LIFE | TECH & GADGET – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 24 Oct 2025 01:35:36 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 เปิดตัวแล้ว Volvo ES90 รถไฟฟ้าทรง Fastback ที่หลายคนรอคอย https://thestandard.co/life/volvo-es90-fastback-revealed/ Fri, 24 Oct 2025 01:34:56 +0000 https://thestandard.co/?p=1134668 เปิดตัวแล้ว Volvo ES90 รถไฟฟ้าทรง Fastback ที่หลายคนรอคอย

เปิดตัวแล้ว Volvo ES90 รถไฟฟ้าทรง fastback ที่หลายคนรอค […]

The post เปิดตัวแล้ว Volvo ES90 รถไฟฟ้าทรง Fastback ที่หลายคนรอคอย appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดตัวแล้ว Volvo ES90 รถไฟฟ้าทรง Fastback ที่หลายคนรอคอย

เปิดตัวแล้ว Volvo ES90 รถไฟฟ้าทรง fastback ที่หลายคนรอคอย

 

ใครที่คิดถึงรถวอลโว่รูปทรงใกล้เคียงกับรถทรงซีดาน คุณอาจจะตื่นเต้นกับรถรุ่นนี้ เพราะนี่คือ Volvo ES90 รถไฟฟ้าทรง fastback สุดพรีเมียมรุ่นล่าสุด และนี่คือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในเอเชีย รถคันนี้มาพร้อมดีไซน์หรูแบบสแกนดิเนเวียนที่ผสมผสานความคล่องตัวของซีดานเข้ากับความอเนกประสงค์ของ SUV ได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ ที่วิ่งได้ไกลสุดกว่า 755 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม พร้อมระบบอัปเดตซอฟต์แวร์ over-the-air ที่ช่วยให้รถฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ แบบไม่ต้องเข้าศูนย์ ภายในหรูหราและกว้างขวาง ผสมกับการใช้วัสดุรีไซเคิลตามแนวคิดความยั่งยืนในแบบที่วอลโว่ใส่ใจมาโดยตลอด

 

รถคันนี้เหมาะกับการขับขี่ในไทยสุด ๆ เพราะได้หลังคาพาโนรามิกปรับแสงได้ และมีระบบฟอกอากาศที่กรอง PM2.5 ได้ถึง 95% สำหรับคนที่ชอบฟังเพลง รถคันนี้มาพร้อมชุดเครื่องเสียง Bowers & Wilkins 25 ลำโพง เสียงรอบทิศทาง ด้านเทคโนโลยีจัดเต็มทั้ง Google built-in และเครือข่าย 5G ที่ทำให้ทุกอย่างลื่นไหลและเชื่อมต่อได้แบบเรียลไทม์ Volvo ES90 Ultra Single Motor Extended Range มีราคาขายอยู่ที่ 2,990,000 บาท

 

เรียกได้ว่า Volvo ES90 คือรถไฟฟ้าที่รวมความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไว้ครบในคันเดียว

The post เปิดตัวแล้ว Volvo ES90 รถไฟฟ้าทรง Fastback ที่หลายคนรอคอย appeared first on THE STANDARD.

]]>
ChatGPT Atlas เบราว์เซอร์ใหม่ ที่นอกจากจะหาข้อมูลให้เราได้ ยังเป็นผู้ช่วย และทำงานแทนได้ ! https://thestandard.co/life/chatgpt-atlas-browser-assistant/ Wed, 22 Oct 2025 02:41:13 +0000 https://thestandard.co/?p=1133677 ChatGPT Atlas เบราว์เซอร์ใหม่ ที่นอกจากจะหาข้อมูลให้เราได้ ยังเป็นผู้ช่วย และทำงานแทนได้

ChatGPT Atlas เบราว์เซอร์ใหม่ ที่นอกจากจะหาข้อมูลให้เรา […]

The post ChatGPT Atlas เบราว์เซอร์ใหม่ ที่นอกจากจะหาข้อมูลให้เราได้ ยังเป็นผู้ช่วย และทำงานแทนได้ ! appeared first on THE STANDARD.

]]>
ChatGPT Atlas เบราว์เซอร์ใหม่ ที่นอกจากจะหาข้อมูลให้เราได้ ยังเป็นผู้ช่วย และทำงานแทนได้

ChatGPT Atlas เบราว์เซอร์ใหม่ ที่นอกจากจะหาข้อมูลให้เราได้ ยังเป็นผู้ช่วย และ ทำงานแทนได้ !

 

OpenAI เปิดตัว ChatGPT Atlas เบราว์เซอร์อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งถูกออกแบบมาให้เป็นมากกว่าแค่เครื่องมือท่องเว็บทั่วไป แต่เป็น “ผู้ช่วยส่วนตัว” ที่สามารถจดจำข้อมูล ปรับประสบการณ์ให้เหมาะกับผู้ใช้ และแม้แต่ทำงานแทนคุณได้ เช่น จองร้านอาหาร แก้ไขเอกสาร หรือสรุปเนื้อหาเว็บไซต์แบบเรียลไทม์ จุดเด่นคือโหมด Agent Mode ที่ให้ ChatGPT ลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ให้โดยตรง และอินเทอร์เฟซแบบ split-screen ที่แสดงหน้าหนังสือและแชตบอทคู่กันตลอดเวลา ทำให้การท่องเว็บเป็นเรื่องลื่นไหลและฉลาดขึ้น ปัจจุบัน Atlas เปิดให้ใช้งานแล้วบน macOS ส่วน Windows, iOS และ Android จะตามมาเร็ว ๆ

 

ภาพ: OpenAI

อ้างอิง: The Verge , OpenAI

The post ChatGPT Atlas เบราว์เซอร์ใหม่ ที่นอกจากจะหาข้อมูลให้เราได้ ยังเป็นผู้ช่วย และทำงานแทนได้ ! appeared first on THE STANDARD.

]]>
Sleep Score จาก Apple Watch: นอนดีขึ้น เพื่อสุขภาพและ longevity ที่ยั่งยืน https://thestandard.co/life/apple-watch-sleep-score-longevity/ Mon, 20 Oct 2025 00:45:36 +0000 https://thestandard.co/?p=1132591 COVER - Apple Watch Sleep Score Longevity

ในชีวิตที่หมุนเร็วขึ้นทุกวัน หลายคนอาจมองข้ามสิ่งสำคัญอ […]

The post Sleep Score จาก Apple Watch: นอนดีขึ้น เพื่อสุขภาพและ longevity ที่ยั่งยืน appeared first on THE STANDARD.

