World – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 23 Oct 2025 05:44:13 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 พล.อ.ณัฐพล แถลงผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา เห็นชอบถอนอาวุธหนัก ร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ https://thestandard.co/gbc-thailand-cambodia-4-conditions-natthapol-kl-statement/ Thu, 23 Oct 2025 05:43:26 +0000 https://thestandard.co/?p=1134498 พล.อ.ณัฐพล แถลงผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา เห็นชอบถอนอาวุธหนัก ร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข […]

The post พล.อ.ณัฐพล แถลงผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา เห็นชอบถอนอาวุธหนัก ร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
พล.อ.ณัฐพล แถลงผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา เห็นชอบถอนอาวุธหนัก ร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(GBC) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 / 2568 ร่วมกับฝ่ายกัมพูชา ที่นำโดย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย วันนี้ (23 ตุลาคม) โดยระบุว่า ในการประชุมGBCในครั้งนี้ ประเทศไทยยังคงยืนหยัดในเงื่อนไขเดิม 4 ข้อได้แก่

1.การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง

2.การเก็บกู้ระเบิดสังหารบุคคล

3.การปราบปรามขบวนการไซเบอร์สแกม

4.การจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดนในจังหวัดสระแก้ว

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า “ผลการประชุมในวันนี้ถือว่ามีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยฝ่ายไทยประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวให้ฝ่ายกัมพูชายึดถือและปฏิบัติในประเด็นเดิม แต่มีการลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น เพื่อให้หน่วยในพื้นที่สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม”

โดยประเด็นแรก เรื่องการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง ทั้ง 2 ฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในการจัดทำข้อกำหนดเงื่อนไขของงานหรือทีโออาร์ สำหรับคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนหรือ IOT และได้มีการลงนามโดยผู้แทนทั้ง 2 ฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคณะ IOT จะมีหน้าที่สำคัญในการสังเกตและติดตามผลความคืบหน้าของการถอนอาวุธหนักของแต่ละฝ่ายออกจากพื้นที่ขัดแย้ง รวมถึงได้มีการกำหนดกรอบเวลาและเป้าหมายปลายทางในการถอนอาวุธเรียบร้อยแล้ว

ทั้ง 2 ฝ่ายยังเห็นชอบในแผนปฏิบัติการหรือ​ Action Plan ที่ได้จัดทำร่วมกันและมอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยและผู้บัญชาการภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ขับเคลื่อนแผนดำเนินการ ซึ่งขั้นต้นจะหารือกันเพิ่มเติมในวันที่ 25 ตุลาคมนี้

ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า “การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนตามแนวชายแดน เนื่องจากอาวุธของกัมพูชาส่วนใหญ่ เช่น จรวด BM-21 เป็นอาวุธที่มีอำนาจการทำลายเป็นวงกว้าง ยากแก่การควบคุม จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รวมถึงเป้าหมายที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น บ้านเรือน ร้านค้า ไล่นา โรงเรียน และโรงพยาบาล”

ส่วนประเด็นที่ 2 เรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า “ทั้ง 2 ฝ่ายได้ประสบความสำเร็จในการจัดทำระเบียบปฏิบัติตามมาตรฐานหรือ SOP สำหรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ทั้งในพื้นที่ที่มีการกำหนดเขตแดนชัดเจนแล้ว และพื้นที่ที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังเห็นไม่ตรงกัน โดยหลังจากนี้ชุดประสานงานของทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถเริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ได้ทันที

“ที่ผ่านมาศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทย ไม่สามารถดำเนินการหรือเก็บกู้ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมักถูกขัดขวางจากฝ่ายกัมพูชาบ่อยครั้ง เมื่อเราเข้าไปใกล้พื้นที่ชายแดน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฝ่ายกัมพูชายอมที่จะนำประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิดมาพูดคุยในรายละเอียดกันอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดน” พล.อ.ณัฐพล กล่าว

ส่วนประเด็นที่ 3 คือการปราบปรามขบวนการไซเบอร์สแกม พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ได้รับความร่วมมือมากขึ้นเป็นครั้งแรกจากฝ่ายกัมพูชา โดยหน่วยงานตำรวจของทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการหรือแอ็คชั่นแพลนเรียบร้อยแล้ว และหลังจากนี้ทั้ง 2 ฝ่ายจะจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจร่วมหรือภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อเริ่มกวาดล้างแกนนำหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการไซเบอร์สแกม

นอกจากนี้ยังได้ตกลงร่วมกันเกี่ยวกับขั้นตอนที่ชัดเจนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร, หลักฐานพยาน, เหยื่อที่ถูกหลอกลวงและผู้ต้องหา รวมถึงมาตรการคุ้มครองพยาน ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น

“เป็นที่ทราบกันดีว่าขบวนการไซเบอร์สแกมเป็นภัยคุกคามที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ทุกคน ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ภูมิภาคอาเซียน และพื้นที่อื่นๆทั่วโลกตามที่ปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ ดังนั้นแผนปฏิบัติการที่ได้ร่วมกันจัดทำขึ้น จึงถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานตำรวจของไทยและกัมพูชา ซึ่งอาจรวมถึงเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของประเทศอื่นๆ ที่มีประชาชนของตนตกเป็นเหยื่อของขบวนการไซเบอร์สแกมด้วย” พล.อ.ณัฐพล กล่าว

 

ประเด็นสุดท้ายเรื่องการจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดน ในจังหวัดสระแก้ว โดยพล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า “ตามข้อมูลที่ได้รับการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือ JBC ซึ่งนำโดยกระทรวงต่างประเทศได้มีผลลัพธ์เชิงบวกสำคัญที่จะสามารถนำทำให้หน่วยในพื้นที่นำปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบที่จะส่งเจ้าหน้าที่ของตนลงพื้นที่สำรวจแนวเส้นที่แต่ละฝ่ายอ้างสิทธิ์ โดยจะทำการสำรวจร่วมจากหลักเขตที่ 42-47 ช่วงบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว“

