Superman – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 13 Jun 2024 10:05:28 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Matt Bomer เผยว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเสียบท Superman ไปเพราะเขาเป็นเกย์ https://thestandard.co/matt-bomer-lose-role-superman/ Thu, 13 Jun 2024 10:05:28 +0000 https://thestandard.co/?p=944883

Matt Bomer เป็นนักแสดงคนหนึ่งที่เคยเกือบได้แสดงบทซูเปอร […]

The post Matt Bomer เผยว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเสียบท Superman ไปเพราะเขาเป็นเกย์ appeared first on THE STANDARD.

]]>

Matt Bomer เป็นนักแสดงคนหนึ่งที่เคยเกือบได้แสดงบทซูเปอร์แมนให้กับสตูดิโอ Warner Bros. Pictures แต่เขาก็ต้องเสียโอกาสนั้นไปในช่วงปี 2000 เหตุเพราะเขาเป็นเกย์

 

Matt Bomerเล่าเรื่องราวผ่านรายการพอดแคสต์ Awards Chatter โดยเผยว่าเขาเคยเป็นตัวเลือกตัวเต็งสำหรับการมารับบทเป็น Clark Kent หรือซูเปอร์แมนในภาพยนตร์ที่ใช้ชื่อว่า Superman: Flyby แต่สุดท้ายโปรเจกต์นี้ก็ถูกพับเก็บไปอย่างถาวร 

 

เขาเผยว่า “มันเป็นการเล่าเรื่องซ้ำของซูเปอร์แมน เขียนบทโดย J.J. Abrams ในชื่อเรื่อง Superman: Flyby ผมคิดว่าน่าจะใช่ชื่อนี้นะ แต่มันก็ไม่เคยถูกสร้างเลย ตอนนั้นดูเหมือนว่าผมจะเป็นตัวเลือกของผู้กำกับสำหรับบทนี้ แล้วผมก็ได้เซ็นสัญญาภาพยนตร์ 3 เรื่องกับ Warner Bros. ด้วย”

 

ถึงแม้ว่าขณะนั้นเขาจะยังไม่ได้ Come Out ว่าเขาเป็นเกย์ แต่ดูเหมือนว่าเพศวิถีของเขาก็ยังคงส่งผลกระทบกับงาน จนทำให้เขาไม่เคยได้แสดงเป็นซูเปอร์แมน โดยเมื่อพิธีกรตั้งคำถามถึงประเด็นดังกล่าว เขาตอบว่า

 

“ใช่ นั่นคือสิ่งที่ผมรับรู้นะ เพราะตอนนั้นมันเป็นช่วงเวลาที่เพศวิถีหรืออะไรแบบนั้นในอุตสาหกรรมนี้ยังคงเป็นสิ่งที่อาจหันมาทำร้ายคุณได้ ถ้าถามว่าอย่างไร เหตุใด และใคร ผมไม่รู้หรอก แต่นั่นคือสิ่งที่ผมเข้าใจ”

 

Matt Bomerเปิดตัวว่าเป็นเกย์ในปี 2012 ขณะที่เขาขึ้นรับรางวัลที่ Steve Chase Humanitarian Awards และกล่าวขอบคุณสามี Simon Halls และลูกทั้ง 3 คนบนเวที โดยภาพยนตร์ Supermanของเขาไม่เคยถูกสร้าง แต่ถูกแทนที่ด้วย Superman Returns ในปี 2006 ที่นำแสดงโดย Brandon Routh ซึ่งก่อนหน้านี้นักเขียนนาม Jackie Collins ก็เคยเล่าถึงประเด็นของ Matt Bomerผ่านการสัมภาษณ์ในปี 2012 ด้วยว่า

 

“มีคนไม่ชอบเขา และไปบอกโปรดิวเซอร์ว่าเขาเป็นเกย์ ทีนี้พวกเขาก็เลยบอกว่า “ไม่ได้แล้วแบบนี้ เราไม่เชื่อใจคุณ” เหตุผลที่เขาไม่ได้รับเลือกแสดงบทนั้นก็เพราะเขาเป็นเกย์”

 

ภาพ: Amy Sussman / Getty Images

อ้างอิง: 

The post Matt Bomer เผยว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเสียบท Superman ไปเพราะเขาเป็นเกย์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘พร็อพ’ จากหนังและซีรีส์ อดีตที่เคยถูกมองข้าม กับมูลค่ามหาศาลในปัจจุบัน https://thestandard.co/valuable-props-from-movies-and-series/ Sun, 11 Jun 2023 05:57:56 +0000 https://thestandard.co/?p=801758

เพราะวัฒนธรรมป๊อปที่สื่อสารผ่านทางเพลง โทรทัศน์ หรือภาพ […]

The post ‘พร็อพ’ จากหนังและซีรีส์ อดีตที่เคยถูกมองข้าม กับมูลค่ามหาศาลในปัจจุบัน appeared first on THE STANDARD.

]]>

เพราะวัฒนธรรมป๊อปที่สื่อสารผ่านทางเพลง โทรทัศน์ หรือภาพยนตร์ เป็นวัฒนธรรมมวลชนที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้ส่วนประกอบของเรื่องราวหรือเนื้อหาเหล่านั้นเชื่อมโยงกับความทรงจำและความรู้สึกของผู้ชมได้ดี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอุปกรณ์ประกอบฉากจากหนัง ซีรีส์ และเครื่องดนตรีจากคอนเสิร์ต กลายเป็นของสะสมที่ทำราคาได้สูงมาก จนกลายเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่มีมูลค่าเทียบเท่าหรือสูงกว่างานศิลปะคลาสสิกเลยทีเดียว 

 

ปัจจุบันตลาดของสะสมทุกรูปแบบทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่า173.6 ล้านล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเป็น 174.2 ล้านล้านบาทภายในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะที่ตลาดของที่ระลึกจากวงการบันเทิง (อุปกรณ์ประกอบฉาก เครื่องแต่งกาย และเครื่องดนตรี) คาดว่ามีมูลค่าระหว่าง 1.39-2.78 หมื่นล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกมองว่าเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มที่ขับเคลื่อนโดยนักสะสมฮาร์ดคอร์ที่หลงใหลในหนัง เพลง ซีรีส์ ที่มีการพูดคุยกันเฉพาะในกลุ่มนักสะสมและสื่อที่เกี่ยวข้องกับแฟนคลับเท่านั้น แต่ต่อมาได้ขยายตัวออกไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมีการเผยแพร่คอนเทนต์ผ่านโลกออนไลน์ ทำให้ผู้ซื้อจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ 

 

ทรัพย์สินที่ใช้ในภาพยนตร์ รายการทีวี วงดนตรีตอนออกทัวร์หรือมิวสิกวิดีโอ ถือเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตในช่วงยุค 60 ถึงต้นยุค 2000 ของใช้เหล่านี้ส่วนใหญ่มักถูกขายให้กับนักแสดงและทีมงาน ซึ่งเน้นนำไปใช้สอยจริงๆ มากกว่ามูลค่าการสะสมในอนาคต อย่างเช่นขวานของ Jack Nicholson จากภาพยนตร์เรื่อง The Shining ของ Stanley Kubrick ที่เคยถูกขายไปให้ทีมงานในราคา 200 บาท โดยคนที่ซื้อไปก็เอาไปตัดต้นไม้จริงๆ ต่อมาในปี 2019 ขวานเล่มนี้มีราคาสูงถึง 7.38 ล้านบาท หรืออย่างทีมงานของหนังเรื่อง James Bond 007 ซื้อชุดสูทของ Roger Moore ในราคาตัวละ 40 กว่าบาท เพราะคิดว่ามันทันสมัยมากสำหรับยุคนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปชุดเหล่านั้นมีราคาหลักแสนถึงหลักล้านบาทเลยทีเดียว ส่วนในปัจจุบันผู้ผลิตเริ่มรู้ถึงมูลค่าของสิ่งเหล่าจึงมีการจัดการเป็นระบบมากขึ้น 