]]>
COVER - Apple Watch Sleep Score Longevity

ในชีวิตที่หมุนเร็วขึ้นทุกวัน หลายคนอาจมองข้ามสิ่งสำคัญอย่างการนอนหลับ ทั้งที่จริงแล้วการนอนคือช่วงเวลาที่ร่างกายฟื้นฟูตัวเอง และช่วยให้สมองจัดระเบียบข้อมูลใหม่ การนอนอย่างมีคุณภาพจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของการมี Longevity ที่ทำให้เรามีสุขภาพที่ดีทั้งทางกายและใจอย่างยั่งยืน

 

ปัจจุบันเราเองมีอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable device) มากมายที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราเข้าใจการนอนมากขึ้น ล่าสุด Apple ได้ต่อยอดแนวคิดนี้ด้วย “Sleep Score” ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นภาพรวมของคุณภาพการนอนในแต่ละคืนได้อย่างชัดเจน ซึ่งเราสามารถใช้งาน Apple Watch ตรวจจับได้เลย

 

และเพื่อทำความเข้าใจเบื้องหลังการออกแบบและแนวคิดของฟีเจอร์นี้ยิ่งขึ้น ได้พูดคุยกับดร. Matt Bianchi นักวิจัยด้านสุขภาพจากทีม Health Technologies ของ Apple และผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาและเวชศาสตร์การนอน (Board-Certified Neurologist & Sleep Medicine Specialist) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและตรวจสอบความถูกต้องของฟีเจอร์ด้านการนอนทั้งหมดบน Apple Watch
และนี่คือบทสัมภาษณ์พิเศษที่คุณหมอได้แชร์ให้กับ The Standard LIFE

 

อยากรู้ถึงเหตุผลที่ทำให้ Apple ตัดสินใจให้ การนอนหลับเป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญด้านสุขภาพ?

เพราะ Apple มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนมุมมองของผู้คนต่อสุขภาพ และช่วยให้พวกเขาติดตาม ดูแล และเข้าใจสุขภาพของตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้น ผ่านฟีเจอร์ที่เป็นมิตรและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เพราะการนอนหลับมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งสุขภาพกายและใจ อย่างไรก็ตาม ผู้คนจำนวนมากในปัจจุบันกลับประสบปัญหาในการนอนหลับให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้บรรลุเป้าหมายในการนอน เราจึงได้พัฒนาฟีเจอร์อย่างโหมดพักผ่อน (Wind Down) โฟกัสการนอน (Sleep Focus) และ การติดตามการนอน (Sleep Tracking) และในปัจจุบันเรายังมี Sleep Score ที่เพิ่มวิธีที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้เห็นภาพรวมของคุณภาพการนอนในแต่ละคืนได้ดียิ่งขึ้น และใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการปรับพฤติกรรมเพื่อการนอนที่มีคุณภาพและฟื้นฟูร่างกายได้ดียิ่งขึ้น

อธิบายเพิ่มเติมได้ไหมว่า Sleep Score ใช้ตัวชี้วัดอะไรในการคำนวณ และผู้ใช้ควรอ่านค่าคะแนนอย่างไร?

Sleep Score จะพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ระยะเวลาการนอน (Sleep Duration) ความสม่ำเสมอของเวลาเข้านอน (Bedtime Consistency) และ การถูกรบกวนระหว่างการนอน (Interruptions) ระบบถูกออกแบบให้โปร่งใสและเข้าใจง่าย โดยคะแนนเต็ม 100 คะแนนจะประกอบไปด้วยระยะเวลาการนอน คิดเป็น 50 คะแนน (รวม 40 คะแนนสำหรับชั่วโมงการนอนทั้งหมด และ 10 คะแนนสำหรับการมีช่วงหลับลึกและ REM ถึงระดับขั้นต่ำที่แนะนำ) ความสม่ำเสมอของเวลาเข้านอนคิดเป็น 30 คะแนน การถูกรบกวนระหว่างการนอนคิดเป็น 20 คะแนน (พิจารณาทั้งจำนวนครั้งและระยะเวลา)

 

ส่วนแนวทางการพัฒนา Sleep Score เราอ้างอิงจากคำแนะนำขององค์กรทางการแพทย์ชั้นนำ ได้แก่ American Academy of Sleep Medicine, National Sleep Foundation และ World Sleep Society

เบื้องหลังของ Sleep Score คืออะไร? ฟีเจอร์นี้มุ่งหมายที่จะทำให้การนอนหลับเหมือนเกมหรือไม่?

จุดประสงค์ของ Sleep Score คือการช่วยให้ผู้ใช้สามารถนอนหลับได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นให้ความสำคัญกับการนอนให้เพียงพอ มีเวลาเข้านอนที่สม่ำเสมอ และลดสิ่งรบกวนระหว่างการนอน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหลักการสำคัญของแนวทางการนอนหลับเพื่อสุขภาพที่เผยแพร่โดยสถาบันทางการแพทย์ระดับโลก

 

แนวทางของเรามุ่งเน้นที่ ความโปร่งใสและเกณฑ์ที่เป็นวัตถุวิสัย ตามข้อมูลจากงานวิจัยทางคลินิก เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจคะแนนของตนเองได้ง่าย และสามารถรู้ได้ว่าควรให้ความสำคัญกับปัจจัยใดเพื่อการนอนที่ดีขึ้น

 

CONTENT_01

Apple Watch Ultra3

 

ถ้าอย่างนั้นผู้ใช้ควรมองการเปลี่ยนแปลงของ Sleep Score ในแต่ละวัน กับ แนวโน้มในระยะยาว อย่างไร?

คะแนน Sleep Score ของแต่ละคนอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละวัน เช่น บางคืนอาจนอนดึกเพราะดูหนังกับครอบครัว หรือบางวันอาจตื่นเช้าเป็นพิเศษเพราะต้องเดินทาง นั่นคือส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตปกติครับ

 

เป้าหมายของ Sleep Score คือการมอบกรอบการประเมินที่อิงหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจว่าการนอนของคุณเป็นอย่างไรในแต่ละคืน และสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นในระยะยาวได้ ข้อมูลทั้งในรายวันและแนวโน้มระยะยาวสามารถดูได้อย่างชัดเจนในแอปสุขภาพ (Health App) เพื่อช่วยสนับสนุนเส้นทางการดูแลการนอนของคุณ

 

มีคำแนะนำหรือขั้นตอนปฏิบัติใดที่ผู้ใช้ Apple Watch สามารถทำได้เพื่อปรับปรุง Sleep Score ของตนเอง?

จากหลักฐานทางการแพทย์ การนอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อคืน และการเข้านอนในเวลาใกล้เคียงกันทุกวัน เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพ

 

หากคะแนนลดลงจากการถูกรบกวนระหว่างการนอน เราสามารถปรับสภาพแวดล้อมให้การนอนหลับดีขึ้น เช่น ใช้โหมดโฟกัสการนอน (Sleep Focus) เพื่อปิดการแจ้งเตือนก่อนนอน จัดห้องให้เงียบ มืด และอุณหภูมิสบาย รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้หน้าจอก่อนนอน นอกจากนี้ ผู้ใช้อาจสังเกตเห็นรูปแบบกิจกรรมในช่วงกลางวันที่ส่งผลต่อการนอน เช่น การดื่มแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน เป็นต้น

 

CONTENT_02

Apple Watch Ultra3

ตอนนี้มี Apple Watch รุ่นใดบ้างที่รองรับฟีเจอร์ Sleep Score?

