนี้ บัตรทุกใบจะรับสิทธิ์ 1-Day Club Class Pass ทดลองเล่นที่ฟิตเนส เฟิรส์ทได้ทุกคลับด้วย
ใครคิดว่าตัวเองพร้อมรีบซื้อบัตรให้ไว เพราะบอกเลยว่าบางรอบเริ่ม Sold out แล้ว! โดยสามารถซื้อบัตรได้ที่ www.eventpop.me/e/107985-fitnessfirst-hyrox365-challenge
สอบถามหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม Fitness First Thailand
ภาพ: Fitness First Thailand
The post ไปซ้อมก่อนแข่งจริงกัน! เซ็นทรัลเวิลด์จัดแข่งขัน HYROX ให้ทดสอบความอึด จัดวันที่ 8 พ.ย.นี้ appeared first on THE STANDARD.
]]>
โลกที่หมุนเร็วกว่าเดิม เสียงเครื่องยนต์ที่คำรามกระหึ่ม […]
The post ปลดปล่อยอะดรีนาลีนที่ TOPKART Bangkok! สนามโกคาร์ทใหม่ ออกแบบโดยแชมป์โลก appeared first on THE STANDARD.
]]>
โลกที่หมุนเร็วกว่าเดิม เสียงเครื่องยนต์ที่คำรามกระหึ่ม ใจที่เต้นรัว อะดรีนาลีนที่พุ่งพล่านในทุกโค้ง…ถ้าสิ่งที่กล่าวมาคือประสบการณ์ที่คุณมองหา เราอยากชวนไปปลุกสัญชาตญาณนักแข่งที่ TOPKART Bangkok สนามโกคาร์ทใหม่ใจกลางกรุงฯ ที่ออกแบบโดยแชมป์โลก

TOPKART ปักหลักติดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่ซึ่งใครผ่านเป็นต้องสะดุดตา แวะเสพความเร็วริมรั้วกันเป็นแถว

สนามแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย David Terrien แชมป์โลกโกคาร์ท เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมจริงในทุกตารางเมตร ตัวสนามมีความยาว 410 เมตร อัดแน่นไปด้วย 16 โค้งและ 3 เซ็กเตอร์ที่แตกต่างเพื่อรองรับฝีมือนักขับทุกระดับ ตั้งแต่ทางตรงความเร็วสูงไปจนถึงโค้งชวนระทึก


ยิ่งไปกว่านั้น สนามยังถูกสร้างขึ้นตามมาตรฐานความปลอดภัยของ FIA และได้การยอมรับให้เป็นสนามแข่ง Sodi World Series (SWS) อย่างเป็นทางการด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งระบบจับเวลาสด และระบบไฟ LED ที่ยกระดับมู้ดในช่วง Night Race ได้อย่างน่าตื่นเต้น

เมื่อสนามได้มาตรฐานระดับโลกแล้ว รถที่ใช้ก็ต้องดีที่สุดเช่นกัน ที่นี่ใช้ SODIKART RT10 สุดยอดรถโกคาร์ทสมรรถนะสูงที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 270 ซีซี ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 75 กม./ชม. มาพร้อมเทคโนโลยีที่ให้การยึดเกาะถนนและความแม่นยำสูงสุดในทุกโค้ง

ในส่วนของพวงมาลัยก็ยังมีหน้าจอแสดงเวลาต่อรอบแบบเรียลไทม์อีกด้วย ส่วนใครที่กลัวการขับคนเดียว ที่นี่ก็ยังมีแบบ Dual Kart รองรับเช่นกัน

เมื่อมาถึง เราจะเจอกับห้องรับรองแอร์เย็นสบายพร้อมวิวสนามที่เหล่านักซิ่งกำลังประลองความเร็วกันอย่างดุเดือด สิ่งแรกที่เราประทับใจมากคือ ‘ระบบ’ ที่ครบครัน ซึ่งทำให้ขั้นตอนการลงทะเบียนและจองเป็นไปอย่างราบรื่น

ผู้เล่นใหม่สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน TOPKART ล่วงหน้า หรือจะมาลงทะเบียนผ่านแท็บเลตหน้างานก็ได้ จากนั้นนำ QR Code ที่ได้ไปจองเวลาเล่นกับทางทีมงาน
ระหว่างรอคิว คุณสามารถขึ้นไปยัง Rooftop Sky Paddock Club เพื่อชมวิวแบบมุมสูง ซึ่งให้บรรยากาศที่ชิลไปอีกแบบ

เมื่อถึงเวลา เลขคิวของคุณจะแสดงขึ้นบนหน้าจอพร้อมเสียงประกาศเรียกจากทีมงานให้เข้าสู่ห้องเตรียมตัวเพื่อชม Safety Rules ทั้งหมดก่อนเข้าสู่สนามจริง

ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกหมวกนิรภัยให้พอดีกับศีรษะ หมดกังวลเรื่องความอนามัยไปได้ เพราะทางสนามมีโม่งคลุมศีรษะแจกให้ทุกคน


อุปกรณ์พร้อม คนพร้อม ก็ถึงเวลาหย่อนตัวลงรถแข่ง เราสามารถปรับระยะคันเร่งและเบรกให้พอดีกับตัวก่อนได้

เมื่อเสียงสัญญาณดังก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก เหยียบให้มิด!

