LIFE – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 23 Jan 2025 11:47:19 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ทำไม Samsung S25 Series ถึงไม่ใช่แค่มือถือ แต่เป็นผู้ช่วยทำให้ชีวิตสบาย? https://thestandard.co/life/samsung-galaxy-s25-series Thu, 23 Jan 2025 11:08:13 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1033632 Samsung Galaxy S25 Series

นี่ไม่ใช่แค่มือถือ แต่คือผู้ช่วยอีกหนึ่งคน   ล่าสุ […]

The post ทำไม Samsung S25 Series ถึงไม่ใช่แค่มือถือ แต่เป็นผู้ช่วยทำให้ชีวิตสบาย? appeared first on THE STANDARD.

]]>
Samsung Galaxy S25 Series

นี่ไม่ใช่แค่มือถือ แต่คือผู้ช่วยอีกหนึ่งคน

 

ล่าสุด Samsung เปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ล่าสุดอย่าง Samsung Galaxy S25 Series เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งรอบนี้แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยคือ S25, S25+ และ S25 Ultra ดีไซน์โดยรวมคล้ายรุ่นก่อน แต่ปรับขอบให้เป็นแบบเหลี่ยม สเปกโดยรวมได้รับการอัปเกรดขึ้น เช่น ชิป, กล้อง Ultra-Wide แต่จุดขายหลักของรุ่นนี้คือการนำ Galaxy AI เข้ามาช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ให้ผู้ใช้งานมีชีวิตที่สะดวกสบายขึ้น สบายในระดับที่ใช้การสั่งการผ่านเสียงภาษาไทยได้เลย อันที่จริงยังมีอีกหลายเหตุผลที่ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ฉลาดจนสามารถเข้ามาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวให้เราได้ วันนี้เราจึงอยากจะมาสรุปทุกเหตุผลว่า ทำไม Samsung S25 Series ถึงไม่ใช่แค่มือถือ แต่เป็นผู้ช่วยทำให้ชีวิตสบาย?

 

 

เป็นผู้ช่วยที่คุยได้ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว แถมเก็บความลับเก่ง

 

ความพิเศษของ Samsung Galaxy S25 Series คือการมี Galaxy AI เข้ามาเป็นผู้ช่วยจัดการสิ่งต่างๆ ซึ่งเราสามารถสั่งงานผ่านการพูดได้ แถมยังมี AI อื่นๆ คอยช่วยงานเพิ่มอีก โดยเราสามารถให้ AI จัดการเรื่องอื่นๆ ได้มากมาย ทั้งให้จองร้านอาหาร โทรหาคน หรือแม้แต่ปรึกษาปัญหาหัวใจ ซึ่งเขาจะตอบกลับมาอย่างมีเหตุผล แถมเก็บข้อมูลทุกเรื่องไม่ให้รั่วไหลแน่นอน

 

 

เป็นผู้ช่วยให้คุณกลายเป็นบล็อกเกอร์หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ด้วยระบบจัดการเสียงในวิดีโอ

 

สำหรับคนชอบถ่าย Vlog หรือคนทำคอนเทนต์วิดีโอ แล้วอยากจัดการเสียง เช่น อยากตัดเสียงคนในวิดีโอนี้ออกจัง หรืออยากตัดเสียงดนตรีในคลิปนี้ออก สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีฟีเจอร์แยกเสียงในวิดีโอได้หลากหลาย แถมเลือกตัดเสียงหรือเพิ่มเสียงแต่ละส่วนได้ ช่วยให้เราได้วิดีโอคุณภาพมากขึ้น

 

 

ผู้ช่วยให้หน้าตอนเซลฟีรอดทุกคน

 

หมดยุคกล้องใครคนนั้นรอด แล้วเพราะตอนนี้เขามีฟีเจอร์ปรับหน้าให้ดีขึ้น คือ การเลือกหน้าที่ดีที่สุดของเราตอนเซลฟี แม้เราจะถ่ายมาแค่รูปเดียว แต่สมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะช่วยเลือกหน้าที่ดีที่สุดจากการถ่ายแบบ Motion Photo เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัว เซลฟีอย่างไรหน้าก็เป๊ะแน่นอน

 

ใครที่สนใจและอยากได้ผู้ช่วยใหม่มาทำให้ชีวิตสะดวกขึ้นสามารถสั่งจองแบบพรีออร์เดอร์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 6 กุมภาพันธ์ 2568

 

 

ภาพ: Samsung

The post ทำไม Samsung S25 Series ถึงไม่ใช่แค่มือถือ แต่เป็นผู้ช่วยทำให้ชีวิตสบาย? appeared first on THE STANDARD.

]]>
CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (23-29 มกราคม 2568) https://thestandard.co/life/events-week-jan23-29-2025 Thu, 23 Jan 2025 08:00:54 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1033412 events-week-jan23-29-2025

เวลาผ่านไปไวกว่าที่คิด เพราะไม่ทันไรก็ถึงเวลาโบกมืออำลา […]

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (23-29 มกราคม 2568) appeared first on THE STANDARD.

]]>
events-week-jan23-29-2025

เวลาผ่านไปไวกว่าที่คิด เพราะไม่ทันไรก็ถึงเวลาโบกมืออำลาเดือนมกราคมแล้ว เพราะฉะนั้นมาใช้ชีวิตอำลาเดือนแรกของปีให้คุ้มค่ากันดีกว่า กับอีเวนต์ประจำสัปดาห์ที่อาจพอทำให้ทุกคนได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง 

สัปดาห์นี้ทุกคนจะได้ทำอะไรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการชิมอาหารจากเมืองย่างกุ้ง ผจญภัยในโลกเสมือนจริง หรือจะไปเดินช้อปของวินเทจเพลินๆ ที่โกดังริมแม่น้ำ เอาเป็นว่าถ้าใครไม่อยากพลาดกิจกรรมส่งท้ายเดือนสนุกๆ แบบนี้ รีบลุกขึ้นมาเตรียมตัวและชวนเพื่อนไปสนุกด้วยกันเลย

 

calendar jan 23-29

 

MADE BY LEGACY / 24-26 JAN / WHARF 38

 

Made By Legacy Flea Market 17

 

คนรักของวินเทจห้ามพลาด เพราะปีนี้ Made By Legacy ย้ายไปจัดที่โกดัง Wharf 38 รอบนี้ใหญ่กว่าเดิม ของเยอะกว่าเดิม ขนมาครบทั้งสินค้าแบรนด์เนม สินค้าญี่ปุ่น งานคราฟต์ แผ่นเสียง หนังสือ ของแต่งบ้าน งานศิลปะ และอีกมากมาย แถมยังมาพร้อมร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการแสดงดนตรีสดอีกด้วย

 

บัตรเข้างานราคา 150 บาท (ซื้อหน้าประตู) เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีเข้าฟรี

 

When: 24-26 มกราคม 2568

Where: โกดัง Wharf 38 พระราม 3

More Info: Made By Legacy : New Old Community

 

RANGOON REMIXED BACKYARD BOOGIE / 25 JAN / CHIM CHIM BANGKOK

 

Rangoon Remixed Backyard Boogie

 

อีเวนต์ Backyard Boogie ของ Chim Chim Bangkok รอบนี้จะพาทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์ชิมอาหารเมืองย่างกุ้ง โดยการชวนร้านอาหาร Rangoon Tea House มาเสิร์ฟเมนูสตรีทฟู้ดจากถนนชื่อดัง 4 สายในเมืองย่างกุ้ง รวมถึงยังมีเมนูพิเศษอื่นๆ ที่ทุกคนติดใจอย่างพิซซ่าแป้งซาวโดวจ์ และกิจกรรมอื่นๆ เช่น ดนตรีและเกม ให้ร่วมสนุกตลอดทั้งคืน

