Sundar Pichai – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Fri, 26 Jul 2024 05:05:18 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 SearchGPT เสิร์ชเอนจินตัวใหม่ของ OpenAI ที่จะมาเบียด Google ตกจากบัลลังก์? https://thestandard.co/searchgpt-search-engine-openai/ Fri, 26 Jul 2024 05:05:18 +0000 https://thestandard.co/?p=963159

OpenAI ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมตัวใหม่ที่หลายคนตั้งตารอมาน […]

The post SearchGPT เสิร์ชเอนจินตัวใหม่ของ OpenAI ที่จะมาเบียด Google ตกจากบัลลังก์? appeared first on THE STANDARD.

]]>

OpenAI ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมตัวใหม่ที่หลายคนตั้งตารอมานาน นั่นคือเครื่องมือเสิร์ชเอนจินที่มาในชื่อ SearchGPT น่านน้ำใหม่ที่ OpenAI พร้อมจะเข้าช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Google ที่เคยกระจุกตัวมากกว่า 90% อยู่เพียงเจ้าเดียวมาตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา

 

Reuters รายงานว่าหุ้น Alphabet ร่วงลง 3% ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับการประกาศเปิดตัว SearchGPT ครั้งนี้

 

SearchGPT ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้ผู้ใช้งานหาคำตอบได้รวดเร็ว พร้อมทั้งระบุแหล่งที่มาของข้อมูลได้อีกด้วย โดย OpenAI มองว่าการนำจุดแข็งของบริษัทในเรื่องของเทคโนโลยี AI ที่มีความสามารถเข้าใจภาษามนุษย์ ผนวกกับการเข้าถึงข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตแบบเรียลไทม์ และความสามารถในการถามต่อยอดจากคำถามก่อนหน้าที่เสิร์ชเอนจินแบบเดิมทำไม่ได้ จะทำให้ขั้นตอนการค้นคว้าข้อมูลเร็วและง่ายขึ้นกว่าเดิม

 

แซม อัลต์แมน ซีอีโอของ OpenAI โพสต์ข้อความบน X ว่า “เราเชื่อว่าตอนนี้ตลาดยังมีช่องว่างที่จะพัฒนาให้การค้นหาให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอีกเยอะ”

 

คำกล่าวของอัลต์แมนและความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ OpenAI เป็นสัญญาณชัดเจนที่ว่าคู่แข่งใหม่อีกรายของ Google ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว ซึ่งนับตั้งแต่ ChatGPT เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2022 นักลงทุนของ Alphabet ก็เริ่มแสดงความกังวลว่า OpenAI อาจเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก Google เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มมีวิธีใหม่ในการค้นหาข้อมูลออนไลน์

 

อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Google ก็ได้เปิดตัวฟีเจอร์ AI Overviews ที่เป็นการค้นหาโดยใช้ AI เข้ามาเป็นตัวช่วยค้นหาข้อมูลและสรุปคำตอบให้กับผู้ใช้งาน คล้ายกับการประกาศล่าสุดของ SearchGPT

 

ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของบริษัท ระบุว่า AI Overviews คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของวงการเสิร์ชเอนจินในรอบ 25 ปี แต่เครื่องมือดังกล่าวกลับถูกวิจารณ์ในเชิงลบจากสังคม หลังจากที่ผู้ใช้รายงานผลลัพธ์การค้นหาที่แสดงคำตอบที่ขัดกับสิ่งที่คนรับรู้กันโดยทั่วไป เช่น AI Overviews ระบุว่า บารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เป็นชาวมุสลิม ซึ่งแน่นอนว่าข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง

 

ขณะนี้ SearchGPT ยังอยู่ระหว่างการทดสอบและยังไม่เปิดให้ใช้บริการเป็นวงกว้าง แต่เปิดให้ลงทะเบียนต่อคิวแล้วบนเว็บไซต์ เพื่อรอเข้าใช้งานในอนาคตทันทีที่การพัฒนาเสร็จสิ้น

 

ณ จุดนี้ ความท้าทายใหญ่ของเสิร์ชเอนจินที่ขับเคลื่อนด้วย AI คือการลดอัตราข้อผิดพลาดของอาการ ‘หลอน’ จาก AI เพราะบางครั้งเทคโนโลยีพยายามจะสร้างคำตอบที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงให้กับผู้ใช้งาน ซึ่ง ChatGPT เองก็เจอกับปัญหานี้อยู่ เนื่องจากการทำงานของ AI คือการคาดเดาการปะติดปะต่อของคำต่างๆ จากโครงสร้างภาษามากกว่า ซึ่งต่างจากการทำงานของเสิร์ชเอนจินดั้งเดิม

 

จากนี้เราคงต้องตามดูกันต่อว่า SearchGPT จะกลายมาเป็นตัวพลิกโฉมวงการเสิร์ชเอนจินได้มากน้อยแค่ไหน และจะทำให้ประสบการณ์ค้นหาข้อมูลของผู้คนสามารถเปลี่ยนไปจนดิสรัปต์ Google ได้จริงตามที่หวังหรือเปล่า?

 

ภาพ: OpenAI

อ้างอิง:

The post SearchGPT เสิร์ชเอนจินตัวใหม่ของ OpenAI ที่จะมาเบียด Google ตกจากบัลลังก์? appeared first on THE STANDARD.

]]>
หัวหน้าฝ่ายค้นหา Google ส่งสารเตือนพนักงาน ยอมรับและปรับตัวกับแนวทางการทำงานใหม่ https://thestandard.co/prabhakar-raghavan-warns-employees-of-new-operating-reality/ Wed, 24 Apr 2024 02:41:09 +0000 https://thestandard.co/?p=925988 Prabhakar Raghavan

Prabhakar Raghavan หัวหน้าฝ่ายค้นหา (Head of Search) ขอ […]

The post หัวหน้าฝ่ายค้นหา Google ส่งสารเตือนพนักงาน ยอมรับและปรับตัวกับแนวทางการทำงานใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Prabhakar Raghavan

