LIFE – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sat, 23 Nov 2024 02:10:46 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 สำรวจไฮไลต์ ‘THE PALAZZO’ บ้านระดับ Ultra Luxury โครงการล่าสุดของ AP https://thestandard.co/life/the-palazzo-ultra-luxury-ap Sat, 23 Nov 2024 05:00:37 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1011261

หลายคนคงได้ยินข่าวการกลับมาอีกครั้งในรอบ 3 ปีของต้นแบบค […]

The post สำรวจไฮไลต์ ‘THE PALAZZO’ บ้านระดับ Ultra Luxury โครงการล่าสุดของ AP appeared first on THE STANDARD.

]]>

หลายคนคงได้ยินข่าวการกลับมาอีกครั้งในรอบ 3 ปีของต้นแบบคฤหาสน์หรูหราระดับ Ultra Luxury แห่งแรกๆ ในประเทศไทย THE PALAZZO แน่นอนว่าการกลับมาคราวนี้ไม่เพียงมาพร้อมสุดยอดทำเลและสิ่งแวดล้อมแบบ The One and Only แต่ยังอัปสเกลพื้นที่ใช้สอยให้กว้างขวางมากถึง 1,000 ตารางเมตร ทั้งยังออกแบบให้มีรูปโฉมงดงามและเอื้อต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอีกด้วย เหมาะส่งต่อเป็นมรดกให้แก่ลูกหลาน 

 

แน่นอนว่าโครงการบ้านหรูระดับตำนานกลับมาทั้งทีจะให้อยู่เฉยๆ ก็ใช่เรื่อง เราเลยอยากพาผู้อ่านไปสำรวจภาพรวมของโครงการว่ามีไฮไลต์เด่นอะไรบ้างกับการกลับมาครั้งนี้

 

 

ครั้งแรกในไทยกับดีไซน์ ‘Beaux-Arts & Biophilic’

 

ไฮไลต์อย่างแรกที่เห็นชัดที่สุดต้องยกให้งานออกแบบที่ผสมผสานกันระหว่าง Beaux-Arts และ Biophilic งานสถาปัตยกรรมจากฝรั่งเศสที่มีรากฐานจากศิลปะแบบกรีก-โรมัน เน้นความงดงามอ่อนช้อยและความสมดุลของสถาปัตยกรรม ให้ความรู้สึกหรูหรา สง่างาม แต่ไม่แข็งกระด้าง นำมาผสานเข้ากับหลักการแบบ Biophilic แนวคิดการออกแบบที่เชื่อมโยงผู้คนเข้ากับธรรมชาติ เน้นการใช้แสงธรรมชาติและพื้นที่สีเขียว เปิดรับอากาศบริสุทธิ์ เพื่อให้เกิดความผ่อนคลายและความเป็นอยู่ที่ดี 

 

เมื่อ AP นำเอาทั้งสองสิ่งมาผสานกันและ Simplify ใหม่ให้เข้าถึงง่าย THE PALAZZO จึงเป็นโครงการบ้านหรูหราที่เป็นมากกว่าบ้าน ผู้อยู่อาศัยจะได้สัมผัสทั้งความสวยงามของศิลปะ ขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายจากธรรมชาติ อยู่สบาย ตอบรับความต้องการของคนยุคใหม่ที่มองหาความกลมกลืนและการมีสุขภาวะที่ดีในการอยู่อาศัย

 

 

Majesty Space การออกแบบพื้นที่เพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์

 

บ้านที่ดีควรเป็นแบบไหน? ตกแต่งสวย หรูหรา พื้นที่กว้างขวาง แต่ฟังก์ชันไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิต หรือมีเลย์เอาต์ดีแต่ไม่มีพื้นที่ไว้ฮีลใจ เพราะ AP รู้ดีว่าบ้านคือสถานที่ที่ผู้คนใช้เวลามากที่สุด จึงออกแบบพื้นที่โดยใช้หลัก ‘Majesty Space’ ซึ่งไม่เพียงแค่ให้พื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ยังสามารถปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างยืดหยุ่นด้วย เช่น คนรักรถก็มีพื้นที่จอดรถขนาดใหญ่และเป็นส่วนตัว รองรับการเก็บรักษารถยนต์ได้อย่างปลอดภัย จะจัดไฟแบบโชว์รูมทำเป็นที่จัดแสดงรถคันโปรดก็ได้ หรือจะผสานพื้นที่โรงรถเข้ากับมุมนั่งเล่นไว้นั่งชื่นชมรถในบรรยากาศส่วนตัวก็ได้เช่นกัน ส่วนสายปาร์ตี้ก็มีพื้นที่ห้องรับรองและห้องนั่งเล่นกว้างขวาง ตกแต่งหรูหรา เชื่อมต่อกับสวนส่วนตัว เหมาะสำหรับการจัดงานสังสรรค์ ส่วนสายนักสะสมก็มีระบบ High-Security พร้อมห้องนิรภัยสำหรับทรัพย์สินมีค่า 

 

ฉะนั้นบ้านแต่ละหลังใน THE PALAZZO จึงมีเอกลักษณ์และเลย์เอาต์ต่างกัน เพื่อให้ทุกคนในบ้านใช้ชีวิตของตนเองได้อย่างเต็มที่ มีความเป็นส่วนตัว และคงความเป็นตัวเอง ขณะเดียวกันก็เชื่อมต่อกันและทำกิจกรรมร่วมกันได้

 

 

Multigenerational Living อยู่ร่วมกันได้หลายเจเนอเรชันตามบริบทสังคมไทย

 

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ THE PALAZZO คือคฤหาสน์บ้านหรูที่ออกแบบมาเพื่อการอยู่อาศัยร่วมกันถึง 3 รุ่นตามบริบทของสังคมไทย ได้แก่ รุ่นปู่ย่าหรือรุ่นตายาย รุ่นพ่อแม่ และรุ่นลูก ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัวเชื่อมต่อกันด้วยพื้นที่ส่วนกลาง ขณะเดียวกันก็ยังใส่ใจผู้อาวุโสของบ้านด้วยพื้นที่บ้านที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนกว้างพิเศษ ห้องน้ำที่เอื้อต่อการใช้งาน ตำแหน่งห้องยังง่ายต่อการเข้าออกในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงเนินสโลปและพื้นที่จอดรถที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ทุกชีวิตในบ้านใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและราบรื่นที่สุด 

 

 

เทคโนโลยี Home Automation

 

เพื่อให้ชีวิตง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น THE PALAZZO ยังมีระบบ Home Automation ที่ครบครันครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งด้านการรักษาความปลอดภัย การควบคุมแสงสว่าง การระบายอากาศ รวมถึงระบบที่ดูแลและเอื้ออำนวยให้ผู้สูงวัยใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น นับเป็นโครงการที่ตอบสนองทุกมิติของการใช้ชีวิตสำหรับครอบครัวคนรุ่นใหม่

 

 

ทำเลศักยภาพทั้ง 2 แห่ง

 

โครงการนี้ยังตั้งอยู่ใน 2 ทำเลที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ กรุงเทพกรีฑา ซึ่งโดดเด่นในฐานะทำเลสำคัญทางเศรษฐกิจฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ และปิ่นเกล้า-บรมราชชนนี ทำเลฝั่งตะวันตกที่ราคาประเมินที่ดินมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง 2 ทำเลมีโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้ามาตรฐานสูง ทำให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายและตอบสนองไลฟ์สไตล์ทันสมัยได้อย่างลงตัว

 

จากไฮไลต์ทั้งหมดจะเห็นว่า THE PALAZZO จึงไม่ใช่เพียงโครงการบ้าน แต่เป็นนิยามของการอยู่อาศัยที่หรูหราและตอบโจทย์ทุกมิติชีวิตของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายอย่างลงตัว ใครที่สนใจโครงการ THE PALAZZO เตรียมตัวพบกับการเปิดตัวของทั้ง 2 โครงการ ‘THE PALAZZO กรุงเทพกรีฑา’ และ ‘THE PALAZZO ปิ่นเกล้า-บรมฯ’ คฤหาสน์หรูหราที่เพียบพร้อมด้วยความสง่างามและใกล้ชิดธรรมชาติ ได้เร็วๆ นี้

 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: www.apthai.com/th/brand-concept/the-palazzo 

 

ภาพ: AP, Shutterstock

 

[ADVERTORIAL]

The post สำรวจไฮไลต์ ‘THE PALAZZO’ บ้านระดับ Ultra Luxury โครงการล่าสุดของ AP appeared first on THE STANDARD.