 

อุปกรณ์ประกอบฉากหรือพร็อพต่างๆ นอกจากจะมีการซื้อขายในหมู่นักสะสมแล้วก็ยังมีนักลงทุน พิพิธภัณฑ์ สถาบันการเงิน เข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ โดยสิ่งของที่ได้รับความนิยมและทำราคาได้ดีมักจะมาจากคอนเทนต์แนววิทยาศาสตร์ แอ็กชัน และซูเปอร์ฮีโร่ เนื่องจากของเหล่านี้ได้รับการออกแบบและสั่งทำขึ้นโดยเฉพาะ อีกทั้งสามารถระบุได้อย่างชัดเจนผ่านฉากต่างๆ ที่คนได้ชม ส่วนใหญ่จะมาจากหนังหรือซีรีส์แฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลกอย่างเช่น Batman, Aliens, Star Wars, James Bond, Star Trek  

 

สำหรับหลักในการสะสมคือควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีใบรับรองว่าเป็นของแท้ มีรายละเอียดที่มาและประวัติที่เฉพาะเจาะจง และอย่าคิดว่าจะซื้อเพื่อการลงทุนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีความสุขที่ได้เป็นเจ้าของสิ่งเหล่านี้ด้วย ทางที่ดีควรซื้อชิ้นดีๆ ชิ้นหายากที่สุดเพียงชิ้นเดียวดีกว่าซื้อแบบกระจัดกระจาย และต้องไม่ลืมหลักในการสะสมของทุกชนิดนั้น คือการศึกษาหาข้อมูล ส่วนข้อควรระวังคือของบางชิ้นถ้าราคาถูกเกินไปก็เชื่อได้ยากว่ามันจะเป็นของจริง 

 

ด้วยความที่ภาพยนตร์และโทรทัศน์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้การเติบโตของมูลค่าสำหรับนักลงทุนก็ยังคงมีอยู่มาก ยิ่งผนวกกับความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีจำนวนจำกัด ทำให้ศักยภาพของราคาเติบโตแบบทวีคูณ และนี่คือตัวอย่างการเพิ่มขึ้นของราคาของที่ระลึกจากภาพยนตร์ที่มีความโดดเด่น

 

หน้ากากของ Darth Vader จาก Star Wars: The Empire Strikes Back 

 

 

อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR): 68.3%

  • 2003 – 3.99 ล้านบาท 
  • 2017 – 26 ล้านบาท 
  • 2020 – 124.2 ล้านบาท

 

ชุดเอลฟ์ของ Will Ferrell จากเรื่อง Elf 

 

 

 

  • อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR): 70.9%
    2003 – 261,000 บาท
    2017 – 1.21 ล้านบาท
    2021 – 10.5 ล้านบาท 

 

ชุดของ Christopher Reeve จาก Superman 

 

 

  • อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR): 25.02%
    2005 – 652,000 บาท
    2018 – 6.95 ล้านบาท
    2022 – 13.58 ล้านบาท 

 

อ้างอิง:  

The post ‘พร็อพ’ จากหนังและซีรีส์ อดีตที่เคยถูกมองข้าม กับมูลค่ามหาศาลในปัจจุบัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
จากคอมิกสู่ความจริงของเหล่า Superman ในแบบฉบับต่างๆ https://thestandard.co/comic-become-live-action-superman/ Fri, 26 May 2023 10:46:18 +0000 https://thestandard.co/?p=795706 Superman

บุรุษเหล็ก Superman ถือเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ที่หลายคน […]

The post จากคอมิกสู่ความจริงของเหล่า Superman ในแบบฉบับต่างๆ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Superman

บุรุษเหล็ก Superman ถือเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ที่หลายคนชื่นชอบที่สุดตลอดกาล ด้วยภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง แต่กลับอ่อนโยนและปกป้องมนุษย์อย่างสุดความสามารถ ทำให้เรื่องราวของ Superman ยังคงเป็นที่กล่าวขวัญจากผู้คนทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน และบางครั้งเรื่องราวของบุรุษเหล็กกางเกงในสีแดงยังได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครอีกหลายคนในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าด้วย

 

เนื่องในโอกาสที่ Superman (1978) ได้กลับมาฉายให้ผู้ชมชาวไทยได้รับชมกัน THE STANDARD POP จึงอยากพาทุกท่านร่วมกันย้อนเวลากลับไปดูเหล่าบุรุษเหล็กที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านสื่อภาพยนตร์และทีวีซีรีส์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอีกครั้ง

 


 

 

1. Kirk Alyn

Superman (1948) & Atom Man vs. Superman (1950)

 


 

 

2. George Reeves

Superman and the Mole Men (1951) & Adventures of Superman (TV Series) (1952-1958)

 


 

 

3. Christopher Reeve

Superman (1978) – Superman IV (1987)

 


 

 

4. John Haymes Newton

Superboy (TV Series) (1988)

 


 

 

5. Gerard Christopher

Superboy (TV Series) (1988)

 


 

 

6. Dean Cain

Lois & Clark: The New Adventures of Superman (1993-1997)

 


 

 

7. Tom Welling

Smallville (2001-2011)

 


 

 

8. Brandon Routh

Superman Returns (2006)

 


 

 

9. Henry Cavill

Man of Steel (2013), Batman v Superman: Dawn Of Justice (2016) & Justice League (2017)

 


 

 

10. Tyler Hoechlin 

Superman & Lois (2021 – ปัจจุบัน)

 

อ้างอิง:

The post จากคอมิกสู่ความจริงของเหล่า Superman ในแบบฉบับต่างๆ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เมื่อซูเปอร์แมนเป็นไบใจเกเร คุณรับได้ไหม หรือแอบเป็น Homophobia แล้วดันไม่รู้ตัว https://thestandard.co/superman-homophobia/ Tue, 19 Oct 2021 01:47:02 +0000 https://thestandard.co/?p=549638 ซูเปอร์แมน

กลายเป็นเรื่องถกเถียงเสียงแตกออกเป็นสองฝั่งทันที เมื่อ […]

The post เมื่อซูเปอร์แมนเป็นไบใจเกเร คุณรับได้ไหม หรือแอบเป็น Homophobia แล้วดันไม่รู้ตัว appeared first on THE STANDARD.

]]>
ซูเปอร์แมน

กลายเป็นเรื่องถกเถียงเสียงแตกออกเป็นสองฝั่งทันที เมื่อ DC Comics ออกมาคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการว่า ‘ซูเปอร์แมนเปิดตัวเป็นไบเซ็กชวล’ ซึ่งอันที่จริงแล้วซูเปอร์แมนคนที่ว่านี้คือ ‘น้อนจอน’ หรือ ‘โจนาธาน เคนต์’ ลูกชายของ ‘คาร์ล-เอล’ หรือ ‘คลาร์ก เคนต์’ ซูเปอร์แมนที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันต่างหาก แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือปฏิกิริยาที่หลากหลายของบรรดาแฟนๆ ซูเปอร์ฮีโร่คอมิกเกี่ยวกับเรื่องนี้ 

 

เมื่อน้อนจอนรับเสื้อคลุมสืบต่อสัญลักษณ์ ‘S’ จากป๋าคลาร์กแล้ว Come Out ออกจากตู้เสื้อผ้า

 

น้อนจอนสืบต่อสัญลักษณ์ ‘S’ แห่งความหวังบนหน้าอกต่อจากพ่อ แล้วทำหน้าที่ปกป้องผู้คน