Prabhakar Raghavan หัวหน้าฝ่ายค้นหา (Head of Search) ของ Google ได้ส่งสารเตือนถึงพนักงานในระหว่างการประชุมภายในองค์กรเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาที่สำนักงานใหญ่ Google โดยระบุว่า การเติบโตของ Google ต่อจากนี้จะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายอีกต่อไป เพราะฉะนั้นแนวทางการทำงานภายใต้บริบทใหม่เป็นสิ่งที่พนักงานทุกคนต้องเผชิญ ดังนั้นพนักงานทั้งหลายจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัวให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่ Raghavan เรียกว่า ‘ความเป็นจริงในการปฏิบัติงานใหม่’ หรือ New Operating Reality และปรับตัวให้ลงมือทำงานให้เร็วขึ้น

 

โดย Raghavan เป็นหัวหน้าฝ่ายค้นหาซึ่งรายงานตรงต่อซีอีโออย่าง Sundar Pichai และเป็นผู้นำกลุ่มสำคัญๆ เช่น การค้นหา โฆษณา แผนที่ และการพาณิชย์ ซึ่งเจ้าตัวดูแลพนักงานเต็มเวลามากกว่า 25,000 คน

 

ทั้งนี้ ในไฟล์เสียงที่ทาง CNBC ได้รับ Raghavan กล่าวว่า การทำงานของ Google ในเวลานี้และต่อจากนี้ไปจะแตกต่างจากช่วง 15-20 ปีที่เคยเป็นมา ซึ่งความแตกต่างที่เจ้าตัวพูดถึงหมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในอุตสาหกรรมเสิร์ชเอนจินที่ Google ครองตลาดมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ และทำให้ Google กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำกำไรและมีมูลค่ามากที่สุดในโลกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

 

Raghavan กล่าวว่า ธุรกิจโฆษณาดิจิทัลของ Google กลายเป็นบริษัทที่ทั่วโลก ‘อิจฉา’ เห็นได้จากช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้ต่อปีของโฆษณาดิจิทัลของ Google เติบโตขึ้นมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่า Starbucks, Mazda และ TikTok รวมกัน แต่การเติบโตดังกล่าวจะเป็นไปได้ยากขึ้นด้วยปัจจัยและบริบทแวดล้อมในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป และทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งดุเดือดยิ่งขึ้น

 

รายงานระบุว่า ตลอดการกล่าวสุนทรพจน์ความยาวประมาณ 35 นาทีนี้ Raghavan เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการทำงานที่ต้องตอบสนองต่อตลาดให้เร็วขึ้น โดยเปรียบเทียบกับนักกีฬาที่ต้องมีการตอบสนองหรือพุ่งตัวอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้น และสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ท้าทายมากขึ้น

 

แม้ว่า Raghavan จะไม่ได้ระบุว่าใครคือคู่แข่งของ Google ในขณะนี้ แต่หลายฝ่ายมองว่าคู่แข่งที่ชัดเจนที่สุดของ Google ย่อมหนีไม่พ้น Microsoft ที่ร่วมมือกับ OpenAI ในการพัฒนา Generative AI

 

ทั้งนี้ Raghavan ยังเน้นย้ำถึงจุดแกร่งที่ Google จะต้องรักษาไว้ นั่นคือความน่าเชื่อถือ โดยชี้ว่าผู้คนส่วนใหญ่ยังใช้บริการของ Google เพราะความน่าเชื่อถือ กล่าวคือไม่ว่าจะมีอุปกรณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่สุดท้ายผู้บริโภคก็ยังมาใช้บริการ Google เพื่อตรวจสอบสิ่งที่ตัวเองเห็นและประสบอยู่ ซึ่งในยุคที่ Generative AI เฟื่องฟู ความน่าเชื่อถือดังกล่าวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ

 

นอกจากจะกระตุ้นให้พนักงานปรับตัวและลงมือทำอย่างรวดเร็วแล้ว ทาง Raghavan ยังประกาศถึงการเปลี่ยนแปลงภายในบางอย่าง โดยระบุว่า เจ้าตัวกำลังวางแผนที่จะสร้างทีมที่ใกล้ชิดกับผู้ใช้ในตลาดสำคัญๆ รวมถึงอินเดียและบราซิล และกำลังลดระยะเวลาการจัดทำรายงานของตนเองในบางโครงการ เพื่อให้ดำเนินการได้เร็วขึ้น

 

Raghavan กล่าวอีกว่า มีบางอย่างที่ต้องเรียนรู้จากการลงมือทำให้เร็วขึ้นด้วยระยะเวลาที่สั้นลง ซึ่งแนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับธุรกิจคลาวด์ของ Google ที่แนะนำให้พนักงานดำเนินการภายในระยะเวลาที่สั้นลงและภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดหลังประกาศปรับลดต้นทุน

 

Raghavan ย้ำปิดท้ายว่า Google ยังคงมีโอกาสยิ่งใหญ่รออยู่ข้างหน้า ดังนั้น Google ต้องลงมือทำอย่างรวดเร็ว และมีเป้าหมายอย่างชัดเจน ซึ่งรวมถึงการเพิ่ม Generative AI เข้าไปปรับปรุงคุณภาพการค้นหา รวมถึงเทคโนโลยีและลูกเล่นใหม่ๆ อีกมากมายที่จะตามมา

 

ด้านนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่าความเห็นและโทนเสียงของ Raghavan ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ Google ที่เร่งปรับโครงสร้างองค์กร ลดต้นทุนการดำเนินการ ซึ่งรวมถึงแผนการของบริษัทแม่อย่าง Alphabet ในการประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงานประมาณ 12,000 ตำแหน่ง หรือ 6% ของพนักงานทั้งหมดของบริษัทเมื่อปี 2023 ซึ่งการลดตำแหน่งงานยังคงดำเนินต่อไปในปีนี้ โดยมีการเลิกจ้างมากขึ้นในช่วงต้นปี ขณะที่ Ruth Porat ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน เพิ่งจะเปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วว่า บริษัทกำลังปรับโครงสร้างองค์กรทางการเงินใหม่ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับการลดขนาดเพิ่มเติม

 

อย่างไรก็ตาม การออกมากล่าวของ Raghavan ล่าสุดกำลังแสดงให้เห็นชัดเจนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ใช่แค่การดำเนินต่อจากปี 2023 และบริษัทกำลัง ‘สำรวจสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น’ เพื่อเตรียมพร้อมกับความท้าทายที่กำลังจะตามมา เช่น Digital Markets Act ของสหภาพยุโรป

 