]]>
ยังไม่แก่ แต่เข่าลั่นดังกรอบแกรบ จัดการอย่างไรดี? https://thestandard.co/life/knee-cracking-solutions Fri, 22 Nov 2024 13:10:12 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1011824

เสียงกรอบแกรบจากข้อเข่าลั่น เป็นสัญญาณเตือนที่หลายคนมัก […]

The post ยังไม่แก่ แต่เข่าลั่นดังกรอบแกรบ จัดการอย่างไรดี? appeared first on THE STANDARD.

]]>

เสียงกรอบแกรบจากข้อเข่าลั่น เป็นสัญญาณเตือนที่หลายคนมักมองข้าม โดยเฉพาะในวัยทำงานที่ยังรู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงดี แต่รู้หรือไม่ว่าเสียงเล็กๆ เหล่านี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติที่ซ่อนอยู่ ซึ่งถ้าปล่อยไว้อาจนำไปสู่ปัญหาข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร

 

ยิ่งในยุคที่คนทำงานต้องนั่งนานๆ ออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอ หรือบางคนกลับกันคือออกกำลังกายหนักเกินไป ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัญหาข้อเข่าได้ทั้งสิ้น แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเสียงเข่าลั่นแบบไหนที่ต้องระวัง? อะไรคือสาเหตุที่แท้จริง? และเราจะป้องกันหรือแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร? มาทำความเข้าใจและหาทางป้องกันก่อนที่ปัญหาเล็กๆ จะลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว

 

เสียงเข่าลั่นมีลักษณะอย่างไร

อาการเข่าลั่นหมายถึงเมื่อขยับเหยียดงอข้อเข่าแล้วมีเสียงดัง โดยทั่วไปเสียงดังนั้นสามารถเกิดได้จากตัวข้อต่อเองและตัวเส้นเอ็นรอบๆ ข้อเข่า ซึ่งจะแยกกันง่ายๆ ได้ดังนี้

  • เสียงเข่าลั่นจากผิวข้อต่อ มีจุดกำเนิดเสียงมาจากผิวของกระดูกในข้อครูดกัน จะมีเสียงดัง ‘ครืดๆ’ เหมือนหินลากกระทบกันในขณะที่มีการขยับงอเหยียด เช่น ตอนลุกจากท่านั่ง ตอนเดิน หรือตอนย่อตัว
  • เสียงเข่าลั่นจากตัวข้อต่อไม่ลงล็อก โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกสะบ้าที่อาจจะไม่อยู่ในตำแหน่งปกติ เคลื่อนออกจากร่องกระดูกต้นขา มักเกิดจากกล้ามเนื้อต้นขาไม่สมดุลกัน กล่าวคือกล้ามเนื้อหน้าขาด้านในเข่าอ่อนแอกว่าด้านนอก ทำให้ลูกสะบ้าถูกดึงไปด้านข้างจนเคลื่อนตกร่อง เมื่อเรางอเข่าลูกสะบ้าจะถูกดันกลับมาที่เดิมจนเกิดเสียงดัง ‘กึก’ ได้
  • เสียงเข่าลั่นจากเส้นเอ็นรอบๆ หัวเข่าที่มีความตึงมากๆ หรือกล้ามเนื้อรอบๆ ข้อเข่าตึงมากจนทำให้เส้นเอ็นที่เกาะรอบๆ ข้อเข่ามีความเครียดสูง ทำให้ข้อต่อแคบลงและมีเสียง ‘ป๊อป’ ซึ่งเป็นเสียงของอากาศที่แทรกออกจากเอ็นรอบๆ ข้อนั้น เสียงมักจะเกิดขณะมีการขยับหรือดึงข้อ เป็นเสียงลั่นป๊อปแล้วหายไป พอขยับต่อก็มักจะไม่มีเสียงอีก

 

เสียงเข่าลั่นเกิดจากอะไรบ้าง

โดยทั่วไปเสียงเข่าลั่นมักเกิดในผู้ที่มีอายุมากกว่า 55 ปีขึ้นไป ซึ่งเกี่ยวข้องกับภาวะข้อเสื่อม ลักษณะของเสียงมักจะเป็นเสียงที่ลั่นจากตัวข้อต่อ แต่ก็อาจจะมีเสียงจากเอ็นรอบๆ ร่วมด้วย เนื่องจากอายุที่มากขึ้น ร่างกายมีความเสื่อมไปตามกาลเวลา ร่วมกับการใช้งานตัวข้อต่อ ทั้งนั่ง ยืน เดิน วิ่ง หรือกระโดดมานาน ทำให้ตัวผิวข้อส่วนที่เป็นกระดูกอ่อนบางลงเรื่อยๆ น้ำในข้อเข่าลดลงและเกิดการเสียดสีของผิวข้อ ทำให้เกิดเสียงดังดังกล่าวได้ ทั้งนี้ การเสียดสีจะทำให้ขอบกระดูกของข้อเข่าค่อยๆ งอกเพิ่มขึ้น ทำให้ข้อดูใหญ่ขึ้นและเริ่มเจ็บนั่นเอง

 

แต่หากมีอาการเข่าลั่นตั้งแต่อายุยังไม่มากมักเกิดจากการใช้งานมากจนทำให้เกิดความผิดปกติในส่วนต่างๆ ของข้อเข่า ทั้งกระดูกตกร่อง กระดูกอ่อนผิวข้อกร่อน หรือแม้แต่กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นรอบๆ ตึงตัวกว่าปกติ ทั้งนี้ หากมีการใช้งานมากหรือน้อยเกินไปจนทำให้เกิดความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อก็ยิ่งทำให้เกิดเสียงในข้อเข่าได้มากขึ้น

 

เสียงเข่าลั่นในวัยทำงานเกิดจากอะไร

วัยรุ่นหรือวัยทำงานที่มีเข่าลั่นโดยทั่วไปมักไม่ได้เกิดจากความเสื่อม แต่เกิดจากการใช้งานข้อเข่ามากเกินไป ร่วมกับกล้ามเนื้อไม่สมดุล (Muscle Imbalance) โดยเฉพาะในกลุ่มกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า สะโพก และกล้ามเนื้อแกนกลาง ซึ่งจัดเป็นกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของข้อเข่า (Knee Stabilizer) ซึ่งหากกล้ามเนื้อ 3 กลุ่มนี้อ่อนแอหรือตึงตัวมาก จะทำให้การถ่ายน้ำหนักขณะยืนและเดินไม่ปกติ และแรงกระทำต่างๆ จะซับ (Force Loading) อยู่ที่ข้อเข่ามากกว่าปกติจนทำให้เกิดความผิดปกติของโครงสร้างได้ทั้ง 3 แบบดังที่กล่าวไปแล้ว และเกิดเสียงจากข้อเข่าได้ ซึ่งหากไม่จัดการการใช้ข้อต่ออย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้เจ็บในขณะใช้งาน รบกวนชีวิตประจำวัน รวมถึงการออกกำลังกายและเล่นกีฬา และยังทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วกว่าวัยอันควรได้

 

ความเสี่ยงในการเกิดเสียงเข่าลั่น

ความเสี่ยงในการเกิดเสียงเข่าลั่นในคนวัยทำงานมีหลายข้อ อาทิ การใช้ข้อต่อหนักเกินไปอย่างการออกกำลังกายที่มีการกระแทกเป็นประจำโดยไม่ได้ยืดเหยียดกล้ามเนื้อหรือเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อพยุงข้อเข่าและกล้ามเนื้ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สะโพกและแกนกลางลำตัว ตัวอย่างของคนกลุ่มนี้คือนักกีฬาวิ่งที่ไม่ได้มีการออกกำลังกายอื่นๆ เพื่อเสริมสมรรถภาพกล้ามเนื้อ

 

การมีกิจกรรมทางกายน้อย (Low Physical Activity)

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่นั่งทำงานนานๆ ในแต่ละวัน ทำให้กล้ามเนื้อหลังล่าง หน้าท้อง สะโพกและกล้ามเนื้อขา ตึงตัวและอ่อนแอลง ซึ่งกล้ามเนื้อ 3 ส่วนนี้มีผลในการพยุงตัวของข้อเข่า (Knee Stability) หากกล้ามเนื้อชุดนี้ไม่แข็งแรงและเกิดความไม่สมดุลก็จะทำให้เมื่อเรายืนหรือเดินน้ำหนักจะถูกซับที่ข้อเข่ามากกว่าปกติอย่างต่อเนื่องและเกิดเสียงในข้อเข่าได้ดังที่กล่าวมาแล้ว

