Standard International – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 07 Nov 2024 14:33:42 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 แสนสิริ เปิดตัวโรงแรมหรูใน นิวยอร์ก มูลค่า 5 พันล้านบาท ชี้เทรนด์ท่องเที่ยวหรูมาแรง นักท่องเที่ยวเอเชียพร้อมจับจ่าย https://thestandard.co/sansiri-the-manner-new-york/ Thu, 07 Nov 2024 14:33:42 +0000 https://thestandard.co/?p=1006017

แสนสิริ ประกาศเปิดตัวโรงแรม The Manner ในย่านโซโห มหานค […]

The post แสนสิริ เปิดตัวโรงแรมหรูใน นิวยอร์ก มูลค่า 5 พันล้านบาท ชี้เทรนด์ท่องเที่ยวหรูมาแรง นักท่องเที่ยวเอเชียพร้อมจับจ่าย appeared first on THE STANDARD.

]]>

แสนสิริ ประกาศเปิดตัวโรงแรม The Manner ในย่านโซโห มหานครนิวยอร์ก มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 5 พันล้านบาท หรือประมาณ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นโครงการภายใต้การพัฒนาของ Standard International หลังจากการเข้าลงทุนโดยกลุ่ม Hyatt 

 

โรงแรมดังกล่าวประกอบด้วยห้องพัก 97 ห้อง รวมห้องสวีท 10 ห้อง โดยมีขนาดตั้งแต่ 300-850 ตารางฟุต ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000 บาทต่อคืน การออกแบบอยู่ภายใต้การดูแลของ Verena Haller, Chief Design Officer จาก Standard International และ Hannes Peer สถาปนิกชาวมิลาน

 

ด้านบริการร้านอาหาร โรงแรมร่วมงานกับเชฟ Alex Stupak ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล James Beard เพื่อเปิดร้านอาหาร The Otter ให้บริการอาหารทะเลตลอดวัน นอกจากนี้ยังมี Slone’s บาร์ค็อกเทล ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2568

 

การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการขยายธุรกิจในต่างประเทศครั้งสำคัญของแสนสิริ หลังจากประสบความสำเร็จจากโครงการ 9 Elvaston Place โครงการระดับไฮเอนด์แห่งแรกใจกลางลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในรอบกว่าทศวรรษ มูลค่ารวม 600 ล้านบาท ซึ่งมีเพียง 6 ยูนิต

 

รายงานจาก Luxury Travel Trend Watch: 2025 โดย Virtuoso และ Globetrender ระบุว่า เทรนด์การท่องเที่ยวระดับลักชัวรีกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความมั่งคั่งสูง (High-Net-Worth Individuals: HNWI) ซึ่งมีอายุเฉลี่ยลดลง และพร้อมจ่ายเพื่อประสบการณ์การพักผ่อนที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว

 

โดยเฉพาะโรงแรมที่มีการออกแบบที่สะท้อนรสนิยม ทั้งนี้ ตลาดเอเชียถือเป็นผู้ขับเคลื่อนสำคัญของตลาดสินค้าและบริการระดับหรู โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและเอเชียที่มีกำลังซื้อสูง

The post แสนสิริ เปิดตัวโรงแรมหรูใน นิวยอร์ก มูลค่า 5 พันล้านบาท ชี้เทรนด์ท่องเที่ยวหรูมาแรง นักท่องเที่ยวเอเชียพร้อมจับจ่าย appeared first on THE STANDARD.

]]>
Hyatt ทุ่มเงิน ‘หมื่นล้านบาท’ เข้าซื้อหุ้น 71% ในเชนโรงแรม Standard International จากแสนสิริ คาดปิดดีล ก.ย. นี้ https://thestandard.co/hyatt-100b-baht-standard-international/ Wed, 21 Aug 2024 02:46:23 +0000 https://thestandard.co/?p=973352

ผู้ถือหุ้นใหญ่ในเชนโรงแรม Standard International กำลังจ […]

The post Hyatt ทุ่มเงิน ‘หมื่นล้านบาท’ เข้าซื้อหุ้น 71% ในเชนโรงแรม Standard International จากแสนสิริ คาดปิดดีล ก.ย. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>

