SET50 – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Mon, 17 Feb 2025 09:06:07 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ตลท. ปรับเกณฑ์ Capped Weight ลดน้ำหนักหุ้นรายตัว ใช้คำนวณกับ SET50 และ SET100 คาดเริ่มใช้กลางปีนี้ หวังช่วยลดความผันผวน https://thestandard.co/set-capped-weight-adjustment-2025/ Mon, 17 Feb 2025 09:05:51 +0000 https://thestandard.co/?p=1042864 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศปรับเกณฑ์ Capped Weight จำกัดน้ำหนักหุ้นรายตัวที่ 10%

SET Index ระหว่างการซื้อขายวันนี้ (17 กุมภาพันธ์) ดิ่งห […]

The post ตลท. ปรับเกณฑ์ Capped Weight ลดน้ำหนักหุ้นรายตัว ใช้คำนวณกับ SET50 และ SET100 คาดเริ่มใช้กลางปีนี้ หวังช่วยลดความผันผวน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศปรับเกณฑ์ Capped Weight จำกัดน้ำหนักหุ้นรายตัวที่ 10%

SET Index ระหว่างการซื้อขายวันนี้ (17 กุมภาพันธ์) ดิ่งหนักกว่า 30 จุด ขณะที่หุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA ดิ่งติดฟลอร์ หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมปรับปรุงเกณฑ์จำกัดน้ำหนักรายตัวที่ใช้กับ SET50 และ SET100 

 

ล่าสุดวันนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์ชี้แจงระบุว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) เปิดภาคเช้าวันนี้ (17 กุมภาพันธ์) ปรับลดลง 31.96 จุด หรือ 2.51% ลดลงจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 1,240.14 จุด สาเหตุหลักมาจากการปรับลงของราคาหุ้น DELTA ที่ลดลงหลังข่าวผลประกอบการที่ลดลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และการปรับลดลงของหุ้น AOT เนื่องจากข่าวสัญญาสัมปทาน อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ชี้แจงเพิ่มเติมมาแล้วเช้าวันนี้

 

ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อยู่ระหว่างการเปิดเฮียริ่งปรับปรุงการคำนวณดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นตั้งแต่วันที่ 4-17 กุมภาพันธ์ 2568 โดยวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเปิดเฮียริ่งก่อนที่จะพิจารณาเป็นเกณฑ์ต่อไป

 

โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ เสนอให้พิจารณาจำกัดน้ำหนักหุ้นรายตัว (Constituent Stock Weight Capping) เพื่อช่วยลดอิทธิพลของหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ต่อดัชนี เนื่องจากเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับผลการหารือเบื้องต้นกับผู้ใช้งานดัชนีและผลการศึกษาต่างประเทศข้างต้น โดยจะพิจารณานำ Capped Weight มาใช้กับ SET50, SET100, SET50FF และ SET100FF 

 

โดยต่างประเทศจึงเลือกใช้การกำหนด Capped Weight ในการคำนวณดัชนี เพื่อจำกัดสัดส่วนของหลักทรัพย์/กลุ่มหลักทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยการจำกัดน้ำหนักของหลักทรัพย์ในดัชนีนั้นเป็นมาตรฐานที่ใช้ในหลายดัชนีทั่วโลก เช่น EuroStoxx50, HSI, MSCI, CAC40, NASDAQ100 และ Nikkei225 

 

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทำการทดสอบ (Index Simulation) พบว่าการจำกัดน้ำหนักหลักทรัพย์ราย ตัวในดัชนี SET50 และ SET100 ที่ระดับ 10% นั้น สามารถลดอิทธิพลของหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงรักษาโครงสร้างและความสามารถในการสะท้อนภาพรวมของตลาดไว้ได้ นอกจากนี้ระดับ 10% ยังสอดคล้องกับข้อกำหนดของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่กำหนดให้กองทุนรวมสำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (Retail Mutual Fund) ไม่สามารถลงทุนในหลักทรัพย์รายตัวเกิน 10%

 

ตลท.ชง 2 แนวทางปรับเกณฑ์ Capped Weight

 

สำหรับเสนอแนวทางการปรับปรุงการคำนวณดัชนีด้วยการ Capped Weight หุ้นรายตัว ดังนี้ 

 

  1. กำหนดให้หลักทรัพย์รายตัวที่เป็นองค์ประกอบในดัชนี SET50, SET50FF, SET100 และ SET100FF มีน้ำหนักไม่เกิน 10% ในแต่ละรอบการคัดเลือก

 

  1. กำหนดให้มีการ Rebalance น้ำหนักของหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีดังกล่าวเป็นราย ไตรมาส และในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างรอบคัดเลือก เช่น กรณีหลักทรัพย์ IPO ขนาดใหญ่ หรือกรณีควบรวมและซื้อกิจการ (Merger & Acquisition) โดยแนวทางการ Rebalance จะเน้นการลด Index Turnover ที่ไม่จำเป็นเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้ดัชนี

 

หวังปรับเกณฑ์ Capped Weight ใหม่ ช่วยลดความผันผวน คาดเริ่มใช้กลางปีนี้

 

อัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผย ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างรอผลการเฮียริ่งของการปรับเกณฑ์ Capped Weight เพื่อต้องการนำมาใช้ช่วยลดความผันผวนหรือลดการพึ่งพาหุ้นตัวใดตัวหนึ่งที่จะมีผลต่อดัชนีตลาดหุ้น ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ศึกษามาจากในระดับมาตรฐานสากลที่มีการใช้ในตลาดหุ้นทั่วโลก

 

เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาจะมีหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) บางแห่งที่จะมีความแตกต่าง (Unique) และมีความเฉพาะตัวส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของ SET Index ให้ความผันผวนแบบผิดปกติได้



“มีความตั้งใจที่จะสร้างเสถียรภาพให้ตลาดหุ้นไทยมีความเหมาะสมมากขึ้น” อัสสเดชกล่าว

 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการปรึกษาหารือกับ บจ. รายดังกล่าวที่มีประเด็นมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นประเด็นเฉพาะของ บจ. รายดังกล่าว เช่น กรณีของประเด็นของการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) เพื่อเพิ่มให้มี Free Float หรือให้สภาพคล่องให้มากขึ้น เพราะโดยหลักการพื้นฐานของตลาดหุ้นหรือหุ้นรายตัว ราคาควรต้องสะท้อนมูลค่าพื้นฐานของตลาดหุ้นหรือ บจ. นั้นๆ

 