When: 25 มกราคม 2568 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป

Where: BTS สนามกีฬาแห่งชาติ

More Info: Chim Chim Bangkok 

 

THE LITTLE PRINCE UNIVERSE - AN IMMERSIVE JOURNEY

 

The Little Prince Universe – An Immersive Journey

 

เจ้าชายน้อย ผลงานวรรณกรรมอมตะที่ใครๆ ก็หลงใหล พร้อมให้ทุกคนเข้าไปผจญภัยสู่โลกเสมือนจริงแล้ว โดยมีไฮไลต์พิเศษ เช่น Story Book Theatre บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าชายน้อยในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน, Asteroid B612 และ Travel the Planets พาเดินทางร่วมไปกับเจ้าชายน้อย หรือ Hello Earth ให้ทุกคนแวะทักทายเจ้าจิ้งจอก

นอกจากนี้ยังมีของสะสมและกิจกรรมพิเศษอื่นๆ ให้เข้าร่วมอีกเพียบ รีบตามไปผจญภัยสู่โลกเสมือนจริงของเจ้าชายน้อยได้ที่ Attraction Hall ชั้น 6 ศูนย์การค้า ICONSIAM

When: วันนี้ – 11 พฤษภาคม 2568

Where: ถนนเจริญนคร 

More Info: Mad Motion – The Little Prince Universe 

 

WINTER FILM FESTIVAL / 23 JAN / SILPAKORN UNIVERSITY

 

Winter Film Festival

 

กิจกรรมต้อนรับลมหนาวในเดือนมกราคมจากมหาวิทยาลัยศิลปากร โดยการนำภาพยนตร์มาฉายในงาน Winter Film Festival ครั้งที่ 3 ซึ่งในปีนี้มีภาพยนตร์น่าสนใจ เช่น La La Land ที่กวาดรางวัลออสการ์ถึง 6 รางวัล และ 2538 อัลเทอร์มาจีบ ที่จะพาเราย้อนวันวานกลับไปในยุคดิจิทัลอีกครั้ง

 

สำหรับรอบฉาย มีดังนี้

 

  • 2538 อัลเทอร์มาจีบ วันที่ 23 มกราคม 2568 เวลา 18.30 น.
  • La La Land วันที่ 24 มกราคม 2568 เวลา 18.30 น.

 

เปิดให้ลงทะเบียนหน้างานเวลา 16.00 น. ภาพยนตร์เริ่มฉายเวลา 18.30 น.

 

When: 23 มกราคม 2568

Where: ถนนมหาราช

More Info: องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ 

 

KIM ANN FOXMAN / 24 JAN / SIWILAI RADICAL CLUB

 

KIM ANN FOXMAN

 

ดีเจสายอิเล็กทรอนิกส์ตัวท็อป KIM ANN FOXMAN บินตรงจากฮาวายมามอบความสนุกให้ทุกคนแดนซ์กระจายที่ SIWILAI RADICAL CLUB ซอยทองหล่อ พร้อมกับดนตรีแนวเฮาส์และแอซิดบีตที่จะพาทุกไปปล่อยพลังกับจังหวะหนักๆ และบรรยากาศสุดเดือด

 

โดยบัตร Early Bird ราคา 500 บาท บัตรปกติราคา 800 บาท 

 

When: 24 มกราคม 2568 เวลา 21.00 น.

Where: BTS ทองหล่อ

More Info: SIWILAI RADICAL CLUB 

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (23-29 มกราคม 2568) appeared first on THE STANDARD.

]]>
6-6-6 Walking Challenge เทรนด์ใหม่ของการเดินเพื่อสุขภาพ https://thestandard.co/life/6-6-6-walking-challenge Thu, 23 Jan 2025 06:02:43 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1033390 6-6-6 Walking Challenge

ใครว่าการออกกำลังกายต้องยากและซับซ้อน? วันนี้ LIFE จะชว […]

The post 6-6-6 Walking Challenge เทรนด์ใหม่ของการเดินเพื่อสุขภาพ appeared first on THE STANDARD.

]]>
6-6-6 Walking Challenge

ใครว่าการออกกำลังกายต้องยากและซับซ้อน? วันนี้ LIFE จะชวนผู้อ่านไปทำความรู้จักกับเทรนด์ออกกำลังกายที่ง่ายและกำลังได้รับความนิยมอย่าง 6-6-6 Walking Challenge นี่คือเทรนด์การเดินที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณให้ฟิตแอนด์เฟิร์มได้ง่ายๆ เพียงแค่ออกไปเดิน! รับรองว่าเหมาะกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดออกกำลังกายหรือคนที่มีเวลาน้อยก็สามารถทำได้แบบไม่กดดัน 

 

รู้จัก 6-6-6 Walking Challenge

6-6-6 Walking Challenge เป็นเทรนด์การเดินสุดฮิตที่กำลังมาแรงในโซเชียลมีเดียและกลุ่มคนรักสุขภาพ มีหลักการง่ายๆ คือ เดินให้ครบ 60 นาทีในเวลา 6 โมงเช้าหรือ 6 โมงเย็น โดยแบ่งเป็นการวอร์มอัพ 6 นาที เดินเร็วตามเป้าหมาย 48 นาที และคูลดาวน์อีก 6 นาที ซึ่งการเดินแบบนี้จะช่วยให้คุณได้ออกกำลังกายครบตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญที่แนะนำให้ออกกำลังกาย 150 นาทีต่อสัปดาห์

 

ประโยชน์ที่จะได้รับ

การเดินแบบ 6-6-6 ไม่เพียงแต่ช่วยเผาผลาญไขมัน แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งการนอนหลับที่ดีขึ้น สมองปลอดโปร่ง ความจำดี ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เบาหวาน และความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียดและอาการซึมเศร้า เรียกได้ว่าเป็นการออกกำลังกายที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่าสุดๆ

 

เริ่มต้นอย่างไรให้ปัง

สำหรับมือใหม่ ไม่ต้องรีบร้อนทำให้ครบ 60 นาทีในครั้งแรก เริ่มจาก 10-15 นาทีก่อนก็ได้ แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้น สิ่งสำคัญคือการเลือกรองเท้าที่สวมใส่สบาย รองรับการเดินได้ดี และเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ควรเดินในระดับที่พูดคุยได้สบายๆ และเมื่อร่างกายพร้อมค่อยเพิ่มความเร็วหรือเลือกเส้นทางที่มีความชันเพื่อเพิ่มความท้าทาย

 

เคล็ดลับการจัดตารางเวลา

ข้อดีของ 6-6-6 Walking Challenge คือการกำหนดเวลาที่ชัดเจน ทำให้ง่ายต่อการจัดตารางชีวิต คุณสามารถเลือกเดินตอนเช้าเพื่อเริ่มต้นวันอย่างสดชื่น หรือตอนเย็นเพื่อผ่อนคลายหลังเลิกงาน แต่ถ้าไม่สะดวกจริงๆ การแบ่งเดินหลายๆ ครั้งใน 1 วันก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน

The post 6-6-6 Walking Challenge เทรนด์ใหม่ของการเดินเพื่อสุขภาพ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สยามพารากอน กำหนดนิยามใหม่ให้คำว่า Luxury for All ด้วยการเปิดพื้นที่ Siam Paragon’s Arena of Arts ดึงศิลปินระดับโลกมาจัดแสดงผลงานเอ็กซ์คลูซีฟ https://thestandard.co/life/siam-paragon-luxury-arts Wed, 22 Jan 2025 11:36:47 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1033042

คงไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงสักเท่าไร หากกล่าวว่าคนในยุคสมั […]

The post สยามพารากอน กำหนดนิยามใหม่ให้คำว่า Luxury for All ด้วยการเปิดพื้นที่ Siam Paragon’s Arena of Arts ดึงศิลปินระดับโลกมาจัดแสดงผลงานเอ็กซ์คลูซีฟ appeared first on THE STANDARD.