ฟีเจอร์ Sleep Score ที่รองรับใน Apple Watch ทุกรุ่นที่สามารถใช้งาน watchOS 26 ได้ โดยต้องจับคู่กับ iPhone 11 เป็นต้นไป ที่ใช้ iOS 26 และผู้ใช้ควรสวมใส่ Apple Watch ขณะนอนหลับเพื่อให้สามารถติดตามข้อมูลการนอนได้อย่างถูกต้อง
บทสรุปการนอนที่ดี เริ่มจากการรู้จักตัวเอง

 

อย่าลืมว่า Sleep Score ไม่ได้มีไว้เพื่อแข่งขัน หรือเพื่อให้เราหมกมุ่นกับตัวเลขเกินเหตุ แต่มีไว้เพื่อให้เราเข้าใจคุณภาพการนอนของตนเองในแต่ละคืนได้อย่างเป็นระบบ และเห็นภาพแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้นในระยะยาว เพราะในท้ายที่สุด Longevity สามารถเริ่มต้นได้จากการพักผ่อนที่เพียงพอ และความเข้าใจในร่างกายของเราเอง เพื่อให้เรานั้นมีสุขภาพชีวิตที่ดีได้อย่างยั่งยืน

 

 

The post Sleep Score จาก Apple Watch: นอนดีขึ้น เพื่อสุขภาพและ longevity ที่ยั่งยืน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ล่าสุด! Instagram ให้คุณ แปะเพลงที่กำลังฟังใน Spotify เป็นโน้ตแบบเรียลไทม์ https://thestandard.co/life/instagram-notes-spotify-realtime/ Fri, 17 Oct 2025 08:59:14 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1131946 instagram-notes-spotify-realtime

ล่าสุด! Instagram ให้คุณ แปะเพลงที่กำลังฟังใน Spotify เ […]

The post ล่าสุด! Instagram ให้คุณ แปะเพลงที่กำลังฟังใน Spotify เป็นโน้ตแบบเรียลไทม์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
instagram-notes-spotify-realtime

ล่าสุด! Instagram ให้คุณ แปะเพลงที่กำลังฟังใน Spotify เป็นโน้ตแบบเรียลไทม์ได้แล้ว

 

Instagram เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ให้คุณโชว์เพลงที่กำลังฟังบน Spotify เป็นโน้ตสั้น ๆ เหนือช่องข้อความใน DM ได้แบบสด ๆ เมื่อคุณเริ่มเล่นเพลงบน Spotify โน้ตจะอัปเดตชื่อเพลงและศิลปินทันที (หรือตามเพลงต่อไปภายใน 30 นาที) และจะคงอยู่ได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง วิธีใช้ก็ง่ายแค่ลิงก์บัญชี Spotify กับ Instagram จากนั้นแตะที่ไอคอนเพลงเมื่อสร้างโน้ต เพลงที่กำลังฟังก็จะถูกแทรกมาให้ อาจเพิ่มข้อความสั้น ๆ ได้ (ไม่เกิน 60 ตัวอักษร) นอกจากนี้ Instagram ยังปรับให้เมื่อแชร์เพลงใน Stories จาก Spotify จะมีตัวอย่างเสียง (audio preview) ให้เล่นได้ภายในแอปเลย ไม่ต้องสลับไป Spotify ฟีเจอร์นี้กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ทั่วโลก (ทั้ง iOS และ Android) ได้ใช้กัน

The post ล่าสุด! Instagram ให้คุณ แปะเพลงที่กำลังฟังใน Spotify เป็นโน้ตแบบเรียลไทม์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจากซีรีส์ https://thestandard.co/life/game-of-thrones-studio-realme/ Thu, 16 Oct 2025 04:03:06 +0000 https://thestandard.co/?p=1131292 บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์

บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ทโฟนที่เหมือนหลุดมาจ […]

The post บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจากซีรีส์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์

บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ทโฟนที่เหมือนหลุดมาจากซีรีส์

 

หากคุณเป็นแฟน Game of Thrones ตัวจริง การได้เดินทางไปยัง Game of Thrones Studio Tour ที่ Northern Ireland คือการได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลก Westeros ของจริง แต่ครั้งนี้เราไม่ได้ไปมือเปล่า เพราะเราพกสมาร์ทโฟนที่เหมือนหลุดออกมาจากซีรีส์ไปด้วย และสมาร์ทโฟนที่เราพูดถึงคือ realme 15 Pro Game of Thrones Limited Edition สมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษที่ realme สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจของตระกูลมังกร “House Targaryen” ตัวเครื่องมาพร้อมดีไซน์หนังสีดำ-ทองในชื่อ Dragonfire Black Leather และยังมีฟีเจอร์สุดล้ำอย่าง Heat-sensitive Color-changing Design ซึ่งทำให้ฝาหลังเปลี่ยนสีจากดำเป็นแดงเมื่อโดนความร้อน แถมยังโดดเด่นด้วย AI ที่ช่วยแต่งภาพให้สมจริงและสนุกยิ่งขึ้น

 

บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 1 บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 2

 

ก่อนจะเข้าไปในสตูดิโอ มาดูกันหน่อยว่ามือถือที่เราเอามาด้วยวันนี้มีอะไรพิเศษบ้าง เพราะมันไม่ได้โดดเด่นแค่ดีไซน์ แต่ยังทรงพลังในทุกมิติ

 

บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 3

 

  • ชิป Snapdragon 7 Gen 4 (4 nm) ให้พลังแรงระดับเรือธงในราคาเข้าถึงได้ เล่นเกม ลื่น เปิดกล้องก็ไว

 

  • กล้องหลังคู่ 50MP พร้อมระบบกันสั่น OIS ถ่ายภาพคมทุกช็อต

 

  • แบตเตอรี่ 7,000 mAh + ชาร์จไว 80W Ultra Charge ใช้งานยาวทั้งวัน แถมชาร์จแป๊บเดียวก็เต็ม

 

  • ดีไซน์หนัง Dragonfire Black พร้อมลวดลายกรงเล็บมังกร และสามารถเปลี่ยนสีตามอุณหภูมิที่ไม่มีในมือถือรุ่นไหนในโลก

 

  • และยังมาพร้อมกับธีม “Ice” และ “Fire” ในระบบ realme UI ที่ปรับวอลล์เปเปอร์และไอคอนให้เข้ากับโลก Game of Thrones อย่างแท้จริง

 

บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 4 บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 5 บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 6 บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 7 บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 8 บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 9 บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 10

 

วิธีการเดินทางมาที่สตูดิโอนี้ เราต้องเริ่มจาก Belfast ขับรถเพียง 30 นาที คุณก็จะมาถึง Linen Mill Studios ที่ Banbridge ต้นกำเนิดของซีรีส์ระดับตำนานอย่าง Game of Thrones ภายใน Game of Thrones Studio Tour คุณจะได้เดินผ่านฉากจริงที่เคยใช้ถ่ายทำ เช่น Great Hall แห่ง Winterfell, ห้องบัลลังก์ Dragonstone, และชุดเกราะที่นักแสดงสวมใส่จริง พร้อมอาวุธและ props นับพันชิ้นที่จัดแสดงไว้อย่างอลังการ

 

บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 11 บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 12 บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 13 บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจาก ซีรีส์ 14

 

สตูดิโอถูกออกแบบให้เป็นประสบการณ์แบบ immersive ใช้แสง สี เสียง และเทคนิคพิเศษให้คุณรู้สึกเหมือน “เดินอยู่ใน Westeros” จริง ๆ และยังมีส่วนเบื้องหลังการถ่ายทำ เช่น การสร้างฉาก, การออกแบบคอสตูม, และเอฟเฟกต์มังกรในตำนาน การพก realme 15 Pro Game of Thrones Edition ไปด้วยยิ่งเพิ่มความอินเข้าไปอีก

The post บุก Game of Thrones Studio กับสมาร์ตโฟนที่เหมือนหลุดมาจากซีรีส์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
งานคอลแลปฯ ที่ทำให้เราอยากหาเคสมาใส่ไอโฟน https://thestandard.co/life/murakami-casetify-flowers-bloom/ Wed, 15 Oct 2025 01:48:39 +0000 https://thestandard.co/?p=1130609 งาน คอลแลปฯ ที่ทำให้เราอยากหา เคส มาใส่ ไอโฟน

 เมื่อ CASETiFY เปิดตัวคอลเล็กชัน TAKASHI MURAKAMI […]

The post งานคอลแลปฯ ที่ทำให้เราอยากหาเคสมาใส่ไอโฟน appeared first on THE STANDARD.

