ในวันที่โลกกำลังโคจรเข้าสู่ปี 2025

หากได้นั่งคิดทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกฟุตบอล (ระดับโลก) ตลอดปี 2024 จะเห็นว่าตลอดปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์สำคัญๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น

• เลเวอร์คูเซนคว้าแชมป์ลีกสมัยแรกแบบไร้พ่าย
• แมนฯ ซิตี้ แชมป์ลีก 4 สมัยติด…ก่อนเผชิญวิกฤตหนักในปัจจุบัน
• เมสซียังท็อปฟอร์มกับอาร์เจนตินา
• โรดรีได้บัลลงดอร์ไปครอง

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงโมเมนต์สำคัญบางส่วนเท่านั้น เพราะเหตุการณ์สำคัญๆ ที่น่าสนใจ THE STANDARD SPORT มัดรวมเอาไว้ให้ทุกท่านแล้ว

แมนฯ ซิตี้ ทีมแรกของอังกฤษคว้าแชมป์ลีก 4 สมัยติด

ย้อนกลับไปช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ ในฐานะแชมป์เก่า ถูกอาร์เซนอลของ มิเกล อาร์เตตา ท้าทายบัลลังก์แชมป์ลีกอย่างหนัก จนกระทั่งถึง MatchDay ที่ 33 ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่ท็อปฟอร์มมาตลอดนับตั้งแต่เดือนมกราคม มาแซงขึ้นจ่าฝูงได้ในที่สุด

แม้ต้องไปลุ้นแชมป์ถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล แต่ชัยชนะของแมนฯ ซิตี้ เหนือเวสต์แฮม 3-1 ทำให้พวกเขาได้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก และนับเป็นทีมแรกแห่งเกาะอังกฤษที่ได้แชมป์สมัยที่ 4 ติดต่อกัน

อย่างไรก็ตาม ถัดจากวันชื่นคืนสุขไม่กี่เดือน… แมนฯ ซิตี้ในทีมงานเดียวกันนี้ กลับไม่สามารถเร่งเครื่องทำผลงานได้ดีเหมือนเก่า หลังจากไร้ชัยชนะเป็นเวลาหลายนัด จนสร้างสถิติที่ไม่น่าจดจำมากมาย ซึ่งยังต้องติดตามต่อไปว่าในระยะยาวนี้ เป๊ปที่เพิ่งสลัดน้ำหมึกต่อสัญญากับทีมไป จะทำทัพเรือใบให้กลับมาแล่นฉิวเหมือนเดิมได้หรือไม่

ชาบี อลอนโซ เสกให้เลเวอร์คูเซนกลายเป็นแชมป์ไร้พ่าย

การกระชากแชมป์มาจากพี่เสือ ‘บาเยิร์น มิวนิก’ หนึ่งในทีมดังที่ครองแชมป์บุนเดสลีกามายาวนานกว่า 11 ฤดูกาลนั้นเป็นเรื่องยากมาก

แต่ ชาบี อลอนโซ ทำได้! และไม่ได้ทำแค่การพาไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ครองแชมป์ลีก ซึ่งนับเป็นแชมป์สมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ชาบียังทำให้ทัพนายห้างขายยาทีมนี้กลายเป็นทีมไร้พ่าย กับผลงานชนะ 28 เสมอ 6 จากทั้งหมด 34 แมตช์ นับว่าสุดยอดมากๆ

สเปนกลับมาทวงบัลลังก์เจ้าแห่งยุโรป!

ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ยูโร 2024 ทีมชาติสเปนในมือของ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ เป็นม้านอกสายตาของแฟนบอลพอสมควร จนถูกยกให้เป็นตัวเต็งแชมป์ลำดับ 5-6 ตั้งแต่ก่อนการแข่งขันจะเริ่ม

แต่เมื่อเกมเริ่ม…และผ่านรอบแบ่งกลุ่มมา สเปนกลับมาอยู่ในความสนใจของแฟนๆ อีกครั้ง จนหลายคนยกให้ทัพกระทิงดุที่โดดเด่นไม่น้อยในทัวร์นาเมนต์นี้ มีโอกาสเป็นแชมป์สูงไม่แพ้ทีมใด

จนในที่สุดทีมชาติสเปนหักด่านอังกฤษในเกมรอบชิงฯ 2-1 พร้อมคว้าแชมป์ยูโรไปครองสุดยิ่งใหญ่

โธมัส ทูเคิล นายใหญ่คนใหม่แห่งทีมชาติอังกฤษ

หลังจากพลาดโอกาสพาทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์ยูโรอย่างน่าผิดหวัง ทั้งที่มาถึงนัดชิงฯ ได้ 2 ครั้งติดต่อกัน สำหรับทัพสิงโตคำรามในมือของ แกเร็ธ เซาท์เกต ซึ่งเจ้าตัวเลือกก้าวลงจากตำแหน่งกุนซือในเวลาต่อมา

และนับจากนั้นไม่กี่เดือน ทีมชาติอังกฤษได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยการแต่งตั้ง โธมัส ทูเคิล เข้ามารับงานกุนซือคนใหม่ของทีม ทำให้กลายเป็นกุนซือชาวเยอรมนีคนแรกที่จะได้คุมทีมชาติอังกฤษ และเป็นชาวต่างชาติในรอบ 12 ปี ถัดจาก ฟาบิโอ คาเปลโล ที่ได้ขึ้นหลังสิงโตในฐานะกุนซือของทีม

โดยภารกิจใหญ่ของทูเคิลกับทัพสิงโตคำราม (เบื้องต้น) คือการพาทีมฝ่าด่านรอบคัดเลือกเพื่อไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2026 ที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก เป็นเจ้าภาพร่วม

สานฝันประธานเป้! ในที่สุดเอ็มบัปเปก็ได้สวมเสื้อราชันชุดขาว

เคสนี้เป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจ แต่เกิดขึ้นกับตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ 2024/25 เมื่อ คีเลียน เอ็มบัปเป ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส ได้ฤกษ์เปิดตัวกับเรอัล มาดริด สุดยิ่งใหญ่ ในสนามซานติอาโกเบร์นาเบว หลังปฏิเสธต่อสัญญากับปารีส แซงต์ แชร์กแมง นั่นทำให้การย้ายทีมครั้งนี้ของเขาเป็นการย้ายแบบไร้ค่าตัว พร้อมเซ็นสัญญายาว 5 ปี (ถึงปี 2029) ฟันค่าเหนื่อย 15 ล้านยูโรต่อปี