]]>

คงไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงสักเท่าไร หากกล่าวว่าคนในยุคสมัยนี้เดินเข้าศูนย์การค้าบ่อยกว่าพิพิธภัณฑ์ ฉะนั้นเพื่อทำให้การออกมาใช้ชีวิตของทุกคนน่าสนุกเพลิดเพลิน และได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ กลับไปด้วย สยามพารากอน จึงทำการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ตั้งแต่ต้นปี 2567 เพื่อสร้างประสบการณ์ Luxury for All ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ในรูปแบบของตัวเอง โดยหนึ่งในนั้นคือการสร้างพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ Arena of Arts ที่ใช้พื้นที่อาคารกว่า 100,000 ตารางเมตร ตั้งแต่ชั้น G ถึงชั้น 4

 

ซึ่งความตั้งใจนี้เริ่มต้นมาจากความเป็น Global Destination ของ ONESIAM อันได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ที่มีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกตื่นตาตื่นใจ (Be Amazed) ได้รับแรงบันดาลใจ (Be Inspired) และเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติวงการ (Be Revolutionary) มาตลอดทุกยุคสมัย รวมถึงเป็นสถานที่แรกที่นำแนวคิดของการเปิดพื้นที่ให้ประสบการณ์ด้านศิลปะเข้ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ ด้วยการผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเริ่มต้นจากสยามเซ็นเตอร์ที่คัดสรรผลงานศิลปะจากศิลปินไทยให้เป็นสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของ ‘ไทยสร้างสรรค์’ (Creative Thais) และในสยามดิสคัฟเวอรี่ที่มีการทำ Art Collaboration ร่วมกับศิลปินและนักออกแบบระดับโลกมากมาย

 

สำหรับสยามพารากอน การปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้ถือเป็นการเตรียมฉลองครบรอบ 20 ปีสู่การเป็น Grand Stage of The World ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ต่างๆ ที่เหนือความคาดหมาย และเป็นการสร้างคำนิยามใหม่ให้กับไลฟ์สไตล์ของคนทุกระดับเพื่อนำเสนอคำว่า Luxury for All อย่างแท้จริง โดยหนึ่งในประสบการณ์นั้นก็คือการเข้าถึงงานศิลปะที่สยามพารากอนให้ความสำคัญมาตลอด 20 ปี

 

สาลวิท สุวิพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานสร้างสรรค์และนวัตกรรม บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวถึงการสร้างประสบการณ์ใหม่ในครั้งนี้ว่า “สิ่งที่เรากำลังทำคือการออกแบบพื้นที่ด้วยคอนเซปต์ Luxury for All ถือเป็นนิยามใหม่ของการใช้ไลฟ์สไตล์ เพราะสยามพารากอนเชื่อว่าทุกคนมีความ Luxury ในแบบของตัวเอง และงานศิลปะจะเป็นสิ่งที่เข้ามาเชื่อมทั้งหมดเข้าด้วยกัน”

 

Siam Paragon’s Arena of Arts จึงเป็นการเปิดพื้นที่ทั้งอาคารให้กลายเป็นเวทีจัดแสดงงานศิลปะ ซึ่งมีความแตกต่างจากที่อื่นๆ เนื่องจากสยามพารากอนทำงานร่วมกับศิลปินในการออกแบบชิ้นงานเพื่อนำมาจัดแสดงในรูปแบบ Public Arts ที่สร้างขึ้นมาเพื่อสถานที่แห่งนี้โดยเฉพาะ โดยตอนนี้มีผลงานร่วมสมัยทั้งหมด 10 ชิ้นที่ทุกคนสามารถชมได้แล้ว เช่น Aurora โดยศิลปิน Visual Artist ระดับโลกชาวฝรั่งเศส ปาสคาล ดอมบีส์ (Pascal Dombis) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแสงเหนือ หรืองานประติมากรรม Red Bubble โดยศิลปินเกาหลีร่วมสมัย โอดงฮุน (Donghoon Oh) เป็นผลงานศิลปะเชิงรูปทรงของทรงกลมที่ดูคล้ายมนุษย์ โดยศิลปินได้แรงบันดาลใจมาจากการเล่นฟองสบู่

 

Luxury for All Luxury for All

 

สิ่งที่ทำให้สยามพารากอนแตกต่างคือการรวมศิลปะเข้ากับการออกแบบสถาปัตยกรรม งานศิลปะทุกชิ้นที่จะนำมาจัดแสดงได้รับการออกแบบให้เข้ากับพื้นที่นั้นๆ หรือเป็นชิ้นงานแบบ Site Specific ที่สยามพารากอนสร้างสรรค์ร่วมกับศิลปิน ทำให้ทุกคนที่เดินผ่านเกิดความรู้สึกร่วม (Emotional Engagement) อย่างไม่รู้ตัว” 

สาลวิทกล่าวเสริม

 

โดยชิ้นงานเอ็กซ์คลูซีฟล่าสุดซึ่งถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่ Siam Paragon’s Arena of Arts ร่วมมือกับศิลปินในการออกแบบก็คืองานประติมากรรม THE FUTURE IN OUR HAND โดยศิลปินระดับโลกชาวสเปน ไฮเม่ ฮายอน (Jaime Hayon) ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 100 ดีไซเนอร์ยอดเยี่ยมโดยนิตยสาร Wallpaper* และได้รับการยอมรับว่าเป็นนักออกแบบที่มีอิทธิพลที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา อีกทั้งได้รับการยกย่องจากนิตยสาร TIME ว่าเป็นผู้มีวิสัยทัศน์และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งความคิดสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของการออกแบบด้วย

 

“สยามพารากอนให้ความสำคัญกับการคัดเลือกศิลปินชั้นนำจากหลายประเทศ และเลือกชิ้นงานที่มีการสะท้อนเรื่องราวและความเป็นเอกลักษณ์ของสยามพารากอนอย่างลึกซึ้ง รวมถึงการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นพิเศษร่วมกับศิลปินเพื่อออกแบบชิ้นงานที่มีเพียงที่สยามพารากอนเท่านั้นด้วย” สาลวิทกล่าว

 

นอกจากนี้ ไฮเม่ ฮายอน ศิลปินเจ้าของผลงาน THE FUTURE IN OUR HAND ซึ่งเป็นงานประติมากรรมรูปลิงกำลังถือลูกบอลสีทอง ยังมาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับไอเดียเบื้องหลังการร่วมงานกับสยามพารากอนในการออกแบบชิ้นงานพิเศษในครั้งนี้ด้วย 

 

Luxury for All

 

“ผมทำงานร่วมกับแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลกมานานกว่า 25 ปี ตั้งแต่แบรนด์แฟชั่นหรูไปจนถึงผลงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ สิ่งหนึ่งที่ผมตั้งใจทำเสมอคือการสร้างสรรค์ผลงานให้เข้ากับสถานที่นั้นๆ และงานประติมากรรม THE FUTURE IN OUR HAND ก็เช่นเดียวกัน ผมเริ่มจากการสำรวจพื้นที่จัดแสดงชิ้นงานกับทีมสยามพารากอน ก่อนคิดธีมที่มีความสนุกสนาน แฝงด้วยความหมายลึกซึ้ง และต้องทำให้ผู้ชมสะท้อนความคิดบางอย่างกลับไปด้วย

 