]]>
งาน คอลแลปฯ ที่ทำให้เราอยากหา เคส มาใส่ ไอโฟน

 เมื่อ CASETiFY เปิดตัวคอลเล็กชัน TAKASHI MURAKAMI x CASETiFY: FLOWERS BLOOM ซึ่งเป็นการร่วมมือกับ ทาคาชิ มุราคามิ (Takashi Murakami) ศิลปินร่วมสมัยชาวญี่ปุ่นผู้ร่วมงานกับแบรนด์ดังมาแล้วทั่วโลก ครั้งนี้เขาได้นำลวดลาย FLOWERS หรือดอกไม้ยิ้มอันเป็นซิกเนเจอร์สุดไอคอนิก มาเป็นลูกเล่นให้กับการดีไซน์ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ทำร่วมกับ CASETiFY

 

เริ่มจาก เคสโทรศัพท์รุ่น Ripple, เคส AirPods, แท่นชาร์จไร้สาย, กระเป๋าเดินทาง ( ที่มีแต่คนชอบ!) และ Dangler รูป FLOWERIAN ส่วนไฮไลต์คือ FLOWERS BLOOM เคสทองคำ 18K กรอบกล้องสีเรนโบว์ และ FLOWERS RIPPLE Blind Box ที่ทำออกมาได้สนุกมาก

 

งาน คอลแลปฯ ที่ทำให้เราอยากหา เคส มาใส่ ไอโฟน 1งาน คอลแลปฯ ที่ทำให้เราอยากหา เคส มาใส่ ไอโฟน 2

 

ต้องบอกว่าแม้เราไม่ได้ชื่นชอบการใส่เคสสีสดๆ แต่พอเห็นงานของมูราคามิแล้ว ขอเทใจให้กับความสดใส พลังบวก ที่ไม่ว่าลายดอกไม้จะปรากฏอยู่บนไอเท็มไหน ก็ชวนให้อารมณ์ดีทุกครั้งที่มองเห็น

 

งาน คอลแลปฯ ที่ทำให้เราอยากหา เคส มาใส่ ไอโฟน 3

 

นอกจากสินค้าแล้ว งานนี้ CASETiFY ยังจัด Pop-up สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ CASETiFY Dosan Flagship ในกรุงโซล ให้แฟน ๆ ได้สัมผัสคอลเล็กชันนี้ พร้อมโลกศิลปะของมุราคามิอีกด้วย

 

คอลเล็กชัน TAKASHI MURAKAMI x CASETiFY: FLOWERS BLOOM เปิดให้ชมและสั่งซื้อแล้วผ่านเว็บไซต์ CASETiFY และร้าน CASETiFY STUDiO พร้อมเปิดให้ลงทะเบียน waitlist สำหรับสินค้าพิเศษภายในเดือนพฤศจิกายนนี้

 

ภาพ: นราสิทธิ์ เกษาประสิทธิ์

The post งานคอลแลปฯ ที่ทำให้เราอยากหาเคสมาใส่ไอโฟน appeared first on THE STANDARD.

]]>
แบตอึด ดีไซน์สนุก! Headphone Pro หูฟังรุ่นใหม่จาก CMF by Nothing https://thestandard.co/life/cmf-headphone-pro-launch-thailand/ Wed, 01 Oct 2025 08:32:00 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1125179 CMF by Nothing เปิดตัวหูฟัง Headphone Pro ดีไซน์มินิมัล แบตอึด

แบตอึด ดีไซน์สนุก! Headphone Pro หูฟังรุ่นใหม่จาก CMF b […]

The post แบตอึด ดีไซน์สนุก! Headphone Pro หูฟังรุ่นใหม่จาก CMF by Nothing appeared first on THE STANDARD.

]]>
CMF by Nothing เปิดตัวหูฟัง Headphone Pro ดีไซน์มินิมัล แบตอึด

แบตอึด ดีไซน์สนุก! Headphone Pro หูฟังรุ่นใหม่จาก CMF by Nothing

 

CMF by Nothing เปิดตัวหูฟังครอบหูรุ่นแรก ในชื่อ Headphone Pro ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์มินิมัล แต่ยังคงมีสีสันสดใส และมาพร้อมกับเบาะรองหูแบบถอดเปลี่ยนได้ ทำให้สนุกกับการปรับแต่ง แถมแบตเตอรี่อึดมากๆ ใช้งานได้ถึง 100 ชั่วโมง หรือราว 50 ชั่วโมงเมื่อเปิด Hybrid ANC ว่ากันว่าระบบนี้ตัดเสียงรบกวนได้ถึง 99% รองรับมาตรฐาน Hi-Res Audio, LDAC codec สามารถทำงานร่วมกับแอป Nothing X ทั้ง Android และ iOS ได้สบายๆ รอบนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ Energy Slider ให้ปรับโทนเสียงเบส แหลมได้ง่ายโดยไม่ต้องเข้าเมนูซับซ้อน โดยทั้งหมดนี้มาในราคา 3,299 บาท พร้อมอะไหล่เบาะหูเปลี่ยนได้ ถือเป็นอีกหนึ่งแกดเจ็ตที่ทั้งคุ้มค่า สนุก และใช้งานได้จริง

 

 

อ้างอิง:

  • CMF / Hypebeast

The post แบตอึด ดีไซน์สนุก! Headphone Pro หูฟังรุ่นใหม่จาก CMF by Nothing appeared first on THE STANDARD.

]]>
5120 x 1080 อัตราส่วนวิดีโอใหม่ที่ครีเอเตอร์น่าลองใช้ https://thestandard.co/life/5120-x-1080-thin-video/ Fri, 26 Sep 2025 05:02:17 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1123222

5120 x 1080 อัตราส่วนวิดีโอใหม่ที่ครีเอเตอร์น่าลองใช้ & […]

The post 5120 x 1080 อัตราส่วนวิดีโอใหม่ที่ครีเอเตอร์น่าลองใช้ appeared first on THE STANDARD.

]]>

5120 x 1080 อัตราส่วนวิดีโอใหม่ที่ครีเอเตอร์น่าลองใช้

 

ช่วงนี้ในโซเชียลกำลังฮือฮากับวิดีโอสัดส่วน 5120×1080 หรือที่หลายคนเรียกว่า thin video ซึ่งมาในรูปแบบจอกว้างบางเฉียบต่างจากคลิปแนวตั้งที่เราคุ้นตา ข้อดีคือมันช่วยให้คอนเทนต์ดูสะดุดตาทันทีในฟีดที่เต็มไปด้วยคลิปไซส์มาตรฐาน แถมยังให้ความรู้สึก Cinematic คล้ายจอภาพยนตร์ แถมช่วยให้การเล่าเรื่องในคลิปของเรามีมุมมองที่เหมือนภาพยนตร์มากขึ้น และยังได้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูจอ Ultra-Wide ที่ดูพรีเมียม

 

วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน แค่ตั้งค่าอัตราส่วนวิดีโออยู่ที่ 5120×1080 สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านแอปตัดต่อบนมือถืออย่าง CapCut หรือใช้เทมเพลตจากแอป Canva ก็ได้ เพียงแค่นี้ก็ได้วิดีโอไวรัลสไตล์ใหม่ที่หลายคนกำลังทดลองเล่นกันแล้ว

 

ภาพ: Getty Images

The post 5120 x 1080 อัตราส่วนวิดีโอใหม่ที่ครีเอเตอร์น่าลองใช้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
จาก Pro สู่ Max: 5 สิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อใช้ iPhone 17 Pro Max https://thestandard.co/life/iphone-17-pro-max/ Thu, 25 Sep 2025 13:30:04 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=1122986

ต้องบอกว่าที่ผ่านมาเราอยู่กับตระกูล iPhone Pro มาตลอด ต […]

The post จาก Pro สู่ Max: 5 สิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อใช้ iPhone 17 Pro Max appeared first on THE STANDARD.