 

ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกเช่นกันที่ฝ่ายกัมพูชายินยอมร่วมมือกับฝ่ายไทยในการลงพื้นที่เดินสำรวจแนวเส้นอ้างสิทธิ์และวางหมุดชั่วคราวที่แน่ชัดด้วยกัน อันจะทำให้แต่ละฝ่ายยอมรับขอบเขตพื้นที่ที่เกิดขึ้น ตามผลการสำรวจและจะนำไปสู่การปรับการถือครองที่ดินของทั้ง 2 ฝ่ายได้ต่อไป

 

พล.อ.ณัฐพล กล่าวย้ำอีกว่า “ขอยืนยันว่าการวางหมุดชั่วคราวนี้เป็นเพียงเพื่อการสำรวจเท่านั้น และจะไม่กระทบต่อสิทธิ์ของไทยในเรื่องเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศแต่อย่างใด นอกจากนี้ฝ่ายไทยจะเริ่มดำเนินการสร้างรั้วชายแดนในบริเวณที่มีความชัดเจนของเส้นเขตแดนแล้ว โดยยืนยันว่า รั้วดังกล่าวจะอยู่ภายในเขตอธิปไตยของไทยเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนตลอดจนเพื่อป้องกันภัยคุกคามข้ามแดนระหว่างทั้ง 2 ประเทศ “

 

“ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นนับเป็นความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญที่เกิดขึ้นจากการประชุมGBCในครั้งนี้ ซึ่งยังคงมีรายละเอียดหลายเรื่องที่เราต้องร่วมกันติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดต่อไป

ฝ่ายไทยขอยืนยันว่า เราต้องการเห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนในทุกเรื่องตามที่กล่าวไปแล้ว จึงจะพิจารณาการยุติความเป็นปรปักษ์ต่อกัน ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาได้แสดงความจริงใจในการปฏิบัติตามผลการประชุมGBC ในครั้งนี้โดยเคร่งครัด เพื่อร่วมกันนำสันติสุขให้กลับคืนสู่ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ตลอดจนภูมิภาคอาเซียนในภาพรวม ตนขอยืนยันในนามของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมว่าจะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งอธิปไตยและประโยชน์ของชาติและประชาชนโดยคำนึงถึงเกียรติภูมิของประเทศไทยเป็นสำคัญ” พล.อ.ณัฐพล กล่าว

The post พล.อ.ณัฐพล แถลงผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา เห็นชอบถอนอาวุธหนัก ร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สม รังสี ประกาศตั้ง ‘รัฐบาลกัมพูชาอิสระ’ ชูบทบาทฟื้นฟูประชาธิปไตย ปกป้องเอกราช ต่อสู้สแกมเมอร์ https://thestandard.co/sam-rainsy-forms-independent-government/ Thu, 23 Oct 2025 05:05:41 +0000 https://thestandard.co/?p=1134481 สม รังสี ประกาศตั้ง ‘รัฐบาลกัมพูชาอิสระ’ ชูบทบาทฟื้นฟูประชาธิปไตย ปกป้องเอกราช ต่อสู้ สแกมเมอร์

สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ซึ่งลี้ภัยอยู่ในฝรั่ง […]

The post สม รังสี ประกาศตั้ง ‘รัฐบาลกัมพูชาอิสระ’ ชูบทบาทฟื้นฟูประชาธิปไตย ปกป้องเอกราช ต่อสู้สแกมเมอร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สม รังสี ประกาศตั้ง ‘รัฐบาลกัมพูชาอิสระ’ ชูบทบาทฟื้นฟูประชาธิปไตย ปกป้องเอกราช ต่อสู้ สแกมเมอร์

สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ซึ่งลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศส เผยแพร่แถลงการณ์ในนามสภาชาติแห่งการต่อต้านของกัมพูชา (Cambodia National Resistance Council : CNRC) โดยประกาศเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคณะรัฐมนตรีภายใต้ชื่อ ‘รัฐบาลกัมพูชาอิสระ 23 ตุลาคม (October 23 Government of Independent Cambodia)’ ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 34 ปีของข้อตกลงสันติภาพปารีส (Paris Peace Agreements)

 

แถลงการณ์ระบุว่า ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ CNRC ที่จะรับผิดชอบต่อสถานการณ์วิกฤตทางการเมืองของกัมพูชา และเพื่อตอบรับเสียงเรียกร้องเร่งด่วนของชาวกัมพูชา ที่ต้องการผู้นำที่ชอบธรรมอย่างแท้จริง

 

“CNRC เกิดขึ้นจากพรรคกู้ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party – CNRP) ซึ่งเคยได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากประชาชนในการเลือกตั้งปี 2013 และ 2017 ก่อนจะถูกยุบอย่างไม่เป็นธรรมโดยระบอบฮุน เซน ซึ่งหวาดกลัวต่อการตื่นรู้ทางประชาธิปไตยของประชาชนกัมพูชา

 

CNRC ยืนยันว่ารัฐบาลฮุน เซน / ฮุน มาเนต ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน ขาดความชอบธรรม เนื่องจากได้บิดเบือนเจตจำนงของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งเหล่านั้น”

 

ขณะที่ CNRC ระบุว่า “เป้าหมายหลักของการจัดตั้งรัฐบาลกัมพูชาอิสระ คือเพื่อผลักดันความปรารถนาของชาวกัมพูชาให้เกิดการฟื้นฟูข้อตกลงสันติภาพปารีส ปี 1991 ซึ่งเป็นรากฐานของการดำรงอยู่ของกัมพูชาในฐานะประเทศที่สงบสุข มีอธิปไตย และเป็นอิสระ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแบบพหุนิยมและมีพรมแดนที่มั่นคง”

 

ขณะที่ CNRC ยืนยันว่า ฮุน เซน ได้ละเมิดหลักการเหล่านี้อย่างเป็นระบบ ทำลายความหวังแห่งประชาธิปไตย และบ่อนทำลายหลักประกันระหว่างประเทศที่เคยคุ้มครองอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา

 

นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังโจมตีการบริหารประเทศของฮุนเซน และฮุนมาเนต ที่ปล่อยให้กัมพูชากลายเป็น ‘รัฐมาเฟีย’ ที่กลายเป็นแหล่งดำเนินการของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติโดยได้รับการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นภัยต่อเสถียรภาพของประเทศและภูมิภาค

 

“ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา กัมพูชาได้กลายเป็นรัฐมาเฟีย ซึ่งเป็นแหล่งเติบโตของกลโกงออนไลน์และอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายข้ามชาติ โดยได้รับการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง”

 

“ระบอบการปกครองปัจจุบันเป็น ระบบอาชญากรรมที่ได้รับการสถาปนาโดยรัฐ ซึ่งเป็นภัยต่อเสถียรภาพของประเทศและภูมิภาค”

 

นอกจากนี้ ยังแสดงความขอบคุณต่อสหรัฐฯ ที่ขึ้นบัญชีดำและฟ้องร้องเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่นำโดย เฉิน จื้อ พร้อมพวกอีกหลายสิบคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชาที่เป็นเครือญาติและผู้ใกล้ชิดของฮุน เซน

 

“CNRC ถือว่านี่เป็น จุดเปลี่ยนสำคัญของการต่อสู้ระดับโลกกับการทุจริตและอาชญากรรมที่รัฐให้การสนับสนุน” แถลงการณ์ระบุ และเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ที่มีพลเมืองตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงออนไลน์หรือการค้ามนุษย์ในกัมพูชา สนับสนุนความพยายามในการรื้อถอนเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้

 

ทั้งนี้ CNRC ยังเน้นย้ำหลักการสำคัญสามประการ ได้แก่

 

1.บูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาได้รับการคุ้มครองตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
2.กัมพูชาต้องกลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงและเคารพสิทธิมนุษยชน
3.กัมพูชาต้องฟื้นฟูเอกราชอย่างเต็มรูปแบบผ่านการวางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงการปิดฐานทัพเรือเรียม (Ream Naval Base) ที่จีนให้การสนับสนุนในการสร้าง และถอนกำลังทหารต่างชาติทั้งหมดออกจากประเทศ

 

“รัฐบาลกัมพูชาอิสระ 23 ตุลาคม จะฟื้นคืนจิตวิญญาณของข้อตกลงสันติภาพกรุงปารีส สร้างสถาบันประชาธิปไตยขึ้นใหม่ ยึดมั่นในหลักนิติธรรม และคืนอำนาจให้แก่ประชาชนกัมพูชา ซึ่งเป็นแหล่งที่มาที่แท้จริงของอธิปไตยแห่งชาติ”

The post สม รังสี ประกาศตั้ง ‘รัฐบาลกัมพูชาอิสระ’ ชูบทบาทฟื้นฟูประชาธิปไตย ปกป้องเอกราช ต่อสู้สแกมเมอร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
สวีเดนลงนามแสดงเจตจำนง ส่งกริพเพน 150 ลำให้ยูเครน คาดใช้เวลา 3 ปี ส่งมอบลำแรก https://thestandard.co/sweden-gripen-150-ukraine/ Thu, 23 Oct 2025 03:25:31 +0000 https://thestandard.co/?p=1134439 สวีเดนลงนามแสดงเจตจำนง ส่ง กริพเพน 150 ลำ ให้ ยูเครน คาดใช้เวลา 3 ปี ส่งมอบลำแรก

อุลฟ์ คริสเตอร์สัน นายกรัฐมนตรีของสวีเดน เปิดเผยวานนี้ […]

The post สวีเดนลงนามแสดงเจตจำนง ส่งกริพเพน 150 ลำให้ยูเครน คาดใช้เวลา 3 ปี ส่งมอบลำแรก appeared first on THE STANDARD.

]]>
สวีเดนลงนามแสดงเจตจำนง ส่ง กริพเพน 150 ลำ ให้ ยูเครน คาดใช้เวลา 3 ปี ส่งมอบลำแรก

อุลฟ์ คริสเตอร์สัน นายกรัฐมนตรีของสวีเดน เปิดเผยวานนี้ (22 ตุลาคม) ว่า สวีเดนได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงที่จะจัดส่งเครื่องบินขับไล่กริพเพน ที่ผลิตภายในประเทศ จำนวนสูงสุด 150 ลำให้แก่ยูเครน

 

การลงนามดังกล่าว มีขึ้นในขณะที่เขาและโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้พบปะหารือกันที่เมืองลินเชอปิง ทางตอนใต้ของสวีเดน และได้เข้าเยี่ยมชมบริษัท SAABb.ST ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรบกริพเพน JAS 39 ตลอดจนเครื่องบินตรวจการณ์ GlobalEye, ระบบขีปนาวุธ, อาวุธต่อต้านรถถังสำหรับทหารราบ และยุทโธปกรณ์อื่นๆ

 

คริสเตอร์สันกล่าวในการแถลงข่าวว่า ทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระยะยาวด้านการป้องกันภัยทางอากาศ ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ในการส่งออกเครื่องบินขับไล่กริพเพนลำใหม่จำนวน 100-150 ลำ ซึ่งจะเป็นคำสั่งซื้อที่ใหญ่ที่สุดของสวีเดน

 

“เราตระหนักดีว่าเส้นทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรามุ่งมั่นที่จะสำรวจความเป็นไปได้ทั้งหมดในการจัดหาเครื่องบินรบกริพเพนจำนวนมากให้กับยูเครนในอนาคต” คริสเตอร์สันกล่าว

 

ความเป็นไปได้ในการจัดหากริพเพนให้กับยูเครนนั้น ได้รับการพิจารณาในช่วง2 ปีที่ผ่านมา แต่ถูกระงับไว้เพื่อให้รัฐบาลยูเครน สามารถมุ่งเน้นไปที่การนำเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่ผลิตในสหรัฐฯ เข้ามาประจำการตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

 