 

ผู้คนทั่วโลกต่างก็คุ้นเคยกันดีกับคาแรกเตอร์ของผู้อพยพแห่งดวงดาวคริปโตเนียนที่ล่มสลายอย่าง ‘คาร์ล-เอล’ หรือ ‘คลาร์ก เคนต์’ ซึ่งกลายมาเป็นซูเปอร์แมน ฮีโร่ขวัญใจคนทั่วโลกมานานกว่า 8 ทศวรรษแล้ว ถ้าจะให้พูดถึงซูเปอร์แมนแล้วต้องถือว่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่เบอร์ 1 ระดับแถวหน้า เกรด AA และคงจะไม่ผิดนักถ้าจะบอกว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นชาย (Masculinity Icon) ทว่าในพหุจักรวาลอันยิ่งใหญ่ของ DC ที่รีบู๊ตกันมาหลายต่อหลายครั้ง ก็มีการสร้างตัวละครใหม่ๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างกันอยู่ตลอดเวลา รวมถึง ซูเปอร์แมนบุตรแห่งคาร์ล-เอล (Superman: Son of Kal-El) คอมิกซึ่งเปิดตัวในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาของ DC ซึ่งได้นำเสนอเรื่องราวของ โจนาธาน เคนต์ หนุ่มน้อยลูกครึ่งคริปโตเนียนและชาวโลกในวัย 17 ปี ผู้รับสืบทอดเสื้อคลุมและสัญลักษณ์ซูเปอร์เอส ทำหน้าที่ปกป้องโลกต่อจากป๋าคลาร์ก ซึ่งอันที่จริงก่อนหน้านี้น้อนจอนก็เคยปรากฏบทบาทอยู่ในทั้งคอมิกและซีรีส์ลำดับก่อนๆ ของ DC มาไม่น้อย

 

คอมิกซีรีส์ Superman: Son of Kal-El

 

เรื่องราวในฉบับแรกๆ ของคอมิกชุด Superman: Son of Kal-El ซูเปอร์แมนจอนได้ต่อสู้กับไฟป่า ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปราบเหตุการณ์ยิงกันในโรงเรียนไฮสคูล และประท้วงต่อต้านการเนรเทศผู้ลี้ภัย จนเมื่อไม่กี่วันก่อน ข่าวล่าสุดที่คอนเฟิร์มมาแล้วจากทาง DC คือน้อนจอนยังจะเปิดตัวว่าเป็นไบและมีความสัมพันธ์รักโรแมนติกกับเพื่อนของเขา นั่นคือนักข่าวหนุ่มสวมแว่นตาผมสีช็อกกิ้งพิงก์ ผู้อพยพชาว Gamorran นาม ‘เจย์ นากามูระ’ ในคอมิก Superman: Son of Kal-El ฉบับที่ 5 ซึ่งจะปล่อยออกมาให้อ่านกันในวันที่ 9 พฤศจิกายนที่กำลังจะถึงนี้ และทาง DC ได้ถือจังหวะของ National Coming Out Day หรือ ‘วันแห่งการเปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศ’ ในการประกาศข่าวสำคัญดังกล่าว เพื่อรณรงค์ให้สังคมได้ตระหนักรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของเหล่าผู้คนซึ่งมีความแตกต่างหลากหลายทางเพศ

 

ซูเปอร์แมน ‘จอน เคนต์’ กำลังจะคบหากับนักข่าวหนุ่ม ‘เจย์ นากามูระ’

 

‘เจย์ นากามูระ’ เป็นนักข่าวหนุ่มที่ทำสำนักข่าวออนไลน์ The Truth และมี ‘โลอิส เลน’ แม่ของน้อนจอนเป็นไอดอล

 

ซูเปอร์แมนเป็นไบเป็นเรื่องยัดเยียดและการเมืองมากเกินไป?

ทันทีที่ข่าวอย่างเป็นทางการดังกล่าวออกมา ก็มีทั้งเสียงชื่นชมเห็นด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงสะท้อนจากแฟนๆ คอมิกที่เห็นต่าง ทำนองว่าเป็นการยัดเยียดหรือเป็นเรื่องการเมืองเกินไปบ้างล่ะ เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน DC เองก็เพิ่งเปิดตัวให้โรบินเป็นไบเซ็กชวลไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และยังไม่นับตัวละคร LGBTQ+ อื่นๆ ก่อนหน้านี้อีก ซึ่งต่อไปนี้คือบางคอมเมนต์จากแฟนๆ ที่เราขอนำมาลงมาดูให้เห็นกันจะๆ

 

“ผมไม่ใช่คนอคติเรื่องเพศนะครับ แต่ในฐานะแฟน DC และคนอ่านคอมิก รู้สึกว่าหลังๆ มานี้จะยัดเยียดกันบ่อยจนเกินไปแล้ว”

 

ปัญหาอย่างหนึ่งที่ทำให้คอมิกโดนมังงะรุกพื้นที่เพราะดันชอบนำเสนอเกี่ยวกับปัญหาการเมือง ความเท่าเทียมกันทางสีผิว ความหลากหลายทางเพศ มีแต่เรื่องน่าเบื่อที่ยัดเยียดใส่คนอ่าน ขณะที่มังงะนำเสนอเนื้อหาสนุกเพลินๆ ไม่มีประเด็นพวกนี้มารบกวนหรือเชิดชูจนออกนอกหน้า

 

คอมิก DC นี่มันตกต่ำสุดๆ คนอ่านพากันด่ายับ ส่วนใหญ่ด่าเสร็จเเล้วก็ไม่ซื้ออ่าน ไม่เเปลกใจเลยจริงๆ ที่คนอ่านหลายคนเขาหันไปอ่านมังงะเเทน

 

นี่เป็นเพียงความคิดเห็นบางส่วนในทำนองที่ไม่เห็นด้วยเมื่อ DC ประกาศเรื่อง จอน เคนต์ เป็นไบเซ็กชวลออกมา ซึ่งก็พอจะทำความเข้าใจได้กับประวัติของ DC ที่เปิดตัวละครที่เป็น LGBTQ+ ออกมาโดยตลอด และยิ่งถี่ขึ้นในช่วงหลังๆ นอกจากนี้ด้วยตัวของซูเปอร์แมนซึ่งถือเป็นฮีโร่หลัก ซึ่งในแง่หนึ่งบุรุษเหล็กแห่งโลกคอมิกยังเป็น ‘Masculinity Icon’ หรือสัญลักษณ์แห่งความเป็นชายอันทรงพลังมาโดยตลอด จึงถือเป็นเรื่องที่จะต้องส่งแรงสั่นสะเทือนเป็นธรรมดา

 

ซูเปอร์แมนแอ๊วกับผู้ชาย มีบางคนที่รับไม่ได้

 