]]>

ต้องบอกว่าที่ผ่านมาเราอยู่กับตระกูล iPhone Pro มาตลอด ตั้งแต่รุ่น 14 Pro, 15 Pro จนล่าสุด 16 Pro ตลอดระยะเวลาที่ใช้งาน เราเชื่อว่า Pro คือสมดุลที่ดีที่สุดระหว่างความพรีเมียมและความคล่องตัว ด้วยจอที่ไม่ใหญ่เกินไป พกพาง่าย ใส่กระเป๋ากางเกงก็สะดวก ทั้งยังมีประสิทธิภาพที่สูงเพียงพอกับการใช้งานของเรา

 

แต่ปีนี้ iPhone 17 Pro Max ทำให้เราต้องกลับมาทบทวนดูอีกครั้ง เมื่อ Apple ได้เปิดตัวไอโฟน 17 ที่มีดีไซน์ใหม่ มาพร้อมชิป A19 Pro และระบบกล้อง Fusion 48MP ทั้งสามเลนส์ บวกกับกล้องหน้า Center Stage รุ่นใหม่ที่ 18MP และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่ไอโฟนเคยมีมา แถมตอนนี้ไลฟ์สไตล์เราก็ต้องใช้มือถือทำงาน ถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอมากขึ้น ต้องการคุณภาพงานที่มากขึ้น ครั้งนี้เราเลยตัดสินใจลองเปลี่ยนจาก Pro และมาเป็น Pro Max และนี่คือ 5 สิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อเราย้ายฝั่ง 

 

จอที่ไม่ใช่แค่ใหญ่ แต่เต็มตากว่าเคย

 

สิ่งแรกที่เราสัมผัสได้คือประสบการณ์จอภาพแบบ Super Retina XDR ขนาด 6.9 นิ้วของ iPhone 17 Pro Max มันไม่ใช่แค่ใหญ่ขึ้น แต่ให้ความรู้สึกเต็มตาและอิ่มมากกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อ Apple ได้เพิ่มความสว่างกลางแจ้งสูงสุดถึง 3,000 นิต และเพิ่มการเคลือบป้องกันแสงสะท้อน ทำให้การดูหนัง เล่นเกม หรืออ่านบทความยาวๆ กลางแจ้งสะดวกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

 

นอกจากนั้น Ceramic Shield 2 ยังช่วยปกป้องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้นว่าความเสี่ยงที่หน้าจอจะเป็นรอยขีดข่วน หรือแตกร้าวน่าจะลดน้อยลง แต่ความต่างที่ชัดเจนแน่ๆ คือขนาดของหน้าจอที่ใหญ่จุใจ

 

iPhone 17 Pro

 

แบตเตอรี่ที่ยาวนาน

 

หนึ่งในข้อได้เปรียบที่เราชอบ คือแบตเตอรี่ที่อึดกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา เพราะ iPhone 17 Pro Max เพิ่มพื้นที่ให้กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อทำงานคู่กับชิป A19 Pro ก็สามารถจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง iOS 26 ที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ ก็ส่งผลให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานที่สุดในประวัติศาสตร์ไอโฟนเลยก็ว่าได้ (แต่รุ่นหน้าค่อยว่ากันใหม่)

 

จากเดิมเวลาใช้งานหนักๆ ผ่านไปไม่ทันหมดวันก็ต้องหาที่ชาร์จแล้ว แต่ตอนนี้เราใช้ iPhone 17 Pro Max ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ เปิดยูทูบ หรือประชุมผ่านวิดีโอคอล ฯลฯ สัมผัสได้ว่าแบตฯ ไม่ค่อยลดลงเร็วมากนัก นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จที่เร็ว 50% ได้ภายใน 20 นาทีด้วยอะแดปเตอร์ 40 วัตต์ ก็ทำให้เรามั่นใจว่าถ้าเกิดแบตฯ หมดกลางคัน อย่างน้อยหาที่เสียบชาร์จแป๊บเดียวก็อยู่ได้ยาวแล้ว

 

กล้องที่เทพขึ้นแน่นอน

 

ต้องยอมรับว่ากล้องตระกูล 16 Pro ว่าดีแล้ว พอมาใช้ iPhone 17 Pro Max เราสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

 

ด้วยกล้อง Fusion 48MP ทั้งสามเลนส์ให้คุณภาพที่สมดุลระหว่างความคมชัดและสีสัน เลนส์เทเลโฟโต้ 48MP แบบ Tetraprism เจเนอเรชั่นใหม่ การซูมออปติคัลได้สูงสุด 8 เท่าที่ 200 มม. ถือว่ายาวที่สุดที่ไอโฟนเคยมีมา และยังเพิ่มทางเลือกซูมที่ 100 มม. สำหรับภาพบุคคลแบบคลาสสิกอีก

 

ส่วนด้านการถ่ายวิดีโอ Apple ได้เพิ่ม ProRes RAW, Apple Log 2 และ Genlock ที่ช่วยให้การทำงานร่วมกับทีมโปรดักชันระดับมืออาชีพได้ราบรื่นขึ้น เราลองถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า Center Stage 18MP เวลาอยากทำ Vlog, เซลฟี่ หรือต้องประชุมออนไลน์ กล้องก็สามารถจัดองค์ประกอบภาพให้เราอยู่ตรงกลางเฟรมได้โดยอัตโนมัติ เป็นประโยชน์มากเวลาวิดีโอคอล เพราะช่วยให้เราดูมืออาชีพยิ่งขึ้น

 

ประสิทธิภาพที่ลื่นไหล จัดการเรื่องความร้อน 

 

ด้วยความเร็วของชิปใหม่ A19 Pro สัมผัสได้ว่าเร็วขึ้นจริง ส่วน CPU 6-core และ GPU 6-core ที่ทำงานร่วมกับ Neural Engine 16-core ก็ทำให้การเล่นเกมระดับ AAA อย่าง Arknights: Endfield เป็นไปได้อย่างลื่นไหล

เราพยายามทดสอบเรื่องเครื่องร้อนที่ Apple พยายามแก้ไขด้วย Vapor Chamber ที่ช่วยกระจายความร้อน และการใช้โลหะผสมอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 ด้วยการถ่ายวิดีโอยาวๆ เปิดดูซีรีส์ติดต่อกัน ก็ไม่ค่อยเจออาการเครื่องร้อนเท่าไรนัก แต่ยังไม่เคยทดสอบใช้งานกลางแจ้งหรือกลางแดดจัดๆ ที่รุ่นก่อนหน้าจะมีอาการฟ้องอยู่บ้าง

