steak – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 25 Sep 2024 08:00:11 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Beastie สเต็กเฮาส์ของสายเนื้อที่เน้นเสิร์ฟทุกเมนูให้กินง่าย กินสนุก https://thestandard.co/life/beastie-steak-house Thu, 26 Sep 2024 00:00:25 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=987859

Beastie ร้านสเต็กบนถนนกำแพงเพชรที่สายเนื้อต้องรู้จัก เพ […]

The post Beastie สเต็กเฮาส์ของสายเนื้อที่เน้นเสิร์ฟทุกเมนูให้กินง่าย กินสนุก appeared first on THE STANDARD.

]]>

Beastie ร้านสเต็กบนถนนกำแพงเพชรที่สายเนื้อต้องรู้จัก เพราะที่นี่นำโดยเชฟกระทะเหล็กชื่อดังอย่าง เชฟอ๊อฟ-ณัฐวุฒิ ธรรมพันธุ์ ผู้รับหน้าที่รังสรรค์เมนูทั้งหมดในสเต็กเฮาส์แห่งนี้ เพราะฉะนั้นถ้าใครเป็น Beef Lover ไว้ใจได้เลยว่าหากแวะมาที่นี่ต้องได้ลองของดี แถมล่าสุดเชฟยังปรับเมนูใหม่ทั้งหมดให้กินง่าย เข้าใจง่าย แต่รับรองว่ารสชาติและคุณภาพของเนื้อยังสมศักดิ์ศรีเหมือนเดิม

 

 

The Vibe

 

Beastie อยู่ในพื้นที่เดียวกับร้านอาหารวังหิ่งห้อยและ WH Cafe ซึ่งทั้งหมดมีเจ้าของเดียวกัน เมื่อเปิดประตูเข้ามาทุกคนจะพบกับบรรยากาศสุดขรึมแต่แฝงไปด้วยความเซ็กซี่ด้วยโทนดำผสมแดง พร้อมกับครัวตามแนวยาวเต็มฝั่งหนึ่งของห้อง ซึ่งตรงนั้นเป็นโซน Open Kitchen ที่สามารถเดินไปชมเชฟทำอาหารได้ตลอดเวลา ส่วนโต๊ะที่นั่งมีทั้งสำหรับคนมาเป็นกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ตามสไตล์อาหารที่เหมาะกับการแชริ่งกินด้วยกันหลายๆ คนถึงจะสนุก

 

 

The Taste

 

ถ้าใครเคยแวะมาตั้งแต่สมัยร้านใช้ชื่อว่า The Beast จะรู้ว่าร้านเลือกใช้เนื้อคุณภาพและเสิร์ฟด้วยเมนูที่แปลกใหม่ชวนเปิดโลก เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มรสเนื้อแบบเต็มขั้น ทว่าตอนนี้ร้านกลับมาในคอนเซปต์ใหม่ที่เข้าใจง่ายข้ึนในชื่อ Beastie พร้อมกับคุณภาพและรสชาติที่ไม่ลดลง โดยอาหารจะเสิร์ฟในรูปแบบอะลาคาร์ตเช่นเดิม แถมมาในพอร์ชันใหญ่เหมาะสั่งมากินด้วยกัน

 

 

เมื่อมาถึงทุกคนจะได้รับ Welcome Drink และขนมปังโฮมเมดกับเฟตาชีสดิปราดน้ำผึ้งโรยถั่วพิสตาชิโอเป็นเมนู Complimentary ก่อนเมนูที่สั่งจะค่อยๆ มาเสิร์ฟเรียงรายบนโต๊ะ 

 

ซึ่งเมนูแรกที่ร้านแนะนำให้สั่งคือ Beef Carpaccio (780 บาท) จานเรียกน้ำย่อยที่เสิร์ฟมาบนกระดานไม้อันใหญ่ เมนูนี้ใช้เนื้อดิบส่วน Tenderloin นำมาทุบให้เป็นแผ่นบางๆ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย น้ำมันมะกอก เวลากินให้ตัดเนื้อเป็นชิ้นๆ แล้วห่อผักร็อกเก็ตและพาร์เมซานชีสที่โรยอยู่ด้านบน กินทั้งหมดในหนึ่งคำแล้วครบรส

