บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC Asset ตอกย้ำความปลอดภัยของลูกบ้านและผู้อยู่อาศัยในทุกโครงการด้วยการส่งทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบทุกโครงการทั้งแนวราบและอาคารสูงโดยได้รับความร่วมมือจากทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญของบริษัท

รวมถึงทีมบริหารนิติบุคคล SC ABLE ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลการบริหารจัดการหมู่บ้านและคอนโดมิเนียมในเครือ SC Asset อย่างใกล้ชิด

การตรวจสอบในครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกบ้าน ทั้งในด้านความมั่นคงของโครงสร้าง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการดูแลอาคารสถานที่ให้พร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์

SC Asset ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกบ้านสูงสุด โดยได้จัดทีมเฉพาะกิจร่วมระหว่างวิศวกร ผู้เชี่ยวชาญ และฝ่ายบริหารของ SC Asset และ SC Able เพื่อเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการในทุกพื้นที่อย่างเร่งด่วน ทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง โครงการที่เปิดขาย และ โครงการที่อยู่ในช่วงระยะเวลาการรับประกัน

SC Asset ยืนยันถึงการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบก่อสร้างที่ยึดตามมาตรฐานวิศวกรรม การตรวจสอบคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ ไปจนถึงการดูแลหลังการขาย เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวลในทุกสถานการณ์

และยังคงเน้นย้ำให้ทุกโครงการมีการเตรียมความพร้อมในการรับมือเหตุการณ์ต่างๆ อย่างครอบคลุม ทั้งแผนป้องกันเหตุฉุกเฉิน อุปกรณ์ช่วยเหลือเบื้องต้น การฝึกซ้อมอพยพหนีภัย และระบบสื่อสารที่สามารถแจ้งเตือนลูกบ้านได้อย่างทันท่วงที

SC Asset มุ่งมั่นในการดูแลทุกโครงการ ที่ไม่เพียงมอบบ้านคุณภาพ แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และยังคงเดินหน้าเฝ้าระวังและตรวจสอบโครงการอย่างต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาและปรับปรุงมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกบ้านทุกคน

ทั้งนี้หากลูกบ้านที่ต้องการสอบถามหรือแจ้งเหตุเพิ่มเติมสามารถติดต่อทีม SC Asset ได้ที่ โทร. 1749 หรือผ่านนิติบุคคลในโครงการ

The post SC Asset ยืนยันความปลอดภัย เดินหน้าตรวจสอบทุกโครงการ สร้างความมั่นใจให้ผู้อยู่อาศัย appeared first on THE STANDARD.

ถึงปี 2567 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะมีความท้าทายในหลายด้าน ซึ่ง SC Asset มองไว้ 3 เรื่อง คือ หนี้ครัวเรือนสูง อุปทานล้น และความเชื่อมั่นต่ำ

กระนั้น ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ก็ระบุว่าสามารถปรับตัวเพื่อรับมือภูเขาอุปสรรค 3 ลูกได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับสามารถสะสมที่ดินทำเลคุณภาพรองรับการเติบโตไม่น้อยกว่า 3 ปี สำหรับพัฒนาอสังหาหลากหลาย ทั้งที่อยู่อาศัย โรงแรม และคลังสินค้า 

พร้อมทั้งยังยืนยันความแข็งแกร่ง มีสภาพคล่องรองรับการเติบโตมากกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมทั้งมีพันธมิตรร่วมทุนที่แข็งแกร่ง

สำหรับปี 2568 แม้ภูเขาอุปสรรค 3 ลูกจะยังคงอยู่และเพิ่มเติมปัจจัยผันผวนจากภูมิรัฐศาสตร์ ดังนั้น SC Asset จึงปรับตัวอย่างต่อเนื่องผ่าน #RethinkToReform เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตอย่างยั่งยืน

เรื่องแรกคือ การเพิ่มความสมดุลของพอร์ตโฟลิโอ มีกำไรจากธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น การลงทุนจะเป็นไปอย่างรอบคอบ ร่วมทุนกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และสัดส่วนหนี้ต่อทุนจะลดลงอย่างมีนัยในปีนี้

เรื่องที่ 2 คือ จะเป็นการปรับโครงสร้างต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม เน้นย้ำคุณภาพสูง นวัตกรรมตอบโจทย์ลูกค้า และเพิ่มความสามารถในการทำกำไร

และเรื่องที่ 3 คือ ปรับโครงสร้างองค์กร เพิ่มความคล่องตัว รองรับการเติบโตของธุรกิจที่หลากหลาย และเพิ่มโอกาสเติบโตของพนักงาน

เจาะลึกลงไปในแผนธุรกิจปี 2568 จะมีการวางเป้าหมายยอดขาย 26,000 ล้านบาท (+4%YoY) และรายได้รวมจากทุกกลุ่มธุรกิจ 25,000 ล้านบาท (+11%YoY)  

พร้อมลงทุนต่อเนื่องด้วยงบลงทุน 7,000 ล้านบาทในธุรกิจหลากหลาย รักษาตำแหน่งผู้นำบ้านเดี่ยว เพิ่มส่วนแบ่งตลาดคอนโด และสัดส่วนกำไรจากอสังหา รายได้ประจำสม่ำเสมอ

สำหรับธุรกิจอสังหา ที่อยู่อาศัยปีนี้จะมีจำนวนโครงการทั้งหมด 96 โครงการ มูลค่ารวม 94,500 ล้านบาท เป็นโครงการใหม่ 15 โครงการ 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 12 โครงการ 18,000 ล้านบาท ไฮไลต์คือแบรนด์ใหม่ SONLE ราคาเริ่มต้น 200 ล้านบาท 

คอนโด 3 โครงการ 10,000 ล้านบาท ครบเซกเมนต์ ภายใต้แบรนด์ Reference และ COBE ซึ่งส่วนหนึ่งได้มีความมั่นใจมาจากยอดขาย Reference เอกมัย ที่สร้างยอดขายได้ถึง 80% ในช่วงแรกของการเปิดตัว และจะมีแบรนด์ใหม่เปิดตัวปลายปี ทำเลติดถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าสถานีพร้อมพงษ์

ขณะที่อสังหารายได้ประจำ ณ ปลายปี 2568 จะมีจำนวนโครงการรวมทั้งหมด 19 โครงการ จาก 4 ธุรกิจ ได้แก่ โรงแรมรวม 545 ห้อง, คลังสินค้าให้เช่ารวม 200,000 ตารางเมตร, อาคารสำนักงาน 120,000 ตารางเมตร และอพาร์ตเมนต์เพื่อเช่าในสหรัฐอเมริกา 5 อาคาร

โดยมีไฮไลต์คือ โรงแรมใหม่ 2 ทำเล เปิดตัวไตรมาส 2/68 คือ KROMO, Curio Collection by Hilton ทำเลติดถนนสุขุมวิท ตรงข้ามห้าง EMSPHERE และ The Standard หนึ่งเดียวในพัทยา ติดหาดนาจอมเทียน รวมถึงคลังสินค้าเพื่อเช่า 3 โครงการใหม่ในทำเลบางนา กม.20, แหลมฉบัง และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 

“ปี 2568 ที่ท้าทายนี้ SC Asset จะปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจฟื้นแข็งแกร่ง กำไรเติบโต ลงทุนอย่างรอบคอบ และกระจายความเสี่ยงในธุรกิจที่หลากหลาย รักษาความเชื่อมั่นของแบรนด์ผ่านมาตรฐานสินค้าคุณภาพสูงและบริการที่อบอุ่น” ณัฐพงศ์กล่าว

The post SC Asset เดินหน้าปี 2568 เปิดโครงการใหม่ 2.8 หมื่นล้าน วางเป้ายอดขาย 2.6 หมื่นล้าน จับตาโรงแรม The Standard, Pattaya เปิดกลางปีนี้ appeared first on THE STANDARD.