ปิดฉาก 9 ปี เจอร์เกน คล็อปป์ อำลาลิเวอร์พูล เปิดทางสู่ยุคสมัยแห่งความร้อนแรงของ อาร์เน สลอต

นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในถิ่นแอนฟิลด์ช่วงปีที่ผ่านมา นั่นคือการอำลาทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมนีที่ตัดสินใจพักงานจากวงการฟุตบอล หลังคุมทีมหงส์แดงมายาวนานกว่า 9 ปี พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และแชมป์พรีเมียร์ลีกที่สโมสรรอคอยกันมานานกว่า 30 ปี

อย่างไรก็ตาม อาร์เน สลอต กุนซือชาวดัตช์วัย 46 ปี ที่ตัดสินใจแยกทางกับเฟเยนูร์ด เพื่อมาเซ็นสัญญารับงานคุมทีมลิเวอร์พูลแบบไม่ได้ถูกคาดหวัง กลับทำผลงานได้อย่างร้อนแรง ชนิดที่กลายเป็นทีมที่ยากต่อการต่อกรในเวลานี้

เพราะอาร์เนพาทีมบินสูงด้วยการยึดอันดับ 1 ใน UCL และพรีเมียร์ลีก กับฟอร์มขั้นเทพ ทั้งที่เสริมทัพในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ไม่กี่คนเท่านั้น แต่ขุมกำลังที่เป็นมรดกจากคล็อปป์ อาร์เนสามารถปลูกปั้นและเรียกศักยภาพนักเตะในภาพรวมให้ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม และกลายเป็นทีมเต็งแชมป์พรีเมียร์ลีกในเวลานี้

ดราม่าบัลลงดอร์ ที่สุดท้ายตกเป็นของโรดรี และวินิได้นักเตะยอดเยี่ยมฟีฟ่าท้ายปี

นับเป็นอีกหนึ่งการประกาศผลรางวัลบัลลงดอร์ที่มีดราม่าใหญ่ครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้

ท่ามกลางการลุ้นอย่างหนักว่าใครจะได้รางวัลลูกบอลทองคำไปครอง ระหว่าง ‘วินิซิอุส จูเนียร์’ แห่งเรอัล มาดริด และ ‘โรดรี’ จอมทัพผู้เป็นหัวใจของแมนฯ ซิตี้และทีมชาติสเปน

ที่สุดท้ายแล้วบัลลงดอร์ปี 2024 ตกเป็นของโรดรี ที่ได้รับผลโหวตเหนือวินิเพียง 41 คะแนนเท่านั้น โดยตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา กองกลางรายนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่พาแมนฯ ซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก (สมัยที่ 4 ติดต่อกัน), แชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ, แชมป์สโมสรโลก และพาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ยูโร รวมถึงรางวัลส่วนบุคคลอย่างนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์

และจากเหตุการณ์นี้พบปมที่ทำให้เห็นเหตุดราม่าตั้งแต่ก่อนงานประกาศรางวัล เพราะฝั่งเรอัล มาดริด ไม่ส่งนักเตะหรือคนของสโมสรเข้าร่วมแม้แต่คนเดียว เหตุเพราะไม่พอใจในเกณฑ์ตัดสิน และมองว่าผู้จัดไม่ให้เกียรติกับทีม เพราะสโมสรมองว่าหากวินิไม่ได้เป็นผู้ชนะ รางวัลนี้ก็ควรจะตกเป็นของ ดานี การ์บาฆาล ที่ประสบความสำเร็จไม่น้อยไปกว่าโรดรี ทั้งในนามสโมสรและทีมชาติสเปน

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ วินิซิอุส จูเนียร์ เป็นผู้ชนะรางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมจากเวที The Best FIFA Football Awards 2024 เช่นเดียวกับ คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือของเรอัล มาดริด ที่ซิวรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมไปครอง

เทนฮากไป อโมริมมา และวิกฤตทางผลงานที่รอวันแก้ไขของแมนฯ ยูไนเต็ด

นับจาก เอริก เทน ฮาก พาทีมโค่นอริร่วมเมืองคว้าแชมป์เอฟคัพ 2023/24 ไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา พร้อมได้สัญญาจาก INEOS และเงินเสริมทัพจำนวนหนึ่งสำหรับคุมทัพต่อในฤดูกาลนี้

ผลงานของทัพปีศาจแดงในฤดูกาล 2024/25 กลับไม่สู้ดี แทบจะไม่ได้ขยับตัวออกจากโซนครึ่งล่างของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก จน เทน ฮาก ไปไม่รอด…ถูกปลดพ้นตำแหน่งหลังเกมแพ้เวสต์แฮม 1-2 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

นั่นทำให้ไม่กี่วันต่อมาทีมหันไปเซ็นสัญญากับกุนซือหนุ่มไฟแรงจากแดนฝอยทองอย่าง รูเบน อโมริม ที่กำลังไปได้สวยกับสปอร์ติง ลิสบอน เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ของทีม ท่ามกลางความคาดหวังของแฟนบอล ไม่ต่างจากฉากที่ซูเปอร์แมนอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่รอคอยความหวังแห่งการเปลี่ยนแปลง

ทว่า…การเปลี่ยนแปลงทีมที่ดูเหมือนอยู่ในวงล้อมของปัญหาหลายๆ มิติจะยังเป็นงานหินไม่น้อยสำหรับอโมริม กับแผน 3-4-3 ที่หยิบมาใช้แบบไม่เผื่อใจ

เพราะหลังผ่านไป 9 นัดพวกเขาทำผลงานชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 4 เกม ยังหาความลงตัวไม่เจอ และทำให้อันดับในลีกจมอยู่ที่ 13 ของตารางในปัจจุบัน

แฮร์รี เคน ราชาไร้บัลลังก์ ได้ทุกอย่างยกเว้นถ้วยแชมป์ และโคมันเสียสถิติชูถ้วยแชมป์ต่อเนื่อง

44 ประตูจาก 45 นัดในทุกรายการ นี่คือผลงานในฤดูกาลแรกของ แฮร์รี เคน กับบาเยิร์น มิวนิก ที่เจ้าตัวมาอยู่กับทีมได้เพียงฤดูกาลแรกเท่านั้น และทำให้เขาได้รางวัลส่วนตัวอย่างรองเท้าทองคำแห่งทวีปยุโรปและดาวซัลโวของบุนเดสลีกา

