Eat & Drink – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 28 Jun 2024 08:24:43 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 SUNTORY MRP ไอเท็มเด็ดตอบโจทย์สายไดเอต ที่มีแค่ 1 ซอง ก็เท่ากับข้าว 1 มื้อ พร้อมกับความอร่อย! https://thestandard.co/suntory-mrp-meal-replacement/ Fri, 28 Jun 2024 08:30:54 +0000 https://thestandard.co/?p=950217

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายแบรน […]

The post SUNTORY MRP ไอเท็มเด็ดตอบโจทย์สายไดเอต ที่มีแค่ 1 ซอง ก็เท่ากับข้าว 1 มื้อ พร้อมกับความอร่อย! appeared first on THE STANDARD.

]]>

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายแบรนด์ให้ได้เลือกสรรกัน และหลายคนคงคิดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะควบคุมอาหารทั้งที คงมีแต่ต้องอดทนกับของกินที่อาจจะไม่อร่อย จืด หรือฝืดคอ หรือไม่ก็สารอาหารไม่ครบตามที่ร่างกายต้องการ ซึ่ง SUNTORY Meal Replacement (MRP) แบรนด์เอาใจสายเฮลตี้ที่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น การันตีด้วยรางวัลรสชาติดีระดับสากล ก็ถือได้ว่าเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ในช่วงนี้

 

เพราะตอนนี้ทางแบรนด์ได้ออกผลิตภัณฑ์อย่าง SUNTORY MRP ทดแทนมื้ออาหาร โปรดักต์แสนสะดวกที่เอาใจคนอยากควบคุมปริมาณแคลอรี มาในรูปแบบผงละลายน้ำ ประกอบไปด้วยโปรตีนสูง 22 กรัม ไฟเบอร์สูง 10 กรัม และแอลคาร์นิทีน แถมถูกออกแบบมาเพื่อใช้รับประทานแทนอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งได้อย่างถูกหลักโภชนาการ

 

โดย SUNTORY MRP ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยเผาผลาญไขมันในแบบที่ไม่กระทบกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยระบบขับถ่าย เพราะมีกากใยอาหารสูง สามารถรับประทาน 1 ซอง แทนข้าว 1 มื้อ ได้สะดวกและง่ายดาย ไม่เติมน้ำตาลทราย มีรสชาติอร่อย พร้อมให้พลังงานที่เหมาะสม

 

และตอนนี้ก็มี 2 รสชาติให้ได้ลอง อย่างรสกาแฟลาเต้ หรือถ้าใครไม่ใช่สายคาเฟอีนจ๋า ก็สามารถทดแทนกันได้ด้วยรสโกโก้ ใครที่จะอยากลองก่อนก็มีแพ็กทดลอง 4 ซอง รวม 2 รส ให้ได้เลือกเช่นกัน ซึ่งก็เป็นไอเท็มน่าสนใจและตอบโจทย์คนอยากไดเอต เพราะนอกจากจะไม่ต้องมายุ่งยากกับการคุมอาหารในแต่ละมื้อให้กลุ้มใจแล้ว ยังได้รสชาติของความอร่อย คุมอาหารได้อย่างมีความสุข สายออกกำลังก็เหมาะ เพราะโปรตีนสูง วิตามินและแร่ธาตุครบ จะดื่มเป็น Pre หรือ Post Workout ก็ได้เช่นกัน เป็นโปรดักต์ใหม่ที่น่าจับตามองสำหรับเทรนด์รักสุขภาพ

 

#SuntoryMRP

#SuntoryMealReplacement

 

[ADVERTORIAL]

The post SUNTORY MRP ไอเท็มเด็ดตอบโจทย์สายไดเอต ที่มีแค่ 1 ซอง ก็เท่ากับข้าว 1 มื้อ พร้อมกับความอร่อย! appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดแล้ว! Phenix แหล่งรวมอาหารและสุดยอดความอร่อยใจกลางเมือง ภายใต้คอนเซปต์ ‘อร่อยฟินบินได้’ ปักธงไทยสู่เดสติเนชันด้านอาหารระดับโลก https://thestandard.co/phenix-food-center-now-open/ Mon, 10 Jun 2024 06:10:52 +0000 https://thestandard.co/?p=942751

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC) ผู้พัฒนา […]

The post เปิดแล้ว! Phenix แหล่งรวมอาหารและสุดยอดความอร่อยใจกลางเมือง ภายใต้คอนเซปต์ ‘อร่อยฟินบินได้’ ปักธงไทยสู่เดสติเนชันด้านอาหารระดับโลก appeared first on THE STANDARD.

]]>

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย ผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านอาหารของโลกผ่านโครงการ Phenix (ฟีนิกซ์) แหล่งรวมอาหารและสุดยอดความอร่อยใจกลางเมืองบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ย่านประตูน้ำ ภายใต้คอนเซปต์ ‘อร่อยฟินบินได้’ (Flavor Gets Its Wing Worldwide) “Phenix Food Wholesale โครงการ 10,000 ล้านพร้อมเปิดแล้ว 26 มิย 2024

 

Phenix ถือเป็นโครงการแนวคิดใหม่ในการสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวสู่ศูนย์กลางด้านอาหารของโลก สอดคล้องกับพันธกิจของสถาบันอาหาร ที่มุ่งผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการบริการอุตสาหกรรมอาหาร โครงการนี้จึงเปรียบเสมือนเวทีแห่งโอกาสให้ผู้ประกอบการด้านอาหารไทยกว่า 200 ร้าน สร้างสรรค์นวัตกรรมและเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันสู่ตลาดโลก

 

AWC ยังร่วมมือกับสถานทูตและหอการค้าจากนานาประเทศ ในการสร้างพาวิเลียนแสดงสินค้าของประเทศต่างๆ สะท้อนภาพลักษณ์แหล่งรวมสินค้าอาหารและศูนย์กลางค้าส่งอาหารที่เชื่อมต่อทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์แห่งแรกของโลก

 

โครงการ Phenix จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์อาหารแห่งใหม่ที่ดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมอาหารจากทั่วโลกมายังประเทศไทยได้ด้วยจุดเด่นอะไร และการจัดกิจกรรมด้านอาหารและความบันเทิงระดับโลกมากมายตลอดทั้งปี จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนอาหารซึ่งเป็น Soft Power ของไทยได้อย่างไร THE STANDARD สรุปให้ [PR NEWS]

 

 

เริ่มกันที่ความโดดเด่นของโครงการ คือการมีพื้นที่ Food Lounge ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ จึงรวมที่สุดของอาหารรสเลิศและคาเฟ่กว่า 200 ร้านมาไว้ในที่เดียว ภายใต้บรรยากาศที่ออกแบบโดยคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของนักกินทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นโซนแฮงเอาต์สำหรับรับชมกีฬาและความบันเทิง โซนครอบครัวและเด็ก โซน Co-Dining และโซน You Hunt We Cook Kitchen ที่ลูกค้าเลือกวัตถุดิบมาให้เชฟปรุงอาหารให้

 

 

Phenix ยังเป็นศูนย์ค้าส่งด้านอาหารระดับโลกที่จะมีผู้ขายจากนานาประเทศกว่า 2,400 ราย กลายเป็นแหล่งรวมวัตถุดิบคุณภาพจากทั่วโลกในราคาต้นทาง ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถนำสินค้ามาวางจำหน่ายและจัดแสดงภายในพื้นที่ Share Shop อีกหนึ่งช่องทางที่จะเข้าถึงเครือข่ายผู้ซื้อสินค้าและวัตถุดิบด้านอาหารระดับโลก โดยมีศูนย์ให้บริการทางด้านธุรกิจ (SSC) ทำหน้าที่เชื่อมต่อผู้ซื้อกับผู้ค้า

 

 

ต่อยอดโอกาสทางการค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Phenix ซึ่งจะทำหน้าที่รวบรวมเครือข่ายของกลุ่มผู้ซื้อจากพันธมิตรของ AWC ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ห้องอาหาร บริการจัดเลี้ยง สายการบิน เครือโรงพยาบาล และเชฟชั้นนำทั่วโลก รวมทั้งผู้ซื้อกลุ่มอาหารอื่นๆ ให้สามารถซื้อขายและจำหน่ายสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น ทางสถาบันอาหารจะเข้ามาร่วมพัฒนาหลักสูตร และให้คำปรึกษากระบวนการจัดการอาหารที่ปลอดภัย (Food Safety Management System) สำหรับผู้ประกอบการด้านอาหารทั่วประเทศ ของสถาบันพัฒนาบุคลากรด้านอาหาร Phenix Academy เพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพสู่อุตสาหกรรมอาหารของไทยและของโลก

 

 

ภายในโครงการถูกแบ่งพื้นที่อย่างชัดเจนเพื่อรองรับกิจกรรมเพื่อความบันเทิง งานประชุม งานอีเวนต์ งานสัมมนา ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ Co-Living กว่า 20,000 ตารางเมตร มาพร้อม Phenix Grand Ballroom, Phenix Auditorium Hall, Common Space, ห้องประชุม, ห้องสัมมนา, เลานจ์ขนาดใหญ่ และครัวสาธิต

 

นอกจากนี้ยังเปิดพื้นที่ให้ Food Influencer และเหล่า Celebrity Chef มาทำ Live Streaming รีวิวอาหารได้ตลอดเวลา

 

 

ขอเรียกน้ำย่อยตัวอย่างกิจกรรมความบันเทิงที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี ได้แก่

 

  • World Junior Chef Championship เวทีแข่งขันทำอาหารระดับนานาชาติ เฟ้นหาเชฟรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพออกสู่ตลาดโลก
  • Thai Food Festival งานแฟร์ที่ผนึกกำลังผู้ผลิตอาหาร เครื่องปรุง และร้านอาหารไทยชั้นนำ ร่วมผลักดันอาหารไทยให้เป็น Soft Power ในวงการอาหารระดับโลก
  • Lisa Ono The Greatest Hits Concert คอนเสิร์ตระดับโลกที่จะจัดขึ้นวันที่ 26 กรกฎาคม 2567
  • NFI Future Food Event สำรวจโลกอาหารแห่งอนาคต
  • NFI Thailand Vegan Festival พลิกโฉมอาหารวีแกนด้วยการผสานรสชาติแบบไทย
  • NFI Awards of the Year พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้กับธุรกิจในวงการอาหาร ที่ดำเนินธุรกิจโดยการคำนึงถึงความยั่งยืน

 

หรือจะคลิกเข้าไปดูคอนเซปต์โครงการได้ที่ https://fb.watch/snRELGuHu-/ 

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Phenix Food Wholesale Hub หรือโทร. 06 5549 6565

The post เปิดแล้ว! Phenix แหล่งรวมอาหารและสุดยอดความอร่อยใจกลางเมือง ภายใต้คอนเซปต์ ‘อร่อยฟินบินได้’ ปักธงไทยสู่เดสติเนชันด้านอาหารระดับโลก appeared first on THE STANDARD.

