Sheraton Grand Danang Resort – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 24 Aug 2023 01:21:18 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 เที่ยวดานัง เมืองหลังติดภูเขา หน้าติดชายหาดสุดชิลแห่งเวียดนาม https://thestandard.co/life/a-guide-to-da-nang-vietnam Sat, 06 May 2023 05:00:04 +0000 https://thestandard.co/?p=785923

ถ้าคุณกำลังเครียดและรู้สึกว่าอยากหาที่พักผ่อนที่ใช้เวลา […]

The post เที่ยวดานัง เมืองหลังติดภูเขา หน้าติดชายหาดสุดชิลแห่งเวียดนาม appeared first on THE STANDARD.

]]>

ถ้าคุณกำลังเครียดและรู้สึกว่าอยากหาที่พักผ่อนที่ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากนัก แถมเบื่อกับบรรยากาศเดิมๆ ของประเทศไทย ขอให้คุณเพียงหลับตาชั่วครู่แล้วจินตนาการถึงเมืองที่ด้านหลังติดภูเขาตระหง่าน เขียวครึ้มไปด้วยต้นไม้ หากอีกด้านหนึ่งคือชายทะเลที่ทอดตัวยาวกว่า 2 กิโลเมตรกลางเมือง เลียบไปกับถนนที่เพียงไม่กี่ก้าวเท้าก็ย่ำทราย เราขอแนะนำให้รู้จักกับ ‘ดานัง’

 

ดานังคือเมืองชายทะเลของเวียดนามตอนกลางที่แม้ว่าจะไม่ใช่ชื่อแรกๆ ที่คนนึกถึงอย่างโฮจิมินห์ ดาลัต หรือมุยเน่ที่อยู่ตอนใต้ ไม่ได้หนาวจัดแบบฮานอย หรือซาปาที่อยู่ตอนเหนือ แต่ด้วยชัยภูมิที่อยู่ตรงกลางของเวียดนามที่ทอดตัวในแผนที่คล้ายตัว S ทำให้โค้งตรงกลางของประเทศมีภูมิอากาศที่ประกอบทั้งเขตภูเขาที่เย็นสบายตลอดทั้งปี และชายหาดที่ไม่มีลมหนาวเหนอะ จนหลายคนที่ได้มาเยือนดานังครั้งแรก ยกให้เป็นเมืองที่ชิลที่สุดเมืองหนึ่งในอาเซียน

 

นั่งเครื่องบินเพียงชั่วโมงเศษคุณก็ได้สัมผัสเวียดนามในรูปแบบที่ไม่คุ้นเคย เสียงแตรที่เบาบาง ถนนกว้าง และโรงแรมติดทะเลที่เรียงรายอยู่หน้าชายหาดดานัง จุดกึ่งกลางระหว่างตัวเมืองและเมืองมรดกโลกอย่างฮอยอันและหมีเซิน

 


 

Where to Visit

 

 

Dragon River Bridge สะพานมังกร

 

เหนือแม่น้ำฮันที่ผ่ากลางเมืองดานังคือสะพานมังกรอันเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูเศรษฐกิจของเวียดนาม สะพานแห่งนี้คือศูนย์กลางของเมืองดานังที่เชื่อมทั้งสองฝั่งไว้ด้วยกัน ด้านปลายหางของย่านการค้าและที่อยู่อาศัย ส่วนด้านหัวของมังกรคือดาวน์ทาวน์ของเมืองที่เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ชายหาด และบาร์ค็อกเทลที่ซ่อนตัวอยู่ตามตึกวินเทจต่างๆ แต่ไฮไลต์สำหรับคนที่รักความชิลแล้วคือทางเดินเลียบแม่น้ำที่มีคนมานั่งเล่นรับลมกันทั้งวัน ส่วนกลางคืนจะเป็นที่รวมตัวของชาวเมืองที่มานั่งคุยกันบ้าง นั่งกินอาหารและชานมบนเก้าอี้ตัวเตี้ยกันบ้าง หรือแม้แต่เต้นลีลาศริมแม่น้ำก็มี ถ้าคืนไหนอากาศดีชาวเมืองจำนวนมากก็จะพร้อมมานั่งชิลกันบริเวณนี้

 

ไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งคือทุกค่ำวันศุกร์ เสาร์ หัวมังกรที่ดูนิ่งๆ จะสามารถพ่นน้ำ พ่นไฟ พร้อมแสงสีจากหลอด LED ที่ทำให้มังกรตัวใหญ่ดูราวกับมีชีวิต

 

 