“โดยหลักการพื้นฐานของตลาดทุนราคาควรที่อยู่ที่พื้นฐาน เพราะฉะนั้นหากมีอะไรที่แปลก ทำให้ราคาหลุดจากพื้นฐานได้จะเป็นสิ่งที่เรียกว่าอาจจะไม่ได้ดีต่อเสถียรภาพของตลาดทุนของไทย” อัสสเดชกล่าว

 

ด้าน ดร.รินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า กรณีที่ในเฮียริ่งกำหนดเกณฑ์ Capped Weight ของหุ้นรายตัวไว้ที่ 10% ถือเป็นไปตามเกณฑ์ในตลาดหุ้นในต่างประเทศมีการกำหนดเกณฑ์ Capped Weight ของหุ้นรายตัวไว้ที่ 8-15% ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละประเทศ

 

อีกทั้งสอดคล้องกับข้อกำหนดของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่กำหนดให้กองทุนรวมสำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (Retail Mutual Fund) ไม่สามารถลงทุนในหุ้นรายตัวเกิน 10% ของกองทุน

 

ทั้งนี้ คาดว่าเกณฑ์ Capped Weight ใหม่จะสามารถนำมาใช้ได้ในการคำนวณ SET50 และ SET100 ได้ในช่วงกลางปีนี้

 

ทบทวนมาตรการ Uptick Rule คุม Short Selling 

 

ขณะที่ อัสสเดช ยังกล่าวต่อว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างการวิเคราะห์กับทบทวนผลกระทบมาตรการ Uptick Rule ที่มาใช้ในช่วงที่ผ่านมา หรือปรับมาตรการเพื่อให้มีความเหมาะสมกับสภาวะบรรยากาศตลาดหุ้นปัจจุบันให้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามีข้อดีคือช่วยสัดส่วนธุรกรรม Short Selling ต่อวอลุ่มซื้อขายในตลาดหุ้นไทยที่เคยสูงระดับประมาณ 15-16% โดยปัจจุบันลดลงมาเหลือเฉลี่ยประมาณ 5% ช่วยลดความผันผวนธุรกรรม Short Selling ไปในระดับหนึ่ง

The post ตลท. ปรับเกณฑ์ Capped Weight ลดน้ำหนักหุ้นรายตัว ใช้คำนวณกับ SET50 และ SET100 คาดเริ่มใช้กลางปีนี้ หวังช่วยลดความผันผวน appeared first on THE STANDARD.

]]>
เปิดโอกาส รอจังหวะฟื้นตัวของหุ้นไทย ด้วย SET50 Protected Bull note https://thestandard.co/set50-protected-bull-note/ Thu, 14 Mar 2024 03:00:33 +0000 https://thestandard.co/?p=907392

ตลาดหุ้นไทยในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นตลาดหุ้นที่ไม่เพียงมีผ […]

The post เปิดโอกาส รอจังหวะฟื้นตัวของหุ้นไทย ด้วย SET50 Protected Bull note appeared first on THE STANDARD.

]]>

ตลาดหุ้นไทยในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นตลาดหุ้นที่ไม่เพียงมีผลตอบแทน Underperform ตลาดหุ้นอื่น แต่ยังมีผลตอบแทนติดลบอีกด้วย ดัชนี SET ติดลบถึง -15.2% ในปี 2566 เป็นตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนแย่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก รองจากฮ่องกงและจีน และยังคงให้ผลตอบแทนติดลบต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2567 ที่ -1.25% (ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567) ผลตอบแทนที่ติดลบนี้สวนทางกับผลตอบแทนของตลาดหุ้นทั่วโลกที่เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องถึงต้นปี 2567 ตลาดหุ้นสำคัญๆ อย่างตลาดหุ้นสหรัฐฯ Dow Jones +3.83%, S&P 500 +6.69%, Nasdaq +6.56%, ตลาดหุ้นยุโรป Euro Stoxx 50 +7.75% และตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei 225 +16.84% (ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567)

 

ปัจจัยทั้งภายในและภายนอกรุมเร้า

 

หากจะวิเคราะห์หาสาเหตุว่าทำไมหุ้นไทยถึงให้ผลตอบแทนติดลบต่อเนื่อง พบว่าตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันหลายด้าน เริ่มจากตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มเกิดการ Sector Rotation จากกระแส AI รวมถึงการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ส่งผลให้เงินทุนเริ่มไหลเข้าสู่หุ้นกลุ่ม Growth ในตลาดต่างประเทศมากขึ้น หุ้นไทยที่ยังไม่ได้มีความโดดเด่นในเรื่อง AI หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ จึงมีความน่าสนใจน้อยลง

 

ด้านปัจจัยในประเทศโดยเฉพาะเรื่องการเมืองก็ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากการเลือกตั้งแล้วเกิดความไม่ลงตัวและมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่าง ด้านนโยบายที่เคยหาเสียงช่วงเลือกตั้งก็เข้ามาเป็นปัจจัยกดดันหุ้นไทย ไม่ว่าจะเป็นหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า รวมถึงความไม่ชัดเจนของนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต และงบประมาณปี 2567 ต้องล่าช้าออกไป

 

ด้านการเติบโตของประเทศ GDP ไทยปี 2566 ชะลอตัวลง โดยเติบโตเพียง 1.9% จาก 2.5% ในปี 2565 และสภาพัฒน์ยังมีการปรับลดกรอบคาดการณ์การเติบโตของไทยในปี 2567 ลงจาก 2.7-3.7% มาอยู่ที่ 2.2-3.2% สะท้อนถึงโมเมนตัมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

 

นอกจากปัจจัยมหภาคที่กดดันแล้ว ยังมีกระแสข่าวที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีก ไม่ว่าจะเป็นของหุ้นที่มีการตกแต่งบัญชี หรือหุ้นที่มีสภาวะขาดสภาพคล่องจนไม่สามารถชำระหนี้หุ้นกู้ได้ รวมถึงกระแสข่าวการทำ Naked Short Sell ในตลาดหุ้นไทย และภาพรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนที่มีการปรับลดลงในปี 2566

 

แม้จะดูซบเซา แต่ยังมีหวังฟื้นตัวในครึ่งหลังของปี

 

ในปี 2567 เรายังมีความหวังและการฟื้นตัวขึ้นของเศรษฐกิจไทย นำโดยการท่องเที่ยว เราเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 3 ล้านคน 2 เดือนติดกัน (ธันวาคม 2566 และมกราคม 2567) นำโดยนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มกลับเข้ามา UOB Group คาดว่านักท่องเที่ยวปีนี้จะเพิ่มขึ้นแตะ 33.5 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ว่า 3 ล้านล้านบาท หรือ 17.2% ของ GDP