]]>
ดื่มด่ำความกลมกล่อมที่คุ้นเคย กับ STARBUCKS AT HOME BY NESCAFÉ DOLCE GUSTO ‘New Look! Same Great Taste’ https://thestandard.co/nescafe-dolce-gusto-2/ Mon, 20 May 2024 09:45:09 +0000 https://thestandard.co/?p=932807 Nescafe Dolce Gusto

ดื่มด่ำรสสัมผัสที่คุ้นเคยของกาแฟคุณภาพดี STARBUCKS AT H […]

The post ดื่มด่ำความกลมกล่อมที่คุ้นเคย กับ STARBUCKS AT HOME BY NESCAFÉ DOLCE GUSTO ‘New Look! Same Great Taste’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Nescafe Dolce Gusto

ดื่มด่ำรสสัมผัสที่คุ้นเคยของกาแฟคุณภาพดี STARBUCKS AT HOME BY NESCAFÉ DOLCE GUSTO ภายใต้ ‘ลุคใหม่ รสชาติดีต่อใจเหมือนเดิม’

 

NESCAFÉ DOLCE GUSTO แบรนด์ที่มีประสบการณ์ด้านการผลิตกาแฟมานานกว่า 80 ปี แต่ยังขยันสรรหาสิ่งใหม่ๆ มาเอาใจคอกาแฟและแฟนแบรนด์เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อแบรนด์ลุกขึ้นมาปรับแพ็กเกจจิ้ง ‘STARBUCKS AT HOME BY NESCAFÉ DOLCE GUSTO’ ถึงจะลุคใหม่ แต่รสชาติดีต่อใจเหมือนเดิม

 

พูดในฐานะสาวก STARBUCKS AT HOME BY NESCAFÉ DOLCE GUSTO ที่ลิ้มลองมาแล้วทั้ง 11 รสชาติ ยืนยันอีกเสียงว่าทั้งรสชาติความหอม เข้ม กลมกล่อม และคุณภาพกาแฟยังเป๊ะทุกคัพจริงๆ

 

ต้องยกนิ้วให้กับแคปซูลอัจฉริยะที่กักเก็บความสดและความหอมของกาแฟทุกแก้ว พอมาเจอกับเครื่องชงกาแฟจาก NESCAFÉ DOLCE GUSTO ที่มีนวัตกรรมล้ำสมัย ยิ่งทำให้โมเมนต์การดื่มกาแฟคุณภาพดีเกิดขึ้นได้ง่ายๆ แค่คลิกเดียวก็เหมือนมีบาริสต้ามาชงให้ถึงบ้าน

 

โมเมนต์ดีๆ กับกาแฟแก้วโปรดง่ายๆ แบบนี้ใครก็มีได้ แค่เริ่มต้นด้วยการเลือก ‘STARBUCKS BY NESCAFÉ DOLCE GUSTO’ จาก 11 รสชาติที่คุณชื่นชอบได้แล้ววันนี้ตามช่องทางการสั่งซื้อด้านล่าง

 

Official Website: https://bit.ly/3UmCr5w

รวมถึงทางแพลตฟอร์ม Lazada, Shopee และ TikTok Shop

 

แต่ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นด้วยรสชาติไหน เพื่อให้เข้าถึงรสชาติของคุณภาพกาแฟที่แท้จริงในสไตล์ NESCAFÉ DOLCE GUSTO แนะนำ 4 รสชาติขายดีที่ลองแล้วจะรัก จะใช่รสชาติเดียวกับที่อยากลองหรือไม่ พร้อมแล้วไปดูกัน!

 

#NescafeDolceGustoThailand #StarbucksAtHomeThailand 

#NewLookSameGreatTaste #ลุคใหม่ดีต่อใจเหมือนเดิม

 

Nescafe Dolce Gusto

 

การปรับลุคใหม่ครั้งนี้มาใน 11 รสชาติ ได้แก่ House Blend Americano, Espresso Roast, Caffè Latte, Veranda Blend Americano, White Mocha, Pike Place Roast Lungo, Caramel Macchiato, Iced Caffé Americano, Matcha Latte, Cappuccino และ Single-Origin Colombia Espresso

 

ย้ำอีกครั้ง ถึงจะมาในลุคใหม่แต่ทั้ง 11 รสชาติยังคงมาตรฐานความอร่อย กลมกล่อมเหมือนเดิม เพราะมี Smart Technology ช่วยกักเก็บความสดและความหอมไว้ในแคปซูล เพิ่มเติมคือความมินิมัล ที่ทำให้เห็นถึงความใส่ใจของแบรนด์ที่เข้าใจไลฟ์สไตล์คนยุคนี้ที่มองหากิมมิกจากสิ่งของรอบตัวมาตกแต่งมุมโปรด โดยเฉพาะมุมกาแฟที่กลายเป็นมุมที่ทุกบ้านต้องมี เป็นการเติมเต็มความสุขและชาร์จพลังใจ

 

 

แต่ถ้าพูดถึง 4 รสชาติขายดี และยังคงเป็น The Best ในใจคอกาแฟทุกสไตล์ ต้องยกให้ House Blend Americano, Espresso Roast, Caffè Latte และ Veranda Blend Americano

 

Nescafe Dolce Gusto

 

ตัวแรกที่ไม่มีทางหลุดโผคือ ‘House Blend Americano’ เพราะเป็นกาแฟตัวแรกที่สตาร์บัคส์รังสรรค์ขึ้นมาตั้งแต่ปี 1971 คัดสรรเมล็ดกาแฟจากลาตินอเมริกา นำมาคั่วเพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่เข้มข้นกลมกล่อม พร้อมกลิ่นหอมหวานต่างๆ ที่ได้จากการคั่ว


รสชาติแบบนี้เหมาะที่จะชงเป็นเครื่องดื่มร้อนสำหรับเริ่มต้นวัน หรือจะเสิร์ฟช่วงบ่ายเพื่อปลุกความสดชื่นจากรสชาติและกลิ่นของกาแฟก็ยังได้

 

 

ใครที่อยากสัมผัสกลิ่นและรสชาติเหมือนบาริสต้ามาชงให้ถึงบ้านต้องลอง ‘Caffè Latte’ กาแฟนมสุดคลาสสิก เมนูที่ได้แรงบันดาลใจจากเมนูยอดนิยม เครื่องดื่มอันเป็นเอกลักษณ์ของสตาร์บัคส์ มาครบทั้งคุณภาพของวัตถุดิบระดับพรีเมียมด้วยเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% ให้รสชาติที่นุ่ม กลมกล่อม ผสานความประณีตของฟองนม

 

รสชาติความหอมที่ให้ทั้งความกลมกล่อมของกาแฟและความนุ่มนวลของฟองนมแบบนี้ ทำให้นึกถึงช่วงเวลายามบ่ายกับหนังสือดีๆ สักเล่ม หรือซีรีส์เกาหลีฟีลกู๊ดสักเรื่องเลยล่ะ

 

Nescafe Dolce Gusto

 

‘Espresso Roast’ เอสเพรสโซคั่วเข้ม รสชาติที่เข้มข้นและยังสัมผัสได้ถึงความหอมหวานเหมือนกลิ่นของคาราเมล ความลงตัวของรสชาติที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นกาแฟสำหรับวันที่ต้องใช้ไอเดียในการคิดงาน หรือวันที่ต้องรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ

 

หรืออาจจะเป็นแก้วสำหรับเริ่มต้นวันใหม่ของคนที่ชอบกาแฟคั่วเข้มคงความกลมกล่อมได้ครบทุกมิติ

 

 

ถ้าให้นึกถึงกาแฟที่รสชาตินุ่มนวลผสานความกลมกล่อมของกลิ่นโกโก้แล้วล่ะก็ เรานึกถึง ‘Veranda Blend Americano’ ยิ่งถ้ารู้ว่าเบื้องหลังเอกลักษณ์ของกลิ่นและรสชาติที่ว่านี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเกษตรกรชาวไร่กาแฟในลาตินอเมริกา ก็ยิ่งเติมเต็มโมเมนต์กาแฟที่เหมาะสำหรับวันพักผ่อนจริงๆ


กาแฟคั่วอ่อนความเข้มระดับ 6 จึงเป็นรสชาติที่ดื่มง่ายแต่ยังสัมผัสได้ถึงความกลมกล่อมของกาแฟครบ กลิ่นหอมละมุนของโกโก้และกลิ่นกรุ่นจางๆ ของถั่วคั่ว ทำให้แก้วนี้เหมาะกับวันสบายๆ อย่างเช้าวันหยุด บ่ายวันศุกร์ หรือจะทุกๆ วันที่คุณอยากทำให้เป็นวันพักผ่อน

 

Nescafe Dolce Gusto

 

นอกจากคุณภาพที่ดีและรสชาติที่ดีต่อใจเหมือนเดิมของแคปซูลกาแฟ STARBUCKS AT HOME BY NESCAFÉ DOLCE GUSTO ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องชงกาแฟดีๆ ที่มีนวัตกรรมล้ำสมัย มาพร้อมแรงดันที่เหมาะสมและอุณหภูมิน้ำที่เหมาะกับทุกเมนูกาแฟแก้วโปรด


เสกโมเมนต์การดื่มกาแฟคุณภาพดีง่ายๆ เหมือนบาริสต้ามาชงให้ถึงบ้าน เพียงแค่เลือกแคปซูล ‘STARBUCKS AT HOME BY NESCAFÉ DOLCE GUSTO’ รสชาติที่ชอบแล้วใส่เข้าเครื่อง ปรับระดับน้ำตามคำแนะนำข้างกล่องของรสชาตินั้นๆ และคลิก เพียงเท่านี้กาแฟคุณภาพดีเหมือนมีบาริสต้ามาชงถึงบ้านก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว

 

 

บิลด์กันขนาดนี้ ถึงเวลาที่คอกาแฟตัวจริงต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าคุณภาพกาแฟเอกลักษณ์ของทั้ง 11 รสชาติ ที่ได้ Smart Technology มาช่วยล็อกความสดของกาแฟคั่วบดได้อย่างยาวนาน เพื่อให้ได้กาแฟสดที่สมบูรณ์ทั้ง ‘รส’ และ ‘กลิ่น’ ไร้ที่ติทุกแก้ว เหมือนได้ดื่มกาแฟสดที่คาเฟ่จริงเหมือนที่เราสัมผัสหรือไม่

 

ดื่มด่ำกาแฟแก้วโปรดทั้ง 11 รสชาติ ใน ‘ลุคใหม่ รสชาติดีต่อใจเหมือนเดิม’ ได้ด้วยตัวเองที่ https://bit.ly/3UmCr5w และแพลตฟอร์ม Lazada, Shopee, TikTok Shop

The post ดื่มด่ำความกลมกล่อมที่คุ้นเคย กับ STARBUCKS AT HOME BY NESCAFÉ DOLCE GUSTO ‘New Look! Same Great Taste’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
รวบตึงความปึ้ง ความปัง แคมเปญซัมเมอร์ #ร้อนนี้ต้องวอลล์ ไอเดียดับดีกรีความร้อนด้วยความสนุกและอร่อยฉ่ำสไตล์วอลล์ [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/walls-summer-x-4eve/ Tue, 14 May 2024 10:30:34 +0000 https://thestandard.co/?p=931696

อุณหภูมิเมืองไทยร้อนเดือดขนาดนี้ ถ้าธุระไม่มีหรือกิจกรร […]

The post รวบตึงความปึ้ง ความปัง แคมเปญซัมเมอร์ #ร้อนนี้ต้องวอลล์ ไอเดียดับดีกรีความร้อนด้วยความสนุกและอร่อยฉ่ำสไตล์วอลล์ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

อุณหภูมิเมืองไทยร้อนเดือดขนาดนี้ ถ้าธุระไม่มีหรือกิจกรรมนอกบ้าน ไม่เจ๋งจริงคงไม่มีใครอยากออกมาปะทะความเดือดของแดดให้หงุดหงิดใจ ‘วอลล์’ แบรนด์ที่ไม่เคยหยุดมอบรอยยิ้มและความสุขให้กับคนไทย อยากเห็นทุกคนสนุกสนานและจอยไปกับทุกโมเมนต์หน้าร้อนได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือทำกิจกรรมอะไร จึงจัดแคมเปญดับอุณหภูมิใจซัมเมอร์ #ร้อนนี้ต้องวอลล์ ไปกับกิจกรรมสนุกๆ ตลอดหน้าร้อนที่ผ่านมา ถึงดีกรีความร้อนจะไม่ลด แต่ขีดความสนุกพุ่งทะลุปรอท 

 

 

หน้าร้อนเรียกซัมเมอร์ แต่น่ารักเวอร์ต้องสาวๆ วง 4EVE

 

แค่กิจกรรมแรกก็ทำเอาเหล่าฟอร์อายละลายกันเป็นแถบ เมื่อ ‘วอลล์’ ดึง ‘4EVE’ เกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอตของวงการ T-Pop นั่งแท่นพรีเซนเตอร์ ช่วยเติมสีสันให้หน้าร้อนของวอลล์สนุกสนานยิ่งขึ้น

 

 

ด้วยความน่ารักสดใสของ 7 สาว 7 คาแรกเตอร์ เรียกได้ว่าตรงทุกข้อกับภาพลักษณ์และตัวตนของวอลล์ แบรนด์ที่สร้างรอยยิ้มแห่งความสุขให้กับคนไทยตลอด 35 ปี โดยสาวๆ 4EVE จะรับหน้าที่กระจายความสุขและสร้างรอยยิ้มผ่านเสียงเพลงในฐานะตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง มั่นใจ กล้าหาญ เปิดเผยความรู้สึก และทำให้คนรอบตัวมีความสุข 

 

 

Hula Hula (2024)’ เวอร์ชัน 4EVE สดใสสุด ซัมเมอร์สุด!