“เราได้เริ่มดำเนินการจัดหากริพเพนให้กับยูเครนแล้ว และคาดว่าสัญญาในอนาคตจะทำให้เราสามารถจัดหาเครื่องบินรบประเภทนี้ได้ไม่น้อยกว่า 100 ลำ” เซเลนสกีกล่าว

 

ขณะที่นักบินยูเครนได้เดินทางไปยังสวีเดนเพื่อทดสอบกริพเพนและช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดส่งเครื่องบินขับไล่เหล่านี้

 

เซเลนสกีกล่าวว่ายูเครนตั้งเป้าที่จะได้รับและเริ่มใช้งานเครื่องบินขับไล่กริพเพนในปีหน้า

 

“สำหรับกองทัพของเรา กริพเพนคือสิ่งสำคัญที่สุด มันเป็นเรื่องของเงินและการซ้อมรบ” เขากล่าว

 

อย่างไรก็ตาม คริสเตอร์สันกล่าวว่ายังไม่มีการตัดสินใจใดๆ แต่คาดการณ์ว่าการผลิตและการส่งมอบเครื่องบินกริพเพนลำใหม่ลำแรก อาจใช้เวลานาน 3 ปี และเสริมว่ายังไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับการส่งมอบกริพเพนรุ่นเก่าในช่วงเวลาที่เร็วกว่านี้ แม้จะยังไม่ตัดความเป็นไปได้นี้ออกไปก็ตาม

 

ภาพ : TT News Agency/Fredrik Sandberg via REUTERS

 

อ้างอิง :

The post สวีเดนลงนามแสดงเจตจำนง ส่งกริพเพน 150 ลำให้ยูเครน คาดใช้เวลา 3 ปี ส่งมอบลำแรก appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผลประชุม JBC ไทย – กัมพูชา ตกลงใช้ LiDAR ทำแผนที่ เห็นพ้องสำรวจเขตแดน บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว https://thestandard.co/jbc-lidar-mapping-thai-cambodia/ Thu, 23 Oct 2025 02:54:57 +0000 https://thestandard.co/?p=1134418 ผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ตกลงใช้ LiDAR ทำแผนที่ เห็นพ้องสำรวจเขตแดน บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่ข้อมูลจากการแถลงข่าวร่วมการ […]

The post ผลประชุม JBC ไทย – กัมพูชา ตกลงใช้ LiDAR ทำแผนที่ เห็นพ้องสำรวจเขตแดน บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ตกลงใช้ LiDAR ทำแผนที่ เห็นพ้องสำรวจเขตแดน บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่ข้อมูลจากการแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) สมัยวิสามัญ ที่จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 21 – 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยระบุว่า

 

1.การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ จัดขึ้น ณ จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 21 – 22 ตุลาคม 2568 ฝ่ายไทยนำโดย นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศด้านเขตแดน เป็นประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา (ฝ่ายไทย) และฝ่ายกัมพูชานำโดย นายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา เป็นประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา (ฝ่ายกัมพูชา)

 

2.การประชุมเป็นไปภายใต้บรรยากาศแห่งมิตรภาพและฉันมิตร

 

3.ทั้งสองฝ่ายได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วม (Joint Technical Sub-Commission: JTSC) ดำเนินการสร้างหลักเขตแดนใหม่เพื่อทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่ชำรุดหรือสูญหาย จำนวน 15 หลัก ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีความเห็นตรงกันแล้ว ให้กลับคืนสู่ที่ตั้งและตำแหน่งเดิม

 

4.ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดทำหลักเขตแดนเพื่อเปลี่ยนหรือทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่จมน้ำ จำนวน 3 หลัก โดยจะกำหนดตำแหน่งที่ตั้งใหม่ร่วมกันในภายหลัง

 

5.ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้เร่งรัดการแก้ไข Terms of Reference 2003 (TOR 2003) เกี่ยวกับการจัดทำแผนที่ภาพถ่าย (Orthophoto Maps) เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Light Detection and Ranging (LiDAR) มาใช้ในการทำแผนที่ภาพถ่าย เพื่อให้การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

 

6.เกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ระหว่างหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47 บริเวณบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว

 

ก. ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับคำแนะนำทางเทคนิค (Technical Instruction: TI) สำหรับการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวในพื้นที่ภูมิประเทศที่มีความเร่งด่วนในบริเวณหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47

 

ข. เมื่อทั้งสองฝ่ายดำเนินการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวเสร็จสิ้นแล้ว จะนำผลการสำรวจดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาลเพื่อขอความเห็นชอบ เพื่อกำหนดกลไกที่เหมาะสมสำหรับการปรับการถือครองที่ดินของทั้งสองฝ่ายต่อไป

 

ค. การวางหมุดชั่วคราวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการสำรวจเท่านั้นและจะไม่กระทบต่อสิทธิของไทยและกัมพูชาในเรื่องเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศ และ

 

ง. ทั้งสองฝ่ายตกลงจะกำชับให้หน่วยงานท้องถิ่น ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน รับประกันความปลอดภัยให้กับชุดสำรวจจากทุ่นระเบิด ตามข้อ 3 ของ MOU 2543 และเพื่อให้ชุดสำรวจสามารถปฏิบัติงานได้โดยปราศจากการขัดขวางและการยั่วยุที่อาจส่งผลให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มเติมในบริเวณดังกล่าว

 

7.ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดการประชุม JBC ครั้งต่อไปในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2569 ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

The post ผลประชุม JBC ไทย – กัมพูชา ตกลงใช้ LiDAR ทำแผนที่ เห็นพ้องสำรวจเขตแดน บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว appeared first on THE STANDARD.