หากพูดถึง ‘คุณภาพ’ ในการเลือกที่อยู่อาศัย คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคใช้ในการตัดสินใจ เพราะบ้านไม่ใช่แค่สิ่งปลูกสร้างที่ให้ที่พักพิง แต่เป็นพื้นที่แห่งความสุขที่เราจะใช้ชีวิตร่วมกับคนที่รัก การได้อยู่อาศัยในบ้านที่มีคุณภาพจึงเป็นรากฐานสำคัญของการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ

ในวงการอสังหาริมทรัพย์ SC Asset เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการให้ความสำคัญกับคุณภาพมาโดยตลอด จนกลายเป็น DNA หลักขององค์กรที่ถูกถ่ายทอดผ่านวิสัยทัศน์ ‘Worry-Free Home’ และพันธกิจ ‘For Good Mornings’ ที่มุ่งมั่นส่งมอบคุณภาพในทุกมิติเพื่อชีวิตการอยู่อาศัยที่ดีของลูกบ้าน

เบื้องหลังวิสัยทัศน์นี้เกิดขึ้นย้อนหลังไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ในช่วงที่ ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ เข้ามารับตำแหน่งซีอีโอ มีการพูดคุยเป็นการภายในถึงทิศทางในการดำเนินธุรกิจ มุ่งสู่การสร้างบ้านที่ดูแลตัวเองได้ เพื่อให้ลูกค้าออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านได้อย่างหายห่วง เพราะเรื่องบ้านมี SC Asset เป็นผู้ดูแล

ความมุ่งมั่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นคำพูด แต่ได้ถูกแปลงเป็นแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ผ่านการพัฒนาระบบการทำงานและการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้าง ไปจนถึงการส่งมอบและการดูแลหลังการขาย โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างความอุ่นใจให้กับผู้อยู่อาศัย

มาตรฐานการก่อสร้างที่พิสูจน์ได้

THE STANDARD WEALTH มีโอกาสพูดคุยกับ กิตติพจน์ ศรีจันทรา Group Head of Property Development-Low Rise D และ โฉมชฎา กุลดิลก Head of Corporate Brand and Communications แห่ง SC Asset เพื่อหาคำตอบถึงแนวคิดการยกระดับมาตรฐานคุณภาพที่เป็นจุดแข็งของแบรนด์ SC Asset

“เราไม่ได้อยากเทียบกับใคร แต่เรามีมาตรฐานที่เข้มข้นและชัดเจนที่พิสูจน์ทราบได้จากลูกค้า” กิตติพจน์กล่าว พร้อมเล่าถึงระบบ ‘Check Check’ ที่บันทึกภาพถ่ายและวิดีโอในทุกขั้นตอนการก่อสร้าง โดยเฉพาะในจุดสำคัญอย่างก่อนปิดแผ่นพื้นหรือแผ่นฝ้า เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันมาตรฐานที่ลูกค้าสามารถตรวจสอบได้

การยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างของ SC Asset ดำเนินการภายใต้หลัก 4M ที่ครอบคลุมทุกมิติของการก่อสร้าง เริ่มจาก Man – การอบรมแรงงานให้ได้มาตรฐานเดียวกัน พร้อมคู่มือภาษาต่างชาติสำหรับแรงงาน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานได้อย่างถูกต้อง

Method – กระบวนการทำงานที่เป็นระบบและได้มาตรฐานในทุกขั้นตอน มีการพัฒนาและปรับปรุงวิธีการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยนำข้อมูลจากการแก้ไขปัญหาและความคิดเห็นของลูกค้ามาวิเคราะห์และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

Material – การคัดสรรวัสดุคุณภาพสูงที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด โดยเลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน มอก. จากผู้ผลิตชั้นนำ ซึ่งมาตรฐานนี้ใช้กับบ้านทุกระดับราคา เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าทุกคนจะได้รับคุณภาพที่ดีที่สุด

Measurement – การตรวจวัดคุณภาพในทุกจุดอย่างละเอียด ผ่านแอปพลิเคชัน SC QC App ที่ช่วยในการเก็บข้อมูลและติดตามคุณภาพงานก่อสร้าง ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับและนำข้อมูลไปพัฒนาปรับปรุงได้อย่างต่อเนื่อง

นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า

ด้านบริการหลังการขาย SC Asset นำเสนอแนวคิด ‘Sunflower Mindset’ ที่เปรียบเสมือนดอกทานตะวันที่พร้อมหันหน้าตามแสงอาทิตย์ตลอดทั้งวัน สะท้อนถึงความพร้อมในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง “การไม่ใส่ใจลูกค้าถือเป็นเรื่องผิดร้ายแรงในวัฒนธรรมองค์กรของเรา” โฉมชฎากล่าว

ทีมงานบริการหลังการขายของ SC Asset แบ่งการทำงานเป็น 2 ส่วนหลักคือ มารยาทในการเข้าหาลูกค้า และความรู้ด้านวิศวกรรม ที่ต้องสามารถตอบคำถามลูกค้าได้อย่างชัดเจน รวดเร็ว และถูกต้อง โดยภารกิจจะถือว่าสำเร็จก็ต่อเมื่อได้รับคะแนนความพึงพอใจเต็ม 5 คะแนนเท่านั้น

เพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพสูงสุด SC Asset พัฒนาแอปพลิเคชัน RueJai ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถแจ้งซ่อมและติดตามสถานะได้อย่างสะดวกรวดเร็ว พร้อมระบบการจัดการที่มีมาตรฐาน SLA ชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลกระทบน้อยที่สุดในการอยู่อาศัย