ผู้ถือหุ้นใหญ่ในเชนโรงแรม Standard International กำลังจะเปลี่ยนมืออีกครั้ง หลังจากที่แสนสิริแจ้งถึงการที่ Hyatt จะใช้เงินนับหมื่นล้านบาทเข้าซื้อหุ้นที่แสนสิริถืออยู่ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจา และคาดว่าจะปิดดีลในเดือนกันยายนนี้

 

“การเข้าลงทุนซื้อกิจการ Standard International ของ Hyatt ครั้งนี้จะส่งผลดีและสร้าง Value Added ต่อแสนสิริเป็นอย่างมาก” อุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าว

 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2560 แสนสิริใช้เงิน 58 ล้านดอลลาร์เข้าลงทุนใน Standard International ด้วยการถือหุ้น 35% หลังจากนั้นก็มีการเพิ่มสัดส่วนเรื่อยมา จนปัจจุบันตัวเลขอยู่ที่ 71% 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

เบื้องต้นสัญญาจะซื้อจะขายดังกล่าวยังครอบคลุมสัญญาบริหารและแฟรนไชส์สำหรับโรงแรมมากถึง 21 แห่ง มีห้องรวมกันราว 2,000 ห้อง มีทั้งโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว เช่น The Standard, London สหราชอาณาจักร, The Standard, High Line ในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา, The Standard, Bangkok Mahanakhon ประเทศไทย รวมถึงโรงแรมบูติกอย่าง Hotel Saint Cecilia ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา และ Hotel San Cristóbal ในเมืองบาฮากาลิฟอร์เนีย ประเทศเม็กซิโก

 

หลังจากที่บรรลุข้อตกลงตามสัญญาดังกล่าว Hyatt จะชำระค่าตอบแทนเริ่มแรกจำนวน 150 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มเติมอีกสูงสุดไม่เกิน 185 ล้านดอลลาร์สำหรับโรงแรมแห่งใหม่ที่เกิดขึ้นภายใต้การบริหารโดย Hyatt ซึ่งรวมแล้วจะเป็นเงินราว 335 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.14 หมื่นล้านบาทด้วยกัน 

 

อมาร์ ลัลวานี ประธานกรรมการบริหาร Standard International เคยให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD WEALTH เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ว่า แผนต่อจากนี้จะมีการขยายอีกราว 50 แห่งทั่วโลกภายในปี 2569 ในไทยจะมีแบรนด์ The Standard ที่พัทยา (ปี 2567), เขาใหญ่ (ปี 2568) และมีเป้าหมายที่จะเปิดในภูเก็ตและเกาะสมุย

 

ส่วน The Peri จะมี The Peri Hotel, Riverside Bangkok (ปี 2567), The Peri Hotel, Bangkok Sukhumvit (ปี 2568) และ The Peri Hotel, Phuket (ปี 2569)

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะขายหุ้นไปแล้ว แต่แสนสิริจะยังเป็นเจ้าของพร็อพเพอร์ตี้ประกอบไปด้วย The Standard, Hua Hin, The Standard Residences, Hua Hin, The Peri Hotel, Hua Hin, The Peri Hotel, Khao Yai และเป็นเจ้าของ The Manner โรงแรมระดับลักชัวรีที่กำลังจะเปิดตัวในย่านโซโหของเมืองนิวยอร์ก ในเดือนกันยายนนี้

 

“แสนสิริยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจ Hospitality และมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ในอนาคตเช่นกัน” อุทัยกล่าว 

 

ภาพ: Gothiclolita / Shutterstock

The post Hyatt ทุ่มเงิน ‘หมื่นล้านบาท’ เข้าซื้อหุ้น 71% ในเชนโรงแรม Standard International จากแสนสิริ คาดปิดดีล ก.ย. นี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เครือโรงแรม The Standard เตรียมนำ ‘ธุรกิจ Residences’ บุกไทย จับมือแสนสิริเปิดที่หัวหิน และเครือเซ็นทรัลที่ภูเก็ต คาดขายไตรมาส 1/67 เคาะราคาเริ่มต้นเกือบ 10 ล้าน https://thestandard.co/the-standard-international-sansiri/ Wed, 28 Jun 2023 12:26:09 +0000 https://thestandard.co/?p=808891 Standard International

ไทยกลายเป็นประเทศที่ 3 ที่ Standard International เชนโร […]

The post เครือโรงแรม The Standard เตรียมนำ ‘ธุรกิจ Residences’ บุกไทย จับมือแสนสิริเปิดที่หัวหิน และเครือเซ็นทรัลที่ภูเก็ต คาดขายไตรมาส 1/67 เคาะราคาเริ่มต้นเกือบ 10 ล้าน appeared first on THE STANDARD.

