TAAHRA – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Mon, 26 Dec 2022 08:29:50 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 11 ร้านอาหารใหม่แห่งปี 2022 ที่พวกเราอยากแนะนำให้ทุกคนตามไปลิ้มลอง https://thestandard.co/11-recommended-restaurants-2022/ Mon, 26 Dec 2022 08:29:50 +0000 https://thestandard.co/?p=728739 ร้านอาหาร

ยกให้เป็นอีกปีสุดเดือดที่มีร้านอาหารเปิดใหม่ไม่ยอมหยุดพ […]

The post 11 ร้านอาหารใหม่แห่งปี 2022 ที่พวกเราอยากแนะนำให้ทุกคนตามไปลิ้มลอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ร้านอาหาร

ยกให้เป็นอีกปีสุดเดือดที่มีร้านอาหารเปิดใหม่ไม่ยอมหยุดพัก เชื่อว่าหลายร้านอาจเฝ้ารอวันเฉิดฉายมาตั้งแต่ปีก่อนหน้าที่จังหวะไม่ดีเท่าไร เมื่อมาถึงปีนี้ที่หลายๆ อย่างลงตัวมากขึ้น ทุกคนอยากกินข้าวนอกบ้านมากขึ้น แถมร้านเองก็มีเวลาคราฟต์รสชาติอาหารแต่ละจานจนไม่มีที่ติด้วย พวกเราจึงได้เห็นร้านอาหารเปิดใหม่ที่น่าสนใจตลอดทั้งปีที่ผ่านมา

 

แต่หากเราต้องเลือกร้านที่อยากให้ทุกคนตามไปลองจริงๆ น่าเสียดายที่พูดถึงทุกร้านในปีนี้ไม่ได้ เราจึงต้องเลือกมาเฉพาะร้านเด็ดๆ เจ๋งๆ ที่อยากแนะนำว่าห้ามพลาดที่สุด!

 

แล้วร้านอาหารใหม่ 11 แห่งที่เราขอยกให้เป็นร้านใหม่แห่งปี 2022 จะมีที่ไหนบ้าง มาดูพร้อมกันได้เลย โดยลิสต์นี้ไม่มีการจัดอันดับแต่อย่างใด

 

ร้านอาหาร

 

Fran’s

Brunch Spot ยอดนิยมแห่งปีในย่านสาทร มาพร้อมบรรยากาศกลาสเฮาส์ สวนสีเขียวร่มรื่น และเมนูอาหารเช้าถึงสายที่เรียบง่าย ถ่ายรูปสวย และมีรสชาติชัดเจนในรูปแบบของตัวเอง ผู้อยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่ใครเสียจาก ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์ เจ้าของเครือร้านอาหาร iberry, กานต์ กิตติเวช จากร้านทองสมิทธ์ ร่วมกับ ชาลี กาเดอร์ เชฟฝีมือดีเจ้าของร้านอาหารดังอีกหลายแห่ง

 

เมนูแนะนำคือ Velvet Egg & Bacon (290 บาท) แซนด์วิชหน้าเปิดที่ใช้ขนมปังซาวโดว์ ท็อปด้วยไข่คนและเบคอนเคลือบซอสเมเปิลชิ้นหนายั่วยวนใจ เมนูนี้เป็นซิกเนเจอร์ของร้านที่ต้องมีทุกโต๊ะด้วย

 

Fran’s อยู่ในซอยงามดูพลี ราคาเริ่มต้น 500-1,000 บาท เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.