 

 

ต่อมาเป็นเมนูที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาด Chinatown Short Ribs Rice Pot (1,950 บาท) ข้าวผัดมันเนื้ออบถั่งเช่า ด้านบนเป็นเนื้อซี่โครงส่วนปลายที่ผ่านการซูวีนาน 48 ชั่วโมงจนเปื่อยนุ่ม ราดด้วยซอสบาร์บีคิวสูตรพิเศษของทางร้านที่มีกลิ่นอายของเครื่องเทศจีน เสิร์ฟมาในหม้อใหญ่ร้อนๆ ที่เปิดฝามาแล้วกลิ่นหอมฉุยชวนให้รีบตักใส่ปาก เวลากินต้องคลุกทุกอย่างให้เข้ากัน กินทั้งหมดในหนึ่งคำจะได้รสชาติเข้มข้น นุ่มละมุน มีความเผ็ดเล็กๆ ให้พอไม่เลี่ยน

 

 

ส่วนคนชอบสเต็กที่อยากเคี้ยวเนื้อนุ่มๆ เราแนะนำ Ribeye 300 g (2,200 บาท) เนื้อริบอายที่ดรายเอจนาน 28 วัน ก่อนนำไปคลุกเคล้าผงโกโก้ และกริลล์จนหอมสีสวย ผิวด้านนอกมีความกรอบเบาๆ เนื้อด้านในยังฉ่ำ จะกินแบบไม่จิ้มซอสก็มีรสชาติ

 

 

จานของกินเล่นที่นี่ก็ห้ามพลาดเหมือนกัน โดยเฉพาะ Pomme Dauphinois (290 บาท) มันฝรั่งสไลด์บางที่นำมาเรียงกันเป็นเลเยอร์ ก่อนนำไปอบด้วยไฟอ่อนๆ 1 ชั่วโมงจนกรอบ เวลากัดไปผิวมันฝรั่งด้านนอกจะกรอบ ส่วนด้านในมีความนุ่มฉ่ำเนย กินตอนร้อนๆ คู่กับซอสชิมิชูรีมาโยแล้วขอยกให้เป็นเมนูกินเล่นที่รสชาติไม่เล่น ถ้าใครมาเราไม่อยากให้พลาดจานนี้

 

กับอีกเมนูย้อนวัยทว่ารสชาติไม่เด็ก Mac and Cheese (290 บาท) ที่ด้านบนท็อปด้วยชีส 3 ชนิด คือ เชดดาชีส พาร์เมซานชีส และมอสซาเรลลาชีส ตักขึ้นมาหนึ่งคำแล้วเจอชีสหอมมันเต็มปากเต็มคำ

 

 

ปิดท้ายด้วยของหวาน เราชอบ Chocolate Lava (280 บาท) เค้กช็อกโกแลตรสชาติเข้มข้นที่เสิร์ฟมาร้อนๆ ส่วนด้านบนเป็นไอศกรีมวานิลลา ตักกินพร้อมกันแล้วลงตัวมากๆ หรืออีกเมนู New York cheesecake (220 บาท) ชีสเค้กสไตล์นิวยอร์กสูตรเฉพาะของร้าน เนื้อแน่นละมุน กินคู่กับซอส Blood Orange Dressing รสเปรี้ยวหวาน

 

Good for

 

นี่คืออีกร้านที่สายเนื้อต้องโดน เราชอบที่ทุกเมนูเข้าใจง่ายและกินสนุก ทำให้จะมากับเพื่อนหรือครอบครัวก็เอ็นจอยด้วยกันได้ไม่ยาก แถมร้านยังมีโซน Open Kitchen อีกต่างหาก คนที่ชอบดูการปรุงเนื้อ หรือชอบกลิ่นเนื้อหอมๆ ต้องนั่งรอจนน้ำลายสอแน่นอน 

 

Beastie

Address: ใกล้ RCA อยู่ติดถนนกำแพงเพชร 7

Open: ทุกวัน เวลา 17.30-23.00 น.