]]>
Standard International

ไทยกลายเป็นประเทศที่ 3 ที่ Standard International เชนโรงแรมสุดฮิปเลือกที่จะขยายธุรกิจ Residences เข้ามา หลังจากมองเห็นโอกาสจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว

 

ธุรกิจ Residences ได้เปิดตัวแล้ว 2 แห่งที่ The Standard Residences, Midtown Miami ซึ่งมีราคาเริ่มต้น 6.5 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 23 ล้านบาท และมีราคาแพงสุดอยู่ที่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 35 ล้านบาท

  


ข่าวที่เกี่ยวข้อง: 


 

อีกแห่งคือ The Standard Residences, Palácio Santa Clara ประเทศโปรตุเกส มีราคาเริ่มต้น 9 แสนยูโร หรือราว 35 ล้านบาท และมีเพนต์เฮาส์ราคาแพงอยู่ที่ราว 2 ล้านยูโร หรือ 78 ล้านบาทด้วยกัน

 

“ทั้ง 2 แห่งประสบความสำเร็จในการเปิดตัวและขายไป 80% ซึ่งเหลือเพียงไม่กี่ยูนิตเท่านั้น” อมาร์ ลัลวานี ประธานกรรมการบริหาร The Standard International กล่าว “ที่เราเลือกมาเปิดที่ไทย นอกจากตลาดที่ฟื้นตัวแล้ว ยังมาจากการรับรู้แบรนด์หลังจากที่เราเปิดโรงแรม 2 แห่ง”

 

สำหรับในไทย แห่งแรกจะเป็นการจับมือกับ ‘แสนสิริ’ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ The Standard International ในสัดส่วน 62% เบื้องต้นอยู่ติดชายหาดห่างจาก The Standard, Hua Hin ราว 4.5 กิโลเมตร ประกอบด้วยห้อง 258 ยูนิต ตั้งแต่ 1 ห้องนอน ขนาด 45 ตารางเมตร ถึงพูลวิลล่า ขนาด 220 ตารางเมตร คาดเปิดขายไตรมาส 1/67

 

ส่วนอีกแห่งจับมือ ‘เครือเซ็นทรัล’ เปิดที่ภูเก็ตภายใต้ชื่อ The Standard Residences, Phuket Laguna โดยมี 222 ยูนิต เริ่มต้น 1 ห้องนอน ขนาด 55 ตารางเมตร ถึงดูเพล็กซ์ขนาด 270 ตารางเมตร คาดเปิดขายไตรมาส 1/67 หรืออาจเป็นไตรมาส 4 ของปีนี้

 

โดยราคายังไม่ได้รับการเปิดเผย แต่คาดว่าอาจจะเริ่มต้นเกือบ 10 ล้านบาท

 

“เรายังสนใจที่จะเปิดในกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถหาทำเลที่เหมาะสมได้ โดยเราต้องการทำเลใจกลางเมืองอย่างสุขุมวิท หรือทองหล่อ” บริพัตร หลุยเจริญ กรรมการผู้บริหาร สแตนดาร์ด เอเชีย กล่าว “ขณะนี้เราเปิดรับบริษัทที่อยากพัฒนา Residences ในกรุงเทพฯ”

 

สำหรับธุรกิจโรงแรมมีการเปิดเผยว่า The Standard, Hua Hin ทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนที่ 4 ของการเปิดดำเนินการ ส่วน The Standard, Bangkok Mahanakhon ก็มีทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

 

“เราพบว่าตอนนี้จากเดิมที่เป็นลูกค้าคนไทย ได้ปรับสัดส่วนเป็นลูกค้าต่างชาติมากขึ้น หลักๆ จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ซึ่งรู้จักแบรนด์ของเราจากการไปใช้บริการที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งสามารถบินจากเกาหลีใต้ไปใกล้กว่า”

 

ปัจจุบัน The Standard International ประกอบไปด้วยโรงแรม 21 แห่งทั่วโลก แบ่งเป็นแบรนด์ The Standard 8 แห่ง, The Peri 2 แห่ง และ Bunkhouse 11 แห่งในอเมริกา 

 