 

ดาเมจความแรงของพรีเซนเตอร์ใหม่กำลังระอุ วอลล์จึงเร่งเครื่องความสนุกต่อ ด้วยการปล่อยเพลง Hula Hula (2024) ที่นำเพลงสุดฮิตของหน้าร้อนกลับมาทำใหม่ในเวอร์ชัน 4EVE พร้อมท่าเต้นน่ารักๆ และดาเมจความสดใสของพวกเธอ ไม่รู้ว่าโดนอะไรในเอ็มวีนี้ตกบ้าง ที่แน่ๆ คืออยากคว้าซัมเมอร์ไอเท็มแล้วพุ่งตัวไปทะเล และเติมความสดชื่นให้ฉ่ำซัมเมอร์ด้วยวอลล์ทุกรสชาติที่เห็นในเอ็มวี 

 

 

สร้างโมเมนต์สุด Fun! ด้วย TikTok Branded Effect

 

เอาละพวกเรา ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถพุ่งตัวไปชื่นฉ่ำกับน้ำกับฟ้าที่ทะเลเหมือนในเอ็มวี Hula Hula (2024) แบบสาวๆ 4EVE วอลล์เลยจัดให้อีกหนึ่งความสนุก ตอกย้ำความจอย #ร้อนนี้ต้องวอลล์ อยู่ที่ไหนก็จอยได้ ชวนเหล่า TikToker มาสร้างโมเมนต์สุด Fun ด้วย Branded Effect ของวอลล์ แล้วแชร์ให้โลกโซเชียลประจักษ์ ร้อนยังไงให้ดูน่ารัก ก็ #ร้อนนี้ต้องวอลล์ กันไปเลย งานนี้สาวๆ 4EVE ก็มาร่วมเอ็นจอยความอร่อยและสนุกด้วย

 

นอกจากจะสนุกไปกับการทำแต้ม ยังได้เห็น TikToker หลายคนหยิบเพลง Hula Hula (2024) มา Cover ก็เยอะ จะเพราะจังหวะสนุกๆ ของเพลงหรือท่าเต้นประกอบเพลงของสาวๆ 4EVE ที่เต้นตามได้ไม่ยาก ส่งผลให้กิจกรรมนี้ประสบความสำเร็จสร้างเอ็นเกจถล่มทลาย 

 

 

ร้อนต้องสาด! สงกรานต์สยาม ผ้าขาวม้า อยู่เย็น เป็นสนุก

 

แต่ความสนุกที่ปึ้งสุด ขั้นกว่าของความปังและจึ้งก็ตอนที่วอลล์ไปร่วมเป็นสปอนเซอร์หลัก สร้างความสนุกในเทศกาลสงกรานต์ในงาน ‘สงกรานต์สยาม ผ้าขาวม้า อยู่เย็น เป็นสนุก’ เมื่อวันที่ 13-15 เมษายนที่ผ่านมา เสกสยามสแควร์ให้กลายโซนอยู่เย็น เป็น Wall’s Land จัดเต็มความสนุกไปกับปาร์ตี้โฟมสุดหรรษา ท้าทุกคนกระโจนลงมาคลายร้อนให้ฉ่ำใจ พร้อมแจกไอศกรีมวอลล์ให้กับทุกคนได้อร่อยฉ่ำไปด้วยกันตลอดทั้งงาน ตอกย้ำปรากฏการณ์ร้อนนี้ต้องวอลล์ว่าเป็นไปได้ไม่เกินจริง 

 

 

Wall’s Big Ice Cream Hunt มิชชันล่า AR ค้นหาความอร่อยฉ่ำดับร้อนทั่วกรุง 

 

ปรากฏการณ์ #ร้อนนี้ต้องวอลล์ ยังไม่หมดเท่านี้ วอลล์เตรียมมิชชันสนุกล้ำ ตามล่าหาไอศกรีมวอลล์ยักษ์ที่แลนด์มาร์กใจกลางกรุงกับกิจกรรม Wall’s Big Ice Cream Hunt ลุ้นรับ Voucher Code ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน – 15 พฤษภาคม 2567  

 

 

ภารกิจตามล่าหา AR ที่อาคารใบหยก 2 และอาคาร Unilever House ใครเจอไอศกรีมวอลล์ยักษ์ก่อน สามารถ Redeem Code ที่ได้จากการเล่น AR ไปเป็นส่วนลดสำหรับซื้อไอศกรีมวอลล์ที่ Tops สาขาที่ร่วมรายการทันที ความอร่อยฉ่ำฟรีๆ แบบนี้ มีแต่วอลล์เท่านั้นที่จัดให้ 

 

ร้อนนี้ต้องวอลล์ 4 รสชาติคู่ใจรับซัมเมอร์ 

 

นอกจากกิจกรรมคลายร้อนที่จัดอย่างที่เล่าไป สังเกตให้ดี ในทุกๆ กิจกรรมจะได้เห็น 4 รสชาติความอร่อยปรากฏตัวอยู่ทุกหนแห่ง ได้แก่ ท๊อปเทน วานิลลา, ฟรุตตี้ แม็กซ์, คอร์นเนตโต วานิลลา และแพดเดิลป๊อป แตงโม

 

 

ปรากฎการณ์นี้เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะ 4 รสชาติที่เหมาะกับซัมเมอร์เมืองไทยที่สุด อย่าง ‘ท๊อปเทน วานิลลา’ ไอศกรีมเนื้อเนียนนุ่ม เคลือบช็อกโกแลตเข้มข้น พร้อมปริมาณถั่วเพิ่มขึ้น 50% เคี้ยวสนุกกรุบกรอบ อร่อยให้หนำใจสายถั่วกันไปเลย

 

 

แต่ถ้าใครชอบฟรุตตี้ฉ่ำๆ แบบไอศกรีมผลไม้รวมต้อง ‘ฟรุตตี้ แม็กซ์ เคลือบเขียวเพิ่มขึ้น 5 เท่า สดชื่นเต็มแม็กซ์รับซัมเมอร์’

 

 

ส่วน ‘คอร์นเนตโต วานิลลา’ ไม่ว่าอย่างไรไอศกรีมรสวานิลลาก็ยังฮิตตลอดกาลสำหรับหน้าร้อน ความเนียนนุ่มละมุนลิ้นของเนื้อไอศกรีม เมื่อมีท็อปปิ้งถั่วกรุบๆ มาเป็นเท็กซ์เจอร์ กัดคำโตๆ พร้อมกับโคนกรุบกรอบ นี่แหละที่สุดของความอร่อยช่วงหน้าร้อน

 

 

หน้าร้อนนี้ อีกรสชาติที่ต้องยกให้ ก็คงหนีไม่พ้น ‘แพดเดิลป๊อป แตงโม’ กัดคำไหน ก็อร่อยสดชื่น สมมงเมนูดับร้อนตัวจริง

 

หน้าร้อนยังไม่จากเราไปง่ายๆ กิจกรรมความสนุกจากวอลล์ก็เช่นกัน หรือต่อให้ผ่านพ้นช่วงซัมเมอร์ไป วอลล์ก็คงเตรียมแคมเปญสนุกๆ และรสชาติความอร่อยอีกมากมายให้กับพวกเราอย่างแน่นอน 

 

หรือถ้าใครยังอยากสัมผัสความทรงจำสนุกๆ ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเอาไว้ 4 รสชาติความอร่อยที่บอกไป ท๊อปเทน วานิลลา, ฟรุตตี้ แม็กซ์, คอร์นเนตโต วานิลลา และแพดเดิลป๊อป แตงโม มอบความอร่อยคลายร้อนให้คุณได้แน่

The post รวบตึงความปึ้ง ความปัง แคมเปญซัมเมอร์ #ร้อนนี้ต้องวอลล์ ไอเดียดับดีกรีความร้อนด้วยความสนุกและอร่อยฉ่ำสไตล์วอลล์ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
ย้อนรอย ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ กับก้าวที่ไม่เคยหยุดสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันสู่อนาคตตลอด 100 ปี [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/johnnie-walker-100-years/ Thu, 25 Apr 2024 12:00:30 +0000 https://thestandard.co/?p=926589 Johnnie Walker

ใครกันจะไม่รู้จัก ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ (Johnnie Walker […]

The post ย้อนรอย ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ กับก้าวที่ไม่เคยหยุดสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันสู่อนาคตตลอด 100 ปี [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
Johnnie Walker

ใครกันจะไม่รู้จัก ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ (Johnnie Walker) แบรนด์วิสกี้อันดับหนึ่งของโลกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 200 ปี และมีความสัมพันธ์อันยาวนานร่วมศตวรรษกับประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2467 (ค.ศ. 1924)

 

ตลอด 100 ปี ทุกก้าวย่างของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ในประเทศไทย ภายใต้ปรัชญา ‘Keep Walking’ ได้สร้างแรงบันดาลใจในการก้าวไปข้างหน้าในแบบของตัวเอง

 

ก้าวที่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบหรือดีที่สุด อาจเป็นก้าวที่พลาด แต่การก้าวออกไปนั้นต้องมีจุดหมายที่ชัดเจน เพราะ ‘ทุกก้าวที่พาเราไปข้างหน้า คือก้าวที่มีความหมาย’ นี่คือความหมายที่แบรนด์ซ่อนไว้ในทุกก้าว

 

สำหรับจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คำว่า ‘Keep Walking’ ยังหมายถึงการพาสังคมก้าวไปข้างหน้าด้วยความกล้าที่จะก้าวออกมาทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน สิ่งที่ทำจะสำเร็จหรือล้มเหลวไม่อาจรู้ แต่ก็เลือกที่จะก้าวออกไปลองทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและแรงผลักดันให้เห็นว่า ‘การก้าวนำ’ เป็นอย่างไร

 

ในวาระครบรอบ 100 ปีของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ในเมืองไทย THE STANDARD ขอพาย้อนรอยแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดก้าว เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเรื่องราวในเมืองไทยตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบัน สู่อนาคต

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

จากยอนนี่วอล์คเกอร์ ตราดำ ตราแดง’ สู่ ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ แบรนด์สกอตช์วิสกี้อันดับหนึ่งของไทย

 

ปี 1924 เป็นปีแรกที่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบรนด์สกอตช์วิสกี้สัญชาติสกอตแลนด์ เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาสู่ประเทศไทย โดยมีชื่อเรียกแบบไทยๆ ว่า ‘ตราดำ’ หมายถึง Johnnie Walker Black Label และ ‘ตราแดง’ ใช้เรียกแทน Johnnie Walker Red Label

เนื่องจากในยุคสมัยนั้นการโฆษณาเหล้ายังไม่ถูกควบคุม ป้ายโฆษณาที่เห็นจึงมีภาพขวดจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ และเขียนด้วยคำทับศัพท์ว่า ‘ยอนนี่วอล์คเกอร์’

 

 

ยุค 30-50 เสรีภาพในการโฆษณาทำให้จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ได้ไปปรากฏอยู่ในนิยาย สามเกลอ พล นิกร กิมหงวน ในรูปเมนูของห้องอาหารโรงแรมราชธานีของการรถไฟแห่งประเทศไทย และยังได้พื้นที่โฆษณาบนหนังสือพิมพ์ศรีกรุง ป้ายโฆษณาตามท้องถนนหลายแห่ง รวมไปถึงภาพยนตร์ เงิน เงิน เงิน ที่นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา 

 

ยุค 90 ถือเป็นยุคที่มีจุดเปลี่ยนของแบรนด์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการกลับด้านของโลโก้ The Striding Man จากเดิมที่เคยหันซ้ายก็เปลี่ยนมาหันขวา เพื่อสื่อถึงการเดินไปข้างหน้าสู่สหัสวรรษใหม่ และให้สอดคล้องไปกับแคมเปญ ‘Keep Walking’

 