แต่จะด้วยวาสนาหรืออะไรก็ตามที่เล่นตลกกับเขา เพราะผลงานอันยอดเยี่ยมนี้ไม่สามารถทำให้เคนคว้าแชมป์กับทีมได้เลยสักรายการเดียว

ขณะเดียวกัน คิงสเลย์ โคมัน แนวรุกของบาเยิร์น มิวนิก เป็นอีกคนที่เสียสถิติกับทีมเมื่อฤดูกาล 2023/24 เพราะนั่นนับเป็นครั้งแรกในอาชีพการค้าแข้งของเจ้าตัวที่เขาไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ หลังแชมป์บุนเดสลีกาตกเป็นไบเออร์ เลเวอร์คูเซน

โดยก่อนหน้านี้โคมันทำสถิติเป็นนักเตะคนแรกของ 5 ลีกใหญ่ยุโรปที่คว้าแชมป์ลีกได้ทุกปี นับตั้งแต่เล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อฤดูกาล 2012/13 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาลงเล่นให้ 3 ทีมดังอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง, ยูเวนตุส และบาเยิร์น มิวนิก พร้อมกวาดถ้วยแชมป์ลีกต่อเนื่องได้มากถึง 12 ใบ

ลิโอเนล เมสซี ยังไม่แผ่ว พาอาร์เจนตินาป้องกันแชมป์โคปาอเมริกาสุดยิ่งใหญ่

แม้จะปล่อยใจ ค้าแข้งแบบชิลๆ กับอินเตอร์ ไมอามี พร้อมด้วยผองเพื่อน (อดีตนักเตะบาร์ซา) ที่ขนทัพไปเล่นในลีกลุงแซม จนช่วยทีมคว้าแชมป์ซัพพอร์เตอร์สชิลด์ (ทีมที่มีอันดับดีที่สุดในช่วงฤดูกาลปกติ)

แต่ ลิโอเนล เมสซี ในสีเสื้อทีมชาติอาร์เจนตินา ยังเป็นที่พึ่งของทีมอยู่เสมอแม้อายุจะล่วงเข้าวัย 37 ปี ภายหลังสวมปลอกแขนกัปตันนำทีมป้องกันแชมป์โคปาอเมริกาได้สำเร็จในช่วงกลางปีที่ผ่านมา และนับเป็นแชมป์สมัยที่ 16 ของทัพฟ้าขาว

และถึงนาทีนี้เหลือเวลาไม่ถึง 2 ปีเท่านั้น ก่อนฟุตบอลโลก 2026 จะเวียนกลับมาฟาดแข้งอีกครั้ง เมสซีที่ยังคงเล่นกับสโมสรและทีมชาติต่อเนื่องแบบนี้ ทำให้แฟนๆ เริ่มมีใจและคาดหวังว่าจะได้เห็นเขาในฟุตบอลโลกอีกครั้ง แม้เจ้าตัวจะเคยประกาศว่าเล่นครั้งสุดท้ายตอนได้แชมป์โลกที่กาตาร์เมื่อปี 2022 ไปแล้วก็ตาม

The post Football Fact of the Year 2024 โลกฟุตบอลเกิดอะไรขึ้นบ้าง…ในปี 2024 appeared first on THE STANDARD.

แม้ต้นสังกัดอย่างไบเออร์ เลเวอร์คูเซน จะบุกพ่ายต่อลิเวอร์พูลแบบหมดรูป 0-4 ในเกม UCL เมื่อคืนที่ผ่านมา 

แต่การมาเยือนถิ่นแอนฟิลด์ครั้งนี้ของ ชาบี อลอนโซ ในฐานะกุนซือของเลเวอร์คูเซน และอดีตนักเตะของลิเวอร์พูล เขายังคงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก ‘เดอะ ค็อป’ เสมอ โดยหลังจบเกมพบว่าแฟนๆ ตะโกนชื่ออลอนโซเพื่อเป็นกำลังใจให้อีกด้วย

The post ชาบี อลอนโซ ยังได้รับการต้อนรับที่ดีจากแฟนลิเวอร์พูลเสมอ appeared first on THE STANDARD.

ณ ปัจจุบัน คงไม่มีใครปฏิเสธว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา เป็นหนึ่งในโค้ชฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุด หลังความสำเร็จมากมายกับทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้, บาร์เซโลนา และบาเยิร์น มิวนิก

และด้วยเส้นทางที่ยาวนานนี้เอง เขาจึงได้แตกแขนงกิ่งก้านออกไปเป็นลูกศิษย์และเพื่อนร่วมงานมากมายที่นับเป็นสายการทำงานของเขา และโค้ชหลายคนที่เป็นเสมือน ‘ลูกศิษย์’ ของเขาก็กำลังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในปัจจุบันด้วย 

ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต

อ้างอิง:

• https://www.goal.com/en/lists/arteta-xavi-kompany-pep-guardiola-pupils/blt304cc1b84dcfe558#cs18c17ce5cb8defe9

The post Pep Guardiola’s Coaching Tree ลูกศิษย์ เป๊ป กวาร์ดิโอลา appeared first on THE STANDARD.

หนึ่งวันหลังจากที่ เจอร์เกน คล็อปป์ ชิงประกาศเปิดตัวนายใหญ่คนใหม่แห่งแอนฟิลด์ไปก่อน สโมสรลิเวอร์พูลก็ประกาศแต่งตั้ง อาร์เน สล็อต เข้ารับตำแหน่ง ‘บอส’ คนใหม่อย่างเป็นทางการ

สิ่งที่น่าสนใจไม่เพียงแค่เรื่องของชื่อตำแหน่งกุนซือชาวดัตช์ที่ใช้คำนำหน้าว่า ‘หัวหน้าโค้ช’ (Head Coach) ไม่ใช่ ‘ผู้จัดการทีม’ (Manager) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรลิเวอร์พูลที่จะไม่มีตำแหน่งผู้จัดการทีมอีกต่อไป ซึ่งสัมพันธ์กับเรื่องโครงสร้างของสโมสรและบทบาทของคนที่จะมารับตำแหน่งนี้ต่อจากนี้ไป

แต่ในรายละเอียดเบื้องหลังของการเจรจา เหตุผลที่นำพาให้สล็อตกลายมาเป็นคนที่รับช่วงต่อจากคนที่สร้างผลงานเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่เหลือเกินอย่างคล็อปป์ก็น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน และใครบ้างที่เป็นแคนดิเดต มีชื่อของ ชาบี อลอนโซ หรือ รูเบน อโมริม ตามกระแสข่าวจริงไหม แล้วทำไมสุดท้ายมาจบที่โค้ชของเฟเยนูร์ดคนนี้