Bana Hills บานาฮิลล์

 

ด้านหนึ่งของเมืองดานังคือยอดเขาที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ซึ่งถูกเรียกว่า ‘บานาฮิลล์’ เพราะอุดมไปด้วยต้นกล้วยที่ปลูกกันอย่างแน่นขนัด ในอดีตบานาฮิลล์เคยเป็นสถานที่ตากอากาศของเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส แต่ปัจจุบันคือเมืองขนาดย่อมๆ ที่พร้อมไปด้วยโรงแรม ธีมพาร์ก โรงภาพยนตร์สามมิติ ที่ซ่อนตัวอยู่ตามอาคารทรงยุโรปที่แทบทุกจุดสามารถเป็นมุมถ่ายรูปในอากาศหนาวเย็น ราวกับหายตัวไปอยู่สักเมืองในยุโรปอย่างไรอย่างนั้น

 

การเดินทางขึ้นบานาฮิลล์นั้นก็ถือว่าเป็นไฮไลต์เช่นเดียวกัน เพราะขึ้นได้ด้วยกระเช้าเพียงทางเดียว ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีที่กระเช้าจะพาเราผ่านป่าทึบ แม่น้ำ และน้ำตกที่ทิ้งตัวจากหน้าผาชัน สร้างความตื่นเต้นและสดชื่นไม่น้อย

 

 

Golden Bridge สะพานมือยักษ์ลอยฟ้า

 

แลนด์มาร์กคุ้นตาของเมืองดานังที่ใครมาเยือนบานาฮิลล์แล้วน่าจะไม่พลาดในการถ่ายรูปบนทางเดินที่สูงกว่า 1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และยาวกว่า 100 เมตร ที่ถูกประคองโดยมือใหญ่ยักษ์ที่อยู่ท่ามกลางสายหมอกราวกับอยู่ในเทพนิยาย

 

 

My Khe Beach ชายหาดหมี่เคว

 

เพราะดานังคือเมืองท่าสำคัญของเวียดนาม เพราะฉะนั้นแล้วชายหาดจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ชายหาดทอดตัวยาวขนานคู่กับถนนเลียบหาดซึ่งมีความยาวมากกว่า 10 กิโลเมตร ผ่านทั้งโรงแรมเล็กใหญ่ ตัวเมือง ที่นอกจากจะเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจของคนในเมืองแล้ว ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นที่นิยมสำหรับชาวเกาหลี

 

 

Marble Mountains ภูเขาหินอ่อน

 

 

ภูเขาหินอ่อนที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง ตามตำนานเชื่อว่าภูเขาทั้ง 5 ลูกเกิดจากนางฟ้าที่พบรักและคลอดออกมาเป็นไข่ เปลือกไข่กลายเป็นปฐมธาตุที่สำคัญ อันได้แก่ ดิน,​ น้ำ, ลม, ไม้ และโลหะ ที่โดดเด่นที่สุดคือภูเขาแห่งน้ำที่สามารถเลือกว่าจะเดินเท้าหรือขึ้นลิฟต์แก้วขึ้นไปบนยอดที่มีความสูงกว่า 100 เมตร นอกจากจะเห็นวิวทั้งเมืองดานังแล้ว บนภูเขาแห่งน้ำยังมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีหินงอกหินย้อยสลับซับซ้อน และเจดีย์ลิงอุ๋ง (Linh Ung) ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางจิตวิญญาณของชาวเวียดนามอีกด้วย

 


 

Where to Stay

 

 

Sheraton Grand Danang Resort & Convention Center
เชอราตัน แกรนด์ ดานัง

 

ห่างจากตัวเมืองดานัง 10 นาทีเศษเลียบชายหาดมาเรื่อยๆ คือที่ตั้งของเชอราตัน แกรนด์ ดานัง โรงแรมและศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่อย่างเป็นเอกเทศ กว้างใหญ่เป็นอาณาจักรเพราะประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีทราว 270 ห้อง ที่อยู่ในอาคารที่หันหน้ามุ่งสู่ชายทะเล ตรงกลางคืออาคารที่เป็นจุดเช็กอิน ห้องอาหาร และสปา

 

Why here?