 

(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/frans/)

 

ร้านอาหาร

 

Baan Phraya

เดิมทีบ้านหลังนี้เป็นที่พักอาศัยของพระยามไหสวรรย์ และ คุณหญิงเลื่อน มไหสวรรย์ ซึ่งหากย้อนกลับไปสัก 50 ปี บ้านพระยานับว่าเป็นเรือนต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่เลื่องชื่อด้วยอาหารไทยรสมือคุณหญิงเลื่อนที่ใครชิมก็ถูกใจ เมื่อโรงแรมต้องคืนชีพให้บ้านหลังนี้ใหม่ จึงตัดสินใจเปิดเป็นห้องอาหารไทยที่นำเมนูโบราณมานำเสนออย่างโมเดิร์น และใช้เครื่องปรุงหลักๆ เพียงแค่ ‘น้ำปลาและเกลือ’ อย่างคนสมัยก่อน

 

ห้องอาหารไทยบ้านพระยา นำโดยเชฟหญิงรุ่นใหม่ ป้อม-พัชรา พิระภาค ผู้รังสรรค์อาหารไทยให้กลมกล่อม เสิร์ฟผ่านคอร์สเมนู 8 อย่าง ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารหลายภาค

 

Baan Phraya อยู่ในโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ลฯ ราคา 8 คอร์ส 3,500++ บาท เปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 19.00-22.30 น. 

 

(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/baan-phraya-2/)

 

ร้านอาหาร

 

Maison Dunand

บ้านหลังใหม่ของ เชฟอาโน ดูนัง ที่มาพร้อมกลิ่นอายกระท่อมบนเนินเขาในประเทศฝรั่งเศส เชฟใช้บ้านเกิดและแคว้นที่ผูกพันแต่เด็กมาเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่งร้าน ไปจนถึงเมนูอาหารที่จะเสิร์ฟให้ทุกคนชิม

 

อาหารฝรั่งเศสที่นี่จะมีความเป็นตัวตนของเชฟชัดขึ้น เพราะเชฟบอกว่าเขาจะทำทุกอย่างที่ตนเองต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการจัดจาน วัตถุดิบ หรือรสชาติที่หลายคนคิดถึง เนื่องจากที่นี่คือบ้านของเขาเอง และไฮไลต์นอกจากเมนูอาหารที่อยากให้ทุกคนได้ลองก็คือ รถเข็นชีส ที่เชฟนำชีสบางชนิดมาเองจากฝรั่งเศสเลย

 

Maison Dunand อยู่ในซอยสีลม 9 ใกล้บีทีเอสเซนต์หลุยส์ ราคามื้อกลางวัน 2,600++ บาท, มื้อค่ำ 4,800++ บาท และ 6,900++ บาท เปิดทุกวัน เวลา 12.00-14.30 น. และ 17.30-22.00 น. 

 

(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/taste-maison-dunand/)

 

ร้านอาหาร

 

Sushi Saryu

โอมากาเสะพรีเมียมที่ฉายเดี่ยวโดย เชฟเซย์จิ ซุโด ผู้ทำอาหารและตระเตรียมวัตถุดิบเองทุกขั้นตอน เพราะเชฟบอกว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการทำอาหารสำหรับเขาคือความเสมอต้นเสมอปลาย โดยแฟนโอมากาเสะน่าจะคุ้นชื่อเชฟดี เพราะเขาเคยประจำอยู่ที่ Tama Sushi และ Ginza Sushi Ichi ในประเทศสิงคโปร์

 

โอมากาเสะที่นี่เสิร์ฟทั้งหมด 15 คอร์ส เชฟทำทุกอย่างตามสไตล์ดั้งเดิม ทว่านำเสนออย่างสมัยใหม่ มาพร้อมวัตถุดิบชั้นเลิศ สาเกชั้นดี และจานชาม จอกสาเกที่เลือกมาเองกับมือแบบไม่ซ้ำที่ไหน

 

Sushi Saryu อยู่ในอาคารโครนอส สาทร ราคา 15 คอร์ส 8,000++ บาท เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-22.00 น. 

