รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ ออกมาแสดงความกังวลต่อการสนับสนุนของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หลังการแข่งขัน กอล์ฟไทยแลนด์ โอเพ่น ซึ่งเป็นรายการกอล์ฟอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ แต่กลับไม่ได้รับความชัดเจนด้านงบประมาณ ทั้งที่จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 รวมระยะเวลากว่า 60 ปี

นายกสมาคมฯ ระบุว่า แม้กอล์ฟไทยแลนด์ โอเพ่น จะเป็นเวทีสร้างนักกอล์ฟทีมชาติและนักกอล์ฟอาชีพระดับแถวหน้าให้ประเทศมาอย่างยาวนาน แต่เมื่อเทียบกับ โมโตจีพีที่ได้รับงบสนับสนุนหลายพันล้านบาท ความแตกต่างด้านการดูแลและส่งเสริมจากภาครัฐถือว่าชัดเจนและน่าเป็นห่วง

สำหรับการแข่งขัน ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 53 โดยสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถือเป็นรายการปิดท้ายฤดูกาลของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ซึ่งจะตัดสินสำคัญหลายตำแหน่ง ได้แก่

• นักกอล์ฟมือหนึ่งของทัวร์ (Order of Merit)
• นักกอล์ฟดาวรุ่งยอดเยี่ยม
• ผู้เล่นที่รักษาทัวร์การ์ดเพื่อสิทธิ์ลงแข่งในฤดูกาลหน้า

ทั้งนี้ มีนักกอล์ฟไทยคว้าแชมป์ ไทยแลนด์ โอเพ่น ทั้งหมด 9 คน ได้แก่ สุเทพ มีสวัสดิ์ (ปี 2534), บุญชู เรืองกิจ 2 สมัย (ปี 2535 และ 2547), ประหยัด มากแสง (ปี 2556), รฐนน วรรณศรีจันทร์ (ปี 2560), ภาณุพล พิทยารัฐ (ปี 2561), สดมภ์ แก้วกาญจนา (ปี 2564), ขวัญชัย แท่นนิล (ปี 2565), เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์ (ปี 2566) และ ชยุตพล กิตติรัตนไพบูลย์ (ปี 2567)

The post นายกสมาคมกีฬากอล์ฟฯ ชี้งบกีฬาเหลื่อมล้ำ ‘กอล์ฟไทยแลนด์ โอเพ่น’ ไร้ความชัดเจน เทียบโมโตจีพีที่ทุ่มหลายพันล้าน appeared first on THE STANDARD.

พิงค์-พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ มือวางอันดับ 55 ของโลก ยุติเส้นทางในศึก Thailand Open 2025 ไว้ที่รอบ 16 คนสุดท้าย หลังจำเป็นต้องถอนตัวกลางเกม (รีไทร์) ในการแข่งขันรอบ 2 ประเภทหญิงเดี่ยว ระหว่างเกมที่ 2 กับ เหยาเจียหมิน มือวางอันดับ 12 ของโลกจากสิงคโปร์ เนื่องจากอาการอ่อนล้าสะสมจากโปรแกรมแข่งที่ต่อเนื่อง

พิงค์ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “รู้สึกว่าร่างกายเริ่มล้ามากและคิดว่าไม่คุ้มถ้าจะฝืนต่อจนเสี่ยงเจ็บเพิ่ม เลยตัดสินใจถอนตัวเพื่อพักฟื้นแล้วสู้ใหม่ในแมตช์หน้า”

โดยในระยะเวลาเพียง 3 วัน พิ้งค์ลงแข่งไปถึง 4 แมตช์ เริ่มจากรอบคัดเลือก 2 เกมในวันเดียวและรอบแรกเมื่อวานนี้ หลังเพิ่งกลับจากรอบชิงที่ไต้หวัน ก่อนลงเล่นต่อเนื่องในรายการนี้โดยแทบไม่มีเวลาพักผ่อนเต็มที่

“รายการนี้ถือว่าเกินคาดแล้วค่ะ ตอนแรกไม่คิดว่าจะผ่านรอบคัดเลือกด้วยซ้ำ เพราะเพิ่งกลับจากไต้หวัน พอทำได้ถึงรอบนี้ก็ภูมิใจมากค่ะ”