Contact: Beastie

Budget: 2,000-3,000 บาท

Map:

 

 

The post Beastie สเต็กเฮาส์ของสายเนื้อที่เน้นเสิร์ฟทุกเมนูให้กินง่าย กินสนุก appeared first on THE STANDARD.

]]>
Roast ปล่อยเมนูใหม่สไตล์คอมฟอร์ต สั่งมาเอ็นจอยได้ทั้งเช้า-ค่ำ https://thestandard.co/life/roast-new-menu-comfort-style Tue, 09 Jul 2024 10:30:42 +0000 https://thestandard.co/?post_type=life&p=955526 Roast

พอรู้ว่า Roast ร้านอาหาร All Day Dining ที่หลายคนรักอัป […]

The post Roast ปล่อยเมนูใหม่สไตล์คอมฟอร์ต สั่งมาเอ็นจอยได้ทั้งเช้า-ค่ำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Roast

พอรู้ว่า Roast ร้านอาหาร All Day Dining ที่หลายคนรักอัปเดตไลน์อัพเมนูใหม่ พวกเราก็ไม่ลังเลที่จะไปลอง แน่นอนว่ารังสรรค์โดยเชฟ Johnny Liu และทีมเชฟของ Roast โดยรอบนี้พวกเขาอยากนำเสนออะไรใหม่ๆ บวกกับตั้งใจครีเอตให้ทันสมัยขึ้นด้วย แต่ยังคงความหลากหลายอยู่เช่นเดิม

 

เมนูอาหารเป็นสไตล์คอมฟอร์ต คือสั่งมากินด้วยกันได้บนโต๊ะเดียว เหมาะกับการแชริ่ง หรือกินมื้อเดียวแบบอิ่มๆ เมนูที่เราได้ชิม ได้แก่ French Onion Grilled Cheese (380 บาท) ขนมปังซาวโดวจ์ฉ่ำๆ กริลล์จนผิวกรอบ ตรงกลางเป็นไส้ชีสหอมๆ มาพร้อมซุปมะเขือเทศ ใครจะตักราดหรือหยิบขนมปังจุ่มซุปแล้วกินก็ได้ บอกเลยว่าเมนูนี้ดี ติดใจสุดๆ แถมยังเป็นวีแกนด้วย

 

 

เมนูต่อมา Rotolo (380 บาท) จานนี้เหมาะกับสาย Cheese Lover เป็นพาสต้าม้วนที่ยิ่งกินร้อนๆ จะยิ่งฟิน เพราะรสชาติชีสผสมกับซอสมะเขือเทศแล้วละมุนเข้ากัน ส่วนไส้มีทั้งเห็ด ผักโขม และชีสริคอตตา

 

แล้วตัดรสด้วยจานเบาๆ อย่างสลัด Kale Salad (280 บาท) ที่มีความสดชื่นจากบัลซามิก จานนี้โรยเบคอนกรอบและชีสนมแพะ จะได้กินแล้วเอ็นจอยกันทุกคน

 

 

Fried Chicken (580 บาท) น่าจะเป็นไฮไลต์ของเมนูใหม่รอบนี้เลย เป็นไก่ชิ้นโตๆ ชุบแป้งทอดกรอบ เสิร์ฟมาให้ครึ่งตัวพร้อมเครื่องเคียงอย่างสลัดข้าวโพดและสลัดมันฝรั่ง เราอยากให้ลองชิมไก่อย่างเดียวก่อน เพราะตัวแป้งที่ร้านใช้ก็มีรสชาติ แล้วค่อยจิ้มดิป 2 รสชาติที่ให้มาพร้อมกัน

 

 