“ผมจึงเกิดไอเดียสร้างสรรค์งานประติมากรรมรูปลิงกำลังถือลูกบอลสีทอง ซึ่งมันกำลังมองเงาสะท้อนตัวเองผ่านลูกบอลนั้น แต่ในขณะเดียวกันมันก็อาจกำลังมองไปรอบๆ ตัวเองด้วย ผมคิดว่างานชิ้นนี้อาจทำให้คนที่เห็นผลงานหันกลับมามองตัวเองผ่านเงาสะท้อนบนลูกบอลนั้นเช่นกัน” ไฮเม่เล่าถึงไอเดียในการสร้างผลงานชิ้นนี้

 

โดยประติมากรรมชิ้นสำคัญ THE FUTURE IN OUR HAND ซึ่งจัดแสดงอยู่บริเวณชั้น 1 สยามพารากอน เป็นผลงานชิ้นเอกที่สะท้อนแนวคิดเชิงบวกต่อโลก เพราะศิลปินเชื่อว่าทุกคนสามารถสร้างพลังแห่งความหวังและความฝันอันงดงามเพื่ออนาคตที่ดีขึ้นได้ เขาจึงเลือกใช้ลิงเป็นตัวแทนในการสื่อถึงความร่าเริง ถ่อมตน และเป็นธรรมชาติ โดยลิงตัวนั้นกำลังยืนในท่าทางคล้ายมนุษย์และถือลูกบอลสีทอง (The Reflective Sphere) ที่ส่องเงาสะท้อนตัวมันเอง เปรียบเสมือนการได้สำรวจตัวเองรวมถึงผู้คนรอบข้าง

 

ไฮเม่เล่าอีกว่าเขาตั้งใจออกแบบงานชิ้นนี้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชมตั้งคำถามกับตัวเอง พร้อมเปิดมุมมองใหม่ต่อความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อมด้วย

 

“การสร้างงานศิลปะในมุมมองของผม ชิ้นงานนั้นต้องไม่ตะโกนจนเกินไป ทว่าทุกคนต้องรับรู้การมีอยู่ของมัน อย่างเช่นงานชิ้นนี้ผมใช้ผงหินที่มักใช้ในการสร้างชิ้นงานบ่อยๆ เพื่อสร้างเนื้อสัมผัสที่พิเศษ ถ้าหากลองดูใกล้ๆ คุณจะเห็นรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ เช่นเดียวกับเงาสะท้อนซึ่งแสดงถึงความ Luxury ผมคิดถึงการใช้สีอยู่นานเหมือนกัน เพราะต้องการให้ชิ้นงานกลมกลืนไปกับสถานที่ ผมกับสยามพารากอนจึงทำงานร่วมกันเยอะมากในการออกแบบผลงาน THE FUTURE IN OUR HAND” ไฮเม่กล่าว

 

Luxury for All

 

ร่วมสัมผัสประสบการณ์ผ่านสุดยอดผลงานศิลปะภายใต้คอนเซปต์ THE FUTURE IN OUR HAND ที่สยามพารากอน Co-create ร่วมกับศิลปินนักออกแบบชื่อดังระดับโลก ไฮเม่ ฮายอน พร้อมด้วยผลงานศิลปะร่วมสมัยจากเหล่าศิลปินไทยและหลากหลายประเทศได้ทั่วพื้นที่สยามพารากอน และรอติดตามผลงานสร้างสรรค์จากศิลปินแห่งชาติและศิลปินระดับโลกที่จะมาเพิ่มเติมให้ครบ 20 ชิ้น ณ Siam Paragon’s Arena of Arts ภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเฉลิมฉลองสยามพารากอนครบรอบ 20 ปี

The post สยามพารากอน กำหนดนิยามใหม่ให้คำว่า Luxury for All ด้วยการเปิดพื้นที่ Siam Paragon’s Arena of Arts ดึงศิลปินระดับโลกมาจัดแสดงผลงานเอ็กซ์คลูซีฟ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Khao Yai Art Forest แลนด์มาร์กศิลปะใหม่กลางธรรมชาติ โดย มาริษา เจียรวนนท์ https://thestandard.co/life/khao-yai-art-forest-by-marisa Wed, 22 Jan 2025 09:11:16 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1033140

ในบทสัมภาษณ์พิเศษนี้เราได้พูดคุยกับ มาริษา เจียรวนนท์ น […]

The post Khao Yai Art Forest แลนด์มาร์กศิลปะใหม่กลางธรรมชาติ โดย มาริษา เจียรวนนท์ appeared first on THE STANDARD.

]]>

ในบทสัมภาษณ์พิเศษนี้เราได้พูดคุยกับ มาริษา เจียรวนนท์ นักสะสมงานศิลปะระดับโลก และผู้ก่อตั้ง Bangkok Kunsthalle รวมถึงเป็นผู้ริเริ่มโครงการ Chef Cares ที่เพิ่งเปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ล่าสุด ‘Khao Yai Art Forest’ สถานที่ที่รวบรวมงานศิลปะกลางธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์จากศิลปินชื่อดังทั่วโลก ซึ่งไม่เพียงจะเป็นจุดสนใจสำหรับคนรักศิลปะ แต่ที่นี่ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงามของเขาใหญ่ ซึ่งจะกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองไทยที่สามารถดึงดูดความสนใจจากคนทั่วโลกได้

 

บทสนทนาครั้งนี้จะพาเราไปสำรวจเบื้องหลังแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ Khao Yai Art Forest ที่ผสานความหลงใหลในธรรมชาติ, ศิลปะ, อาหาร และนวัตกรรม เข้าด้วยกัน สำหรับเราแล้ว Khao Yai Art Forest จึงไม่ใช่แค่พื้นที่แสดงผลงานศิลปะ แต่ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เชื่อมโยงกับธรรมชาติและศิลปะในรูปแบบใหม่ๆ และไม่ใช่สำหรับคนที่สนใจงานศิลปะเท่านั้น แต่ยังต้อนรับทุกคนที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนจิตใจโดยใช้ธรรมชาติบำบัดได้เป็นอย่างดี

 

มาริษา เจียรวนนท์ 

มาริษา เจียรวนนท์ 

 

อยากทราบถึงที่มาของโปรเจกต์ ‘Khao Yai Art Forest’

 

มาริษา: Khao Yai Art Forest เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองได้เติมพลังงาน ตอนออกมาเดินป่า ฉันชอบสังเกตต้นไม้แต่ละต้น พวกมันดูไม่เหมือนกันเลยนะ ฉันรู้สึกได้รับพลังงานจากธรรมชาติเหล่านั้น เลยคิดว่าแล้วทำไมเราไม่สร้างอะไรสักอย่างเพื่อคนที่เรารัก คนที่เราห่วงใย หรือใครก็ตามที่มาเมืองไทย ให้เขาได้รับประสบการณ์เดียวกับเรา อีกทั้งเรายังต้องการรักษาธรรมชาติ เลยตั้งใจว่าเราไม่ใช่เอาป่าที่สวยอยู่แล้วมาทำ แต่ป่านั้นอาจจะไม่ได้สวยมาก แต่เราสามารถทำให้มันสวยขึ้นไปได้อีก

 

และด้วยความที่ตอนนี้อายุเราก็เท่านี้แล้ว มันอาจเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตแล้ว ดิฉันได้ใช้ทรัพยากร ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ บวกกับประสบการณ์ที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อโครงการเดียว ดังนั้นนี่จึงเป็นการรวมแพสชันของดิฉัน ทั้งเรื่องศิลปะ, อาหาร, การศึกษา และนวัตกรรม ไว้ในโครงการนี้ 

 