โดยส่วนตัวอยากจะบอกกับผู้คนที่ออกตัวว่าไม่ได้เป็น Homophobia แต่รู้สึกรำคาญรับไม่ได้ทนไม่ไหวกับการที่น้อนจอนเปิดตัวว่าเป็นไบใจเกเรว่า “ฮัลโหล สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ Modern World ในปี ค.ศ. 2021 ห้วงเวลาที่สังคมโลกสมัยใหม่ให้ค่ากับความหลากหลายและความเท่าเทียม” ซึ่งถ้าจะให้พูดกันจริงๆ แล้วก็อยากจะขอถามกลับให้ได้ลองคิดกันดูอีกทีว่า ที่คุณพี่บอกว่า DC ยัดเยียดเอาเรื่องเพศสภาพและการเมืองมาใส่มากเกินไปนั้นมันจริงหรือเปล่า เพราะว่าในแง่หนึ่ง การ์ตูนไม่ว่าจะเป็นคอมิกหรือมังงะต่างก็สะท้อนภาพสังคมในแง่ใดแง่หนึ่งอยู่ตลอดเวลา หรือว่าผู้ที่พูดนั้นไม่รู้ว่าโลกนี้ได้เดินมาไกลไปถึงไหนกันแล้ว และถ้าเป็นแฟน DC จริงก็น่าจะรู้ว่า DC เป็นค่ายคอมิกที่หัวก้าวหน้าและยืนหยัดในเรื่องความหลากหลายทางเพศมากกว่าทางฝั่ง Marvel เสียอีก (แม้ในแง่หนึ่งบางคนอาจจะมองว่าเป็นการไล่ตามกระแสอย่างฉาบฉวยก็ตาม) และสำหรับที่ว่ายัดเยียดกันเกินพอดีนั้นก็นึกสงสัยเหมือนกันว่าแล้วคอมิกซูเปอร์ฮีโร่ที่ผ่านมานั้นมีตัวละครทั้งวายร้ายและฮีโร่ที่เป็นภาพสะท้อนของเพศสภาพต่างๆ เท่ากับโลกจริงๆ ที่เราอาศัยอยู่หรือเปล่า เพราะถึงจะทยอยเปิดตัวกันออกมาในช่วงหลังๆ ก็ยังมีสัดส่วนของรักต่างเพศมากกว่าอยู่ดี 

 

แล้วคำถามสำคัญก็คือว่าถ้ามีแฟนคอมิกซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็น LGBTQ+ ต้องการจะได้ดูคอมิกมีตัวละครฮีโร่ที่เป็นตัวแทนเพศสภาพของพวกเขาเองกันบ้างล่ะ พวกเขาจะมีสิทธิที่จะได้รับมันหรือเปล่า? (ถ้าพวกเขาเสียเงินซื้ออ่านถูกลิขสิทธิ์เหมือนกัน) สำหรับในประเด็นนี้เราอยากจะให้ทุกคนได้ฟังปากคำของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของ DC กันดูเสียก่อน

 

ปากคำของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทาง DC

ทอม เทย์เลอร์ นักเขียนคอมิกซีรีส์ชุด Superman: Son of Kal-El เล่าว่า เมื่อเขาได้รับเสนอให้ทำงานนี้ครั้งแรก เขาพยายามคิดไตร่ตรองอย่างหนักว่าซูเปอร์แมนของวันนี้ควรเป็นอย่างไร

 

“มันทำให้ผมคิดว่าถ้าจะมีซูเปอร์แมนผู้กอบกู้โลกเป็นชายแท้ผิวขาวขึ้นมาอีกสักคน เราคงจะพลาดโอกาสอะไรไปแล้วล่ะ ถ้าเป็นสักช่วงสิบปีก่อนหน้านี้ผมคิดว่ามันคงจะแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำแบบนี้ แต่ด้วยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผมคิดว่าตอนนี้มันน่าจะเป็นไปได้ และเมื่อผมนำเสนอความคิดนี้กับทาง DC พวกเขาก็บอกว่ากำลังนึกถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน 

 

เจย์ นากามูระ มีบทบาทอยู่เคียงข้างซูเปอร์แมนจอน ในห้วงเวลาแห่งความอ่อนล้าสิ้นหวัง

 

“อย่างไรก็ตาม มักจะมีคนที่ใช้ไม้บรรทัดเก่าคอยบอกเสมอว่า ‘อย่าใส่การเมืองลงในการ์ตูน’ แต่พวกเขาลืมนึกไปว่าหนังสือการ์ตูนทุกเรื่องเป็นเรื่องการเมืองไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อย่างมีบางคนที่ไม่ตระหนักว่า X-Men ของฝั่ง Marvel เองก็มีความละม้ายกับขบวนการสิทธิพลเมือง

 

“ผมเชื่ออยู่เสมอว่าทุกคนล้วนต้องการฮีโร่ และทุกคนสมควรที่จะเห็นบางส่วนของตัวเขาเองอยู่ในฮีโร่ที่พวกเขาชื่นชม และในวันนี้ซูเปอร์แมนฮีโร่ผู้แข็งแกร่งที่สุดบนโลกก็ได้เปิดเผยตัวตนของตัวเองออกมา มีหลายๆ คนที่ได้อ่านข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วร้องไห้ พวกเขานึกไม่ถึงว่าในชีวิตนี้จะได้มีโอกาสเห็นตัวเองอยู่ในซูเปอร์แมน ฮีโร่ที่ทรงพลังที่สุดในคอมิก”

 

ในขณะเดียวกัน จอห์น ทิมส์ ศิลปินผู้สร้างสรรค์ก็ได้กล่าวเสริมว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มากที่ทำอย่างนั้นกับจอนในฐานะซูเปอร์แมน

 

“ในขณะที่เราเห็นจอนเติบโตขึ้นต่อหน้าต่อตา มันจะน่าสนใจมากเลยที่จะได้เห็นเขาไม่เพียงแต่พยายามค้นหาตัวเอง แต่ยังรวมถึงการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในโลกยุคสมัยใหม่ที่มีความซับซ้อน ซึ่งในอีกแง่หนึ่งผมหวังว่าการที่ชายผู้ทรงพลังที่สุดในโลกได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน LGBT จะทำให้เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอีกต่อไปในอนาคต”

 

ส่วนในประเด็นเรื่องการยัดเยียดเกินไปหรือเปล่านั้น ผู้ที่น่าจะโต้ประเด็นดังกล่าวได้ดีที่สุดน่าจะเป็น จิม ลี ซึ่งเป็นผู้จัดพิมพ์ของ DC

 

“เราพูดกันมามากแล้วเกี่ยวกับพลังในการเล่าเรื่องของพหุจักรวาล DC (DC Multiverse) และนี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าทึ่ง ยิ่งในยุคสมัยใหม่ที่เรื่องราวของ DC นำเสนอผ่านหลายสื่อ ย่อมหมายความว่ามี จอน เคนต์ อยู่ในเวอร์ชันอื่นๆ อีก เราสามารถให้จอนสำรวจตัวตนของเขาในคอมิก เช่นเดียวกับที่จอนได้รู้ถึงเบื้องลึกของครอบครัวของเขาผ่านทางทีวีซีรีส์อย่าง Superman & Lois พวกเขาดำรงอยู่ร่วมกันในโลกและห้วงเวลาของพวกเขาเอง และแฟนๆ อย่างเราก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวของจอนทั้งสองได้พร้อมกัน”

 

แปลได้อย่างง่ายๆ ว่ามีเวอร์ชันที่บอกเล่าเรื่องราวของ จอน เคนต์ ในฐานะซูเปอร์แมนที่เป็น LGBT และก็มีเรื่องราวของจอนและซูเปอร์แมนในแบบอื่นๆ ให้แฟนๆ ได้เลือกเสพ​ อันนำมาซึ่งคำตอบของทาง DC ว่านี่คือการยัดเยียดหรือเปล่า ในเมื่อผู้ชมแต่ละคนล้วนมีสิทธิในการเลือกชมของตัวเอง (ถ้าไม่ชอบก็แค่ไม่ดูไม่อ่านก็ได้)

 

 