จานหลักมีให้เลือกหลายอย่าง เราชอบ Steak Frites (1,250 บาท) เนื้อพริกไทยดำสไตล์ฝรั่งเศสที่ย่างจนหอมเนย กินพร้อมกับซอสเกรวีและเฟรนช์ฟรายส์กรอบๆ 

 

หรือตัวเลือกอื่นที่มีความเฮลตี้เพิ่มขึ้นมาทีละนิด Roasted Cauliflower & Grilled Chicken (380 บาท) อกไก่หมักสมุนไพรกับดอกกะหล่ำ ถั่วลูกไก่ ทับทิม ควินัว และซอสโยเกิร์ต หรือ Salmon Buddha Bowl (580 บาท) แซลมอนย่างกินคู่กับสลัดผักสีสันชวนหิว

 

 

ส่วนของหวาน ร้านแนะนำ 2 เมนู คือ Guilty Chocolate Cake (240 บาท) เค้กช็อกโกแลตเข้มข้นที่มีอัลมอนด์เคลือบช็อกโกแลตเคลือบด้านนอก และ Millefeuille (220 บาท) มิลย์เฟยไส้ครีมวานิลลาสำหรับคนอยากได้อะไรละมุนๆ เบาๆ

 

Roast

 

Address: theCOMMONS ทองหล่อ, centralwOrld, EmQuartier

Open: ทุกวัน เวลา 09.00-22.00 น.

Contact: Roast

Budget: 500-1,000 บาท

Map: 

 

 

The post Roast ปล่อยเมนูใหม่สไตล์คอมฟอร์ต สั่งมาเอ็นจอยได้ทั้งเช้า-ค่ำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Sizzler รับโอกาสขายช่วงไฮซีซันเทศกาลการจับจ่าย ด้วยการลอนซ์สเต๊กพรีเมียม 3 เมนู พร้อมตกแต่งร้านธีมคริสต์มาส ดึงลูกค้าเข้าร้าน https://thestandard.co/sizzler-new-premium-steak/ Tue, 07 Nov 2023 05:10:03 +0000 https://thestandard.co/?p=863236 sizzler

หัวใจการทำตลาด Sizzler ร้านอาหารในเครือไมเนอร์ ฟู้ด ในไ […]

The post Sizzler รับโอกาสขายช่วงไฮซีซันเทศกาลการจับจ่าย ด้วยการลอนซ์สเต๊กพรีเมียม 3 เมนู พร้อมตกแต่งร้านธีมคริสต์มาส ดึงลูกค้าเข้าร้าน appeared first on THE STANDARD.

]]>
sizzler

หัวใจการทำตลาด Sizzler ร้านอาหารในเครือไมเนอร์ ฟู้ด ในไตรมาส 4 ช่วงไฮซีซันของเทศกาลการจับจ่าย ด้วยการลอนซ์เมนู Festive Season สเต๊กพรีเมียม 3 เมนู พร้อมตกแต่งร้านธีมคริสต์มาส ดึงให้ผู้บริโภคเข้าร้าน 

 

“ถึงวันนี้ Sizzler จะเข้ามาทำตลาดในไทยกว่า 30 ปีแล้ว แต่ยังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจผ่านแนวคิด ‘OVER 30 YEARS OF SIZZLING EXPERIENCES’ หรือความเชี่ยวชาญด้านสเต๊กและสลัดบาร์ ที่ผ่านมามีการเปิดตัวเมนูใหม่ๆ จากวัตถุดิบทั้งนำเข้าจากต่างประเทศและในประเทศ เน้นความพรีเมียมในราคาเข้าถึงง่าย พบว่าได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี” อนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัดภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว

 

จากกลยุทธ์ข้างต้น ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจของ Sizzler มีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง และในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี บริษัทได้นำกลยุทธ์ Festive Marketing เข้ามาสร้างความเคลื่อนไหว พร้อมเปิดตัว 3 เมนูสเต๊ก ได้แก่ สเต๊กปลากะพงและเบคอน ราคา 549 บาท ตามด้วยสเต๊กบีฟลอยน์และเบคอน ราคา 899 บาท และสเต๊กเนื้อไพรม์ริบ ราคา 1,999 บาท 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ควบคู่กับการทำกิจกรรมการตลาดทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ชอบรับประทานข้าวที่บ้าน ให้ออกมารับประทานข้าวนอกบ้าน โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของการจับจ่าย