สำหรับประเทศไทย ปี 1990 ยังเป็นปีแรกที่เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาภายใต้แนวคิด ‘ศักดิ์ศรีผู้ชายที่แท้จริง’ ถือเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบรนด์แรกๆ ในยุคนั้นที่ทำโฆษณาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม ถือเป็นตัวอย่างความกล้าของแบรนด์ที่จะก้าวออกไปค้นหาความท้าทายใหม่ๆ ผ่านการสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง 

 

แคมเปญ ‘Will You Keep Walking?’ ในปี 2013 ที่กลายเป็น Talk of the Town กลับมาตอกย้ำดีเอ็นเอของแบรนด์อีกครั้ง ด้วยการนำเสนอภาพยนตร์ชุดพิเศษเฉลิมฉลองชีวิตอันเป็นที่สุดของ เรวัต พุทธินันทน์ ผู้พลิกตำนานวงการธุรกิจเพลงไทย ตัวอย่างของคนที่มุ่งมั่นที่จะตามความฝันของตัวเอง กล้าทำในสิ่งที่ท้าทาย ไม่ยอมแพ้ สื่อให้เห็นถึงคนที่ไม่กลัวที่จะ ‘ก้าว’ เพื่อไปถึงฝัน เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทั่วประเทศ  

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

ปี 2015 แบรนด์เริ่มต้นก้าวใหม่อีกครั้งผ่านโลโก้ The Striding Man สุภาพบุรุษบนขวดจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ซึ่งเป็นโลโก้ที่ถูกใช้มาจนถึงปัจจุบัน โดย แกรี เรดฟอร์ด ได้นำเอารอยยิ้มบนในหน้ากลับคืนมาให้กับบุรุษในชุดทักซิโดที่กำลังก้าวเดินพร้อมไม้เท้าคู่ใจ โดยมือข้างหนึ่งกำลังจับที่ปลายหมวกทรงสูง แสดงถึงความเป็นมิตร อบอุ่น มองโลกในแง่ดี ตอกย้ำว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะไม่หยุดก้าวต่อไปข้างหน้า 

 

 

ในปีเดียวกัน แบรนด์รังสรรค์ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ยกระดับปาร์ตี้แห่งปีที่ทุกคนรอคอย ‘THE BLACKLIST’ ให้กลายเป็นประสบการณ์การเฉลิมฉลองเหนือระดับในชื่อ THE BLACKLIST ‘THE NEW SHADE OF BLACK’ ด้วยการร่วมมือกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตทุกวินาทีโดยมีแพสชันเป็นพลังขับเคลื่อน เนรมิตปาร์ตี้ที่มีแต่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เท่านั้นที่ทำได้ 

 

 

และเป็นครั้งแรกที่ ‘House of Walker’ แคมเปญสุดยิ่งใหญ่ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เวียนมาจัดที่เมืองไทย หลังจากตระเวนจัดมาแล้วทั่วทุกมุมโลก ในชื่อ ‘House of Walker 4D Sensory’ ที่นำนวัตกรรม 4D Sensory มากระตุ้นทุกประสาทสัมผัส พร้อมเทคโนโลยี Digital Projection Mapping และการแสดงในรูปแบบ Theatrical Performance

 

ร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ยังถูกจารึกผ่านการพัฒนานวัตกรรม เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และแพ็กเกจจิ้งที่ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ สะท้อนตัวตนของแบรนด์ที่ทันสมัยและไม่หยุดนิ่ง

 

ปี 2016 แบรนด์เปิดตัวจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล ลิมิเต็ด เอดิชั่น (Johnnie Walker Black Label Limited Edition) ขวดสีขาว ผลงานการออกแบบของ มัตติอา บิอาจิ ศิลปินชาวอิตาลี ที่ได้แรงบันดาลใจจากตำนานการเกิดจันทรุปราคา วางจำหน่ายเพียง 2 ประเทศ คือ ประเทศไทยและเลบานอน

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ 

 

เข้าสู่ปี 2017 คงจะเป็นปีที่น่าจดจำ เพราะเป็นปีที่แบรนด์ลุกขึ้นมาปรับภาพลักษณ์ใหม่ในหลายมิติ ตั้งแต่การปรับลุคและจุดยืนของแบรนด์ให้ดูวัยรุ่น มีความสนุกสนาน ทันสมัย ตอบโจทย์วิถี Socialize ที่เปลี่ยนไป เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงง่ายขึ้น พร้อมคิกออฟแคมเปญ ‘Taste of Black ครบทุกมิติแห่งรสชาติ’ สลัดภาพจำของป้าย Black Label สีดำ แทนที่ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ภายใต้สีสัน 4 แบบ เพื่อสะท้อน 4 มิติแห่งรสชาติ ได้แก่ Refreshing, Bold, Mysterious และ Vibrant ตามมาด้วยกิจกรรมความสนุกตลอดทั้งปี เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ผ่านประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมกับมิติต่างๆ ของการใช้ชีวิต

 

ปีต่อมาจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ก็เปิดตัวจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล ‘เจน วอล์กเกอร์ เอดิชั่น’ (Johnnie Walker Black Label ‘Jane Walker Edition’) จำนวนจำกัดเพียง 250,000 ขวดทั่วโลก เป็นการปรับภาพลักษณ์ให้มีความเฟมินีนและสื่อถึงความเป็นผู้หญิง เพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศและยกย่องสตรีทั่วโลก

 

 

ต่อเนื่องด้วยการจับมือกับ HBO ผู้ผลิตซีรีส์ Game of Thrones ในปี 2019 เปิดตัว White Walker by Johnnie Walker ‘ไวท์ วอล์กเกอร์ บาย จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ และ The Game of Thrones Single Malt Whisky Collection ‘เกมออฟโธร์น ซิงเกิลมอลต์ วิสกี้คอลเลคชั่น’ นำแรงบันดาลใจของฤดูหนาวมาถ่ายทอดเป็นวิสกี้ที่เหมาะกับการดื่มแบบเย็นเจี๊ยบจากฟรีซเซอร์ อุณหภูมิ 1.5 องศาเซลเซียส ออกแบบลวดลายบนขวดด้วยเทคนิคพิเศษ ใช้โทนสีฟ้า-ขาวราวกับพื้นที่ซึ่งปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ตกแต่งสัญลักษณ์ The Striding Man ให้เข้ากันด้วยการสวมชุดเกราะ อีกทั้งหมึกพิเศษสีฟ้าที่จะมองเห็นเมื่อแช่แข็งในอุณหภูมิเยือกเย็น เป็นลวดลายกราฟิกทั่วทั้งขวด และปรากฏคำว่า ‘Winter is Here’ 

 

ตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา แบรนด์ได้ออกแคมเปญ Keep Walking มากมาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนก้าวออกมาตามความฝันของตัวเอง โดยเชื่อมโยงกับประเด็นสำคัญต่างๆ ในสังคม 

 

ปี 2023 หนึ่งในภารกิจ Keep Walking ที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ โครงการ ‘STEP OUT OF THE BOX #ก้าวต่อไปไร้กล่อง’ ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกของดิอาจิโอที่มุ่งลดการใช้กล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของแบรนด์ต่างๆ ในเครือ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ หรือ Take a Bold Stride ภายใต้ปรัชญา Keep Walking ของแบรนด์

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

ประเทศไทยต่อยอดการ ‘ถอดกล่อง’ ครั้งแรกเมื่อปี 2022 ในต่างประเทศ ด้วยการตั้งเป้าลดมลพิษจากการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 1 ล้านกล่อง ลดขยะจากการสังสรรค์จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 1 ล้านกล่องใน 1 ปี และลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนกว่า 2.5 ล้านกิโลกรัมภายในระยะเวลา 10 ปีผ่านความร่วมมือกับ EcoMatcher ในการปลูกป่า Keep Walking Forest

 

ประเดิมต้นปี 2023 เดินเครื่องการผลิตจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ล็อตใหม่แบบไม่มีกล่องในประเทศไทย ถือเป็นอินเตอร์แบรนด์รายแรกในไทยที่ปรับขายสินค้าแบบไร้บรรจุภัณฑ์ (กล่อง) นำร่อง Johnnie Walker ทั้ง Red Label, Black Label และ Double Black เป็นกลุ่มแบรนด์แรก  

 

 

อีกหนึ่งแคมเปญที่ส่งพลังใจให้กับคนรุ่นใหม่อย่างมากก็คือแคมเปญ KEEP  WALKING ภายใต้คอนเซปต์ใหม่ ‘ทุกก้าวที่พาเราไปข้างหน้า คือก้าวที่มีความหมาย’ เปิดตัว นลิน-กัญญ์นลิน เสถียรุจิกานนท์ ในฐานะ The Walker โดยเป็นคนไทยคนแรกที่ได้เป็น 1 ใน 5 ตัวแทนของแคมเปญระดับโลกอย่างประเทศไทย สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก บราซิล และออสเตรเลีย ให้มาเป็นผู้นำในการก้าว 

 

ความพิเศษของแคมเปญนี้คือ การเชิญชวนทุกคนได้ลองมาก้าวต่อไปในแบบของตัวเองผ่านป้ายโฆษณาบิลบอร์ดขนาดใหญ่ใจกลางสยามสแควร์ โดยมีกิมมิกที่ป้ายโฆษณาดังกล่าวจะฉายภาพเคลื่อนไหวของผู้คนที่กำลังก้าวเดินอยู่ในบริเวณนั้นผ่านจอแบบเรียลไทม์

 

The Legacy ยุคสมัยแห่ง ‘ก้าวที่กล้า’

 
ระยะเวลากว่า 100 ปี ย่อมต้องมีเรื่องราวมากมายให้เล่าขาน แต่ถ้าให้หยิบยกที่สุดของผลงานที่เป็นตำนานและควรถูกเล่าขานในแง่ของการเป็นแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดกรุยทาง เพื่อค้นหาความท้าทายใหม่ๆ ผ่านการสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาด จนสามารถสร้างอิมแพ็กต์ให้กับผู้คนแล้วละก็ นี่คือ 3 ผลงานที่ THE STANDARD ขอแปะป้าย The Legacy of Mind

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

1. Winter in Bangkok: เป็นไปไม่ได้…ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ 

 

ใช่…แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ในปี 2004 จะมีใครกล้าทุ่มทุนใช้งบโฆษณาไปกับการเนรมิตกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นเมืองหิมะ เปลี่ยนแม่น้ำเจ้าพระยาให้กลายเป็นน้ำแข็งด้วย CG ในยุคที่ยังไม่ค่อยถูกใช้อย่างแพร่หลาย แต่ในฐานะแบรนด์ที่กล้าก้าวออกไปลองทำสิ่งใหม่ๆ และกล้าทำในสิ่งที่คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นไปไม่ได้ คำว่าเป็นไปไม่ได้มันก็แค่ยังไม่ได้ทำต่างหาก

 

หลังจากที่ภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้ปรากฏสู่สายตาคนไทย มันกลายเป็น Talk of the Town ทันที และส่งผลให้ สาธิต กาลวันตวานิช ผู้กำกับโฆษณามือรางวัลระดับโลก เจ้าของบริษัท Phenomena กลายเป็นที่จับตามอง ไม่เพียงเท่านั้น แรงกระเพื่อมนี้ยังก่อให้เกิดความหวังว่าวงการโปรดักชันเฮาส์เมืองไทยเป็นไปได้ที่จะเทียบชั้นวงการระดับโลก และยังอิมแพ็กต์ไปถึงวงการอื่นๆ ได้เห็นว่า ‘อะไรก็เป็นไปได้’ เหนือสิ่งอื่นใด Winter in Bangkok ยังถูกพูดถึงในฐานะผลงานที่ทำให้ปรัชญา ‘Keep Walking’ ของแบรนด์ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

 

2. WALK FESTIVAL #WALKไทยให้ไกลกว่าเดิม

 

ที่โหวตให้ WALK FESTIVAL เป็นผลงานที่ควรค่ากับตำแหน่งแคมเปญในตำนานของแบรนด์ เพราะเป็นครั้งแรกที่แบรนด์เข้าถึงความเป็นไทยอย่างแท้จริง