สิ่งที่น่าสนใจคือ The Standard International มีอัตราการจองโดยตรง 60% ซึ่งทำให้ประหยัดค่าคอมมิชชันสำหรับการจองผ่านบุคคลที่สาม 15-20% ผู้ใช้เว็บไซต์มีมากกว่า 3 ล้านคนในปี 2565 โดย Standardhotels.com มีสัดส่วนการจอง 45% และอัตราส่วนผู้เข้าพักซ้ำ 30% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความภักดีต่อแบรนด์และลดต้นทุนในการได้มาซึ่งลูกค้า

 

แผนต่อจากนี้จะมีการขยายอีกราว 50 แห่งทั่วโลกภายในปี 2569 ในไทยจะมีแบรนด์ The Standard ที่พัทยา (ปี 2567), เขาใหญ่ (ปี 2568) และมีเป้าหมายที่จะเปิดในภูเก็ตและเกาะสมุย

 

ส่วน The Peri จะมี The Peri Riverside Bangkok (ปี 2567), The Peri Bangkok Sukhumvit (ปี 2568) และ The Peri Phuket (ปี 2569)

The post เครือโรงแรม The Standard เตรียมนำ ‘ธุรกิจ Residences’ บุกไทย จับมือแสนสิริเปิดที่หัวหิน และเครือเซ็นทรัลที่ภูเก็ต คาดขายไตรมาส 1/67 เคาะราคาเริ่มต้นเกือบ 10 ล้าน appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘แสนสิริ’ ลงทุน 800 ล้านบาท เปิด ‘โรงแรม The Standard, Hua Hin’ มองไกล 2-3 ปี เตรียมนำเข้ากองรีทหรือออกเป็น ICO https://thestandard.co/sansiri-open-the-standard-huahin-hotel/ Fri, 19 Nov 2021 03:18:16 +0000 https://thestandard.co/?p=561605 โรงแรม The Standard, Hua Hin

หัวหินเป็นเมืองที่เหมาะสมในการเปิดตัวรีสอร์ตติดชายทะเล […]

The post ‘แสนสิริ’ ลงทุน 800 ล้านบาท เปิด ‘โรงแรม The Standard, Hua Hin’ มองไกล 2-3 ปี เตรียมนำเข้ากองรีทหรือออกเป็น ICO appeared first on THE STANDARD.

]]>
โรงแรม The Standard, Hua Hin

หัวหินเป็นเมืองที่เหมาะสมในการเปิดตัวรีสอร์ตติดชายทะเล เนื่องจากธุรกิจท่องเที่ยวของเมืองชายทะเลอย่างหัวหินมีแนวโน้มสดใสเมื่อเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในประเทศไทย เพราะพึ่งพาตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลักถึง 70% และปัจจุบันมีอัตราเข้าพักสูงกว่าเมืองท่องเที่ยวหลักอย่าง พัทยา ภูเก็ต และกรุงเทพฯ อย่างชัดเจน 

 

โดยข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์แนวโน้มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยระบุว่า 5 เดือนจากนี้ (พฤศจิกายน 2564 – มีนาคม 2565) ซึ่งตรงกับช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซัน จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน ใช้จ่ายเฉลี่ย 60,000 บาทต่อคน 

 

ด้านนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่าร้อยละ 44 โดยเฉพาะกลุ่มคนกรุงเทพฯ มีการวางแผนการเดินทางในช่วงปลายปี 2564 โดยคาดการณ์ว่าที่พักประเภทรีสอร์ตที่มีความเป็นส่วนตัวในเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ จะได้รับความนิยมสูงสุด 

 

ทำให้ ‘แสนสิริ’ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเชนโรงแรม Standard International (สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล) ด้วยสัดสัดส่วนกว่า 62% ตัดสินใจลงทุนกว่า 800 ล้านบาทในการสร้างโรงแรม The Standard, Hua Hin โรงแรมแห่งแรกในไทยและรีสอร์ตติดชายหาดแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายใต้แบรนด์ The Standard

 

อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เล่าว่า ที่ดินผืนนี้ได้มาตั้งแต่ช่วง 2 ปีก่อน โดยเป็นที่ดินแบบลีสโฮลด์ขนาด 15 ไร่ ระยะสัญญาเช่า 30 ปี ซึ่งเจ้าของที่ดินคือตระกูลกฤดากร ที่ต้องการผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยต้องรักษาต้นไม้ใหญ่ทุกต้นและรักษาบ้านโบราณไว้ด้วย 