นี่คือรายละเอียดที่อยู่หลังฉากของเรื่องราวทั้งหมด

การประกาศอำลาตำแหน่งผู้จัดการทีมล่วงหน้าของคล็อปป์เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้โลกของแฟนลิเวอร์พูลทั่วโลกแทบถล่มลงมา 

เพราะในช่วงเวลานั้นทีมกำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและร้อนแรง แม้จะมีปัญหาผู้เล่นอาการบาดเจ็บมากมาย แต่ก็มีนักเตะจากทีมเยาวชนก้าวขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ เรียกได้ว่ามองเห็นอนาคตที่สดใสสวยงามภายใต้แบรนด์ ‘ลิเวอร์พูล 2.0’

แต่ในเบื้องหลังแล้ว คล็อปป์ได้แจ้งต่อฝ่ายบริหารของสโมสรไปก่อนหน้านั้นเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว ถึงการตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะวางมือจากตำแหน่งหลังคุมทีมมาเป็นเวลา 8 ฤดูกาล ด้วยเหตุผลเรื่องของความอ่อนล้าทั้งกำลังกายและกำลังใจจากการกรำงานหนักมาโดยตลอด

ฝ่ายบริหารของสโมสรอย่างกลุ่ม Fenway Sports Group (FSG) จึงเริ่มต้นกระบวนการในการเฟ้นหาผู้จัดการทีมคนใหม่มาล่วงหน้านับตั้งแต่นั้น

คนที่รับบทบาทสำคัญในกระบวนการนี้ตัวจริงคือ ดร.วิลล์ สเปียร์แมน ผู้อำนวยการแผนกค้นคว้าวิจัย (Director of Research) ของสโมสร ที่เป็นผู้นำของทีมวิเคราะห์ข้อมูลในการเฟ้นหาคนที่ดีและเหมาะสมที่สุดที่จะรับตำแหน่งต่อจากผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน

กระบวนการนี้เป็นกระบวนการเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ในตอนที่ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสร มอบหมายให้ เอียน เกรแฮม ทีมวิเคราะห์ข้อมูลในขณะนั้น เฟ้นหาคนที่มีความเหมาะสมที่สุดที่จะเข้ามาแทนที่ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และได้คำตอบที่ดีที่สุดในเวลานั้นคือ เจอร์เกน คล็อปป์

อย่างไรก็ดี ด้วยเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป กระบวนการเฟ้นหาจึงมีความละเอียดมากขึ้น

การประมวลชุดข้อมูลของสเปียร์แมนมีความละเอียดมากกว่าครั้งของเกรแฮมอย่างมาก โดย ‘อัลกอริทึม’ (Algorithm) ที่ใช้ในการพิจารณามีมากมายหลายสิ่งด้วยกัน

• โค้ชที่คุมทีมเล่นแบบไดนามิก เน้นการครองบอล เล่นแบบมีพลังเร้าใจ
• โค้ชที่สามารถทำให้ผู้เล่นในทีมรักษาสภาพความฟิตและพร้อมลงสนามเสมอ
• โค้ชที่มีผลงานในการช่วยพัฒนาผู้เล่นให้ดีขึ้นได้
• โค้ชที่สามารถทำทีมภายใต้เงื่อนไขงบประมาณที่จำกัด 
• โค้ชที่เป็นโค้ช ไม่ใช่ผู้จัดการทีม มีหน้าที่แค่การควบคุมทีม และยอมรับว่าจะไม่มีอำนาจเต็มในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกผู้เล่น ซึ่งจะเป็นงานของผู้อำนวยการสโมสรฝ่ายเทคนิค

ทั้งหมดนี้ FSG ให้โจทย์กับสเปียร์แมนว่า อยากได้คนที่มีคุณสมบัติตามนี้มากที่สุด โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นโค้ชที่มีชื่อเสียงที่สุดก็ได้

จากโจทย์ที่ได้รับมา สเปียร์แมนได้ใช้อัลกอริทึมในการค้นหา ซึ่งตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะมีตัวเลือกทั้งหมด 30 คน และจะพยายามคัดกรองออกเรื่อยๆ จนให้เหลือ 3 คนสุดท้าย

คนที่เป็นแคนดิเดตที่พอมีการเปิดเผยชื่อ ได้แก่

1. ชาบี อลอนโซ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน)
2. อาร์เน สล็อต (เฟเยนูร์ด)
3. เอร์เนสโต บัลเบร์เด (แอธเลติก บิลเบา)
4. ลูเซียโน สปัลเล็ตติ (ทีมชาติอิตาลี)
5. รูเบน อโมริม (สปอร์ติง ลิสบอน)
6. โรแบร์โต เด แซร์บี (ไบรท์ตัน)
7. ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ (ทีมชาติเยอรมนี)
8. อันโดนี อิราโอลา (บอร์นมัธ)
9. ซิโมเน อินซากี (อินเตอร์ มิลาน)
10. เปาโล ฟอนเซกา (ลีลล์)

ในช่วงแรกหลังคล็อปป์ประกาศอำลาทีม คนที่เป็นกระแสข่าวหนาหูที่สุดคือ ชาบี อลอนโซ ซึ่งกำลังลุ้นพาไบเออร์ เลเวอร์คูเซน คว้าแชมป์บุนเดสลีกาในขณะนั้น 

อลอนโซเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ในลิสต์ของสเปียร์แมนจริงตามที่เป็นข่าว แต่การทาบทามตัวมาจากเลเวอร์คูเซนไม่เป็นผลสำเร็จ แม้ว่าลิเวอร์พูลจะลองทาบทามถึงสองครั้งก็ตาม รวมถึงการใช้คอนเน็กชันของ ริชาร์ด ฮิวจ์ส ว่าที่ผู้อำนวยการสโมสรคนใหม่ที่รู้จักกันดีกับ อินญากี อิบาเนซ นายหน้าของโค้ชชาวสเปน (เพราะเป็นนายหน้าของ อันโดนี อิราโอลา ที่ฮิวจ์สดึงมาคุมทีมบอร์นมัธในฤดูกาลที่ผ่านมา) 

แต่อลอนโซยืนกรานว่าจะอยู่กับเลเวอร์คูเซนต่อไปในฤดูกาลหน้า เพราะไม่อยากทิ้งทีมที่กำลังไปได้สวยและเพิ่งประสบความสำเร็จในระดับประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะมีการออกแถลงการณ์ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะอยู่กับทีมแชมป์เยอรมนีต่อไปเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม

อย่างไรก็ดี ลิเวอร์พูล ซึ่งในขณะนั้นได้ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ กลับมารับตำแหน่งซีอีโอฝ่ายฟุตบอลของกลุ่ม FSG รวมถึงได้ ริชาร์ด ฮิวจ์ส ที่เป็นคนสนิทที่เอ็ดเวิร์ดส์เชื่อมือมาจากบอร์นมัธแล้ว ไม่ได้มีตัวเลือกแค่อลอนโซเพียงคนเดียวมาตั้งแต่ต้น

โดยขณะที่หน้าฉากนั้น สื่อ…โดยเฉพาะในโปรตุเกส ได้ปั่นกระแสว่า รูเบน อโมริม โค้ชสปอร์ติง ลิสบอน คือตัวเต็งที่จะได้รับตำแหน่งต่อจากคล็อปป์ แต่โค้ชชาวโปรตุเกสไม่ใช่คนที่เป็นแคนดิเดตในลำดับต้นๆ แต่อย่างใด สู้ไม่ได้แม้แต่ตัวเลือกเซอร์ไพรส์อย่างบัลเบร์เดหรือสปัลเล็ตติด้วยซ้ำ

คนที่ได้รับ ‘คะแนน’ สูงจริงๆ คือ สล็อต โค้ชจากเฟเยนูร์ด ที่พาทีมเป็นแชมป์ลีกดัตช์ในฤดูกาล 2022/23 ซึ่งลิเวอร์พูลได้เริ่มศึกษาข้อมูลของโค้ชวัย 45 ปีคนนี้อย่างจริงจังมากขึ้น และพบความน่าสนใจหลายอย่างในตัวของสล็อตมากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนหนึ่งนั้นคนที่มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจอย่างฮิวจ์ส ไม่ได้พึ่งพาเพียงแค่ข้อมูลจากสเปียร์แมน แต่ส่วนตัวเคยศึกษาข้อมูล ผลงาน ไปจนถึงบุคลิกและตัวตนของสล็อตมาก่อนแล้วตั้งแต่สมัยทำงานให้กับบอร์นมัธ รวมถึงเคยศึกษานักเตะเฟเยนูร์ดที่อยู่ในอาณัติของโค้ชชาวดัตช์หลายคน (ถึงขั้นที่ทีมแมวมองบอร์นมัธแซวฮิวจ์สว่าเลิกหานักเตะจากเฟเยนูร์ดเสียที)

หนึ่งในนักเตะที่ฮิวจ์สได้สอบถามข้อมูลเรื่องของสล็อตมาก่อนคือ มาร์กอส เซเนซี ที่บอร์นมัธดึงตัวมาจากเฟเยนูร์ด ซึ่งได้ข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่างที่มากพอจะทำให้มั่นใจว่า โค้ชชาวดัตช์คนนี้มีคุณสมบัติที่ดีมากพอที่จะรับงานต่อจากคล็อปป์

• โค้ชที่ทำทีมฟุตบอลเน้นเกมรุก บุกสนุกสนาน เร้าใจ
• โค้ชที่เชื่อมั่นในนักเตะดาวรุ่ง พร้อมให้โอกาสลงสนาม
• โค้ชที่พร้อมช่วยเหลือนักเตะในการพัฒนาศักยภาพให้ก้าวไปข้างหน้า
• โค้ชที่ทำผลงานได้เกินตัว ทั้งๆ ที่มีงบประมาณและศักยภาพทีมที่จำกัด
• โค้ชที่มีบุคลิกและอุปนิสัยที่เหมาะสมกับสโมสรอย่างลิเวอร์พูล

ข้อสุดท้ายนั้นก็เป็นส่วนที่สำคัญ เพราะแม้การหาคนที่จะมาแทนที่ผู้จัดการทีมที่มีบุคลิกภาพโดดเด่นไม่เหมือนใครอย่างคล็อปป์เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่สล็อตเองก็เป็นที่รักและชื่นชอบของแฟนๆ เฟเยนูร์ดและชาวเมืองร็อตเตอร์ดัมเหมือนกัน (ดูได้จากวันอำลา แฟนๆ ทุกคนร่วมกันอวยพรขอให้โชคดีในก้าวต่อไป)

สุดท้ายในระหว่างที่สื่อกำลังสนใจอโมริม คนที่ทำหน้าที่ในการเจรจาอย่างฮิวจ์สก็เริ่มติดต่อทาบทามสล็อตด้วยการเดินทางไปสัมภาษณ์ที่เมืองร็อตเตอร์ดัม

ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการเจรจาอย่างจริงจังในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา แม้ว่าจะติดขัดบ้างเล็กน้อย เพราะ เดนนิส เต โคลส ผู้จัดการทั่วไปที่เป็นตัวแทนเจรจาของเฟเยนูร์ด เป็นนักเจรจาที่เขี้ยวลากดิน ข้อเสนอที่จะจ่ายเงินชดเชยแรกจากลิเวอร์พูลจำนวน 9 ล้านยูโรถูกปัดตกอย่างไม่ไยดี ทั้งๆ ที่สล็อตเองก็ไม่ได้มีเงื่อนไขในการฉีกสัญญา

แต่ฮิวจ์สตัดสินใจแล้วว่าต้องการสล็อตมาคุมทีมให้ได้ จึงได้เพิ่มข้อเสนอเข้าไปอีกเพื่อเร่งปิดการเจรจา ซึ่งเต โคลส พอใจกับข้อเสนอครั้งที่ 2 จำนวน 12 ล้านยูโร (ที่อาจเพิ่มเป็น 13 ล้านยูโร) ทำให้เปิดประตูยอมให้มีการเจรจากับโค้ชชาวดัตช์ได้

สล็อตบรรลุข้อตกลงกับลิเวอร์พูลอย่างไม่ยากเย็นนัก โดยเซ็นสัญญาระยะเวลา 3 ปีด้วยกัน โดยจะมาพร้อมกับทีมสตาฟฟ์คนสนิทอย่าง ซิลป์ ฮัลส์ชอฟฟ์ ที่คุ้นเคยกับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โคดี กักโป และ ไรอัน กราเวนเบิร์ช เป็นอย่างดี เพราะเป็นสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติเนเธอร์แลนด์ด้วย 

ขณะที่ รูเบน ปีเตอร์ส Head of Performance ที่เป็นคนสำคัญของสล็อต จะตามมาด้วยเช่นกัน และคาดว่าจะมีสตาฟฟ์คนอื่นๆ ที่ตามมาอีกเร็วๆ นี้ (ลิเวอร์พูลเพิ่งประกาศหาโค้ชผู้เชี่ยวชาญด้านลูกเซ็ตเพลย์บนโซเชียลมีเดีย!) 