 

จุดเด่นของเชอราตัน แกรนด์ ดานัง คือห้องทั้ง 9 รูปแบบ ถูกออกแบบให้มองเห็นทะเลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นจากห้องนอน หรือแม้แต่ระเบียงเล็กๆ ก็จะถูกเฉียงให้มองเห็นวิวมหาสมุทรที่กว้างสุดลูกหูลูกตา

 

ต่อมาคือสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ขนาดใหญ่ติดชายหาด ยาวกว่า 250 เมตร ซึ่งถือว่ายาวที่สุดในประเทศเวียดนาม ล้อมรอบด้วยห้องอาหาร และสนามเด็กเล่นที่สามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ทั้งครอบครัว และหากสังเกตดีๆ ทะเลดานังจะมีความพิเศษตรงที่ไม่ว่าจะแดดดีหรือฝนอ่อนๆ เหนือสระว่ายน้ำจะมีไอหมอกจางๆ ลอยอยู่ ทำให้บรรยากาศของเชอราตัน แกรนด์ ดานังไม่เหมือนที่ไหน

 

นอกจากนั้นแล้วเชอราตัน แกรนด์ ดานังยังมีห้องประชุมขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองดานัง รองรับได้มากกว่า 1,000 คน และยังเป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับคนที่อยากจะเที่ยวทั้งตัวเมืองดานังเพื่อสัมผัสบรรยากาศภูเขาและทะเล และเมืองฮอยอัน เมืองโบราณมรดกโลกอันงดงาม เพราะอยู่ในจุดกึ่งกลางระหว่างทั้ง 2 เมืองนี้พอดี 

 

Sheraton Grand Danang Resort & Convention Center 

Location: ชายหาด Non Nuoc เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม

Budget: ตั้งแต่ 7,110 บาทขึ้นไป

Facebook: https://www.facebook.com/sheratongranddanang 

Instagram: https://www.instagram.com/sheratongranddanang/ 

Website: sheratongranddanang.com 

 


 

 

Four Points by Sheraton
โฟร์พอยตส์ บาย เชอราตัน ดานัง

 

จากตัวเมืองดานังเพียง 5 นาที จะพบกับโรงแรมมาตรฐาน 5 ดาวที่มีความสูง 36 ชั้น ตั้งอยู่ริมหาด ด้วยจำนวนห้องพัก 390 ห้องที่ออกแบบอย่างหรูหรา และด้วยรูปแบบห้องที่มีถึง 9 รูปแบบ เลือกวิวที่มองเห็นได้ว่าจะเป็นทะเลสีครามเข้ม หรือตัวเมืองที่ไม่มีตึกสูงแต่มองเห็นวิวเมืองได้อย่างถนัดตา

 

จุดเด่นของโฟร์พอยตส์ บาย เชอราตัน ดานัง คือความใหม่ เพราะเพิ่งเปิดบริการได้ 5 ปี ทำให้ห้องพักทุกรูปแบบสะอาด มีดีไซน์ร่วมสมัย และแน่นอนว่าด้วยความสูงถึง 36 ชั้น ทำให้ห้องอาหารที่รองรับแขกได้ถึง 150 คน มองเห็นวิวเมืองดานังได้รอบทิศ ที่ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็สวยงามกันคนละแบบ เช่นเดียวกับสระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้า ที่กว้างขวางและรู้สึกเป็นอิสระ

 

ห้องอาหารคืออีกจุดเด่นของโรงแรมนี้ เพราะนอกจากเชฟระดับประเทศที่หมุนเวียนเมนูตามฤดูกาล และใช้วัตถุดิบท้องถิ่นอย่างมะพร้าวและสับปะรดแล้ว ยังมีเบียร์ Best Brews เบียร์ท้องถิ่นประจำเมืองดานังให้เลือกสดๆ จากแท็ปอีกด้วย

 

และที่สำคัญที่สุดท่านที่ต้องการพักผ่อนหรือเดินทางท่องเที่ยวมาอย่างเหน็ดเหนื่อย โฟร์พอยตส์ บาย เชอราตัน ดานัง ยังมีสปาและห้องทรีตเมนต์ที่มากถึง 13 ห้อง แน่นอนว่าทุกห้องมองเห็นวิวทะเลที่ทำให้ผ่อนคลายมากขึ้นอีกระดับ

 

Four Points by Sheraton

Location: ถนน Vo Nguyen Giap เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม

Budget: ตั้งแต่ 3,057 บาทขึ้นไป

Facebook: https://www.facebook.com/fourpointsdanang 

Instagram: https://www.instagram.com/fourpointsbysheratondanang/ 

Website: http://fourpointsdanang.com/ 

 


 

 

Danang Marriott Resort & Spa
ดานัง แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา

 

ลองจินตนาการถึงโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีไทป์ห้องให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นอาคารสีเหลืองนวลตา วิลล่าขนาดใหญ่ที่อยู่ริมชายหาดที่เปิดหน้าต่างออกไปแล้วแล้วเห็นวิวของสระว่ายน้ำ ดงมะพร้าวเขียวครึ้ม และน้ำทะเลสีครามที่สะท้อนแสงแดด เงียบสงบ เอื้อต่อการพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจ ดานัง แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา คือโรงแรมที่เรากำลังพูดถึง

 

ด้วยมาตรฐานระดับโลกของแมริออท ทำให้โรงแรมขนาดใหญ่ที่อยู่ติดชายหาด Non Nuoc แห่งนี้ เงียบสงบ หรูหรา และเป็นส่วนตัวทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักกว่า 200 ห้อง ที่ออกแบบด้วยสไตล์อินโดจีนร่วมสมัย พื้นและส่วนประกอบต่างๆ ของห้องตกแต่งด้วยไม้จริงที่สวยงาม แข็งแรง รูมเซอร์วิสที่บริการ 24 ชั่วโมง รวมถึงวิลล่าอีก 39 หลังที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวเหมาะกับการพักผ่อนเป็นครอบครัว

 

จุดเด่นต่อมาคือสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ที่มีถึง 5 สระ เลือกได้ตามความสะดวกที่ไม่ว่าจะอยู่ใกล้ห้องพักหรือแกรนด์พูลที่หันหน้าออกทะเล จะว่ายน้ำจนชุ่มฉ่ำใจแล้วเดินออกไปชิลริมหาดหน้าโรงแรมที่กว้างขวาง สามารถอ่านหนังสือหรือจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ใต้ร่มชายหาดอันเป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม หรือถ้าอยากยกระดับการพักผ่อนมากขึ้นไปอีกขั้น ดานัง แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปายังมี Quan Spa สปาที่มีบริการนวดบำบัดรูปแบบต่างๆ มากถึง 12 ห้องไว้บริการ

 

จุดเด่นที่พลาดไม่ได้อีกอย่างที่ถือเป็นเอกลักษณ์คือห้องอาหารมาดามซอน ที่มีบริการอาหารฟิวชันเวียดนาม-อเมริกันจากเชฟฝีมือดี และห้องอาหารโกจิ คิทเช่น แอนด์ บาร์ ที่ไม่ว่าจะเป็นดินเนอร์หรือบุฟเฟต์อาหารเช้าก็มีให้เลือกทั้งอาหารเอเชีย-อเมริกัน หรือเวียดนามรสชาติแบบเวียดนามกลางแท้ๆ 

 

นอกจากนั้นแล้วที่ตั้งของดานัง แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา ยังเหมาะจะทำกิจกรรมผจญภัยเล็กๆ อย่างการขี่จักรยานรอบภูเขาหินอ่อนทั้ง 5 อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองดานัง สามารถขึ้นไปไหว้พระบนยอดเขาแห่งน้ำ หรือเดินชมร้านหินอ่อนแกะสลักที่เรียงรายอยู่รอบทางขึ้นก็ได้

 

Danang Marriott Resort & Spa 

Location: ชายหาด Non Nuoc เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม 

Budget: ตั้งแต่ 6,773 บาทขึ้นไป

Facebook: https://www.facebook.com/DanangMarriottResortSpa 

Instagram: https://www.instagram.com/danangmarriottresortandspa/ 

Website: https://linktr.ee/danangmarriottresortandspa

 

The post เที่ยวดานัง เมืองหลังติดภูเขา หน้าติดชายหาดสุดชิลแห่งเวียดนาม appeared first on THE STANDARD.

]]>
จะ ‘ทะเลดานัง’ หรือ ‘เมืองเก่าฮอยอัน’ บินทริปเดียวเที่ยวได้ 2 เมือง https://thestandard.co/danang-vietnam/ https://thestandard.co/danang-vietnam/#respond Fri, 09 Nov 2018 10:14:38 +0000 https://thestandard.co/?p=144638 danang-vietnam

ก่อนอื่นต้องออกตัวว่า ผู้เขียนมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะไปเท […]

The post จะ ‘ทะเลดานัง’ หรือ ‘เมืองเก่าฮอยอัน’ บินทริปเดียวเที่ยวได้ 2 เมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>
danang-vietnam