ด้านนวัตกรรมการอยู่อาศัย SC Asset ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยผ่านระบบ Active Air Solution ซึ่งไม่เพียงกรองอากาศก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน แต่ยังมีระบบป้องกันฝุ่นเข้าสู่ตัวบ้าน พร้อมระบบโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่นำ AI มาช่วยตรวจตราพื้นที่ส่วนกลางตลอด 24 ชั่วโมงผ่านกล้อง CCTV แทนการใช้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปั่นจักรยานตรวจตราทุกชั่วโมง เพื่อลดความผิดพลาดที่อาจเกิดจาก Human Error และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัย

จากความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถิติการตรวจพบข้อบกพร่อง (Defect) ของบ้านลดลง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างและการบริการที่ SC Asset มุ่งมั่นพัฒนามาโดยตลอด

ความท้าทายสำคัญของ SC Asset ในการรักษามาตรฐานคุณภาพคือการสร้างสมดุลระหว่างการเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้าและการควบคุมต้นทุน เพื่อให้ลูกค้าได้รับทั้งความสบายใจและความคุ้มค่า พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์จนเกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก (Word of Mouth) ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์คุณภาพที่ดีที่สุด

ซึ่งในช่วงปลายปีแบบนี้ หากคุณกำลังมองหาของขวัญพิเศษให้กับตัวเองและครอบครัว ‘คุณภาพ’ ที่ SC Asset มอบให้ในทุกด้านคือคำตอบที่จะทำให้ทุกเช้าของคุณเริ่มต้นอย่างสดใสไปพร้อมกับ ‘For Good Mornings’ ที่แท้จริง เพราะคุณภาพคือของขวัญที่ดีที่สุดที่จะมอบให้กับคนที่คุณรัก

คลิกเพื่อชมแคมเปญ: https://m.scasset.com/Ru5v

The post SC is Quality ไม่ใช่แค่สโลแกน บทพิสูจน์ความสำเร็จของ SC Asset กับการปฏิวัติวงการอสังหา จนกลายเป็น DNA คุณภาพที่ส่งต่อถึงลูกค้าทุกหลัง [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

ดีไซน์คอนโดใหม่ที่สวยที่สุดในย่าน แถมใส่ใจในทุกรายละเอียด

Reference Ekkamai ดีไซน์คอนโดใหม่ที่สะท้อนความเป็น Design District ของย่านเอกมัยออกมาได้อย่างครบถ้วนและไม่เหมือนใคร เพราะเขาใส่ใจตั้งแต่การดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางให้เรียบหรูและเป็นการออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา แถมยังใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในการใช้งาน อย่างเช่น การถอยตัวอาคารมาอยู่ข้างในเพื่อให้เกิด Front Yard เหมือนกับบ้านในเอกมัย

โครงการนี้เกิดจากความตั้งใจของ SC Asset โดย กนกอร หลิมกำเนิด หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวสูง ที่ต้องการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่มีดีไซน์ดี มีเอกลักษณ์ สะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย และคุ้มค่าที่สุดในเอกมัย โครงการนี้เริ่มจากแรงบันดาลใจของทำเลเอกมัยที่มีเสน่ห์ผ่านกาลเวลา เป็นที่มาของคอนเซปต์ Passage of Time เพื่อสะท้อนการออกแบบที่สื่อถึงความเป็น Nostalgic บวกกับ Modern Element ทำให้คอนโดแห่งนี้สวยงามเหนือกาลเวลา

และเหตุผลที่คอนโด Reference Ekkamai ใส่ใจในเรื่องงานดีไซน์ในทุกรายละเอียด เพราะ กนกอร หลิมกำเนิด มองว่าสิ่งที่ลูกค้าชอบและสิ่งที่เอกมัยเป็นคือความหลงใหลในดีไซน์ ย่านนี้รวมคนในวงการดีไซน์ไว้ด้วยกัน เป็นคอมมูนิตี้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นย่านที่ Business Meet Creativity ผสมกับไลฟ์สไตล์ ทำให้คอนโดนี้มีดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร

ความเป็นคอมมูนิตี้ของคนรักงานดีไซน์ทำให้เกิดการร่วมงานกันของ Reference Ekkamai และ NORSE Republics ผู้จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียน โดย วีกฤษฏิ์ พลาฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นอร์ส รีพับบลิค จำกัด คือหนึ่งในบุคคลที่หลงใหลในงานดีไซน์ ซึ่งการร่วมงานกันในครั้งนี้เป็นการหยิบเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ระดับไอคอนิกจาก NORSE Republics มาตกแต่งภายในห้องด้วย เป็นการเติมความสวยงามในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ให้กับห้อง

ซึ่งของตกแต่งที่ใช้ในห้องพักของคอนโด Reference Ekkamai เป็นงานดีไซน์ระดับไอคอนิกจากดีไซเนอร์ระดับตำนานทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Rotate Trolley เฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายแต่การใช้งานครบถ้วน ได้แรงบันดาลใจมาจากการพับกระดาษแบบโอริกามิของญี่ปุ่น, Lato เป็น Side Table ดีไซน์คล้ายประติมากรรม เรียบง่ายดูแล้วสบายตา, Flowerpot โคมไฟที่มีสีและดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่ยุค 1960 มาจนถึงปัจจุบัน และ Night Owl โคมไฟตั้งโต๊ะที่ดีไซน์ไม่เหมือนใคร แถมให้แสงสว่างที่ดูอบอุ่นและสบาย

สามารถสัมผัสงานดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ระดับไอคอนิกที่ส่วนหนึ่งใช้ในโครงการได้ที่นิทรรศการ Live Where Design Matters งานที่หยิบเฟอร์นิเจอร์มาจัดแสดงในรูปแบบ Art Exhibition จัดแสดงตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2024

สามารถชมรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่: https://www.youtube.com/watch?v=Lu5v8Qh1BKM

สนใจโครงการ Reference Ekkamai หรือลงทะเบียนรับส่วนลด 100,000 บาท*

คลิก: https://m.scasset.com/RE0U 

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 𝟭𝟳𝟰𝟵 หรือ 

LINE คลิก: https://lin.ee/tjzpahH

ภาพ: Reference Ekkamai

The post Reference Ekkamai คอนโดหรูที่เรียบง่าย และใส่ใจงานดีไซน์ในทุกรายละเอียด appeared first on THE STANDARD.