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

WALK FESTIVAL เทศกาลดนตรี ศิลปะ และรสชาติ ภายใต้สโลแกน #WALKไทยให้ไกลกว่าเดิม จัดขึ้นใน 3 จังหวัด คือ WALK ขอนแก่น, WALK เชียงใหม่ และ WALK กรุงเทพฯ ที่ตั้งต้นมาจากความเชื่อที่ว่า หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่คือฟันเฟืองสำคัญที่จะนำพาความเป็นไทยไปสู่ระดับโลกได้ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินไทยคนรุ่นใหม่ เป็นที่มาของการฮุกอินไซต์ท้องถิ่นแบบจริงจังของแบรนด์ นำศิลปินท้องถิ่นมาร่วมสร้างสรรค์ความเป็นไทย เช่น ปลุกจังหวะไทยๆ ด้วยดนตรีไทยให้เท่ไม่เหมือนใคร 

 

ยกระดับศิลปะไทยกับ Visual Artists ไทย เพื่อสร้างสรรค์บรรกาศไทยๆ ในฟีลลิ่งใหม่ๆ อาทิ Interactive Installation ที่หยิบจับเอาความเป็นไทยของภาคเหนือ ใต้ อีสาน และกลาง ครีเอตออกมาเป็นโชว์เจ๋งๆ ไปจนถึงการเปิดสัมผัสรสชาติเสน่ห์ไทยที่รังสรรค์โดยบาร์เทนเดอร์ไทยระดับโลก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อมอบประสบการณ์ ‘ความเป็นไทย’ ที่ใหม่และแตกต่าง เพื่อสร้างสรรค์ความเป็นไทยให้ไปไกลได้อย่างที่ตั้งใจ

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

3. Keep Walking Thailand & Awakening Bangkok: กลับสู่ยุคที่ต้องลุกเดินอีกครั้ง!

 

ขอยกตำแหน่งให้กับสองผลงานที่สร้างอิมแพ็กต์ต่อเนื่องกันในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน และน่าจะเป็นแคมเปญที่สร้างการจดจำให้กับคนไทยอย่างมาก เริ่มจาก ‘Keep Walking Thailand’ ในปี 2022 ในเวลานั้นแบรนด์เลือกที่จะปลุกแรงบันดาลใจให้กับไทย ด้วยการชวนคนไทยก้าวออกไปใช้ชีวิตบนท้องถนนที่คนไทยรักและผูกพันอีกครั้ง โดยมี วี-วิโอเลต วอเทียร์ ทำหน้าที่เป็น The Walker หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คนแรกของเมืองไทย ผ่านภาพยนตร์โฆษณาและจัดกิจกรรมต่างๆ บนถนนข้าวสาร เจริญกรุง นานา เรื่อยมาจนถึงการรวมเป็นพลังสำคัญในเทศกาลไฟ Awakening Bangkok ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน 

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

Awakening Bangkok ไม่เพียงเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่อยู่ในแคมเปญ Keep Walking ชวนคนไทยก้าวต่อไปข้างหน้าเท่านั้น แต่ทำให้คนไทยได้เห็นก้าวสำคัญอีกครั้งของแบรนด์ผ่านงานออกแบบสุดล้ำที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น ปี 2020 ออกแบบประติมากรรมแสงไฟสุดอลังการทั่วย่านเจริญกรุง Interactive Design กว่า 36 ชิ้นจากศิลปินไทยและเทศในธีม Re/Wind/Fast/Forward 

 

หรือในปี 2022 ดึงเสน่ห์ของถนนไทยออกมาให้ชมผ่าน Johnnie Walker Light Installation ที่ไปรษณีย์กลาง บางรัก สนุกไปกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอาย Modernized Chinese ที่ Johnnie Walker Hub @Yellow House

 

 

 

100 ปีที่ไม่เคยหยุดก้าว ถูกถ่ายทอดผ่าน ‘Johnnie Walker 100th Year Limited Edition’

 

ในฐานะแบรนด์ที่มีเรื่องราวความผูกพันกับคนไทยมามากกว่า 100 ปี ไม่ง่ายเลยที่จะรักษาความเป็นผู้นำและเป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภค โดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูง 

 

แต่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ทำได้ สามารถครองใจผู้บริโภคและรั้งตำแหน่งผู้นำในหมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่องยาวนานถึง 22 ปีจากผลสำรวจของ Thailand’s Most Admired Brand 2022 

 

ก้าวย่างสู่ศตวรรษที่ 2 ของแบรนด์ เราคงได้เห็นแคมเปญการตลาดที่ยังตั้งอยู่บนพื้นฐานของคำว่า Keep Walking ซึ่งเป็นปรัชญาของแบรนด์อย่างแน่นอน 

 

และสิ่งที่จะได้เห็นแน่ๆ จากการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีประเทศไทย คือ ‘Johnnie Walker Limited Edition ฉลอง 100 ปีประเทศไทย’ งานดีไซน์สุดคลาสสิกที่ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ 100 ปีที่ผ่านมาของแบรนด์ในประเทศไทย ผ่านลวดลายกราฟิกตั้งแต่ชื่อเรียก ‘ยอนนี่วอล์คเกอร์’ โลโก้ The Striding Man ดีไซน์แรกสุดจากปี 1908 ที่ออกแบบโดย ทอม บราวน์ มีการนำไอคอนิกของกิจกรรมและแคมเปญที่ผ่านมามาใส่ อย่างเช่น สัญลักษณ์ที่ปรากฏในภาพยนตร์โฆษณาชุด Winter in Bangkok และสัญลักษณ์ของ Blacklist Party รวมถึงตัวแทนของ Walk Thai

 

ทั้งหมดนี้ถูกผสมผสานเข้ากับเรื่องราวอีก 100 ปีข้างหน้าที่นำเสนอไอคอนิกแห่งอนาคตไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจจิ้ง โลโก้ The Striding Man ที่มีความล้ำสมัย และแน่นอนว่ายังคงใช้โทนสีทองเป็นสีหลัก

 

ถือเป็น Special Edition ฉบับประวัติศาสตร์ 100 ปีที่คนไทยควรเก็บสะสม เพราะจะมีวางจำหน่ายที่ประเทศไทยเท่านั้น 

 

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ได้แล้ววันนี้ที่ The Mall, Tops, Foodland และ Villa Market ทุกสาขา

The post ย้อนรอย ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ กับก้าวที่ไม่เคยหยุดสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันสู่อนาคตตลอด 100 ปี [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
ถอดประสบการณ์การดื่มน้ำที่ WOW ยิ่งกว่าเดิม ผ่านแคมเปญ ‘Coway WOW’ [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/coway-wow/ Fri, 05 Apr 2024 08:00:12 +0000 https://thestandard.co/?p=919465

ถ้าพูดถึงแบรนด์เครื่องกรองน้ำ Coway คงไม่มีใครไม่รู้จัก […]

The post ถอดประสบการณ์การดื่มน้ำที่ WOW ยิ่งกว่าเดิม ผ่านแคมเปญ ‘Coway WOW’ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

ถ้าพูดถึงแบรนด์เครื่องกรองน้ำ Coway คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะมันกลายเป็น ‘Must Have Item’ ที่เข้ามาเปลี่ยนวัฒนธรรมการดื่มน้ำของคนไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ด้วยความที่ชีวิตคนยุคนี้ทุกอย่างต้องโปรดักทีฟไปหมด เช้าก็รีบไปทำงาน เย็นกว่าจะถึงบ้านก็เหนื่อย จนละเลยการดูแลสุขภาพของตัวเอง ไม่แค่เฉพาะการกินอาหารที่มีประโยชน์ หาเวลาออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ รวมไปถึงการดื่มน้ำสะอาด

 

เราไม่รู้เลยว่าพฤติกรรมในปัจจุบันส่งผลเสียต่อร่างกายเราอย่างไรโดยเฉพาะการดื่มน้ำ ยิ่งสภาพอากาศบ้านเราที่ค่อนข้างไปทางร้อนจัด!

 

ร่างกายของเราประกอบไปด้วยน้ำถึง 80% จึงควรดื่มน้ำให้เหมาะสมกับสมดุลร่างกาย ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่ความสำคัญยังอยู่ที่น้ำที่ดื่มจะต้องเป็นน้ำที่สะอาดและบริสุทธิ์

 

แม้ว่าเมืองไทยจะมีน้ำดื่มบรรจุภัณฑ์ที่สะอาดให้เลือกดื่มมากมาย แต่ Pain Point ที่พบคือถ้าต้องคอยซื้อน้ำดื่มทุกเดือน นอกจากจะต้องแบกน้ำที่หนัก ยังเพิ่มปริมาณขยะพลาสติกให้กับโลกอีก ดูไม่น่าจะใช่วิถีการใช้ชีวิตของคนยุคนี้ที่สนใจสิ่งแวดล้อม

 

 

นั่นเป็นสาเหตุที่ Coway แบรนด์เครื่องกรองน้ำอันดับ 1 จากประเทศเกาหลีใต้ เข้ามาทำให้โลกการดริ๊งก์ของพวกเราว้าวกว่าเดิม กับแคมเปญ ‘Coway WOW’ ดริ๊งก์ทั้งบ้าน WOW ทั้งเมือง

 

แคมเปญ Coway WOW ดริ๊งก์ทั้งบ้าน WOW ทั้งเมือง ต่อยอดจากแคมเปญ ‘Just Drink’ เรื่องดื่มน้ำให้ Coway ดูแล ส่วนคุณแค่ดื่ม

 

มาปีนี้ Coway ดึงครอบครับบีม-ออย พี่ธีร์-น้องพีร์ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญใหม่ที่ WOW กว่าเดิม พร้อมปล่อยภาพยนตร์โฆษณาสุดครีเอต และป้ายบิลบอร์ดรอบเมืองให้ทุกคนได้ชมความฟินกันฉ่ำใจ

 

 

‘Coway ต้องซับแล้วน้า’ เสียงน่ารักๆ ของพี่ธีร์-น้องพีร์ในคลิปโฆษณา เป็น Key Message หลักที่ Coway ต้องการจะสื่อสารกับผู้บริโภคให้ใส่ใจในสุขภาพมากยิ่งขึ้นผ่านรูปแบบการ Subscription ซึ่งเป็นเรื่องที่ใครก็คุ้นหู ไม่ต่างอะไรกับการจ่ายค่าบริการสตรีมมิงต่างๆ ที่เราคุ้นเคย

 

เพราะ Coway ต้องการมอบประสบการณ์ ดริ๊งก์ก็ WOW ให้กับผู้บริโภค จึงออกแบบการ Subscription ที่ง่ายมากด้วยค่าบริการเครื่องกรองน้ำแบบรายเดือน คุณจะได้สัมผัสกับสุดยอดนวัตกรรมเครื่องกรองน้ำที่ทำให้การดื่มน้ำสะอาดเป็นเรื่องง่าย

 

 

WOW สุดๆ เพราะมาพร้อมการดูแลก็ WOW ไม่เหมือนใครกับบริการ Coway Care การดื่มน้ำที่สะอาดไม่ได้มาจากน้ำที่เครื่องกรองน้ำอย่างเดียว แต่ไส้กรองจะต้องสะอาด และถูกดูแลอย่างถูกสุขลักษณะ ซึ่ง Coway มีผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผลิตภัณฑ์ หรือ CODY เข้ามาบริการเปลี่ยนดูแล ทำความสะอาดผลิตภัณฑ์ทุกๆ 2 เดือน และเปลี่ยนไส้กรองให้ทุกๆ 4 เดือน

 

ราคาก็ยิ่ง WOW บางคนเข้าใจว่าเครื่องกรองน้ำต้องจ่ายเงินก้อนหลักหมื่น แต่ Coway อยากให้คุณเก็บเงินก้อนนั้นไปทำอย่างอื่น จึงให้คุณสามารถ Subscription เครื่องกรองน้ำในราคาเบาๆ เริ่มต้นเดือนละ 590 บาท เหมือนการจ่ายค่าสตรีมมิงที่เราจ่ายกันทุกเดือน แต่สิ่งที่ได้จากการ Subscription เครื่องกรองน้ำ Coway คือน้ำดื่มที่สะอาดและประสบการณ์สุด WOW ทั้งหมดที่บอกไป

