นี่คือการทำเบอร์เกอร์เนื้อหมูครั้งแรกในโลกของ Shake Shack! แล้วใครจะไปคิดว่าเมนูนั้นจะเกิดจากการคอลแลบกับเชฟหญิงเก่งชาวไทยอย่าง เชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ แห่งร้านดาวมิชลิน POTONG ในย่านเยาวราช แถมพวกเขายังคิดค้นเมนูใหม่มาให้พวกเราตามไปชิมถึง 4 เมนู ซึ่งเริ่มสั่งได้ตั้งแต่วันนี้เลย

ทั้ง 4 เมนูพิเศษที่เราอยากให้ลองไปชิม บอกเลยว่าตัวแทนประเทศไทยอย่างเชฟแพมไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอน เพราะแต่ละเมนูมีความจี๊ดจ๊าด จัดจ้าน สมกับเป็นเบอร์เกอร์สัญชาตินิวยอร์กที่ผสมกลิ่นอายไทยๆ สไตล์เชฟแพม โดยเชฟบอกว่าเธอตั้งใจเก็บเสน่ห์ของเบอร์เกอร์สไตล์ Shake Shack เอาไว้ ส่วนเธอมีหน้าที่แค่ทำให้มันกินสนุกขึ้นด้วยการใส่ความเป็นตัวเองและหยิบวัตถุดิบไทย-จีนผสมลงไปให้อร่อย

เมนูแรกที่อยากให้ทุกคนสั่งคือ เบอร์เกอร์หมูแจ่วบาร์บีคิว (235 บาท) ที่เป็นเมนูหมูครั้งแรกในโลกของ Shake Shack โดยแพตตี้ใช้เนื้อหมูรมควันไม้แอปเปิ้ล เสริมรสด้วยซอสแจ่วบาร์บีคิวสุดแซ่บจากเชฟแพม ก่อนโรยด้วยหมูกระจกที่ขอยกให้เป็นไฮไลต์ เชฟบอกว่าส่วนตัวชอบเบอร์เกอร์ที่มีความกรอบๆ แทรกอยู่เพราะทำให้กินแล้วสนุกขึ้น เธอจึงใส่หมูกระจกลงไปด้วย

อีกหนึ่งเมนูเบอร์เกอร์มาในสไตล์ไทย-จีน คือ เบอร์เกอร์เนื้อฉ่ำพริกไทยดำ (265-375 บาท) เป็นเบอร์เกอร์เนื้อแองกัสซิกเนเจอร์ของ Shake Shack แต่ราดซอสพริกไทยดำสุดร้อนแรงจากเชฟแพม แถมยังโรยหอมเจียวกรุบกรอบด้วย แฟนคลับ Shake Shack ต้องถูกใจรสชาติใหม่นี้แน่นอน

แต่อีกเมนูที่เราไม่อยากให้พลาดเช่นกันก็คือ มันทอดซอสซี๊ด (130 บาท) มันฝรั่งทอดกรอบซิกเนเจอร์ของ Shake Shack ที่คราวนี้ราดด้วยซอสซีฟู้ดมายองเนสรสเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ แบบโดนใจสุดๆ เพราะรู้ตัวอีกทีก็หมดถาดแล้ว แถมด้านบนยังท็อปด้วยหมูกระจกและผักชีอีก

สุดท้ายคือเมนูของหวาน ข้าวเหนียวมะม่วงมิลค์เชค (210 บาท) ที่ใช้ไอศกรีมคัสตาร์ดวานิลลาปั่นกับเนื้อมะม่วง ข้าวเหนียวมูน และครีมมะพร้าว ก่อนท็อปด้วยวิปครีม ถั่วทองทอดกรอบ และผงมะม่วงที่เพิ่มความหอม

เมนูพิเศษจาก Shake Shack x เชฟแพม เริ่มสั่งได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม – 6 กรกฎาคม 2568 เท่านั้น โดยสั่งได้ที่ Shake Shack ทุกสาขาในกรุงเทพฯ หรือช่องทางเดลิเวอรี

นอกจากนี้ 100 คนแรก (สาขาละ 25 คน) ที่สั่งเมนูใหม่แบบครบเซ็ต 4 เมนู จะได้รับของที่ระลึกทั้งเซ็ตไปเลยฟรีๆ ได้แก่ ยาดม สติกเกอร์ กระเป๋า และเสื้อยืดลายพิเศษ แต่ถ้าหากใครไปไม่ทันก็ไม่เป็นไร เพราะจะได้รับยาดมฟรีเช่นกันถ้าหากสั่งเมนูคอลแลบเหล่านี้ (สินค้ามีจำนวนจำกัด)

ป.ล. รายได้ส่วนหนึ่งจากเมนูคอลแลบครั้งนี้จะนำไปสมทบในโครงการ Woman for Woman ของเชฟแพมด้วย

The post ใหม่และไม่ธรรมดา! 4 เมนูคอลแลบจาก Shake Shack x เชฟแพมแห่ง POTONG เริ่มวางขายวันนี้วันแรก appeared first on THE STANDARD.

ใครเคยไปต่อแถวซื้อเบอร์เกอร์ตั้งแต่วันแรกที่ Shake Shack มาเปิดสาขาแรกในประเทศไทยบ้าง เพราะเผลอไม่ทันไร ร้านเบอร์เกอร์สุดฮอตแห่งนี้ก็มีอายุครบ 1 ปีแล้ว และเพื่อฉลองที่ทุกคนให้การต้อนรับอย่างดีตั้งแต่ก้าวแรกที่ Shake Shack เหยียบประเทศไทย พวกเขาจึงหยิบเมนูพิเศษจากสหรัฐอเมริกามาเสิร์ฟให้ทุกคนชิมในรูปแบบลิมิเต็ด เฉพาะ 2 เดือนนี้เท่านั้น!