 

“ตอนแรกเราจะทำเป็นคอนโดมิเนียม แต่ที่สุดแล้วเราตัดสินใจที่จะสร้างเป็นโรงแรมซึ่งเหมาะสมกว่า ที่จะทำให้ที่ดินเกิดประโยชน์สูงสุดแทน”

 

The Standard, Hua Hin มีจุดเด่นเด่นในฐานะรีสอร์ตสุดฮิปติดชายหาดที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ ผ่านแฟชั่น รสนิยม ความล้ำสมัย พร้อมกิจกรรมไลฟ์สไตล์ฉีกมาตรฐานโรงแรมที่เคยรู้จักให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยวได้สัมผัส 

 

โดยแรงแรมแห่งนี้ประกอบด้วยห้องพัก 199 ห้อง ราคา 5,000-30,000 บาทต่อคืน โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 6,000 บาท ซึ่งจะเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ธันวาคม 2564 คาดว่า อัตราการเข้าพักจะอยู่ที่ประมาณ 40% ภายในปี 2564 และเพิ่มเป็น 60% ภายในปี 2565 

 

ขณะเดียวกันสิ่งที่น่าสนใจคือ แม้แสนสิริจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Standard International ซึ่งภายในปี 2024 จะมาเพิ่มขึ้นอีก 12 แห่ง ที่มีทั้งอเมริกา เอเชีย และยุโรป รวมเป็น 20 กว่าแห่งทั่วโลก แต่ The Standard, Hua Hin ถือเป็นโรงแรมแห่งเดียวที่แสนสิริจะลงทุนเองเพราะ “โรงแรมใช้เวลาคืนทุนนาน โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 15-16 ปี แต่สำหรับ The Standard, Hua Hin คาดว่าจะใช้เวลา 10 ปี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะที่ดินเป็นแบบลีสโฮลด์” อุทัยกล่าว

 

ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการกล่าวต่อว่า ต่อไปแสนสิริจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างผู้สนใจลงทุนในธุรกิจโรงแรมกับ Standard International ให้มาเจอกัน และแม้ว่าจะมีโรงแรมจำนวนมากที่สนใจเข้ามาเสนอขายให้กับแสนสิริ “แต่กว่า 80% เรายังไม่สนใจที่จะซื้อ ส่วนอีก 20% นั้นต้องดูก่อนว่าเหมาะสมไหม โดยเฉพาะหากซื้อมาแล้วต้องสามารถรีโนเวตเป็นโรงแรม The Standard ได้”

 

อย่างไรก็ตามหากในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้หาก The Standard, Hua Hin มีอัตราเข้าพักที่ 70-80% ได้ แสนสิริก็มีแผนจะทำเข้ากองรีทหรือออกเป็น ICO ซึ่งจะเป็นแบบไหนนั้นคงต้องประเมินสถานการณ์ในช่วงนั้นอีกที 

 

นอกจากนี้แสนสิริยังวางแผนที่จะนำ Standard International เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ส่วนจะเป็นที่ไทยหรือตลาด Nasdaq ของอเมริกา หรือตลาดอื่นๆ ที่สุดแล้วต้องประเมินอีกทีหนึ่ง

 

ทั้งนี้ในปี 2565 แสนสิริคาดว่า รายได้จากธุรกิจโรงแรมจะอยู่ที่ 500 ล้านบาท และเป็นกำไร 120 ล้านบาท ในด้านรายได้นั้นจะมาจาก The Standard, Hua Hin ราว 400 ล้านบาท ที่เหลือเป็น Peri Khao Yai และ Peri Hua Hin

The post ‘แสนสิริ’ ลงทุน 800 ล้านบาท เปิด ‘โรงแรม The Standard, Hua Hin’ มองไกล 2-3 ปี เตรียมนำเข้ากองรีทหรือออกเป็น ICO appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘แสนสิริ’ ผนึกกำลัง 6 พันธมิตรธุรกิจ พร้อมก้าวสู่แบรนด์ระดับโลก [Advertorial] https://thestandard.co/sansiri-6-business-partners/ https://thestandard.co/sansiri-6-business-partners/#respond Wed, 15 Nov 2017 05:00:46 +0000 https://thestandard.co/?p=44913

     ถือเป็นเรื่องที่น่าจับตามองสำหรับวง […]

The post ‘แสนสิริ’ ผนึกกำลัง 6 พันธมิตรธุรกิจ พร้อมก้าวสู่แบรนด์ระดับโลก [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>

     ถือเป็นเรื่องที่น่าจับตามองสำหรับวงการธุรกิจ เมื่อผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายสำคัญ ‘แสนสิริ’ ประกาศร่วมลงทุนกับ 6 พันธมิตรระดับโลกเพื่อขยายธุรกิจและตั้งเป้าการทำตลาดในภูมิภาคด้วยเม็ดเงิน 80 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2,800 ล้านบาท และก้าวสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก

     และนี่คือการลงทุนครั้งสำคัญในธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของแสนสิริ 

จับมือแบรนด์อินเตอร์เสริมทัพ ต่อยอดสู่แบรนด์ไลฟ์สไตล์

     หลังจากหัวเรือใหญ่ เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้มีการแถลงข่าว (8 พ.ย. 2560) มองทิศทางขยายตัวธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยอยู่ระดับไม่สูงนัก ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ แต่แสนสิริยังตั้งเป้าที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงมองโอกาสการลงทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจด้วยการต่อยอดด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยลงร่วมลงทุนกับ 6 พันธมิตรระดับโลก ได้แก่

  1. Standard International บูติกโฮเทล ‘The Standard’ ที่มีความโดดเด่นด้านไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ที่เป็นเลิศแก่ลูกค้า ทุกแห่งจะมีภัตตาคาร สถานที่พักผ่อนยามค่ำคืน และร้านค้าปลีก มี 5 สาขาในสหรัฐอเมริกา และมีแผนเปิดสาขาที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี 2018 โดยแสนสิริจะบริหารจัดการโรงแรม The Standard ที่จะเปิดสาขาในประเทศไทย และวางแผนลงทุนสร้าง The Standard Residence ที่พักอาศัยระดับบน ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการเป็นมืออาชีพด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของแสนสิริ (ลงทุน 1,900 ล้านบาท)
  2. One:Night แอปพลิเคชันจองที่พักในโรงแรม เป็นส่วนหนึ่งของ Standard International แพลตฟอร์มบนมือถือที่เติบโตและสร้างรายได้อย่างรวดเร็ว สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่หยุดนิ่ง ขณะเดียวกันก็ต้องการข้อเสนอที่ดีที่สุดด้วย โดยจะร่วมมือกับแสนสิริในการพัฒนาระบบและสร้างโอกาสทางธุรกิจ
  3. Hostmaker บริการ Home Sharing สำหรับการเช่าที่พักอาศัย บริษัทผู้บริหารจัดการการจองที่พักอาศัยอันดับหนึ่งของ Airbnb มีประสบการณ์ให้บริการลูกค้ากว่า 1.5 แสนคนทั่วโลก ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางการสร้างรายได้ในต่างประเทศของแสนสิริ (ลงทุน 220 ล้านบาท)
  4. JustCo ผู้ให้บริการ Co-working Space ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วางแผนขยายสาขาเพิ่ม 20 แห่งในปี 2018 ซึ่งเติบโตตามแนวโน้มของรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป วางแผนร่วมกับแสนสิริในการเปิด 4 สาขาในประเทศไทยปีหน้า และจะขยายธุรกิจต่อเนื่องในตลาดเอเชีย (ลงทุน 398 ล้านบาท)
  5. Farmshelf ผู้ให้บริการเทคโนโลยีปลูกผักอัตโนมัติ สร้างมูลค่าเพิ่มให้ที่พักอาศัย ซึ่งถือเป็นอีกธุรกิจที่คนให้ความสนใจ เนื่องจากแนวโน้มของธุรกิจสุขภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากผักที่สะอาดและมีประโยชน์แล้ว Farmshelf ยังจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในการประดับตกแต่งให้กับโครงการของแสนสิริทั้งในและต่างประเทศด้วย (ลงทุน 10 ล้านบาท)
  6. Monocle ภายใต้บริษัท Winkontent AG กลุ่มธุรกิจสื่อที่โดดเด่นด้านเนื้อหาไลฟ์สไตล์ มีฐานลูกค้าที่มีรสนิยมเป็นเลิศและมีกำลังซื้อทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีธุรกิจค้าปลีกด้วย การร่วมมือของสื่อระดับโลกอย่าง Monocle และผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างแสนสิริจะช่วยตอกย้ำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ในเวทีโลกแข็งแกร่งขึ้น นอกจากประโยชน์ด้านสื่อ ยังเตรียมลงทุนร่วมกันเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแบบมิกซ์ยูสในปีหน้าด้วย (ลงทุน 196 ล้านบาท) และในค่ำวันเดียวกัน แสนสิริ ได้จัดงานปาร์ตี้ฉลองการร่วมมือครั้งสำคัญอีกครั้ง โดยมี อภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ร่วมขึ้นกล่าวถึงแผนความร่วมมือกับพันธมิตรทั้ง 6 อีกครั้ง  