ก่อนอื่นต้องออกตัวว่า ผู้เขียนมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะไปเที่ยวเวียดนามสักครั้ง เพราะติดใจในรสชาติของอาหารเวียดนามในกรุงเทพฯ ที่ไม่หนักแคลอรี ไม่มันเลี่ยน มีผักให้กินแนมทุกมื้อ จนหมายมั่นปั้นมือว่าถ้าชอบขนาดนี้ อย่างไรก็ต้องบินไปกินให้ถึงถิ่น พอลองทำการบ้านก็สืบค้นได้ว่า อาหารเวียดนามคล้ายอาหารไทย ที่แบ่งเป็นภาคต่างๆ แต่ละภาคก็จะมีสูตรหรือส่วนผสมที่ต่างกันออกไป เช่น เวียดนามเหนือที่รสชาติค่อนข้างอ่อน ได้รับอิทธิพลจากจีน ต่างจากเวียดนามใต้ที่ได้อิทธิพลจากกัมพูชาและอินเดีย จึงมีการใช้กะทิค่อนข้างมาก แต่สำหรับจุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้อยู่ที่เวียดนามตอนกลาง ซึ่งอาหารแถบนี้จะมีความเป็นชาววังสูง ตกแต่งจานสวยงาม แต่รสจัดกว่าภาคอื่นๆ แต่พิเศษตรงที่เมืองนี้อยู่ติดทะเล ดังนั้นอาหารทะเลน่าจะเด่น ใช่แล้ว เรากำลังบินไป ‘ดานัง’ เมืองท่าสำคัญของชาวเวียดนาม ที่มีทั้งภูเขา ลมทะเล แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และของกินอร่อย  

 

ตามที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ดานังเป็นเมืองท่าที่ติดอันดับทะเลสวยที่สุดในโลก (อะแฮ่ม แต่เป็นรองเมืองไทยอยู่หน่อยหนึ่ง) แม้ไม่ใช่เมืองหลวง แต่ก็มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเวียดนาม แต่ถึงแม้จะเป็นเมืองใหญ่ แต่ใช่ว่าวิถีชีวิตชาวเมืองดานังจะวิ่งตามกระแสโลก เพราะชีวิตความเป็นอยู่ของคนละแวกนี้ไม่มีความเร่งรีบเหมือนเมืองธุรกิจและการค้าอย่างโฮจิมินห์ หรือเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างเมืองหลวงฮานอย ค่อนข้างถ้อยทีถ้อยอาศัยและน้อยนิ่งเมื่อเทียบกับกรุงเทพฯ

 

ภาพจากมุมสูง มองไปจะเห็นว่าแทบไม่มีตึกสูงบดบัง

 

โบสถ์คริสต์สีชมพูที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยเป็นอาณานิคมฝรั่งเศส

 

ความดีงามของดานังคือ ชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย การจราจรไม่คลุ้มคลั่ง ค่าครองชีพไม่สูง จะไปไหนมาไหนก็แสนสะดวกเพราะมี Grab (ดังนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องการเสวนากับคนขับที่อาจมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน) แต่จุดขายจริงๆ ที่ทำให้ดานังกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ได้แก่ การเป็นเมืองที่เที่ยวได้ทั้งทะเล ภูเขา และมีเมืองเก่าที่สวยงาม แม้ทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่ก็อยู่ในย่านที่ไม่ไกลกันนัก สำหรับคนกรุงที่คุ้นชินกับการเดินทางด้วยรถยนต์ที่ต้องใช้เวลานานนับชั่วโมงอย่างคนกรุงเทพฯ การเดินทางในดานังย่อมไม่ใช่ปัญหา ระยะหลังดานังพัฒนาและเติบโตขึ้นมาจากอดีต เพราะหลายฝ่ายอยากเข้ามาลงทุน ทุกวันนี้ดานังเลยมีทั้งสนามบิน ช้อปปิ้งมอลล์ ร้านอาหาร และที่พักระดับห้าดาวจำนวนมาก

 

ทะเลดานังสวยติดอันดับโลก

ตอนแรกคิดว่าจะสักเท่าไรกันเชียวทะเลเวียดนาม แต่เมื่อได้ไปเยือนจริงๆ เราก็ไม่แปลกใจว่าทำไมทะเลที่นี่ถึงได้รับความนิยม เพราะน้ำทะเลใสมาก เมื่อมองจากบนห้องพักจะเห็นน้ำทะเลเล่นระดับไล่สี เป็นสีฟ้า สีน้ำเงินสด น้ำเงินคราม ตัดกับเนื้อทรายละเอียดขาว ชวนให้กระโจนลงน้ำ และที่สำคัญหาดที่เราไปเยือนเงียบสงบมาก ไม่มีเครื่องเล่นทางน้ำ เรือยนต์ หรือคนหาบของขาย สะอาดเกลี้ยงตา แทบไม่เห็นขยะหรือถุงพลาสติกเกยหาด เหมาะกับการลงเล่นน้ำ อาบแดด หรือนั่งชิลๆ ริมหาด อ่านหนังสือ

