×

ดื่มด่ำความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นในไวบ์สนุกชวนตื่นเต้นที่ Yankii Robatayaki and Bar

31.05.2023
  • LOADING...
Yankii Robatayaki and Bar

HIGHLIGHTS

  • ร้านอาหารและบาร์ที่เสิร์ฟส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างอาหารย่างแบบยากิโทริ คุชิยากิ และโรบาตะของญี่ปุ่น
  • บรรยากาศตกแต่งด้วยแสงไฟโทนสีอบอุ่นและแสงไฟนีออน สะท้อนวัฒนธรรมสตรีทของญี่ปุ่นที่ถูกทำให้คึกคักขึ้นด้วยเพลงฮิปฮอปสไตล์นิวยอร์ก
  • มีธรรมเนียมการสั่นระฆังเพื่อเสิร์ฟแก้วช็อตให้กับทั้งโต๊ะ ได้ร่วมสนุกไปกับการตบมือและดื่มไปพร้อมๆ กัน 

สายอาหารญี่ปุ่นที่ชอบดูเชฟทำอาหารเสิร์ฟตรงจากหน้าเตาให้อิ่มเอมความอร่อยแบบสดๆ ร้อนๆ แต่อยากเพิ่มความสนุกในการกินด้วยบรรยากาศที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เราอยากพาไปทำความรู้จักกับ Yankii Robatayaki and Bar ร้านอาหารและบาร์สไตล์โรบาทายากิย่านสุขุมวิท รังสรรค์โดยเชฟมากประสบการณ์พร้อมเหล่าทีม Yankii ที่จะทำให้ตลอดค่ำคืนที่อยู่ในร้านเต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจ 

 

 

The Vibe

ร้านตั้งอยู่บริเวณชั้น G ของโรงแรม Skyview Hotel Bangkok โดยอยู่ชั้นสองของค็อกเทลบาร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากร้าน Dagashi หรือร้านขนมในยุค 50 ของญี่ปุ่น 

 

 

เพียงก้าวแรกที่ถึงโซนร้านก็ต้องสะดุ้งไปกับเสียงต้อนรับอันฮึกเหิมของทีม Yankii ที่ดังกึกก้องไปทั่วชั้น เคล้าไปกับเสียงเพลงฮิปฮอปสไตล์นิวยอร์กย้อนยุคที่เปิดคลออยู่ตลอด บรรยากาศภายในร้าน Yankii ที่มีการใช้แสงไฟโทนสีอบอุ่น ผสมผสานกับการเน้นแสงไฟนีออน สะท้อนวัฒนธรรมสตรีทของญี่ปุ่น ไปจนถึงผนังที่ตกแต่งด้วยโปสเตอร์ลายกราฟฟิตี้

 

 

ในส่วนของตัวโลโก้ของร้านได้แรงบันดาลใจมาจากอาทิตย์อุทัยบนธงชาติของญี่ปุ่น สอดคล้องไปกับเครื่องแบบพนักงานภายในร้านที่ได้รับการออกแบบพิเศษโดยแบรนด์ Fah Chak สะท้อนภาพลักษณ์ของแก๊งไบเกอร์ยุค 80 ของญี่ปุ่น   

 

 

The Taste 

เมนูอาหารของร้านเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างอาหารย่างแบบยากิโทริ คุชิยากิ และโรบาตะของญี่ปุ่น โดยใช้วัตถุดิบสดใหม่ เสริมด้วยเครื่องเทศจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งผู้ที่กุมรสชาติความอร่อยทั้งหมดคือ Hakan Imir เชฟชาวตุรกีที่มีประสบการณ์ในวงการอาหารญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 10 ปี และยังมีความเชี่ยวชาญการรังสรรค์อาหารสไตล์โรบาทายากิโดยเฉพาะ

 

 

จานแรกที่มาเสิร์ฟเป็น Lobster Carpaccio (590 บาท) แคนาเดียนล็อบสเตอร์แล่บางราดด้วยซอสพอนสึ รสชาติกุ้งมีความสดกรอบ กินกับเกล็ดน้ำแข็งยูซุที่อยู่ด้านบนยิ่งให้ความหอมสดชื่น

 

 

ต่อด้วย Salmon Hand Roll (180 บาท) ที่มีแซลมอนเบิร์น (Aburi Salmon), อะโวคาโด, ต้นอ่อนหัวผักกาด (Kaiware) และไข่ปลาบิน (Tobiko) ราดด้วยซอสสไปซีมาโย ให้รสกลมกล่อม หอมมันกินเพลิน

 

ส่วนใครที่กินมังสวิรัติก็สามารถเลือกเป็น Vegetable Hand Roll (140 บาท) ที่ให้ความอร่อยไปอีกแบบด้วยอะโวคาโด, แตงกวา, ซอสปลาไหล​ (Kabayaki Sauce) และวาซาบิ

 

 