 

(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/sushi-saryu-2/)

 

ร้านอาหาร

 

Vilas

แม้เชฟปริญญ์จะยืนหนึ่งผูกกับอาหารไทยมานาน แต่สำหรับร้าน Vilas เชฟเลือกยืนคนละฝั่งกับสำรับสำหรับไทย เพราะต้องการให้ร้านแห่งนี้ขยายขอบเขตอาหารไทย ทั้งเทคนิคและวัตถุดิบไปสู่ชาติอื่นๆ ดูบ้าง 

 

นำเสนอผ่านเมนูอาหาร 12 คอร์ส ซึ่งคอร์สใหม่ล่าสุดได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารใต้ นำโดยเชฟชาวสเปน เปเป้ หรือ Pepe Dasi Jimenez โดยอาหารที่นี่มีเอกลักษณ์ตรงเป็นการผสมผสานวัตถุดิบ เทคนิค และวัฒนธรรมนานาชาติเข้าด้วยกัน ทุกคนอาจเจอทั้งไทย ญี่ปุ่น เกาหลี หรือตะวันตกในมื้อเดียว

 

Vilas อยู่ในตึกมหานครคิวบ์ ราคา 12 คอร์ส 4,500++ บาท เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.30-23.00 น. 

 

(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/vilas/)

 

ร้านอาหาร

 

Larder

อีกร้านบรันช์ยอดฮิตในย่านพร้อมพงษ์ที่เกิดจากสองเชฟเพื่อนซี้ชาวโปแลนด์ Adrian Klonowski และ Radek Zarębiński โดยพวกเขาเคยทำงานในร้านอาหารมิชลินอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนตัดสินใจออกมาเปิดร้านของตัวเองเพื่อทำในสิ่งที่ชอบ นั่นก็คือเบเกอรีและชาร์คูเทอรีสไตล์โปแลนด์ที่พวกเขาลุยเองทุกขั้นตอน

 

เมนูอาหารเช้าที่ Larder มีตั้งแต่ขนมปัง ชาร์คูเทอรี ไส้กรอก อาหารจานเล็ก และแซนด์วิชโปแลนด์ (Ka Nap Ki) โดยเมนูแนะนำคือ ‘Tuna 3000’ (250 บาท) แซนด์วิชโปแลนด์ใช้ขนมปังซาวโดว์ ท็อปด้วยซอสทาร์ทาร์ ไข่ต้ม และทูน่าชิ้นสวย เป็นเมนูรสชาติดีแบบไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมาก

 

Larder อยู่ในซอยพร้อมใจ ด้านหลังเอ็มควอเทียร์ ราคาเริ่มต้น 250-500 บาท เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น.

 

(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/larder/)

 

ร้านอาหาร

 

Taahra

ร้านอาหารไทยที่ชูเทคนิคการย่างด้วยเตาถ่าน นำทีมโดย เชฟน็อค-พัทธ์อินทร์ พรหมสวัสดิ์ ผู้คุ้นเคยกับอาหารยุโรป เมื่อได้มาทำอาหารไทยจึงไม่ลืมหยิบเทคนิคต่างชาติมาประยุกต์ใช้ ผสมกับการเลือกวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วทุกมุมโลกมารังสรรค์เป็นเมนูอาหารไทยหน้าตาทันสมัยให้ชิมผ่านเมนู 13 คอร์ส

 

ทุกจานจะผ่านการย่างด้วยเตาญี่ปุ่นและเตาสเปน แบ่งวิธีเป็น 3 แบบ คือเตาชั้นล่างจะเน้นทำให้สุก ด้านบนขึ้นมาเป็นการย่างแบบ Slow Cook และชั้นบนสุดจะเป็นการสโมกหรือการรมควัน ทำให้เมื่อไขมันหยดลงมาจะยิ่งเพิ่มรสชาติให้วัตถุดิบ

 

Taahra อยู่บนถนนเจริญกรุง ราคา 13 คอร์ส 3,800++ บาท เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.00-22.00 น.