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC Asset ร่วมลงนามกับธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ในสัญญาสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan: SLL) มูลค่า 600 ล้านบาท

ภายใต้ข้อตกลง SC Asset ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 35,000 ตันคาร์บอนตลอดระยะเวลาของสินเชื่อ โดยจะเพิ่มสัดส่วนการจัดซื้อวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 5% ต่อปี การดำเนินการนี้จะถูกประเมินผ่านการรักษาระดับ ESG Rating ที่ระดับ ‘AA’ ตามเกณฑ์การประเมินของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SC Asset เปิดเผยว่า บริษัทกำหนดเป้าหมายระยะยาวในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดกระบวนการธุรกิจลง 25% ภายในปี 2030 โดยจะมุ่งเน้นการออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลต่อการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในกระบวนการก่อสร้างและการอยู่อาศัยในระยะยาว

ด้าน ฉีชิงฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า การสนับสนุนสินเชื่อ SLL ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสนับสนุนทางการเงินเพื่อความยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) โดยธนาคารพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อด้านความยั่งยืนหลากหลายรูปแบบ เช่น Green Loan และ Green Transition Advisory Program เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจในการปรับตัวสู่การดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่ความยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการสนับสนุนทางการเงินที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม

The post SC Asset จับมือธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ลงนามสินเชื่อ Green Finance มูลค่า 600 ล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

ภาคธุรกิจทั่วโลกในปัจจุบันต้องเผชิญการสร้างสมดุลระหว่างการสร้างการเติบโตธุรกิจและการบริหารธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ทั้งในเชิงสังคมและสิ่งแวดล้อม

นั่นคือจุดเริ่มต้นสำคัญที่ SC Asset ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ ที่เปิดตัวธุรกิจเรือธงใหม่อย่าง SCX Corporation Co., Ltd. หรือ SCX ที่จะเป็น ‘Engine 2’ ให้ธุรกิจของ SC Asset ด้วยการสร้างการเติบโตและรายได้อย่างยั่งยืนด้วย ‘Recurring Income’ โดย รชฎ นันทขว้าง กรรมการผู้จัดการ SCX Corporation Co., Ltd. จะมาเผยทุกส่วนของธุรกิจ กลยุทธ์ นโยบาย และเป้าหมายอันทะเยอทะยานกับ THE STANDARD WEALTH

จุดเริ่มต้นของ SCX

รชฎกล่าวว่า แรกเริ่ม SC Asset ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งพบความท้าทาย จนกระทั่งการแพร่ระบาดของโควิดยิ่งเป็นตัวเร่งทำให้ SC Asset ต้องดำเนินแผนที่วางไว้ในการสร้าง SCX

รชฎ นันทขว้าง กรรมการผู้จัดการ SCX Corporation Co., Ltd.

“คีย์หลักของธุรกิจของ SCX คือความยืดหยุ่นและความหลากหลาย SCX เปรียบเสมือน Engine 2 ให้กับ SC Asset ที่จะคอยขับเคลื่อนธุรกิจทั้งกลุ่มไปด้วยรายได้ที่สม่ำเสมอ” รชฎ นันทขว้าง มีเส้นทางการทำธุรกิจมามากมาย โดยรชฎสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิต และปริญญาโทบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน จากมหาวิทยาลัยโอคลาโฮมา ก่อนจะทำงานกับบริษัทชั้นนำมากมายในด้านการเงินและการบริหาร รชฎได้รับหน้าที่หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ SC Asset มาตั้งแต่ปี 2022

“สิ่งที่ SCX และผมมีเหมือนกันคือวิสัยทัศน์ด้านความยืดหยุ่น โลกธุรกิจในปัจจุบันจะเติบโตและอยู่รอดได้ไม่ใช่คนที่ฉลาดหรือเก่ง แต่เป็นคนที่ปรับตัวได้ดีที่สุด” รชฎกล่าว

การสร้างธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนต้องมีความยืดหยุ่นในเชิงการดำเนินธุรกิจ และธุรกิจต้องมีความหลากหลาย จึงจะสามารถสร้างความยั่งยืนแบบเติบโตได้ นั่นทำให้ SCX เจาะลึกลงไปใน 3 เสาหลักธุรกิจนี้ คือ SCX Logistic Solutions, SCX Hospitality Solutions และ SCX Working Solutions

SCX Logistics Solutions คลังสินค้าพร้อมเทคโนโลยีและทำเลคุณภาพ

โมเดิร์นโลจิสติกส์กำลังเติบโตอย่างมาก จากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซของประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิดเป็นต้นมา นั่นทำให้ SCX กล้าที่จะเข้าตลาดนี้

การดำเนินธุรกิจในเสาหลักนี้ รชฎกล่าวว่า SCX โดดเด่นจากตลาดด้วยเทคโนโลยี ด้วยสเปกของโมเดิร์นแวร์เฮาส์ เทคโนโลยีเกตทางเข้าแวร์เฮาส์ ระบบติดตามการขนส่งที่ช่วยให้ขนส่งได้รวดเร็ว และยังได้ใช้แอปพลิเคชัน ‘รู้ใจ (RueJai)’ ที่เคยใช้กับลูกบ้านของ SC Asset ก็นำมาปรับใช้ในการดูแลด้านโลจิสติกส์ พร้อมด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านโลจิสติกส์มากว่า 15 ปี

SCX มีกลยุทธ์เลือกทำเลที่ตั้งตามอินไซต์ นั่นก็คือการติดตามดีมานด์ในพื้นที่ SCX มีโรงงานและโกดังสินค้า 5 ทำเล พื้นที่ราว 2 แสนตารางเมตร บนทำเลบางพลีและพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ส่วนของบางพลีจะอยู่ที่บางนา กม.20 และ กม.23 ซึ่งเป็นเส้นทางเข้า-ออกสินค้าจากภาคใต้และภาคตะวันออก ในส่วน EEC เป็นพื้นที่ที่มีโอกาสมากมาย เพื่อรองรับธุรกิจภายในและนอกประเทศ

พื้นที่โกดังสินค้าบางนา กม.20

“SCX ต่อจากนี้กำลังขยายไปในเขตพื้นที่สีม่วง หรือเขตพื้นที่อุตสาหกรรม เรามีความแข็งแกร่งจากการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่แข็งแรงได้” รชฎยังตั้งเป้าหมายในการมีพื้นที่โรงงานรวม 7 แสนตารางเมตร ภายในปี 2029

SCX Hospitality Solutions โซลูชันนักเดินทางตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

โปรดักต์ที่สำคัญของ SCX คือโรงแรมย่าน ราชวัตร (YANH Ratchawat) ที่แม้จะเปิดได้เพียงหนึ่งปี แต่กลับมียอดการจองกว่า 80-90% อย่างสม่ำเสมอ จุดเด่นของ ‘ย่าน’ คือการเป็น ‘ไลฟ์สไตล์โฮเทล’ ที่ไม่ได้มีเพียงการเข้าพัก แต่ยังมีพื้นที่ในการทำงาน หรือพบปะผู้คนในส่วนของ Co-working Space

โรงแรมย่าน เป็นการเจาะกลุ่ม Nomad ในการเข้ามาดรอปสัมภาระแล้วเดินทางท่องเที่ยวต่อ ซึ่งโรงแรมย่าน ตั้งอยู่ในเขตราชวัตร ซึ่งเป็นทั้งเขตราชการและเป็นเขตท่องเที่ยวให้กับชาวต่างชาติ