ภายใต้บริบทดังกล่าว Raghavan กล่าวว่า Google ต้องจัดการกับความท้าทาย ‘ที่เป็นระบบ’ และสร้าง ‘ขุมพลังใหม่’ โดยยกตัวอย่างถึงการทำงานของทีม Gemini ซึ่งเป็นกลุ่มโมเดล AI หลักของบริษัท ที่ทำงานเพิ่มขึ้นจาก 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เป็น 120 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อแก้ไขเครื่องมือจดจำภาพของ Google อย่างทันท่วงที ช่วยให้ทีมแก้ไขปัญหาได้ประมาณ 80% ในเวลาเพียง 10 วัน ก่อนให้คำมั่นว่า บริษัทจะพยายามปรับโครงสร้างองค์กรให้ลีนขึ้นเพื่อความคล่องตัว และทำให้การทำงานหนักของพนักงานมีประสิทธิภาพและมีผลตอบแทนที่คุ้มค่า รวมถึงย้ำว่า สิ่งที่สำคัญในเวลานี้คือการเรียนรู้และตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดให้เร็วที่สุด

 

อ้างอิง:

The post หัวหน้าฝ่ายค้นหา Google ส่งสารเตือนพนักงาน ยอมรับและปรับตัวกับแนวทางการทำงานใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปลดแล้ว ปลดอยู่ ปลดต่อ ซีอีโอ Google ย้ำพนักงาน ‘เลย์ออฟ’ ปีนี้ยังไม่จบ https://thestandard.co/google-ceo-employee-layoffs/ Thu, 18 Jan 2024 11:28:22 +0000 https://thestandard.co/?p=889382 Sundar Pichai

ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอบริษัท Google ได้ออกมาส่งสารเตือนพน […]

The post ปลดแล้ว ปลดอยู่ ปลดต่อ ซีอีโอ Google ย้ำพนักงาน ‘เลย์ออฟ’ ปีนี้ยังไม่จบ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Sundar Pichai

ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอบริษัท Google ได้ออกมาส่งสารเตือนพนักงานด้วยตัวเองถึงความเป็นไปได้ที่การลดจำนวนคนเพิ่มเติม ว่าจะเกิดขึ้นอีกระลอกในปีนี้ เหตุผลเป็นเพราะบริษัทกำลังเดินหน้าโยกเงินไปลงทุนในด้านอื่นโดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI)

 

“ลำดับความสำคัญในปี 2024 และปีต่อๆ ไป” คือพาดหัวจดหมายที่พิชัยส่งถึงพนักงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดย CNBC เปิดเผยเนื้อหาในจดหมายที่ระบุไว้ว่า “เรามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และจะทุ่มเงินลงทุนในสิ่งที่เรามองว่าสำคัญ” 

 

ความสำคัญที่ว่านี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเทคโนโลยี AI ที่กำลังเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของบริษัทบิ๊กเทค และการที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้บริษัทก็จำเป็นจะต้องเลือกตัดสินใจกับ ‘ตัวเลือกที่ยาก’ ซึ่งหมายถึงการที่ใครหลายๆ คนจะไม่ได้อยู่กับ Google ต่อนั่นเอง

 

การประกาศครั้งล่าสุดนี้ด้วยตัวของซีอีโอ เป็นการส่งสัญญาณว่าการปลดคนของบริษัท Google ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2023 ยังไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ ซึ่ง ณ ตอนนั้นมีคนของ Google ได้รับผลกระทบไปกว่า 12,000 คน หรือราว 6% ของพนักงานประจำทั้งหมด และทางบริษัทยังได้ตัดสวัสดิการบางอย่าง เช่น แล็ปท็อปและอุปกรณ์ทำงานต่างๆ ออกไปด้วย

 

มาในปีใหม่ 2024 สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในปีที่แล้วก็ยังมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นต่อ หลังจากที่พนักงานราว 1,000 คนถูกบอกข่าวร้ายและจำต้องออกจากงานไป ซึ่งแผนกที่ได้รับผลกระทบประกอบด้วยทีมวิศวกร ทีมฮาร์ดแวร์ และทีมโฆษณา

 

อย่างไรก็ตาม พิชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า “บางแผนกจะต้องเตรียมจัดวางโครงสร้างทรัพยากรเผื่อไว้” แต่เขายืนยันว่าการปลดคนในปีนี้จะไม่มากเทียบเท่ากับปี 2023 และไม่ได้จะเกิดขึ้นกับทุกหน่วยงานในบริษัท

 

อ้างอิง:

The post ปลดแล้ว ปลดอยู่ ปลดต่อ ซีอีโอ Google ย้ำพนักงาน ‘เลย์ออฟ’ ปีนี้ยังไม่จบ appeared first on THE STANDARD.

]]>
วงในเผย Apple รับส่วนแบ่ง 36% ของรายได้ ‘Google Search’ จากการค้นหาบน Safari https://thestandard.co/apple-gets-google-search-revenue-from-safari/ Wed, 15 Nov 2023 11:06:39 +0000 https://thestandard.co/?p=866027 Apple Google Search

Google จ่ายส่วนแบ่ง 36% ของรายได้จากโฆษณาบนการค้นหาใน S […]

The post วงในเผย Apple รับส่วนแบ่ง 36% ของรายได้ ‘Google Search’ จากการค้นหาบน Safari appeared first on THE STANDARD.

]]>
Apple Google Search

Google จ่ายส่วนแบ่ง 36% ของรายได้จากโฆษณาบนการค้นหาใน Safari ให้ Apple ภายใต้เงื่อนไขข้อตกลงแพลตฟอร์มค้นหาเบื้องต้นของทั้งสองบริษัท พยานของ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google กล่าวในศาลฎีกา ในระหว่างการต่อสู้ในคดีการต่อต้านการผูกขาดที่ยืดเยื้อระหว่าง Google และกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ

 

ตัวเลขดังกล่าวซึ่งไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะมาก่อน เป็นหนึ่งในข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนที่สุดว่าข้อตกลงในแพลตฟอร์มการค้นหาสามารถสร้างผลกำไรให้กับทั้ง Apple และ Google ได้อย่างไร ที่ผ่านมา ทั้งสองบริษัทพยายามปกปิดการเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลง โดยอ้างถึงผลกระทบที่อาจเกิด เช่น การต่อต้านการแข่งขัน

 