เมื่อสัญลักษณ์ ‘S’ บนหน้าอกของซูเปอร์แมนหาได้มีความหมายถึงความเป็นชาย หากแต่หมายถึง ‘ความหวัง’ ตั้งแต่อดีตเราได้เห็นซูเปอร์แมนยืนหยัดต่อสู้เพื่อให้โลกดีขึ้นตลอดมา และกลุ่มคนรักต่างเพศเองก็มีเรื่องราวของซูเปอร์แมนชายรักหญิงอย่างป๋าคลาร์ก เป็นของตัวเองกันมานานถึงแปดสิบกว่าปีแล้ว แต่ในโลกยุคใหม่ที่แตกต่างจากอดีต ประชาคมโลกจำนวนมากต่างหันมาให้ค่านิยมกับสิทธิความเท่าเทียมและความหลากหลายกันมากกว่าที่เคยเป็นมา (ยินดีต้อนรับสู่ปี ค.ศ. 2021 อีกครั้งค่ะ 🙂 คุณจะมองเรื่องนี้โดยใช้โลกทัศน์แบบเก่าแล้วจะยังมั่นเด๋อบอกว่าซูเปอร์แมนเป็นไบเป็นการ ‘ยัดเยียด’ หรือจะใจกว้างยอมมอบสิทธิให้เพื่อนมนุษย์ LGBTQ+ ได้มีซูเปอร์แมนของพวกเขาเองสักคน เพื่อที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่สำหรับใครหลายคนขึ้นอีกสักนิด…เราเลือกกันได้ว่าจะเป็นคนแบบไหน หรือคุณพี่เป็น Homophobia เบาๆ แล้วดันไม่รู้ตัวกันคะคุณพี่

 

อ้างอิง:

The post เมื่อซูเปอร์แมนเป็นไบใจเกเร คุณรับได้ไหม หรือแอบเป็น Homophobia แล้วดันไม่รู้ตัว appeared first on THE STANDARD.

]]>
Superman เวอร์ชันหนังสือการ์ตูนตอนล่าสุดเผยว่าตัวเองเป็น Bisexual https://thestandard.co/superman-latest-episode-say-he-is-bisexual/ Thu, 14 Oct 2021 05:44:16 +0000 https://thestandard.co/?p=547991 Superman bisexual

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเมื่อปัจจุบันนี้วงการบั […]

The post Superman เวอร์ชันหนังสือการ์ตูนตอนล่าสุดเผยว่าตัวเองเป็น Bisexual appeared first on THE STANDARD.

]]>
Superman bisexual

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเมื่อปัจจุบันนี้วงการบันเทิงทั้งอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซีรีส์ ดนตรี และโลกของหนังสือการ์ตูนต่างก็สนับสนุนและเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับกลุ่มคน LGBTQIA+ กันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดอาณาจักร DC Comics ก็เตรียมเผยเรื่องราวความรักระหว่างซูเปอร์ฮีโร่ Superman และคนรักของเขาในหนังสือการ์ตูนตอนใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนเซอร์ไพรส์ก็คือเขาจะเผยว่าตัวเองเป็น Bisexual และมีคนรักเป็นผู้ชาย

 

ในการ์ตูนตอนใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ Jonathan Kent ซูเปอร์แมนคนล่าสุดผู้ซึ่งเป็นบุตรชายของซูเปอร์แมนต้นตำรับอย่าง Clark Kent จะพบรักกับนักข่าวหนุ่มที่มีพลังวิเศษนาม Jay Nakamura ที่เข้ามาดูแล Jonathan หลังจากที่เขาเหนื่อยล้าทั้งกายและใจจากการพยายามช่วยเหลือผู้อื่น 

 

นักเขียนอย่าง Tom Taylor เผยความรู้สึกผ่านทาง The New York Times ว่า “ความคิดที่ว่าเราจะแทนตัวละคร Clark Kent ด้วยอีกตัวละครชายแท้ผิวขาวผู้กอบกู้โลกดูเป็นไอเดียที่ซ้ำซาก…ผมพูดอยู่เสมอว่าทุกคนต้องการฮีโร่และทุกคนสมควรที่จะได้เห็นตัวเองในฮีโร่ในดวงใจของพวกเขา และผมรู้สึกก็ซาบซึ้งใจมากที่ DC และ Warner Bros. แชร์ไอเดียนี้กับผม Superman เป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ความจริงแท้ และความถูกต้องมาเสมอ และในวันนี้ Superman จะได้เป็นตัวแทนของอะไรที่มากกว่านั้น จะมีคนอีกมากมายที่ได้เห็นตัวเองในซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังมากที่สุดในหนังสือการ์ตูน” 

 

CCO ของสำนักพิมพ์ DC อย่าง Jim Lee ก็ออกมาแสดงความยินดีเช่นกันที่จะได้เพิ่มความหลากหลายโดยไม่มีกำแพงในอาณาจักร DC ของพวกเขา และยังกล่าวว่าพวกเขาสามารถที่จะมี Jonathan Kent ที่กำลังค้นหาตัวตนของตนเองในหนังสือการ์ตูนไปพร้อมๆ กับที่เขากำลังพยายามไขความลับของครอบครัวของเขาใน TV ซึ่งแฟนๆ ก็สามารถสนุกสนานกับทั้งสองเรื่องราวนี้ในหนังสือการ์ตูนฉบับ Superman: Son Of Kal-El #5 ในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้

 

ภาพ: DC Comics

อ้างอิง: 

The post Superman เวอร์ชันหนังสือการ์ตูนตอนล่าสุดเผยว่าตัวเองเป็น Bisexual appeared first on THE STANDARD.

]]>
Michael B. Jordan พูดถึงข่าวลือในการรับบท Superman ที่กำลังจะถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง https://thestandard.co/michael-b-jordan-talked-about-superman-remake-rumors/ Thu, 29 Apr 2021 07:06:51 +0000 https://thestandard.co/?p=481810 Michael B. Jordan พูดถึงข่าวลือในการรับบท Superman ที่กำลังจะถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง

ภาพยนตร์ Superman กำลังจะได้รับการนำกลับมาสร้างใหม่อีกค […]

The post Michael B. Jordan พูดถึงข่าวลือในการรับบท Superman ที่กำลังจะถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
Michael B. Jordan พูดถึงข่าวลือในการรับบท Superman ที่กำลังจะถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง

ภาพยนตร์ Superman กำลังจะได้รับการนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง โดยก็มีข่าวลือและการเดาอยู่รายวันว่าใครจะมารับบทพระเอกฮีโร่คนสำคัญ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหนุ่ม ไมเคิล บี. จอร์แดน ขวัญใจสาวๆ ทั่วโลก ซึ่งล่าสุดเขาก็ได้ออกมาตอบโต้ข่าวลือในครั้งนี้อย่างน่าสนใจ เพราะเขาไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับว่าเขาจะเป็นซูเปอร์แมนคนต่อไปหรือไม่

 

“ผมรู้สึกซาบซึ้งใจที่ผู้คนนึกถึงผมในบทบาทแบบนั้น ผมไม่ได้มีความเห็นอะไรต่อเรื่องนี้มากนักนอกจากความรู้สึกขอบคุณ แต่ไม่ว่าใครจะได้รับบทนั้นหรือถ้าหากว่าข่าวลือเป็นจริงขึ้นมา ผมก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่จะรับชม”

 

ถึงแม้ว่ารายละเอียดของ Superman เวอร์ชันใหม่จะยังไม่เปิดเผยด้านเนื้อเรื่องและรายชื่อนักแสดง แต่วอร์เนอร์บราเธอส์ก็ได้คอนเฟิร์มแล้วว่า เจ.เจ. แอบรัมส์ ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์มากฝีมือเจ้าของผลงานมหากาพย์ Star Wars (เวอร์ชันใหม่), Star Trek, Lost, Mission: Impossible III และหนังฟอร์มยักษ์เรื่องอื่นอีกมากมายจะมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับ Superman ร่วมกับนักเขียนบทอย่าง Ta-Nehisi Coates

 