 

ผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายเสริมกล้ามเนื้อต้นขามาก่อนจนทำให้กล้ามเนื้อต้นขาอ่อนแอ หากมีกิจกรรมที่ต้องยืนและเดินมาก หรือกระแทกบ่อยๆ กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้ามักจะมีความไม่สมดุลและทำให้สะบ้าเคลื่อนออกด้านนอกได้ง่ายและเกิดเสียงเมื่องอเข่าได้

 

การเกิดอุบัติเหตุที่ข้อเข่า

การเกิดอุบัติเหตุที่ข้อเข่าหรือเคยมีประวัติการบาดเจ็บ ฉีกขาดของเอ็นและหมอนรองกระดูกในข้อเข่า หากไม่ได้รับการรักษาหรือกายภาพบำบัดอย่างถูกต้องก็จะทำให้มีเสียงในข้อเข่าและเกิดภาวะเข่าเสื่อมได้เร็วขึ้น

 

หากเริ่มมีเสียงเข่าลั่นควรทำอย่างไร

เมื่อเริ่มได้ยินเสียงในข้อเข่าสิ่งแรกที่ควรสังเกตคือมีอาการเจ็บปวดหรือทำให้เดินผิดปกติหรือไม่ หากมีร่วมด้วยควรเริ่มปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจและวินิจฉัยได้เลย เนื่องจากอาการเจ็บมักเป็นสัญญาณของการอักเสบที่โครงสร้างใดๆ ในข้อเข่า เมื่อรักษาอาการอักเสบแล้วเสียงในข้อเข่าอาจจะหายไป แต่หากไม่หายไปก็ต้องแก้ไขปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะมีได้ดังที่กล่าวมาแล้ว เช่น การใช้งานหรือการออกกำลังกายที่ถูกวิธี แต่หากไม่มีอาการเจ็บเข่าร่วมด้วย การแก้ไขเบื้องต้นด้วยตัวเองนั้นสามารถทำได้โดยการปรับพฤติกรรม

 

เริ่มจากดูแลกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายยืดเหยียดกล้ามเนื้อรอบๆ เข่าและสะโพก เช่น การยืดกล้ามเนื้อต้นขาท่าเหยียดเข่าตรงและก้มลงแตะปลายเท้า ท่ายืนพับเข่าไปทางด้านหลังและจับไว้ การยืดกล้ามเนื้อน่องด้วยท่าดันกำแพงหรือนอนดึงผ้า การยืดเหยียดกล้ามเนื้อสะโพกด้วยท่าเลข 4 และกอดเข้าหาตัว เป็นต้น

 

ดูแลกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายเสริมกำลังกล้ามเนื้อรอบๆ ข้อเข่า เช่น การออกกำลังกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า (Quadriceps Exercise) โดยการนั่งบนเก้าอี้ที่มั่นคงและเหยียดเข่าตรงพร้อมกระดกข้อเท้าค้างไว้ ซึ่งสามารถหนีบลูกบอลไว้ระหว่างเข่าทั้ง 2 ข้างในขณะทำท่านี้เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อต้นขาด้านในให้ทำงานได้ดีขึ้นด้วย การออกกำลังกายกล้ามเนื้อรอบสะโพก เช่น ท่านอนยกก้น (Bridging) หรือท่าเปิดฝาหอย (Clamshell Exercise) โดยอาจจะทำ 10-15 วินาทีแล้วพัก ทำวันละ 30-50 ครั้งต่อข้าง พยายามให้มีกิจกรรมทางกาย (Physical Activity) ให้มากขึ้นและนั่งเป็นเวลาสั้นลงหากสามารถทำได้

 

หากมีการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา ควรมีการสลับการใช้ข้อต่อและกล้ามเนื้อ สลับชนิดกีฬาเพื่อลดการกระแทกอย่างต่อเนื่องซ้ำๆ ในข้อเข่าเพียงข้อเดียว เช่น วิ่งสลับกับว่ายน้ำ ทั้งนี้ ควรมีวันพักเพื่อให้ข้อต่อมีการฟื้นฟูที่เหมาะสม นอกจากนั้นการยืดเหยียดและการเวตเทรนนิ่งกล้ามเนื้อแกนกลาง สะโพก ขา และส่วนอื่นๆ ก็ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ทำงานออฟฟิศหรือเล่นกีฬา เพื่อลดโอกาสการเกิดกล้ามเนื้อไม่สมดุล ซึ่งเป็นสาเหตุของออฟฟิศซินโดรมและการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา รวมถึงการเจ็บเข่าและเข่าลั่นด้วย

 

ในการปรับพฤติกรรมและออกกำลังกายทั้ง 4 ข้อนี้สามารถเริ่มทำในทุกเพศวัย แม้ไม่มีอาการเข่าลั่นหรือเจ็บเข่าก็สามารถทำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเข่าลั่นหรือเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร แต่หากทำแล้วมีอาการมากขึ้นแนะนำให้พบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรักษา รวมทั้งปรับท่าทางและปรับโปรแกรมความหนักในการออกกำลังกายไม่ให้ผิดและหนักมากจนเกินไป

 

สรุปว่าอาการ ‘เข่าลั่น’ ในวัยทำงานนั้นไม่อันตราย แต่เป็นสัญญาณเตือนว่าต้องเริ่มหันกลับมาดูแลร่างกายให้มากขึ้น เพราะหากปล่อยเอาไว้เมื่ออายุมากขึ้นอาจจะทำให้เกิดอาการเข่าเสื่อมก่อนวัย ทั้งนี้ หากเริ่มออกกำลังกายอย่างถูกต้องตั้งแต่วันนี้ นอกจากจะสามารถแก้ปัญหาเข่าลั่นได้แล้ว ยังทำให้สุขภาพดีขึ้นได้ในระยะยาวอีกด้วย

The post ยังไม่แก่ แต่เข่าลั่นดังกรอบแกรบ จัดการอย่างไรดี? appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘Oomph’ เมนูใหม่ที่เต็มไปด้วยรสชาติของความครีเอทีฟที่ Canvas https://thestandard.co/life/oomph-creative-menu-canvas Fri, 22 Nov 2024 12:53:57 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1011807

Canvas น่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านที่เมื่อเราเห็นหน้าตาอ […]

The post ‘Oomph’ เมนูใหม่ที่เต็มไปด้วยรสชาติของความครีเอทีฟที่ Canvas appeared first on THE STANDARD.

]]>

Canvas น่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านที่เมื่อเราเห็นหน้าตาอาหารก็เดาได้ทันทีว่าเป็นของร้านใด และหลังจากไม่ได้กลับมาเยี่ยมเยียนเสียนาน รอบนี้เราได้โอกาสไปชิมเมนูใหม่ที่ทำให้รู้สึกทึ่งในตัวเชฟและทีมมากกว่าเดิมอีก เพราะแต่ละจานเต็มไปด้วยสีสันและองค์ประกอบที่ราวกับหลุดออกมาจากงานศิลปะ อีกทั้งทุกอย่างยังกินได้จริงและน่าสนุกทุกเมนู

 

 

เมนูใหม่รอบนี้มีชื่อว่า ‘Oomph’ เสิร์ฟอาหารทั้งหมด 28 คอร์ส ที่เต็มไปด้วยสีสัน รสชาติ และความซับซ้อน นำโดยเชฟไรลีย์ แซนเดอร์ส ผู้หลงใหลในการวาดภาพ เขาจึงระบายสีลงบนแคนวาสก่อนเปลี่ยนให้ภาพเหล่านั้นกลายเป็นอาหารที่เสิร์ฟในร้าน Canvas แห่งนี้ ซึ่งตลอดมื้อทุกคนจะได้ชมผลงานทั้งหมดวางคู่กับอาหารด้วย รวมถึงจานชามที่ทีมเชฟออกแบบใหม่ก็เป็นส่วนหนึ่งในงานศิลปะเช่นกัน

 

 