โรงแรม KROMO ภายใต้แบรนด์ Curio Collection by Hilton

นอกจากโรงแรมไลฟ์สไตล์ที่เชี่ยวชาญแล้ว SCX ยังร่วมพันธมิตรกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในด้าน Hospitality เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา SCX ได้ประกาศจับมือ Daiwa House ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น ร่วมทุนพัฒนาโครงการโรงแรม KROMO ภายใต้แบรนด์ Curio Collection by Hilton ซึ่งอยู่ที่สุขุมวิท 29 ตรงข้ามกับศูนย์กลางการท่องเที่ยวอย่าง EMSPHERE พร้อมเปิดให้บริการในไตรมาสแรกของปี 2025 นอกจากนี้ยังมีโรงแรม The Standard Pattaya Jomtien ที่พัฒนาร่วมกับ Syntec Construction ผู้นำด้านธุรกิจก่อสร้างจากประเทศไทย โดยมีพันธมิตรระดับโลกอย่าง The Standard เป็นผู้บริหารโรงแรม ที่พร้อมเปิดให้บริการในไตรมาสสองปี 2025

The Standard Pattaya Jomtien

“ในส่วนของ Hospitality เราเน้นพื้นที่หลักไปที่กรุงเทพฯ พัทยา สมุย และภูเก็ต เพราะเป็นทำเลการท่องเที่ยวที่มีดีมานด์ ซึ่งภายในปี 2029 เราก็มุ่งมั่นที่จะเปิดห้องพักในเครือของเราให้ได้ 2,500 ห้อง”

SCX Working Solutions มาตรฐานระดับโลก

ปัจจุบัน Asset Portfolio ของ SCX กว่า 80-90% มาจากธุรกิจอาคารสำนักงาน หรือ ธุรกิจ Working Solutions จากการคาดการณ์ของ SCX ในปี 2025 EBITDA ของธุรกิจราว 1,000 ล้านบาท กว่า 90% จะมาจากเสาหลักธุรกิจอาคารสำนักงาน

ความสำเร็จเสาหลักนี้มาจากความเชี่ยวชาญของบริษัทแม่อย่าง SC Asset ที่มีประสบการณ์ด้านการทำตึกอาคารแนวสูงมามากมาย ทำให้มีอินไซต์กับทีมที่มีประสบการณ์สูงในการดูแล ปัจจุบัน 6 ตึกสำนักงาน พื้นที่รวมกว่า 1.2 แสนตารางเมตร มีอัตราการเช่ามากกว่า 90%

อาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 3 ถือเป็นผลงานในการเป็นอาคารสำนักงานไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์การทำงานสมัยใหม่แบบไฮบริด โดยมีพื้นที่กว่า 5.3 หมื่นตารางเมตร บนตึกสูง 38 ชั้น เป็นอาคารที่รองรับมาตรฐาน WELL Health-Safety Rating โดย WELL Building Institute ซึ่งธุรกิจอาคารสำนักของ SCX ยังการันตีด้วยรางวัลในปี 2023 ด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทอาคารเขียว ในงาน Thailand Energy Awards 2023 สะท้อนความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้พันธกิจด้านความยั่งยืน

รชฎบนพื้นที่สำนักงานอาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 3

กลยุทธ์เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน

รชฎกล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ถึงความโดดเด่นของ SCX ที่ทำให้มีความแตกต่างจากตลาดในอุตสาหกรรม

“SCX มีความโดดเด่นจากการมีสินค้าและบริการที่คุณภาพสูง ทีมของเราเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละหน่วยธุรกิจ เรื่องของเงินทุนก็สามารถเข้าถึงจากบริษัทแม่ที่มีการเงินแข็งแกร่ง อีกทั้งเรายังมีพาร์ตเนอร์ที่ร่วมมือกับเรา”

พาร์ตเนอร์ของ SCX แข็งแกร่งและมีหลากหลาย ในส่วนของโลจิสติกส์ก็มีการร่วมมือกับ i-Store และ Flash Express ด้านธุรกิจโรงแรมก็ร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Daiwa House, Tokyo Tatemono หรือจะเป็น Syntec การหาพาร์ตเนอร์นอกจากด้านเงินทุนแล้วยังมีการแบ่งปันโนว์ฮาวของธุรกิจเพื่อมอบโปรดักต์คุณภาพสูงให้ลูกค้า

ทีมงานอันแข็งแกร่งของ SCX

“โลกปัจจุบันมีความไม่แน่นอนสูง เราจึงให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องที่เรียกกันว่า 3P คือ People, Planet และ Profit ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา” รชฎกล่าวว่า 3P คือหลักการสร้างคนในองค์กรที่แข็งแกร่ง มีความหลากหลาย และมีความยืดหยุ่น เพื่อดำเนินธุรกิจที่โอบรับทั้งสองเสาหลัก คือ Planet ในการทำธุรกิจอย่างรับผิดชอบและส่งต่อให้รุ่นต่อไป และ Profit คือการสร้างธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับโลกใบนี้

นอกจากนี้ SCX ยังมี SCero Mission ซึ่งเป็นแผนการดำเนินงานในด้าน Zero Carbon Emission Program ในทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาอาคารสีเขียว (Green Building) การติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคาร รวมถึงการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอกย้ำถึงความใส่ใจและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

โรดแมป 5 ปี พร้อมลงทุน 2 หมื่นล้านบาท

การเดินทางใน 5 ปีข้างหน้าต่อจากนี้ รชฎกล่าวถึงโรดแมปภายในปี 2025-2029 ว่า SCX จะลงทุนใน 5 ปีข้างหน้าราว 2 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2029 ตั้งเป้าสร้างกำไรจากกลุ่มธุรกิจ Recurring Income สัดส่วนมากกว่า 25% ของกำไรรวมทุกกลุ่มทุกธุรกิจของ SC Asset และ SCX จะมีมูลค่า Assets Portfolio รวมสูงถึง 4 หมื่นล้านบาท โดย EBITDA ภายในปี 2029 จะอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท และมีกำไรจาก 3 กลุ่มธุรกิจเท่าๆ กัน รชฎยังกล่าวว่า หาก SCX เดินทางไปตามเป้าหมาย การเข้าสู่ตลาดหุ้นภายในปี 2028-2029 ก็มีความเป็นไปได้

โรดแมป 5 ปีของ SCX

ในปี 2025 จะมี Asset Portfolio ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท และเริ่มลงทุนที่ 5,000 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้างรายได้ 2,000 ล้านบาทต่อปี และตั้ง EBITDA ปี 2025 ไว้ที่ 1,000 ล้านบาทต่อปี

“เรามีความเชื่อว่าเราลงทุนในสิ่งใดเราพร้อมจะไปถึงภายใต้วิสัยทัศน์ Prospering Expedition ที่จะเป็นการเดินทางธุรกิจอันรุ่งโรจน์จากการสร้างธุรกิจที่ยืดหยุ่นและมีความหลากหลาย เราเป็นธุรกิจที่เป็น Lifestyle Solution Provider ที่มีสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เราจึงมีพันธกิจ The Way Forward ที่พร้อมหาและเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆ เสมอ เหมือนกับตัว X ใน SCX ที่เหมือนกับนกกระเรียนที่บินหาน่านน้ำใหม่อยู่เสมอ” รชฎกล่าวปิดท้าย