บิ๊กบอสคนใหม่แห่งแอนฟิลด์จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ และจะเริ่มต้นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ทันทีในการ ‘สานต่อ’ สิ่งที่คล็อปป์ทิ้งไว้ให้ ซึ่งเป็นมรดกที่ดีกว่าในวันที่อดีตผู้จัดการทีมชาวเยอรมันได้รับต่อจากผู้จัดการคนก่อนอย่างร็อดเจอร์สมากพอสมควร

หนึ่งในภารกิจแรกๆ คือ การเร่งเจรจาสัญญาใหม่กับ 3 แกนหลักของสโมสรที่เหลือสัญญาแค่ปีเดียวอย่าง ฟาน ไดจ์ค, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ที่เชื่อว่าจะได้รับการเสนอสัญญาฉบับใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะเทรนต์ที่เป็นสายเลือดของสโมสร และเป็นคนที่ถูกคาดหมายว่าจะขึ้นมาเป็นผู้นำทีมยุคต่อไป

อีกหนึ่งภารกิจที่มีการเปิดเผยคือ การเรียกความมั่นใจและแก้ปัญหาของ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าเจ้าปัญหาที่ฟอร์มตกอย่างหนักในช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งสล็อตมั่นใจว่าจะสามารถช่วยเหลือให้กลับมาเป็น ‘ศูนย์หน้าหมายเลข 9’ ที่ยอดเยี่ยมได้อีกครั้ง ​โดยไม่จำเป็นต้องปล่อยตัวออกจากสโมสรตามกระแสในโซเชียลมีเดีย

ทั้งนี้ แม้ว่าการแต่งตั้ง ‘หัวหน้าโค้ช’ คนใหม่อย่างสล็อตจะมีความเสี่ยงอยู่มาก เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ในการคุมทีมใหญ่อย่างลิเวอร์พูลมาก่อน แต่เอ็ดเวิร์ดส์และฮิวจ์สเชื่อว่า สล็อตจะทำได้ดีแน่นอน เหมือนครั้งที่เขาได้รับโอกาสก้าวจากทีมอาแซด อัลค์มาร์ มาคุมทีมเฟเยนูร์ด ซึ่งเป็นทีมท็อป 3 ของเนเธอร์แลนด์

แต่การเดิมพันครั้งนี้จะสำเร็จด้วยดีอย่างที่หวังหรือไม่

สล็อตจะเป็นผู้ให้คำตอบแก่ทุกคนเอง

อ้างอิง:

• https://www.nytimes.com/athletic/5441110/2024/05/20/liverpool-arne-slot-manager-inside-story/ 
• https://www.thetimes.co.uk/sport/football/article/high-tempo-style-and-improving-players-why-liverpool-chose-arne-slot-pj8rvmsjr 
• https://www.telegraph.co.uk/football/2024/05/20/arne-slot-liverpool-manager-contract-signed-key-players/

The post Inside: เบื้องหลังการเลือก อาร์เน สล็อต เป็น ‘โค้ช’ คนใหม่ของลิเวอร์พูล appeared first on THE STANDARD.

หลังจากที่ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน เอาชนะ ไอน์ทรัก แฟรงก์เฟิร์ต เมื่อคืนที่ผ่านมาด้วยสกอร์ 5-1 ทำให้พวกเขาไม่แพ้ใครติดต่อกันแล้วเป็นจำนวน 48 นัด

ตัวเลขดังกล่าวกลายเป็นสถิติสูงสุดของยุโรป เทียบเท่าเบนฟิกาที่ทำเอาไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 1963 – กุมภาพันธ์ 1965 เลยทีเดียว

นั่นหมายความว่าหากกลางสัปดาห์นี้ทีมของ ชาบี อลอนโซ เอาชนะ อาแอส โรมา ได้สำเร็จในฟุตบอลยูฟ่ายูโรปาลีก พวกเขาจะครองสถิติใหม่ในการไม่แพ้ใครยาวนานที่สุดติดต่อกันในยุโรปแต่เพียงทีมเดียวทันที

อ้างอิง:

• https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-13379167/Bayer-Leverkusen-just-TWO-games-away-breaking-Benficas-48-game-record-stood-56-years-British-clubs-feature-10-longest-unbeaten-runs.html

The post FOOTBALL FACT: ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ทำสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันยาวนาน 48 นัด appeared first on THE STANDARD.

Bayer 04 Leverkusen หนึ่งในทีมที่เก่าแก่ที่สุดของลีกฟุตบอลเยอรมันที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1904 ภายใต้ฉายา ‘ห้างขายยา’ ได้กลายเป็นทีมที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศเยอรมนีเป็นครั้งแรกในรอบ 120 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร

จากทีมที่ได้รับฉายาล้อเลียนว่า Neverkusen หรือ ‘ทีมชวดแชมป์’ เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเคยมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมแค่ไหนในอดีต รางวัลสูงสุดที่พวกเขาเคยได้ก็มีเพียงแค่รองแชมป์เพียงเท่านั้น แต่วันนี้พวกเขากำลังอยู่ในจุดสูงสุดของฟุตบอลเยอรมัน

ผู้ที่สร้างปรากฏการณ์ฟุตบอลในครั้งนี้คือเฮดโค้ชผู้ที่เพิ่งเคยคุมทีมในลีกสูงสุดเป็นครั้งแรก ชายผู้ที่ ‘โชเซ มูรินโญ’ ยอดโค้ชชาวโปรตุเกสเคยทำนายไว้เมื่อ 14 ปีที่แล้วว่า ‘ชายผู้นี้จะก้าวขึ้นมาเป็นโค้ชระดับโลกในอนาคตอย่างแน่นอน’

ชายผู้นั้นมีชื่อว่า ‘ชาบี อลอนโซ’ โค้ชจากแดนสเปนแดนกระทิงดุผู้ที่เพิ่งเริ่มคุมทีมในลีกสูงสุดครั้งแรกในชีวิต

และนี่คือ 4 สิ่งที่โลกธุรกิจเรียนรู้ได้จากโลกฟุตบอล

1. เรียนรู้จากเมนเทอร์ที่เก่งแค่ไหน ต้องปรับให้กลายเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