 

 

นอกจากการท่องเที่ยวแล้ว ภาคการส่งออกคาดว่าจะฟื้นตัวเช่นกัน จากประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกของ IMF ที่ปรับคาดการณ์ GDP โลกปี 2567 ขึ้นสู่ระดับ 3.1% (จาก 2.9%)  ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวและความต้องการสินค้าส่งออกจากไทยให้เพิ่มขึ้นด้วย เราเริ่มเห็นสัญญาณจากมูลค่าส่งออกเดือนมกราคมอยู่ที่ 22,649.9 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 10.0%YoY สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 4.7% การส่งออกของไทยยังขยายตัวต่อเนื่องตามทิศทางการค้าโลกที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับปัจจัยมูลค่าฐานการส่งออกต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อีกทั้งมีแรงหนุนจากการส่งออกคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบตามการฟื้นตัวของวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่ยังคงขยายตัวสูง

 

ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรวาระแรกในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขั้นตอนต่อไปจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อปรับแก้ไขและส่งให้สภาผู้แทนราษฎรมีลงมติในวาระ 2-3 ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน จึงคาดว่าในไตรมาส 2 นี้เราน่าจะเห็นการอนุมัติงบประมาณ ซึ่งจะมีเม็ดเงินที่เข้ามาช่วยหนุนเศรษฐกิจในปีนี้ให้เดินหน้าต่อ

 

ตลาดหุ้นไทยน่าจะเริ่มสดใสขึ้นจากคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตขึ้นในปี 2567 โดยคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) จาก Bloomberg Consensus อยู่ที่ 93.6 บาทต่อหุ้น โต 16% จากปี 2566 (ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์) และดีกว่า EPS Growth ของหุ้นโลกที่คาดว่าจะโต 8% จากการคาดการณ์การเติบโตของกำไรต่อหุ้นนี้ส่งผลให้ Fwd PE ปี 2567 ของ SET Index อยู่ที่ 14.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 18.14 เท่า หรืออยู่ที่ -1SD ด้านกระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติเดือนกุมภาพันธ์นี้เริ่มมีเงินทุนไหลเข้าราว 8.7 พันล้านบาท (ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์)

 

เปิดโอกาสเติบโต พร้อมปิดความเสี่ยง

 

จากปัจจัยข้างต้น เราเริ่มเห็นโอกาสการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยในระดับราคาที่น่าสนใจ แต่การลงทุนอาจเผชิญความผันผวนหรือปัจจัยเชิงลบที่ไม่คาดคิดได้ โดยในปีนี้ก็ยังมีหลายปัจจัยที่ต้องจับตา ไม่ว่าจะเป็นเงินเฟ้อที่อาจกลับมาพุ่งสูงขึ้น หลังจากราคาพลังงานปรับตัวขึ้น ประเด็นการเมืองทั้งการเลือกตั้งใหญ่โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าและการค้าได้ และนโยบายการเงินที่อาจไม่เป็นไปตามคาด

 

จากสถานการณ์ข้างต้น UOB แนะนำการลงทุนที่สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อความมั่งคั่งอย่างมั่นคง ด้วย SET50_AKO Protected Bull – SharkFin

 

SET50_AKO Protected Bull – SharkFin เป็นผลิตภัณฑ์หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 ประเภทที่มีการประกันเงินต้น ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้

 

เหมาะกับใครบ้าง?

  1. ผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสในการลงทุนระยะสั้นเพียง 1 ปี ที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากประจำหรือตราสารหนี้ระยะสั้นทั่วไป
  2. ผู้ลงทุนที่รับความผันผวนได้น้อย เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้ความคุ้มครองเงินต้น
  3. ผู้ลงทุนที่มีมุมมองคาดว่าดัชนี SET50 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แต่คาดว่าไม่เกิน Knock-Out Price (15%)  

 

การจ่ายผลตอบแทน จากตัวอย่างราคานำเสนอ ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 

 

  • ผลตอบแทนอยู่ในช่วง 0-6%* (จาก Participation Rate ที่ 40%)
  • ราคาปิดของ SET50 ณ วันทำการใดตลอดช่วงอายุของตราสาร ไม่เคยสูงกว่าหรือเท่ากับราคา Knock-Out Price (Knock-Out Event Never Occurs)
  1. ณ วัน Final Valuation Date (2 วันทำการก่อนครบอายุตราสาร) ราคาปิดต่ำกว่า Strike Price: ได้รับคืนเฉพาะเงินต้น
  2. ณ วัน Final Valuation Date ราคาปิดอยู่ระหว่าง Strike Price และ Knock-Out Price: ได้รับผลตอบแทนที่เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของดัชนี SET50 โดยมี PR 40% ส่งผลให้โอกาสได้ผลตอบแทนสูงสุดอยู่ที่ 6%* ต่อปี
  • ราคาปิดของ SET50 ณ วันทำการใดตลอดช่วงอายุของตราสาร เคยอยู่สูงกว่าหรือเท่ากับราคา Knock-Out Price (Knock-Out Event Occurs)
  1. ได้รับผลตอบแทนที่อัตรา Rebate คือ 0.1%* ต่อปี

 

*อัตราผลตอบแทนยังไม่รวมการหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%

 

ตัวอย่างราคานำเสนอ ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 

 

 

คำเตือน:

 

  • ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่ ที่ต้องการเพิ่มผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากและตราสารหนี้ทั่วไป
  • เมื่อถึงวันครบกำหนดอายุตราสาร ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับคืนเฉพาะเงินต้น ในกรณีที่วันกำหนดราคาปัจจัยอ้างอิง แล้วดัชนี SET50 ปรับตัวลงต่ำกว่าหรือเท่ากับ Strike Price (Worst Case Scenario)
  • ผู้ลงทุนมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับอัตราผลตอบแทน หรือได้รับอัตราผลตอบแทนที่ไม่แน่นอน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของดัชนี SET50 ตามเงื่อนไขการลงทุน
  • การลงทุนมีอายุ 1 ปี และผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืน หรือไถ่ถอนก่อนครบกำหนดได้
  • ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง เงื่อนไขผลตอบแทน วิเคราะห์ความเสี่ยงและความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงอย่างถี่ถ้วน ก่อนตัดสินใจลงทุน

 

ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดต่อที่ปรึกษาทางการเงิน (Client Advisor) ของ UOB Privilege Banking ได้ที่ โทร. 0 2081 0999 หรือคลิก www.uob.co.th/privilegebanking

 

อ้างอิง:

 

The post เปิดโอกาส รอจังหวะฟื้นตัวของหุ้นไทย ด้วย SET50 Protected Bull note appeared first on THE STANDARD.