]]>
สถานทูตออสเตรเลีย เชิญชวนร่วมออกแบบบัตรแรบบิท โอกาสครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-ไทย https://thestandard.co/australia-rabbit-card-design/ Wed, 22 Oct 2025 10:41:48 +0000 https://thestandard.co/?p=1134177 สถานทูตออสเตรเลีย เชิญชวนร่วมออกแบบ **บัตรแรบบิท** **โอกาส**ครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-ไทย

สถานทูตเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยขอเชิญชวนผู […]

The post สถานทูตออสเตรเลีย เชิญชวนร่วมออกแบบบัตรแรบบิท โอกาสครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-ไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
สถานทูตออสเตรเลีย เชิญชวนร่วมออกแบบ **บัตรแรบบิท** **โอกาส**ครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-ไทย

สถานทูตเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยขอเชิญชวนผู้ที่สนใจส่งผลงานออกแบบของท่านในการประกวดออกแบบบัตรแรบบิท 2025 เพื่อเฉลิมฉลองมิตรภาพระหว่างออสเตรเลียและไทยที่มีมายาวนาน

 

เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ดร. แอนเจลา แมคโดนัลด์ กล่าวว่า “การประกวดนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมความร่วมมือด้านความคิดสร้างสรรค์และความเชื่อมโยงระหว่างผู้คนซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศของเรา”

 

“เนื่องในโอกาสครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างออสเตรเลียและไทยในปี 2026 เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นผลงานการออกแบบที่สะท้อนถึงความอบอุ่น ความหลากหลายและความร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่องระหว่างสองประเทศของเรา”

 

ผลงานของผู้ชนะเลิศจะได้พิมพ์เป็นลายบัตรแรบบิทสถานทูตออสเตรเลียซึ่งจะเป็นลายที่สาม และเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความเชื่อมโยงในชีวิตประจำวันและการเดินทางร่วมกันระหว่างเราทั้งสองประเทศ

 

เปิดรับผลงานออกแบบของผู้ถือสัญชาติไทยและ/หรือออสเตรเลียที่พำนักอยู่ในไทยแล้ววันนี้ และจะปิดรับผลงานในวันที่ 20 พฤศจิกายน เวลา 17.00 น. (ตามเวลากรุงเทพ) ผู้ชนะจะได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับออสเตรเลีย พร้อมที่พัก 2 คืน ประกาศผลวันที่ 4 ธันวาคม 2025 ทางเฟซบุ๊กและเว็บไซต์สถานทูตฯ

 

บัตรแรบบิทใช้เพื่อชำระเงินในระบบอิเล็กทรอนิกส์ในกรุงเทพฯ และใช้กับรถไฟฟ้าบีทีเอสและร้านค้าที่ร่วมรายการอย่างแพร่หลาย โดยการใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสช่วยส่งเสริมความยั่งยืนโดยสนับสนุนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเขตเมือง

 

สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียขอขอบพระคุณผู้สนับสนุนหลัก การบินไทย และ โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพ สำหรับการสนับสนุนของรางวัลการประกวดในครั้งนี้

 

ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประกวดฉบับเต็ม รวมถึงคุณสมบัติผู้สมัคร ข้อกำหนดในการส่งผลงาน เกณฑ์การตัดสินและข้อมูลรางวัล ได้ที่
https://thailand.embassy.gov.au/bkok/TC_2025_Rabbit_card_design.html

 

สถานทูตออสเตรเลีย เชิญชวนร่วมออกแบบ **บัตรแรบบิท** **โอกาส**ครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-ไทย 1

 

[PR NEWS]

The post สถานทูตออสเตรเลีย เชิญชวนร่วมออกแบบบัตรแรบบิท โอกาสครบรอบ 74 ปีความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-ไทย appeared first on THE STANDARD.

]]>
เจาะผังสแกมเมอร์ทั่วโลก ขยายจากอาเซียนสู่แอฟริกา 1 ปี ขโมย 33.8 ล้านล้านบาท สะเทือน GDP https://thestandard.co/global-scam-trillions-impact-gdp/ Wed, 22 Oct 2025 08:16:36 +0000 https://thestandard.co/?p=1133923 เจาะผังสแกมเมอร์ทั่วโลก ขยายจากอาเซียนสู่แอฟริกา 1 ปี ขโมย 33.8 ล้านล้านบาท สะเทือน GDP

ศูนย์สแกม หรือศูนย์หลอกลวงออนไลน์ ที่ปัจจุบันมีฮับแหล่ง […]

The post เจาะผังสแกมเมอร์ทั่วโลก ขยายจากอาเซียนสู่แอฟริกา 1 ปี ขโมย 33.8 ล้านล้านบาท สะเทือน GDP appeared first on THE STANDARD.

]]>
เจาะผังสแกมเมอร์ทั่วโลก ขยายจากอาเซียนสู่แอฟริกา 1 ปี ขโมย 33.8 ล้านล้านบาท สะเทือน GDP

ศูนย์สแกม หรือศูนย์หลอกลวงออนไลน์ ที่ปัจจุบันมีฮับแหล่งใหญ่ที่สุดอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในเมียนมา และกัมพูชา ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเริ่มปรากฎแหล่งใหม่ๆ ขยายไปยังหลายประเทศทั่วโลก

 

โดยรายงานจาก INTERPOL ที่เผยแพร่ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ชี้ว่ามีเหยื่อจาก 66 ประเทศ ถูกเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ หลอกลวงและค้ามนุษย์เข้าไปในศูนย์สแกมดังกล่าว

 

ขณะที่ประเทศในแถบแอฟริกาตะวันตก เริ่มปรากฎเป็น “ฮับของศูนย์สแกมแห่งใหม่ที่มีศักยภาพ” โดยมีไนจีเรียเป็น Hot Spot ที่ทั่วโลกควรจับตามอง และการขยายตัวของศูนย์สแกมไปยังภูมิภาคต่างๆ น่าจะยิ่งผลักดันให้อัตราอาชญากรรมไซเบอร์ทั่วโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

 

รายงานจากองค์กร Global Anti-Scam Alliance (GASA) ที่ทำการสำรวจข้อมูลประชาชนใน 42 ประเทศ จำนวน 58,329 คน พบว่าในปี 2024 มูลค่าความเสียหายทางการเงินจากการหลอกลวงออนไลน์ทั่วโลกนั้นสูงถึง 1.03 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 33.8 ล้านล้านบาท

 

โดยสหรัฐฯ​ ได้รับความเสียหายสูงสุดเฉลี่ย 3,520 ดอลลาร์ (1.15 แสนบาท) ต่อเหยื่อ 1 คน ขณะที่ประเทศไทยได้รับความเสียหายสูงเป็นอันดับ 9 เฉลี่ย 1,106 ดอลลาร์ (3.6 หมื่นบาท) ต่อเหยื่อ 1 คน

 

เจาะผังสแกมเมอร์ทั่วโลก ขยายจากอาเซียนสู่แอฟริกา 1 ปี ขโมย 33.8 ล้านล้านบาท สะเทือน GDP 1

 

ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร

อ้างอิง:

The post เจาะผังสแกมเมอร์ทั่วโลก ขยายจากอาเซียนสู่แอฟริกา 1 ปี ขโมย 33.8 ล้านล้านบาท สะเทือน GDP appeared first on THE STANDARD.