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น Coway ยังเข้าใจทุกความต้องการที่แตกต่างของแต่ละครอบครัว ทั้งจำนวนสมาชิก ไลฟ์สไตล์ ขนาดพื้นที่ Coway จึงออกแบบเครื่องกรองน้ำดีไซน์สวยหลากหลายรุ่นมาเพื่อตอบโจทย์กับแต่ละครอบครัวมากที่สุด แถมยังเป็นเครื่องกรองน้ำที่รวมทุกสิทธิประโยชน์ความ WOW ในหนึ่งเดียวมาให้แล้ว

 

ไม่อยากพลาดประสบการณ์การดื่มน้ำที่ WOW ยิ่งกว่าเคยต้องซับแล้วน้า! ที่ https://bit.ly/3uSn0ts

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1421

 

#CowayThailand #CowayWOW #Cowayดริ๊งก์ก็WOW #ดริ๊งก์กับพี่ธีร์น้องพีร์

The post ถอดประสบการณ์การดื่มน้ำที่ WOW ยิ่งกว่าเดิม ผ่านแคมเปญ ‘Coway WOW’ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘ดู ดม ดื่ม’ ค้นหาคาแรกเตอร์ไวน์เพื่อให้การดื่มไวน์ของคุณ ‘ดื่มด่ำ’ ยิ่งขึ้นไปกับ Wine Tasting โดย Jacob’s Creek [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/wine-tasting-jacobs-creek/ Thu, 15 Feb 2024 11:00:18 +0000 https://thestandard.co/?p=900146

ถึงงาน The Urban Feast x Jacob’s Creek ที่จัดโดย Jacob’ […]

The post ‘ดู ดม ดื่ม’ ค้นหาคาแรกเตอร์ไวน์เพื่อให้การดื่มไวน์ของคุณ ‘ดื่มด่ำ’ ยิ่งขึ้นไปกับ Wine Tasting โดย Jacob’s Creek [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

ถึงงาน The Urban Feast x Jacob’s Creek ที่จัดโดย Jacob’s Creek แบรนด์ไวน์ชื่อดังจากออสเตรเลีย จะปิดฉากความชิคไปเป็นที่เรียบร้อย แต่มีกิจกรรมสุดพิเศษที่ THE STANDARD POP ได้มีโอกาสเข้าร่วมจนอยากมาแชร์ความประทับใจ นั่นก็คือเวิร์กช็อป Wine Tasting ที่แบรนด์จัดขึ้นเป็นพิเศษเพื่อคนรักไวน์ พร้อมเชิญแขกคนพิเศษ มิกซ์-สุเมธ อุดมกิจ หรือที่รู้จักกันในนาม DjMig YesWinedo อินฟลูเอ็นเซอร์ผู้หลงใหลไวน์ มาให้ความรู้เรื่องไวน์ตั้งแต่การ ‘ดู’ พินิจพิจารณาสีของไวน์ แล้วจึงค่อย ‘ดมกลิ่น’ เพื่อสัมผัสกับคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นของไวน์ตัวนั้นๆ ก่อนจะ ‘ชิม’ เพื่อสัมผัสรสชาติที่แท้จริง

 

 

 

ด้วยความที่ไวน์มีคาแรกเตอร์ของรสชาติที่ต่างกัน และความต่างนั้นยังสะท้อนไปถึงคาแรกเตอร์ของแหล่งผลิต เพราะต่อให้มีต้นกำเนิดมาจากสายพันธุ์เดียวกัน เมื่อปลูกต่างถิ่นก็ให้รสชาติที่ต่างไป กลายเป็นเสน่ห์ที่คอไวน์หลงใหลเพราะได้สนุกไปกับการค้นหาความหลากหลายของคาแรกเตอร์นั่นเอง 

 

 

เวิร์กช็อป Wine Tasting ครั้งนี้ Jacob’s Creek พาเราออกเดินทางค้นหาคาแรกเตอร์ของไวน์ 5 ตัว 

 

เริ่มต้นทักทายคอไวน์ได้อย่างน่าประทับใจด้วย ‘Sparkling Moscato Rose’ ไวน์โรเซบอดี้เบา ทำมาจากองุ่นสายพันธุ์ Moscato เอกลักษณ์ของกลิ่นชวนให้นึกถึงความหอมสดชื่นของสตรอว์เบอร์รี พีช และเมลอน ส่วนรสชาติหวานนำ เปรี้ยวกลางๆ ดื่มง่าย เข้าถึงได้ทุกเพศ ลงตัวกับโมเมนต์ความสนุกของงานปาร์ตี้ 

 

 

สำหรับคอไวน์ที่ชอบบอดี้ที่เต็มขึ้นกว่าตัวแรกหน่อย และแอซิดิตี้สูงอีกนิด ต้อง ‘Classic Chardonnay Australia 2022’ ไวน์ขาวจากราชินีแห่งองุ่นขาว Chardonnay ที่มองด้วยตาจะเห็นถึงโทนสีเหลืองอ่อนๆ แค่มองก็รู้สึกสดชื่น กลิ่นซิตรัสเด่น ส่วนกลิ่นของผลไม้เมล็ดแข็งติดมาหน่อยๆ มีความดรายและรสเปรี้ยวปานกลาง เหมาจะเป็น Everyday Wine ที่ดื่มได้ทุกวัน 

 

 

 

 

‘Reserve Cabernet Sauvignon 2020 (South Australia)’ เป็นอีกตัวที่ต้องถูกใจคอไวน์ที่ชอบองุ่นแดงฟูลบอดี้ แทนนินและแอซิดิตี้ปานกลาง ความซับซ้อนของคาแรกเตอร์ที่ให้ความฝาดกว่า 4 ตัวแรกมาจากการบ่มองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon ในถังโอ๊กนาน 18 เดือน เอกลักษณ์ของกลิ่นผลไม้โทนเปลือกดำเด่น แต่ยังให้กลิ่นของวานิลลาติดมาหน่อย งานสังสรรค์ที่เสิร์ฟเมนูจานเนื้อนี่คือองค์ประกอบที่ควรจะอยู่เคียงข้าง

 

 

ปิดท้ายด้วย ‘Double Barrel Cabernet Sauvignon 2020’ เสน่ห์ของตัวนี้โดดเด่นตั้งแต่แหล่งเพาะปลูกองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon จากบารอสซา พื้นที่ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ถือเป็นแห่งที่โด่งดังแห่งหนึ่งเพราะได้อิทธิพลของน้ำทะเลและความอบอุ่นจากแสงแดด เมื่อนำมาบ่มในถังไอริชวิสกี้เผาไฟแบบดั้งเดิมเพื่อให้แทนนินมีความนุ่มนวล เผยคาแรกเตอร์ที่หอมอบอวลของวานิลลาและเครื่องเทศ แต่ได้รสชาติที่หนักแน่น เข้มข้น และสัมผัสของผลไม้ที่สุกงอม สัมผัสได้ถึงความบาลานซ์ระหว่างรสเปรี้ยวกับกลิ่นโอ๊ก เป็นการปิดจบเวิร์กช็อป Wine Tasting ที่สร้างโมเมนต์สุดดื่มด่ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ   

 

 

คำถามที่ได้ยินเสมอเวลาเข้าร่วม Wine Tasting คือ ‘ไวน์ที่ดีเป็นแบบไหน’ DjMig YesWinedo บอกว่า “ไวน์ที่ดีคือไวน์ที่ถูกปากและเรารู้สึกเอ็นจอย ทำให้คุณดื่มด่ำไปกับโมเมนต์นั้นอย่างมีความสุข นั่นคือไวน์ที่ดีสำหรับคุณ” 

 

นี่คงเป็นคำตอบที่น่าจะทำให้คอไวน์มือใหม่เปิดใจและอยากเข้าไปสัมผัสโลกของไวน์มากขึ้น

 

สำหรับใครที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ทางรสชาติเช่นนี้ ติดตามกิจกรรมดีๆ จาก Jacob’s Creek ได้ทาง www.facebook.com/Jacobscreekth/ 

The post ‘ดู ดม ดื่ม’ ค้นหาคาแรกเตอร์ไวน์เพื่อให้การดื่มไวน์ของคุณ ‘ดื่มด่ำ’ ยิ่งขึ้นไปกับ Wine Tasting โดย Jacob’s Creek [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘Y JOURNEY’ โปรเจกต์ซีรีส์วายที่ขับเคลื่อนความยั่งยืนจากชุมชนไปถึงมื้ออาหารโดยอายิโนะโมะโต๊ะและ ททท. https://thestandard.co/y-journey-y-series-project/ Mon, 27 Nov 2023 08:45:03 +0000 https://thestandard.co/?p=868039

อาหารและการท่องเที่ยวถือเป็น ‘แก่นแท้’ ทางรากวัฒนธรรมแล […]

The post ‘Y JOURNEY’ โปรเจกต์ซีรีส์วายที่ขับเคลื่อนความยั่งยืนจากชุมชนไปถึงมื้ออาหารโดยอายิโนะโมะโต๊ะและ ททท. appeared first on THE STANDARD.

]]>

อาหารและการท่องเที่ยวถือเป็น ‘แก่นแท้’ ทางรากวัฒนธรรมและเสน่ห์ของประเทศไทยลำดับต้นๆ ที่ทำให้ผู้คนมากมายหลายหลากเชื้อชาติจากทั่วทุกมุมโลกถูกดึงดูด ทั้งยังสะกดให้อยากเดินทางมาเยือนยังประเทศที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้

 

ไม่แปลกที่ชาวต่างชาติหรือแม้แต่คนไทยด้วยกันเองก็ดี ต่างก็ขนานนามให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เต็มไปด้วยสีสัน ไม่เคยหลับใหล อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณ​ อาหาร และความยั่งยืนทางวัฒนธรรมที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น

 

และเพื่อยกระดับมุมมองด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ครอบคลุมทั้งด้านอาหาร วัฒนธรรม สถานที่ ชุมชน และผู้คน เรื่อยไปจนถึงสิ่งแวดล้อม ให้แข็งแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม เมื่อเร็วๆ นี้ อายิโนะโมะโต๊ะ หรือบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวโปรเจกต์สุดพิเศษ ‘Y JOURNEY (STAY LIKE A LOCAL)’ เพื่อถ่ายทอดเสน่ห์และอัตลักษณ์ของการท่องเที่ยวภาคตะวันออกอย่างยั่งยืนผ่านแพลตฟอร์มมินิซีรีส์วาย 6 เอพิโสด นำแสดงโดยนักแสดงรุ่นใหม่ทั้ง 12 คน

 

ผลักดันพันธกิจด้านความยั่งยืน หัวใจหลักไม่แพ้การส่งมอบ ‘ความอยู่ดีมีสุขผ่านผลิตภัณฑ์’ โดยอายิโนะโมะโต๊สู่ความร่วมมือกับ ททท.