ฉันอยากให้คนที่เข้ามารู้สึกดื่มด่ำไปกับธรรมชาติ อยากแชร์ธรรมชาติเหล่านี้สู่เมืองใหญ่ ทั้งการปลูกป่าและปลูกต้นไม้ เริ่มต้นจากการสร้างสายสัมพันธ์กับธรรมชาติ เราอยากให้คนที่มาสถานที่แห่งนี้ช่วยทำให้ธรรมชาติสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 

Richard Long, Madrid Circle

Richard Long, Madrid Circle

 

แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ธรรมชาติอย่างป่าไม้ที่น่าสนใจ แต่สถานที่แห่งนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำอีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องศิลปะ เราคาดหวังว่าจะได้เจออะไรที่นี่บ้าง 

 

มาริษา: ปัจจุบันศิลปะเป็นเรื่องกว้างขวางมาก สมัยนี้ศิลปะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภาพวาด ประติมากรรม หรือการจัดวาง (Installation) อีกต่อไป มันกว้างไกลกว่านั้นมาก ที่นี่เรามีศิลปะบนพื้นดิน (Land Art) ซึ่งศิลปินเจ๋งๆ จากหลากหลายประเทศได้ทำศิลปะบนพื้นดินที่สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติ

 

แต่ดิฉันอยากสร้างศิลปะบนพื้นดิน 2.0 หมายความว่า เราสร้างสรรค์งานศิลปะโดยใช้วัสดุจากธรรมชาติรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นดิน, น้ำ, ไม้ หรือหิน ด้วยเทคนิคใหม่ๆ เน้นหลักการแบบยั่งยืน เราใช้เทคนิคเชิงนวัตกรรม โดยร่วมมือกับบริษัทสร้างระบบกรองน้ำจากอากาศ ซึ่งเราน่าจะเป็นที่แรกในเมืองไทยที่ใช้ระบบนี้ 

 

 

ดิฉันอยากให้คนที่มาดูผลงานได้สัมผัส เห็น คิด และสะท้อนมุมมองส่วนตัว ตลอดจนไตร่ตรองว่าทำไมศิลปินจึงสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้น หรือทำไมศิลปินจึงตัดสินใจออกแบบผลงานให้ที่นี่โดยเฉพาะ และทำไมถึงจัดวางงานไว้บนพื้นที่ส่วนนี้ ดิฉันอยากชวนให้คิดว่า ผลงานศิลปะดังกล่าวมีความหมายว่าอย่างไร สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์แบบใด เพราะศิลปินได้ผ่านกระบวนการคิดอย่างถี่ถ้วนในการเลือกพื้นที่แสดงงาน 

 

ตั้งแต่ทางเข้าจะมีอุโมงค์ให้ทุกคนเดินผ่าน เพราะต้องการให้คนที่มารู้สึกว่าเมื่อเข้ามาในอุโมงค์ พวกเขาจะละทิ้งความเครียดและความกังวลจากการใช้ชีวิตในเมือง เปิดใจรับธรรมชาติในมุมมองใหม่ เชื่อมต่อกับธรรมชาติ และเรียนรู้จากสิ่งที่ธรรมชาติสอนเรา ฉันต้องการให้ผู้คนได้สัมผัสกับประสบการณ์ในการกลับคืนสู่ธรรมชาติและเรียนรู้จากมัน โดยหวังว่าผู้คนจะไม่รีบเร่งและใช้เวลาในการทบทวนและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ฉันต้องการให้ผู้คนเปิดรับสิ่งที่จะเห็นจากที่นี่ ปล่อยวางความกังวลและความรับผิดชอบทั้งหมด

 

Fujiko Nakaya, Khao Yai Fog Forest 

Fujiko Nakaya, Khao Yai Fog Forest 

 

เห็นว่าที่นี่มีงานจากศิลปินระดับโลกมากมาย มีชิ้นไหนที่ถือเป็นไฮไลต์บ้างไหม 

 

มาริษา: เริ่มจากงานของ ฟูจิโกะ นากายะ ศิลปินชาวญี่ปุ่นวัย 90 ปีที่มีชื่อเสียงมากและกำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ผลงานของเธอแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Guggenheim Bilbao ในประเทศสเปน แต่เราไม่สามารถนำภาพเขียนของเธอมาได้ เพราะไม่เหมาะสำหรับกลางแจ้ง เราจึงใช้สื่อศิลปะชนิดอื่นที่ใช้วัสดุธรรมชาติ ผลงานของเธอเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่การวาดภาพหรือประติมากรรมเท่านั้น แต่เธอใช้สิ่งอื่นๆ เช่น น้ำหรือหมอก มาเป็นงานประติมากรรมด้วย 

 

นอกจากนี้พวกเรายังได้ร่วมงานกับสถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ อัตสึชิ คิตางาวาระ ที่มีชื่อเสียงมาก เขาสร้างเนินภูเขาและภูมิทัศน์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นการร่วมงานกับศิลปินและสถาปนิก เพื่อทำให้หมอกอยู่ได้นานขึ้น ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของหมอกอย่างละเอียด และใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของหมอกที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของงาน 

 

ต่อมาคือ ฟรานเชสโก อารีนา (Francesco Arena) ศิลปินชาวอิตาลีผู้สร้างผู้พิทักษ์ (GOD) ฉันดีใจมากที่เขามาร่วมงาน เขาตั้งใจทำงานกับหินตั้งแต่แรก โดยใช้เวลาหลายวันในการคัดเลือกหินที่ถูกใจที่สุด สุดท้ายเขาเจอหินสองก้อนนำมาตัดแบ่ง ฐานด้านล่างทำจากไม้โอ๊ก หินด้านบนแกะสลักเป็นตัวอักษร O ส่วนด้านล่างแกะสลักเป็นตัวอักษร G&D ชิ้นส่วนทั้งสองถูกติดตั้งในเวลาที่ต่างกัน ฐานด้านล่างติดตั้งในเวลากลางวัน ส่วนชิ้นบนถูกนำมาประกอบเข้าด้วยกันในช่วงเที่ยงคืน

 

Francesco Arena, GOD

Francesco Arena, GOD

 

ผลงานชิ้นนี้ศิลปินตั้งใจสื่อถึง ‘พระเจ้า’ ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางคืน ซึ่งเป็นการสื่อถึงพลังอำนาจเหนือธรรมชาติ

 

ไม่ใช่พระเจ้าตามความเชื่อของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนโหยหา เป็นพลังที่คอยปกปักรักษาและคุ้มครองผืนดินแห่งนี้ 

 

ชิ้นที่ 3 เป็นผลงานศิลปะชื่อ ‘Maman’ (มามอง) สร้างสรรค์โดยศิลปินผู้ล่วงลับ หลุยส์ บูร์ชัวส์ ศิลปินชาวฝรั่งเศส-อเมริกัน ฉันคิดว่าเธอเป็นหนึ่งในศิลปินที่สำคัญที่สุดในศิลปะร่วมสมัย ผลงาน Maman มีทั้งหมด 7 ชุด ชิ้นแรกสร้างขึ้นจากสเตนเลส มีลักษณะเหมือนแมงมุมยักษ์ ซึ่งได้รับการว่าจ้างโดย Tate Modern หลังจากนั้นเธอได้ใช้แม่พิมพ์เดียวกันในการสร้าง Maman เวอร์ชันทองเหลือง ซึ่งเป็นรุ่นที่ 6 ผลงาน Maman ทุกชิ้นถูกสะสมโดยสถาบันศิลปะชั้นนำ เช่น Mori Art Museum ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หรือ The National Gallery of Canada ประเทศแคนาดา ได้เดินทางไปจัดแสดงทั่วโลก และถูกยืมไปจัดในพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่มากมาย

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ Maman เดินทางมาจัดแสดงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ท่ามกลางธรรมชาติอันแท้จริง และเป็นการจัดแสดงกลางแจ้งด้วย คำถามต่อมาคือ เราจะวาง Maman ไว้ตรงไหนจึงจะเหมาะสมและสะท้อนถึงความเป็นไทยมากที่สุด? 