 

iPhone 17 Pro เคสผ้า FineWoven แบบกระเป๋าสตางค์พร้อม MagSafe

เคสผ้า FineWoven แบบกระเป๋าสตางค์พร้อม MagSafe 

 

iPhone 17 Pro เคสผ้า TechWoven ทำมาจากผ้าที่ทอด้วยเทคนิคเฉพาะตัว

เคสผ้า TechWoven ทำมาจากผ้าที่ทอด้วยเทคนิคเฉพาะตัว

 

5 จากที่เคยคิดว่า ‘ใหญ่เกินไป’ กลายเป็นก็ดีนะ

 

สารภาพว่าก่อนหน้านี้เราเป็นคนที่ไม่เคยสนใจรุ่น Max เลย เพราะกลัวว่าขนาดจะใหญ่เทอะทะเกินไป จะไม่สะดวกกับการพกพา แต่พอได้ลองใช้ iPhone 17 Pro Max สักพัก ความคิดต่างๆ ก็เริ่มอ่อนลง

 

เพราะข้อดีของจอใหญ่ที่ใหญ่คือทำให้การอ่าน ดูคลิป หรือการทำงานเอกสารบนมือถือ (การใช้งานหลักตอนนี้เลย) สะดวกขึ้นมาก ปวดตาน้อยลง ถ่ายภาพเห็นรายละเอียดชัดเจน แต่ก็ต้องแลกมากับน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับ 16 Pro และขนาดที่จับไม่ถนัดมือเท่า แต่ก็ยังใช้งานมือเดียวได้ ถ้าอยากให้มั่นคงขึ้นก็ต้องใช้อีกข้างช่วยประคอง แต่โดยรวมพอปรับตัวได้ก็ไม่เป็นปัญหา

 

iPhone 17 Pro

 

บทสรุป: การย้ายมา Max คุ้มค่าหรือไม่

 

ถ้าเรามอง iPhone 16 Pro ว่าเป็นเครื่องมือที่ครบถ้วนอยู่แล้ว iPhone 17 Pro Max ก็เหมือนการยกระดับทุกประสบการณ์ ตั้งแต่จอภาพที่เต็มตาและทนทานยิ่งขึ้น แบตเตอรี่ที่อึดกว่า กล้องที่เทียบได้กับอุปกรณ์มืออาชีพ ประสิทธิภาพที่จัดการความร้อนได้ดี ไปจนถึงการออกแบบใหม่ที่ผสานวัสดุอะลูมิเนียมกับ Ceramic Shield 2 อย่างลงตัว

 

iPhone 17 Pro

 

สำหรับใครที่ลังเลระหว่าง Pro กับ Pro Max เราอยากบอกว่า ถ้าคุณใช้ไอโฟนเป็นศูนย์กลางการทำงาน การสร้างคอนเทนต์ และการเสพสื่อทุกชนิด การย้ายมา Max คือการลงทุนที่มอบประสบการณ์ที่ต่างออกไปอย่างชัดเจน แต่ถ้าคุณยังให้ความสำคัญกับความคล่องตัวและการพกพา Pro ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเช่นเคย

 

iPhone 17 Pro Max มี 3 สีได้แก่ น้ำเงินเข้ม สีส้มคอสมิก และสีเงิน จำหน่ายในรุ่นความจุ 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB ราคาเริ่มต้นที่ 48,900 บาท

 

 

The post จาก Pro สู่ Max: 5 สิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อใช้ iPhone 17 Pro Max appeared first on THE STANDARD.

]]>
10 ดีไซเนอร์ไทยที่สรรสร้างสิ่งของในชีวิตประจำวันสู่ดีไซน์ร่วมสมัย แก่สายตาโลกในงาน THAILAND CREATIVE & DESIGN POP-UP SHOWCASE by DITP ภายใต้แนวคิด FORWARD: Evolving the Thai Creative Edge [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/life/10-thai-designers-global-stage/ Tue, 23 Sep 2025 10:30:15 +0000 https://thestandard.co/?p=1121087

คุณเคยสังเกตไหมว่า ของใกล้ตัวที่เราใช้ทุกวันไม่ว่าจะเป็ […]

The post 10 ดีไซเนอร์ไทยที่สรรสร้างสิ่งของในชีวิตประจำวันสู่ดีไซน์ร่วมสมัย แก่สายตาโลกในงาน THAILAND CREATIVE & DESIGN POP-UP SHOWCASE by DITP ภายใต้แนวคิด FORWARD: Evolving the Thai Creative Edge [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

คุณเคยสังเกตไหมว่า ของใกล้ตัวที่เราใช้ทุกวันไม่ว่าจะเป็น หมอนนุ่มที่ใช้ยามหลับ โต๊ะกินข้าวที่วางจานโปรดของเรา หรือแม้แต่เสื้อผ้าที่เราเลือกสรรใส่ไปทำงาน ของพวกนี้ไม่ได้มีเพียงไว้ “ใช้สอย” แต่มันสามารถ “เล่าเรื่อง” ผ่านตัวตนของมันได้ สะท้อนวัฒนธรรม และตัวตนของผู้คนในสังคม แต่ละดีไซน์คือร่องรอยของความคิด

 

ประเทศไทยเองอุดมไปด้วย “ทุนทางวัฒนธรรม” จากทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นภูมิปัญญาผ้าไทย เครื่องจักสาน งานหัตถศิลป์ หรือศิลปะร่วมสมัย สิ่งเหล่านี้กำลังถูกตีความใหม่ในแบบร่วมสมัย และถักทอเข้ากับงานดีไซน์ที่พร้อมจะก้าวไกลสู่เวทีโลก

 

พลังสร้างสรรค์เช่นนี้คือหัวใจที่ซ่อนอยู่ใน “งานคราฟต์” และงานดีไซน์ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของ THAILAND CREATIVE & DESIGN POP-UP SHOWCASE นิทรรศการที่จัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์

 

และวันนี้ THE STANDARD LIFE จะพาทุกคนไปรู้จักกับ 10 ผู้สรรสร้างและออกแบบที่เป็นเสมือนตัวแทนความคิดสร้างสรรค์ของไทย ทั้งในมิติ heritage, everyday design และ new vibe ที่สะท้อนถึงอนาคต

 

THORRs: เสื่อที่กลายเป็นศิลปะบนผนัง

 

ใครจะเชื่อว่า “เสื่อ” ของใช้พื้นบ้านที่เราเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก จะถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นงานศิลป์ตกแต่งผนังได้อย่างสง่างาม

 

THORRs คือแบรนด์จาก ธัญญ์นภัส ไชยจันทร์ ที่หยิบเอาเส้นใยธรรมดาของเสื่อไทย มาสร้างสรรค์เป็น Woven Hanging ผลงานสิ่งทอที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ทั้งวัสดุ เทคนิค และลวดลายร่วมสมัย

 

 

เบื้องหลังผลงานนี้ไม่ใช่แค่ความสวยงามทางสายตา แต่ยังสะท้อน “บทสนทนา” ระหว่างนักออกแบบกับช่างทอท้องถิ่น ทุกผืนที่ออกมาไม่ใช่เพียงของตกแต่ง แต่คือผลลัพธ์ของการเรียนรู้ การเติบโต และการมองเห็นคุณค่าในงานฝีมือที่กำลังถูกท้าทายด้วยกาลเวลา

 