 

    จะพบว่าทุกธุรกิจที่ลงทุน แม้จะไม่ใช่ธุรกิจหลักที่ทำอยู่ แต่ก็เป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันทั้งสิ้น แสนสิริมองว่าจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม ขยายฐานลูกค้า และสร้างโอกาสทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศด้วย

     สำหรับ THE STANDARD มีความสนใจในแบรนด์ที่เข้าไปลงทุนมากที่สุดถึง 35% คือ Standard International ที่มีแบรนด์โรงแรมที่แข็งแกร่งอย่าง The Standard ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนดังระดับโลก และโดดเด่นเรื่องการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค

 

 

      อามาร์ ลาลวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ The Standard ให้ข้อมูลว่า รายได้ของโรงแรมมากกว่า 50% มาจากส่วนอื่นที่ไม่ใช่ค่าห้องพัก ซึ่งสะท้อนความนิยมของสินค้าและบริการในโรงแรมที่นำเสนอลูกค้าในรูปแบบที่แปลกใหม่อยู่เสมอ โดยการร่วมลงทุนครั้งนี้มีความสำคัญ นอกเหนือจากการขยายกิจการในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็มองศักยภาพของกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เป็นที่ต่อไป ซึ่งจะร่วมลงทุนและทำงานอย่างใกล้ชิดกับแสนสิริ โดยคาดว่าจะเปิด The Standard สาขาแรกในกรุงเทพมหานคร และอาจจะขยายสาขาสองที่ภูเก็ตในเฟสถัดไป ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยแสนสิริจะเป็นผู้บริหารจัดการโรงแรมให้ นอกเหนือจากธุรกิจโรงแรมที่มีการลงทุนแล้ว ในส่วนของ  One:Night ที่เป็นแอพพลิเคชันของ Standard International ก็ยังเข้ามามีส่วนรวมในการร่วมธุรกิจ โดย จิมมี่ ซูฮ์ ประธานบริหาร One:Night มองว่าการลงทุนจากแสนสิริช่วยให้มีเงินทุนในการพัฒนาธุรกิจอย่างเต็มศักยภาพและเติบโตในระดับนานาชาติ อีกทั้งยังทำให้ One:Night เข้าถึงโอกาสจากการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ของแสนสิริ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ทุกฝ่ายเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง One:Night ตอบโจทย์การบริหารการจองที่พักในกลุ่มโรงแรม The Standard มาโดยตลอด และมีความเชี่ยวชาญในระดับสูงที่จะนำมาใช้กับลูกค้าในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

     สำหรับการร่วมมือในครั้งนี้ แสนสิริ ตอกย้ำแนวทางการลงทุนแบบ Asset Light ที่เน้นสภาพคล่องที่ดี ไม่ถือสินทรัพย์มาก ซึ่งทำให้การขยายธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็ว  

     นอกเหนือจาก 2 พันธมิตรที่ยกมาข้างต้น รายชื่อของพันธมิตรด้านไลฟ์สไตล์ที่เหลือก็เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง นี่จึงถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญของวงการอสังหาริมทรัพย์ที่แสนสิริเลือกที่จะเป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลง โดยยกระดับธุรกิจ เสริมความแกร่งด้วยเทคโนโลยีที่อยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ คิดใหญ่ด้วยการขยายฐานไปสู่ตลาดต่างประเทศด้วยเครือข่ายของพันธมิตรระดับโลกที่ไม่ใช่ใครก็ทำได้

 

อ้างอิง :

The post ‘แสนสิริ’ ผนึกกำลัง 6 พันธมิตรธุรกิจ พร้อมก้าวสู่แบรนด์ระดับโลก [Advertorial] appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/sansiri-6-business-partners/feed/ 0