ถ้าให้เราเล่าทุกเมนูคงใช้เวลานานไปหน่อย เอาเป็นว่าขอหยิบเฉพาะจานที่เราชอบเป็นพิเศษแล้วกัน เริ่มจาก ‘Sea Crisp’ ที่ใช้สาหร่ายผักกาดทะเลจากจังหวัดเพชรบุรี เชฟนำมาทำเป็นแผ่นกรอบๆ ประกบกับซอสทำจากสแกลลอปและหอยนางรม ‘Lamb & Lobster’ เนื้อลูกแกะจากปากช่องและล็อบสเตอร์จากภูเก็ต เชฟนำมาทำคล้ายลาบดิบรสเปรี้ยวเผ็ด

 

 

‘227 Forms of Wagyu’ จานนี้ขอยกให้เป็นไฮไลต์ เพราะจุดเล็กๆ บนจาน 227 จุดคือเนื้อวากิวจากจังหวัดสกลนคร ครีมไข่เป็ด ต้นหอม รากผักชีดอง วาซาบิพิวเร ซอสเยลลี่ และซอสอูมามิ เวลากินให้กวาดทั้งหมดแล้วกินในคำเดียว

 

‘Squid Shaved Ice’ เป็นอีกเมนูที่เราชอบ เชฟใช้หมึกจากสุราษฎร์ธานีที่ทำให้สุกนิดหน่อย กินพร้อมผลไม้และไข่มุกหมึกดำ ส่วนน้ำแข็งไสสีดำทำมาจากพริก ฝรั่ง และหมึกดำ

 

 

‘Pearls’ หนึ่งในซิกเนเจอร์ของ Canvas คือคาเวียร์จากหัวหินจับคู่กับข้าวเหนียว ครั้งนี้เชฟใช้ใบชะพลูห่อข้าว และกินคู่กับซอสมะพร้าวผสมน้ำปลา ‘King & Queen’ ก็น่าสนใจ เพราะเป็นการจับคู่กันของปลาอินทรี (King Mackerel) จากสุราษฎร์ธานี กับราชินีแห่งผลไม้อย่างมังคุด แล้วยังมีสมุนไพรชื่อห่อวอ ซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองของชาวปกาเกอะญอด้วย

 

 

อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ ‘Sweet Sour Snail’ เป็นการจับคู่กันของเสาวรส ซีฟู้ด และชะอม โดยเวอร์ชันนี้เชฟใช้ทากทะเล กินคู่กับซอสเสาวรสและพริกจินดา ส่วน ‘Giant Catfish Curry’ ใช้ปลาจากสมุทรสาคร นำไปแช่น้ำเกลือ เอจ และย่างถ่าน ก่อนเคลือบด้วยซอสรสชาติอูมามิ ห่อใบชิโซะเคลือบน้ำมันขมิ้น และท็อปด้วยไข่ปลา

 

 

‘Punchy Pigeon Breast’ จานนี้เราชอบเพราะเหมือนถาดสีของศิลปิน เป็นเมนูเนื้อพิราบจากกาญจนบุรี กินคู่กับมัลเบอร์รี ขึ้นฉ่าย และมิโซะทำจากผลกาแฟ โกโก้ และพริก

 

 

อีกจานไฮไลต์ที่เราชอบมาก ‘Oomph Soup’ เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากชาบู จึงทำจานปีกกว้างที่มีหลุมลึกตรงกลางไว้เทซุปร้อนๆ ซึ่งเสน่ห์ของเมนูนี้อยู่ตรงวัตถุดิบรอบๆ ที่ควรเริ่มกินจากด้านบนสุดก่อนวนไปตามเข็มนาฬิกา เพราะเชฟตั้งใจเรียงมาให้ตามรสชาติเบาไปหนัก เวลากินให้ตักเนื้อและผักพร้อมซอส ก่อนซดน้ำซุปดาชิมะเขือเทศรมควันตาม

 

 

‘Black Black Rice’ เป็นจานของหวานที่เชฟนำข้าวสีนิลจากสุรินทร์ไปหุงนาน 2 เดือน จนเกิดรสชาติใหม่และมีสีดำเข้ม เสิร์ฟให้กินพร้อมลูกหว้าหมักในน้ำสตรอว์เบอร์รีและเหล้าน้ำผึ้ง

 

‘Honey Honeycomb Cake’ ขนมจานสุดท้ายเป็นเค้กยีสต์ที่เนื้อสัมผัสเหมือนรังผึ้ง โดยตัวเค้กทำจากแป้งข้าวเหนียวและกะทิ ผสมอีสานรัม นำไปอบจนผิวด้านนอกกรอบ และราดด้วยน้ำผึ้งป่าจากนครสวรรค์อีกที

 

Canvas เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งที่ควรลองสักครั้ง เพราะทั้งอาหาร ความสร้างสรรค์ และรสชาติ เราว่ามีเอกลักษณ์ไม่เหมือนร้านไหน โดยคอร์สเมนู Oomph ราคา 6,900++ บาทต่อคน

 

สอบถามหรือจองที่นั่งได้ที่ Canvas (แท็ก https://www.facebook.com/Canvasbkk)

 

The post ‘Oomph’ เมนูใหม่ที่เต็มไปด้วยรสชาติของความครีเอทีฟที่ Canvas appeared first on THE STANDARD.

]]>
Bangkok Pains บอร์ดเกมจำลองชีวิตในกรุงเทพฯ เล่นจริง เจ็บจริง จนของจริง! https://thestandard.co/life/bangkok-pains-board-games Fri, 22 Nov 2024 03:58:55 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1011453 Bangkok Pains

จะมีบอร์ดเกมไหนที่จำลองวิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ เมืองเทพสร้า […]

The post Bangkok Pains บอร์ดเกมจำลองชีวิตในกรุงเทพฯ เล่นจริง เจ็บจริง จนของจริง! appeared first on THE STANDARD.

]]>
Bangkok Pains

จะมีบอร์ดเกมไหนที่จำลองวิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ เมืองเทพสร้าง ได้ดีเท่าเกมนี้

 

Bangkok Pains: The Board Game เป็นบอร์ดเกมจากกลุ่ม Invisible Ink ที่สะท้อนทุกมิติชีวิตในกรุงเทพฯ ตั้งแต่เรื่องสนุกยันเรื่องเซ็ง เริ่มต้นจากโพสต์ขำๆ เมื่อ April Fools’ Day จนกลายมาเป็นบอร์ดเกมของจริง จำลองชีวิตคนกรุงชนิดที่ว่ามีทั้งสุขทั้งทุกข์ในเกมเดียว ไม่ว่าจะเป็นรถติดยาวเหยียด ค่าเช่าที่พุ่งไม่หยุด หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิด แต่ก็ยังมีช่วงเวลาเล็กๆ ที่เราได้ยิ้มกับตัวเอง (ถ้าโชคดีพอ)

 

วิธีการเล่นเกมและกฎกติกาก็ง่ายมาก รวมเพื่อนมาให้ได้ 2-6 คน แล้วแข่งกันว่าใครจะมีชีวิตรอดในกรุงเทพฯ ได้ครบปี พร้อมเงินในกระเป๋ามากที่สุด! ผู้เล่นจะต้องจับการ์ด Career และหวังว่าเงินเดือนจะพอจ่ายค่าเช่าเดือนนี้ พร้อมจั่วการ์ด Pain หรือ Gain รับมือทั้งเรื่องดีและร้ายที่อาจทำให้คุณหัวเราะทั้งน้ำตา

 

เกมนี้มาพร้อมกระดานเล่น, ลูกเต๋า 2 ลูก, ตัวหมาก 6 ตัว, การ์ด 80 ใบ, ธนบัตร และคู่มือ สนนราคาอยู่ที่ 1,999 บาท (จำนวนจำกัด)

 

บอกเลยว่าเล่นไปเล่นมาอาจน้ำตาตกในได้ เพราะชีวิตจริงกับในเกมแทบไม่ต่างกันเลย

 

พร้อมแล้วหรือยังที่จะรับมือกับกรุงเทพฯ ที่แท้จริง?

 

ภาพ: Invisible Ink

The post Bangkok Pains บอร์ดเกมจำลองชีวิตในกรุงเทพฯ เล่นจริง เจ็บจริง จนของจริง! appeared first on THE STANDARD.

]]>
รู้จัก NONFICTION ศิลปะแห่งความหอมฉบับ Clean Beauty https://thestandard.co/life/nonfiction-clean-beauty-fragrance Thu, 21 Nov 2024 13:54:31 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1011338

หากนิยาย (Fiction) คือประตูที่เปิดสู่โลกแห่งจินตนาการ N […]

The post รู้จัก NONFICTION ศิลปะแห่งความหอมฉบับ Clean Beauty appeared first on THE STANDARD.