 

สถานที่จัดแสดงจึงมีความสำคัญ เพราะ Maman ไม่ได้เหมาะกับทุกพื้นที่ ทำให้เราต้องคิดถึงองค์ประกอบที่สื่อถึงความเป็นไทย ซึ่งฉันทำงานกับโครงการ Chef Cares และสนใจเรื่องอาหาร หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของอาหารไทยและภูมิปัญญาไทยคือข้าว เราจึงตัดสินใจสร้างนาข้าว ให้ Maman อยู่ท่ามกลางนาข้าว ฉันคิดว่ามันเป็นคอนเซปต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก นิทรรศการศิลปะครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คนมากมาย มีหลายคนยอมเดินทางจากทั่วโลกเพื่อมาชมสิ่งนี้โดยเฉพาะ 

 

Louise Bourgeois’s Maman (1999) 

Louise Bourgeois’s Maman (1999) 

 

อีกหนึ่งไฮไลต์คืองานของ Elmgreen & Dragset คู่หูศิลปินชาวสแกนดิเนเวียที่เคยสร้าง Prada Marfa ร้านป๊อปอัพท่ามกลางความว่างเปล่าของทะเลทรายในมาร์ฟา รัฐเท็กซัส การที่เขาสร้างร้าน Prada ปลอมๆ ฉันคิดว่ามันเหมือนการเสียดสีลัทธิบริโภคนิยม เพราะพวกเขาตั้งไว้ใจกลางสิ่งที่ไม่มีอะไรเลย ในช่วงเวลานั้นผู้คนขับรถหลายชั่วโมงเพื่อไปดูสิ่งนี้ จนถึงตอนนี้ผ่านไป 17 ปี ไมเคิลบอกว่ายังมีคนไปที่นั่นอยู่เลย เขาบอกว่าอยากจะสร้างบาร์แบบที่อยู่ในเมืองของเยอรมนี และจะเรียกบาร์แห่งนั้นว่า Martin Kippenberger

 

มาร์ติน คิปเพนเบอร์เกอร์ เป็นศิลปินชาวเยอรมัน เขาเสียชีวิตด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาอยากสร้างบาร์โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Martin Kippenberger และคนสามารถมองเห็นบาร์จากภายนอกเท่านั้น ที่นี่จะเปิดให้บริการเป็นบาร์จริงๆ เดือนละครั้งตั้งแต่บ่ายถึงดึก มีเพียง 6 ที่นั่ง และมีการแสดงเดือนละครั้ง ทำให้เราต้องจ้างบาร์เทนเดอร์จริงๆ มาไว้ที่นี่ด้วย โดยตัวบาร์จะซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้ เพราะอยากให้คนที่มาได้ดื่มและพักผ่อนจริงๆ

 

Elmgreen & Dragset, K-BAR Elmgreen & Dragset, K-BAR

Elmgreen & Dragset, K-BAR

 

นอกจากนั้นยังมีงานจาก อาร์ต-อารยา อินทรา (Araya Rasdjarmrearnsook) ศิลปินที่มีความสามารถ เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะสมัยใหม่ ผลงานของเธอชื่อว่า ‘Two Planets Series’

 

สิ่งที่เธอทำคือแสดงงานศิลปะชิ้นนี้ในป่าร่วมกับชาวนา ชาวนาจะรวมตัวกันในป่าใกล้ทุ่งนาเพื่อชมผลงานศิลปะ เช่น ผลงานของมาเนต์ ซึ่งพวกเขาไม่เคยเห็นผลงานศิลปะมาก่อน จึงเกิดเป็นบทสนทนาและการแสดงความคิดเห็นถึงศิลปะอย่างตรงไปตรงมา เป็นงานที่สวยงามมาก 

 

Araya Rasdjarmrearnsook, Two Planets Series

Araya Rasdjarmrearnsook, Two Planets Series

 

นอกจากงานศิลปะแล้ว ยังมีเรื่องของอาหารด้วย คุณบอกว่าอาหารเป็นองค์ประกอบสำคัญของที่นี่ใช่ไหม

 

มาริษา: ใช่ค่ะ ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมักมีร้านอาหารที่ดี ร้านอาหารเล็กๆ แต่อร่อย ดิฉันอยากให้คนที่มาที่นี่ได้ประสบการณ์ที่ดีทั้งเรื่องศิลปะและอาหาร เพราะจุดประสงค์คืออยากให้คนที่มาตกหลุมรักประเทศไทย ตกหลุมรักในสิ่งที่ดินแดนแห่งนี้จะมอบให้ อาหารดีๆ เป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญมากของเรา ดังนั้นอาหารจึงมีความสำคัญมาก ตอนนี้เรากำลังปลูกข้าว ในอนาคตจะปลูกผัก, สมุนไพร, ผลไม้ และพืชบางชนิดที่กำลังจะหายไป นี่เป็นโครงการที่ต่อยอดมาจากโครงการ Chef Cares ที่ดิฉันดูแลอยู่ด้วย 

 

Ubatsat, Pilgrimage to Eternity

Ubatsat, Pilgrimage to Eternity

 

มองภาพอนาคตของ Khao Yai Art Forest ในอีก 5 ปีข้างหน้าไว้อย่างไรบ้าง

 

มาริษา: ดิฉันอยากให้คนทั่วโลกเดินทางมาเยี่ยมชมและสัมผัสกับความงามของประเทศไทย เหมือนนาโอชิมะ สถานที่ที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ดังนั้นเราจึงต้องทำงานร่วมกับศิลปิน สถาปนิกไทย และสถาปนิกต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สถานที่แห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจให้คนแวะเวียนมาสัมผัสกับวัฒนธรรมไทยและรู้จักกับคนไทย ไม่ใช่แค่เรื่องศิลปะหรืออาหารเท่านั้น แต่ดิฉันอยากให้คนได้ใช้เวลาและทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมไทยของเรา เมื่อพวกเขาออกจากสถานที่แห่งนี้ พวกเขาจะได้ประทับใจเมืองไทย ซึ่งความประทับใจนี้จะติดตัวพวกเขาไปตลอดชีวิต

 

ภาพ: Khao Yai Art Forest 

The post Khao Yai Art Forest แลนด์มาร์กศิลปะใหม่กลางธรรมชาติ โดย มาริษา เจียรวนนท์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อกินไข่ต้มทุกวันติดต่อกัน 1 เดือน https://thestandard.co/life/boiled-eggs-daily-health-impact Wed, 22 Jan 2025 08:23:18 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1033099 กินไข่ต้มทุกวัน

หลายคนกังวลว่ากินไข่ต้มเยอะๆ จะเสี่ยงคอเลสเตอรอลพุ่ง แต […]

The post จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อกินไข่ต้มทุกวันติดต่อกัน 1 เดือน appeared first on THE STANDARD.