สมัยที่เป็นนักเตะอลอนโซประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์กับสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปมากมาย ไม่ว่ากับลิเวอร์พูลที่อังกฤษ, เรอัล มาดริดที่สเปน, บาเยิร์น มิวนิกที่เยอรมนี หรือแม้แต่กับทีมชาติสเปน

เขาได้เรียนรู้จากโค้ชระดับโลก เช่น คาร์โล อันเชล็อตติ และ โชเซ มูรินโญ ที่มาดริด, เป๊ป กวาดิโอลา ที่บาเยิร์น, บิเซนเต เดล บอสเก กับทีมชาติสเปน และ ราฟาเอล เบนิเตซ ที่ลิเวอร์พูล ดังนั้นเขาจึงซึมซับความรู้ทางด้านแท็กติกฟุตบอล และการบริหารจัดการนักเตะ

อลอนโซเคยได้กล่าวว่าสิ่งโค้ชมีอยู่ทั้งหมด 3 สิ่ง นั่นก็คือ

• Knowledge: ความรู้ด้านแท็กติกฟุตบอลที่พร้อมพัฒนา และเรียนรู้จากคู่แข่งอยู่เสมอ

• Hardworking: การทำงานหนักอยู่เสมอ

• Self Demanding: เป็นคนที่มีความคาดหวังที่สูง และส่งต่อความคาดหวังไปยังนักเตะในระดับเดียวกัน

แต่เมื่อนักข่าวถามเขาว่า เขามีสไตล์การคุมทีมแบบใคร อลอนโซกลับตอบว่า ‘ผมมีแนวทางของผมเอง’

2. เข้าใจตัวเอง: Right thing at a times, Step by step, Don’t think ahead

อลอนโซ เคยได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับ adidas ว่าเคล็ดลับการสร้างทีมของเขานั้นเรียบง่ายมาก นั่นคือ

“ทำในสิ่งที่ถูกต้องและต้องทำ และทำทีละอย่าง ทีละเล็กทีละน้อย ถ้าเราทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ อย่างไรเสียมันเราก็ต้องเล่นดีขึ้นเองใช่ไหมล่ะครับ?

“เรามาถึงจุดนี้ได้เพราะเรามีแพสชันแบบนี้ แรงผลักที่จะทำให้เราก้าวไปในเส้นทางที่ถูกต้องตลอดเวลา ในอนาคตเราอาจประสบความสำเร็จ เราจะรอ แต่เราจะไม่มองไปไกลมาก เราจะโฟกัสกันแบบก้าวต่อก้าว นี่เป็นดีเอ็นเอของเรา และวิธีการทำงานของเรา”

3. Talent Management

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้ชายคนนี้เก่งไปแพ้กันเลยก็คือ ‘การบริหารนักเตะ’ อดีตกองหลังของ Leverkusen อย่าง คาร์สเทน ราเมโลว์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ beIN SPORTS เกี่ยวกับการทำงานของกุนซือผู้นี้ไว้ว่า

“ทุกคนที่เคยทำงานร่วมกับอลอนโซได้นิยามว่าเขาคือคนทำงานหนัก ซีเรียส จริงจัง แต่มีความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจนักเตะและทีมงานเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่างมากในการบริหารห้องแต่งตัว

“และสาเหตุที่นักเตะทุกคนสามารถทำตามแท็กติกที่เขาทำไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม นั่นอาจเป็นเพราะว่าตัวของอลอนโซเองนั้นทำตัวให้เป็นแบบอย่างแก่นักเตะทั้งในและนอกสนาม”

แบบอย่างของเขา เช่น

• การเล่นให้เด็กมันดู (Show don’t tell) อลอนโซนั้นซ้อมราวกับว่าเขายังเป็นผู้เล่นเสียด้วยซ้ำ

• บริหารนอกสนามด้วยการสร้าง Breakfast Club หรือการกินข้าวเช้าร่วมกันกับนักเตะบริเวณใกล้เคียงที่พักนักกีฬา เพื่อให้นักเตะได้มาร่วมกันกินอาหารเช้าทุกวันด้วยกัน ซึ่งอลอนโซเชื่อว่ากุญแจสู่ความสำเร็จคือความเป็นหนึ่งเดียวและสปิริตของทีม

4. Leadership with Winning Mentality

อลอนโซเคยได้พูดเกี่ยวกับคุณลักษณะของการเป็นผู้นำไว้อย่างน่าสนใจในช่วงเดือนธันวาคม 2023

“การเป็นผู้นำที่ดี คุณต้องรู้ว่าคุณจะนำอย่างไรภายใต้สถานการณ์ต่างๆ เมื่อไรต้องกดดัน เมื่อไรต้องอ่อนโอน และเมื่อไรที่ต้องไม่ปล่อยผ่าน และในสถานการณ์ของ Leverkusen ในตอนนี้เราผ่อนไม่ได้แม้แต่นิดเดียว”

และบทสัมภาษณ์ที่สะท้อนจิตใจที่กระหายชัยชนะได้มากที่สุดของชายคนนี้ คงจะหนีไม่พ้นบทสัมภาษณ์หลังจากวินาทีที่เขาคว้าแชมป์ลีกได้ โดยเขาได้กล่าวไว้ว่า

“สิ่งที่เราทำนั้นมหัศจรรย์มากๆ ในการที่เรายังเป็นทีมเดียวใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปที่ยังไม่พ่ายใครเลย แต่สิ่งนั้นมันไม่สำคัญหรอก เราต้องการมากกว่านี้ พวกเราคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ก่อนฤดูกาลนี้จะเริ่มต้นขึ้นแล้วว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของเรา”

ติดตามเรื่องราวเต็มๆ ของชาบี อลอนโซได้เร็วๆ นี้ที่ The Secret Sauce

The post สิ่งผู้บริหารควรเรียนรู้จาก ชาบี อลอนโซ มหัศจรรย์เลเวอร์คูเซน 120 ปี appeared first on THE STANDARD.