 

นอกจากการลอนซ์เมนูอาหารใหม่แล้ว Sizzler ยังให้ความสำคัญกับการรักษาฐานลูกค้า ด้วยการมอบสิทธิพิเศษตลอดช่วงกิจกรรมผ่าน Loyalty Program E-Member ที่มีฐานสมาชิกปัจจุบันมากกว่า 4 แสนคน 

 

อีกทั้งลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 90% เข้ามาใช้บริการในรูปแบบไดน์อิน (Dine-in) ทำให้ Sizzler ออกแบบและตกแต่งบรรยากาศร้านให้สอดรับกับช่วงเทศกาลต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ และให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์และลูกค้ามากขึ้น ที่สำคัญยังเป็นการช่วยกระตุ้นยอดขายการนั่งรับประทานในร้านเพิ่มขึ้น 

 

“เรามั่นใจว่ายอดขายปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนทิศทางธุรกิจในปี 2567 ยังคงเดินหน้าพัฒนาเมนูสเต๊กและสลัดบาร์ใหม่ๆให้พรีเมียมกว่าเดิม พร้อมรักษาฐานลูกค้าเดิมด้วยการจัดโปรโมชันผ่านโปรแกรม (Loyalty Program) ให้ลูกค้าสมาชิกทุกระดับรวมไปถึงการขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ห้างสรรพสินค้าและหัวเมืองหลักทั่วประเทศเพิ่มขึ้น” อนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป Sizzler ย้ำ

The post Sizzler รับโอกาสขายช่วงไฮซีซันเทศกาลการจับจ่าย ด้วยการลอนซ์สเต๊กพรีเมียม 3 เมนู พร้อมตกแต่งร้านธีมคริสต์มาส ดึงลูกค้าเข้าร้าน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ร้าน No Name ชี้แจงข้อสงสัยกับ THE STANDARD https://thestandard.co/no-name-clarify-doubts/ https://thestandard.co/no-name-clarify-doubts/#respond Mon, 25 Jun 2018 12:30:53 +0000 https://thestandard.co/?p=100724

หลังจากที่กลายเป็นประเด็นว่ามีความคล้ายคลึงกับร้านสเต๊ก […]

The post ร้าน No Name ชี้แจงข้อสงสัยกับ THE STANDARD appeared first on THE STANDARD.

]]>

หลังจากที่กลายเป็นประเด็นว่ามีความคล้ายคลึงกับร้านสเต๊กดังจากลอนดอน ร้าน Flat Iron Wagyu ในเกษรวิลเลจ กรุงเทพฯ ที่ล่าสุดเปลี่ยนชื่อเป็น ‘No Name’ ได้ออกมาเผยถึงประเด็นที่กำลังได้รับการถกเถียงโดยตรงกับ THE STANDARD โดยทางร้านชี้แจงประเด็นดังนี้

 

ได้ยินว่าตอนแรกตั้งใจให้ออกมาเป็นร้านออยสเตอร์คาเวียร์บาร์ ไม่ใช่ร้านสเต๊ก

“ตอนแรกจะทำเป็นออยสเตอร์คาเวียร์บาร์ เพราะเมืองไทยยังไม่มีบาร์สไตล์นี้ ก็เลยอยากให้มีร้านประเภทนี้ จริงๆ เราเอาแฟรนไชส์มาเปิดก็ได้ แต่ทำไม่ได้ เพราะถ้าเราจะเอา quality เดียวกับที่เขาใช้ มันทำไม่ได้ เพราะร้านนั้นอยู่ที่อังกฤษ แล้วสามารถใช้เนื้อจากประเทศอย่างสกอตแลนด์ได้ ไม่มี import tax แต่เราต้องอิมพอร์ตอย่างเดียวเพื่อให้เนื้อคุณภาพเท่ากัน เราอยากให้คนไทยได้กินเนื้อดีๆ ที่ affordable

 

“คนส่วนมากไม่รู้ว่า Flat Iron คืออะไร มันเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อ เหมือนริบอาย พอร์เตอร์เฮาส์ ร้านชื่อพอร์เตอร์เฮาส์เต็มเลย ส่วนที่เห็นว่า Flat Iron Wagyu นั่นเป็นแค่ม็อกอัพแค่ชั่วคราว ร้านนี้ใช้เวลาสร้างทั้งหมดเดือนครึ่ง สร้างด่วน และเปลี่ยนคอนเซปต์เร็วมาก ตอนแรกมันจะเป็นออยสเตอร์แอนด์คาเวียร์ แต่เราเพิ่งมาเจอเนื้อ หลังจากเทสต์เนื้อมาเยอะมากเป็นร้อยๆ กิโลกรัม บินไปดูฟาร์มต่างๆ เพื่อหาซัพพลายเออร์ที่ใช่ แต่พอเจอเนื้อที่ใช่เราเลยปรับคอนเซปต์ ดีไซน์ในร้านเหมือนเดิม”

 

 

แล้วทำไมใช้ชื่อ Flat Iron Wagyu แต่แรกคะ

“มันเป็นแค่ม็อกอัพ ตอนแรกจะเป็นออยสเตอร์คาเวียร์บาร์ก่อน ถ้าสังเกตเรายังไม่มีโลโก้ฮอร์ดิงเลย เพราะเราเปลี่ยนกะทันหันมาก และดีไซน์ทุกอย่างภายใน 2 เดือนครึ่ง ชื่อที่ตั้งนั่นมาจาก 2 เมนู คือ The Flat Iron กับ The Wagyu เพราะตามกฎหมายเราต้องมีโลโก้ด้วย เราถึงยังไม่ได้เปิดทางการ เลยตั้งให้คนเข้าใจว่าเรามีเนื้อสองตัวนี้ ไม่ได้คิดไปเยอะขนาดนั้น และชื่อ ‘Flat Iron’ จริงๆ คนอาจจะไม่เข้าใจว่ามันเป็นคัตของเนื้อ ลูกค้าส่วนมากมักไม่รู้ แต่จริงๆ มันเป็นชื่อคัตของเนื้อ”

 

ทำไมโลโก้ถึงใกล้เคียงตัวแบรนด์ดังด้วย

“มีดใช่ไหม เราไม่ได้ตั้งใจ คือไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น เพราะเราทำทุกอย่างเร็วมาก แต่ก็คือยอมรับว่ามันเป็นอินสไปเรชัน เราอยากให้ทำยังไงก็ได้ในราคา 500 บาท”

 

แต่มันเหมือนมากเลยนะ

“มันเป็นแค่ชั่วคราว เพราะเราต้องตั้งฮอร์ดิงโลโก้ ใช้เวลาวันหนึ่งเองมั้ง แล้วเราค่อย develop หาชื่อมาเป็น No Name ส่วนพวกอินสตาแกรม เฟซบุ๊กนั่นเราครีเอตไว้ก่อนเพราะเราเปลี่ยนได้ ไม่ได้นึกว่าคนจะเข้าใจผิด”

 

คือไม่ได้ตั้งใจจะใช้ชื่อนี้แต่แรกหรือคะ

“ไม่เลย ถามสตาฟฟ์ ถามลูกค้าที่มาได้ ที่ถามว่า ‘นี่ที่มาจากลอนดอนเหรอ’ เราตอบว่า ‘ไม่ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับที่ลอนดอน’ เราไม่ได้ให้คนเข้าใจผิด จริงๆ น่าจะคิดได้ แต่ทุกอย่างมันเร็วมาก อันนั้นคือพลาด เรายอมรับ”