เมื่อปีที่แล้วก็มีข่าวลือว่านักแสดงหนุ่ม เฮนรี คาวิลล์ ผู้ซึ่งรับบทซูเปอร์แมนมาตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปี 2017 จะกลับมารับบทซูเปอร์ฮีโร่คนเดิมอีกครั้ง ซึ่งความคาดหวังที่แฟนๆ มีเหล่านี้ ทำให้เขารู้สึก ‘แสนวิเศษ’ และ ‘น่าเหนื่อยหน่าย’ ในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เฮนรีเผยว่าเขาได้ทำการแคสติ้งสำหรับโปรเจกต์อื่นเรียบร้อยแล้ว แต่เขาก็จะไม่ปฏิเสธหากมีโอกาสที่จะได้กลับมารับบทซูเปอร์แมนอีกครั้ง

 

ภาพ: Getty Images

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

The post Michael B. Jordan พูดถึงข่าวลือในการรับบท Superman ที่กำลังจะถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
Josh Hartnett เผยถึงสาเหตุที่ถอยห่างจากวงการฮอลลีวูด และไม่รับเล่น Superman ในช่วงที่กำลังพีก https://thestandard.co/josh-hartnett-step-aside-hollywood-not-play-superman/ Tue, 26 Jan 2021 11:57:31 +0000 https://thestandard.co/?p=447627 Josh Hartnett

หลายคนคงสงสัยว่านักแสดงหนุ่มมากความสามารถที่เคยฝากผลงาน […]

The post Josh Hartnett เผยถึงสาเหตุที่ถอยห่างจากวงการฮอลลีวูด และไม่รับเล่น Superman ในช่วงที่กำลังพีก appeared first on THE STANDARD.

]]>
Josh Hartnett

หลายคนคงสงสัยว่านักแสดงหนุ่มมากความสามารถที่เคยฝากผลงานเอาไว้มากมายอย่าง จอช ฮาร์ตเน็ตต์ หายไปไหน เพราะตั้งแต่ปลายยุค 90 จนถึงปี 2004 เขาเป็นดาราเนื้อหอมที่ได้แสดงนำในภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง จนเป็นที่รักของคอหนังทั่วโลกไปโดยปริยาย แต่ในช่วงที่เขากำลังดังสุดขีด เขาก็กลับปฏิเสธบท Superman และเขาก็เริ่มรับงานแสดงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด 

 

ล่าสุด จอช ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ Mr Porter ถึงเหตุผลที่เขาตีตัวออกห่างจากวงการฮอลลีวูดโดยกล่าวว่า “คนที่อยู่จุดสูงสุดจะรู้สึกกลัวคนที่ตามมาข้างหลังอยู่เสมอ ถ้าคุณอยากจะคงตำแหน่งบนจุดนั้นไปตลอด คุณต้องใช้เวลาทั้งชีวิตคิดถึงแต่เรื่องพวกนี้”

 

เขายังเผยถึงสาเหตุที่ปฏิเสธบท Superman ที่ตอนหลัง เฮนรี คาวิลล์ ได้รับโอกาสไป ว่า ตอนนั้นเขามั่นใจว่าบทไม่เหมาะกับตัวเอง ถึงแม้จะมีข่าวลือว่าได้รับการเสนอค่าตัวถึง 72 ล้านปอนด์ แต่เขากลับมองว่าชื่อเสียงและเงินทองที่จะได้รับคือความเสี่ยง เขาอยากใช้เวลากับคนที่ชอบพอในตัวเขาก่อนที่จะเป็นนักแสดง และเลือกที่จะใช้ชีวิตธรรมดามากกว่าใช้เวลาในวงการฮอลลีวูด

 

‘ผมอยากจะมั่นใจว่าผมไม่ได้สูญเสียความสัมพันธ์กับเพื่อนและครอบครัวไป พวกเขาทำให้ผมเป็นอย่างทุกวันนี้ ผมให้ความสำคัญกับมันมากกว่าการตามหาฝันในฮอลลีวูด…ความภาคภูมิใจที่สุดของผมในตอนนี้คือการเป็นพ่อของลูกสามคน ผมยังทำงานที่มีคุณภาพได้ เมื่ออายุมากขึ้นบทบาทที่จะได้รับก็น่าสนใจมากขึ้นไปอีก’

 

ภาพ: Loïc Venance / AFP

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: 

The post Josh Hartnett เผยถึงสาเหตุที่ถอยห่างจากวงการฮอลลีวูด และไม่รับเล่น Superman ในช่วงที่กำลังพีก appeared first on THE STANDARD.

]]>
Henry Cavill อยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อกลับมาเล่นบท Superman อีกครั้ง https://thestandard.co/henry-cavill-the-witcher-superman/ Thu, 28 May 2020 09:27:09 +0000 https://thestandard.co/?p=367684

แฟนๆ ยอดมนุษย์เหล็กกล้ากำลังจะได้ยินข่าวดี เมื่อ เฮนรี […]

The post Henry Cavill อยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อกลับมาเล่นบท Superman อีกครั้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>

แฟนๆ ยอดมนุษย์เหล็กกล้ากำลังจะได้ยินข่าวดี เมื่อ เฮนรี คาวิลล์ ผู้รับบท Superman คนล่าสุด กำลังถูกทาบทามให้กลับมารับบทนี้อีกครั้งในจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ค่าย DC Comics 

 

รายงานของเว็บไซต์ Variety และ Deadline ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พระเอกหนุ่มชาวอังกฤษวัย 37 ปี กำลังอยู่ในการเจรจาให้กลับมารับบท คลาร์ก เคนต์ และ Superman อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องต่อไปของค่าย ซึ่งการกลับมาครั้งนี้จะยังไม่ได้มาในรูปแบบของภาพยนตร์เดี่ยวเต็มตัวแบบที่ผ่านมาใน Man of Steel หรือ Batman v Superman: Dawn of Justice แต่จะเป็นการปรากฏตัวในแบบ Cameo หรือแขกรับเชิญในภาพยนตร์โปรเจกต์ต่อไปของค่าย DC Comics ที่มีแผนจะเปิดกล้องหลังจากพ้นช่วงวิกฤตโควิด-19 

 

ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ภาคต่อของตัวละครอื่นๆ ในจักรวาล DC Comics อย่าง Aquaman 2, Shazam 2, Black Adam หรือแม้กระทั่ง Wonder Woman 3 ซึ่งจากการสัมภาษณ์ในนิตยสาร Men’s Health เมื่อปลายปีที่แล้ว เขาได้บอกถึงความผูกพันที่มีต่อบทซูเปอร์ฮีโร่ตลอดกาลตัวนี้ และทิ้งคำใบ้เป็นนัยให้เรา ได้ลุ้นถึงการกลับมาว่า 

 

“ผมยังไม่ยอมแพ้กับบทนี้ มันยังมีอีกหลายอย่างที่ผมอยากทำในบท Superman ยังมีเรื่องเล่าอีกมาก ทั้งความลึก ความสมจริง ความจริงใจของตัวละครที่ผมอยากสัมผัส ผมอยากสะท้อนมันออกมาจากในหนังสือการ์ตูน มันสำคัญกับผม และ Superman สมควรได้รับการพิสูจน์ ซึ่งสถานะตอนนี้ก็คือ เดี๋ยวเราก็ได้รู้กัน”

 

ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของค่าย DC Comics อย่าง Wonder Woman 1984 ที่ถูกเลื่อนฉายออกไปเดือนสิงหาคม และ The Batman นำแสดงโดย โรเบิร์ต แพตทินสัน ที่ถูกพักการถ่ายทำชั่วคราว จะยังไม่มีการปรากฏตัวของ Superman แต่เพื่อให้หายคิดถึงยอดมนุษย์ผู้นี้ แฟนๆ สามารถติดตามภาพยนตร์เรื่อง Justice League เวอร์ชัน Director’s Cut ของ แซ็ก สไนเดอร์ ทางช่อง HBO Max ในปี 2021 

 

ภาพ: Warner Bros.