แม้จะถอนตัวจากรอบ 2 แต่พิ้งค์ยอมรับว่ารายการนี้ให้ประสบการณ์สำคัญเรื่องความอึดและความอดทน

“ภูมิใจกับตัวเองมาก เพราะมีพัฒนาการที่ดี จากเมื่อก่อนถ้าแข่งหนัก 2-3 วันก็อาจไม่ไหวแล้ว แต่รอบนี้เล่นมา 11 แมตช์ก็ยังพอสู้ไหว ถือเป็นบททดสอบอีกขั้นค่ะ เพราะเชื่อว่าในอนาคตก็ต้องเจออะไรแบบนี้อีก”

สำหรับรายการต่อไป พิ้งค์ยังต้องรอเช็กว่าสามารถลงแข่งที่สิงคโปร์ได้หรือไม่ ก่อนมุ่งหน้าสู่รายการที่แคนาดาและสหรัฐอเมริกาในเดือนหน้า

The post พิงค์ พิชฌามลณ์ ภูมิใจได้พัฒนาตัวเองมากขึ้น หลังยุติเส้นทางที่รอบ 2 appeared first on THE STANDARD.

หลังเกมแบดมินตันในรอบแรกของศึก Thailand Open 2025 จบลง ภาพที่ พิ้งค์-พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ ยืนใช้ไม้แบดค้ำร่างกายอยู่กลางคอร์ต ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้องจากแฟนๆ ทั้งสนาม กลายเป็นช่วงเวลาที่บอกเล่าได้มากกว่าผลการแข่งขัน

เพราะสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ใช่แค่การ ‘ชนะ’ คู่แข่ง แต่มันคือการเอาชนะเกมที่ยากที่สุดเกมหนึ่งในชีวิตนักกีฬาชั่วโมงนี้

ความยากที่ไม่ใช่แค่เกิดจากการต้องดวลกับ Hina Akechi มือ 62 ของโลกจากญี่ปุ่น แต่มันยากตรงที่ต้องฝืนฝ่าร่างกายที่แทบจะหมดพลังเต็มที

ในช่วงเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง พิ้งค์ลงแข่งไปแล้ว 3 แมตช์ เริ่มจากรอบคัดเลือก 2 เกมในวันเดียว และรอบแรกในแมตช์ล่าสุด หลังเพิ่งบินกลับมาจากรอบชิงที่ไต้หวันเมื่อวันอาทิตย์ โดยมีเวลาพักเต็มที่เพียงคืนเดียวคือวันจันทร์

และคำถามที่ตามมาหลังภาพนั้นคือ…ในสภาวะที่ร่างกายเหมือนจะหมดแรงขนาดนั้น นักกีฬายังเล่นต่อได้อย่างไร?

คำตอบไม่ได้อยู่แค่ที่กล้ามเนื้ออย่างเดียว แต่อยู่ที่ ‘สมอง’ ด้วย

เมื่อสมองคือเบรกและคันเร่งในเวลาเดียวกัน

หนึ่งในทฤษฎีที่อธิบายปรากฏการณ์นี้ได้ดีที่สุดคือ ‘Central Governor’ ของนักสรีรวิทยา Tim Noakes ซึ่งเสนอว่า สมองทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมกลาง คอยประเมินว่าเมื่อไหร่ร่างกายควรหยุด ก่อนที่จะเกิดอันตราย เช่น หัวใจล้มเหลว หรือระบบประสาทล้าเกินไป

ถ้าสมองประเมินว่ายังไหว มันจะอนุญาตให้ร่างกาย ‘ลุยต่อ’ ได้ แม้ร่างจะส่งสัญญาณว่าเหนื่อยจนแทบขยับไม่ไหวก็ตาม

นั่นคือเหตุผลที่นักกีฬาผู้ถูกฝึกฝนมาโดยเฉพาะอย่างพิ้งค์ยังไล่ตบลูกจนถึงแต้มสุดท้าย แม้ขาแทบไม่มีแรงยืน