]]>
KCE ขึ้นแท่นหุ้นใหม่ที่เข้าคำนวณดัชนี SET50 ช่วงครึ่งแรกปี 2567 ขณะที่ราคาหุ้นปีนี้พุ่ง 17.74% https://thestandard.co/kce-set50/ Mon, 18 Dec 2023 12:23:32 +0000 https://thestandard.co/?p=878209 KCE

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย […]

The post KCE ขึ้นแท่นหุ้นใหม่ที่เข้าคำนวณดัชนี SET50 ช่วงครึ่งแรกปี 2567 ขณะที่ราคาหุ้นปีนี้พุ่ง 17.74% appeared first on THE STANDARD.

]]>
KCE

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SET50, SET50FF, SET100, SET100FF, sSET, SETCLMV, SETHD, SETESG และ SETWB ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 (2 มกราคม – 30 มิถุนายน 2567) โดยดัชนี SET50FF และดัชนี SET100FF จะเริ่มเผยแพร่เป็นครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ซึ่งดัชนีใหม่ทั้งสองดัชนีใช้รายชื่อหลักทรัพย์ชุดเดียวกับที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SET50 และดัชนี SET100 ตามลำดับ

 

โดยดัชนี SET50 มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 1 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE)

 

ทั้งนี้ ราคาหุ้น KCE ปิดที่ 55 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.46% ส่วนราคาตั้งแต่ต้นปีจนปัจจุบัน (18 ธันวาคม) ปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 17.74% ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ตั้งแต่ต้นปีจนปัจจุบัน (18 ธันวาคม) อยู่ที่ 64,719.35 ล้านบาท เทียบกับปีที่แล้วที่อยู่ที่ 54,961.40 ล้านบาท 

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: 

 


 

ส่วนดัชนี SET100 มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 10 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย 

 

  • บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS) 
  • บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) 
  • บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) 
  • บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) 
  • บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น (MOSHI) 
  • บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) 
  • บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) 
  • บมจ.เอสไอเอสบี (SISB) 
  • บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) 
  • บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) (TOA)

 

ดัชนี sSET มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 17 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย 

 

  • บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) 
  • บมจ.เชฎฐ์ เอเชีย (CHASE) 
  • บมจ.ไดนาสตี้เซรามิค (DCC) 
  • บมจ.จีเอเบิล (GABLE) 
  • บมจ.กิฟท์ อินฟินิท (GIFT) 
  • บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) (KEX) 
  • บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) (MGC) 
  • บมจ.พริมา มารีน (PRM) 
  • บมจ.พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป (PRTR) 
  • บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) 
  • บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) 
  • บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) 
  • บมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC) 
  • บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) 
  • บมจ.พลาสติค และหีบห่อไทย (TPAC) 
  • บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) 
  • บมจ.โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง (WPH)

 

ดัชนี SETCLMV ไม่มีหลักทรัพย์เข้าใหม่

 

ดัชนี SETHD มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 1 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM)

 

ดัชนี SETESG มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 19 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย 

 

  • บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) 
  • บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) 
  • บมจ.บริทาเนีย (BRI) 
  • บมจ.ช.การช่าง (CK) 
  • บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW)
  • บมจ.เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล (HENG) 
  • บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) 
  • บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) 
  • บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น (JTS) 
  • บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) 
  • บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) 
  • บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) 
  • บมจ.นามยง เทอร์มินัล (NYT) 
  • บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) 
  • บมจ.สหมิตรถังแก๊ส (SMPC) 
  • บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) 
  • บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) 
  • บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) 
  • บมจ.ไทยออพติคอล กรุ๊ป (TOG)

 

ดัชนี SETWB มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 3 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย

 

  • บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) 
  • บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) 
  • บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE)

 

ทั้งนี้ การทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนีดังกล่าวของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการทุกครึ่งปี และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ได้กำหนดไว้ ในส่วนของดัชนี SET50 และ SET100 นั้นใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือกเดียวกัน ซึ่งกำหนดว่าในการคัดเลือกจะต้องได้จำนวนหลักทรัพย์ที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อมาเป็นองค์ประกอบในดัชนี จำนวน 100 หลักทรัพย์ และสำรองอีก 5 หลักทรัพย์ รวมเป็น 105 หลักทรัพย์ โดยหากยังไม่สามารถคัดเลือกหลักทรัพย์ได้ครบตามจำนวนดังกล่าว จะดำเนินการปรับอัตราส่วนด้านสภาพคล่องจนกว่าจะได้หลักทรัพย์ครบ 

 

ทั้งนี้ การทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ในครั้งนี้ใช้ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ถึง 30 พฤศจิกายน 2566

The post KCE ขึ้นแท่นหุ้นใหม่ที่เข้าคำนวณดัชนี SET50 ช่วงครึ่งแรกปี 2567 ขณะที่ราคาหุ้นปีนี้พุ่ง 17.74% appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: Fund Flow หลัง Rebalance กลุ่ม SET50-SET100 หุ้นไทยตัวไหนได้-เสียประโยชน์ | THE STANDARD WEALTH https://thestandard.co/morning-wealth-30062023-2/ Fri, 30 Jun 2023 06:29:55 +0000 https://thestandard.co/?p=809866

จับทาง Fund Flow หลัง Rebalance กลุ่ม SET50-SET100 หุ้น […]

The post ชมคลิป: Fund Flow หลัง Rebalance กลุ่ม SET50-SET100 หุ้นไทยตัวไหนได้-เสียประโยชน์ | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
  • จับทาง Fund Flow หลัง Rebalance กลุ่ม SET50-SET100 หุ้นไทยตัวไหนได้-เสียประโยชน์ พูดคุยกับ กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน สายงานวิจัย บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 . ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: Fund Flow หลัง Rebalance กลุ่ม SET50-SET100 หุ้นไทยตัวไหนได้-เสียประโยชน์ | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
หุ้น ‘ทรู’ กลับเข้าเทรดวันแรก 3 มี.ค. นี้ เสี่ยงหลุดโผ SET50-SET100 จับตา SET ให้กลับมาติด Fast Track https://thestandard.co/true-comeback-3-march/ Tue, 28 Feb 2023 07:48:23 +0000 https://thestandard.co/?p=756624

จับตาหุ้นใหม่ ‘ทรู’ หลังควบรวม DTAC จ่อกลับเข้าซื้อขายว […]

The post หุ้น ‘ทรู’ กลับเข้าเทรดวันแรก 3 มี.ค. นี้ เสี่ยงหลุดโผ SET50-SET100 จับตา SET ให้กลับมาติด Fast Track appeared first on THE STANDARD.