ชาบี อลอนโซ และ ดานิเอเล เด รอสซี คือ 2 กองกลางระดับตำนานของวงการฟุตบอลที่เคยมีโอกาสได้ดวลแข้งกันอยู่บ้างในสมัยที่ยังเป็นนักเตะอาชีพ ทั้งในระดับสโมสร รวมถึงในนามทีมชาติ

และครั้งนี้โลกได้เหวี่ยงให้ทั้งคู่กลับมาดวลกัน (อีกครั้ง) กับบทบาทที่เปลี่ยนไป นั่นคือการสู้กันในฐานะโค้ชหรือผู้จัดการทีม หลังจากในรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่ายูโรปาลีก โรมาของเด รอสซี จะได้วัดคมกับไบเออร์ เลเวอร์คูเซนของอลอนโซ ที่ยังครองสถิติไร้พ่ายมาจนถึงตอนนี้

ทั้งนี้ ยูฟ่ายูโรปาลีก รอบรองชนะเลิศนัดแรก จะแข่งขันในวันที่ 3 พฤษภาคม 2024 จากนั้นนัดที่ 2 จะแข่งขันในวันที่ 10 พฤษภาคม 2024

The post การดวลกันอีกครั้งของอลอนโซกับเด รอสซี appeared first on THE STANDARD.

ฤดูกาลสุดท้ายในอาชีพค้าแข้งของ ชาบี อลอนโซ เกิดขึ้นเมื่อปี 2017 เขาเลือกจะแขวนสตั๊ดกับบาเยิร์น มิวนิก และได้ชูถาดแชมป์บุนเดสลีกาสั่งลาเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพของตัวเอง

แต่ 7 ปีถัดมา ชาบี อลอนโซ หวนคืนวงการลูกหนังเมืองเบียร์อีกครั้ง ในฐานะของผู้จัดการทีมหรือเฮดโค้ชของทัพ ‘ห้างขายยา’ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ทีมที่ไม่เคยสัมผัสคำว่า ‘แชมป์ลีก’ เลยตลอด 120 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร

เพียงฤดูกาลแรก! อลอนโซทำสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะทำได้ กับการคุมทีมฟุตบอลระดับลีกสูงสุดเป็นครั้งแรก และใช่…คุณชายแห่งวงการลูกหนังผู้นี้ จัดการร่ายคาถาปลุกเลเวอร์คูเซนให้คืนฟอร์มแกร่ง และเถลิงแชมป์ลีกเป็นสมัยแรกได้สำเร็จ

ไม่เท่านั้น เขายังพาทีมอยู่ในเส้นทางลุ้น 3 แชมป์ในฤดูกาลนี้ (อีก 2 รายการคือ เดเอฟเบ โพคาล ที่ผ่านถึงรอบชิงฯ และยูโรปาลีก ที่ดำเนินมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แถมนัดแรกชนะเวสต์แฮมมาก่อน 2-0) พร้อมสถิติสุดเพอร์เฟกต์ คุมทัพ 43 นัด ลูกทีมยิงประตูทะลุ 123 ลูก และที่สำคัญคือ พวกเขายัง ‘ไร้พ่าย’ มาจนถึงตอนนี้ (ชนะ 38 เสมอ 5 นัด)

และนี่คือตำนานบทใหม่ที่ ชาบี อลอนโซ ลงมือเขียนมันด้วยตัวเขาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่

The post ชาบี อลอนโซ จากจุดสิ้นสุด สู่จุดเริ่มต้นในเวที ‘บุนเดสลีกา’ appeared first on THE STANDARD.

ชาบี อลอนโซ พาทีม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน คว้าแชมป์บุนเดสลีกาเป็นสมัยแรก นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา 119 ปี และนั่นทำให้เขาได้รับการบันทึกสถิติและเกียรติยศต่างๆ มากมาย

หนึ่งในนั้นคือการที่แฟนบอลของทีม ‘ห้างขายยา’ จัดการเปลี่ยนชื่อถนนทางเข้าสนามไบ อารีนา ของพวกเขา เป็นชื่อถนน ชาบี อลอนโซ เป็นที่เรียบร้อย

แฟนบอลเลเวอร์คูเซนทำป้ายสติกเกอร์ด้วยข้อความว่า ‘Xabi-Alonso-Allee’ มาติดทับป้ายเดิม โดยถนนเส้นนี้คือถนนที่เลี้ยวเข้าไปสู่สนามไบ อารีนา ซึ่งเป็นสนามเหย้าของพวกเขา

โดยนี่น่าจะเป็นเพียงหนึ่งในเกียรติยศแรกๆ ที่อลอนโซจะได้รับจากแฟนบอล และ ชาวเมืองเลเวอร์คูเซน เพราะหลังจากนี้เขาน่าจะได้รับเกียรติยศอื่นๆ เพิ่มเติมอีกมากมาย

ภาพ: @ZRMCF_ on X

อ้างอิง:

• https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-13307313/Bayer-Leverkusen-5-0-Werder-Bremen-Xabi-Alonsos-crowned-Bundesliga-CHAMPIONS-time-Florian-Wirtz-nets-hat-trick-emphatic-win.html

The post แฟนบอล ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน เปลี่ยนชื่อถนนทางเข้า ไบ อารีนา เป็นชื่อ ชาบี อลอนโซ appeared first on THE STANDARD.

แม้ต้องรอนับชั่วโมง แต่แฟนบอลที่ไบ อารีนา ก็ไม่มีปัญหาในการรอชมภาพการชู The Meisterschale หรือถาดแชมป์บุนเดสลีกา ที่พวกเขารอคอยมายาวนานถึง 119 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร

และเวลาที่พวกเขาและทีมห้างขายยารอคอยก็มาถึง เมื่อ ชาบี อลอนโซ ได้ชู The Meisterschale ต่อหน้าแฟนบอลนับหมื่นในสนาม พร้อมกับการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่

แต่ถึงอย่างนั้นภารกิจของนายใหญ่ชาวสเปนก็ยังไม่จบลง พวกเขาเหลือเกมอีก 5 นัดในบุนเดสลีกาให้ลงเล่นเพื่อสร้างประวัติศาสตร์

เหลือเกมรอบชิงฯ เดเอฟเบ โพคาล อีก 1 นัดเพื่อคว้าดับเบิลแชมป์ และยังเหลือเส้นทางในยูฟ่ายูโรปาลีกให้ฝ่าฟันเพื่อคว้าเกียรติยศในการเป็นแชมป์สโมสรยุโรป

แล้ว ชาบี อลอนโซ สามารถจะพาไบเออร์ เลเวอร์คูเซน จบเส้นทางด้วยการมีแชมป์เพิ่มอีกกี่รายการในฤดูกาลนี้?

The post ชาบี อลอนโซ ชูถาดแชมป์บุนเดสลีกาต่อหน้าแฟนบอลนับหมื่น appeared first on THE STANDARD.