 

การโคจรมาทำงานร่วมกันระหว่าง ททท. และอายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) เกิดขึ้นภายใต้เป้าหมายที่ทั้งคู่มองเห็นร่วมกัน โดยสำหรับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป้าหมายคือ การผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศไทยให้คึกคักและเติบโตอย่างยั่งยืน

 

ขณะที่วิสัยทัศน์และหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ณ วันนี้ของอายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) คือ การเป็นผู้นำในการสร้าง ‘ความอยู่ดีมีสุข’ (Well-being) รวมไปถึงความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาด้านอาหารและสุขภาพ พร้อมทั้งส่งมอบความอร่อยและความสุขในการรับประทานอาหารให้กับทุกคน 

 

โดยเน้นหลักไปที่สองประเด็นคือ การช่วยยืดอายุขัยที่มีสุขภาพดีของคนทั่วโลกให้ได้กว่า 1 พันล้านคน และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างน้อย 50% ซึ่งจะบรรลุผ่านทุกซัพพลายเชนของ​​อายิโนะโมะโต๊ะตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ หรือตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการมอบความอร่อยและสุขภาพที่ดี (ด้วยสินค้าของอายิโนะโมะโต๊ะ) จนถึงมือผู้บริโภค

 

 

อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างอายิโนะโมะโต๊ะและ ททท. ว่า “ประเทศไทยเป็นดินแดนที่มีความงามอันน่าหลงใหล ทั้งวัฒนธรรมและการต้อนรับผู้มาเยือนอย่างอบอุ่น เราสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า นักท่องเที่ยวไม่ได้แค่หลงใหลในภูมิประเทศที่สวยงามหรือสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยเท่านั้น แต่อาหารไทยรสเด็ดก็เป็นอีกหนึ่งที่ช่วยให้พวกเขาได้สัมผัสและศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่น 

 

 

“​​ถือเป็นโอกาสอันดีที่สององค์กรซึ่งให้ความสำคัญอย่างสูงด้านความยั่งยืน ทั้งบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้ามาผนึกพลังในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศ”

 

จากถ้อยแถลงของหัวเรือใหญ่ ‘อายิโนะโมะโต๊ะ’ ในฐานะบริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำ จะเห็นว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องน่าฉงนชวนสงสัยเลยแม้แต่น้อย ว่าเพราะเหตุใด อายิโนะโมะโต๊ะ ประเทศไทย จึงเข้ามาสนับสนุนโปรเจกต์นี้ร่วมกับทาง ททท. เพราะถือเป็นหนึ่งในพันธกิจที่ ‘ตรงกัน’ และตอบโจทย์ความตั้งใจของอายิโนะโมะโต๊ะในการผลักดันประเด็นด้านความยั่งยืนและการอยู่ดีมีสุขของผู้คนนั่นเอง

 

นอกเหนือจากความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในการส่งเสริมด้านความยั่งยืน อายิโนะโมะโต๊ะยังส่งมอบนิยาม ‘กินดี มีสุข’ หรือ Eat Well, Live Well ของพวกเขาผ่านผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคคนไทยสามารถจับต้องได้ด้วย ตัวอย่างเช่น ไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสเพื่อสุขภาพที่ช่วยลดโซเดียม และไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ลดปริมาณความหวานลง หรือไม่หวานเลย 

 

ขณะที่เร็วๆ นี้ พวกเขายังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยส่งเสริมสังคมผู้สูงวัยให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ด้วยศาสตร์แห่งกรดอะมิโน หรือ AminoScience อีกด้วย และยังมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มอีกกว่า 10 ผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพให้แก่คนไทยกว่า 3 ล้านคนในทุกช่วงวัย แต่จะเป็นผลิตภัณฑ์อะไรนั้นต้องลองติดตามกันดูอีกที

 

ทำไมต้อง Y JOURNEY (STAY LIKE A LOCAL) ?

 

ส่วนเหตุผลที่ความร่วมมือของ ททท. และอายิโนะโมะโต๊ะ ประเทศไทย ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านโปรเจกต์ซีรีส์วายนั้นเกิดจากความตั้งใจที่ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะนำเสนอเรื่องราวการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในจังหวัดโซนภาคตะวันออก วัฒนธรรมอาหารที่แสนเอร็ดอร่อย ให้ผู้คนได้รับชมผ่านวิธีการและรูปแบบที่ย่อยได้ง่าย เพลิน และซึมซับโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ นักท่องเที่ยวต่างชาติ

 

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ซีรีส์วายได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่ทรงอิทธิพลของไทยมากที่สุดในยุคนี้ (นักท่องเที่ยวหลายคนเดินทางมาเที่ยวยังประเทศไทยด้วยจุดมุ่งหมายการเข้าร่วมกิจกรรมพบปะนักแสดงซีรีส์วาย) ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นสื่อกลางในการนำเสนอเนื้อหาในโปรเจกต์ความร่วมมือที่เกิดขึ้น

 

 

เนื้อหาแต่ละตอนจะถูกบอกเล่าผ่านความสัมพันธ์ที่หลากหลายของตัวละคร พร้อมๆ กับฉากหลังซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดทางภาคตะวันออกของไทย เช่น ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ จันทบุรี ตราด โดยมีการสอดแทรกความสวยงามของทัศนียภาพของแต่ละจังหวัด 

 

 

 

การให้มุมคิดด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทั้งมิติชุมชนและมิติสิ่งแวดล้อม สอดไส้ในด้วยวัฒนธรรมทางด้านอาหารไทยจานเด็ดที่ขึ้นชื่อและอยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน เช่น ผักบุ้งผัดกะปิจากร้านสามแม่ครัว ตลาดบ้านใหม่ จังหวัดฉะเชิงเทรา, ปากหม้อเจ๊โบ้ บ้านเลขที่ 5 พนมสารคาม, ไก่ต้มกระวาน และมัสมั่นทุเรียน ของดีของเด่นจากจันทบุรี, แกงคั่วสับปะรดตราดสีทอง​ ต้มส้มระกำปลากระบอก หรืออาหารทะเลแปรรูป แห่งจังหวัดตราด

 

ขณะที่กิมมิกความยั่งยืนก็จะถูกใส่ลงไปเป็นเส้นเรื่องหลักในทุกดีเทล ทุกเอพิโสดแบบไม่ประดักประเดิด เช่น การแปรรูปขยะอาหารแบบ Zero Food Waste, การใช้บรรจุภัณฑ์ธรรมชาติในจังหวะที่เหมาะสมไม่มากไม่น้อย, การจ้างงานคนในชุมชนท้องถิ่น, การรีไซเคิลขยะพลาสติกในทะเล, การใช้พลังงานทดแทน และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างน้ำ

 

  

 

ส่วนนักแสดงรุ่นใหม่ที่ได้มาฝากฝีไม้ลายมือการแสดงใน Y JOURNEY (STAY LIKE A LOCAL) ได้แก่ แฟรงค์-ธนัตถ์ศรันย์ ซำทองไหล, หล่งซือ ลี, เน็ต-สิรภพ มานิธิคุณ, เจมส์-ศุภมงคล วงศ์วิสุทธิ์, ฟลุ๊ค-ณธัช ศิริพงษ์ธร และ ยูโด-ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์, แม้ก-กรธัสส์ รุจีรัตนาวรพันธุ์, ณฐ-ณฐสิชณ์ เอื้อเอกสิชฌ์, มอส-ภาณุวัฒน์ โสประดิษฐ, แบงค์-มณฑป เหมตาล, ยุ่น-ภูษณุ วงศาวณิชชากร และ ดิว-นิติกร ปานคร้าม

 

ซึ่งตอนที่บทความนี้ถูกเผยแพร่ออกไป Y JOURNEY (STAY LIKE A LOCAL) ทั้ง 6 เอพิโสดคงได้ออนแอร์ครบทุกตอนแล้ว ใครที่สนใจรับชมสามารถติดตามได้ทั้งทาง AIS PLAY, YouTube ของ AIS และ YouTube การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ช่อง Amazing Thailand

The post ‘Y JOURNEY’ โปรเจกต์ซีรีส์วายที่ขับเคลื่อนความยั่งยืนจากชุมชนไปถึงมื้ออาหารโดยอายิโนะโมะโต๊ะและ ททท. appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘คนที่ใช่กับแบรนด์’ เพอร์ร่าดึง พีพี กฤษฏ์ ครองบัลลังก์แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่อย่างเป็นทางการ [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/purra-pp-krit/ Thu, 07 Sep 2023 10:23:51 +0000 https://thestandard.co/?p=838692 เพอร์ร่า

นับตั้งแต่ที่เพอร์ร่า (Purra) เลือกเดินหน้าสร้างแบรนด์ด […]

The post ‘คนที่ใช่กับแบรนด์’ เพอร์ร่าดึง พีพี กฤษฏ์ ครองบัลลังก์แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่อย่างเป็นทางการ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
เพอร์ร่า

นับตั้งแต่ที่เพอร์ร่า (Purra) เลือกเดินหน้าสร้างแบรนด์ด้วยแฟชั่นอย่างแข็งแรงมาตลอดช่วงระยะเวลากว่า 7 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นผ่านการออกแบบบรรจุภัณฑ์สนุกๆ หนังโฆษณาที่อลังการไม่เคยแผ่ว การเลือกใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ไปจนถึงการพาตัวเองเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างแยบคาย 

 

เมื่อบวกรวมผสมกับคุณภาพของสินค้าน้ำแร่ธรรมชาติของเพอร์ร่า ที่ถือว่าเป็นแบรนด์น้ำแร่เพียงหนึ่งเดียวของไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพระดับ AQUACERT จากประเทศฝรั่งเศส มาวันนี้พวกเขาได้กลายเป็นแบรนด์น้ำแร่ที่อยู่ในสถานะผู้นำตลาดน้ำแร่ไทยได้อย่างเหนียวแน่นและต่อเนื่องมากว่าทศวรรษ

 

เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของการเป็นแบรนด์น้ำแร่ที่สร้างแบรนด์ผ่านแพลตฟอร์มแฟชั่นได้อย่างโดดเด่นจนหาตัวจับยาก เมื่อเร็วๆ นี้เพอร์ร่าเพิ่งสร้างมูฟเมนต์ที่น่าสนใจอีกครั้งในตลาดน้ำแร่ประเทศไทย ด้วยการดึง ‘พีพี-กฤษฏ์ อํานวยเดชกร’ ศิลปินมากความสามารถชาวไทยที่มีสไตล์โดดเด่นและความสามารถที่หลากหลาย ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่อย่างเป็นทางการของเพอร์ร่า

 

เพอร์ร่า

 

ทำไมพีพีกับเพอร์ร่าถึงเป็น ‘คู่แท้’ ในฐานะแบรนด์และแบรนด์แอมบาสเดอร์?

 

กล่าวถึงพีพีกันก่อน ณ วันนี้ พีพี กฤษฏ์ ในฐานะศิลปินไทยที่อยู่ในอุตสาหกรรมบันเทิง ถือเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีสไตล์อันโดดเด่น จัดจ้าน ยูนีก และเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันล้นเหลือที่ยากจะต้านทาน

 

มีความสามารถที่หลากหลาย ทั้งการแสดง การเป็นไอคอนิกในวงการแฟชั่น และการร้องเพลง รวมถึงเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับพรสวรรค์และพรแสวงที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาตนเอง ทั้งยังเป็นตัวแทนผู้คนที่สะท้อนถึงความหลากหลาย (Diversity) ได้อย่างจริงใจ

 

เมื่อหลอมรวมความเป็นพีพีทั้งหลายเข้าด้วยกัน จึงไม่แปลกที่ศิลปินไทยผู้นี้จะกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่เนื้อหอมที่สุดของวงการ จนมีแบรนด์สินค้ามากมายในหลายอุตสาหกรรมที่อยากร่วมงานด้วย และในขณะเดียวกันตัวพีพีเองก็ยังมี Influence Power กับกลุ่มผู้บริโภคจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคชาว Gen Z

 

ด้านเพอร์ร่าเองก็นับเป็นแบรนด์น้ำแร่สัญชาติไทยที่มีความยูนีกในแบบฉบับของพวกเขาไม่ต่างกัน เพราะถึงแม้จะเริ่มบุกตลาดครั้งแรกเมื่อปี 2552 หรือราว 14 ปีที่แล้วในฐานะน้องใหม่ด้วยแชร์ในตลาดเพียงน้อยนิด

 

แต่ด้วย ‘ความจัดจ้าน’ และ ‘ความยูนีก’ ในวิธีการเลือกทำตลาดที่ใช้แฟชั่นเป็นดาวเหนือในการสร้างตัวตนของแบรนด์ และการทำตลาดก็ถือเป็นหัวใจสำคัญประการต้นๆ ที่ผลักดันเพอร์ร่าให้พาตัวเองซึมเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์และ Brand Preference ของผู้บริโภคอย่างแข็งแรง 

 

โดยเฉพาะคนที่มองหาน้ำแร่สักขวดที่แตกต่างจากน้ำแร่ทั่วๆ ไปในตลาด ซึ่งความต่างในที่นี้ไม่ใช่แค่เชิงคุณภาพ แต่หมายรวมถึงภาพลักษณ์ที่น่าสนใจ จนในปัจจุบันเพอร์ร่าสามารถครองตำแหน่งผู้นำตลาดน้ำแร่ประเทศไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิในที่สุด

 

เพอร์ร่า

 