The post SCX ธุรกิจเรือธงใหม่จาก SC Asset มุ่งยุทธศาสตร์ลงทุนธุรกิจ Recurring Income ท่องเที่ยว-โลจิสติกส์ พร้อมโรดแมป 5 ปี ลงทุน 2 หมื่นล้านบาท [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

• SCX Corporation เรือธงธุรกิจใหม่ของ SC Asset ประกาศโรดแมปลงทุน 5 ปี 2 หมื่นล้านบาท ลุยธุรกิจคลังสินค้า-โรงแรม-ออฟฟิศ ภายในปี 2029 ตั้งเป้าสร้างสัดส่วนกำไรมากกว่า 25% ของกลุ่มธุรกิจ SC มั่นใจพร้อมตอบโจทย์ลูกค้าและใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 น. ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: SC Asset ตั้ง SCX ลุยคลังสินค้า-โรงแรม-ออฟฟิศ ลงทุน 2 หมื่นล้านบาทใน 5 ปี appeared first on THE STANDARD.

ใครว่า อสังหาไทย กำลังดิ่งเหว? งานเสวนา ‘เจาะเทรนด์ใหม่อสังหาฯ’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ‘งานเสวนากรุงเทพจตุรทิศ 2567 Property เจอหนี้ 10 ปี อสังหาฯ ไทยกลับไปไม่เหมือนเดิม’ ที่จัดขึ้นโดย prop2morrow เผยโอกาสทองท่ามกลางวิกฤตหนี้เสีย ด้วยการปรับตัวเข้าหาเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรง

ไม่ว่าจะเป็น Super Young Gen กลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้ทรงอิทธิพล และ Pet Family ครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิก นี่คือการพลิกเกมครั้งสำคัญของวงการ อสังหาไทย

ลืมภาพคนซื้อบ้านวัย 40+ ไปได้เลย! ตอนนี้ Super Young Gen วัย Under 30 กำลังมาแรง แถมยังเปย์หนักกับบ้านหรูราคา 80-150 ล้านบาท! โดยลูกค้าที่ซื้อบ้านหรูในปัจจุบัน 80% เป็นคนอายุน้อยกว่า 40 ปี และในจำนวนนี้มีมากถึง 50% ที่อายุน้อยกว่า 30 ปี!

พวกเขาคือคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จจากโลกออนไลน์ มีไลฟ์สไตล์โดดเด่น และพร้อมลงทุนกับบ้านที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

SC Asset เผยผลวิจัยที่ทำการศึกษาถึง 2 ปีเต็มพบว่า จากข้อมูลที่ได้ทำให้เห็นว่าบ้านที่ทำอยู่วันนี้ และปัจจัยในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าจะไม่เหมือนเดิมแล้ว จากการใช้โซเชียลมีเดียและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่ทำเล ซึ่งถือเป็น Old Value ที่อาจจะไม่ได้สำคัญที่สุดอีกต่อไป แต่ต้องการพื้นที่ที่ตอบโจทย์ Mind, Lifestyle, Health และ Well-being

ไม่ว่าจะเป็น My Space พื้นที่ส่วนตัว Connected Layout พื้นที่เชื่อมความสัมพันธ์ Passion Room ห้องสำหรับสะสมของ ‘Lifestyle Kitchen’ ครัวสำหรับสร้างคอนเทนต์ และระบบบ้านอัจฉริยะที่ช่วยอำนวยความสะดวก

นี่คือความท้าทายของผู้พัฒนาอสังหาที่ต้องปรับตัวให้ทันความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้โซเชียลมีเดียและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป การสร้างสรรค์บ้านที่แตกต่างและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์จึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ

ซึ่งหมายความว่า ผู้พัฒนาอสังหาต้องเข้าใจและเข้าถึงความต้องการของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่สร้างบ้าน แต่ต้องสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือกว่า

อีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงไม่แพ้กันคือ Pet Family ครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยงเสมือนหนึ่งสมาชิกในครอบครัว เทรนด์นี้เติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 10% สร้างมูลค่าตลาดกว่า 70,000 ล้านบาท! ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างครอบครัวและค่านิยมในสังคม ที่สัตว์เลี้ยงกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

Major Development ผู้บุกเบิกคอนโดเลี้ยงสัตว์เผยว่า Pet Family คือโอกาสสำคัญ โดยพัฒนาคอนเซปต์จาก Pet Allowed สู่ Pet Friendly และ Pet Family ในที่สุด พร้อมยกระดับการอยู่อาศัยด้วยฟังก์ชันและบริการที่ตอบโจทย์ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนพื้นที่ส่วนกลาง, เทคโนโลยี และสิทธิพิเศษต่างๆ

การสร้าง Community สำหรับ Pet Family ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความผูกพันและความสุขในการอยู่อาศัย นี่คือการปรับตัวของผู้พัฒนาอสังหาที่มองเห็นศักยภาพของตลาด Pet Family ซึ่งในอนาคตอาจขยายไปสู่บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม, ร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงบริการดูแลสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร

จาก Super Young Gen สู่ Pet Family วงการอสังหาไทยกำลังพลิกโฉมตัวเองเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคยุคใหม่ นี่คือบทพิสูจน์ว่าวิกฤตอาจเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่กล้าจะเปลี่ยนแปลงและมองหาสิ่งใหม่ๆ

คำถามคือ ผู้พัฒนาอสังหาจะสร้างสรรค์นวัตกรรมอะไรต่อไปเพื่อตอบโจทย์เทรนด์ใหม่ๆ ในอนาคต? เทคโนโลยีจะมีบทบาทอย่างไรในการยกระดับการอยู่อาศัย? และ ‘ความท้าทาย’ ครั้งต่อไปของวงการอสังหาไทยจะเป็นอย่างไร? คงต้องติดตามกันต่อไป!

The post 50% ของคนอายุน้อยกว่า 30 ปี เปย์หนักกับบ้านหรูราคา 80-150 ล้านบาท ฟาก Pet Family อีกเทรนด์มาแรงที่อสังหาไทยต้องปรับตัว appeared first on THE STANDARD.