 

 

ทำไมอยู่ดีๆ เปลี่ยนเป็นชื่อ No Name ได้

“No Name มัน expand ได้ แล้วจริงๆ จะเปิดอีก 3 ร้านภายในเดือนตุลาคม เราแค่อยากได้ชื่อที่ไม่ฟิกซ์ ไม่ต้องตั้งเป็นชื่อเนื้อ อย่างแฟลตไอรอน พอร์เตอร์เฮาส์ บุตเชอรี มันน่าเบื่อ เราอยากเป็นอะไรที่ยูนีก ถ้าดูจากเมนูจะรู้ อาหารของเราไม่ได้เหมือน เราแค่ใช้ส่วนเนื้อที่เหมือน ส่วนเรื่องดิสเพลย์ที่เห็นนี่เราใช้ของไทยหมด”

 

ทางร้านว่าอย่างไรกับที่มีคนมองว่าตัวเมนูก็คล้ายกัน

“ตัวเลย์เอาต์นี้ดีที่สุด มันเป็นแค่ฟอร์แมตที่อ่านง่าย ร้านอาหารหลายร้านก็ใช้แบบนี้ เราไม่อยากให้คนเข้าใจผิด เรายังไม่ Grand Opening เลย เราตั้งใจทำให้เป็นร้านที่ easy to approach สมมติอยากสั่งกลางวันก็สั่ง 500 บาทได้ สั่งสเต๊ก สั่งไข่กับซอส ซอสทรัฟเฟิลราคา 50 บาทเอง เราอยากให้เป็น ‘the most approachable restaurant in the most prime location’ ที่เกษร”

 

สรุปว่าร้านไปยืมคอนเซปต์ของเขามา เรื่องนี้จริงไหม

“คือถามว่ายืมอินสไปเรชันมาไหม ใช่ เราอยากให้คนไทยได้ทานเนื้อในราคาที่ affordable ที่คุณภาพดีมากๆ ของเราเป็นออสเตรเลียน เราอิมพอร์ตหมดเลย อินสไปเรชันที่ว่าคือใช้ส่วนเนื้อแฟลตไอรอนเท่านั้น”

 

ร้าน No Name นี่คือชื่อที่ตั้งใจตั้งแล้วจริงๆ หรือวางแผนจะเปลี่ยนอีกทีคะ

“ใช่ No Name นี่คือชื่อร้านที่ตั้งใจตั้งแล้ว เราเอาไปทำหลายๆ อย่างได้ อย่าง No Name Sushi Bar เป็นชื่อที่ตั้งตอนที่กำลังทำร้าน มันทำให้คนถามถึงหรือสงสัย เหมือนคุยกับเพื่อนว่าไป ‘ร้านไม่มีชื่อ’ มันน่าสงสัย”

 

ตอนนี้ร้านยังไม่มีป้ายแปะ แต่สรุปจะมีชื่อแปะข้างนอกใช่ไหม

“มี แต่กำลังทำอยู่ ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเลย แต่ได้ฤกษ์เสียก่อน และหลังทำพิธี เราต้องห้ามปฏิเสธลูกค้า มันเป็นความเชื่อ ตอนแรกตั้งใจจะเปิดเดือนหน้า (ก.ค.) และลองเทสต์รันกับคนที่เชิญ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วก็ลองดูเพื่อดูฟีดแบ็กจริงๆ”

 

ร้าน ‘No Name’ ตั้งอยู่ที่เกษรวิลเลจ และวางแผนเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบในเดือนกรกฎาคม 2561 โดยทางร้านวางแผนจะเสิร์ฟสเต๊กแฟลตไอรอนฟรีต่อโต๊ะเพื่อให้ทดลองชิมกันด้วย

 

ติดตามความเคลื่อนไหวของร้านได้ทางอินสตาแกรม @nonamebkk

The post ร้าน No Name ชี้แจงข้อสงสัยกับ THE STANDARD appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/no-name-clarify-doubts/feed/ 0