 

(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/taste-taahra/)

 

ร้านอาหาร

 

Villa Frantzén

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งสไตล์นอร์ดิกจากสวีเดน เจ้าของคือ เชฟบยอร์น ฟรันต์เซน (Björn Frantzén) เจ้าของร้านอาหาร Frantzén ดีกรี 3 ดาวมิชลินในบ้านเกิด เชฟบินมาเปิดร้านอาหารลูกพี่ลูกน้องอย่าง Villa Frantzén เพื่อนำเสนออาหารสไตล์โมเดิร์นนอร์ดิกในบรรยากาศสบายๆ เหมือนบ้านหลังหนึ่ง

 

เสน่ห์ของคอร์สเมนูที่นี่คือทุกคนเลือกอาหารแต่ละจานได้เอง โดยมี 3 ตัวเลือกในแต่ละคอร์ส พร้อมกับเมนู Add On ที่ไม่ควรพลาดอย่าง Villa Frantzén caviar เสิร์ฟคาเวียร์ 30 กรัมให้กินพร้อมวาเฟิลมะพร้าวขนุน ซาวครีม และบราวน์บัตเตอร์สาหร่าย (1,950++ บาท)

 

Villa Frantzén อยู่ในซอยเย็นอากาศ 3 ราคา 2 คอร์ส 4,200++ บาท เปิดวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 17.30-23.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00-23.30 น. 

 

(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/taste-villa-frantzen/)

 

ร้านอาหาร

 

Choen

ร้านอาหารร่วมสมัยที่ใช้ฟืนไฟอันลุกโชนในการประกอบอาหารเท่านั้น ทำให้แทบทุกเมนู ทุกคำที่ได้ชิม มีสัมผัสและความหอมไม่เหมือนใคร นำโดย เชฟมิว-จีราวิชช์ มีแสงนิลวีรกุล ผู้เคยทำงานในครัว Nahm และหนึ่งในอดีตทีมงานเบื้องหลังร้านชามแกง

 

เชฟมิวออกมาเปิดร้านนี้เองด้วยแพสชันไฟลุก เพราะอยากนำเสนออาหารปรุงสุกด้วยฟืนอย่างที่ตัวเองถนัด นำเสนอผ่านอาหาร 8 คอร์สที่ไม่จำกัดว่าเป็นอาหารชาติใด เน้นรสชาติที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นหลัก และใช้วัตถุดิบชั้นดีที่หลากหลาย มีเมนูน่าสนใจ เช่น แขนงหมูกรอบ สแกลลอปฮอกไกโดซอสยำกะทิ หรือแกงคั่วกุ้งแม่น้ำย่างกับจาวมะพร้าวเผา

 

Choen (โฌณ) อยู่ในซอยพันธจิตร ย่านหัวลำโพง ราคา 8 คอร์ส 2,600++ บาท เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-23.00 น. 

 

(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/choen-restaurant/)

 

ร้านอาหาร

 

Laun

ร้านนี้เริ่มต้นจากคุณทอมมี่และคุณยุ เจ้าของร้านอาหารคิวยาว บ้านนวล อยากทำร้านที่มีบรรยากาศสบายๆ กว่าร้านแรก และอยากให้ร้านนี้เป็นเหมือนร้านอาหารที่คนท้องถิ่นจะนึกถึง หรือแนะนำให้นักท่องเที่ยวแวะมากิน อาหารที่เสิร์ฟในร้าน Laun จึงเป็นเหมือนเมนู ‘มินินวล’ คือหลายจานมีกลิ่นอายของบ้านนวลผสมอยู่ แต่จะเป็นอาหารกินจบในจานเดียว โดยทุกเมนูปรุงโดยฝีมือคุณยุเช่นเดิม  

 

เมนูส่วนใหญ่เป็นคอมฟอร์ตฟู้ด กินง่ายๆ ไม่ซับซ้อน และสามารถกินได้บ่อยๆ มีเมนูแนะนำคือ ข้าวหมูตุ๋นและไข่ดาว (280 บาท)

 

Laun อยู่ในซอยสามเสน 4 ราคาเริ่มต้น 250 บาท เปิดทุกวัน (ปิดวันอังคาร) เวลา 08.30-16.00 น. 