]]>
วิกฤติ ‘สแกม’ คุกคามคนไทยมากแค่ไหน? https://thestandard.co/scam-crisis-thailand-threat-info/ Wed, 22 Oct 2025 08:05:12 +0000 https://thestandard.co/?p=1133913 วิกฤติ ‘สแกม’ คุกคาม คนไทย มากแค่ไหน?

สแกมเมอร์ หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ ก […]

The post วิกฤติ ‘สแกม’ คุกคามคนไทยมากแค่ไหน? appeared first on THE STANDARD.

]]>
วิกฤติ ‘สแกม’ คุกคาม คนไทย มากแค่ไหน?

สแกมเมอร์ หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ กลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่อยู่ใกล้ตัว โดยหากหันไปมองคนรอบข้าง แน่นอนว่าหลายคนอาจเคยเผชิญกับประสบการณ์ถูกหลอกลวง และบางคนอาจกลายเป็นเหยื่อ ถึงขั้นสูญเสียเงินเก็บที่มีมาทั้งชีวิต

 

จากข้อมูลในรายงาน ‘State of Scams in Thailand Report – 2025’ ที่จัดทำโดยองค์กร Global Anti-Scam Alliance (GASA), ScamAdviser และ Whoscall เผยข้อมูลพบว่าคนไทยสูญเสียเงินให้กับขบวนการสแกมเมอร์เหล่านี้ ปีละกว่า 115,300 ล้านบาท

 

โดยชาวไทยวัยผู้ใหญ่ 72% เคยเจอความพยายามหลอกลวง หรือเฉลี่ย 172 ครั้งต่อปี หรือ 1 ครั้งในทุกๆ 2 วัน และ 60% ถูกหลอกสำเร็จภายในปีที่ผ่านมา ขณะที่เหยื่อ 14% สูญเงินเฉลี่ย 12,955 บาทต่อคน โดยส่วนใหญ่ 66% ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลงทุน ซึ่งโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่เหยื่อถูกหลอกมากที่สุด

 

วิกฤติ ‘สแกม’ คุกคาม คนไทย มากแค่ไหน? 1

 

ภาพประกอบ: ณัฏฐ์กานต์ ดวงมาตย์พล

อ้างอิง:

The post วิกฤติ ‘สแกม’ คุกคามคนไทยมากแค่ไหน? appeared first on THE STANDARD.

]]>
เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกในรอบ 5 เดือน รับ APEC 2025 และทรัมป์เยือนเอเชีย https://thestandard.co/nk-missile-test-and-apec-2025/ Wed, 22 Oct 2025 04:52:24 +0000 https://thestandard.co/?p=1133784 เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกในรอบ 5 เดือน รับ APEC 2025 และทรัมป์เยือน เอเชีย

เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกในรอบ 5 เดือน คาดส่ง ‘ส […]

The post เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกในรอบ 5 เดือน รับ APEC 2025 และทรัมป์เยือนเอเชีย appeared first on THE STANDARD.

]]>
เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกในรอบ 5 เดือน รับ APEC 2025 และทรัมป์เยือน เอเชีย

เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกในรอบ 5 เดือน คาดส่ง ‘สัญญาณ’ ล่วงหน้า 1 สัปดาห์ก่อนการประชุม APEC 2025 ที่เกาหลีใต้ และการเยือนเอเชียของ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา

 

วันนี้ (22 ตุลาคม 2025) คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ (Joint Chiefs of Staff: JCS) ตรวจพบว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้หลายลูก ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จากเมืองจุงฮวา จังหวัดฮวังแฮเหนือ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเกาหลีเหนือ เมื่อเวลา 8.10 น

 

รายงานระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าวบินไปไกลประมาณ 350 กิโลเมตร และอาจเป็นขีปนาวุธทางยุทธวิธีแบบเดียวกับที่เกาหลีเหนือทดสอบในเดือนกันยายน 2024 ซึ่ง JSC กำลังตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางการสหรัฐฯ โดยคาดว่า อาวุธเหล่านี้อาจตกที่แผ่นดินมากกว่าจะเป็นทะเลตะวันออก

 

ขณะที่ ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีหญิงญี่ปุ่นระบุว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งนี้ ไม่ได้สร้างผลกระทบใดๆ ให้กับประเทศ โดยเปิดเผยว่า ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ กำลังแบ่งปันข้อมูล และแจ้งเตือนความคืบหน้าพิกัดขีปนาวุธ

 

การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ถือเป็นครั้งที่ 5 ของปี 2025 อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่การดำรงตำแหน่งของ อีแจมยอง (Lee Jae-myung) ผู้นำเกาหลีใต้คนใหม่ หลังยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ลงทะเลตะวันออกถึง 2 รอบในเดือนพฤษภาคม

 

อนึ่งท่าทีของเกาหลีเหนือยังน่าจับตามอง โดยถูกมองว่า เป็นการยั่วยุทางทหาร และส่งสัญญาณเตือน 1 สัปดาห์ ก่อนการประชุมสุดยอด APEC 2025 ที่เกาหลีใต้ในวันที่ 31 ตุลาคม-1 พฤศจิกายน ซึ่งผู้นำ 2 ชาติมหาอำนาจอย่างทรัมป์ และสีจิ้นผิง จะพบกันนอกรอบการประชุม