ความเหนื่อยไม่ใช่แค่กาย แต่ใจเองก็ล้าได้

นักกีฬาไม่ได้รับมือแค่กล้ามเนื้อที่อ่อนล้า แต่ต้องแบกความเหนื่อยล้าทางจิตใจ (Mental Fatigue) ไปด้วย ความเครียด ความกดดัน การตัดสินใจในเสี้ยววินาที สิ่งเหล่านี้ทำให้สมองล้า และเมื่อสมองล้า ร่างกายจะยิ่งรู้สึกเหนื่อยกว่าที่เป็นจริง

เหมือนกับนักวิ่งที่รู้ว่าอีกไม่กี่กิโลจะถึงเส้นชัย แต่กลับรู้สึกเหมือนกำลังวิ่งขึ้นภูเขา

แต่ด้วยประสบการณ์และการฝึกมาเป็นพันๆ ชั่วโมง มากกว่าคนทั่วไป นักกีฬาสามารถ ‘รีเซ็ต’ ความเหนื่อยนี้ได้ดีในระดับหนึ่ง

พวกเขารู้ว่าควรหยุดเมื่อไร และเมื่อไรที่ต้องฝืนต่ออีกนิด

กล้ามเนื้อจำได้ ใจยังสู้ ฮอร์โมนก็พร้อมช่วย

เมื่ออยู่ในสถานการณ์แข่งขัน ร่างกายจะหลั่งอะดรีนาลีน (Adrenaline) และเอ็นดอร์ฟิน (Endorphins) ซึ่งช่วยระงับความเจ็บปวดชั่วคราวและเพิ่มแรงฮึด

ในขณะเดียวกัน ยังมีเรื่องของ ‘ความจำของกล้ามเนื้อ’ หรือ Muscle Memory ที่ฝึกมานาน ทำให้การเคลื่อนไหวเกิดขึ้นได้แม้จิตจะล้าและขาจะสั่น

สุดท้ายคือ ‘พลังใจ’ ที่อาจไม่ได้อธิบายด้วยสูตรวิทยาศาสตร์ใดๆ

แต่ในเกมที่แต้มแพ้ชนะห่างกันไม่ถึงเสี้ยววินาที สิ่งเดียวที่ตัดสินได้คือ ‘ใจคุณยังสู้หรือเปล่า?’

สิ่งที่เราเห็นในสนามอาจเป็นเพียงภาพของคนหนึ่งคนที่พยายามเล่นอย่างสุดชีวิต

แต่เบื้องหลังนั้นคือร่างกาย สมอง และหัวใจที่ถูกฝึกมาเป็นปีๆ เพื่อยืนหยัดอีกหนึ่งลูก อีกหนึ่งแต้ม…จนกว่าจะหมดเกม

เหมือนพิ้งค์ที่แม้ร่างจะล้าชนิดขาแทบขาด แต่ใจยังเดินหน้าเต็มร้อย

เพราะท้ายที่สุดแล้ว นักกีฬาทุกคนไม่ได้ถูกฝึกมาแค่เพื่อแข็งแกร่งกว่าใครในเพียงอย่างเดียว 

แต่เบื้องลึกอาจถูกหล่อหลอมมาเพื่อ ‘ไม่ยอมแพ้’ แม้ในวันที่อ่อนล้าที่สุด

ขอบคุณผู้สนับสนุนอุปกรณ์การถ่ายภาพ Canon Imaging Thailand

อ้างอิง:

• https://boxlifemagazine.com/the-central-governor-theory-why-your-brain-may-be-limiting-your-performance-at-the-box/?utm_source=chatgpt.com 
• https://www.scienceofrunning.com/2018/04/fatigue-and-the-nba-playoff-how-players-raise-their-game-when-it-matters-most.html?v=47e5dceea252&utm_source=chatgpt.com 
• https://coachathletics.com.au/coaching-education/mental-fatigue?utm_source=chatgpt.com

The post ล้าแค่ไหนก็ยังลุกไหว วิทยาศาสตร์ว่าด้วยพลังใจ-กายของนักกีฬา appeared first on THE STANDARD.