 

(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/laun/)

 

ร้านอาหาร

 

Sushi Yamazato

หลังจากปรับลุคห้องอาหารใหม่ Yamazato ในโรงแรมดิ โอกุระฯ จึงมีอาหารญี่ปุ่น 3 สไตล์รวมกันไว้ในที่เดียว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Sushi Yamazato เคาน์เตอร์บาร์โอมากาเสะจำนวน 8 ที่นั่ง ที่เสิร์ฟประสบการณ์เหมือนญี่ปุ่นต้นตำรับให้ทุกคนได้สัมผัส ผ่านอาหารที่ใช้เทคนิคชั้นสูง ผสานกับวัตถุดิบชั้นเลิศคัดสรรตามฤดูกาลส่งตรงจากญี่ปุ่น

 

นอกจากความสดใหม่ในทุกคำ อีกเมนูที่อยากให้ตั้งตารอคือขนมหวาน เป็นชีสเค้กญี่ปุ่นสัมผัสนุ่มเบา มาพร้อมพุดดิ้งเก็นไมฉะกับครัมเบิลแปะก๊วย และยูซุเชอร์เบตกับแผ่นเยลลี่สตรอว์เบอร์รี

 

Sushi Yamazato อยู่ในโรงแรมดิ โอกุระ กรุงเทพฯ ราคา 4,900++ บาท และ 6,500++ บาท เปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 12.30 น. และ 18.30 น. 

 

(อ่านรีวิวได้ที่: https://thestandard.co/yamazato/)

The post 11 ร้านอาหารใหม่แห่งปี 2022 ที่พวกเราอยากแนะนำให้ทุกคนตามไปลิ้มลอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
TASTE: TAAHRA ไฟน์ไดนิ่งที่ชูรสชาติอาหารไทยด้วยเตาถ่าน (Thai Charcoal Grill) https://thestandard.co/taste-taahra/ Thu, 11 Aug 2022 13:02:37 +0000 https://thestandard.co/?p=666240 TAAHRA

เวลานี้ถือเป็นโอกาสดีของคนที่ชื่นชอบอาหารไทย และอยากลิ้ […]

The post TASTE: TAAHRA ไฟน์ไดนิ่งที่ชูรสชาติอาหารไทยด้วยเตาถ่าน (Thai Charcoal Grill) appeared first on THE STANDARD.

]]>
TAAHRA

เวลานี้ถือเป็นโอกาสดีของคนที่ชื่นชอบอาหารไทย และอยากลิ้มลองเมนูไทยๆ ในมิติที่หลากหลายและกว้างไกลยิ่งขึ้น ล่าสุดมีร้านอาหารไทยสไตล์ไฟน์ไดนิ่งเปิดใหม่อีกแห่ง โดยมีความพิเศษอยู่ตรงที่ร้านนี้จะใช้เทคนิค ‘การย่างด้วยถ่าน’ หรือ Charcoal Grill มาเป็นพระเอกในการปรุงอาหารแทบทุกจาน  

 

TAAHRA

TAAHRA

 

TAAHRA นำทีมโดยเชฟน็อค-พัทธ์อินทร์ พรหมสวัสดิ์ ที่ทำงานอยู่ในวงการนี้มากว่า 10 ปี และเคยร่วมงานกับเชฟร้านอาหารมิชลินจากทั่วโลก โดยส่วนตัวเชฟน็อคมีความคุ้นเคยกับอาหารยุโรปเป็นอย่างดี เมื่อได้มาทำอาหารไทยจึงไม่ลืมที่จะหยิบเอาเทคนิคการทำอาหารของครัวยุโรปมาประยุกต์ใช้กับเมนูอาหารไทย ที่ใช้วัตถุดิบชั้นดีจากทั่วทุกมุมโลก คัดสรรจากแหล่งที่ดีที่สุดเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรมธรรมชาติจากทะเลลึก, เป็ดชาลลอง (Challans), นกพิราบจากเมือง Bresse ประเทศฝรั่งเศส หรือเนื้อออสเตรเลียวากิว ควบคู่กับวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ไมโครกรีนออร์แกนิกจากเชียงใหม่ ผักจากฟาร์มออร์แกนิกในจังหวัดนครปฐม ส่วนปลานั้นได้จากทะเลไทยอย่างภูเก็ต เพื่อทลายกรอบความคิดที่ว่าเมนูอาหารไทยต้องใช้วัตถุดิบไทยเท่านั้น 