 

เรือไม้ไผ่ของชาวเวียดนามที่ทำประมง

 

แต่ฝากไว้หน่อยว่า ไม่ใช่ว่าทุกหาดของดานังจะเล่นน้ำได้ เพราะบางหาดเหมาะกับการทำประมงมากกว่า เช่น บริเวณอ่าวดานังที่มีเรือจอดเรียงรายริมฝั่ง ควรทำการบ้านสักนิดว่าโรงแรมที่พักอยู่บริเวณหาดไหน สามารถเล่นน้ำทะเลได้หรือไม่ จะได้ไม่เก้อเตรียมบิกินีไปอย่างเริ่ด แต่สุดท้ายไม่ได้ลงน้ำเลย หาดแนะนำได้แก่ หาดหมีเคว (My Khe Beach) หาดชื่อดัง และหาดน็อนเนือก (Non Nouc Beach) ที่เคยติดอันดับ 6 หาดสวยที่สุดในโลกมาแล้ว    

 

ย่านเมืองเก่าในฮอยอัน

อย่างที่บอก ทริปนี้เราบินครั้งเดียวแต่เที่ยว 2 เมือง เพราะเมืองถัดไปซึ่งอยู่ไม่ไกลจากดานัง ห่างไปเพียง 30 กิโลเมตรจากสนามบิน ได้แก่ ‘ฮอยอัน’ ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองมรดกโลกที่ยังคงมีลมหายใจ ตั้งอยู่แถบแม่น้ำทูโบน สมัยก่อนฮอยอันเฟื่องฟูสุดขีด เพราะชาวต่างชาตินิยมเดินทางเข้ามาค้าขาย ตึกรามบ้านช่องต่างๆ จึงพลอยได้รับอิทธิพลไปด้วย ตัวอาคารดีไซน์แบบชิโน-โปรตุกีสผสมโคโลเนียล สดใสด้วยสีเหลืองมัสตาร์ด คล้ายตึกในตัวเมืองภูเก็ต แต่ไม่หนาแน่นเท่าฮอยอัน เมื่ออาคารเก่าแก่เหล่านี้ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี และเปลี่ยนมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ที่ทำเงินได้มหาศาล

 

สองฝั่งแม่น้ำเรียงรายด้วยร้านค้าให้แวะช้อปปิ้งและชิมอาหาร

 

ไม่มีอะไรจะเวียดนามไปกว่าชุดประจำชาติ หมวกเวียดนาม และผนังสีเหลือง

 

(ซ้าย) เมืองโบราณฮอยอัน ไม่อนุญาตให้นำรถเข้า ต้องเดินหรือใช้บริการสามล้อปั่น

(ขวา) แม้จะกลายเป็นจุดท่องเที่ยว แต่คนท้องถิ่นก็ยังคงดำเนินชีวิตในรูปแบบของตนเองเช่นวันวาน

 

เมื่อซื้อบัตรเข้าเมืองโบราณฮอยอัน เราจะได้รับแผนที่ระบุจุดน่าสนใจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ถนนตรันฟู เส้นวัฒนธรรม บ้านเลขที่ 101 ซึ่งเป็นคฤหาสน์เก่า สะพานญี่ปุ่นเต็มไปด้วยเรื่องเล่า สมาคมฟุกเกี๋ยน และพิพิธภัณฑ์เซรามิก เป็นต้น สถานที่แห่งนี้กินพื้นที่กว้างใหญ่มาก แนะนำว่าควรหาเวลามาสักครึ่งวัน ซึ่งคุณอาจจะแวะไปถ่ายภาพหรือชมตามจุดต่างๆ ที่คนแนะนำมาก็ได้ แต่ถ้าถามเรา หากคุณอยากเที่ยวฮอยอันให้ได้อรรถรส ควรโยนแผนที่ทิ้งไป แล้วเดินตามสัญชาตญาณของตัวเอง ลัดเลาะเข้าตรอกซอกซอยเพื่อค้นหาร้านรวงน่ารักๆ หรือสัมผัสวิถีชีวิตของชาวฮอยอันท้องถิ่น มากกว่าจะเข้าร้านที่พอจับไต๋ได้ว่านักท่องเที่ยวชอบแบบไหนฉันก็จะแต่งร้านแบบนั้น

 

การปะทะกันระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและท้องถิ่น กลายเป็นเสน่ห์ของฮอยอัน

 

เราสามารถใช้เวลาที่นี่ได้ตั้งแต่กาแฟยามบ่าย เดินทอดน่องชมตึกสวยๆ เรื่อยไปจนถึงอาหารมือค่ำ อาหารมีให้เลือกหลายสัญชาติ ไม่ว่าจะเวียดนามแท้ๆ เวียดนามฟิวชัน หรืออาหารฝรั่งอย่างพิซซ่า เบอร์เกอร์ แซนด์วิช พาสต้า ฯลฯ ตั้งแต่ข้างทางในตลาดที่ต้องนั่งยองๆ หรือร้านหรูที่เสิร์ฟไวน์และแชมเปญ ที่แน่ๆ กาแฟเวียดนามนั้นมีขายทุกๆ 300 เมตร ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบการตกแต่งของร้านไหน

 

ช่วงหัวค่ำแนะนำให้เช่าเรือชมบรรยากาศโดยรอบที่สุดแสนโรแมนติก

 

เรือพาเที่ยวมีทั้งเรือเครื่องยนต์และเรือแจว นั่งไปถือตะเกียงไฟไปได้บรรยากาศ

 

Ba Na Hills ชื่อนี้จำให้ขึ้นใจ

ที่นี่ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอตแห่งใหม่ของเวียดนามตอนกลาง ที่มีไวรัลระบาดไปทั่วโลก ซึ่งเราน่าจะพอคุ้นตากันมาบ้างกับหัตถ์พระเจ้าที่ยื่นมารองรับสะพานลอยฟ้า ‘Golden Bridge’ สุดแสนอลังการ การไปเยือน Ba Na Hills สามารถเดินทางได้ด้วยวิธีเดียวเท่านั้น นั่นคือการนั่งเคเบิลหรือกระเช้าไฟฟ้าแบบเคเบิลเดี่ยว ไม่มีการหยุดพักระหว่างทาง เส้นทางนี้จึงได้รับการจดบันทึกว่าเป็นระยะทางเคเบิลยาวที่สุดในโลก เพราะยาวถึง 5,801 เมตร ความสูงจากฐานสู่ยอดสูงที่สุดอยู่ที่ 1,368 เมตร อุณหภูมิด้านบนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 20-25 องศาเซลเซียสตลอดปี ดังนั้นพกแจ็กเก็ตบางๆ สักตัวไปด้วยจะดีกว่า แนะนำว่าควรเป็นแจ็กเก็ตกันลมและฝน เพราะวันที่เราไปจู่ๆ ฝนก็เทลงมา

 

เคเบิลของที่นี่มีสภาพใหม่และความปลอดภัยสูง พนักงานทำงานเป็นระบบ ดังนั้นไม่ต้องกลัว

 

นี่ไง หัตถ์แห่งพระเจ้า

 

และไม่ใช่ว่าขึ้นไปแล้วจะมีแค่สะพานที่น่าสนใจ เพราะนักลงทุนได้ปรับพื้นที่ด้านบนให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพราะมีทั้งที่พัก ร้านอาหาร สวนสนุก และจุดถ่ายรูปมากมาย รวมถึงการจำลองเมืองสไตล์ยุโรปมาไว้บนนี้ด้วย รับรองว่าลงรูปไปไม่มีใครเชื่อแน่นอนว่ามาเที่ยวเวียดนาม

 

หมู่บ้านฝรั่งเศสบนภูเขา ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นบ้านพักตากอากาศของชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาพำนักในเวียดนาม ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว

 

สวนดอกไม้บนยอดเขา

 

Sun World เมืองบนเขาที่มีทั้งเครื่องเล่น โรงแรม ร้านอาหาร และตึกสไตล์ยุโรป  

 

“เที่ยวดานัง พักที่ไหนดี?”

และแล้วก็มาถึงคำถามสำคัญเวลาเดินทางไปยังสถานที่ต่างถิ่นที่ไม่ใช่ทั้งเมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยว หลายคนกลัวเรื่องที่พักว่าจะอยู่สบายไหม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันหรือเปล่า โลเคชันดีหรือไม่ เดินทางลำบากแค่ไหน ล่าสุดมีรีสอร์ตแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานอย่าง Sheraton Grand Danang Resort ซึ่งตั้งอยู่บนหาดน็อนเนือกอันเงียบสงบ (หาดเดียวกับที่เราบอกไปว่าดีนั่นแหละ) ข้อดีของโรงแรมแห่งนี้คือ เป็นโรงแรมที่เพิ่งเปิดเมื่อต้นปี ดังนั้นทุกอย่างจึงใหม่หมด ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ 2 แห่ง สระแรกเป็นสระว่ายน้ำที่ยาวถึง 50 เมตร ทอดยาวตั้งแต่ตึกด้านหน้าไปจนถึงหน้าหาด อีกสระอยู่ติดหาดเลย แล้วแต่ว่าอารมณ์ของคุณอยากแช่ตัวหรือว่ายน้ำจริงจัง