“นี่แหละ มันต้องแบบนี้!” ความเร็วแรงของเครื่องตั้งแต่ที่ออกตัวทำให้เราเหมือนหลุดไปอีกโลก ทุกจังหวะที่เข้าโค้งให้ความรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้อง แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกได้ปลดปล่อยทุกอย่าง สะใจไปกับพลังที่ควบคุมได้ด้วยมือของเราเอง

สิ่งที่ต้องระวังคือการขับชนกัน หากมีการชน ระบบจอในสนามจะส่งสัญญาณเป็นธงเหลือง และรถทุกคันจะถูกชะลอความเร็วลง

เมื่อครบ 8 นาที รถจะถูกชะลอความเร็วลงอีกครั้ง เป็นสัญญาณของการสิ้นสุดการแข่งขัน
หลังจากขับเข้าพิตและจอดรถสนิทแล้ว ทีมงานจะให้เรานั่งนิ่งๆ อยู่บนรถสักครู่ก่อนลงเพื่อปรับสภาวะร่างกาย ป้องกันอาการมึนหรือหน้ามืดที่อาจเกิดขึ้นได้จากแรงเหวี่ยงหรือที่เรียกว่าแรง G (G-Force) ที่เกิดจากการเร่ง เบรก หรือเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงนั่นเอง
“มันมาก!” คือคำแรกที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน ใครจะไปคิดว่าช่วงเวลาไม่กี่นาทีในสนาม จะทำเอาร่างเปลี้ยและเหงื่อซึมกันถ้วนหน้า
และช่วงเวลาที่หลายคนรอคอยก็มาถึง คือการไปยืนลุ้นผลเวลาต่อรอบของตัวเองและเพื่อนๆ ที่หน้าจอ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกบันทึกและส่งตรงไปยังอีเมลที่เราลงทะเบียนไว้อีกด้วย

ไม่ว่าคุณจะเป็นมือเก่าหรือมือใหม่ ขอแค่มีใจรักความเร็วและอยากท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง TOPKART คือคำตอบ
และเราเชื่อว่าแค่ครั้งเดียวไม่พอ คุณจะต้องอยากกลับไปซ้ำเพื่อทำลายสถิติของตัวเองอีกแน่นอน!

Open: ทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-22.00 น., เสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-22.00 น.
Address: 1087/170 ถ.เพชรบุรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี (มีที่จอดรถ)
Budget:
Website: https://www.topkartbangkok.com/
Facebook: https://www.facebook.com/topkartbangkok/
Instagram: https://www.instagram.com/topkartbangkok
Tel: 09 8274 9777
Map: https://maps.app.goo.gl/X66gLn91rcC9o8d18
The post ปลดปล่อยอะดรีนาลีนที่ TOPKART Bangkok! สนามโกคาร์ทใหม่ ออกแบบโดยแชมป์โลก appeared first on THE STANDARD.
]]>
Ace of Clubs จุดเช็กอินใหม่ของคนรักเทนนิสใจกลางพระราม 4 […]
The post Ace of Clubs จุดเช็กอินใหม่ของคนรักเทนนิสใจกลางพระราม 4! appeared first on THE STANDARD.
]]>
Ace of Clubs จุดเช็กอินใหม่ของคนรักเทนนิสใจกลางพระราม 4!
หากคุณเป็นนักเทนนิสที่กำลังมองหาสนามสวยๆ เตรียมแร็กเก็ตของคุณให้พร้อม เพราะตอนนี้ Ace of Clubs พร้อมเปิดประสบการณ์เทนนิสแบบครบวงจรแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ วันที่ 19 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผสมผสานกีฬา ไลฟ์สไตล์ และคอมมูนิตี้เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ภายในมีสนามเทนนิสในร่มมาตรฐาน ITF-certified ปูพื้นด้วยอะคริลิกระดับโลก พร้อมคลับเฮาส์ เลานจ์ คาเฟ่ และร้านอุปกรณ์เทนนิสครบครัน บรรยากาศโปร่งโล่งรับลมจากแม่น้ำและเพดานสูงกว่ามาตรฐานให้ความรู้สึกเหมือนโอเอซิสใจกลางเมือง อีกทั้งยังร่วมมือกับ Smash It Tennis Academy เปิดคลาสสอนตั้งแต่มือใหม่จนถึงนักกีฬาอาชีพ Ace of Clubs ตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 เปิดทุกวันตั้งแต่ 06.00–00.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://aceofclubsbkk.com/
ไม่ว่าคุณจะมาเพื่อตีเทนนิส ผ่อนคลาย หรือพบปะเพื่อนใหม่ Ace of Clubs คือจุดหมายที่รวมทุกจังหวะของชีวิตไว้ในคอร์ตเดียว
The post Ace of Clubs จุดเช็กอินใหม่ของคนรักเทนนิสใจกลางพระราม 4! appeared first on THE STANDARD.
]]>
ถ้าในวงการความงามมีวลีฮิตว่า ‘ปากไม่แดง ไม่มีแรงเดิน’ ใ […]
The post ‘ชุดสวยแล้วแรงมา’ เรื่องจริงหรือแค่ข้ออ้างของขาช้อป? appeared first on THE STANDARD.
]]>
ถ้าในวงการความงามมีวลีฮิตว่า ‘ปากไม่แดง ไม่มีแรงเดิน’ ในโลกของคนรักสุขภาพก็คงมีเหมือนกันว่า ‘ชุดไม่ปัง ไม่มีแรงเบิร์น!’
คำถามคือ มันเป็นเรื่องจริงหรือเป็นแค่ข้ออ้างของขาช้อปกันแน่?
ความรู้สึกนี้มีคำอธิบายทางจิตวิทยาที่เรียกว่า ‘Enclothed Cognition’ ซึ่งหมายถึงการที่เสื้อผ้าที่เราสวมใส่สามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจ กระบวนการคิด และพฤติกรรมของเราได้จริงๆ