Kevin Murphy ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชิคาโก ซึ่งเป็นพยานที่เปิดเผยคำให้การดังกล่าว ไม่น่าจะมีการเปิดเผยโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของ Google ในการต่อสู้กับข้อกล่าวหาของกระทรวงยุติธรรมที่ระบุว่า บริษัทกำลังรักษาอำนาจเหนือตลาดแพลตฟอร์มการค้นหาและโฆษณาอย่างผิดกฎหมาย 

 

ข้อตกลงแพลตฟอร์มการค้นหาเบื้องต้นเป็นจุดสนใจหลักในกระบวนการชั้นศาล ผู้พิพากษา Amit Mehta กล่าวถึงข้อตกลงระหว่าง Apple และ Google ว่าเป็นเหมือน ‘หัวใจ’ ของคดีนี้ และเป็นตัวเลขที่ตลาดวอลล์สตรีทให้ความสนใจเช่นกัน 

 

Toni Sacconaghi นักวิเคราะห์ของ Bernstein คาดการณ์ว่า Apple จะทำรายได้ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2023 จากการทำสัญญากับ Google เพื่อแบ่งรายได้จากการค้นหา 

 

Sundar Pichai ซีอีโอของ Alphabet พยายามปกป้องข้อตกลงดังกล่าวเมื่อเขาให้การเป็นพยานในการดำเนินคดี แต่คู่แข่งของ Google อธิบายว่าข้อตกลงดังกล่าวสร้างความเสียหายให้แก่ธุรกิจของพวกเขา ตัวอย่างเช่น Satya Nadella ได้โต้กลับในรายละเอียดเมื่อเขาให้การเป็นพยานในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

 

Nadella ระบุว่า ทุกปีที่เขาดำรงตำแหน่งสูงสุดที่ Microsoft จะต้องมีการเจรจากับ Apple เกี่ยวกับข้อตกลงเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นสำหรับ Bing ของ Microsoft แม้ว่านั่นจะหมายถึงการสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในระยะสั้นก็ตาม แต่ Nadella ก็กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการเจรจาเกิดขึ้น

 

อ้างอิง:

The post วงในเผย Apple รับส่วนแบ่ง 36% ของรายได้ ‘Google Search’ จากการค้นหาบน Safari appeared first on THE STANDARD.

]]>
พนักงาน Google ไม่พอใจที่ซีอีโอ ซันดาร์ พิชัย ได้รับค่าตอบแทนสูงเกือบ 7,700 ล้านบาท ท่ามกลางนโยบายปรับลดต้นทุนของบริษัท https://thestandard.co/google-employee-unhappy-with-sundar-pichai-salary/ Thu, 04 May 2023 03:59:13 +0000 https://thestandard.co/?p=784966 Sundar Pichai

พนักงาน Google จำนวนมากแสดงความไม่พอใจบริษัทที่จ่ายผลตอ […]

The post พนักงาน Google ไม่พอใจที่ซีอีโอ ซันดาร์ พิชัย ได้รับค่าตอบแทนสูงเกือบ 7,700 ล้านบาท ท่ามกลางนโยบายปรับลดต้นทุนของบริษัท appeared first on THE STANDARD.

]]>
Sundar Pichai

พนักงาน Google จำนวนมากแสดงความไม่พอใจบริษัทที่จ่ายผลตอบแทนให้กับซีอีโออย่าง ซันดาร์ พิชัย เป็นจำนวนมหาศาลถึง 226 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 7,700 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้เป็นผลประโยชน์ที่เขาได้รับผ่านหุ้นของบริษัทราว 218 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้พิชัยเป็นหนึ่งในซีอีโอที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดในสหรัฐฯ

 

การจ่ายผลตอบแทนดังกล่าวให้กับผู้บริหารดูจะเป็นการกระทำที่สวนทางกับนโยบายของบริษัทแม่อย่าง Alphabet ที่มีความพยายามในการปรับลดต้นทุนของบริษัท และปรับลดจำนวนพนักงานไปแล้วถึง 12,000 ตำแหน่งเพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตที่ลดลง ขณะเดียวกันพนักงานของ Google ยังวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการซื้อคืนหุ้นจำนวน 7 หมื่นล้านดอลลาร์ของบริษัทอีกด้วย 

 

ข้อมูลเรื่องค่าตอบแทนของพิชัยถูกเผยแพร่ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ โดยเอกสารดังกล่าวระบุว่า ในปีที่ผ่านมาพิชัยได้รับผลตอบแทนรวม 226 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็น ค่ารักษาความปลอดภัยส่วนตัวราว 6 ล้านดอลลาร์ เงินเดือน 2 ล้านดอลลาร์ และหุ้นของบริษัทมูลค่า 218 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนับว่าเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากจากปี 2021 ที่เขาได้รับค่าตอบแทนรวมทั้งหมดเพียง 6.3 ล้านดอลลาร์

 

ความร่ำรวยที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดของพิชัยทำให้พนักงานของ Google สร้างมีมจำนวนมากขึ้นมาล้อเลียนและเสียดสีเขา โดยนำซีอีโอของตัวเองไปเปรียบเทียบกับซีอีโอของบริษัทอื่น เช่น ทิม คุก ของ Apple ที่ในปีที่ผ่านมาได้รับค่าตอบแทนลดลง 40% และ อีริก หยวน ของ Zoom ที่ยอมปรับลดเงินเดือนตัวเองถึง 98% และปฏิเสธที่จะรับโบนัสหลังจากที่เขาต้องเลิกจ้างพนักงานไป 1,300 ตำแหน่ง

 

นอกจากนี้ มีมของพนักงาน Google ยังล้อเลียนนโยบายของบริษัทที่ตัดสวัสดิการ เช่น แล็ปท็อป ค่าใช้จ่ายสำหรับฟิตเนสและคาเฟ่ที่เคยมอบให้พนักงาน แต่การตัดลดดังกล่าวกลับไม่ครอบคลุมถึงซีอีโอ

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พิชัยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากพนักงานของ Google ในปีที่ผ่านมาเขาเคยถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการปรับลดค่าตอบแทนและสวัสดิการของผู้บริหารในบริษัท โดยในครั้งนั้นเขาตอบกลับว่า “เราไม่ควรเปรียบเทียบความสนุกกับเงิน”

 

ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา พิชัยออกมาระบุว่า เขาจะแสดงความรับผิดชอบต่อการปรับลดพนักงานครั้งใหญ่ของบริษัทด้วยการไม่ขอรับโบนัส แต่เลี่ยงที่จะพูดถึงการปรับลดค่าตอบแทนของพนักงาน 

 

โดยล่าสุดพนักงานบริษัทได้ทำมีมเปรียบเทียบพิชัยกับ Lord Farquaad ตัวละครจากการ์ตูนชื่อดัง Shrek ที่เคยพูดประโยคว่า “Some of you may die, but that is a sacrifice I am willing to make.” หรือ “พวกคุณบางคนอาจตาย แต่นั่นคือการเสียสละที่ฉันเต็มใจทำ”


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


อ้างอิง:

The post พนักงาน Google ไม่พอใจที่ซีอีโอ ซันดาร์ พิชัย ได้รับค่าตอบแทนสูงเกือบ 7,700 ล้านบาท ท่ามกลางนโยบายปรับลดต้นทุนของบริษัท appeared first on THE STANDARD.