 

TAAHRA

เชฟน็อค-พัทธ์อินทร์ พรหมสวัสดิ์

 

TAAHRA

ปลาเก๋ากุดสลาดจากภูเก็ต 

 

เพราะเราสามารถนำวัตถุดิบจากทั่วโลกมาสร้างสรรค์อาหารให้มีรสชาติแบบไทยๆ ในแบบที่เราคุ้นเคย โดยมีหน้าตาที่ออกไปทางโมเดิร์นตะวันตก ส่วนเหตุผลที่เชฟอยากใช้เตาถ่านมาทำอาหาร เนื่องจากอยากชูทักษะการทำอาหารของทีมเชฟ และมอบประสบการณ์ให้เราได้รับกลิ่นสโมกหอมๆ ของเตาถ่าน เพราะอาหารไทยและเตาถ่านนั้นเป็นของคู่กันมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณ เชฟจึงอยากดึงประสบการณ์เหล่านั้นกลับมาให้คนยุคปัจจุบัน  

 

TAAHRA

TAAHRA

TAAHRA

เตาญี่ปุ่นและสเปน 

 

โดยเมนูในซีซันแรกของ TAAHRA ได้แก่ อาหารไทยในความทรงจำ ที่เชฟน็อคและทีมได้หยิบเอาเมนูวัยเด็กจากภาคต่างๆ ไม่ว่าจะกลาง อีสาน เหนือ หรือใต้ มานำเสนอ 13 คอร์ส แต่ละจานจะผ่านการย่างด้วยเตาญี่ปุ่นและเตาสเปน ที่ด้านล่างจะเป็นการทำให้สุก ด้านบนเป็นการย่างแบบสโลว์คุก ส่วนชั้นบนสุดจะเป็นการสโมกหรือการรมควัน ที่เมื่อไขมันหยดลงมาด้านล่าง จะยิ่งเพิ่มรสชาติให้ดียิ่งขึ้น โดยเมนูทั้ง 13 คอร์สมีดังนี้ 

 

  1. ตับหวาน ทางร้านใช้ตับไก่มาทำให้มีลักษณะเป็นมูส แทบไม่ต้องเคี้ยว ได้กลิ่นอายความอีสานชัดเจน 

 

TAAHRA

 

  1. ก้อยเนื้อ ในขณะที่คอร์สนี้ใช้เนื้อสันนอกที่นำไปดรายเอจจนได้ที่ ก่อนปรุงรสให้ออกมาสไตล์อีสาน-ญี่ปุ่น รสจึงไม่จัดจ้านมากนัก  

 

TAAHRA

 

  1. แจ่วมะเขือ คอร์สนี้หลายคนอาจไม่เคยลิ้มลองแจ่วมะเขือมาก่อน แต่เชฟนำมาปรับให้กินได้ง่ายขึ้น โดยที่แจ่วจะซ่อนอยู่ภายในข้าวเกรียบ

 

TAAHRA

 

  1. หอยนางรมซีฟู้ดกะทิ ทางร้านใช้หอยนางรมจากฝรั่งเศส ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ใส่กะทิ ทำให้มีรสที่ละมุนยิ่งขึ้น แต่ยังคงความเปรี้ยว เผ็ด เค็ม ที่เข้ากันได้ดีกับหอยนางรมสดใหม่  

 

TAAHRA

 

  1. ปลาหมึกผัดฉ่า จานนี้คล้าย Warm Salad ที่เชฟนำหมึกไปสโลว์คุก จนหมึกมีความนุ่ม เคี้ยวง่าย ไม่เด้งเหนียวเหมือนหมึกทั่วไป รสชาติครบเครื่องผัดฉ่า 

 

TAAHRA

 