เมนูที่ว่าคือ ‘ShackMeister (แช็คไมสเตอร์)’ เบอร์เกอร์เพิ่มหอมแดงเจียวกรุบๆ ที่เข้ากับบันมันฝรั่งนุ่มๆ และแพตตี้เนื้อแองกัสสูตรซิกเนเจอร์ เวลากัดไปทั้งคำจึงมีรสชาติใหม่จากหอมเจียวชิ้นหนาๆ เพิ่มเข้ามา เราว่าทำให้เบอร์เกอร์มีความเข้มข้น กินสนุกไม่เบา สมกับที่เคยเป็นเมนูคว้ารางวัลเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุด (Judge’s Choice for Best Burger) ในการแข่งขันทำเบอร์เกอร์ จน Shake Shack สหรัฐอเมริกาต้องเอามาทำขายจริงๆ

ซึ่งความลับก็อาจอยู่ตรงที่เขานำหอมแดงไปหมักในเบียร์ก่อน แล้วค่อยนำไปคลุกกับแป้งสูตรพิเศษของ Shake Shack เมื่อนำไปทอดจึงได้หอมเจียวที่มีความกรอบ หอม เข้ากันดีกับทุกเมนูในร้านขนาดนี้

ทว่าเมนูนี้ไม่ได้มาฉายเดี่ยว เพราะเราสามารถสั่งหอมแดงเจียวท็อปบนเฟรนช์ฟรายส์ (ShackMeister Fries) และฮอตด็อก (ShackMeister Dog) ได้ด้วย บอกเลยว่าเพิ่มความสนุกในการกินอีกหลายเท่า

แล้วยังมีเชกเมนูพิเศษอย่าง Cookies & Cream Shake ที่จะขายเพียง 2 เดือนนี้เท่านั้นให้ลองอีกเช่นกัน ถ้าใครเป็นแฟนคลับเบอร์เกอร์เชนนี้ต้องรีบไปลองแล้วละ เพราะอย่างที่บอก เมนูทั้งหมดจะมีถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 เท่านั้น สามารถตามไปชิมได้ทั้ง 2 สาขา คือ เซ็นทรัลเวิลด์ และดิ เอ็มสเฟียร์

The post เมนูใหม่ที่จะขายเพียง 2 เดือน ShackMeister เบอร์เกอร์ที่มีหอมเจียวเป็นพระเอก appeared first on THE STANDARD.

ข่าวดีสำหรับชาวสุขุมวิท Shake Shack เปิดสาขาที่ 2 แล้ว! ที่ The Emsphere

ใกล้สิ้นปีแบบนี้มีข่าวดีให้ชาวสุขุมวิทได้ตื่นเต้นอีกครั้ง เพราะร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังอย่าง Shake Shack กำลังจะเปิดสาขาที่สองที่ห้างใหม่ล่าสุด The Emsphere โดยจะเปิดที่ชั้น M และ GM สามารถเดินเชื่อมมาจากสถานี BTS พร้อมพงษ์ได้เลย

แต่เปิดสาขาใหม่ทั้งที Shake Shack ยังคงเล่นใหญ่เหมือนเดิม โดยครั้งนี้ร่วมมือกับ P7 ศิลปินและดีไซเนอร์ชื่อดังด้านกราฟฟิตี้ สตรีทอาร์ต มาจัดแสดงผลงานบริเวณสถานี BTS พร้อมพงษ์ ธีมหลักของงานนี้คือ ‘From New York to THE EMSPHERE’ เป็นการนำบรรยากาศของรถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองนิวยอร์กมาจัดแสดงกลางกรุงเทพฯ และคุณจะได้พบกับคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนเหนือจินตนาการ สื่อถึงความหลากหลายของผู้คนในย่านสุขุมวิทอีกด้วย

ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ถ้าสังเกตดีๆ ในผลงานที่จัดแสดงยังบอกใบ้เมนูพิเศษสำหรับสาขา The Emsphere ด้วย

แฟนคลับ Shake Shack สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 

Facebook: Shake Shack Thailand 

Instagram: @shakeshackthailan

The post Shake Shack สาขาที่ 2 มาแล้ว! ที่ The Emsphere appeared first on THE STANDARD.

แม้จะมีความท้าทายจากโรคระบาด แต่ ‘Shake Shack’ ร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังจากนิวยอร์กยังคงขยายสาขาเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง แผนการมุ่งเน้นไปที่ใจกลางเมืองทั่วโลกทำให้ Shake Shack พร้อมเต็มที่สำหรับการเติบโตที่สำคัญในปี 2566 

ซึ่งไม่ใช่เพียงไข่แดงอย่างกรุงเทพฯ ประเทศไทย ปีนี้ Shake Shack ยังมีแผนจะเปิดร้านอาหารใหม่ในสหรัฐฯ อีก 40 แห่ง และร้านอาหารที่ได้รับไลเซนส์ใบอนุญาตอีก 25-30 แห่งในตลาดต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• Shake Shack เบอร์เกอร์จากนิวยอร์กสาขาแรกในไทย กับเมนูใหม่พิเศษเฉพาะที่นี่
• McDonald’s อัปเกรด 5 เมนูเบอร์เกอร์สุดฮิต ชูจุดขายขนมปังนุ่ม ชีสเยิ้ม ซอสทะลัก อร่อยขึ้นกว่าเดิม!
• ซีอีโอ ‘Burger King’ เร่งฟื้นฟูธุรกิจ ดันร้านแฟรนไชส์กลับมาทำกำไรให้ได้

Shake Shack ประกาศยุทธศาสตร์ระดับโลกระดับเข้มข้นตั้งแต่ช่วงปี 2019 เวลานั้นสื่อต่างประเทศมองว่า Shake Shack กำลังวางแผน ‘ชกข้ามรุ่น’ เพราะถึงจะเป็นแบรนด์อายุเกิน 15 ปี แต่ก็ยังถือว่า ‘เด็ก’ มากเมื่อเทียบกับหลายเชนเบอร์เกอร์นานาชาติที่ครองตลาดอยู่ 

ทั้ง McDonald’s ที่มีสถิติร้านกว่า 38,000 แห่งทั่วโลกในปี 2018 และ Burger King ที่ปิดปีนั้นด้วยสถิติร้านค้า 18,000 สาขา แต่ Shake Shack มีร้านในมือเพียง 235 สาขาในช่วง 5 ปีก่อน โดยจำหน่ายใน 16 ประเทศเท่านั้น 

ไม่ต้องสนใจขนาดหรือความเก๋าเกม

ด้วยไซส์ที่เล็กและอายุที่น้อยกว่า Shake Shack ถูกมองว่าจะสามารถชนกับเจ้าใหญ่และขึ้นเป็นผู้เล่นหลักในตลาดเบอร์เกอร์โลกได้ไม่ยาก เพราะการขยายสาขาร้านสู่ต่างประเทศทำให้ Shake Shack เชื่อมโยงตัวเองเข้ากับลูกค้าทั่วโลกได้แบบไม่ต้องสนใจขนาดหรือความเก๋าเกม  