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์ 

อ้างอิง:

The post Henry Cavill อยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อกลับมาเล่นบท Superman อีกครั้ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
เฮนรี คาวิลล์ ถอดผ้าคลุม ยุติบทบาทการเป็นซูเปอร์แมน https://thestandard.co/henry-cavill-out-as-superman/ https://thestandard.co/henry-cavill-out-as-superman/#respond Thu, 13 Sep 2018 06:15:11 +0000 https://thestandard.co/?p=120849

สื่อดัง The Hollywood Reporter ออกมาเปิดเผยว่า เฮนรี คา […]

The post เฮนรี คาวิลล์ ถอดผ้าคลุม ยุติบทบาทการเป็นซูเปอร์แมน appeared first on THE STANDARD.

]]>

สื่อดัง The Hollywood Reporter ออกมาเปิดเผยว่า เฮนรี คาวิลล์ ผู้รับบทเป็น คลาร์ก เคนต์ หรือซูเปอร์แมน ในหนังแฟรนไชส์ซูเปอร์ฮีโร่ Man on Steel (2013), Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) และ Justice League (2017) ได้ปฏิเสธข้อเสนอจาก Warner Bros. ที่ต้องการให้เขาร่วมแสดงแบบ ‘รับเชิญ’ ใน Shazam! หนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่ของค่าย คาวิลล์ให้เหตุผลในการเซย์โนว่าเป็นเกิดจากปัญหาเรื่องคิวถ่ายทำที่ไม่ตรงกัน

 

อีกสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะทาง Warner Bros. ต้องการปรับกลยุทธ์การทำหนังของค่ายใหม่ หลังจากผลงาน ‘ซูเปอร์ฮีโร่’ ของค่ายในช่วงหลังๆ ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เรียกว่ารายได้แต่ละเรื่องช่างอยู่ห่างไกลจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ค่ายคู่แข่งอย่าง Marvel อยู่หลายช่วงตัว

 

 

แผนปรับกลยุทธ์ครั้งนี้คือเปลี่ยนตัวแม่ทัพจากเดิม ซึ่งเคยให้ ‘ซูเปอร์แมน’ เป็นตัวหลักในการนำจักรวาล DC แล้วหันไปทุ่มเทให้กับการพัฒนาหนังภาคแยกของตัวละครอย่าง วันเดอร์วูแมน, อควาร์แมน, เดอะ แฟลช, โจ๊กเกอร์ รวมทั้งซูเปอร์เกิร์ล ลูกพี่ลูกน้องของซูเปอร์แมน ที่กระแสตอบรับจากซีรีส์ฉายทางช่อง The CW กำลังไปได้สวย และกำลังจะถูกพัฒนาสู่การเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องล่าสุดของ DC

 

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดของซูเปอร์แมนยังไม่หมดแค่นั้น มีข่าวอีกว่า DC จะระงับการพัฒนาโปรเจกต์ภาคต่อของ Man on Steel ไปแบบไม่มีกำหนด สาเหตุเนื่องมาจากโปรเจกต์ ‘ซูเปอร์เกิร์ล’ ที่กำลังพัฒนาอยู่นั้น เนื้อเรื่องจะอยู่ในช่วงที่เธอเป็นวัยรุ่น ซึ่งในเวลานั้น ตัวละครซูเปอร์แมนยังเป็นเพียงแค่เด็กทารก ซึ่งนั่นเท่ากับว่าคาวิลล์จะไร้แววปรากฏตัวในหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน

 

 

ไม่ใช่แค่คาวิลล์เท่านั้นที่อนาคตดูไม่ค่อยสดใสเท่าไร เพราะแม้แต่ เบน เอ็ฟเฟล็กต์ที่รับบทแบทแมนก็ดูจะย่ำแย่ไม่แพ้กัน หลังมีข่าวออกมาเป็นระยะว่าทาง Warner Bros. กำลังมองหานักแสดงที่หนุ่มกว่านี้มารับบทแทนเขา โดยมีรายชื่อนักแสดงชายถูกส่งเข้าประกวดมากมาย อาทิ จอน แฮมม์ จาก Baby Driver, คิต แฮริ่งตัน หรือจอน สโนว์ จากซีรีส์ Game of Thrones ติดอยู่ในโผอันดับต้นๆ  

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง

The post เฮนรี คาวิลล์ ถอดผ้าคลุม ยุติบทบาทการเป็นซูเปอร์แมน appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/henry-cavill-out-as-superman/feed/ 0
กว่าจะมาเป็นแถวหน้าประจัญบาน เบื้องหลังความฟิตและกล้ามแน่นๆ ของเหล่าฮีโร่จาก ‘Justice League’ https://thestandard.co/justice-league-workout/ https://thestandard.co/justice-league-workout/#respond Mon, 20 Nov 2017 01:40:38 +0000 https://thestandard.co/?p=47374

         เตรียมพร้อมดูเหล่าซูเ […]

The post กว่าจะมาเป็นแถวหน้าประจัญบาน เบื้องหลังความฟิตและกล้ามแน่นๆ ของเหล่าฮีโร่จาก ‘Justice League’ appeared first on THE STANDARD.

]]>

 

 

     เตรียมพร้อมดูเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ที่รวมพลังจากค่าย DC ต่อสู้พิทักษ์โลกจากวายร้ายตัวใหม่ใน Justice League กันหรือยัง? แต่ก่อนจะไปชมลอนกล้ามงามๆ น่าทึ่งของพวกเขาและเธอบนจอเงิน ไปแอบดูวิธีการสร้างความฟิตแอนด์เฟิร์มของพวกเขากันก่อนว่าทำอย่างไรให้มีกล้ามดูแข็งแรงเพียงพอน่าเชื่อถือว่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้กับเขาบ้าง (และบอกไว้ก่อนว่าไม่ใช่เอฟเฟกต์หรอกนะที่ได้เห็น) และนี่คือวิถีความฟิตของซูเปอร์ฮีโร่ทั้งชายและหญิงใน Justice League ที่เราเลือกมา 6 คนที่โดดเด่น และแว่วมาว่าจะมีหนังภาคเดี่ยวของตัวเองในอนาคตอีกด้วย

 

 

หวั่นกล้ามชำรุด…มนุษย์ค้างคาว

     เบน แอฟเฟล็ก (Ben Affleck) รับบท บรูซ เวย์น หรือ Batman ซูเปอร์ฮีโร่ที่ธรรมดาที่สุดเพราะไม่มีพลังพิเศษใดๆ แต่ก็เป็นผู้พิทักษ์เมืองยามราตรีกาล จึงจำเป็นที่จะต้องมีรูปร่างที่แข็งแรงไม่ต่างกับฮีโร่คนอื่นๆ และรูปร่างของเขาต้องเฟิร์มปราศจากไขมันส่วนเกิน วิธีการของเบน คือ เขาต้องเข้ายิมเป็นปี สัปดาห์ละ 6 วัน วันละ 30-40 นาที เพื่อรูปร่างที่น่าหลงใหลสำหรับสาวๆ ของแบตแมน

 

 