]]>
ซันดาร์ พิชัย แม่ทัพ Google รับค่าตอบแทนในปี 2022 ด้วยมูลค่า 7.8 พันล้านบาท ซึ่งพนักงานที่มีรายได้ขั้นต่ำต้องใช้เวลาทำงาน 7,000 ปีถึงจะมีเงินเดือนเท่า https://thestandard.co/sundar-pichais-salary-in-2022/ Mon, 24 Apr 2023 06:03:03 +0000 https://thestandard.co/?p=780447 Sundar Pichai

ซันดาร์ พิชัย ผู้เป็นแม่ทัพของ Alphabet บริษัทแม่ Googl […]

The post ซันดาร์ พิชัย แม่ทัพ Google รับค่าตอบแทนในปี 2022 ด้วยมูลค่า 7.8 พันล้านบาท ซึ่งพนักงานที่มีรายได้ขั้นต่ำต้องใช้เวลาทำงาน 7,000 ปีถึงจะมีเงินเดือนเท่า appeared first on THE STANDARD.

]]>
Sundar Pichai

ซันดาร์ พิชัย ผู้เป็นแม่ทัพของ Alphabet บริษัทแม่ Google โกยเงินเข้ากระเป๋ากว่า 226 ล้านดอลลาร์ หรือ  7.8 พันล้านบาท ในปี 2022 ที่ผ่านมา ทำให้เขาเป็นหนึ่งในซีอีโอที่ได้รับค่าตอบแทนมากที่สุดในอเมริกา

 

รายงานระบุว่า พิชัยได้โบนัสมูลค่า 218 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 ผ่านการให้สิทธิ์หุ้น 3 ปี ขณะที่เงินเดือนประจำปีอยู่ที่ 2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงเลยตั้งแต่ปี 2020 โดย Alphabet ยังใช้เงินเกือบ 6 ล้านดอลลาร์ในการรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคลให้กับเขาด้วย

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ผู้บริหารคนอื่นๆ รวมถึงรองประธานอาวุโสฝ่ายความรู้และข้อมูลของ Google และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจต่างก็มีรายได้ประมาณ 37 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.3 พันล้านบาทในปีที่ผ่านมา

 

ค่าตอบแทนของพิชัยทำให้เขาเป็นหนึ่งในซีอีโอที่ได้รับค่าตอบแทนดีที่สุดในโลก ขณะเดียวกันความเหลื่อมล้ำด้านค่าจ้างเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ประกาศเลิกจ้างทั่วโลก โดยลดพนักงาน 12,000 ตำแหน่งทั่วโลกในเดือนมกราคม คิดเป็น 6% ของจำนวนพนักงานทั่วโลก

 

พิชัยได้กล่าวถึงการปลดพนักงานดังกล่าวว่า เขาจะ ‘รับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจที่นำ Google มาถึงจุดนี้’

 

เมื่อต้นเดือนนี้ พนักงาน Google หลายร้อยคนนัดหยุดงานที่สำนักงานในลอนดอนหลังจากเกิดข้อพิพาทเรื่องการปลดพนักงาน ส่วนในเดือนมีนาคม พนักงานของ Google หยุดงานประท้วงที่สำนักงานของบริษัทในซูริก หลังจากพนักงานกว่า 200 คนถูกเลิกจ้าง

 

ปกติแล้วพนักงานของ Google จะมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 280,000 ดอลลาร์ นั่นหมายความว่าเงินเดือนของพิชัยมากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 800 เท่า

 

ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ได้ค่าแรงขั้นต่ำ 15.50 ดอลลาร์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย บ้านเกิดของ Alphabet จะต้องทำงาน 14.6 ล้านชั่วโมง หรือมากกว่า 7,000 ปี (โดยทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และไม่มีวันหยุด) เพื่อให้ทันกับเงินเดือนในปี 2022 ของพิชัย

 

ค่าตอบแทนของผู้บริหารที่ล้ำหน้าพนักงานทั่วไปอย่างมาก เป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รายงานของ CNN ระบุว่า ค่าจ้างสำหรับผู้บริหารระดับสูงพุ่งสูงขึ้น 1,460% ตั้งแต่ปี 1978 จากการศึกษาของสถาบันนโยบายเศรษฐกิจ และมากกว่า 80% ของค่าจ้างมักจะเกี่ยวข้องกับหุ้น

 

“เศรษฐกิจจะไม่เสียหายหากซีอีโอได้รับค่าจ้างน้อยลง (หรือถูกเก็บภาษีมากขึ้น)” นักวิเคราะห์ของสถาบันเขียน

 

รายงานข่าวระบุว่า ทิม คุก แม่ทัพของ Apple ลดค่าจ้างของตัวเองในปี 2023 ลง 40% หลังจากได้รับคำวิจารณ์จากผู้ถือหุ้น หลังจากมีรายได้ 100 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 และ 2021

 

ค่าตอบแทนส่วนใหญ่ในปี 2022 ของคุก หรือประมาณ 75% ถูกผูกไว้กับหุ้นของบริษัท โดยครึ่งหนึ่งขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของราคาหุ้น โดยผู้ถือหุ้นโหวตไม่เห็นด้วยกับแพ็กเกจจ่ายเงินของคุกหลังจากที่หุ้นของ Apple ร่วงลงเกือบ 27% ในปีที่แล้ว

 

แม้การลงคะแนนไม่มีผลผูกพัน แต่คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนของคณะกรรมการกล่าวว่า คุกเป็นผู้ร้องขอให้ลดจำนวนผลตอบแทนลง