 

ในช่วงที่ผ่านมา หน้าสื่อต่างประเทศคาดว่า ทรัมป์อาจพบคิมจองอึนที่หมู่บ้านพันมุนจอมเหมือนในปี 2019 โดย แอนดริว ยอ (Andrew Yeo) ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกมองว่า คีย์หลักของการเยือนเอเชียสำหรับทรัมป์ คือ การพบสีจิ้นผิง เพราะระยะเวลาสั้นมาก แต่ไม่ปิดโอกาสที่ทรัมป์กับคิมจองอึนอาจพบกันอีก

 

ยอยกตัวอย่างเหตุการณ์สายฟ้าแลบในปี 2019 หลังทรัมป์ประกาศใน X ว่า เขากำลังจะพบกับคิมจองอึน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นซ้ำได้อีก และเชื่อว่า ทางเกาหลีใต้คงเตรียมแผนรับมือไว้แล้ว

 

ภาพ: Kim Hong-Ji / Reuters

 

อ้างอิง:

The post เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกในรอบ 5 เดือน รับ APEC 2025 และทรัมป์เยือนเอเชีย appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดถ้อยแถลงโรม บนเวที IPU เสนอญัตติด่วน ‘ปราบสแกมเมอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ’ https://thestandard.co/ipu-fight-scammers-crime/ Wed, 22 Oct 2025 04:04:27 +0000 https://thestandard.co/?p=1133750 เปิดถ้อยแถลง โรม บนเวที IPU เสนอญัตติด่วน ‘ปราบสแกมเมอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ’

รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะสม […]

The post เปิดถ้อยแถลงโรม บนเวที IPU เสนอญัตติด่วน ‘ปราบสแกมเมอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดถ้อยแถลง โรม บนเวที IPU เสนอญัตติด่วน ‘ปราบสแกมเมอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ’

รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะสมาชิกรัฐสภาไทย ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงบนเวทีประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา หรือ IPU (Inter-Parliamentary Union) สมัยที่ 151 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

 

ผลักดันร่างมติเรื่อง ‘การดำเนินการของรัฐสภาเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมทางไซเบอร์ และภัยคุกคามแบบลูกผสมต่อประชาธิปไตยและความมั่นคงของมนุษย์’ ที่ไทย อาร์เจนตินา ชิลี โปแลนด์ และสวีเดน ร่วมกันเสนอ ภายใต้การสนับสนุนจากกลุ่มละตินอเมริกาและแคริบเบียน และกลุ่ม Twelve Plus

 

เนื้อหาถ้อยแถลงเน้นย้ำถึงปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ว่าเป็น “จักรวรรดิในเงามืด” ที่ไร้พรมแดน ซึ่งสร้างขึ้นจากความกลัวและการหลอกลวง โดยมีอำนาจบ่อนทำลายเศรษฐกิจ แทรกซึมทางการเมือง และกดขี่ชีวิตของผู้คน พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐสภาทั่วโลก ร่วมมือกันอุดช่องโหว่ทางกฎหมาย และเสริมสร้างกรอบต่อต้านการค้ามนุษย์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

 

และนี่คือเนื้อหาของถ้อยแถลงทั้งหมด

 

“ท่านประธานที่เคารพ

 

ในนามของผู้ร่วมเสนอร่างมติจากประเทศไทย อาร์เจนตินา ชิลี โปแลนด์ และสวีเดน และด้วยการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากกลุ่มละตินอเมริกาและแคริบเบียน และกลุ่ม Twelve Plus รวมถึงวุฒิสมาชิก ลูซิลา เคร็กเซลล์ และสมาชิกรัฐสภา เฟอร์นันโด อิเกลเซียส จากอาร์เจนตินา

 

ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอข้อเสนอเรื่อง ‘การดำเนินการของรัฐสภาเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมทางไซเบอร์ และภัยคุกคามแบบลูกผสมต่อประชาธิปไตยและความมั่นคงของมนุษย์’

 

วันนี้ โลกของเรากำลังเผชิญหน้ากับ “จักรวรรดิในเงามืด” ที่สร้างขึ้นจากความกลัวและการหลอกลวง

 

จักรวรรดิที่ไร้พรมแดน แต่มีอำนาจพอที่จะบ่อนทำลายเศรษฐกิจ แทรกซึมทางการเมือง และกดขี่ชีวิตผู้คน

 

มันเติบโตจาก ความเหลื่อมล้ำและความเพิกเฉย และด้วยสิ่งนั้นเอง มันได้กัดกร่อนรากฐานของประชาธิปไตย

 

จากแก๊งค้ายาที่วางยาพิษเยาวชนของเรา ไปจนถึงการลอบสังหารที่ทำให้ “ผู้ปกป้องความจริง” ต้องเงียบเสียง

 

จักรวรรดิแห่งอาชญากรรมนี้ไม่เว้นแม้แต่ประเทศใดในโลก

 

การสังหารวุฒิสมาชิก มิเกล อูริเบ ตูร์บาย จากโคลอมเบีย เป็นเครื่องเตือนว่า อาชญากรรมข้ามชาติไม่ใช่ภัยที่อยู่ไกลตัว แต่มันคือภัยที่กำลังโจมตี ‘หัวใจของประชาธิปไตย’ โดยตรง

 

สิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ คือ ภัยคุกคามแบบลูกผสม (Hybrid Threat) ซึ่งเป็นการหลอมรวมของอาชญากรรม การทุจริต และสงครามดิจิทัล

 

มันบิดเบือนข้อมูล ใช้เทคโนโลยีเป็นอาวุธ ฟอกเงินผ่านคริปโทเคอร์เรนซี และทำลายความไว้วางใจของสาธารณชน

 

และไม่มีที่ใดที่จักรวรรดิในเงามืดนี้จะเห็นได้ชัดเท่ากับ การขยายตัวของค่ายหลอกลวง (Scam Compounds) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