     ใน The Dark Knight (2008) โดยแบตแมนเวอร์ชันเบน แอฟเฟล็ก ที่ผู้กำกับต้องการ คือ กล้ามเนื้อที่ใหญ่ฟิตมากกว่าแบตแมนเวอร์ชันอื่นๆ ที่เคยเป็นมา ทำให้เบนต้องเพิ่มน้ำหนัก 75 ปอนด์หรือราวๆ 35 กิโลกรัม (เชียวนะ!) เขาใช้วิธีรีดกล้าม คือ เล่น Dumbbell Curl, Farmer’s Walk และยกน้ำหนักเป็นหลัก ทั้งนี้แต่ละวันท่าการออกกำลังจะปรับเปลี่ยนไปตามท่าที่เทรนเนอร์จัด พร้อมคอร์สอาหารที่เพิ่มคาร์โบไฮเดรตอย่างโอ๊ตมีล ผักใบเขียว ข้าวไม่ขัดสี ส่วนโปรตีนก็เป็นโปรตีนไขมันน้อยอย่างเนื้อไก่ อกไก่งวง ไข่ขาว และแซลมอน ของกินเล่นแก้หิวก็มีอัลมอนด์กับแอปเปิ้ล

 

 

จากราชันย์ทุ่งหญ้า สู่ Aquaman นักสู้แห่งแอตแลนติส

     เจสัน โมมัว (Jason Momoa) รับบท Aquaman บุตรชายเทพีแห่งแอตแลนติส ก่อนมารับบทอควาแมน เจสันก็รับบทหัวหน้านักรบผู้ยิ่งใหญ่จากซีรีส์ดัง Game of Thrones มาแล้ว และเห็นได้ชัดว่าเขามีรูปร่างและกล้ามที่สวยงาม แข็งแรงเป็นทุนเดิม (ที่ทำสาวกรี๊ด)

 

 

      แต่โครงสร้างร่างกายของ คาห์ล โดรโก (Khal Drogo) กับ อควาแมน มีความต่างกันเล็กน้อย ทำให้การออกกำลังกายของเจสันต้องปรับเปลี่ยนไป รูปร่างต้องเพรียวขึ้น และเลือกเฟิร์มกล้ามเนื้อแค่เฉพาะส่วน เขาต้องบอกลาพิซซ่าและเบียร์ของโปรด หรืออาหารที่มีแป้งกับแคลอรีสูงออกไป และหันมารับประทานผักกับโปรตีนที่มีประโยชน์ เจสันออกกำลังเพื่อเพิ่มกล้ามแขนไบเซบ กล้ามท้องกับช่วงอก นอกจากเข้ายิมแล้ว เขายังหลงใหลการเพิ่มมวลกล้ามด้วยการเล่นกีฬาอย่างชกมวย ปีนเขา วิ่งเร็วๆ ขึ้นเขา และสเกตบอร์ดอีกด้วย

 

 

ซูเปอร์แมน…It’s Not Easy

     หนุ่มหน้ามนชาวอังกฤษ เฮนรี คาวิลล์ (Henry Cavill) กับบท Superman ชายหนุ่มจากดาวคริปตัน หนุ่มผู้มีพลังแข็งแรงและสายตามองทะลุกำแพงได้

 

 

     เฮนรีมีรูปร่างที่ค่อนข้างดีอยู่แล้วเมื่อมารับบทนี้ในปี 2013 จึงแค่เพิ่มน้ำหนักและมวลกล้ามเนื้อเท่านั้น โดยเน้นสร้างความแข็งแรงและขนาดของกล้ามเนื้อที่ขาและบริเวณอก ควบคู่กับการรับประทานอาหารวันละ 5,000 แคลอรีต่อวัน โดยเน้นผักและโปรตีนไขมันต่ำ ทั้งนี้เฮนรีเข้ายิมทุกวัน และเปลี่ยนท่าออกกำลังทุกวันด้วย แต่ยังคงเน้นท่าสควอตที่ใช้ลูกตุ้ม หรือ Kettlebell และยกน้ำหนักแบบโอลิมปิก

 

 

วิ่ง แบร์รี วิ่ง!

     เอซรา มิลเลอร์ (Ezra Miller) รับบท แบร์รี อัลเลน หรือ The Flash ชายหนุ่มผู้รวดเร็วปานสายฟ้า เอซราต้องมารับบทซูเปอร์ฮีโร่ที่รวดเร็วว่องไว ทำให้เขาต้องเข้ายิมฟิตหุ่นอย่างหนักหน่วง เพราะรูปร่างเดิมของเอซราเป็นสไตล์หนุ่มอินดี้ผอมบาง งานนี้เขาต้องเข้ายิมสัปดาห์ละ 4-5 วัน ต้องเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณช่วงอกและกล้ามแขนด้านในหรือไบเซบด้วยการวิดพื้นและยกดัมเบล และเพิ่มกล้ามแผ่นหลังด้วยการยกน้ำหนักและดึงเชือก

 

 

     ทั้งยังเพิ่มกล้ามหัวไหล่ด้วยการยกบาร์เบล ส่วนขา เขาใช้การสควอต และแน่นอนว่าเขาเป็นชายผู้เร็วปานสายฟ้า ทุกครั้งเขาเองก็ต้องวิ่งเหยาะๆ ทั้งนี้มากน้อยแล้วแต่วัน พร้อมคูลดาวน์ด้วยการโยคะและใช้โฟมโรลเลอร์ช่วยยืดกล้ามเนื้อ เรื่องของอาหารนั้นต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลอรีกับโปรตีนมากพอที่จะสร้างเสริมมวลกล้ามเนื้อ

 

 

Cyborg ชายผู้ไม่สะทกสะท้าน

     เรย์ ฟิชเชอร์ (Ray Fisher) คือนักแสดงผู้รับบทมนุษย์กึ่งหุ่นยนต์ Cyborg ในการรับบทนี้ของเรย์ไม่ทำให้เขาวุ่นวายต้องฟิตกล้ามมากมายนัก เพราะเขาเองมีรูปร่างที่ดีอยู่แล้ว

 

 

      โดยออกกำลังกายแค่ 3 วันต่อสัปดาห์ แต่เน้นเพิ่มมวลกล้ามด้วยการเวตเทรนนิ่ง เล่นกล้ามอกแบบ Bench Press และ Footwork Drill รวมถึง โดดเชือก สควอต ชกมวย และรับประทานคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และผักที่สมดุลควบคู่กันไป แถมด้วยเครื่องดื่มที่ใส่โปรตีนเสริม

 

 

Strong Like a Woman

     กัล กาโดต์ (Gal Gadot) นักแสดงชาวอิสราเอล ผู้มารับบทฮีโร่หญิงแสนแข็งแกร่งผู้ทรงพลังอย่าง Wonder Woman เธอต้องฟิตหุ่นเพื่อรับบทในหนังภาคเดี่ยวของตัวเองอยู่แล้ว จากการมีรูปร่างดีสไตล์ผอมเพรียวแต่มีกล้ามเนื้อลีนแบบนางแบบ ต้องปรับมาเป็นฮีโร่สาวทรงพลัง

 

 

     กัลเองต้องเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยการทำบอดี้เวต ฝึกแบบทหาร และเพิ่มกล้ามที่แขนกับหัวไหล่ ทั้งยังต้องเตรียมใจกับน้ำหนักที่เพิ่มอีก 7-8 กิโลกรัม ซึ่งเธอสามารถทำได้สำเร็จด้วยการเข้ายิมวันละ 6 ชั่วโมง ราวๆ 4-5 วันต่อสัปดาห์ สอดคล้องกับเมนูอาหารที่ช่วยให้เห็นกล้ามได้ชัดขึ้นอย่างโปรตีนไขมันต่ำและผักผลไม้นั่นเอง

 

อ้างอิง:

The post กว่าจะมาเป็นแถวหน้าประจัญบาน เบื้องหลังความฟิตและกล้ามแน่นๆ ของเหล่าฮีโร่จาก ‘Justice League’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/justice-league-workout/feed/ 0