SC Asset เปิดไพ่ใบใหม่ที่ไม่ใช่บ้าน! จับมือ Daiwa House ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น ร่วมทุนพัฒนาโครงการโรงแรมหรู KROMO ภายใต้แบรนด์ Curio Collection by Hilton ใจกลางกรุงเทพฯ โดยระบุที่ตั้งตรงข้าม EMSPHERE เปิดบริการปลายปี 2567

ดีลนี้ SC Asset ให้เอสซีเอ็กซ์ (SCX) บริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจ Engine 2 หรือ Recurring Income (ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ) เข้าไปถือหุ้น 51% ขณะที่ Daiwa House ที่มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจอสังหามากถึง 70 ปี รวมถึงมีธุรกิจหลากหลายเช่นเดียวกับ SC Asset ถือหุ้น 49%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• จาก 700 ล้านในปีแรกที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ SC Asset เตรียมก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ด้วยเป้าหมายรายได้ 1.5 แสนล้านใน 5 ปี
• SC Asset ลุยขายบ้านผ่าน Affiliate Marketing ให้ค่าตอบแทนสูงสุดที่ 1.3 ล้านบาท
• SC Asset มองแบรนด์แข็งแกร่งที่จะขึ้นไปเล่นในตลาด Ultimate Luxury ส่งบ้านเดี่ยว ‘95E1’ เริ่มที่ 100 ล้านบาท เป็นราคาเริ่มต้นสูงสุดที่เคยเปิดขายมา

ทั้งสองบริษัทย้ำ ‘มีวิสัยทัศน์ตรงกัน มองเห็นโอกาสทองของธุรกิจท่องเที่ยวไทย’ โดย SC Asset มั่นใจในศักยภาพของกรุงเทพฯ ในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยม ขณะที่ Daiwa House ก็เล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจโรงแรมในภูมิภาคอาเซียน

“เราและ Daiwa House มองเห็นโอกาสเดียวกัน นั่นคือการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวไทยที่มีมูลค่ากว่า 13% ของ GDP และกรุงเทพฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว” ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น กล่าว

ขณะที่ Keisuke Shimonishi, Director and Senior Managing Executive Officer, Daiwa House ย้ำถึงความ “เชื่อมั่นในประเทศไทยมีการเติบโตที่โดดเด่นทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง สอดรับกับแผนขยายการลงทุนโรงแรมในภูมิภาคอาเซียน”

ก่อนหน้านี้ SC Asset ได้เปิดเผยถึงแผนทิศทางธุรกิจ 5 ปี (2567-2571) โดยต้องการสร้างรายได้รวมมากกว่า 1.5 แสนล้านบาท โดยหนึ่งในนั้นมีโรงแรมซึ่งมีจำนวนห้องพักรวม 545 Keys จากโรงแรม 3 โครงการ ซึ่งนอกจากโครงการที่เพิ่งประกาศออกมา อีกแห่งคาดว่าจะอยู่ภายใต้แบรนด์ The Standard ตั้งอยู่ที่พัทยา โดยมีจำนวน 161 ห้อง

KROMO, Curio Collection by Hilton มีขนาด 306 ห้อง ตัวอาคารสูง 28 ชั้น เป็นโรงแรมระดับ Upper Upscale โดยนี่ถือเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ Curio Collection แห่งแรกในไทย

ปัจจุบันแบรนด์ Curio Collection by Hilton มีโรงแรมมากกว่า 150 แห่งทั่วโลก และกำลังจะเปิดตัวอสังหาใหม่อีก 20 แห่ง โดยมีโรงแรมกระจายอยู่ตามเมืองสำคัญทั่วโลก เช่น ลอนดอน ปารีส นิวยอร์ก เมลเบิร์น ไทเป

The post SC Asset เปิดไพ่ใบใหม่ที่ไม่ใช่บ้าน! จับมือกลุ่มทุนยักษ์ญี่ปุ่น ทำโรงแรมหรู KROMO อยู่ตรงข้าม EMSPHERE เปิดบริการปลายปี 2567 appeared first on THE STANDARD.

คุณพร้อมหรือยังที่จะก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่แห่งการอยู่อาศัย? โลกที่คำว่า ‘บ้าน’ ไม่ได้หมายถึงแค่ที่พักพิงอีกต่อไป แต่เป็นประตูสู่ประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นและโอกาสที่ไร้ขีดจำกัด!

ในยุคที่เทคโนโลยีพลิกโฉมทุกแง่มุมของชีวิต SC Asset ผู้สร้างปรากฏการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเป็นผู้นำอสังหาคุณภาพและมีนวัตกรรมที่ล้ำหน้ากว่าใคร ตลอดจนการมี ‘บริการหลังการขาย’ ที่ดีที่สุด ได้ท้าทายตัวเองครั้งใหญ่อีกครั้งด้วยการก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 ซึ่งถูกยกให้เป็น ‘ยุคแห่งวิวัฒนาการ’

โดยเรื่องนี้ ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ผู้นำอสังหาคุณภาพและมีนวัตกรรม อธิบายไว้ว่า ยุค 10 ปีแรกเป็นการเริ่มต้นวางรากฐานของธุรกิจต่างๆ ส่วนยุคที่ 2 เป็นการเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่มีการคิดค้นสร้างสรรค์นวัตกรรมและสอดประสานเทคโนโลยี

สำหรับในทศวรรษที่ 3 นี้ ณัฐพงศ์ให้ความเห็นไว้ว่า “การโตคนเดียวไม่น่าจะสามารถเติบโตไปอย่างยั่งยืน แต่ต้องโตไปในทุกๆ ภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สิ่งแวดล้อม และกำไร โดยต้องทำให้ผู้คนเชื่อมั่น จึงจะก่อให้เกิดกำไรที่จะไปสร้างนวัตกรรมที่ส่งต่อคุณค่าไม่รู้จบ”

นี่ถือเป็นการย้ำถึงเส้นทางของ SC Asset ที่กำลังพุ่งทะยานสู่อนาคตที่ทุกการเติบโตไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตัวเลข แต่เป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ที่จะส่งต่อคุณค่าอันยั่งยืนแก่ลูกค้า พาร์ตเนอร์ สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยนวัตกรรมที่ไร้ขีดจำกัด

‘Morning Coin’ ปฏิวัติประสบการณ์การอยู่อาศัยด้วยพลังแห่งบล็อกเชน!

วันนี้ SC Asset ได้ทำในสิ่งที่ตอกย้ำการเป็นเจ้าแห่งนวัตกรรมและบริการหลังการขายด้วยการเปิดตัว Morning Coin (MNC) Utility Token บนบล็อกเชน ที่ไม่เพียงจะมอบสิทธิพิเศษสุดว้าวให้กับลูกบ้าน แต่ยังเป็นหนึ่งในการนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดมาปรับใช้ในธุรกิจอสังหา ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ทุกคนจะได้สัมผัส

การร่วมมือกับ Token X บริษัทสตาร์ทอัพเทคโนโลยีจากเครือ SCBX ในการพัฒนา Morning Coin นั้น นอกจากจะได้นำศักยภาพของบล็อกเชนที่โปร่งใส ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ มาประยุกต์ใช้เป็นครั้งแรกแล้ว ยังเป็นการวางรากฐานและมาตรฐานให้อุตสาหกรรมอสังหาได้เรียนรู้และนำไปปรับใช้ในการยกระดับคุณภาพการบริการ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง

เรียกได้ว่า SC Asset ไม่เพียงเป็นผู้บุกเบิกเทรนด์ใหม่เท่านั้น แต่ยังก้าวนำคู่แข่งไปหลายช่วงตัวแบบสบายๆ!