  1. แกงเลียงเห็ด คอร์สนี้รวมสารพัดเห็ด ไม่ว่าจะพอร์โทเบลโล หรือทรัฟเฟิล ที่ต่อให้ไม่นิยมกินแกงเลียงก็ยังซดได้จนหมดชาม เพราะรสอ่อน ไม่เผ็ดร้อนเหมือนแกงเลียงทั่วไป 

 

TAAHRA

 

  1. แกงหัวปลีนกพิราบ แกงโบราณหากินยาก ใช้นกพิราบฝรั่งเศสมาบ่มนาน 7 วัน ก่อนนำไปย่างให้ได้กลิ่นสโมกหอมๆ โชยมาตั้งแต่ยังไม่ยกมาเสิร์ฟ มาพร้อมแกงหัวปลีขลุกขลิก เข้ากับเนื้อนกพิราบ  

 

TAAHRA

 

  1. ไก่ย่างส้มตำ จานเซอร์ไพรส์ที่ใช้ขานกพิราบที่ได้จากคอร์สก่อนหน้าแทนที่ไก่ย่าง และส้มตำในแบบฉบับของร้านนี้ 

 

TAAHRA

 

  1. ข้าวยำปลาย่าง คอร์สนี้ใช้ปลาเก๋ากุดสลาดบ่มนาน 7 วัน เสิร์ฟพร้อมข้าวยำสมุนไพร ปรุงรสด้วยปลาร้าหอมๆ 

 

TAAHRA

TAAHRA

 

  1. แกงเผ็ดเป็ดย่าง มาถึงจานเป็ดกันบ้าง คอร์สนี้เชฟใช้เป็ดเนื้อแน่นจากฝรั่งเศส ราดด้วยสับปะรดและลิ้นจี้ที่นำไปพิวเร ปรุงรสด้วยเครื่องแกง แทนที่จะมาเป็นชาม 

 

TAAHRA

 

  1. เกาเหลาเนื้อเอ็นตุ๋น หรือ เกาเหลาหมูเอ็นตุ๋น จานไฮไลต์ที่ถือเป็นเมนูคุ้นเคยของคนไทย แต่เชฟถอดรหัสก่อนนำเสนอใหม่ในรูปแบบของสเต๊กเนื้อสันใน ที่มาพร้อมซอสขลุกขลิกผสมเครื่องเทศและสมุนไพรเหมือนซุปก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ก่อนเหยาะพริกน้ำส้มเล็กน้อยเพื่อตัดเลี่ยน 

 

TAAHRA

 

  1. ซอร์เบโหระพาสับปะรดย่าง เบรกด้วยรสเปรี้ยวๆ หวานๆ สดชื่นจากซอร์เบต 

 

TAAHRA

 

  1. ปังปิ้งนมเย็น ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานที่ปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยม ทางร้านใช้ขนมปังโชคุปังเนื้อนุ่มเหนียว ย่างไฟให้กรอบด้านนอก มาพร้อมไอศกรีมรสนมเย็นที่เป็นเครื่องดื่มโปรดของเชฟ     

 

TAAHRA

 

โดยรวม TAAHRA ถือเป็นไฟน์ไดนิ่งที่นำเสนออาหารไทยในความทรงจำ ที่เข้าถึงได้และง่ายต่อการระลึกถึง มีรสชาติที่บ่งบอกถึงอาหารไทย คือมีรสเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ด มาครบ แม้หน้าตาจะออกไปทางฝรั่ง แต่เมื่อได้ลองแล้วก็หวนนึกถึงรสชาติที่เราคุ้นเคย สนนราคาอยู่ที่ 3,800 บาท++ พร้อมไวน์ 2,500 บาท ที่มีให้เลือกหลากหลายกว่า 40 ชนิด ตอนนี้เปิดรับวันละ 1 รอบ จำกัดรอบละ 10 ที่นั่ง เริ่มตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. 

 

TAAHRA

Location: 1191/2 ถนนเจริญกรุง แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ 

Open: ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.00-22.00 น. 