ทำให้ Shake Shack มีตลาดไร้พรมแดนได้เหมือนผู้เล่นรายหลัก บนความท้าทายคือการจัดการซัพพลายเชนในแต่ละประเทศเพื่อให้แน่ใจว่าทุกสาขาจะมอบประสบการณ์สไตล์ Shake Shack ได้เท่าเทียมกัน

เรื่องนี้ แรนดี้ การัตติ (Randy Garutti) ซีอีโอของ Shake Shack เคยให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการขยายอาณาจักร Shake Shack คือลูกค้าไม่ได้อยากได้ ‘Shake Shack เวอร์ชันท้องถิ่น’ เพราะลูกค้าต้องการ Shake Shack ฉบับดั้งเดิม 

แนวทางที่ Shake Shack ยึดมั่นในการขยายตลาดจึงเป็นการเกาะที่เมนูหลักไว้ และเล่นกับ ‘เชก’ หรือเครื่องดื่มที่จะเติมความเป็นท้องถิ่นลงไป 

ไอเดียนี้เห็นได้ชัดเมื่อ Shake Shack สาขาแรกในเมืองไทยเปิดขายเครื่องดื่มเชกที่ใส่ข้าวเหนียวและน้ำตาลโตนด เสิร์ฟพร้อมวิปครีมออนท็อปด้วยผงใบเตย ในลักษณะเดียวกับที่ Shake Shack ขายเชกซากุระที่ญี่ปุ่น รวมถึงการขายเชกถั่วแดงที่เกาหลีใต้ และเชกใบเตยที่สิงคโปร์ โดยทุกสาขาจะมีการเสนอเมนูใหม่เพิ่มเติมเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ชอบความหลากหลาย

ขยายสาขายิ่งเร็วยิ่งดี

วันนี้ Shake Shack เป็นเชนร้านเบอร์เกอร์ซึ่งมีสาขาอยู่ 436 แห่งทั่วโลก ในจำนวนนี้ 285 แห่งเป็นร้านในสหรัฐฯ ซึ่ง Shake Shack ได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 36 แห่ง และร้านอาหารที่ได้รับไลเซนส์ใหม่ 33 แห่งเพิ่มเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอในปีที่ผ่านมา 

ทั้งหมดนี้ซีอีโอของ Shake Shack เชื่อว่าการขยายสาขารวดเร็วเป็นเรื่องดีสำหรับอนาคตของ Shake Shack เพราะแบรนด์จะได้รับแรงผลักดันเพื่อเติบโตไวขึ้นในวันที่ผู้คนกลับไปทำงาน จัดกิจกรรม และท่องเที่ยว

ล่าสุดในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 เชนเบอร์เกอร์ดาวรุ่งได้รายงานรายได้รวม 238.5 ล้านดอลลาร์ โดยมียอดขายทั้งระบบอยู่ที่ 364.1 ล้านดอลลาร์ ยอดขายในสาขาเดิมเพิ่มขึ้น 5.1% สำหรับไตรมาสที่เพิ่งผ่านไป คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 7.8% ต่อปี บนอัตรากำไรสูงลิ่ว 19% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด

ซีอีโอของ Shake Shack ระบุว่าอัตรากำไรของ Shake Shack ปี 2022 ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการที่ผู้คนกลับไปรับประทานอาหารในร้านอาหารมากกว่าสั่งกลับบ้าน สำหรับ Shake Shack ที่วางตัวเป็น ‘Better Burger’ หรือเบอร์เกอร์ที่ดีกว่านั้นสามารถดึงดูดนักชิมในหลายประเทศได้มากขึ้นด้วยส่วนผสมพิเศษอย่างเห็ดทรัฟเฟิลและเนื้อทางเลือกที่ทำจากพืช 

นอกจากนี้ Shake Shack ย้ำว่าจะให้ความสนใจกับการจัดการต้นทุนพนักงานมากขึ้นในปีนี้ รวมถึงการคิดค้นเมนูนวัตกรรมสุดสร้างสรรค์ และการลดต้นทุนเช่าอาคาร เพื่อให้ Shake Shack สร้างผลกำไรมากขึ้นในปี 2023

เคธี โฟเกอร์ตีย์ (Katie Fogertey) ซีเอฟโอของ Shake Shack ได้ประเมินว่าไตรมาสแรกของปี 2023 บริษัทจะมีรายรับของทั้งเครือระหว่าง 234.5-243 ล้านดอลลาร์ โดยมียอดขายในสาขาเดิมเพิ่มขึ้นในระดับกลางถึงสูง จุดนี้พบว่าการเติบโตของ Shake Shack จะถูกขับเคลื่อนโดยร้านในรูปแบบสแตนด์อโลน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการสร้างประมาณ 2 ล้านดอลลาร์ 

อย่างไรก็ตาม Shake Shack มีแผนจะเปิดร้านในพื้นที่ขนาดเล็กสำหรับศูนย์อาหารใจกลางเมือง และสถานที่ชานเมืองบางแห่ง จุดนี้มีสถิติบันทึกได้ว่า Shake Shack ประสบความสำเร็จในการเปิดร้านไดรฟ์ทรู 11 แห่งในปีที่ผ่านมา โดยมีแผนที่จะเปิดไดรฟ์ทรูเพิ่มอีก 10-15 แห่งในปีนี้ ซึ่งการัตติยกให้เป็นอีกส่วนสำคัญของการเติบโตของ Shake Shack ในตลาดโลก

เตรียมรุกสนามบิน

แผนการขยายของ Shake Shack นั้นไม่ได้มีแค่การเปิดร้านอาหารแบบสแตนด์อโลนเพิ่มขึ้น หรือร้านขนาดย่อมในศูนย์อาหารทั้งใจกลางเมือง และพื้นที่ชานเมืองบางแห่งในหลายประเทศ แต่ยังมีการเปิดสาขาที่สนามบินหลายแห่งที่ได้รับเสียงตอบรับดีมากจากตลาด ซึ่งทำให้ Shake Shack พัฒนาเมนูกลุ่มแซนด์วิชอาหารเช้า และอีกหลายเมนูมาตอบความต้องการของตลาดนักเดินทาง