หลังจาก เม-ศุภนิดา เกตุทอง คว้าแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยว ในแบดมินตัน ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 ไปครองได้สำเร็จ กิ๊ฟ-จงกลพรรณ กิติธรากุล และ วิว-รวินดา ประจงใจ ก็ได้แชมป์หญิงคู่ในรายการนี้อีก 1 รายการ

โดยการแข่งขันแบดมินตันเวิลด์ทัวร์ซูเปอร์ 500 รายการโตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ชิงเงินรางวัลรวม 420,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14,700,000 บาท 

ในรอบชิงชนะเลิศประเภทหญิงคู่ กิ๊ฟ-จงกลพรรณ กิติธรากุล และ วิว-รวินดา ประจงใจ คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ ที่จะพบกับ เฟเบรียนา ดวีปูจิ กูซูมา กับ อเมเลีย คาฮายา ปราติวี คู่มือวางอันดับ 3 ของรายการจากอินโดนีเซีย 

แมตช์นี้ คู่จากไทยทำผลงานได้เหนือกว่า เอาชนะไปได้ 2-0 เกมด้วยสกอร์ 21-14, 21-14 คว้าแชมป์รายการระดับบีดับเบิลยูเอฟเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก และเป็นการกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งหลังจากที่ต้องรอมานานเกือบ 3 ปี สำหรับแชมป์รายการล่าสุดของทั้งคู่ หลังเคยได้แชมป์ในรายการออร์เลอ็อง มาสเตอร์ส 2021 ที่ฝรั่งเศส

ขณะที่คู่ในประเภทคู่ผสม น่าเสียดายที่คู่ของ บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสมมืออันดับ 1 ของรายการ พ่ายต่อ โกวซินหว่า กับ เฉินฟางฮุย คู่มือวางอันดับ 5 จากจีน ไป 1-2 เกมด้วยสกอร์ 21-12, 2-21 และ 18-21 ทำให้ได้เพียงรองแชมป์เท่านั้น

ภาพ: Badminton Association of Thailand สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ / Facebook

The post กิ๊ฟ-วิว คว้าแชมป์หญิงคู่ ปิดฉาก แบดมินตัน ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 appeared first on THE STANDARD.

เม-ศุภนิดา เกตุทอง คว้าแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยว แบดมินตัน ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 ไปครองได้สำเร็จ หลังเอาชนะ หานเยี่ย นักหวดลูกขนไก่จากประเทศจีนไปได้ 2 เกมรวด

โดยการแข่งขันแบดมินตันเวิลด์ทัวร์ซูเปอร์ 500 รายการ โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ชิงเงินรางวัลรวม 420,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14,700,000 บาท 

ในรอบชิงชนะเลิศประเภทหญิงเดี่ยว ปรากฏว่า เม-ศุภนิดา เกตุทอง มือวางอันดับ 6 ของรายการ มืออันดับ 16 ของโลก เอาชนะ หานเยี่ย มือวางอันดับ 1 ของรายการ มืออันดับ 7 ของโลกจากจีน ไปแบบสนุก 2-0 เกม 21-16 และ 25-23

โดยนี่เป็นการคว้าแชมป์ในระดับเวิลด์ทัวร์ซูเปอร์ 500 ได้เป็นครั้งแรกของศุภนิดา พร้อมรับเงินรางวัล 31,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,134,000 บาท ส่วนรองแชมป์ หานเยี่ย รับเงินรางวัล 15,960 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 574,000 บาท

โดยนักแบดมินตันชาวไทยยังมีลุ้นในอีก 2 รายการคือ ประเภทหญิงคู่จาก กิ๊ฟ-จงกลพรรณ กิติธรากุล และ วิว-รวินดา ประจงใจ คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ ที่จะพบกับ เฟเบรียนา ดวีปูจิ กูซูมา กับ อเมเลีย คาฮายา ปราติวี คู่มือวางอันดับ 3 ของรายการจากอินโดนีเซีย 

และประเภทคู่ผสมจาก บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสมมืออันดับ 1 ของรายการ ที่จะพบกับ โกวซินหว่า กับ เฉินฟางฮุย คู่มือวางอันดับ 5 จากจีน

The post เม ศุภนิดา คว้าแชมป์แบดมินตันหญิงเดี่ยว ไทยแลนด์ โอเพ่น หลังเอาชนะนักหวดจีน 2-0 เกม appeared first on THE STANDARD.