เมื่อมองใกล้ เราเห็นความละเอียดอ่อนในทุกเส้นใย แต่เมื่อมองไกล เราเห็นความสง่างามที่ไร้กาลเวลา งานออกแบบที่เปลี่ยนผนังบ้านเงียบ ๆ ให้กลายเป็นพื้นที่ที่มีชีวิต

 

CLOTHEAR VESTIAIRE: พรานบุญที่กลับมาเดินบนรันเวย์

 

หากพูดถึง “พรานบุญ” หลายคนอาจนึกถึงตัวละครในการแสดงโนราภาคใต้ หน้ากากสีแดง ขนสีขาว บ่วงเชือกที่ใช้จับนางกินรี และบุคลิกที่ทั้งศักดิ์สิทธิ์และขี้เล่น แต่ CLOTHEAR VESTIAIRE โดย ธรา พชรวัฒนพาณิชย์ เลือกที่จะหยิบพรานบุญกลับมาเล่าใหม่ ผ่าน Phran Boon Punnachad Collection

 

 

ผืนผ้าที่ออกแบบขึ้นมานี้ไม่ได้เป็นเพียงผ้า แต่คือการถ่ายทอด visual code ของความเชื่อท้องถิ่นสู่แฟชั่นร่วมสมัย กลายเป็น wearable heritage ที่คนรุ่นใหม่สามารถสวมใส่และเล่าเรื่องต่อได้

 

สิ่งที่น่าสนใจคือ CLOTHEAR ไม่ได้ทำให้ศิลปะพื้นบ้านดูโบราณ แต่ทำให้มันกลับมามีชีวิตในโลกแฟชั่นระดับสากล ที่ซึ่ง “ความขลัง” และ “ความสนุกสนาน” สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างน่าหลงใหล

 

SUMPHAT Gallery: แจกันทองเหลืองที่สืบทอดบุหงามาศ

 

“บุหงามาศ” หรือเครื่องราชบรรณาการที่เคยใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นสัญลักษณ์ที่หลายคนอาจมองว่าอยู่ไกลตัวไปแล้ว แต่ SUMPHAT Gallery กลับหยิบแรงบันดาลใจนี้มาใช้ในผลงาน Khing Forest แจกันทองเหลืองที่สืบทอดความทรงจำทางวัฒนธรรมจาก รัฐ เปลี่ยนสุข 

 

 

แจกันใบนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความหรูหรา แต่ยังเล่าเรื่องราวของกิ่งก้านและใบไม้ทองที่รองรับดอกไม้ป่าเล็ก ๆ อย่างอ่อนโยน เปรียบเสมือนการผสมผสานระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ความศักดิ์สิทธิ์ของบุหงามาศกับความละมุนของธรรมชาติ สร้างบรรยากาศสงบในยามเช้าได้อย่างน่าประทับใจ

 

PDMBRAND: โต๊ะสตรีทฟู้ดที่กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ไอคอน

 

ภาพของโต๊ะพับเหล็กพร้อมเก้าอี้เล็ก ๆ ริมทาง อาจเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนคุ้นเคย แต่ PDMBRAND มองเห็นมากกว่าความเป็น “โต๊ะพลาสติกสตรีทฟู้ด” พวกเขาหยิบแรงบันดาลใจนั้นมาเล่าใหม่จนกลายเป็น Sunny Table เฟอร์นิเจอร์ที่ทั้งโดดเด่นและเต็มไปด้วยเสน่ห์

 

 

โต๊ะรุ่นนี้ไม่ได้เป็นเพียงของใช้ง่าย ๆ ที่กางแล้วพับเก็บ แต่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด เหล็กหนา 1.5 มิลลิเมตรถูกตัด พับ และเชื่อมด้วยมือ เพื่อให้ได้ความแข็งแรงระดับพรีเมียม พื้นผิวผ่านการทำสี powder coating ที่ทนทานและสดใส ที่สำคัญคือรูปทรงดอกไม้ที่ถูกตีความขึ้นมาใหม่ ทำให้โต๊ะสตรีทฟู้ดธรรมดากลายเป็น statement piece ที่วางตรงไหนก็สะดุดตา

 

GQ: ยูนิฟอร์มที่เบากว่าภาระที่แบกไว้

 

สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ เครื่องแบบไม่ใช่แค่เสื้อผ้าที่ใส่ทำงาน แต่คือสิ่งที่อยู่กับพวกเขาตลอดทั้งวัน และบางครั้งก็กลายเป็นภาระที่หนักกว่าที่คิด GQ จึงออกแบบ ProMED Scrubs™ โดยยึดหลักว่า “เครื่องแบบควรเบากว่าภาระที่พวกเขาแบก” จาก 3 ดีไซเนอร์ ชาติชาย ไชยเดช, ทวีศักดิ์ สมานมิตร และอาทิตย์ จันทรางศุ

 

 

สิ่งที่น่าสนใจคือ ProMED Scrubs™ เกิดจากการลงพื้นที่จริงเพื่อฟัง insight ของหมอและพยาบาล เช่น ความต้องการช่องใส่พระ ช่องใส่ยาดม หรือกระเป๋าซ่อนโทรศัพท์ รายละเอียดเล็ก ๆ ที่สะท้อนว่าผู้ออกแบบเข้าใจการใช้ชีวิตของผู้สวมใส่จริง ๆ ไม่ใช่แค่ทำเสื้อให้ดูดี

 

นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมผ้าที่กันน้ำจากด้านนอก ระบายอากาศจากด้านใน และยืดหยุ่นโดยไม่ใช้เส้นใยยืด รวมถึงแพตเทิร์น 360° ที่ช่วยให้เคลื่อนไหวสะดวก ไม่รั้งไหล่หรือหลังเวลาทำหัตถการ สิ่งเหล่านี้ทำให้ ProMED Scrubs™ เป็นมากกว่ายูนิฟอร์ม แต่มันคือ wearable solution ที่ช่วยเสริมทั้งสมรรถนะ ความมั่นใจ และความสุขของผู้สวมใส่

 

MR. BIG: หมอนที่ออกแบบเพื่อความรัก

 

เรื่องบนเตียงมักเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่ MR. BIG กล้าหยิบมาพูดผ่านงานออกแบบ หมอน Soey Pillow ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคู่รักโดยเฉพาะจาก ชวกิจ เก้าเอี้ยน

 

ด้วยรูปทรงลาดเอียงคล้ายหยดน้ำ หมอนนี้ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม ทำให้การนอนและกิจกรรมของคู่รักสบายขึ้น ลดการบาดเจ็บ และเพิ่มความผ่อนคลายไปพร้อมกัน

 

 

Soey Pillow ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องนอน แต่คือการออกแบบที่พูดถึง intimacy ด้วยภาษาที่จริงใจและ playful ผลงานนี้แสดงให้เห็นว่า ดีไซน์ไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบที่เป็นทางการเสมอไป แต่มันสามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่เชื่อมความสัมพันธ์ของผู้คนให้แน่นแฟ้นขึ้นได้

 

LOQA: กระเบื้องจากขยะที่สวยกว่าที่คิด

 

ในโลกที่การก่อสร้างมักถูกมองว่าเป็นตัวการทำลายสิ่งแวดล้อม LOQA ของ นรฤทธิ์ วิสิฐนรภัทร กลับเลือกเส้นทางที่ต่างออกไป พวกเขาสร้าง circular tiles and bricks กระเบื้องและอิฐที่ผลิตจากเศษขยะอุตสาหกรรม เช่น เซรามิก ดิน แก้ว และเถ้าลอย มากถึง 80–95%