ปัจจุบัน Shake Shack ดำเนินการในสนามบิน 23 แห่ง และอีก 4 สาขาที่อยู่ในพลาซ่าท่องเที่ยวริมทาง ในอีกด้าน Shake Shack ยังมีแผนเปิดร้านไดรฟ์ทรูเพิ่มเติมเพื่อเสริมจากที่มีอยู่ 11 แห่ง 

อย่างไรก็ตาม ร้านไดรฟ์ทรูของ Shake Shack มีราคาก่อสร้างสูงกว่าร้านสแตนด์อโลน โดยไดรฟ์ทรูมีต้นทุนราว 2.4-3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่า 2 ล้านดอลลาร์ในร้านสแตนด์อโลน แต่การลงทุนนี้คุ้มค่า เพราะสามารถบันทึกปริมาณหน่วยที่จำหน่ายได้โดยเฉลี่ยที่สูงกว่า

ในอีกด้าน Shake Shack ยังวางแผนสั่งซื้อตู้คีออสก์สำหรับติดตั้งในร้านค้าส่วนใหญ่ เพื่อปรับปรุงอัตรากำไรขั้นต้นและลดต้นทุนแรงงานในระยะยาว ประเด็นนี้ถือเป็นความท็อปฟอร์มของ Shake Shack เพราะสามารถดันการเติบโตของรายได้บนตัวเลขขาดทุนน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ 

สถิติตัวเลขล่าสุดคือต้นทุนอาหารและกระดาษลดลงเหลือ 29.5% ของยอดขาย จากที่เคยมีสัดส่วน 31.0% ในปีก่อนหน้า ขณะที่ค่าแรงและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องก็ลดลงเหลือ 28.9% ของยอดขาย เทียบกับ 29.6% ในปีที่ผ่านมา

บทสรุปของเรื่องนี้หนีไม่พ้นความจริงที่ว่า Shake Shack พร้อมเหลือเกินที่จะสร้างผลกระทบที่สำคัญในตลาดเบอร์เกอร์ทั่วโลก โดยเฉพาะความพร้อมด้านสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีปัจจัยเสริมจากภาวะต้นทุนแรงงานที่ผ่อนคลายลง ราคาเมนูที่สูงขึ้น และทราฟฟิกการเดินเข้าร้านมากขึ้น 

รวมถึงเหตุผลอีกมากที่ดันให้อัตรากำไรขั้นต้นของ Shake Shack มีแนวโน้มแข็งแกร่งเกินคาดต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีความพร้อมในแนวทางการสร้างนวัตกรรม รวมถึงความพร้อมในแผนการขยายธุรกิจ ทั้งหมดนี้ทำให้ Shake Shack มีโอกาสขึ้นเป็นผู้เล่นหลักในตลาดเบอร์เกอร์โลกได้ในไม่กี่อึดใจ

อ้างอิง:

• https://seekingalpha.com/news/3937088-shake-shack-sees-17-revenue-growth-in-q4-with-store-growth-still-on-the-menu 
• https://www.restaurantbusinessonline.com/financing/customers-returned-shake-shack-january
• https://www.nrn.com/fast-casual/shake-shack-optimistic-sales-and-margins-improve
• https://edition.cnn.com/2019/06/18/business/shake-shack-mexico-city/index.html

The post Shake Shack กำลัง ‘ชกข้ามรุ่น’ เพื่อนับถอยหลังสู่ฐานะผู้เล่นหลักในตลาดเบอร์เกอร์โลก โดยไม่ต้องสนใจขนาดหรือความเก๋าเกม appeared first on THE STANDARD.

ในที่สุด Shake Shack สาขาแรกในเมืองไทยก็เผยโฉมทั้งหน้าร้านแห่งแรก และหน้าตาเบอร์เกอร์เมนูพิเศษที่จะมีเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น ก่อนเปิดให้บริการจริงในวันที่ 30 มีนาคมที่กำลังมาถึง

The Vibe

ทุกคนน่าจะได้ยินจุดเริ่มต้นความอร่อยของ Shake Shack มาหลายรอบ วันนี้เราจึงขอข้ามพาร์ตนั้นไปก่อน และทัวร์ภายในร้านเบอร์เกอร์ที่ทุกคนเฝ้ารอมานานกันดีกว่า เพราะร้านสาขานี้ Shake Shack ดึงศิลปินไทยอย่าง นาวิน ลาวัลย์ชัยกุล มาวาดรูปภาพสุดพิเศษตกแต่งอยู่ในร้านด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นความตั้งใจของแบรนด์ที่จะจับมือกับศิลปินทุกท้องถิ่นที่พวกเขาไปเปิด

Shake Shack สาขานี้ออกแบบให้เป็นมากกว่าร้านฟาสต์ฟู้ดด้วย เพราะที่นั่งแบ่งออกเป็นหลายโซน ให้ทุกคนมานั่งกินเบอร์เกอร์ได้นานเท่าที่สบายใจ แถมยังเป็นร้านเบอร์เกอร์ Pet-Friendly ที่ทุกคนพาเพื่อนสี่ขามานั่งกินบิสกิตด้วยกันได้ตรงพื้นที่ด้านนอก

The Taste

แน่นอนว่า Shake Shack ยกเมนูมาครบทั้งหมด ตั้งแต่ Hot Dog (150 บาท) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Shack Burger (230-340 บาท) ซิกเนเจอร์เมนูอันโด่งดังที่ใช้วัตถุดิบมินิมัล แต่รสชาติชวนติดใจจนหลายคนยอมต่อคิวนานเป็นชั่วโมง Smoked Shack (275-385 บาท) เบอร์เกอร์เบคอนรมควันที่เราชอบเป็นพิเศษ เพราะมีความจัดจ้านเล็กๆ จากพริกเชอร์รี

Shroom Burger (320 บาท) เบอร์เกอร์มังสวิรัติทำจากเห็ดพอร์โทเบลโลทอดกรอบสอดไส้ชีส เมนูนี้ดีเกินคาดเลยละ ต่อให้ไม่กินมังสวิรัติก็ต้องติดใจ