 

ภาพ: Justin Sullivan / Getty Images

อ้างอิง:

The post ซันดาร์ พิชัย แม่ทัพ Google รับค่าตอบแทนในปี 2022 ด้วยมูลค่า 7.8 พันล้านบาท ซึ่งพนักงานที่มีรายได้ขั้นต่ำต้องใช้เวลาทำงาน 7,000 ปีถึงจะมีเงินเดือนเท่า appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘บิล เกตส์’ ยกการพัฒนา AI เป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในรอบ 40 ปี https://thestandard.co/bill-gates-ai-advance-technology/ Wed, 22 Mar 2023 03:14:48 +0000 https://thestandard.co/?p=766568 บิล เกตส์

บิล เกตส์ มหาเศรษฐี นักธุรกิจ และผู้ร่วมก่อตั้ง Microso […]

The post ‘บิล เกตส์’ ยกการพัฒนา AI เป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในรอบ 40 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
บิล เกตส์

บิล เกตส์ มหาเศรษฐี นักธุรกิจ และผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft และพัฒนาจนกลายเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา ได้แสดงความเห็นผ่านบล็อกโพสต์ส่วนตัว ยกย่องการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในรอบกว่า 40 ปี โดย AI ถือเป็นพื้นฐานในการสร้างไมโครโปรเซสเซอร์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล อินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือ

 

ขณะเดียวกันเกตส์ยังเชื่อว่า AI จะมีบทบาทสำคัญในการเข้ามาเปลี่ยนวิธีการทำงาน การเรียนรู้ การเดินทาง การดูแลสุขภาพ และการติดต่อสื่อสารระหว่างกันของมนุษย์ 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ความเห็นในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ Microsoft กลายเป็นจุดสนใจในแวดวงเทคโนโลยี เมื่อมีการเปิดตัวแชตบอตอย่าง ChatGPT ซึ่งพัฒนาโดย OpenAI 

 

ChatGPT เป็นแชตบอตปัญญาประดิษฐ์ซึ่งตั้งโปรแกรมให้ตอบคำถามออนไลน์โดยใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติเหมือนมนุษย์ โดยเกตส์ระบวุ่า ตนเองได้พบปะพูดคุยกับทีมงาน OpenAI ที่อยู่เบื้องหลังปัญญาประดิษฐ์ที่ขับเคลื่อนแชตบอต ChatGPT ตั้งแต่ปี 2016 และในปี 2022 เขาก็ได้ท้าทายให้ทีม OpenAI ฝึก AI ที่สามารถผ่านการสอบชีววิทยาขั้นสูง (AP) ภายใต้เงื่อนไขว่า AI นั้นๆ ต้องได้รับการฝึกเหมือนเดิม ไม่ใช่เน้นเฉพาะการฝึกตอบคำถามด้านชีววิทยาแต่เพียงอย่างเดียว 

 

จากนั้นในไม่กี่เดือนต่อมา AI ดังกล่าวสามารถตอบคำถามได้เกือบถูกทั้งหมด ขาดไปเพียงข้อเดียวจากทั้งหมด 50 ข้อ เมื่อเห็นผลดังนั้นเกตส์ได้ขอให้ AI เขียนจดหมายในฐานะพ่อเพื่อตอบโต้กับลูกที่กำลังป่วย และผลลัพธ์ก็คือ AI สามารถเขียนคำตอบได้อย่างรอบคอบ 

 

เกตส์บรรยายว่า ผลลัพธ์ที่ได้รับในเวลานั้นคือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่มีการกำเนิดขึ้นของ GUI หรือ Graphical User Interface ซึ่งเป็นการใช้งานคอมพิวเตอร์ผ่านสัญลักษณ์ภาพ เช่น ไอคอน นอกเหนือจากการใช้งานทางตัวอักษร

 

ขณะเดียวกันเกตส์ได้ใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้รัฐบาลต่างๆ ทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อ ‘จำกัดความเสี่ยง’ ของ AI โดยชี้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยชีวิตผู้คนได้ ซึ่งเกตส์เชื่อมโยงว่าการปรับปรุงพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับประเทศยากจน 

 

“คนจำนวนมากในประเทศยากจนไม่เคยไปพบแพทย์ และ AI จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น” เกตส์ขยายความ 

 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มีการนำ AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เกตส์เรียกร้องให้นานาประเทศทั่วโลกมีแนวทางเป้าหมายสำหรับเทคโนโลยี AI ในอนาคตที่สอดคล้องไปในทางเดียวกัน เพราะกลไกตลาดจะไม่ผลิตผลิตภัณฑ์และบริการ AI ที่เอื้อต่อคนยากจน ดังนั้นจึงต้องมีการแทรกแซงจากภาครัฐเข้ามาช่วย 

 

เกตส์เชื่อมั่นว่าด้วยเงินทุนที่เชื่อถือได้และนโยบายที่ถูกต้อง รัฐบาลและองค์กรการกุศลสามารถรับประกันได้ว่า AI จะถูกใช้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เกตส์ย้ำว่า AI ที่ดีที่สุดต้องถูกนำมาใช้แก้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของโลก เหมือนกับที่โลกต้องการคนที่ฉลาดที่สุดในการให้ความสำคัญกับปัญหาที่ใหญ่ที่สุด 

 

Google มุ่งพัฒนา ‘Bard’ ด้วยฟีดแบ็กจากสาธารณะ

 

ด้าน ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google เสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวกับพนักงานว่า ความสำเร็จของ Bard โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ใหม่ของบริษัทที่เพิ่งเปิดตัวนั้น ขึ้นอยู่กับการทดสอบสาธารณะ โดยการทดสอบความสามารถของสาธารณจะช่วยทำให้มองเห็นข้อบกพร่อง ซึ่งมีความสำคัญต่อการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีพื้นฐานของ AI ของ Google 

 

ข้อความดังกล่าวของพิชัยถึงพนักงานมีขึ้นหลังจากที่ Google เปิดตัว Bard แชตบอตปัญญาประดิษฐ์ ในเช้าวันอังคารที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากรอคอยมานานหลายเดือน ผลิตภัณฑ์นี้สร้างขึ้นจาก LaMDA หรือ Language Model for Dialogue Applications ของ Google สามารถตอบคำถามที่ซับซ้อนหรือคำถามปลายเปิดแบบคุยได้ เช่น “ขอไอเดียสอนลูกสาวตกปลาแบบ Flying Fish”