]]>

จับตาหุ้นใหม่ ‘ทรู’ หลังควบรวม DTAC จ่อกลับเข้าซื้อขายวันที่ 3 มีนาคมนี้ หลุดออกจากรายชื่อ SET50-SET100 หลังกลายเป็นบริษัทใหม่ แต่ลุ้นตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้สิทธิ์กลับมาติดโผแบบ Fast Track หลังมาร์เก็ตพุ่งเฉียด 3 แสนล้านบาท 

 

ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย ระบุว่า ให้ติดตาม บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) จะเริ่มซื้อขายในวันที่ 3 มีนาคมนี้ ทำให้หลักทรัพย์ที่คาดว่าจะถูกนำเข้ามาคำนวณแทนใน SET50 คือ SAWAD และใน SET100 คือ SIRI

 

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะคัดเลือกหลักทรัพย์ที่มีมาร์เก็ตแคปสูงสุด ณ ราคาปิดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 (3 วันทำการก่อนหลักทรัพย์ใหม่เข้าเทรด) จากหลักทรัพย์สำรองใน SET50 ปัจจุบัน (SAWAD, IRPC, THG, KKP, BLA) และ SET100 ปัจจุบัน (SIRI, JWD, STEC, SUPER, GFPT)

 

ด้าน พิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย อธิบายเพิ่มเติมว่า ตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หุ้นของเดิมของ TRUEE เดิมจะถูกถอนจากการคำนวณออกจาก SET50 กับ SET100 เพราะถือว่าหุ้นเดิมของ TRUEE ได้ถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากมีการควบรวมบริษัทกับ DTAC กลายเป็นบริษัทใหม่ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ

 

ขณะที่หุ้นของบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมของ TRUEE กับ DTAC จะถือเป็นหุ้นใหม่ที่จะเข้ามาทำการซื้อขายจดทะเบียนใหม่ ดังนั้นขึ้นอยู่กับตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะมีการพิจารณาหุ้นใหม่ของ TRUEE กับ DTAC ที่เกิดจากการควบรวมเป็นกรณีพิเศษให้สามารถเข้าคำนวณใน SET50 กับ SET100 แบบ Fast Track หรือไม่

 

“โดยปกติหุ้นที่ติดคำนวณ SET50 กับ SET100 จะต้องเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายมาอยู่ แต่หุ้นใหม่ของ TRUEE กับ DTAC ที่เกิดจากการควบรวมจะถือเป็นหุ้นใหม่ตามเกณฑ์ ยังไม่สามารถถูกเลือกเข้ามาคำนวณได้ แต่ก็มีข้อยกเว้น เพราะในกรณีที่หุ้นที่เข้ามาใหม่มีขนาดที่ใหญ่มากก็มีโอกาสกลับมาติดใน SET50 กับ SET100 แบบ Fast Track เพราะสองบริษัทเมื่อรวมกันแล้วจะมีมาร์เก็ตแคปรวมกันใหม่มากเกือบ 3 แสนล้านบาท โดยขึ้นกับการพิจารณาของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะถ้าไม่ถูกคำนวณด้วยมาร์เก็ตแคปของ SET50 กับ SET100 จะไม่ได้มีขนาดอย่างที่ควรจะเป็น”

 

ขณะที่เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUEE) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงความคืบหน้ากรณีการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทฯ กับ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) โดยมีการจัดประชุมร่วมระหว่างผู้ถือหุ้นของทั้งสองบริษัท ครั้งที่ 2 ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 14.00 น. เพื่อพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมบริษัท โดยที่ประชุมมีมติสำคัญให้อนุมัติชื่อของบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัทระหว่าง บริษัทฯ และ DTAC ว่า บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และใช้ชื่อภาษาอังกฤษ ‘True Corporation Public Company Limited’

 

ก่อนหน้านี้เพื่อการเตรียมการเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัททั้งสอง รวมถึงการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง TRUEE และ DTAC จะขอหยุดพักการซื้อขายหุ้นของทั้งสองบริษัทเป็นระยะเวลา 9 วันทำการ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2566

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

The post หุ้น ‘ทรู’ กลับเข้าเทรดวันแรก 3 มี.ค. นี้ เสี่ยงหลุดโผ SET50-SET100 จับตา SET ให้กลับมาติด Fast Track appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘DELTA’ แชมป์หุ้นร้อนแรง ปีนี้ทะยาน 100% ดันมาร์เก็ตแคปทะลุ 1 ล้านล้านบาท https://thestandard.co/delta-100-percent-2022/ Fri, 30 Dec 2022 11:53:29 +0000 https://thestandard.co/?p=731110

หุ้น ‘DELTA’ ขึ้นแท่น ‘แชมป์หุ้นร้อนแรง’ ปีนี้ทะยาน 100 […]

The post ‘DELTA’ แชมป์หุ้นร้อนแรง ปีนี้ทะยาน 100% ดันมาร์เก็ตแคปทะลุ 1 ล้านล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>

หุ้น ‘DELTA’ ขึ้นแท่น ‘แชมป์หุ้นร้อนแรง’ ปีนี้ทะยาน 100% ดันมาร์เก็ตแคปทะลุ 1 ล้านล้านบาท แซงหุ้นบิ๊กแคปอย่าง ปตท. และปูนซิเมนต์ไทย นักวิเคราะห์ระบุได้อานิสงส์ Fund Flow ลุยซื้อ หลังกลับเข้า SET50 เริ่มมีผลเดือนมกราคม 2566

 

ราคาหุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA ในวันนี้ (30 ธันวาคม) ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายของปี 2565 ปิดการซื้อขายที่ 830 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 108 บาท หรือ 14.96% จากวันก่อน ส่งผลให้ DELTA มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปรวมเพิ่มขึ้น 1.04 ล้านบาท 

 

บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปแซงนำหุ้นขนาดใหญ่อย่าง บมจ.ปตท. หรือ PTT ที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคป 9.50 แสนล้านบาท รวมถึงแซงหน้าหุ้นใหญ่อย่าง บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCC ที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปเพียง 4.10 แสนล้านบาท แต่ยังไล่หลังหุ้นบิ๊กแคปอย่าง บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ที่มีมาร์เก็ตแคปรวมเพิ่มขึ้น 1.07 ล้านล้านบาท

 