Contact: 08 6333 7979

Budget: 3,800 บาท++ พร้อมไวน์ 2,500 บาท 

Website: www.taahra.com 

Map: https://goo.gl/maps/eHEH9uxGzcbyZ2U16

 

 

The post TASTE: TAAHRA ไฟน์ไดนิ่งที่ชูรสชาติอาหารไทยด้วยเตาถ่าน (Thai Charcoal Grill) appeared first on THE STANDARD.

]]>
เตรียมพบกับ TAAHRA ร้านไฟน์ไดนิ่งเปิดใหม่ เน้นใช้เทคนิคการย่างเสิร์ฟอาหารไทยยกระดับ https://thestandard.co/taahra/ Mon, 25 Jul 2022 13:43:50 +0000 https://thestandard.co/?p=658781 TAAHRA

เราเชื่อว่าต้องไม่มีนักชิมคนไหนอยากพลาด โดยเฉพาะผู้ชื่น […]

The post เตรียมพบกับ TAAHRA ร้านไฟน์ไดนิ่งเปิดใหม่ เน้นใช้เทคนิคการย่างเสิร์ฟอาหารไทยยกระดับ appeared first on THE STANDARD.

]]>
TAAHRA

เราเชื่อว่าต้องไม่มีนักชิมคนไหนอยากพลาด โดยเฉพาะผู้ชื่นชอบอาหารไทยยกระดับที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้น เพราะตอนนี้มีร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งเปิดใหม่รอให้ทุกคนตามไปลิ้มลองกันอยู่ ชื่อร้านว่า ‘TAAHRA (ธารา)’ ร้านอาหารไทยที่ใช้เทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ ผสมผสานการใช้วิธี ‘ย่างถ่าน’ ที่ทำให้แต่ละคำเต็มไปด้วยกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์

 

ร้านเปิดอยู่ในย่านเจริญกรุง นำทีมครัวโดย เชฟน็อค-พัทธ์อินทร์ พรหมสวัสดิ์ เปิดตัวด้วยคอร์สเมนูอาหารไทย 13 คอร์ส ที่ใช้วัตถุดิบชั้นดีจากทั้งในและนอกประเทศ ก่อนเสิร์ฟให้นั่งชิมบนเคาน์เตอร์บาร์ที่สามารถมองเห็นทุกขั้นตอนการย่างได้ตลอดมื้อ หรือใครจะเลือกนั่งที่โต๊ะอาหารก็ได้เช่นกัน

 

ความน่าสนใจของร้านนี้ก็แน่นอนว่าต้องอยู่ที่เทคนิคการทำอาหารไทยที่ไม่ค่อยเหมือนใคร ชูเทคนิคการย่างที่มีการใช้เปลือกมะพร้าวและถ่านบินโจตันคู่กัน ส่วนหน้าตาอาหารก็ทันสมัยน่าดึงดูด ในช่วงแรกเชฟเลือกที่จะเปิดตัวด้วยคอนเซปต์เมนูโปรดในวัยเด็ก ที่นำเสนอใหม่ในหน้าตาที่ดูเป็นฝรั่ง แต่รสชาติยังคงเอกลักษณ์ของเมนูจานนั้น เช่น ตับหวาน ก้อยเนื้อ แกงเผ็ดเป็ดย่าง เกาเหลาเนื้อเอ็นตุ๋น เนื้อพิราบฝรั่งเศส หรือขานกพิราบที่เชฟนำมาใช้ เพื่อไม่ให้มีส่วนใดเหลือทิ้ง

 

ร้านเปิดให้จองที่นั่งได้แล้ว ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.00-22.00 น. (ปิดวันจันทร์) สอบถามโทร 08 6333 7979

 

ภาพ: TAAHRA

The post เตรียมพบกับ TAAHRA ร้านไฟน์ไดนิ่งเปิดใหม่ เน้นใช้เทคนิคการย่างเสิร์ฟอาหารไทยยกระดับ appeared first on THE STANDARD.

]]>