เพราะที่อยู่อาศัยไม่ใช่แค่ 4 เสา 1 หลังคาอีกต่อไป แต่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตที่มีคุณภาพ! นี่คือหัวใจของแนวคิด ‘หนึ่งบ้านล้านคุณค่า’ ที่เป็นความตั้งใจของ SC Asset ดังนั้น Morning Coin จะมาเป็น ‘กุญแจสำคัญ’ ที่ไขประตูสู่ประสบการณ์หลากหลายมิติให้ลูกบ้าน SC Asset ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ในการแลกซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมในราคาสุดพิเศษ

ไปจนถึงสิทธิประโยชน์จากการใช้จ่ายบนแอปพลิเคชันรู้ใจ (RueJai App) ในฟีเจอร์ ‘รู้ใจ สโตร์’ (RueJai Store) แหล่งรวมสินค้าและบริการระดับพรีเมียมที่จะเนรมิตทุกวิชลิสต์ให้เป็นจริงแบบไม่อั้น จะสายไลฟ์สไตล์ สายช้อป หรือสายกิน SC Asset ก็มีครบจบในที่เดียว!

เปิดประตูสู่จักรวาลสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ The S.U.N.

แต่นี่ยังไม่พอ! เพราะในฐานะสมาชิกของครอบครัว SC Asset คุณจะได้สัมผัสกับโลกอันเปี่ยมด้วยความพิเศษที่เหนือกว่าใครๆ ภายใต้ SC Asset Reward Program ‘The S.U.N.’ ที่ประกอบด้วย

1. S – Special: คุณคือคนสำคัญ! ด้วยสิทธิพิเศษ ส่วนลด และข้อเสนอสุดเร้าใจ ทั้งในการซื้อบ้านและคอนโด ช้อปปิ้งบนแอปรู้ใจ (RueJai App) ในฟีเจอร์ ‘รู้ใจ สโตร์’ (RueJai Store) และยังครอบคลุมเครือข่ายทางธุรกิจของ SC ด้วย เช่น โรงแรมย่านราชวัตร โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ และโรงพยาบาลพระรามเก้า ที่คุณสามารถอิ่มอกอิ่มใจได้แบบไม่มีวันหมด

2. U – Unique: ลืมประสบการณ์จำเจไปได้เลย เพราะ SC Asset จัดหนักกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับคุณโดยเฉพาะที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น ไม่ว่าจะเป็นการปิดช็อปเพื่อซื้อสินค้าที่เพิ่งเปิดตัวหรือลิมิเต็ดเอดิชันที่ร่วมกับสยามพิวรรธน์ ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของและบริหารกิจการศูนย์การค้า ได้แก่ สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี่, สยามพารากอน, ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต การจองร้านตัดผมยอดนิยม หมดปัญหาไม่ต้องจองคิวยากอีกต่อไป
    และช่วงปลายปีจะมีกิจกรรม ‘Secret Kyoto Trip’ ที่พาไปดื่มด่ำเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่น ไปกิน ดื่ม เที่ยว ที่แค่มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีเวลาด้วย เพราะบางแห่งต้องจองข้ามปี

3. N – Network: ชีวิตดีๆ คือการได้แบ่งปันและเชื่อมต่อ SC Asset เชื่อว่าการสร้างคอมมูนิตี้ที่เข้มแข็งเป็นหัวใจสำคัญ จึงพร้อมเสิร์ฟทุกคอนเน็กชันให้ลูกบ้านได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แบ่งปันไอเดีย หรือปักหมุดนัดเจอ เพื่อสานต่อมิตรภาพดีๆ พร้อมต่อยอดความสัมพันธ์สู่โอกาสทางธุรกิจให้คุณได้อีกด้วย

พบกับปรากฏการณ์ ‘Sunshine Market’ ตลาดนัดสุดยิ่งใหญ่จากลูกบ้าน SC Asset

ไม่หมดเท่านั้น เพราะ SC Asset ยังเตรียมจัดงานใหญ่แห่งปี ‘Sunshine Market’ ที่รวบรวมกลุ่มลูกบ้านที่ทำธุรกิจร้านค้ากับ SC มาออกร้านเป็นครั้งแรก

ไม่ว่าคุณจะมองหาอะไรก็เจอที่นี่ที่เดียว และที่สำคัญอย่าลืมพก Morning Coin มาแลกรับส่วนลดสุดพิเศษกันด้วยล่ะ วันที่ 17-19 พฤษภาคมนี้ที่เอ็มควอเทียร์

ณัฐพงศ์เผยว่า “กิจกรรมและสิทธิประโยชน์ทั้งหมดนี้จัดขึ้นเพื่อให้ลูกค้าของ SC Asset ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดอย่างรอบด้าน เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราที่จะเป็นแบรนด์อสังหาที่ให้บริการหลังการขายเหนือชั้นที่สุดตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี เราอยากให้ทุกคนได้มาร่วมสัมผัสและเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ SC Asset”

สำหรับลูกบ้านของ SC Asset ทุกคน ถึงเวลาแล้วที่จะปลดล็อกรหัสแห่งความสุขด้วย Morning Coin แค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน RueJai และเปิด MNC Wallet ก่อนวันที่ 30 มิถุนายนนี้ รับไปเลย 5,000 MNC เพียงเริ่มต้นเท่านี้คุณก็จะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

หากอยากรู้ว่าดีแค่ไหน หรือสงสัยอะไรเพิ่มเติม โทร. 1749 หรือไปที่ https://www.herecomesthesun.scasset.com/th/ และ https://www.facebook.com/scasset รีบเช็กอินพิกัดความสุขใหม่กันได้เลย

ถึงเวลาแล้วที่จะปลดล็อกศักยภาพแห่งการใช้ชีวิตไปกับผู้นำนวัตกรรมอสังหาอย่าง SC Asset ให้ Morning Coin เนรมิตทุกวันของคุณให้เปี่ยมไปด้วยความสุขและคุ้มค่าที่สุด

เพราะนี่ไม่ใช่แค่การซื้อบ้าน แต่เป็นการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าในทุกๆ วัน นี่แหละคือ ‘หนึ่งบ้านล้านคุณค่า’ ในแบบฉบับของ SC Asset! ที่จะเข้ามายกระดับอุตสาหกรรมอสังหาสู่โลกอนาคตที่ ‘บ้าน’ จะไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่คิดค้นเพื่อคุณ

The post SC Asset เขย่าวงการอสังหา เปิดประตูสู่ประสบการณ์การอยู่อาศัยแห่งโลกอนาคตด้วย ‘Morning Coin’ Utility Token สุดล้ำ พลิกโฉม ‘บ้าน’ ให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.