ทั้งนี้ หากย้อนดูราคาหุ้น DELTA ตั้งแต่ต้นปี 2565 ถึงปัจจุบัน ที่ 830 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นถึง 418 บาท หรือเพิ่มขึ้นมา 101.46% 

 

ด้านฝ่ายวิจัย บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า คาดว่ามีเม็ดเงินไหลเข้าลงทุนหุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จากการ Rebalance วันนี้ (30 ธันวาคม) ก่อนเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ต้นเดือนมกราคม 2566 แม้จะซื้อขายบนราคา Premium PER23F ที่ 63 เท่า แต่กระแส Fund Flow ระยะสั้นยังเข้ามาช่วยสนับสนุน

         

ทั้งนี้ คาดว่ากำไรปกติของ DELTA ในไตรมาส 4/65 จะออกมาอยู่ที่ 3,356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 14% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนยอดขายไตรมาส 4/65 เพิ่มขึ้น 34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมี Gross Profit Margin (GPM) ที่ 22% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยประเมินกำไรทั้งปี 2565 ของ DELTA อยู่ที่ 14,699 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119% จากปีก่อน และปี 2566 ที่ 14,294 ล้านบาท ลดลง 3% จากปีนี้ 

 

สำหรับภาพระยะยาวธุรกิจของ DELTA ปัจจัยพื้นฐานยังคงโดดเด่น ด้วยปัจจัยสนับสนุนดังนี้

 

  1. ลูกค้า Data Center ยังดีต่อเนื่อง 
  2. ศักยภาพการเติบโตของลูกค้า EV Car จากจุดเด่นสายการผลิตที่ต้นทุนต่ำ 
  3. มีฐานลูกค้าหลายกลุ่ม ทั้งรถยนต์ โทรคมนาคม และอยู่ในหลายภูมิภาค ทั้งยุโรป-สหรัฐฯ-เอเชีย

 


บทความที่เกี่ยวข้อง


 

The post ‘DELTA’ แชมป์หุ้นร้อนแรง ปีนี้ทะยาน 100% ดันมาร์เก็ตแคปทะลุ 1 ล้านล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศหุ้นเข้า SET50-SET100 รอบเดือน ม.ค.-มิ.ย. ปี 66 https://thestandard.co/new-set-50-100/ Tue, 20 Dec 2022 12:09:20 +0000 https://thestandard.co/?p=726431

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพ […]

The post ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศหุ้นเข้า SET50-SET100 รอบเดือน ม.ค.-มิ.ย. ปี 66 appeared first on THE STANDARD.

]]>

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับการคำนวณดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566

 

ทั้งในส่วนของดัชนี SET50, SET100, sSET, SETCLMV, SETHD, SETTHSI และ SETWB 

 

สำหรับดัชนี SET50 มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 4 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL), บมจ.คอมเซเว่น (COM7), บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) และ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH)

 

ดัชนี SET100 มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 7 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV), บมจ.หลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD), บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA), บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS), บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX), บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) และ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG)

 

ดัชนี sSET มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 19 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ.เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP), บมจ.บีบีจีไอ (BBGI), บมจ.บริทาเนีย (BRI), บมจ.เด็มโก้ (DEMCO), บมจ.มาสเตอร์ แอด (MACO), บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR), บมจ.เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น (MSC), บมจ.เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป (PLAT), บมจ.โรแยล พลัส (PLUS), บมจ.แรบบิท โฮลดิ้งส์ (RABBIT), บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง (SAK), บมจ.เอสพีซีจี (SPCG), บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX), บมจ.ทรอปิคอลแคนนิ่ง (ประเทศไทย) (TC), บมจ.ทานตะวันอุตสาหกรรม (THIP), บมจ.เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส (TKC), บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA), บมจ.อุบล ไบโอ เอทานอล (UBE) และ บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) 

 

ดัชนี SETCLMV ไม่มีหลักทรัพย์เข้าใหม่

 

ดัชนี SETHD มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 1 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)

 

ดัชนี SETTHSI มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 25 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ.แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ (ACE), บมจ.เอ.เจ.พลาสท์ (AJ), บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP), บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW), บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM), บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI), บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG), บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA), บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT), บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC), บมจ.เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ (ETC), บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI), บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA), บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER), บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE), บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR), บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL), บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE), บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD), บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR), บมจ.ศุภาลัย (SPALI), บมจ.ที.เค.เอส. เทคโนโลยี (TKS), บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL), บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) และ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA)

 

ดัชนี SETWB มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 3 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD), บมจ.โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) และ บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY)

 

การทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนีดังกล่าวจะดำเนินการทุกครึ่งปี และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด โดยดัชนี sSET ดัชนี SETCLMV และดัชนี SETTHSI เป็นดัชนีที่ไม่จำกัดจำนวนหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบในดัชนี ทั้งนี้ การทบทวนในครั้งนี้ใช้ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2564 – 30 พฤศจิกายน 2565


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

The post ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศหุ้นเข้า SET50-SET100 รอบเดือน ม.ค.-มิ.ย. ปี 66 appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘SCBAM’ เปิดขายกอง Complex Fund อิง SET50 ดักทางตลาดหุ้นขึ้นขานรับเศรษฐกิจโต และลดความเสี่ยงขาดทุนเงินต้น https://thestandard.co/scbam-complex-fund-set50/ Tue, 08 Nov 2022 09:01:04 +0000 https://thestandard.co/?p=705897

บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดทางเลือกลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจากการ […]

The post ‘SCBAM’ เปิดขายกอง Complex Fund อิง SET50 ดักทางตลาดหุ้นขึ้นขานรับเศรษฐกิจโต และลดความเสี่ยงขาดทุนเงินต้น appeared first on THE STANDARD.