เมื่อมองถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่น (Uniqueness) ของทั้งพีพีและเพอร์ร่าในฐานะศิลปินและแบรนด์ในอุตสาหกรรมของตนเอง บทสรุปของเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อยว่า ทำไมการโคจรมาร่วมงานกันครั้งนี้ของทั้งคู่ และการที่เพอร์ร่าตัดสินใจเลือกพีพีมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เป็นภาพลักษณ์แทนตนเองในหลายๆ แง่มุม ถึงเป็นการเจอกันระดับคู่แท้ที่ใช่ในทุกๆ มิติ

 

เพอร์ร่า

 

เดินหน้าตอกย้ำความแข็งแรงของแบรนด์เพอร์ร่าผ่านแพลตฟอร์มแฟชั่น

 

คุณธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (Chief Marketing Officer) บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ยังได้ตอกย้ำด้วยตัวเองอีกด้วยว่า การเลือก พีพี กฤษฏ์ มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเพอร์ร่าในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งเสริมกันระหว่างแบรนด์และแบรนด์แอมบาสเดอร์ในทุกด้านอย่างแท้จริง เพราะทั้งเพอร์ร่าและพีพีเองต่างก็มี ‘จุดร่วม’ ที่ใช่ในความจัดจ้านและแบรนดิ้งของตัวเอง

 

โดยเฉพาะมุมมองด้านแฟชั่นที่ทั้งพีพีและเพอร์ร่าต่างก็โดดเด่นและให้ความสำคัญไม่ต่างกัน

 

“คุณพีพี กฤษฏ์ ถือเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถนำเสนอภาพลักษณ์น้ำดื่มเพอร์ร่าได้เป็นอย่างดี เนื่องจากที่ผ่านมาเพอร์ร่ามีแนวทางการทำการตลาดที่ชัดเจนและโดดเด่น โดยเฉพาะกลยุทธ์ผสานแฟชั่นให้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์

 

“การเลือกคุณพีพี กฤษฏ์ มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์จึงตอบโจทย์ ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์เพอร์ร่า และกลุ่มผู้บริโภคของเพอร์ร่าที่เลือกดื่มเพอร์ร่าทั้งด้วยมุมมองด้านคุณภาพและการบอกความเป็นตัวเองผ่านไลฟ์สไตล์อีกด้วย”

 

ด้านแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของเพอร์ร่าอย่าง พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร กล่าวถึงการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ว่า “ผมดีใจมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเพอร์ร่า เพราะเพอร์ร่าเป็นน้ำแร่ธรรมชาติที่ผมเลือกดื่มเป็นประจำอยู่แล้ว ทั้งยังเป็นแบรนด์น้ำแร่ที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี

 

“และด้วยภาพลักษณ์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ลวดลายบนบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม สะดุดตา ตลอดจนคุณภาพของน้ำแร่ การเลือกดื่มน้ำแร่เพอร์ร่าจึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และเหมาะสำหรับทุกคนที่ใส่ใจดูแลสุขภาพได้ดีที่สุด”

 

นอกเหนือจากการเปิดตัว พีพี กฤษฏ์ ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของพวกเขา เพอร์ร่ายังได้ยกระดับการส่งต่อประสบการณ์ที่ต่างออกไปให้กับผู้บริโภคในฐานะแบรนด์น้ำดื่ม ผ่านแคมเปญเปิดใหม่ ‘LIFE IS NATURAL WONDERS – เพราะธรรมชาติคือเรา’ 

 

เพอร์ร่า

 

ในแคมเปญ LIFE IS NATURAL WONDERS นี้ ทางเพอร์ร่าได้เนรมิตงานเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของพวกเขาในสเกล Art Exhibition หรือนิทรรศการศิลปะที่ผสานความล้ำของเทคโนโลยีและสุนทรียศาสตร์ด้านศิลปะให้เบลนด์เข้าด้วยกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

 

เพอร์ร่า

 

ภายในงาน Purra Natural Wonder Immersive Experience เพอร์ร่าได้จัดพื้นที่ต่างๆ ในงานให้สะท้อนถึงความงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติผ่านโซนต่างๆ เช่น Immersive Room ห้องนิทรรศการถ่ายทอดความงามของสรรพสิ่งและธรรมชาติผ่านเทคนิควิดีโอกราฟิก 

 

Mirror Room ห้องกระจกที่ตกแต่งด้วยสวนดอกไม้นานาพรรณ และ Garden Mapping พื้นที่โซนเอาต์ดอร์ที่ตกแต่งและสร้างบรรยากาศด้วยเทคนิคแสงไฟสุดพิเศษ เพื่อส่งต่อความมหัศจรรย์ของธรรมชาติให้ทุกคนดื่มด่ำได้อย่างชวนหลงใหลและประทับใจ

 

ไปร่วมค้นหาคุณค่าความงามของสรรพสิ่งในธรรมชาติ และบ่งบอกความเป็นคุณอย่างมั่นใจและมีสไตล์กันกับ พีพี กฤษฏ์ ได้แล้ววันนี้ผ่านน้ำแร่เพอร์ร่าทุกขวด

The post ‘คนที่ใช่กับแบรนด์’ เพอร์ร่าดึง พีพี กฤษฏ์ ครองบัลลังก์แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่อย่างเป็นทางการ [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
One by Penfolds การเดินทางมาพบกันของไอคอนจากสองโลก NIGO HUMAN MADE พร้อมให้คนไทยสัมผัสแล้วที่ SIWILAI [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/one-by-penfolds-x-nigo-human-made/ Tue, 05 Sep 2023 05:00:27 +0000 https://thestandard.co/?p=836434 One by Penfolds

บอกเลยว่าโปรเจกต์คอลลาบอเรชันครั้งนี้ ‘เกิน’ คำว่าธรรมด […]

The post One by Penfolds การเดินทางมาพบกันของไอคอนจากสองโลก NIGO HUMAN MADE พร้อมให้คนไทยสัมผัสแล้วที่ SIWILAI [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
One by Penfolds

บอกเลยว่าโปรเจกต์คอลลาบอเรชันครั้งนี้ ‘เกิน’ คำว่าธรรมดาไปไกลพอสมควร! เมื่อ Penfolds แบรนด์ไวน์สัญชาติออสเตรเลีย โคจรมาพบกับ NIGO ผู้ก่อตั้งแบรนด์สตรีทแวร์สุดร้อนแรง HUMAN MADE และอาร์ทิสติกไดเรกเตอร์แห่ง Maison Kenzo ที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานสุดพิเศษ ที่ทำให้ใครต่อใครที่ได้พบเจอต่างก็อดใจต้านทานความน่ารักไม่ไหว

 

‘One By Penfolds’ คือโปรเจกต์คอลแลบที่เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของ NIGO และ Penfolds ซึ่งถือเป็นไอคอนิกของวงการแฟชั่นและไวน์ ตามลำดับ โดยที่ NIGO ยังได้ชื่อว่าเป็น Creative Partner คนแรกของ Penfolds อีกด้วย

 

One by Penfolds

 

แตกต่างไม่เหมือนใคร ทั้งยังโอบรับความต่างอย่างเข้าใจ จนเกิดกลายเป็นสัตว์ทั้ง 4 สายพันธุ์ใน One By Penfolds

 

ความเจ๋งของ One By Penfolds คือการถ่ายทอดมุมมองของ ‘ความเป็นหนึ่งเดียวกัน’ ตามนิยาม One หรือ Oneness ที่ทำให้เราทุกควรล้วนแล้วแต่คงความยูนีก มีเอกลักษณ์ เป็นของตัวเอง ไม่เหมือนใคร แต่ในชั่วขณะเดียวกันเราทุกคนก็ต่างเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และโอบรับความแตกต่างไม่เหมือนใครของกันและกันด้วย

 

โดยคอนเซปต์ดังกล่าวได้ถูกถ่ายทอดผ่านลายเส้นกราฟิกตัวการ์ตูนสัตว์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ NIGO และ HUMAN MADE ซึ่งปรากฏอยู่บนฉลากไวน์คอลเล็กชันพิเศษ One By Penfolds ประกอบไปด้วย จระเข้, ไก่ตัวผู้, แพนด้า และเจ้าหมี

 

สัตว์ทั้ง 4 สปีชีส์นี้ยังเป็นเอกลักษณ์ที่สื่อถึงจุดเด่นของ ‘ภูมิภาค’ แหล่งกำเนิดการผลิตไวน์ทั้ง 4 แห่งของ Penfolds อีกด้วย นั่นคือ ออสเตรเลีย (จระเข้), ฝรั่งเศส (ไก่ตัวผู้), จีน (แพนด้า) และสหรัฐฯ (เจ้าหมี) ตามลำดับ 

 

เรียกได้ว่า NIGO สามารถหยิบเอาเอกลักษณ์ของถิ่นฐานการผลิตไวน์ Penfolds มาตีความผ่านลายเส้นตัวการ์ตูนสัตว์ที่มองปราดเดียวก็รู้ทันทีว่าสายพันธุ์ HUMAN MADE ได้อย่างคมคาย น่ารัก และน่าสะสมเป็นที่สุด

 

ไม่แปลกที่เมื่อ One By Penfolds ถูกจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปที่ฮ่องกงและไทยเมื่อเร็วๆ นี้ ผลตอบรับที่เกิดขึ้นจะดีถล่มทลาย จนทำให้คนจำนวนไม่น้อยต่างก็อยากจับจองได้ฉลากสัตว์ทั้ง 4 แบบ ไปจนถึงไลน์เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อคอลแลบในครั้งนี้ โดยเฉพาะมาครอบครองเป็นเจ้าของกันโดยพร้อมเพรียง

 

โดยในช่วงปลายปีที่จะถึงนี้ Penfolds ยังแอบกระซิบมาอีกด้วยว่า พวกเขายังมีแผนจะคอลแลบสร้างสรรค์ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ร่วมกับ NICO ผ่านไวน์ ศิลปะ ดนตรี และแฟชั่น อีกอย่างแน่นอน

 

One by Penfolds

 

แล้วเราจะไปตามหาสินค้าในคอลแลบ One by Penfolds ได้ที่ไหน?

 

คอลเล็กชันไวน์ One by Penfolds ในประเทศไทย ณ ตอนนี้มีจำหน่ายทั้งหมด 9 รุ่น จากทั้งหมด 3 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส คือ 2021 One by Penfolds Shiraz Australia, 2021 One by Penfolds Chardonnay Australia, 2021 One by Penfolds Red Blend California และ 2021 One by Penfolds Vin Rouge France 

 

หมายความว่า ฉลากของตัวสัตว์ที่ปรากฏก็จะมากันครบ จระเข้, ไก่ตัวผู้ และเจ้าหมี ขาดแต่เพียงเจ้าแพนด้าเท่านั้น

 

สินค้าทั้งหมดจะวางขายเฉพาะที่ SIWILAI Store, SIWILAI City Club, SIWILAI Café และ SIWILAI Sound Club เท่านั้น ซึ่งหากใครมีโอกาสได้ผ่านไปยังสโตร์ในเครือของ SIWILAI ก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงความอลังการและการตกแต่งดิสเพลย์ในร้านที่สนุก หวือหวา และไม่เหมือนใคร ซึ่งสอดรับเข้ากับความเป็นแบรนด์ HUMAN MADE และคอนเซปต์ One ได้แทบจะทันที (ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปยลโฉมสโตร์ของ SIWILAI ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี มาแล้ว!)

 

แว่วมาว่าอีกไม่นานต่อจากนี้ SIWILAI และ Penfolds ก็มีแพลนจะนำสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์เสื้อผ้าที่เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือในโปรเจกต์ One by Penfolds มาจำหน่ายในประเทศไทยอีกด้วย งานนี้บอกได้คำเดียวว่าอดใจรอไว้ดีๆ ถ้าพลาดขึ้นมาเสียดายแน่นอน!

 

ส่วนใครที่สนใจรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าเพิ่มเติม สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองได้ที่เว็บไซต์ https://penfolds.com

The post One by Penfolds การเดินทางมาพบกันของไอคอนจากสองโลก NIGO HUMAN MADE พร้อมให้คนไทยสัมผัสแล้วที่ SIWILAI [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>