ตามด้วย Chicken Shack (210 บาท) เบอร์เกอร์อกไก่ทอดกับซอสบัตเตอร์มิลก์ และ Hot Chicken (230 บาท) เบอร์เกอร์สะโพกไก่ทอดกรอบรสเผ็ดสไตล์แนชวิลล์ ซึ่งอันหลังจะถูกใจเราที่ชอบรสจัดเป็นพิเศษ อยากให้ทุกคนได้ลอง

เช่นเดียวกับเมนู Shakes & Frozen Custard (150-190 บาท) ไอศกรีมทำใหม่ทุกวันที่เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม มีความครีมมี่จากไข่ที่เป็นวัตถุดิบลับ มีรสชาติให้เลือกคือวานิลลา ช็อกโกแลต สตรอว์เบอร์รี คาราเมล แบล็กแอนด์ไวต์ และกาแฟ โดยสามารถสั่งเป็นเมนูรูตเบียร์หรือน้ำอัดลมโฟลตได้ หรือไอศกรีมเดี่ยวๆ ก็ได้เช่นกัน

แต่หากเป็นเมนูพิเศษที่มีเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นคือ Pandan Sticky Rice Shake (230 บาท) มิลก์เชกข้าวเหนียวเยลลี่ใบเตยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวเหนียวมะม่วงอันโด่งดังที่สุดในตอนนี้

นอกจากนี้ยังมีของกินเล่นยอดนิยมอย่าง Fries (110-155 บาท) มันฝรั่งเส้นหยักทอดที่ทำให้มีความกรอบพิเศษ และ Milkshake (190-260 บาท) ไอศกรีมปั่นสูตรเฉพาะของ Shake Shack ที่มาพร้อมรสชาติพิเศษให้ลอง ได้แก่ Shack Attack ไอศกรีมปั่นรสช็อกโกแลตเข้มข้น, Coconut About You ไอศกรีมวานิลลาผสมเนื้อมะพร้าว และ CentralSwirled ไอศกรีมน้ำปลาหวานโรยขนมผิง

Good for…

เราเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้หลายคนติดใจและเฝ้ารอ Shake Shack มากที่สุดก็เพราะแม้จะเป็นฟาสต์ฟู้ด แต่แบรนด์ตั้งใจใช้วัตถุดิบพรีเมียม รวมถึงมีวัตถุดิบลับอย่าง Shack Sauce ที่แบรนด์คิดค้นขึ้นมาเอง จนกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เบอร์เกอร์ของ Shake Shack มีรสชาติไม่เหมือนใครด้วย

เช่นเดียวกับคนรักเบอร์เกอร์ หรือแฟนๆ ที่เฝ้ารอให้ Shake Shack มาเปิดใกล้บ้านมานาน เราว่าคุ้มค่ากับการรอคอย เพราะฉะนั้นต้องมาชิมให้ได้เลยนะ แถมร้านยังมีเบียร์จากนิวยอร์กและไวน์ให้จิบเคล้าเบอร์เกอร์ด้วย เริ่มหิวขึ้นมาหรือยัง?!

Shake Shack

Open: ทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.

Address: เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 (ฝั่งอิเซตันเก่า)

Budget: 230-500 บาท

Contact: Shake Shack Thailand

Map: 

ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์

The post Shake Shack เบอร์เกอร์จากนิวยอร์กสาขาแรกในไทย กับเมนูใหม่พิเศษเฉพาะที่นี่ appeared first on THE STANDARD.

ไม่ปล่อยให้รอนานไปกว่านี้ เพราะร้านเบอร์เกอร์ที่ทุกคนรอคอยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ‘Shake Shack’ ประกาศแล้วว่าจะเปิดให้บริการสาขาแรกในประเทศไทย ภายในเดือนมีนาคมที่กำลังมาถึง พร้อมขึ้นกราฟิกสวยๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองไทยให้ทุกคนแวะไปถ่ายรูปรอพลางๆ

ผลงานที่ทุกคนเห็นออกแบบโดย นาวิน ลาวัลย์ชัยกุล ศิลปินชาวไทย-อินเดีย ผู้เคยออกแบบงานกราฟิกบนรถเข็นฮอตด็อกให้ Shake Shack เมื่อประมาณ 22 ปีก่อน โดยงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงงานศิลปะ มีชื่อผลงานว่า ‘I Heart Taxi’ จัดแสดงอยู่ที่เมดิสันสแควร์พาร์ก ในมหานครนิวยอร์ก

แม้ตอนนี้จะยังไม่มีใครรู้ว่า Shake Shack สาขาแรกในประเทศไทยจะมาพร้อมการตกแต่งแบบไหน แต่เอาเป็นว่าระหว่างรอร้านเปิดอย่างเป็นทางการ ทุกคนรีบแวะไปถ่ายรูปกับบอร์ดกราฟิกสวยๆ รอกันไปก่อนนะ โดยร้านจะอยู่ที่ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์

แล้วค่อยตามไปต่อคิวลิ้มลองเบอร์เกอร์เจ้าดังจากนิวยอร์กได้ในเดือนหน้า!

The post เปิดแน่เดือนมีนาคมนี้! Shake Shack สาขาแรกในประเทศไทย ที่เซ็นทรัลเวิลด์ appeared first on THE STANDARD.

ช่วงนี้ดูเหมือนสิงคโปร์จะเป็นจุดหมายปลายทางที่คึกคักเป็นพิเศษ คงเพราะการเปิดประเทศและอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องกักตัว หรือแสดงผล ATK/RT-PCR และวันหยุดยาวที่มีแทบทุกเดือนตั้งแต่มิถุนายนจนถึงสิงหาคม จากสกู๊ปก่อนหน้าที่เราพาไปเช็กอิน 10 โลเคชันชิคๆ น่าแวะถ่ายรูป (https://thestandard.co/singapore-check-in/) ก็ถึงคราวต้องหาที่นั่งพักให้หายเหนื่อย แวะเติมพลังกับมื้ออร่อย คาเฟ่ฮอปปิ้ง หรือจะท่องราตรีพร้อมจิบค็อกเทลแก้วโปรดที่บาร์สุดเก๋ ตามลายแทง 9 ร้านกิน-ดื่ม-ฮอป สำหรับทุกคนที่กำลังจะบินไปสิงคโปร์