]]>

บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดทางเลือกลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเงินต้น เน้นเสริมพอร์ตเติบโตไปกับดัชนี SET50 เสนอขายกองทุน SCBDSHARC1YC วันที่ 8-15 พฤศจิกายนนี้ 

 

นันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า หลังจากที่ไทยมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคและการเปิดประเทศ ทำให้เริ่มมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาเป็นปกติมากขึ้น ปัจจัยหลักมาจากภาคการท่องเที่ยวและบริการ โดยคาดว่าจะเห็นการเร่งการฟื้นตัวของปริมาณนักท่องเที่ยวมากกว่า 20 ล้านรายในปีหน้า อีกทั้งรัฐบาลได้ออกมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้กลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ทยอยฟื้นตัว และมองว่าภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง สวนทางกับเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว ซึ่งเห็นได้จากการปรับเพิ่มประมาณการ GDP Growth ของไทย จาก 2.9% เป็น 3.0% ในปีนี้ และจะเร่งตัวขึ้นเป็น 3.7% ในปี 2566 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


จากปัจจัยบวกเหล่านี้ จะช่วยสนับสนุนให้ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มการเติบโตได้ดีในช่วงสิ้นปี 2565 ซึ่งบริษัทได้มองเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้น SET50 Index ที่เป็นดัชนีราคาหุ้นที่ใช้แสดงการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นสามัญ 50 ตัว ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงสุด 

 

บลจ.ไทยพาณิชย์ จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Double Structured Complex Return 1YC (SCBDSHARC1YC) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย ระหว่างวันที่ 8-15 พฤศจิกายน 2565 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท 

 

ความน่าสนใจของกองทุน SCBDSHARC1YC คือ เป็นกองทุน Complex Fund ที่มีอายุ 1 ปี เน้นโอกาสการสร้างผลตอบแทนชดเชยใกล้เคียงอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก จากการนำเงินของทรัพย์สินกองทุนส่วนหนึ่งไปลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากทั้งในและต่างประเทศที่มีคุณภาพ เมื่อครบกำหนดอายุกองทุนจะได้รับเงินลงทุนคืนพร้อมผลตอบแทน/ดอกเบี้ยที่มีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินต้น ซึ่งการลงทุนส่วนนี้จะมีความผันผวนต่ำ ช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนเงินต้นได้ 

 

นอกจากนี้ยังเสริมโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม โดยกองทุนจะนำเงินลงทุนอีกส่วนหนึ่งไปลงทุนในสัญญาออปชัน ที่อ้างอิงกับการเคลื่อนไหวของดัชนี SET50 ซึ่งจะใช้ราคาปิดดัชนี SET50 ของทุกวันทำการมาพิจารณา ไม่ว่าราคาสินทรัพย์ระหว่างอายุสัญญาจะปรับเพิ่มหรือลดลงไม่เกิน 10% เมื่อเทียบกับราคาสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันเริ่มต้นสัญญา มีโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มสูงสุดที่ 5% แต่หากราคาสินทรัพย์ระหว่างอายุสัญญาปรับเพิ่มขึ้น หรือลดลงมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับราคาสินทรัพย์ ณ วันเริ่มต้นสัญญา ก็ยังจะได้รับเงินผลตอบแทนชดเชยที่ 0.25%

 

นันท์มนัสกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ตลาดหุ้นไทยจะได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศหลัก ยังมีความผันผวนค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหุ้นอื่นๆ อีกทั้งใน 9 เดือนแรกปี 2565 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นไทยสูงถึง 1.5 แสนล้านบาท ประกอบกับเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้มีสัญญาณการฟื้นตัวเด่น ซึ่งถ้าประเมินจากมูลค่าทางธุรกิจ (Valuation) และความสามารถของการทำกำไรในอนาคตของหุ้นกลุ่ม SET50 แล้ว จะเห็นว่ามูลค่าหุ้นที่เมื่อเทียบกับกำไรสุทธินั้น ยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง ที่ระดับ 15 เท่า PER หรือคิดเป็นประมาณของค่าเฉลี่ย 10 ปี และประเมินว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) จะมีการขยายตัวได้ที่ระดับ 22% และ 5% ในปี 2565 และ 2566 ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปรับเพิ่มประมาณการของกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร ซึ่งเป็นกลุ่มหลักในดัชนี SET50 ที่เพิ่มขึ้นกว่า 40% ตลาดหุ้นไทยจึงยังน่าสนใจสำหรับการเข้าลงทุนในช่วงเวลานี้

 

ทั้งนี้ กองทุนมีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีความซับซ้อนซึ่งมีปัจจัยอ้างอิง มีความแตกต่างจากการลงทุนหรือใช้บริการผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนทั่วไป และยังคงมีความเสี่ยงผิดชำระหนี้ (Default Risk) ที่อาจเกิดขึ้นจากการผิดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร/เงินฝาก ที่อาจส่งผลให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวนได้ โดยผู้ลงทุนจะไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในช่วงเวลา 1 ปี ซึ่งผลการดำเนินงานในอดีตมิได้ยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน และมีความจำเป็นในการขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน 

The post ‘SCBAM’ เปิดขายกอง Complex Fund อิง SET50 ดักทางตลาดหุ้นขึ้นขานรับเศรษฐกิจโต และลดความเสี่ยงขาดทุนเงินต้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
10 กองทุน RMF ที่ผลตอบแทนดีสุดตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน https://thestandard.co/rmf/ Tue, 09 Aug 2022 08:46:37 +0000 https://thestandard.co/?p=664936 RMF

สำรวจผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ( […]

The post 10 กองทุน RMF ที่ผลตอบแทนดีสุดตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
RMF

สำรวจผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ( กองทุน RMF ) ประเภทลงทุนในหุ้น พบว่า 10 อันดับกองทุนที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) ส่วนใหญ่ยังเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยกลุ่ม SET50 เป็นหลัก โดยกองทุน Bualuang Infrastructure RMF เป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด ที่ 2.20% 

 

ขณะเดียวกันหุ้นที่กองทุน RMF มีการเข้าลงทุนมากที่สุด คือ บมจ.ปตท. (PTT), บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT), บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC), บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) และ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) 

 

RMF

10 กองทุน RMF ที่ผลตอบแทนดีสุดตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน

Bualuang Infrastructure RMF ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 2.20% ราคาปิด ณ 8 ส.ค. 2565 อยู่ที่ 28.52 บาท

Talis Equity RMF ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 1.71% ราคาปิด ณ 8 ส.ค. 2565 อยู่ที่ 12.61 บาท

กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 1.38% ราคาปิด ณ 8 ส.ค. 2565 อยู่ที่ 10.89 บาท

Thanachart SET50 Retirement Mutual Fund ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 1.31% ราคาปิด ณ 8 ส.ค. 2565 อยู่ที่ 9.75 บาท

SCB Global Infrastructure RMF ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 1.23% ราคาปิด ณ 8 ส.ค. 2565 อยู่ที่ 14.63 บาท

SCB SET50 Index RMF ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 1.21% ราคาปิด ณ 8 ส.ค. 2565 อยู่ที่ 17.85 บาท

Krung Thai SET50 RMF ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 1.21% ราคาปิด ณ 8 ส.ค. 2565 อยู่ที่ 11.54 บาท