]]>
กินไข่ต้มทุกวัน

หลายคนกังวลว่ากินไข่ต้มเยอะๆ จะเสี่ยงคอเลสเตอรอลพุ่ง แต่รู้ไหมว่างานวิจัยล่าสุดบอกว่า ไข่คือซูเปอร์ฟู้ดราคาเบาๆ ที่อัดแน่นด้วยโปรตีนคุณภาพเยี่ยม! คนสุขภาพแข็งแรงกินได้วันละ 3-4 ฟองสบายๆ ถ้าร่างกายฟิตๆ เพิ่มได้ถึง 5-6 ฟองเลย แต่มีข้อยกเว้น ถ้าใครเป็นโรคไตเรื้อรังควรหลีกเลี่ยงการกินไข่ที่มากเกินไป เพราะไตต้องทำงานหนักขึ้นในการกำจัดของเสียจากโปรตีน ถ้าได้รับมากไปอาจทำให้อาการแย่ลง เพราะฉะนั้นต้องให้หมอช่วยกำหนดปริมาณที่เหมาะกับสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วยนั่นเอง แต่การจะกินไข่ให้ได้ประโยชน์ครบถ้วนแบบสุขภาพดี ไม่ได้กินแค่ไข่อย่างเดียว แต่ต้องกินอย่างเหมาะสม ไม่มากเกินไป มิกซ์แอนด์แมตช์กับอาหารที่หลากหลาย เช่น ผักและผลไม้ ควบคุมการบริโภคน้ำตาลและแป้งควบคู่กันไปด้วย 

 

สายลดน้ำหนักต้องรู้! ไข่ต้มไม่ใช่แค่อาหารธรรมดา แต่เป็นตัวช่วยสุดปังในการควบคุมน้ำหนัก เพราะโปรตีนในไข่ทำให้อิ่มท้องนาน ลดอาการหิวกลางดึก ทำให้เราสามารถโบกมือบ๊ายบายการกินจุบจิบไปได้เลย ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือไข่มีแคลอรีต่ำมากเมื่อนำมาต้มให้สุก แถมยังช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ควบคุมความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วย

 

แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งรีบกินแต่ไข่อย่างเดียวนะ เพราะร่างกายเราต้องการสารอาหารหลากหลายอยู่ดี ลองมิกซ์แอนด์แมตช์กับผัก ผลไม้ และธัญพืชดูบ้าง ถ้าอยากลดน้ำหนักจริงๆ ก็ต้องคุมน้ำตาลและแป้งควบคู่กันไปด้วย ที่สำคัญอย่าลืมเช็กสุขภาพด้วยนะ โดยเฉพาะค่าไตรกลีเซอไรด์และ HDL ในเลือด ถ้าอัตราส่วนเกิน 2 รีบปรึกษาหมอดีกว่า เพราะอาจมีปัญหาเรื่องหลอดเลือดได้ (อัตราส่วนระหว่างไตรกลีเซอไรด์และ HDL เป็นตัวชี้วัดสุขภาพหลอดเลือดที่สำคัญ โดยค่าไตรกลีเซอไรด์คือไขมันในเลือดที่หากมีมากเกินไปจะเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ส่วน HDL คือไขมันดีที่ช่วยทำความสะอาดหลอดเลือด วิธีคำนวณง่ายๆ คือนำค่าไตรกลีเซอไรด์หารด้วยค่า HDL ผลลัพธ์ไม่ควรเกิน 2 เช่น ถ้าค่าไตรกลีเซอไรด์เป็น 150 และ HDL เป็น 50 เมื่อหารกันแล้วจะได้ 3 ซึ่งเกินค่าที่ปลอดภัย)

 

จะให้ดีต้องแพลนให้รอบคอบแบบองค์รวม ทั้งกินข้าวให้ตรงเวลา ดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกายบ่อยๆ และนอนหลับให้เพียงพออย่างมีคุณภาพ สรุปง่ายๆ ว่ากินไข่ต้มทุกวันเป็นเดือนๆ ไม่ใช่เรื่องแย่ แถมยังดีต่อสุขภาพด้วย แค่ต้องกินให้พอดีและมิกซ์กับอาหารอื่นๆ ให้ครบ รับรองว่าสุขภาพดีแน่นอน

 

The post จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อกินไข่ต้มทุกวันติดต่อกัน 1 เดือน appeared first on THE STANDARD.

]]>
เชฟโมโตอิ แห่ง MOTOÏ Bangkok x Intangible Bar กับ 12 คอร์สสุดพิเศษ https://thestandard.co/life/chef-motoi-12-special-courses Wed, 22 Jan 2025 01:35:44 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1032916 chef-motoi-12-special-courses

‘SHOUJIN – The Course of Endeavor’ การรวมตัวระหว่ […]

The post เชฟโมโตอิ แห่ง MOTOÏ Bangkok x Intangible Bar กับ 12 คอร์สสุดพิเศษ appeared first on THE STANDARD.

]]>
chef-motoi-12-special-courses

‘SHOUJIN – The Course of Endeavor’ การรวมตัวระหว่างเชฟมิชลินสตาร์ และผู้สร้างสรรค์เครื่องดื่ม Non-Alcoholic จากเชียงใหม่

 

MOTOÏ Bangkok โดยเชฟโมโตอิ มาเอดะ (Motoi Maeda) ผู้มีประสบการณ์อันโดดเด่นในวงการอาหาร จากร้าน MOTOÏ Kyoto ที่ครองดาวมิชลิน 1 ดาวติดต่อกันถึง 10 ปี เชฟผู้สั่งสมประสบการณ์จากการทำอาหารหลากหลายสไตล์ทั้งจีน ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส จนพัฒนาเป็นสไตล์เฉพาะตัว ผสมผสานความพิถีพิถันของอาหารฝรั่งเศสสมัยใหม่เข้ากับปรัชญา Wabi Sabi อันเรียบง่ายงดงามแบบเกียวโต

 

มาพบกับ Intangible Bar นำโดย คีย์-ภาคี ภู่ประดิษฐ์ ผู้บุกเบิก Non-Alcoholic Cocktail Bar ที่โด่งดังจากเชียงใหม่ ด้วยการสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์ ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบจากชุมชนทั่วประเทศ พร้อมสอดแทรกแนวคิดทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาในทุกแก้ว

 

ในอีเวนต์พิเศษครั้งนี้ เราจะได้ลิ้มลองเมนูพิเศษ 12 คอร์สที่รังสรรค์ขึ้นโดยเชฟโมโตอิ พร้อมเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ 5 แก้ว ที่ถูกจับคู่อย่างพิถีพิถันโดยคีย์จาก Intangible Bar งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 เปิดให้บริการวันละ 2 รอบ คือ 17.00 น. และ 20.00 น. ในราคา 4,650++ บาทต่อท่าน

 

ใครสนใจสามารถติดต่อได้ที่ 06 5504 1668 หรือ LINE: motoi_bkk เนื่องจากที่นั่งมีจำกัด แนะนำให้จองล่วงหน้า เพื่อไม่พลาดประสบการณ์อาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษครั้งนี้ 

The post เชฟโมโตอิ แห่ง MOTOÏ Bangkok x Intangible Bar กับ 12 คอร์สสุดพิเศษ appeared first on THE STANDARD.

]]>
8 เคล็ดลับแก้ปัญหาการนอน ตื่นและหลับอย่างไรให้มีคุณภาพ https://thestandard.co/life/sleep-tips-quality-rest Wed, 22 Jan 2025 00:00:18 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1032187 sleep-tips-quality-rest

การนอนหลับอย่างมีคุณภาพช่วยให้เราสุขภาพดีอย่างไม่น่าเชื […]

The post 8 เคล็ดลับแก้ปัญหาการนอน ตื่นและหลับอย่างไรให้มีคุณภาพ appeared first on THE STANDARD.