การลุกขึ้นมาเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกายตัวสวย เป็นการสร้างเงื่อนไขให้สมองเรียนรู้ว่า ‘ใส่ชุดนี้ = ถึงเวลาเบิร์น’ โดยไม่ต้องคิดซับซ้อน
แอ็กชันง่ายๆ นี้เป็นสัญญาณชัดเจนให้สมองหยุดต่อรองกับความขี้เกียจ และเข้าสู่โหมดพร้อมที่จะดูแลตัวเองอย่างเต็มที่

การได้สวมใส่ชุดออกกำลังกายที่สวยถูกใจ ไม่ใช่แค่เรื่องของแฟชั่น แต่มันคือการ ‘แฮ็ก’ ความรู้สึกตัวเองโดยตรง เมื่อเราดูดี เราจะรู้สึกดี และเมื่อเรารู้สึกดี เราจะทำได้ดีขึ้น
ชุดที่สวยช่วยสร้างความรู้สึกเชิงบวกและความภาคภูมิใจในร่างกาย ทำให้เกิดเป็นพลังและเชื้อเพลิงชั้นดีที่กระตุ้นให้เราอยากลุกขึ้นมาขยับร่างกายให้สมกับภาพลักษณ์ที่ดูดีในกระจก

นอกจากดีไซน์ที่สวย ความมั่นใจที่แท้จริงยังมาจากความรู้สึกสบายตัวเมื่อได้เคลื่อนไหว ดีไซน์ที่เข้าใจสรีระจะช่วยเก็บส่วนเกินและเสริมส่วนโค้งเว้าอย่างเป็นธรรมชาติ
เนื้อผ้าที่กระชับและยืดหยุ่น โอบรับสรีระอย่างพอดีจะทำให้เราไม่ต้องเสียสมาธิไปกับการคอยจัดชุด เหลือเพียงอิสระในการเคลื่อนไหวและสมาธิที่โฟกัสกับเป้าหมายได้เต็มร้อย

ท้ายที่สุดแล้ว เรื่องเล็กๆ อย่างการเลือกชุดออกกำลังกายอาจมีพลังมากกว่าที่เราคิด
มันไม่ใช่แค่การซื้อเสื้อผ้า แต่คือการลงทุนในความมั่นใจ คือการเติมเชื้อเพลิงให้พลังบวก และคือการเลือก ‘เพื่อนคู่ใจ’ ที่จะซัพพอร์ตเราในทุกการเคลื่อนไหว
เมื่อเรารู้สึกดีกับตัวเองตั้งแต่ก้าวแรก แรงใจที่จะยืนหยัดทำตามเป้าหมายให้สำเร็จก็จะตามมาเอง เพราะการดูแลตัวเองที่ดีที่สุด เริ่มต้นจากการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองเสมอ

ภาพ: Ori
อ้างอิง:
The post ‘ชุดสวยแล้วแรงมา’ เรื่องจริงหรือแค่ข้ออ้างของขาช้อป? appeared first on THE STANDARD.
]]>