เบื้องหลังจอคอมพิวเตอร์และคำสัญญาอันจอมปลอม คือชีวิตของผู้คนนับแสนจากหลายประเทศ

 

หลายคนถูกหลอก ถูกลักพาตัว และถูกกักขังอยู่ในสภาพที่ ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง

 

การปฏิบัติการร่วมระดับนานาชาติครั้งล่าสุด สามารถอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเผยให้เห็นเพียง ‘ยอดภูเขาน้ำแข็ง’ ของเศรษฐกิจอาชญากรรมขนาดมหึมานี้เท่านั้น

 

ท่านประธานที่เคารพ

 

หากเรายังคงนิ่งเฉย จักรวรรดิแห่งเงามืดนี้จะขยายตัวต่อไป โดยดูดกลืนพลังของความไม่ลงมือทำของเราเอง

 

เราขอเรียกร้องให้รัฐสภาทั่วโลก ร่วมมือกันอุดช่องโหว่ทางกฎหมาย เสริมสร้างกรอบต่อต้านการค้ามนุษย์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และสร้างการตอบสนองที่ยึดหลักสิทธิมนุษยชน เคารพศักดิ์ศรี และยุติธรรม

 

ให้เราสร้างความร่วมมือที่ ‘ไร้พรมแดน’ เช่นเดียวกับอาชญากรรมที่เราเผชิญ

 

ให้เราลงมือ ไม่เพียงด้วยความมุ่งมั่น แต่ด้วยความเป็นมนุษย์

 

เพราะตัวชี้วัดที่แท้จริงของประชาธิปไตย ไม่ใช่ความดังของเสียงประณามความอยุติธรรม แต่คือความเด็ดขาดที่เราร่วมกันเผชิญหน้ากับมัน

ขอบคุณครับ ท่านประธาน”

The post เปิดถ้อยแถลงโรม บนเวที IPU เสนอญัตติด่วน ‘ปราบสแกมเมอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เกาหลีใต้ประชุมฉุกเฉินในกัมพูชา ตามติดสถานการณ์สแกมเมอร์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ต้องร่วมมือกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก https://thestandard.co/korea-cambodia-emergency-scam-meeting/ Wed, 22 Oct 2025 03:29:16 +0000 https://thestandard.co/?p=1133694 เกาหลีใต้ประชุมฉุกเฉินใน กัมพูชา ตามติดสถานการณ์สแกมเมอร์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ต้องร่วมมือกับ ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ จัดประชุมฉุกเฉินในสถานทูต […]

The post เกาหลีใต้ประชุมฉุกเฉินในกัมพูชา ตามติดสถานการณ์สแกมเมอร์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ต้องร่วมมือกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก appeared first on THE STANDARD.

]]>
เกาหลีใต้ประชุมฉุกเฉินใน กัมพูชา ตามติดสถานการณ์สแกมเมอร์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ต้องร่วมมือกับ ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ จัดประชุมฉุกเฉินในสถานทูตกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าสถานการณ์สแกมเมอร์ ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เกาหลีใต้ต้องร่วมมือกับประเทศที่ได้รับผลกระทบเพื่อปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

 

เมื่อวานนี้ (21 ตุลาคม 2025) ทีมกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ จัดประชุมฉุกเฉินที่สถานทูตเกาหลีในกัมพูชา เพื่อติดตามสถานการณ์สแกมเมอร์ นำโดย คิมจินอา (Kim Jina) รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่สถานทูตหารือกับทางกัมพูชาต่อไป

 

ในการประชุม คิมจินอา เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องช่วยเหลือพลเมือง และมีปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อปกป้องพลเมืองเกาหลีใต้ในกัมพูชา พร้อมให้คำมั่นสนับสนุนด้วยการเพิ่มงบประมาณและบุคลากรชั่วคราว เพื่อสะสางปัญหาและบรรเทาภาระทั้งหมด

 

ขณะที่ อี แจฮยอน (Lee Jae-hyon) นักวิชาการจาก Asan Institute for Policy Studies ให้ความเห็นว่า เกาหลีใต้ต้องประสานงานร่วมกับประเทศที่จะได้รับผลกระทบเท่านั้น จึงจะหยุดภัยสแกมเมอร์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้นได้

 

อี ระบุว่า เกาหลีใต้ต้องทำงานร่วมกับกัมพูชา ชาติอาเซียน หรือแม้แต่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก เพื่อจัดการกับอาชญากรรมข้ามชาติร้ายแรง ซึ่งมีกลลวงที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ทว่าการจัดการปัญหาเป็นเรื่องยาก เพราะบทบาทของจีนในภูมิภาค

 

“จีนถือกุญแจสำคัญในสถานการณ์นี้ เพราะคนจีนส่วนใหญ่ก่ออาชญากรรม จีนคือประเทศที่มีส่วนได้ส่วนเสียสำคัญ เพราะชาวจีนเป็นทั้งผู้ก่อเหตุและเหยื่อ ซึ่งเมื่อมีการบุกทลายสถานที่ คนส่วนใหญ่ที่ได้รับการช่วยเหลือก็มักจะเป็นชาวจีน”

 

นอกจากนี้ นักวิชาการจาก Asan Institute for Policy Studies ยังอธิบายว่า แนวคิดการใช้ปฏิบัติการทางทหารทลายคอลเซ็นเตอร์อาจไม่ได้ผล โดยมองว่า แนวคิดนี้ ‘อันตราย’ และ ‘ไม่สมจริง’

 

“ลองคิดดู หากกองทัพเกาหลีปฏิบัติการในกัมพูชา เพื่อจับอาชญากรชาวจีน ผลที่ตามมาจะคาดเดาไม่ได้ และค่อนข้างจะหายนะมากๆ”

 

ภาพ: Kim Hong-Ji / Reuters

 

อ้างอิง:

The post เกาหลีใต้ประชุมฉุกเฉินในกัมพูชา ตามติดสถานการณ์สแกมเมอร์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ต้องร่วมมือกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก appeared first on THE STANDARD.

]]>