Shake Shack

ออกจากสนามบินเรียบร้อย ถ้าใครอยากเดินเตร่สักพักก่อนเข้าเมือง หรือท้องร้องตั้งแต่อยู่บนเครื่อง ลองแวะไป Jewel Changi หาอะไรรองท้องสักหน่อยก็เป็นความคิดที่ไม่เลว ช่วงเวลานี้คงต้อง Shake Shack เพราะกว่าร้านจะเปิดในไทยก็ตั้งปีหน้า แนะนำซิกเนเจอร์เมนูอย่าง ShackBurger ชีสเบอร์เกอร์แบบ Shake Shack ที่ใครมาก็ต้องสั่ง แต่ถ้าใครอยากลองอะไรที่แปลกใหม่ Shroom Burger คือคำตอบ เพราะนี่คือเบอร์เกอร์เห็ดพอร์โตเบลโลชิ้นหนาทอดกรอบๆ ฉ่ำทุกคำที่เคี้ยว อย่าลืมคริงเกิลฟรายส์แผ่นหยักและมิลก์เชกสักแก้วก่อนจบมื้อ

Location: Jewel Changi Airport ชั้น 2 ห้อง #02-256

Open: ทุกวัน เวลา 10.30-22.30 น.

Website: https://www.shakeshack.com.sg

Map:

The Clubroom

หนึ่งในร้านอาหารสุดฮอตที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน และชูความเป็นไพรเวตไดนิ่งด้วยการที่ต้องจองโต๊ะล่วงหน้าเท่านั้น ไม่รับวอล์กอิน ตัวร้านโดดเด่นด้วยสไตล์การตกแต่งแนว Art Deco ช่วงศตวรรษที่ 20 ให้บรรยากาศเหมือนนั่งรับประทานอาหารในตู้เสบียงบนรถไฟ จะแวะมารับประทานมื้อกลางวัน หรือหาอะไรรองท้องนิดหน่อยก่อนไปสังสรรค์ต่อที่ Amoy Street ก็ได้ จิบแชมเปญสักแก้ว หรือ Dirty Martini แกล้มค็อกเทลกุ้งกับลูกมะกอกดองทอด เริ่มต้นด้วยของกินเล่นเล็กๆ น้อยๆ รสชาติเยี่ยม ระวังจะลงเอยมื้อค่ำที่นี่โดยไม่รู้ตัว

Location: 115 Amoy Street

Open: ทุกวัน เวลา 12.00-15.00 น. และ 17.00-23.00 น. (ต้องจองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น ไม่รับวอล์กอิน)

Website: https://theclubroom.sg

Map:

Atlas

หากพูดถึงค็อกเทลบาร์ในสิงคโปร์ แน่นอนว่าต้องมี Atlas ที่นี่เพิ่งจะได้รับการจัดอันดับที่ 23 จากลิสต์ Asia’s 50 Best Bars 2022 ตัวร้านอยู่ในชั้นล็อบบี้ของตึก Parkview Square ที่ให้บรรยากาศเดียวกับตึกรามบ้านช่องของมหานครก็อตแธมในภาพยนตร์ Batman ที่นี่เป็นค็อกเทลบาร์เพดานสูงกว่าปกติถึง 3 เท่า และมีคอลเล็กชันจินที่หลากหลายและเยอะที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หากมาช่วงกลางวันก็สามารถนั่งจิบอาฟเตอร์นูนทีหรือรับประทานของว่างเบาๆ ก่อนที่จะโพล้เพล้ จากนั้นค่อยต่อด้วย Gin Tower Experience กับที่นั่งหน้าบาร์พร้อมจินเทสติ้ง แล้วจับคู่กับโทนิกที่ชื่นชอบเพื่อครีเอตเป็น G&T สูตรเฉพาะของตัวเอง

Location: Parkview Square, 660 North Bridge Road

Open: วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 12.00-01.00 น., วันศุกร์-เสาร์ เวลา 12.00-02.00 น.

Website: https://atlasbar.sg

Map:

Live Twice

บางคนเมื่อเห็นชื่อร้านแล้วอาจคุ้นตา เพราะจริงๆ แล้วร้านหยิบยกชื่อมาจากตอนหนึ่งของภาพยนตร์สายลับอังกฤษ James Bond ตอน You Only Live Twice นั่นเอง Live Twice เป็นค็อกเทลบาร์ที่ตกแต่งแนว Mid-Century Japan ไม่ว่าจะเป็นฉากไม้ บาร์ไม้เรียบๆ และทีมบาร์เทนเดอร์ที่แต่งตัวเนี้ยบและพร้อมรับออร์เดอร์ไฮบอลจากคุณ หากไปตั้งแต่ร้านเปิด เวลา 18.00-19.30 น. อย่าลืมสั่งโปร Happy Hour มาแกล้ม Wagyu Katsu Sando ของกินเล่นไฮไลต์ประจำร้าน และที่สำคัญที่สุด อย่าลืมจองโต๊ะล่วงหน้า

Location: 18-20 Bukit Pasoh Road

Open: ทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร เวลา 18.00-00.00 น. (วันศุกร์-เสาร์ ปิดเวลา 02.00 น.)

Website: https://livetwice.sg

Map:

Corduroy Palace

ร้านอาหารและบาร์ที่ทางเข้าดูลึกลับนิดหน่อย เพราะต้องอ้อมมาเข้าซอยหลังถนนเส้นหลัก แถมป้ายหน้าร้านก็ไม่มี มีแค่ตู้ขายพิซซ่าเล็กๆ เท่านั้น หากเดินเข้าซอยจนเจอโต๊ะทรงสูงสำหรับยืนกินพิซซ่าแสดงว่ามาถูกทางแล้ว ด้านในอาจจะดูแปลกตาเล็กน้อย เพราะเมื่อเดินเข้าไป ซ้ายมือเป็นตู้แช่ไวน์ที่ใครอยากกินขวดไหนจิ้มแล้วแจ้งบริกรได้เลย ตัวร้านได้รับการออกแบบโดยอิงจากความเป็น Dive Bar ที่ผสมผสานโทนความอู้ฟู่ของโรงแรมใจกลางแมนฮัตตัน นั่งจิบไวน์ดีๆ สักแก้ว หรือมาร์ตินี กับบีฟทาร์ทาร์ และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสบายๆ ที่พอรู้ตัวอีกทีก็ดึกเสียแล้ว

Location: 110 Amoy Street, Genmill Lane, #01-02

Open: วันจันทร์-เสาร์ เวลา 15.00-01.00 น.