 

ขณะเดียวกันก่อนที่จะมีการเปิดตัว Bard สู่สาธารณะ พิชัยเผยว่ามีพนักงาน Google 80,000 คนที่มีส่วนร่วมในการทดสอบ Bard ซึ่งรวมถึงการขอร้องให้พนักงานเขียนคำตอบที่ไม่ดีของแชตบอตใหม่ โดยสำหรับในช่วงทดสอบสาธารณะนี้พิชัยระบุว่า เป็นความพยายามของบริษัทที่จะทดสอบอย่างมีความรับผิดชอบ และได้เชิญผู้ทดสอบที่เชื่อถือได้ 10,000 คน “จากภูมิหลังและมุมมองที่หลากหลาย” มาร่วมทดสอบเพื่อปรับปรุงศักยภาพของ Bard ด้วย 

 

ทั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่าความเคลื่อนไหวของพิชัยมีขึ้นเพื่อให้กำลังใจพนักงาน Google ที่น่าจะเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงข้อผิดพลาดของ Bard โดยพิชัยย้ำว่าคำวิจารณ์ดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา Bard ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด 

 

อ้างอิง: 

The post ‘บิล เกตส์’ ยกการพัฒนา AI เป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในรอบ 40 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดมุมมอง ‘14 ผู้นำโลกธุรกิจ’ คิดอย่างไรกับ AI อย่าง ChatGPT https://thestandard.co/ai-chatgpt-world-leader-opinion/ Sat, 11 Mar 2023 07:38:10 +0000 https://thestandard.co/?p=761446 ChatGPT

หลังการเปิดตัวของ ChatGPT ตั้งแต่ปลายปี 2022 โลกธุรกิจโ […]

The post เปิดมุมมอง ‘14 ผู้นำโลกธุรกิจ’ คิดอย่างไรกับ AI อย่าง ChatGPT appeared first on THE STANDARD.

]]>
ChatGPT

หลังการเปิดตัวของ ChatGPT ตั้งแต่ปลายปี 2022 โลกธุรกิจโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่างมุ่งสู่การพัฒนา AI จนหลายบริษัทต้องหันกลับมาพัฒนาและให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี AI มากขึ้น 

 

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า ChatGPT จะเป็นคำตอบให้กับทุกอย่างได้ ขณะเดียวกันผู้นำในโลกธุรกิจเองก็มีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป อย่างกรณีของ Bill Gates เชื่อว่า ChatGPT จะช่วยให้คนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่ Elon Musk เชื่อว่า AI จะเป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดต่ออารยธรรมในอนาคต 

 

ChatGPT ChatGPT ChatGPT ChatGPT ChatGPT ChatGPT ChatGPT ChatGPT ChatGPT ChatGPT ChatGPT ChatGPT ChatGPT ChatGPT


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


อ้างอิง:

The post เปิดมุมมอง ‘14 ผู้นำโลกธุรกิจ’ คิดอย่างไรกับ AI อย่าง ChatGPT appeared first on THE STANDARD.

]]>
ซีอีโอ Google บอกว่า ถึงไม่ใช่รายแรกที่เข้าสู่ตลาด แต่ก็ชนะในท้ายที่สุดได้ หลังโดนพนักงานสับเละเรื่องดัน Bard ออกมาสู้กับ Microsoft ทั้งที่ไม่พร้อม https://thestandard.co/sundar-bard-top-product/ Thu, 16 Feb 2023 06:57:42 +0000 https://thestandard.co/?p=751371

ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของ Google ได้ส่งเอกสารเป็นการภายใน […]

The post ซีอีโอ Google บอกว่า ถึงไม่ใช่รายแรกที่เข้าสู่ตลาด แต่ก็ชนะในท้ายที่สุดได้ หลังโดนพนักงานสับเละเรื่องดัน Bard ออกมาสู้กับ Microsoft ทั้งที่ไม่พร้อม appeared first on THE STANDARD.

]]>

ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของ Google ได้ส่งเอกสารเป็นการภายในที่ระบุว่า อยากให้พนักงานใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงในระหว่างสัปดาห์เพื่อทดสอบ Bard เครื่องมือแชตปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท ในขณะที่เขาเผชิญกับคำวิจารณ์จากการที่ผู้บริหารตอบสนองช้าต่อ ChatGPT และคู่แข่งของ Microsoft

 

“ฉันรู้ว่าช่วงเวลานี้น่าตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเทคโนโลยีพื้นฐานกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วด้วยศักยภาพที่สูงมาก” CNBC รายงานว่านี่เป็นคำพูดของพิชัยที่เขียนในอีเมล 

 

แม่ทัพของ Google ยังบอกอีกว่า ถึง Google จะไม่ใช่คนแรกที่ออกผลิตภัณฑ์เสมอไป แต่นั่นไม่ได้ขัดขวางความสามารถในการชนะ

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

“ผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบางรายการของเราไม่ใช่ผลิตภัณฑ์แรกที่ออกสู่ตลาด” พิชัยเขียน “พวกเราได้รับแรงผลักดันจากการแก้ปัญหาความต้องการของผู้ใช้ และสร้างขึ้นจากข้อมูลเชิงลึกทางเทคนิค”

 

มีเครื่องมือค้นหามากมายก่อนที่ Google จะเข้าสู่ตลาดในปี 1996 แต่เกือบทั้งหมดหายไปเมื่อ Google เข้ามาครอบงำอุตสาหกรรมนี้ รวมไปถึง Android ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการบนมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน

 

ถึงกระนั้น Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google ก็โดนนักลงทุนโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่บริษัทได้รับผลกระทบจากการประกาศของ Microsoft เกี่ยวกับเสิร์ชเอนจิน Bing ที่ผสานรวม ChatGPT ในขณะที่ Google เปิดตัว Bard แต่ความผิดพลาดหลายครั้งทำให้ราคาหุ้นลดลงเกือบ 9%

 

หุ้นที่ลดลงอย่างมาก ทำให้พนักงานวิพากษ์วิจารณ์พิชัยโดยบอกว่า มีแต่ความเร่งรีบและไม่เรียบร้อยอย่างที่ Google ควรจะทำ

 

“สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราสามารถทำได้ในตอนนี้คือ การมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยความรับผิดชอบ” พิชัยเขียนในอีเมลฉบับล่าสุด

 

ในเดือนธันวาคม ไม่นานหลังจากที่ OpenAI เผยแพร่ ChatGPT สู่สาธารณะ ผู้บริหารของ Google เตือนว่าพวกเขาต้องพิจารณาแนะนำเครื่องมือค้นหา AI เนื่องจากบริษัทมี ‘ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง’ มากขึ้น และกำลังดำเนินการ ‘อย่างระมัดระวังมากกว่าสตาร์ทอัพขนาดเล็ก’

 

สำหรับ Bard พิขัยบอกว่า มีคนภายนอกและภายในหลายพันคนทดสอบการตอบสนองในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความสมเหตุสมผลของข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริง

 

“AI ได้ผ่านฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิมามากมาย และตอนนี้มันก็บานอีกครั้ง” เขากล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่จะ “ยอมรับความท้าทายและเดินหน้าต่อไป ผ่านการถ่ายทอดพลังงานและความตื่นเต้นของช่วงเวลานั้นลงในผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งการทดสอบจะทำให้ Bard เป็นผลิตภัณฑ์ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน”

 

อ้างอิง:

The post ซีอีโอ Google บอกว่า ถึงไม่ใช่รายแรกที่เข้าสู่ตลาด แต่ก็ชนะในท้ายที่สุดได้ หลังโดนพนักงานสับเละเรื่องดัน Bard ออกมาสู้กับ Microsoft ทั้งที่ไม่พร้อม appeared first on THE STANDARD.

]]>
กลัวตาม Microsoft ไม่ทัน! พนักงาน Google วิจารณ์ ‘ซีอีโอ’ อย่างเผ็ดร้อน เหตุรีบเปิดตัวแชตบอต Bard เร็วเกินไปทั้งที่ยังไม่พร้อม จนฉุดหุ้นร่วง 3.4 ล้านล้านบาท https://thestandard.co/google-employees-slam-ceo-bard/ Mon, 13 Feb 2023 03:15:57 +0000 https://thestandard.co/?p=749323

สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานอ้างอิง Memegen ซึ่งเป็นแพลตฟอ […]

The post กลัวตาม Microsoft ไม่ทัน! พนักงาน Google วิจารณ์ ‘ซีอีโอ’ อย่างเผ็ดร้อน เหตุรีบเปิดตัวแชตบอต Bard เร็วเกินไปทั้งที่ยังไม่พร้อม จนฉุดหุ้นร่วง 3.4 ล้านล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>

สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานอ้างอิง Memegen ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสนทนาที่พนักงานใช้สื่อสารกันภายในบริษัท ที่แสดงข้อความวิพากษ์วิจารณ์ ซันดาร์ พิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google อย่างเผ็ดร้อน 

 

ความเห็นของพนักงานส่วนใหญ่มองว่า พิชัยรีบร้อนเกินไป กลัวตาม Microsoft ไม่ทัน ทำให้การพัฒนา Bard ขาดความละเอียดรอบคอบในการทำงาน อีกทั้งการพัฒนายังขาดทีมเวิร์ก และไม่มีความเป็นเฉียบคมแม่นยำอย่างที่ Google เคยเป็น

 

รายงานระบุว่า ซีอีโอ Google รีบเปิดตัวแชตบอตปัญญาประดิษฐ์ (Chatbot AI) อย่าง Bard เร็วเกินไป ทั้งๆ ที่แชตบอตดังกล่าวยังไม่มีความพร้อม จนทำให้ Bard ให้ข้อมูลที่ผิดพลาดในช่วงดำเนินการทดสอบ ฉุดหุ้นของ Alphabet ร่วงลง 9% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามาร์เก็ตแคปที่หายไปอย่างน้อย 1 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 3.4 ล้านล้านบาท

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

Google เปิดตัว Bard เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมในวันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ ในงานอีเวนต์แห่งหนึ่งในกรุงปารีส ซึ่งระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว ทางด้านคู่แข่งอย่าง Microsoft ก็เปิดเผยการใช้งาน ChatGPT บน Bing เสิร์ชเอนจินของทางค่าย ท่ามกลางสื่อมวลชนที่ได้รับเชิญให้มาร่วมทดสอบการใช้งาน ChatGPT ผ่าน Bing ณ สำนักงานใหญ่ในเมืองเรดมอนด์ รัฐวอชิงตัน 

 

บรรดาพนักงาน Google จำนวนหนึ่งระบุว่า ความไม่พร้อมเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ในงานอีเวนต์เปิดตัว Bard ที่กรุงปารีส เนื่องจากคนที่ต้องนำเสนอศักยภาพของ Bard ดันลืมมือถือสำหรับใช้ในการสาธิต ตามด้วยการให้ข้อมูลกล้องโทรทรรศน์เจมส์ เว็บบ์ ที่ผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริง จนกลายเป็นข่าวเมาท์สนุกปากในวงการเทคโนโลยี 

 

ขณะที่อีกโพสต์หนึ่งระบุว่า พิชัยและทีมผู้บริหาร Google ควรได้รับคะแนนการประเมินในระดับต่ำสุด เพราะการตัดสินใจของผู้บริหารเป็นการมองแค่ในระยะสั้น และขาดความเป็น Google อย่างที่ควรจะเป็น 

 

นอกจากนี้ พนักงานยังวิจารณ์ต่อว่า ทั้งการเปิดตัว Bard และการปลดพนักงานรอบล่าสุดถึง 12,000 คนเป็นการตัดสินใจที่เร่งรีบ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คือความล้มเหลว พร้อมวอนขอให้ซีอีโอ Google หันกลับมายึดเป้าหมายระยะยาวดีกว่า 

 

ภาพ:  Andrej Sokolow / picture alliance via Getty Images

อ้างอิง:

https://finance.yahoo.com/news/why-googles-ai-rollout-cost-shareholders-more-than-100-billion-174703170.html

The post กลัวตาม Microsoft ไม่ทัน! พนักงาน Google วิจารณ์ ‘ซีอีโอ’ อย่างเผ็ดร้อน เหตุรีบเปิดตัวแชตบอต Bard เร็วเกินไปทั้งที่ยังไม่พร้อม จนฉุดหุ้นร่วง 3.4 ล้านล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>