]]>

หากนิยาย (Fiction) คือประตูที่เปิดสู่โลกแห่งจินตนาการ Non-fiction คือกระจกบานใหม่ที่สะท้อนแก่นแท้ของเรื่องราวในชีวิตคุณ ใครก็ตามที่กำลังมองหาน้ำหอมที่ไม่เพียงมอบกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ มอบไวบ์ของช่วงเวลาอันบริสุทธิ์และเป็นส่วนตัวที่สุดในชีวิตประจำวัน THE STANDARD LIFE ขอแนะนำ NONFICTION แบรนด์น้ำหอม Clean Beauty สัญชาติเกาหลีใต้ ที่โดดเด่นด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีอันตรายกว่า 17 ชนิด พร้อมดีไซน์สุดมินิมัลที่จะพาคุณกลับมาค้นพบจุดมุ่งหมายและความหมายของตัวเอง มาร่วมสัมผัสกับ NONFICTION แบรนด์น้ำหอมที่จะเปลี่ยนมุมมองความงามของคุณให้มีความหมายมากกว่าแค่กลิ่นหอมผ่านเรื่องราวฉบับเจาะลึกดังต่อไปนี้

 

 

What is it?

NONFICTION คือแบรนด์น้ำหอมสไตล์ Clean Beauty ที่ก่อตั้งโดย Cha Haeyoung (ชาแฮยอง) ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้างแบรนด์ที่มากกว่าความหอม แต่เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกถึงตัวตน ทุกผลิตภัณฑ์ถูกพัฒนาโดยนักปรุงน้ำหอมระดับโลก ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงและปลอดภัย โดยเฉพาะการตีความกลิ่นไม้คลาสสิกแบบใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในวงการน้ำหอมเกาหลี

 

 

The Ingredients

ไฮไลต์สำคัญของแบรนด์อยู่ที่การยึดมั่นในแนวคิด Clean Beauty โดยทุกผลิตภัณฑ์ได้รับการพัฒนาภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ด้วยการคัดสรรส่วนผสมจากธรรมชาติ (Plant-based) และการตัดส่วนผสมที่เป็นอันตรายออกทั้งหมด โดยเฉพาะสารเคมีอันตราย 17 ชนิด เช่น ซัลเฟต พาราเบน และพทาเลต ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ NONFICTION เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว นอกจากนี้ทุกกลิ่นหอมยังผ่านการพัฒนาจากนักปรุงน้ำหอมระดับโลก เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูงสุดและคงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์

 

 

The Product Range

NONFICTION มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้ โดยนอกจากน้ำหอมที่มีให้เลือกสองขนาดคือ 30 ml และ 100 ml แล้ว แบรนด์ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย ผลิตภัณฑ์ดูแลมือ เครื่องหอมสำหรับบ้าน และผลิตภัณฑ์สำหรับเดินทาง ทั้งหมดนี้ได้รับการออกแบบให้กลมกลืนกับชีวิตประจำวันของผู้ใช้ พร้อมมอบประสบการณ์ความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ในทุกช่วงเวลา

 

 

Me-time Essentials

NONFICTION ไม่เพียงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่ยังมุ่งสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่แตกต่าง ด้วยการออกแบบ Concept Store ให้มีบรรยากาศเสมือน Art Gallery ที่มอบความสงบท่ามกลางชีวิตเมืองอันวุ่นวาย นอกจากนี้ยังมี Gift Shop ภายใต้แนวคิด ‘Me-time Essentials’ ที่รวบรวมสินค้าคุณภาพสูงเพื่อเติมเต็มช่วงเวลาพิเศษของทุกคน

 

 

ภาพ: Courtesy of NONFICTION

 

The post รู้จัก NONFICTION ศิลปะแห่งความหอมฉบับ Clean Beauty appeared first on THE STANDARD.

]]>
รู้จักการหายใจแบบกล่อง (Box Breathing) เทคนิคสู่ความสงบและมีสมาธิ https://thestandard.co/life/box-breathing-technique-for-focus Thu, 21 Nov 2024 13:39:33 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1011325

การหายใจแบบกล่อง หรือ Box Breathing เป็นเทคนิคการหายใจท […]

The post รู้จักการหายใจแบบกล่อง (Box Breathing) เทคนิคสู่ความสงบและมีสมาธิ appeared first on THE STANDARD.

]]>

การหายใจแบบกล่อง หรือ Box Breathing เป็นเทคนิคการหายใจที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการทหาร โดยเฉพาะในหน่วย Navy SEAL ของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากประสิทธิภาพในการควบคุมอารมณ์และจิตใจในสถานการณ์กดดัน การฝึกหายใจแบบนี้ช่วยให้ทหารสามารถรักษาความสงบและมีสติในภาวะคับขัน สามารถตัดสินใจได้แม่นยำ และลดความวิตกกังวลที่อาจเกิดขึ้นในสถานการณ์อันตราย นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างความอดทนทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทำให้สามารถปฏิบัติภารกิจที่ยากลำบากได้มีประสิทธิภาพ

 

ชื่อเรียก ‘การหายใจแบบกล่อง’ มาจากรูปแบบการหายใจที่แบ่งเป็น 4 ขั้นตอนเท่าๆ กัน เหมือนด้านทั้ง 4 ของกล่องนั่นเอง บ้างก็เรียกอีกอย่างว่าการหายใจแบบสี่เหลี่ยม (Square Breathing) หรือ Sama Vritti Pranayama (สมา วฤตติ ปราณยามะ) คือการฝึกลมหายใจด้วยจังหวะที่เท่ากันอย่างสมดุล แต่ไม่ใช่แค่หน่วย SEAL เท่านั้นที่ฝึกได้ คนธรรมดาอย่างเราๆ ก็ฝึกเพื่อช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย และมีสมาธิได้เช่นกัน

 

การหายใจแบบกล่อง (Box Breathing) คืออะไร

 

การหายใจแบบกล่องหรือที่เรียกอีกอย่างว่าการหายใจแบบสี่เหลี่ยม (Square Breathing) หรือ Sama Vritti Pranayama (สมา วฤตติ ปราณยามะ) เป็นเทคนิคการหายใจแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย โดยอาศัยการหายใจเข้า หายใจออก และกลั้นหายใจในช่วงเวลาที่เท่ากันจนเกิดเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เหมือนการวาดรูปสี่เหลี่ยมนั่นเอง


ประโยชน์ของการหายใจแบบกล่อง

 

การฝึกเทคนิคนี้สม่ำเสมอช่วยลดความเครียด บรรเทาอาการวิตกกังวล เพิ่มสมาธิ และปรับสมดุลระบบประสาทอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น ลดความดันโลหิต และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบหายใจ เทคนิคนี้สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษใดๆ

 

มาฝึกการหายใจแบบกล่องกันเถอะ

 

  1. เริ่มต้นด้วยการนั่งหลังตรง ผ่อนคลายไหล่และคอ หายใจออกยาวๆ เพื่อไล่อากาศในปอดออกให้หมด
  2. หายใจเข้าช้าๆ ลึกๆ ทางจมูก นับ 1-4 ในใจ สังเกตการเติมอากาศเข้าสู่ปอดในแต่ละจังหวะการนับ
  3. กลั้นหายใจ นับ 1-4 ในใจ รักษาความสงบและผ่อนคลายของร่างกาย
  4. หายใจออกช้าๆ ทางปาก นับ 1-4 ในใจ พยายามไล่อากาศออกจากปอดให้หมด
  5. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1-4 อย่างน้อย 5-10 รอบ หรือจนกว่าจะรู้สึกผ่อนคลาย

 

มือใหม่ควรเริ่มต้นอย่างไร

 

สำหรับผู้ที่เริ่มต้นฝึกการหายใจแบบกล่องควรเลือกสถานที่ที่เงียบสงบ ปราศจากสิ่งรบกวน เพื่อให้สามารถมีสมาธิจดจ่อกับการหายใจอย่างเต็มที่ ในช่วงแรกอาจเริ่มต้นด้วยการนับที่ช้ากว่า 4 จังหวะ เช่น 3 จังหวะ แล้วค่อยๆ เพิ่มความยาวของการนับตามความเหมาะสม หากระหว่างการฝึกรู้สึกเวียนศีรษะหรือไม่สบายตัวให้หยุดพักและกลับมาหายใจตามปกติก่อน เมื่อรู้สึกดีขึ้นจึงเริ่มฝึกใหม่ ที่สำคัญควรฝึกสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 5-10 นาที เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฝึกหายใจแบบนี้

 

การหายใจแบบกล่องเป็นเทคนิคที่ทรงประสิทธิภาพในการจัดการความเครียดและเพิ่มสมาธิ ด้วยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ คุณจะสามารถใช้เทคนิคนี้เป็นเครื่องมือในการดูแลสุขภาพกายและใจได้อย่างยั่งยืน เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน คนทำงาน หรือผู้สูงอายุ การหายใจแบบกล่องจึงเป็นทักษะที่ควรค่าแก่การเรียนรู้และนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

 

The post รู้จักการหายใจแบบกล่อง (Box Breathing) เทคนิคสู่ความสงบและมีสมาธิ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชวนจิบค็อกเทลสุดพิเศษที่รังสรรค์มาเพื่อเทศกาลเฉลิมฉลองในแคมเปญ ‘IHG One Rewards Dining Privileges’ พร้อมข้อเสนอ Restaurant Month ตลอดเดือน พ.ย. 67 [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/life/ihg-one-rewards-dining-privileges Thu, 21 Nov 2024 12:30:20 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1011243

เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองกำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง และเพื่อใ […]

The post ชวนจิบค็อกเทลสุดพิเศษที่รังสรรค์มาเพื่อเทศกาลเฉลิมฉลองในแคมเปญ ‘IHG One Rewards Dining Privileges’ พร้อมข้อเสนอ Restaurant Month ตลอดเดือน พ.ย. 67 [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองกำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง และเพื่อให้ประสบการณ์ความสุขของคุณพิเศษยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ‘IHG Hotels & Resorts’ ชวนนักชิมไปเพลิดเพลินกับความหลากหลายของร้านอาหารและบาร์ชั้นเลิศในเครือ IHG ทั่วประเทศไทย ที่ร่วมแคมเปญ ‘IHG One Rewards Dining Privileges’

 

ออกเดินทางสัมผัสเมนูพิเศษในราคาสุดคุ้มด้วยข้อเสนอ Restaurant Month ครั้งแรก และเครื่องดื่มที่รังสรรค์มาเพื่อช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ณ บาร์ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ พร้อมสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะสมาชิก ‘IHG One Rewards’

 

 

21 พฤศจิกายน 2567: เช็กอิน 3 บาร์ชั้นนำในกรุงเทพฯ กับกิจกรรม ‘One Night in Bangkok’

 

มาทำให้ One Night in Bangkok ของคุณพิเศษกว่าทุกครั้ง กับบาร์ชั้นนำ 3 แห่งที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ พร้อมค็อกเทลสุดสร้างสรรค์และโมเมนต์น่าจดจำเพื่อต้อนรับเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีภายใต้กิจกรรม ‘One Night in Bangkok’ ของ IHG

 

  • Bar.Yard: Kimpton Maa-Lai Bangkok

ปาร์ตี้สุดมันท่ามกลางบาร์สุดชิคบนดาดฟ้าชั้น 40 ใจกลางเมือง รายล้อมไปด้วยหมู่ดาวและแสงไฟยามค่ำคืนของมหานครกรุงเทพฯ ภายใต้คอนเซปต์ ‘LIGHTS OUT’ ที่ได้ Kid Massive และ Mikey Mike ดีเจชื่อดังจัดเต็มความสนุกทุกแนวเพลง พร้อมการแสดงสุดเร้าใจจากนักเต้นและลีลาการบรรเลงเพอร์คัชชันที่หาดูได้ยาก ตั้งแต่เวลา 21.00-01.00 น.

 

  • CHAR Bangkok: Hotel Indigo Bangkok Wireless Road

ลิ้มรสชาติเมนูคานาเป้สุดพิเศษที่รังสรรค์โดย เชฟนุช-วรนุช ยศสุขสังข์ ผู้ท้าชิง IRON CHEF Thailand 2024 เคล้าเสียงดนตรีจากดีเจ ท่ามกลางทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ บนรูฟท็อปบาร์สุดเก๋แห่งแรกบนถนนวิทยุ ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น.

 

  • ROGUES: InterContinental Bangkok Sukhumvit

กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อคนรักค็อกเทลโดยเฉพาะ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Sipping Through Asia’ ที่ได้ Chris Jang เจ้าของและหัวหน้าบาร์เทนเดอร์ของ Gu Seoul ประเทศเกาหลีใต้ มารังสรรค์ค็อกเทลที่สะท้อนวิถีชีวิตยามค่ำคืนของเกาหลีใต้ ให้คุณดื่มด่ำรสชาติสุดเอ็กซ์คลูซีฟไปพร้อมๆ กับชมการแสดงสุดพิเศษ เริ่มตั้งแต่เวลา 20.00-23.00 น.

 

สมาชิก IHG One Rewards อย่าพลาดที่จะลุ้นรางวัลพิเศษ รวมถึงที่พักและการรับประทานอาหารในเครือ IHG ทั่วประเทศไทยกับ ‘IHG One Rewards Dining Privileges’ ด้วยการสะสมตราประทับจาก 3 บาร์ข้างต้น ได้ตั้งแต่วันที่ 21-30 พฤศจิกายน 2567

 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ One Night in Bangkok ได้ที่ https://bit.ly/IHGOneNightInBKK

 

 

22 พฤศจิกายน 2567: จิบค็อกเทลสุดพิเศษจากบาร์เทนเดอร์ระดับท็อปแห่งเอเชียกับ ‘The Asian Journey Guest Shift’

 

ครั้งแรกที่คุณจะได้จิบค็อกเทลสุดพิเศษที่รังสรรค์โดย 4 นักออกแบบเครื่องดื่มระดับท็อปแห่งเอเชียจาก 3 ประเทศ ภายในค่ำคืนเดียว เพราะนี่คือความพิเศษที่สมาชิก IHG One Rewards จะได้ร่วมสนุกไปกับกิจกรรม ‘The Asian Journey Guest Shift’ ที่ ROGUES โรกส์ บาร์ค็อกเทลตกแต่งสไตล์อาร์ตเดโคเอเชียผสมผสานกับเสน่ห์ของย่านต่างๆในกรุงเทพฯ บนชั้น 2 ของ InterContinental Bangkok Sukhumvit

 

เมนูที่สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ 4 นักออกแบบเครื่องดื่มทั้ง 3 ประเทศ จะถูกนำเสนอใน 3 ช่วงเวลาตลอดค่ำคืน เริ่มจาก

 

  • 17.00 น. แบงค์-ดิเรก วัฒนผลมงคล เจ้าของฉายา ‘King of Classic’ ตัวแทนจากเมืองไทยที่เลื่องชื่อด้านการสร้างสรรค์ค็อกเทลสุดคลาสสิกให้มีความซับซ้อนและลุ่มลึก
  • 19.00 น. Treyna Zhang แบรนด์แอมบาสเดอร์แห่ง The Orientalist Spirits จากสิงคโปร์ ผู้เชี่ยวชาญเทคนิคการบ่มหมักสุดล้ำลึกและการเล่นเลเยอร์รสชาติที่โดดเด่น
  • 21.00 น. Mason Park และ Diana Hwang จาก Seoul’s Alice บาร์ชั้นนำระดับท็อปอันดับ 46 ของเอเชีย ที่มีชื่อเสียงด้านการสร้างสรรค์ค็อกเทลในรูปแบบแฟนตาซีและการนำเสนอที่น่าตื่นตาตื่นใจ

 

แพ็กเกจสุดพิเศษ ‘3 แก้ว ราคา 700 บาท’ สายค็อกเทลที่ไม่ได้เป็นสมาชิก IHG One Rewards ก็สามารถเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษครั้งนี้ได้ แต่สำหรับสมาชิก IHG One Rewards จะได้รับคะแนนสองเท่าสำหรับยอดใช้จ่ายทั้งหมดที่ ROGUES  ตั้งแต่เวลา 17.00-00.00 น.