Website: https://www.corduroypalace.com

Map:

Neptune

จุดแวะเช็กอินและบรันช์สปอตแห่งใหม่ย่าน East Coast เหมาะสำหรับเปลี่ยนบรรยากาศพักจากมู้ดเมืองใหญ่ชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า บรันช์ หรือสังสรรค์ยามดึกพร้อมเนเชอรัลไวน์ การสั่งอาหารและเครื่องดื่มจะใช้ระบบออร์เดอร์และชำระเงินจากเว็บไซต์ เผื่อวันกลับใครที่ยังอยากฮอปปิ้งรอบสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องก็แวะมาที่นี่ได้ เพราะเป็นทางผ่านจากตัวเมืองไปสนามบิน

Location: 237 East Coast Road

Open: ทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ เวลา 08.00-22.00 น. (วันอาทิตย์ ปิดเวลา 19.00 น.)

Website: https://www.theneptune.com.sg

Map:

Supernova

คาเฟ่พี่น้องท้องเดียวกับ Neptune แต่คุมโซนกันคนละแถบ ตัวร้านตั้งอยู่หัวมุมถนนระหว่าง Tanjong Katong กับ Boscombe ที่นี่ช่วงเช้าและกลางวันเป็นคาเฟ่ เสิร์ฟบรันช์เมนูและอาหารจานเดียวง่ายๆ พอตกเย็นหลัง 17.00 น. เป็นต้นไปรับบทเป็นเนเชอรัลไวน์บาร์ และมีของกินเล่นกับโอโคโนมิยากิไว้แกล้มดริงก์ จะมาเช้าหรือเย็นก็ได้มู้ดคนละแบบ และเช่นเคย เราสามารถออร์เดอร์อาหารและเครื่องดื่มพร้อมทั้งจ่ายเงินได้จากเว็บไซต์ จิ้มเมนูที่อยากกิน กรอกเลขโต๊ะ ตัดเงินผ่านบัตร เพียงเท่านี้ก็รอชิลได้เลย

Location: 266 Tanjong Katong Road

Open: ทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ เวลา 08.00-22.00 น. (วันอาทิตย์ ปิดเวลา 19.00 น.)

Website: https://www.supernovaforeva.com.sg

Map:

Tiong Bahru Bakery – Foothills

คาเฟ่และร้านขนมอบเจ้าดังของสิงคโปร์ที่เปิดให้บริการมากว่า 10 ปี ขึ้นชื่อเรื่องเบเกอรีและชาที่เบลนด์ขึ้นเอง ถ้าต้องไปคาเฟ่ฮอปปิ้งอีกหลายที่ แนะนำให้สั่ง Kouign Amann กับชาร้อนสักแก้ว ยิ่งได้นั่งชมบรรยากาศอันร่มรื่นของ Fort Canning Park เราคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว แต่หากไม่มีเวลามาที่สาขา Foothills ก็ยังสามารถตามเก็บได้จากสาขาอื่นๆ ที่กระจายอยู่ทั่วสิงคโปร์

Location: 70 River Valley Road, #01-05, Fort Canning Park

Open: ทุกวัน เวลา 07.30-19.00 น.

Website: https://www.tiongbahrubakery.com

Map:

Ya Kun Kaya Toast

หากพูดถึงอาหารเช้าสไตล์สิงคโปร์ คงยากที่จะไม่เอ่ยชื่อ Ya Kun แม้ว่าร้านนี้จะมีสาขาในไทยเหมือนกัน แต่ไหนๆ ก็มาสิงคโปร์แล้ว ลองหาเวลาช่วงเช้าสักวันแวะไปที่สาขาแรกดูบ้าง ตัวร้านอยู่ในอาคารเก่า ยังคงความดั้งเดิมและมีร่องรอยตามกาลเวลา ครัวเปิดเล็กๆ หลังแคชเชียร์คือเบื้องหลังความอร่อยระดับตำนาน ลองสั่งขนมปังปิ้งกับไข่ลวก จิ้มกินพร้อมซดกาแฟดำหรือชาร้อน อร่อยแบบเรียบง่ายทีเดียวเชียว

Location: 18, #01-01 China Street

Open: ทุกวัน เวลา 07.30-16.30 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ ปิดเวลา 15.00 น.)

Website: http://www.yakun.com

Map:

The post 9 ร้านกิน-ดื่ม-ฮอปสิงคโปร์ ตั้งแต่บาร์ Asia’s 50 Best ถึงคลับรูมที่ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น appeared first on THE STANDARD.

KFC เคยออกเทียนหอมกลิ่นไก่ทอด และ IKEA ก็มีเทียนกลิ่นมีตบอลมาก่อน แล้วทำไมแบรนด์เบอร์เกอร์ขวัญใจมหาชน (ที่กำลังจะเปิดสาขาในไทยด้วยนะ) อย่าง Shake Shack จะมีเทียนกลิ่นเบอร์เกอร์บ้างไม่ได้ 

โปรเจ็กต์นี้ไม่ใช่ไอเดียลอยๆ เพราะเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา เทียนหอมเซ็ต ‘Burger and Fries’ ได้วางขายในสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อย จากที่ Shake Shack ได้จับมือร่วมกับ Apotheke Candles แบรนด์เทียนสายคราฟต์แห่งย่านบรูกลิน ที่ก่อนหน้านี้ Apotheke ก็ได้มีโปรเจ็กต์สนุกๆ อย่างเทียนหอมกลิ่นค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก 5 บาร์ชื่อดังในนิวยอร์กให้เราได้เห็นมาก่อนแล้ว 

ด้วยความที่ทั้งสองแบรนด์แชร์ความเป็นชาวนิวยอร์กซิตี้ด้วยกันทั้งคู่ โปรเจ็กต์นี้จึงเป็นการแชร์บรรยากาศของเมืองและเรื่องราวของ Shake Shack ผ่านการตีความของ Apotheke ออกมาเป็นเทียนหอมสองกลิ่น เริ่มจาก ‘Burger in the Park’ กลิ่นที่ตั้งใจจำลองบรรยากาศของการได้กิน Shake Shack ครั้งแรกท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นใน Madison Square Park อันเป็นสาขาจุดเริ่มต้นของ Shake Shack โดยให้กลิ่นของหญ้า มะเขือเทศสด ตามด้วยดอกแดฟโฟดิล ดอกแมกโนเลีย จบด้วยกลิ่นไม้โอ๊กและมอส 