K SET50 RMF ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 1.13% ราคาปิด ณ 8 ส.ค. 2565 อยู่ที่ 12.93 บาท

Talis Mid-Small Cap Equity RMF ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 1.12% ราคาปิด ณ 8 ส.ค. 2565 อยู่ที่ 10.47 บาท

MFC SET 50 Retirement ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 1.09% ราคาปิด ณ 8 ส.ค. 2565 อยู่ที่ 9.05 บาท

ภาพประกอบ: ธิดามาศ เขียวเหลือ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

The post 10 กองทุน RMF ที่ผลตอบแทนดีสุดตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
หุ้น TLI ปิดตลาดร่วงต่ำจอง กลายเป็นหุ้น IPO รายที่ 2 ของปีนี้ หมดลุ้น Fast Track เข้า SET50 https://thestandard.co/tli-stocks-dropped/ Mon, 25 Jul 2022 12:05:32 +0000 https://thestandard.co/?p=658743 หุ้น TLI

บมจ.ไทยประกันชีวิต หรือ หุ้น TLI ปิดเทรดร่วงต่ำกว่าราคา […]

The post หุ้น TLI ปิดตลาดร่วงต่ำจอง กลายเป็นหุ้น IPO รายที่ 2 ของปีนี้ หมดลุ้น Fast Track เข้า SET50 appeared first on THE STANDARD.

]]>
หุ้น TLI

บมจ.ไทยประกันชีวิต หรือ หุ้น TLI ปิดเทรดร่วงต่ำกว่าราคาจองซื้อ นับเป็นหุ้น IPO รายที่ 2 ของปีที่ร่วงหลุดจอง และหมดโอกาสลุ้น Fast Track เข้าคำนวณในดัชนี SET50 นักวิเคราะห์รับผิดคาด พร้อมประเมินสาเหตุเป็นเพราะบอนด์ยีลด์เริ่มลง ลดเสน่ห์หุ้นประกัน

 

หุ้น บมจ.ไทยประกันชีวิต หรือ TLI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ (25 กรกฎาคม) เป็นวันแรก โดยทันทีที่เปิดตลาด ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ที่ 16.00 บาท ซึ่งเป็นระดับราคาจองซื้อ จากนั้นราคาเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว โดยระหว่างวันขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 16.30 บาท แต่หลังจากนั้นราคาก็เริ่มปรับลง มาซื้อขายที่ 15.90 บาท ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับราคาดังกล่าว ซึ่งต่ำกว่าราคา IPO ที่ระดับ 16.00 บาท ขณะที่มูลค่าการซื้อขายสูงเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ ​​10,297.16 ล้านบาท

 

อนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ ประธานสายวานิชธนกิจและตลาดทุน กลุ่มธุรกิจการเงิน บล.เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า กรณีความเป็นไปได้ที่หุ้น TLI จะเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ด้วยวิธีการ Fast Track นั้นต้องมีมาร์เก็ตแคปเกิน 1% ของมาร์เก็ตแคปตลาดหุ้นไทย หรือคิดเป็นราคาหุ้นประมาณ 16.40 บาท ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ วันถัดมาตลาดหลักทรัพย์จะทำการประกาศรายชื่อ และจะนำเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ใน 3 วันถัดไป 

 

ทั้งนี้ TLI มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน จำนวน 161.63 ล้านหุ้น เพื่อใช้สร้างเสถียรภาพราคาหุ้น โดยที่ปรึกษาทางการเงินกล่าวว่า กลไกรักษาเสถียรภาพราคาหุ้นโดยใช้หุ้น Over-Allotment นั้น ต้องพิจารณาสภาวะตลาดหุ้นไทยประกอบด้วย ถ้าบางวันที่สภาวะตลาดแย่มากๆ และเห็นแรงขายที่มาก อาจจะปล่อยให้ราคาลงต่ำกว่า 16 บาท เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะเข้าไปพยุง และในวันที่สภาวะตลาดเริ่มคงที่จะเข้าไปใส่ออร์เดอร์ เช่น ใช้ออร์เดอร์ที่ราคา 15.80-16.00 บาท

 

นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า กรณีที่หุ้น TLI ปิดการซื้อขายต่ำกว่าราคาจองนั้นค่อนข้างแปลกใจ เนื่องจากหุ้น TLI มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพที่จะได้เข้าคำนวนในดัชนี SET50 ด้วยวิธีการ Fast Track อยู่แล้วหากราคาปิดสามารถยืนระดับ 16.20 บาทได้ แต่กลับพลาดโอกาสตรงนี้ไป

 

นอกจากนี้ยังเห็นสัญญาณการสลับหุ้นเล่น จาก BLA ที่เป็นหุ้นกลุ่มประกันเช่นเดียวกัน มาสู่หุ้น TLI สะท้อนจากแรงขายหุ้น BLA ที่ปรับตัวลดลงในวันนี้ และปิดการซื้อขายที่ 37.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 3.25%

 

สาเหตุที่ราคาหุ้น TLI ปรับตัวลดลง อาจเป็นเพราะในช่วงนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ระยะยาวของสหรัฐฯ เริ่มปรับลดลงมาอยู่ที่ 2.8% จากที่เคยอยู่ที่ 3.5% ซึ่งความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มประกันมักจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ขณะที่หุ้น TLI ก็กำหนดราคาหุ้น IPO ในช่วงที่บอนด์ยีลด์อยู่ในระดับสูง 

 

ทั้งนี้ รายงานจากตลาดหลักทรัพย์ระบุว่า ในรายการซื้อขายกระดานรายใหญ่ มีการซื้อขายหลักทรัพย์ TLI จำนวน 3,125,000 หุ้น ราคา 16.00 บาท คิดเป็นมูลค่า 50 ล้านบาท 

 

นักวิเคราะห์กล่าวเพิ่มว่า แนวโน้มความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TLI มีความเสี่ยงที่จะไม่หวือหวามากนัก เนื่องจากนักลงทุนอาจกังวลในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีการใช้ Greenshoe Option เพื่อรักษาเสถียรภาพราคา แต่เมื่อหมดช่วงเวลาใช้ Greenshoe แล้วหุ้นก็ปรับลดลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในเชิงปัจจัยพื้นฐานแล้ว เชื่อว่าหุ้น TLI จะมีการเติบโตที่ดีและเหมาะกับการลงทุนระยะยาว

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

The post หุ้น TLI ปิดตลาดร่วงต่ำจอง กลายเป็นหุ้น IPO รายที่ 2 ของปีนี้ หมดลุ้น Fast Track เข้า SET50 appeared first on THE STANDARD.

]]>