 

 

สิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่แค่การรีไซเคิล แต่คือการทำให้วัสดุเหลือทิ้งเหล่านี้กลับมามีชีวิตใหม่อย่างสง่างาม กระเบื้อง LOQA ไม่ได้มีเพียงฟังก์ชันการใช้งาน แต่ยังถูกออกแบบให้มีเฉดสีและผิวสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ สวยงามจนกลายเป็น art piece ที่สถาปนิกและนักออกแบบอยากนำไปใช้

 

การทำให้วัสดุหมุนเวียน (circular design) เป็นเทรนด์ระดับโลกที่หลายประเทศให้ความสำคัญ LOQA จึงไม่ได้ทำเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างเดียว แต่ยังแสดงให้เห็นว่า งานออกแบบที่ยั่งยืนก็สามารถงดงามได้ไม่แพ้ใคร

 

Phannapast Universe: จานที่เป็นมากกว่าจาน

 

ทุกบ้านต้องมีจาน แต่ไม่ใช่ทุกจานที่จะสามารถทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้รับพรในทุกครั้งที่ใช้งาน ปัณพัท เตชเมธากุล จาก Phannapast Universe เลือกใช้จานเซรามิกเป็น canvas ของการเล่าเรื่อง โดยออกแบบเป็นคอลเล็กชัน Cherished Moment ที่แต่ละลายมีความหมายเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความรัก ความโชคดี หรือความอุดมสมบูรณ์

 

 

สิ่งที่ทำให้ผลงานนี้โดดเด่นคือการเปลี่ยนวัตถุธรรมดาให้กลายเป็น symbolic gift จานหนึ่งใบไม่ได้เป็นเพียงภาชนะสำหรับใส่อาหาร แต่คือของขวัญที่เต็มไปด้วยความหมายและพลังบวก สีสันสดใสและลวดลายที่มีชีวิตชีวาทำให้ทุกมื้ออาหารกลายเป็นการเฉลิมฉลองชีวิต

 

นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ดีไซน์ไม่ได้อยู่แค่ในรูปทรงหรือฟังก์ชัน แต่ยังสามารถเป็นภาษาแห่งความรู้สึก ที่ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตด้วยความสุขมากขึ้น

 

DecideKit: มวยไทยในโลกดิจิทัล

 

หากมีสิ่งใดที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยในสายตาคนทั่วโลก “มวยไทย” คือหนึ่งในนั้น แต่การจะเล่าเรื่องมวยไทยให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ จำเป็นต้องมีเครื่องมือใหม่ ๆ และนั่นคือสิ่งที่ DecideKit ทำได้อย่างน่าทึ่ง

 

ผลงาน Rajadamnern Immersive Muay Thai คือการเปลี่ยนเวทีราชดำเนิน ให้กลายเป็นประสบการณ์ immersive 360 องศา ผ่านเทคโนโลยี projection mapping

 

 

ผู้ชมจะได้สัมผัสมวยไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านภาพ แสง และเสียง ที่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง

 

นี่ไม่ใช่แค่การอนุรักษ์มวยไทย แต่คือการสร้าง cultural tech showcase ที่ทำให้ศิลปะการต่อสู้อันเก่าแก่ของไทยสามารถก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลและกลายเป็นต้นแบบสำหรับการเผยแพร่วัฒนธรรมในระดับสากล

 

TRIMODE STUDIO: ธรรมชาติที่ผลิบานจากวัสดุอุตสาหกรรม

 

TRIMODE STUDIO เลือกเล่าเรื่อง “ธรรมชาติที่หวนกลับมาผลิบาน” ผ่านโปรเจกต์ Rebloom: Reconstructing Nature ผลงานแจกันที่ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเป็นภาชนะใส่ดอกไม้ แต่กลับกลายเป็น “ดอกไม้” ในตัวมันเอง โครงสร้างทั้งหมดเกิดจากการนำชิ้นส่วนอะลูมิเนียมโปรไฟล์มาตัด ดัด และประกอบขึ้นใหม่ ให้ดูราวกับต้นไม้ที่ค่อย ๆ เติบโตขึ้นจากวัสดุอุตสาหกรรม

 

 

เบื้องหลังงานนี้คือความเชื่อของทีมดีไซเนอร์ คือ ชินภานุ อธิชาธนบดี, ภิรดา และภารดี เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่ต้องการแสดงให้เห็นว่าความงามของธรรมชาติสามารถถือกำเนิดใหม่ได้ แม้จะผ่านการตีความด้วยวัสดุที่ไม่คาดคิด นี่คืองานที่ท้าทายขอบเขตระหว่างสิ่งมีชีวิตกับวัตถุไร้ชีวิต และทำให้เรามองโลกด้วยสายตาใหม่

 

THAILAND CREATIVE & DESIGN POP-UP SHOWCASE FORWARD: Evolving the Thai Creative Edge

 

งานออกแบบไฮไลต์ทั้ง 10 จะรวมอยู่ในงาน “THAILAND CREATIVE & DESIGN POP-UP SHOWCASE FORWARD: Evolving the Thai Creative Edge” ที่จัดโดย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จะมีขึ้นในวันที่ 25 – 29 กันยายน 2025 ที่ One Bangkok

 

นี่ไม่ใช่แค่งานโชว์ผลงานดีไซน์ แต่คือครั้งแรกที่รวมกว่า 30 นักออกแบบไทยมาเล่าเรื่องเดียวกันว่า “ดีไซน์ไทยไม่ได้อยู่บนหิ้ง แต่มันหายใจอยู่รอบตัวเรา และพร้อมก้าวสู่เวทีโลก” คุณจะได้เดินดูตั้งแต่การตีความรากวัฒนธรรมไทยให้ร่วมสมัยโดย THORRs, CLOTHEAR VESTIAIRE, SUMPHAT

 

ไปจนถึงการยกระดับของใช้ใกล้ตัวที่เราคุ้นเคยอย่าง PDMBRAND, GQ, MR. BIG และยังมีงานที่สะท้อนอนาคตไทยในมิติที่สดใหม่ผ่าน LOQA, Phannapast Universe, DecideKit

 

 

ภายในงาน Thailand Creative & Design Pop-up Showcase ยังเต็มไปด้วยพื้นที่น่าค้นหา

 

  • Craft Roots ที่หยิบภูมิปัญญาเก่าจากท้องถิ่นมามาเป็นแรงบันดาลใจแห่งการสร้างสรรค์
  • Modern Flow ที่โชว์จังหวะและความเคลื่อนไหวของงานออกแบบร่วมสมัย
  • New Vibe ที่เต็มไปด้วยไอเดียสดใหม่กล้าฉีกกรอบ
  • Forward Powered กลไกเบื้องหลังการผลักดันการออกแบบของไทยโดยภาครัฐ 
  • POP-UP STORE ซึ่งเป็น shop ให้คุณได้เลือกซื้อชิ้นงานจริงกลับไปใช้ในชีวิตประจำวัน

The post 10 ดีไซเนอร์ไทยที่สรรสร้างสิ่งของในชีวิตประจำวันสู่ดีไซน์ร่วมสมัย แก่สายตาโลกในงาน THAILAND CREATIVE & DESIGN POP-UP SHOWCASE by DITP ภายใต้แนวคิด FORWARD: Evolving the Thai Creative Edge [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>