]]>
sleep-tips-quality-rest

การนอนหลับอย่างมีคุณภาพช่วยให้เราสุขภาพดีอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะช่วยลดความเครียด ช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบเผาผลาญและการเต้นของหัวใจทำงานได้ดี ฯลฯ แต่ในสภาวะที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยความเครียด ฝุ่นควัน มลภาวะ และกิจกรรมอันแสนวุ่นวาย การนอนหลับให้สนิทตลอดคืนจึงเป็นเรื่องยาก บางคนปวดแขน ปวดบ่า มีอาการตึงเครียดตามร่างกาย ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ดู รับรองว่าการนอนของคุณจะมีคุณภาพและยาวนานขึ้นกว่าเดิม

 

ปวดไหล่  ปวดหลัง  ปวดคอ

นอนไม่หลับ

งัวเงีย ไม่ยอมตื่น

กรดไหลย้อน

นอนกรน

ปวดขา

 

ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต

 

อ้างอิง:

   

The post 8 เคล็ดลับแก้ปัญหาการนอน ตื่นและหลับอย่างไรให้มีคุณภาพ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปรับตัวอย่างไรให้หน้าโปรไฟล์ยังปังในวันที่ไอจีเปลี่ยนสัดส่วนกริด https://thestandard.co/life/update-instagram-profile-grid-4-5 Tue, 21 Jan 2025 11:14:25 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1032791 Instagram เปลี่ยนสัดส่วน

กริดเปลี่ยน รูปเลื่อน ปรับตัวอย่างไรดี   หลังจาก I […]

The post ปรับตัวอย่างไรให้หน้าโปรไฟล์ยังปังในวันที่ไอจีเปลี่ยนสัดส่วนกริด appeared first on THE STANDARD.

]]>
Instagram เปลี่ยนสัดส่วน

กริดเปลี่ยน รูปเลื่อน ปรับตัวอย่างไรดี

 

หลังจาก Instagram สร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ด้วยการเปลี่ยนอัตราส่วนกริดบริเวณหน้าโปรไฟล์ จากเดิมที่เป็นจัตุรัสแบบ 1:1 ให้กลายเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง โดยมีอัตราส่วนเป็น 4:5 ซึ่งอาจจะขัดใจใครหลายคนไม่น้อย เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้รูปที่ใครหลายคนลงไว้เป็นเซ็ตถูกขยับ ถ้าเรามามองกันที่ข้อดีอย่างน้อยการเปลี่ยนขนาดกริดครั้งนี้ก็ทำให้เห็นรายละเอียดภาพมากขึ้น ไม่โดนครอป และในเมื่อ Instagram เปลี่ยนไปแล้ว วันนี้เราเลยอยากจะมาแชร์ทริกว่าปรับตัวอย่างไรให้หน้าโปรไฟล์ยังปังในวันที่ไอจีเปลี่ยนสัดส่วนกริด

 

 

ตั้งค่าถ่ายด้วยอัตราส่วนที่ใกล้กับ 4:5 ไปเลย เพื่อให้เก็บรายละเอียดครบ

เมื่อสัดส่วนรูปที่จะลงใน Instagram เป็น 4:5 แนะนำว่าควรตั้งค่ากล้องตั้งแต่ตอนเริ่มถ่ายให้ใกล้เคียงกับ 4:5 ไปเลย เช่นใน iPhone ให้ใช้เป็นอัตราส่วน 4:3 เพื่อให้เห็นองค์ประกอบภาพโดยรวมทั้งหมด พร้อมจัดวางองค์ประกอบภาพทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน

 

 

เล่นกับที่ว่างในภาพ ทำให้วัตถุเด่นขึ้น

การเปลี่ยนอัตราส่วนกริดในครั้งนี้คืออยากให้คนมองเห็นคอนเทนต์ได้มากขึ้นโดยไม่โดนครอปออก อันที่จริงเราสามารถใช้ข้อดีในส่วนนี้ทำให้ภาพปังขึ้นด้วยการเล่นกับที่ว่าง ทำให้วัตถุในภาพเด่นขึ้นโดยเหลือพื้นที่บางส่วนในรูปให้มีความเรียบด้วยพื้นหลังที่ลวดลายไม่เยอะ เช่น อาจถ่ายคนให้เห็นท้องฟ้าเยอะๆ หรือถ่ายแก้วกาแฟโดยเว้นให้เห็นโต๊ะเยอะๆ หน่อย แค่นี้วัตถุก็เด่นขึ้นแล้ว

 

 

ใช้กฎ Rule of Thirds เพื่อภาพที่ปัง

ไม่ว่าจะถ่ายรูปในอัตราส่วนไหน ถ้าเราใช้กฎ Rule of Thirds เข้ามาช่วยจัดองค์ประกอบภาพก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที โดยเริ่มจากการเข้าไปเปิดฟังก์ชันเส้นตาราง (Grid Lines) ของกล้องโทรศัพท์ จากนั้นวางจุดโฟกัสหรือองค์ประกอบที่สำคัญไว้ที่จุดตัดของเส้น แค่นี้รูปก็จะมีองค์ประกอบที่สวยขึ้น ไม่ว่าจะสัดส่วนไหนก็ปังแน่นอน

 

 

ภาพ: Shutterstock

 

The post ปรับตัวอย่างไรให้หน้าโปรไฟล์ยังปังในวันที่ไอจีเปลี่ยนสัดส่วนกริด appeared first on THE STANDARD.

]]>
ใจยังไม่พร้อมออกกำลังกาย? เริ่มจากการนั่งขำวันละ 15 นาทีก็ได้นะ https://thestandard.co/life/15-min-laughter-daily-exercise Tue, 21 Jan 2025 10:45:09 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1032783

“รู้…แต่มันทำไม่ได้” แม้เราจะรู้ว่าการออกกำลังกายให้ประ […]

The post ใจยังไม่พร้อมออกกำลังกาย? เริ่มจากการนั่งขำวันละ 15 นาทีก็ได้นะ appeared first on THE STANDARD.

]]>

“รู้…แต่มันทำไม่ได้” แม้เราจะรู้ว่าการออกกำลังกายให้ประโยชน์ดีแสนดีต่อร่างกายแค่ไหน แต่หัวใจเราก็ยังไม่พร้อมอยู่ดี หากคุณกำลังรู้สึกแบบนี้อยู่ เราขอตบบ่าด้วยความเข้าใจ การฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่ใช่ทางมักเป็นเรื่องที่ท้าทายเสมอ

 

ถ้าการลุกขึ้นมาขยับเขยื้อนตัวรีดเหงื่อดูจะยากเกินไปในช่วงแรก ลองเริ่มจากการหัวเราะวันละ 15 นาทีดูก่อนก็ได้นะ ฟังดูอาจเป็นเรื่องน่าขัน แต่วิธีนี้ช่วยเบิร์นแคลอรีได้!

 

ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัย Vanderbilt University เผยว่า การหัวเราะสามารถเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจได้ 10-20% และการหัวเราะ 15 นาทีต่อวัน ยังสามารถเบิร์นได้ถึง 40 แคลอรี ฟังดูอาจจะน้อย แต่ก็ยังดีกว่ากิน นอน ไม่ทำอะไรเลย จริงไหม

 

นอกจากนี้ การหัวเราะยังเป็นยาวิเศษชั้นดีที่ทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) สารที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสารแห่งความสุข ช่วยในการลดระดับความเครียด เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย แถมยังมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักอีกด้วย 

 

เห็นได้ชัดว่าการหัวเราะถือเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพกายและใจที่ดีอย่างยิ่งเลยทีเดียว 

 

อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าการออกกำลังกายยังคงเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายเสมอ ไม่ต้องรีบกดดันตัวเอง ไม่ต้องแข่งกับคนอื่น แค่ได้ลองขยับตัวให้มากขึ้นทีละนิด จาก 5 นาที เป็น 10 นาที จาก 10 นาที เป็น 15 นาที ทำเป็นประจำ แค่นี้ร่างกายคุณก็แข็งแรงขึ้นกว่าเมื่อวานแล้ว 

 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

The post ใจยังไม่พร้อมออกกำลังกาย? เริ่มจากการนั่งขำวันละ 15 นาทีก็ได้นะ appeared first on THE STANDARD.

]]>