 

 

ตลอดเดือนพฤศจิกายน: เพลิดเพลินไปกับเมนูอาหารและสิทธิพิเศษกับ ‘IHG One Rewards Dining Privileges Restaurant Month’

 

ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2567 อย่าพลาดที่จะไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ กับเมนูที่ร้านอาหารในเครือ IHG ตั้งใจครีเอตมาเป็นพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี

 

เลือกได้ระหว่าง ‘เมนูมื้อกลางวัน 2 คอร์ส’ หรือ ‘เมนูมื้อค่ำ 3 คอร์ส’ หรือจะเลือกเป็น ‘เมนูพิเศษในช่วงเวลาจำกัด’ ทั้งหมดนี้ลดราคาขั้นต่ำ 25% จากเมนูจานเดี่ยวในราคาปกติ

 

นอกจากนี้ยังสามารถซื้อบัตรรับประทานอาหารในราคาลด 25% เพื่อกลับมาเพลิดเพลินกับร้านอาหารที่ร่วมรายการอื่นๆ ได้อีก ใช้ได้จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2567

 

คุณเองก็มีโมเมนต์สุดพิเศษในฐานะสมาชิก IHG One Rewards ได้!

 

‘IHG One Rewards’ เป็นโปรแกรมสะสมคะแนนชั้นนำของ IHG Hotels & Resorts ผู้ให้บริการด้านการบริการระดับโลกซึ่งมีโรงแรมในเครือ 19 แบรนด์

 

โดยมีโปรแกรมสะสมคะแนน ‘IHG One Rewards’ ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรแกรมสมาชิกโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มาช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้เข้าพักและมอบสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น สมาชิกสามารถสะสมคะแนนจากการรับประทานอาหารหรือการเข้าพักและนำไปแลกรับ Reward Nights ในเครือโรงแรม IHG 19 แบรนด์ มากกว่า 6,500 แห่ง ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

 

ที่สำคัญ สมัครสมาชิกได้ฟรี เพื่อปลดล็อกสิทธิประโยชน์และยกระดับประสบการณ์มื้ออาหารหรือการเข้าพักครั้งถัดไปกับ IHG Hotels & Resorts ได้ทันที

 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรม การจองห้องพัก และ IHG One Rewards ได้ที่ https://www.ihgplc.com/ หรือดาวน์โหลดแอป IHG One Rewards ได้ที่ App Store หรือ Google Play

The post ชวนจิบค็อกเทลสุดพิเศษที่รังสรรค์มาเพื่อเทศกาลเฉลิมฉลองในแคมเปญ ‘IHG One Rewards Dining Privileges’ พร้อมข้อเสนอ Restaurant Month ตลอดเดือน พ.ย. 67 [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดเส้นทาง 60 ปีของคาโอ สู่การสร้างและส่งต่อรอยยิ้มให้กับโลก [PR NEWS] https://thestandard.co/life/60-years-of-kao Thu, 21 Nov 2024 09:00:06 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1008605

  ใครจะรู้ว่าผลิตภัณฑ์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เช […]

The post เปิดเส้นทาง 60 ปีของคาโอ สู่การสร้างและส่งต่อรอยยิ้มให้กับโลก [PR NEWS] appeared first on THE STANDARD.

]]>

 

ใครจะรู้ว่าผลิตภัณฑ์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เช่น ผงซักฟอก แชมพู หรือน้ำยาล้างห้องน้ำ จะมีเรื่องราวที่น่าสนใจซ่อนอยู่เบื้องหลัง?

 

วันนี้เราจะพาคุณย้อนเวลาไปสำรวจเส้นทาง 60 ปีของคาโอ บริษัทที่อยู่เบื้องหลังรอยยิ้มของคนไทย ผ่านผลิตภัณฑ์ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันตั้งแต่คนรุ่นปู่ย่าจนถึงปัจจุบัน

 

 

ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา คาโอเติบโตเคียงข้างคนไทยมาโดยตลอด ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการในการดูแลความสะอาดและสุขอนามัยของคนในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็น แอทแทค ผงซักฟอกที่ช่วยให้เสื้อผ้าสะอาดหมดจด, ไฮเตอร์ ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบฝังลึก, มาจิคลีน น้ำยาทำความสะอาด หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าอย่าง ​บิโอเร ที่ช่วยปกป้องผิวหน้าจากแสงแดด และสินค้าอื่นๆ ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันอีกมากมาย

 

จากแชมพูสู่การสร้างสรรค์รอยยิ้ม

 

 

จุดเริ่มต้นของคาโอในประเทศไทย คือการผลิตและจำหน่ายแชมพูแฟซ่า ใน พ.ศ. 2508 แต่ด้วยความตั้งใจที่จะพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์เรื่อง ‘สุขอนามัยและการปกป้อง (Hygiene and Protection)’ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม

 

ทำให้คาโอมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานถึง 60 ปี โดยดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด ‘Yoki-Monozukuri’ ของ ‘คาโอ’ หรือการสร้างสรรค์สิ่งดี การเข้าใจความต้องการและคุณค่าของผู้บริโภคและลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคและลูกค้าอย่างแท้จริง

 

มากกว่าผลิตภัณฑ์คือการดูแลสังคม

 

นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว คาโอยังไม่ลืมใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลัก ESG คือ สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลกิจการที่ดีและบริหารงานอย่างโปร่งใส (Environmental, Social และ Governance) เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ โดยการใช้กลยุทธ์ 4Rs กับบรรจุภัณฑ์เพื่อลดปริมาณขยะและการส่งเสริมการรีไซเคิล รวมถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

 

นอกจากนี้คาโอยังมีส่วนร่วมในการดูแลสังคมผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งการสนับสนุนการศึกษา การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และลดการแพร่ระบาดโรคติดเชื้ออย่างโรคไข้เลือดออก

 

 

Saving Future Smiles Workshop: เมื่อเด็กๆ ร่วมสร้างสรรค์อนาคต

 

หนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจของคาโอในปีนี้คือ ‘โครงการ Saving Future Smiles Workshop’ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ให้ความรู้ด้าน ESG และเชิญชวนเด็กไทยที่ได้รับรางวัลจากโครงการประกวดภาพวาดสิ่งแวดล้อมนานาชาติระดับเยาวชน โดยคาโอมาร่วมสร้างผลงานศิลปะที่สะท้อนถึงจินตนาการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปใช้ในการออกแบบสื่อบนชุดโต๊ะส่งเสริมการเรียนรู้ซึ่งผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เพื่อส่งมอบให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 60 แห่งทั่วประเทศ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ คาโอร่วมกับร้านไทยสมบูรณ์ซุปเปอร์ นำร่องส่งมอบที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาวัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้เด็กๆ ใช้เป็นพื้นที่เรียนรู้และส่งเสริมการอ่านในห้องสมุด

 

 

นิทรรศการคาโอ 60 ปี: แรงบันดาลใจเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

 

เพื่อเป็นการตอกย้ำการพัฒนาเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน คาโอจัดนิทรรศการ ‘คาโอ 60 ปี Saving Future Smiles’ นิทรรศการที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของคาโอในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้คน (People) และโลกใบนี้ (Planet) ผ่านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด ESG ที่ช่วยปกป้องดูแลสุขอนามัยของคนไทย และยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม นิทรรศการประกอบด้วยการจัดแสดงผลงานศิลปะที่สะท้อนถึงเสียงของเยาวชนต่อโลกที่พวกเขาอยากจะให้เป็น ‘โครงการประกวดภาพวาดสิ่งแวดล้อมนานาชาติ ระดับเยาวชน โดยคาโอ’ เพื่อสะท้อนมุมมองของเยาวชนที่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลโลก และยังช่วยปลุกจิตสำนึกและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชมหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม

 

 

งานศิลปะจากวัสดุรีไซเคิล (Upcycling Plastic) โดยศิลปินมากฝีมืออย่าง Melt District, Asazak, Benzilla และ Short but very very cute โดย พลอย หอวัง มาร่วมออกแบบ โดยมีบรรจุภัณฑ์ของคาโอที่ถูกใช้งานแล้วมาเป็นส่วนผสมในการรังสรรค์ชิ้นงานเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับขยะพลาสติก และกลายเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วยชุบชีวิตขยะให้กลับมาเป็นของมีค่าอีกครั้ง

 

 

และยังพบกับสินค้าคาโอรักษ์โลกจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงสินค้ารักษ์โลกจากคาโอที่วางจำหน่ายในประเทศไทย แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าสินค้าภายในครัวเรือนของเราก็มีส่วนช่วยโลกได้อย่างไรบ้าง

 

 

อีกไฮไลต์ของงานนี้คือการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากนวัตกรรมใหม่ๆ ของคาโอ ที่จะทำให้แต่ละวันของคุณสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยมีการสาธิตและทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จากคาโอที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค

 

 

อนาคตของคาโอสู่ความยั่งยืนของโลก

 

60 ปีของคาโอ คือเรื่องราวของการเติบโตและการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับคนไทย และสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนให้กับโลกใบนี้ คาโอไม่ได้เป็นเพียงแค่แบรนด์ผลิตภัณฑ์ แต่ยังเป็นองค์กรที่ใส่ใจในสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนให้กับทุกคน

The post เปิดเส้นทาง 60 ปีของคาโอ สู่การสร้างและส่งต่อรอยยิ้มให้กับโลก [PR NEWS] appeared first on THE STANDARD.