 

หาดส่วนตัวของทางรีสอร์ต

 

สระว่ายน้ำยาว

 

นอกจากสถานที่ตั้งจะอยู่บนหาดที่ได้ชื่อว่าสวยติดอันดับโลกแล้ว ห้องพักของที่นี่ก็ดี ภายในกว้างขวาง เลือกใช้หินอ่อนที่ให้ความรู้สึกหรูหรา เตียงใหญ่หนานุ่มนอนสบาย Wi-Fi แรง เข้ามาแล้วให้ความรู้สึกที่ปลอดภัย ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว

 

ภายในห้องพักเน้นความสะดวกสบาย ให้รู้สึกว่าได้มาพักผ่อนจริงๆ

 

ส่วนห้องอาหารและบาร์มีทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่ Table 88 นำเสนออาหารเวียดนามและคอมฟอร์ตฟู้ดกินง่าย (เราได้ลองอาหารเวียดนามจานแปลกที่นี่เอง) La Plage ร้านอาหารริมหาดเหมาะกับการชมวิว The Grill สเต๊กเฮาส์ ที่นอกจากเนื้อระดับพรีเมียมแล้ว หอคอยซีฟู้ดของที่นี่ยังสดมาก ไม่เสียแรงที่อยู่ติดทะเล

 

เมนูต่างๆ ที่เสิร์ฟในโรงแรมมีทั้ง เฝอ ปอเปี๊ยะสด บั๋นหมี่หรือแซนด์วิชเวียดนาม และ บุ๋นจ่าหรือหมูย่างขนมจีน กินกับผักสด

 

The Lounge สำหรับจิบชาและกาแฟยามบ่าย หรือจะเป็น Mix Bar ที่น่าจะเป็นหนึ่งในบาร์ที่ดีที่สุดในดานัง มีซิงเกิลมอลต์ให้เลือก 60 ชนิด ค็อกเทลต่างๆ ได้มาตรฐาน ใช้ส่วนผสมดี ไม่ว่าคุณจะเป็นคอจิน โทนิก วิสกี้ ไวน์ หรือแม้แต่เบียร์เย็นๆ ก็พร้อมเสิร์ฟ   

 

The Lounge ยามบ่าย

 

มีทั้งชาและกาแฟสดไว้บริการ

 

ร้านอาหารริมหาดเปิดโล่งรับลมและวิวทะเล

 

นอกจากนี้ยังมี Shine Spa for Sheraton ที่ตกแต่งสไตล์สมัยรีเจนซี แต่ละห้องมีกลิ่นที่แตกต่างกัน เช่น ชาเขียว มะลิ หรือกลิ่นสมุนไพร ใครที่รู้ตัวว่าติดนวด ลองมาสัมผัสการนวดสไตล์เวียดนามที่นี่ดู จะได้รู้ว่าเหมือนหรือต่างกับที่เมืองไทยอย่างไร

 

การนวดสไตล์เวียดนามคล้ายการนวดไทย แต่ไม่มีการดัดตัว

 

สำหรับเราแล้ว การมาเที่ยวเวียดนามครั้งนี้ถือว่าสมตามที่ตั้งใจไว้ แม้ไม่ได้ตะลุยกินอาหารดัง แต่มันทำให้เราพอจะเห็นภาพว่าชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเวียดนามเป็นอย่างไร และเพราะเหตุใดอาหารเวียดนามจริงๆ จึงเรียบง่าย เน้นผักสดและสมุนไพร กินเส้นหรือแผ่นแป้งมากกว่ากินข้าว (ทั้งที่เวียดนามเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่) เพราะคำตอบเหล่านี้ถูกสะท้อนให้เห็นได้จากวิถีชีวิตของพวกเขา และสิ่งที่พวกเขาเคยเผชิญมานั่นเอง      

 

ภาพ: Shutterstock, Courtesy of Brand

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post จะ ‘ทะเลดานัง’ หรือ ‘เมืองเก่าฮอยอัน’ บินทริปเดียวเที่ยวได้ 2 เมือง appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/danang-vietnam/feed/ 0