ถัดมาเป็นกลิ่น ‘Shake & Fries’ ที่จำลองความรู้สึกของการได้กินเฟรนช์ฟรายส์กับมิลก์เชก ให้กลิ่นหอมๆ หวานๆ ของครีม มอลต์ เกลือทะเล มันฝรั่งทอด จบด้วยวานิลลาและแอมเบอร์ ที่แค่อ่านคำบรรยายก็ชวนหิวแล้ว ถ้าจุดในบ้านจะขนาดไหน 

เทียนหอมเซ็ต ‘Burger and Fries’ มากับเทียนหอมขนาด 5 ออนซ์ทั้ง 2 กลิ่น ราคาเซ็ตละ 42 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,450 บาท สามารถสั่งซื้อได้ทาง https://apothekeco.com/ 

ภาพ: Apotheke Candles 

อ้างอิง:

• https://hypebeast.com/2022/5/shake-shack-apotheke-burger-and-fries-candles-release-info 

The post Shake Shack ร่วมกับ Apotheke Candles ออกเทียนหอม 2 กลิ่น เมื่อครั้งกินเบอร์เกอร์ในสวนครั้งแรก appeared first on THE STANDARD.

หลังจากที่เมื่อเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา แบรนด์เบอร์เกอร์จากนิวยอร์กซิตี้ อย่าง Shake Shack ได้โพสต์เกี่ยวกับสาขาใหม่ในประเทศมาเลเซียวางแผนจะเปิดภายในปี 2566 และไหนๆ จะใกล้ประเทศไทยขนาดนี้ เราก็แอบอดคาดหวังไม่ได้ว่าแบรนด์เบอร์เกอร์โปรดจะมาเปิดที่บ้านเราบ้างได้ไหมนะ

ในที่สุดหลังจากรอมาตั้งแต่ต้นปี ล่าสุด Official Page ของ Shake Shack ก็ได้โพสต์ภาพพร้อมแคปชันว่า พวกเขาจะยกเบอร์เกอร์จากนิวยอร์กมาเสิร์ฟที่บ้านเราแล้วแน่นอนเร็วๆ นี้ แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะเปิดเมื่อไรหรือที่ไหน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร แฟนๆ Shack Shack ก็ตั้งตารอได้เลย

Shake Shack เริ่มต้นจากการเป็นร้านเล็กๆ ใน Madison Square Park ในปี 2004 ก่อนที่จะกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมาก และเปิดสาขาในหลายทวีป ทั้งยุโรป เอเชีย และอเมริกา ด้วยคำนิยามแบรนด์ว่าเป็น ‘Modern Day Roadside Burger’ หรือเบอร์เกอร์แสนคอมฟอร์ตที่คุณหาได้จากทุกหัวมุมถนนที่เลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและสดใหม่เท่านั้น

ใครที่เคยกินและคุ้นเคยกับแบรนด์อยู่แล้วจะต้องรู้จักซิกเนเจอร์อย่าง ShackBurger เบอร์เกอร์เนื้อที่มาพร้อมแพตตี้เนื้อ อเมริกันชีส ผักกาด มะเขือเทศ และซอสสูตรเฉพาะของแบรนด์ที่พวกเขาเรียกมันว่า Shack Sauce แน่นอน

หากมีอัปเดตอะไรเพิ่มเติมเราจะรีบแจ้งให้ทราบทันที ระหว่างนี้เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/shakeshack

ภาพ: Shake Shack

The post แล้วก็มาจริงๆ! Shake Shack กำลังจะเปิดสาขาที่ประเทศไทยเร็วๆ นี้ appeared first on THE STANDARD.

ถึงแม้สถานการณ์โควิดจะส่งผลให้ผู้คนส่วนใหญ่หันมาใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรีแทนการออกไปรับประทานอาหารข้างนอกกันมากขึ้น แต่สำหรับ DoorDash หนึ่งในแอปพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรีในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ยังเล็งเห็นถึงเสน่ห์ของการกิน-ดื่มที่สามารถเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของผู้คนได้ 

DoorDash ได้จับมือร่วมกับร้านเบอร์เกอร์สัญชาติอเมริกันอย่าง Shake Shack ที่เพิ่งเพิ่มเมนูแซนด์วิชไก่ทอดไปหมาดๆ เพื่อเปิดเว็บไซต์หาคู่ LetsEatCute.com โดยใช้เมนูแซนด์วิชไก่ทอดเป็นตัวเชื่อมโยง 

LetsEatCute.com เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้บริการได้เลยตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2022 ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ด้วยการเข้าไปยังเว็บไซต์พร้อมอัปโหลดรูปเซลฟี และตอบคำถามว่า ‘คุณชอบกินเผ็ดแค่ไหน?’ เพื่อเป็นการลงทะเบียน หลังจากนั้นสามารถเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์แล้วเริ่มแมทช์กับคู่ที่ใช่ด้วยการแตะที่ไอคอนรูปไฟของทางเว็บไซต์ 

เมื่อผู้ใช้งานได้ทำการแมทช์กับใครสักคนแล้วก็จะได้รับโค้ดโปรโมชันเพื่อรับแซนด์วิชไก่ทอดจาก Shake Shack ได้ฟรีผ่านการสั่งด้วยแอปพลิเคชัน DoorDash ภายใต้เงื่อนไขว่าผู้ใช้งานจะต้องมียอดสั่งซื้อขั้นต่ำ 20 ดอลลาร์สหรัฐนั่นเอง

Shake Shack มองว่าการจับมือร่วมกับ DoorDash สำหรับโปรเจกต์ ‘Eat Cute’ ในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถจุดประกายเหล่าคนโสดทั้งหลายได้ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ แถมหากการเดตของคุณไม่เป็นดั่งที่คิด อย่างน้อยคุณก็ยังได้อิ่มอร่อยกับแซนด์วิชไก่ทอดฟรีอยู่ดี

อ้างอิง:

• https://www.foodandwine.com/news/shake-shack-doordash-dating-app-buffalo-chicken-sandwich

The post ‘Shake Shack’ เปิดเว็บไซต์หาคู่พร้อมแจกฟรี ‘แซนด์วิชไก่ทอด’ ให้กับผู้ใช้งานที่แมทช์กันภายใน 15 ก.พ. นี้ appeared first on THE STANDARD.