]]>
The Outpost Hotel Sentosa โรงแรมวิวทะเล เดินเที่ยวได้ทั้งเกาะ https://thestandard.co/life/the-outpost-hotel-sentosa Thu, 21 Nov 2024 06:18:57 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1011112 The Outpost Hotel Sentosa

สำหรับคนที่กำลังมองหาที่พักสุดชิคในสิงคโปร์และไม่ได้อยา […]

The post The Outpost Hotel Sentosa โรงแรมวิวทะเล เดินเที่ยวได้ทั้งเกาะ appeared first on THE STANDARD.

]]>
The Outpost Hotel Sentosa

สำหรับคนที่กำลังมองหาที่พักสุดชิคในสิงคโปร์และไม่ได้อยากพักโรงแรมในตัวเมือง แต่ยังคงความหรูหราและการบริการระดับพรีเมียม เราขอแนะนำ The Outpost Hotel Sentosa โรงแรมบูติกที่จะพาคุณหลีกหนีความวุ่นวายไปพักผ่อนบนเกาะเซนโตซาในบรรยากาศสบายๆ ที่ยังคงความหรูหราและทันสมัย

 

 

ห้องพักที่นี่มีให้เลือกหลายแบบ แต่ละห้องตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นหรูหรา เน้นโทนสีขาว-ดำที่ดูสะอาดตา ได้กลิ่นอายความเป็นบูติกโฮเทล พื้นที่ภายในห้องพักแบ่งสัดส่วนชัดเจน มีห้องที่เห็นวิวทะเลสวยๆ ได้อย่างเต็มตาด้วย

 

 

ความพิเศษคือทุกห้องมาพร้อมมินิบาร์ที่เราสามารถเลือกหยิบได้เองว่าอยากได้อะไร ไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยว ช็อกโกแลต เครื่องดื่ม ล้วนแต่พรีเมียม ส่วนชาและกาแฟก็มีบริการภายในห้องพัก

 

 

ส่วนด้านอาหาร ที่นี่มีห้องอาหารที่น่าสนใจ ได้แก่ Sol & Ora เสิร์ฟอาหารเมดิเตอร์เรเนียน และ 1-Altitude Coast Rooftop Pool & Bar บนชั้น 7 ที่คุณจะได้แช่ตัวในสระว่ายน้ำอินฟินิตีพร้อมชมวิวทะเลแบบพาโนรามา หรือจะนั่งจิบค็อกเทลเก๋ๆ ริมสระ ก็ให้ความรู้สึกที่พิเศษกว่าโรงแรมในเมืองอันแสนพลุกพล่าน

 

Sol & Ora

 

1-Altitude Coast Rooftop Pool & Bar

 

Why here?

 

จุดเด่นของ The Outpost Hotel Sentosa คือบรรยากาศรอบด้านที่เงียบสงบ ให้ความรู้สึกถึงการมาท่องเที่ยวตากอากาศที่หลบหนีจากความวุ่นวาย เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง แถมยังตั้งอยู่ในทำเลดีเยี่ยม ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวดังๆ บนเกาะเซนโตซาอย่าง Universal Studios, S.E.A. Aquarium และ Adventure Cove Waterpark

 

 

Worth it

 

  • ดีไซน์โรงแรมที่ทันสมัย สะอาดตา ให้ความรู้สึกเอ็กซ์คลูซีฟตั้งแต่ก้าวเข้ามา
  • มองเห็นวิวทะเลสวยๆ จากห้องพักและพื้นที่ส่วนกลาง โดยเฉพาะจากสระว่ายน้ำบนดาดฟ้า
  • บริการรถรับ-ส่งฟรีไปยังจุดท่องเที่ยวสำคัญบนเกาะ ช่วยประหยัดค่าเดินทางได้อีกด้วย

 

Good for

 

เหมาะสำหรับคู่รัก แก๊งเพื่อนสาว หรือใครที่อยากมีทริปพักผ่อนแบบชิลๆ ในบรรยากาศหรูหรา เงียบสงบ แต่ก็ยังเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นมินิมัลรับรองว่าไม่เหมือนโรงแรมใดในสิงคโปร์ที่คุณเคยพักมา

 

The Outpost Hotel Sentosa 

Location: 10 Artillery Avenue, Sentosa Island, Singapore

Budget: ราคาโดยประมาณเริ่มต้นที่ 6,000 บาทต่อคืน

Website: www.theoutposthotel.com.sg

 

 

ภาพ: The Outpost Hotel Sentosa

The post The Outpost Hotel Sentosa โรงแรมวิวทะเล เดินเที่ยวได้ทั้งเกาะ appeared first on THE STANDARD.

]]>
อาหารไทยจับคู่ไวน์ไทย TAAN x GranMonte เสิร์ฟเพียง 2 คืน 3,990++ บาทต่อคน https://thestandard.co/life/taan-x-granmonte Thu, 21 Nov 2024 04:46:56 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1011037 TAAN x GranMonte

ใครชื่นชอบน้ำผลไม้จากองุ่นต้องเคยได้ยินชื่อ GranMonte ไ […]

The post อาหารไทยจับคู่ไวน์ไทย TAAN x GranMonte เสิร์ฟเพียง 2 คืน 3,990++ บาทต่อคน appeared first on THE STANDARD.

]]>
TAAN x GranMonte

ใครชื่นชอบน้ำผลไม้จากองุ่นต้องเคยได้ยินชื่อ GranMonte ไร่ไวน์ที่เขาใหญ่อยู่บ้าง เพราะเป็นไวน์สัญชาติไทยที่ได้รางวัลมาไม่น้อย แถมยังนิยมใช้ในร้านอาหารหลายแห่งด้วย เช่นเดียวกับร้าน TAAN ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งที่รสชาติดีและหยิบวัตถุดิบมาใช้ได้น่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่ง เราเชื่อว่านักชิมทุกคนต้องรู้จักฝีมือของ เชฟเทพ-มนต์เทพ กมลศิลป์ เฮดเชฟของร้านแห่งนี้ดีไม่แพ้กันแน่นอน

 

และถ้าใครอยากลองอัปเลเวลประสบการณ์ด้วยการชิมอาหารไทยสไตล์ TAAN จับคู่กับไวน์ไทยจากเขาใหญ่ของ GranMonte เราไม่อยากให้พลาดมื้อพิเศษนี้ที่จะเกิดขึ้นเพียง 2 คืนเท่านั้น

 

มื้อนี้มีชื่อว่า Khao Yai Region: A Culinary Road Trip เสิร์ฟอาหารที่ใช้วัตถุดิบจาก 6 ผู้ผลิตท้องถิ่นในเขาใหญ่ซึ่งเชฟได้เจอจากการเดินทาง ได้แก่ โรงคั่วกาแฟ Mountain Goat Coffee Roasters, ฟาร์มไข่ Thai Black KORAT Anda Farm, ไร่มะม่วง Khao Yai The Mango House Farm, ผู้ผลิตชีส The Cheese Maker, ไร่น้อยหน่า น้อยหน่า กลางดวง, ไร่องุ่นและโรงบ่มไวน์ GranMonte

 

ทุกคนจะได้เริ่มจากของกินเล่น 5 เมนู จับคู่กับไวน์จากเขาใหญ่ ก่อนตามด้วยประสบการณ์พิเศษจากผู้ผลิต และนั่งชิมอาหาร 5 คอร์สโดยห้องอาหาร TAAN โดยมื้อนี้ราคา 3,990++ บาทต่อคน เสิร์ฟระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

 

ห้องอาหารรับได้เพียง 24 ที่นั่งเท่านั้น เราแนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้า สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ TAAN Bangkok

The post อาหารไทยจับคู่ไวน์ไทย TAAN x GranMonte เสิร์ฟเพียง 2 คืน 3,990++ บาทต่อคน appeared first on THE STANDARD.

]]>