ต่อกันด้วย Broccolini (100 บาท) จานสุขภาพที่ช่วยตัดเลี่ยนได้ดีด้วยเบบี้บรอกโคลีย่างสดกรอบ ท็อปด้วยฮอร์สแรดิส (Horseradish) และซอยซอส จะเห็นได้ว่าการเสิร์ฟอาหารของที่นี่จะเป็นการเสิร์ฟบนไม้พายพร้อมการส่งเสียงขณะเสิร์ฟอย่างแข็งขัน ถ้าใครที่ง่วงๆ เหนื่อยล้าจากการทำงาน ก็มีสะดุ้งตื่นตลอดคืนแน่นอน 

 

 

สายมันหวานคงจะชอบจานนี้กับ Satsumaimo No Sumibiyaki (80 บาท) ที่เสิร์ฟกับซอสดาร์กเทอริยากิโฮมเมด โรยด้วยงา จิ้มกินกับซอสก็ยิ่งได้รสหวานเค็มที่เข้มข้นขึ้น

 

 

ใครชอบเครื่องเทศแนะนำให้ลอง Kanzo (100 บาท) ตับไก่หมักด้วยซอสแอฟริกันอาร์ติโชกต้นตำรับชาวเปรู ซึ่งเป็นอาหารจานเด่นของที่นี่เลยล่ะ

 

 

ส่วน Buta-Bara​ (150 บาท) จานนี้เป็นหมูสามชั้นเสียบไม้ที่แอบมองเชฟย่างเงียบๆ ท่ามกลางเสียงซู่ซ่าของไฟ แม้จะเป็นหมูสามชั้นแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเลี่ยนเกินไป ตัวมันหมูมีความกรอบเด้งเบาๆ เข้ากันดีกับซอสฮอยซินรสหวานเค็มจากจีนที่ถูกเพิ่มรสเผ็ดเล็กๆ ด้วยพริกป่นโทการะชิ  

 

 

มาถึงจานเด็ดเอาใจสายเนื้ออย่าง Ohmi Wagyu Tataki (980 บาท) ที่ใช้เนื้อมิยาซากิ A5 เนื้อวากิวอันเลื่องชื่อเรื่องความพรีเมียมในรสชาติที่ย่างมาในระดับมีเดียมแรร์ เสิร์ฟคู่กับกระเทียมแผ่น ต้นหอม และซอสยูซุพอนสึ ตัวเนื้อมีมันแทรกกำลังดี น่าจะถูกใจใครที่ไม่ชอบเนื้อที่ติดมันมากจนละลายหายไปในปาก ถือเป็นจานที่สายเนื้อต้องลองจริงๆ

 

 

ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารก็มีโมเมนต์ให้ระทึกอีกครั้งด้วยธรรมเนียมการสั่นระฆังเพื่อเสิร์ฟแก้วช็อตให้กับทั้งโต๊ะ พร้อมตบมือตามจังหวะที่ทางทีม Yankii ให้สัญญาณและดื่มไปพร้อมๆ กัน

 

 

ในส่วนของค็อกเทลที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลาย ถ้าเน้นดื่มง่ายในรสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่น แนะนำเป็น Apple Six (390 บาท) ที่มีเบสเป็นวิสกี้จากญี่ปุ่น ผสมกับชูไฮ (Chu-Hi) รสแอปเปิ้ล เพิ่มความหอมหวานด้วยฮิบิสคัสไซรัปและมะนาว 

 

 

แต่ถ้ามาด้วยคอนเซปต์แก้วเดียวรู้เรื่อง แนะนำเป็น Akasha (390 บาท) ที่รสเข้มแรงตีขึ้นจมูกตั้งแต่จิบแรกด้วยเบสที่เป็นวิสกี้ 2 ตัว เพิ่มมิติกลิ่นด้วยบิตเตอร์จากฝรั่งเศส หากใครไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ที่ร้านก็ยังมีม็อกเทลและซอฟต์ดริงก์เสิร์ฟเช่นกัน 

 

 

ปิดท้ายค่ำคืนด้วยของหวานจานเด่นที่ถูกใจสายชาเขียวแน่นอนกับ Matcha Tiramisu (220 บาท) เสิร์ฟในกล่องไม้ตกแต่งลวดลายด้านบนด้วยผงมัทฉะ ตัวครีมมีความนุ่มละมุน ไม่หวานจนเกินไป 

 

 

ตักกินเต็มๆ คำกับตัวเค้กมัทฉะด้านล่างอร่อยลงตัวไปหมด อิ่มท้องกำลังดีพร้อมส่งท้ายเข้านอน

 

 

Good For

ถ้าชอบอาหารหน้าเตาสไตล์ญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม แล้วอยากหาร้านสังสรรค์หลังเลิกงานกับเพื่อน หรือมาปล่อยใจคนเดียวในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร Yankii Robatayaki and Bar คือคำตอบ นอกจากจะได้นั่งฟังเพลงจังหวะคึกๆ ชวนโยกหัวตลอดคืนแล้วยังได้ร่วมสนุกไปกับกิมมิกของที่นี่อีกด้วย  

 

 

Open: Yankii Robatayaki and Bar เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 18.00-02.00 น.

Address: Skyview Hotel Bangkok ชั้น G ซอยสุขุมวิท 24

Website: www.yankiirestaurant.com 

Tel: 0 2821 6808 

Budget: ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 80 บาท, ราคาค็อกเทลเริ่มต้นที่ 320 บาท

 

ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising