รู้ไหมว่า 20 มกราคมเป็นวันแห่งคนรักชีส เพราะฉะนั้นวันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะฉลองด้วยเมนูชีสยืดเยิ้มสักหนึ่งเมนู THE STANDARD POP ได้รวบรวม 5 เมนูชีสเยิ้มน่ากินที่ต้องไปลองมาให้แล้ว มีตั้งแต่เมนูที่อยู่ในเทรนด์ที่ควรลอง ไปจนถึงเมนูสุดคอมฟอร์ตที่ใครหลายคนเติบโตขึ้นมากับจานนี้ ไปเลือกกันเลยว่าวันนี้จะฉลองด้วยเมนูไหนดี

1. Wheel Cheese Pasta จาก Spaghetti Factory

เมนูยอดฮิตของคนรักชีสจาก Spaghetti Factory ที่เป็นการทำเส้นพาสต้าสดๆ แล้วมาคลุกในชามชีส หรือที่เรียกว่าเมนู Wheel Cheese Pasta (เริ่มต้นที่ 250 บาท) โดยทางร้านจะมาคลุกเส้นให้ถึงโต๊ะเลยทีเดียว และคุณสามารถเลือกท็อปปิ้งได้ ไม่ว่าจะเป็นเบคอน ไส้กรอก กุ้ง หรือแซลมอนรมควัน

Spaghetti Factory มีทั้งหมด 4 สาขา ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 และ ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/spaghettifactory/

2. Gyeran-Jjim จาก Saemaeul Sikdang

สำหรับคนรักอาหารเกาหลีแต่ก็รักชีสเช่นกัน ก็ต้องลองเมนู Gyeran-Jjim (180 บาท) จากร้าน Saemaeul Sikdang ที่แม้จะโด่งดังในเรื่องหมูย่างและซุปกิมจิ แต่เมนูเครื่องเคียงก็รสชาติจัดจ้านไม่แพ้กัน ชามนี้คือไข่ตุ๋นเนื้อนุ่มที่เพิ่มความเข้มข้นด้วยรสชาติของชีสแบบเน้นๆ เมื่อเสิร์ฟแล้วให้รีบเอาช้อนเซาะตามขอบเพื่อไม่ให้ไข่ไหม้และตักให้ชีสยืดขึ้นมา

Saemaeul Sikdang ชั้น 7 โซน Beacon ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/saemaeul.thailand/

รีวิวฉบับเต็ม https://thestandard.co/saemaeul/

3. Pork Lasagna จาก 13 Coins

กลับไปที่เมนูคอมฟอร์ตหัวใจอย่าง Pork Lasagna (290 บาท) เมนูชีสที่คนทั้งครอบครัวรัก จากร้าน 13 Coins หรือร้าน 13 เหรียญ ที่เติบโตมาพร้อมกับใครหลายคน ปัจจุบันร้าน 13 เหรียญ ถูกคิดใหม่ทำใหม่ให้โมเดิร์นและเข้ากับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่มากขึ้น แต่ยังคงเก็บเมนูซิกเนเจอร์ที่ทุกคนรักเอาไว้ อย่างลาซานญ่าหมูจานนี้ที่เสิร์ฟมาอย่างยิ่งใหญ่แบบกินอิ่มได้ทั้งครอบครัว

13 Coins โครงการ The Racquet Club (ตึก 4) สุขุมวิท 49/11 กรุงเทพฯ

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/13coinsbangkok/

รีวิวฉบับเต็ม https://thestandard.co/13-coins-sukhumvit49/

4. Pizza Bianca Con Tartufo Autunnale จาก Il Bolognese

ถ้าคุณเคยฝันอยากกินพิซซ่าแบบชีสแน่นจัดเต็ม ก็ต้องลอง Pizza Bianca Con Tartufo Autunnale (680 บาท) จากร้าน Il Bolognese พิซซ่าเห็ดทรัฟเฟิลสีดำ ที่อัดแน่นด้วยบูราตาชีสรสนวลเนียนเข้ากับรสชาติของทรัฟเฟิล เพิ่มรสชาติด้วยผักโขมและเห็ดพอร์ชินี เมื่อคุณสั่งพิซซ่าถาดนี้ เชฟจะมาขูดเห็ดทรัฟเฟิลสีดำลงบนพิซซ่าให้คุณดูถึงโต๊ะด้วยนะ

Il Bolognese

139/3 ซอยสาทร 7 ถนนสาทรใต้ กรุงเทพฯ

ข้อมูลเพิ่มเติม https://ilbolognesebangkok.com/

รีวิวฉบับเต็ม https://thestandard.co/il-bolognese/

5. Cream Cheese Garlic Bun จาก SATI Handcraft

ถ้าอยากกินเมนูชีสแบบเบาๆ Cream Cheese Garlic Bun (75 บาท) จาก SATI Handcraft เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องลอง เจ้าก้อนกลมก้อนนี้คือขนมปังกระเทียมสูตรซิกเนเจอร์ของทางร้าน ที่เพิ่มความนวลด้วยครีมชีสอัดแน่นเต็มขนมปัง เมื่อเสิร์ฟร้อนๆ จะหอมทั้งชีสที่เยิ้มกำลังดีและกระเทียม แถมยังมีพาร์เมซานชีสโรยด้านบนเพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้วย

SATI Handcraft มีทั้งหมด 2 สาขา ใกล้ซอยอารีย์สัมพันธ์ 5 และโครงการ Creative & Startup Village

ข้อมูลเพิ่มเติม www.facebook.com/satihandcraftcoffee

รีวิวฉบับเต็ม https://thestandard.co/taste-sati-handcraft/

The post 20 มกราคม วันแห่งคนรักชีส 5 เมนูชีสน่ากินที่ต้องไปลอง appeared first on THE STANDARD.

SATI Handcraft ร้านกาแฟและเบเกอรีแสนสวยย่านอารีย์ ตอนนี้มาเปิดสาขาใหม่ที่ย่านจุฬาในโครงการ Creative & Startup Village และการเปิดสาขาใหม่ในครั้งนี้ ทางร้านก็มาแบบครบวงจร เป็นทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และบาร์ ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นน่านั่ง จะแวะมากินมื้อไหนก็ประทับใจแน่นอน

SATI Handcraft โดดเด่นในเรื่องของกาแฟและขนมอบ ถ้าคุณมาที่นี่ต้องลองสั่งขนมอบชนิดต่างๆ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน ที่แนะนำสุดๆ เลยก็คือ Cream Cheese Garlic Bun ขนมปังกระเทียมก้อนกลมน่ารักที่เพิ่มความนวลด้วยครีมชีส และยังมีขนมอบบรรจุกระปุกสำหรับซื้อกลับไปขบเคี้ยวที่บ้าน หรือมอบให้เป็นของขวัญได้อีกด้วย

SATI Handcraft Chula ตั้งอยู่ที่บล็อก 28, ตึก A, A101-A103 โครงการ Creative & Startup Village กรุงเทพฯ เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-20.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-20.00 น. ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/satihandcraftcoffee

สามารถอ่านรีวิวเพิ่มเติ่มเกี่ยวกับ SATI Handcraft สาขาอารีย์ได้ที่นี่ “TASTE: SATI Handcraft กับโซนเปิดใหม่ที่ทำให้รู้ว่าเมื่อโลกกลายเป็นขนมอบจะเป็นอย่างไร”

ภาพ: Courtesy of SATI Handcraft

The post SATI Chula สาขาใหม่ของ SATI Handcraft ที่เป็นทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และบาร์ appeared first on THE STANDARD.

Drip Bag จาก SATI Handcraft ที่อยากนำเสนอกาแฟแบบให้คุณลืมเทสต์โน้ตไปก่อน ด้วยภาพกราฟิกไลฟ์สไตล์สุดน่ารักบนซองที่ตีความกาแฟนั้นๆ ว่าน่าจะเข้ากับกิจกรรมไหนมากที่สุด ทุกโมเมนต์ถ้ามีกาแฟอยู่ด้วยจะเติมเต็ม เรื่องราวเหล่านั้นจะอยู่บนซอง จากการคิดของทางร้านว่า ถ้าเราดื่มกาแฟตัวนี้เราจะกำลังทำอะไรอยู่กันนะ ทั้งการนอนอาบแดดในสวนสาธารณะ นั่งทำงานในวันที่เร่งรีบ นอนอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน หรือออกไปปาร์ตี้กับเพื่อน

เริ่มที่ Brazil Chocola (NY2) ที่เหมาะกับวันที่ออกไปปาร์ตี้กับเพื่อน รสชาติออกเข้มและมีเทสต์โน้ตของเฮเซลนัต ช็อกโกแลต เจือความฟรุตตี้เล็กน้อย Kenya Masai (AA) ที่เหมาะกับการดื่มระหว่างขับรถด้วยเทสต์โน้ตดอกไม้ เสาวรส ผลไม้ตระกูลเบอร์รี Guatemala Oriente Natural ที่จะดีที่สุดเวลานอนเอนหลังอ่านหนังสือสบายๆ ด้วยความฟรุตตี้และความหวานของสตรอว์เบอร์รีและแตงโม Yemen Mattari 9 ที่เหมาะกับวันสบายๆ นอนอาบแดดในสวนด้วยเทสต์โน้ตดอกไม้ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี และมีอาฟเตอร์เทสต์ออกหวาน

สำหรับแบบเบลนด์ทางร้านก็มีให้เลือกสองแบบคือ HOUSE BLEND ที่เหมาะกับการนั่งทำงานในวันที่เร่งรีบและต้องใช้พลังสมอง ด้วยเมล็ดกาแฟรวันดาและขุนแจ SUMMER BLEND ที่ทางร้านตีความว่าเหมาะกับการนั่งพักผ่อนในวันสบายๆ ด้วยเมล็ดกาแฟเคนยา โคลอมเบีย เอธิโอเปีย และแม่จันหลวง

สามารถหาซื้อ SATI Handcraft’s Drip Bag ได้ที่

Line Shop: https://shop.line.me/@satihandcraft

Shopee: https://shopee.co.th/sati_handcraft?v=6e6&smtt=0.0.4

Line: @satihandcraft

The post ทุกโมเมนต์ถ้ามีกาแฟอยู่ด้วยจะเติมเต็ม! Sati Drip Bag กาแฟที่คิดมาแล้วว่ารสชาตินี้เหมาะกับกิจกรรมแบบไหน appeared first on THE STANDARD.

SATI Handcraft คาเฟ่อารีย์แสนอบอุ่นโดย เอฟ-วิทิต ชัยสัมฤทธิ์โชค ที่ตอนนี้ทำร้านใหม่สวยกว่าเดิมจนแทบจำไม่ได้ ทางเดินสีขาวสว่างตรงนี้เป็นโฉมใหม่ของ SATI Handcraft บริเวณหน้าสุดมีหน้าต่างใสที่เผยให้เห็นการอบขนมข้างในร้าน และการปรับโฉมใหม่ครั้งนี้ก็ยังมาพร้อมกับเมนูใหม่ๆ อย่างเมนูอาหารเช้าด้วย

บรรยากาศร้าน

บรรยากาศร้าน

บรรยากาศร้าน

SATI Handcraft เริ่มมาจากความรักในกาแฟของเอฟ ทำให้เขาได้มีโอกาสไปเปิดร้านกาแฟอยู่บริเวณใต้ตึกสตูดิโอสอนทำเครื่องปั้นดินเผาในย่านแพร่งสรรพศาสตร์ ก่อนที่จะได้ย้ายมาทำร้านที่อารีย์ในบรรยากาศอบอุ่นเต็มไปด้วยต้นไม้ที่หาได้ไม่ง่ายในอารีย์ที่เต็มไปด้วยคาเฟ่สไตล์โมเดิร์น ที่เอฟตั้งชื่อร้านว่า SATI Handcraft เพราะเชื่อว่าทุกอย่างที่ทำจะต้องทำด้วยสติ เดิม SATI Handcraft มีเมนูกาแฟหลากหลายชนิดเสิร์ฟ แต่ที่โดดเด่นที่สุดในตอนนี้เลยก็คือขนมอบประเภทต่างๆ ที่เอฟกำลังชื่นชอบเป็นพิเศษ

เฟอร์นิเจอร์ของร้าน

เฟอร์นิเจอร์ของร้าน

เฟอร์นิเจอร์ของร้าน

“ถ้าเขาบอกว่า คนมีความรัก โลกจะกลายเป็นสีชมพู โลกของผมคงเป็นโลกที่มีแต่ขนม” เอฟเล่าถึงเรื่องขนมอบที่ตอนนี้กำลังเป็นความสนใจของเขาจนทำให้เขาตัดสินใจคัสตอมเฟอร์นิเจอร์ขึ้นมาให้เป็นรูปร่างของขนมอบ ด้วยฝีมือของสตูดิโองานไม้ Made Here on Earth โดยเก้าอี้ของร้านจะเป็นรูปคานาเล่หลากสี เข้มอ่อนต่างกันไป และทุกตัวจะมีตราประทับว่า Custom Made by Made Here on Earth ส่วนโซฟานั้นก็ทำออกมาโดยใช้สีของคานาเล่ให้เข้าชุดกัน สุดท้ายคือโต๊ะที่ทางร้านทำออกมาเป็นรูปบิสกิตสีอ่อนน่ารักที่มีคำว่า SATI Handcraft Bakery อยู่

Ginger Dirty (135 บาท) และ Spring Brew (150 บาท)

เมนูเครื่องดื่มประเภทกาแฟเริ่มที่ Ginger Dirty (135 บาท) เดอร์ตี้ที่เพิ่มความพิเศษด้วยการผสมขิงสดไม่ใส่น้ำแข็ง เสิร์ฟพร้อมเลมอนบิสกิต Spring Brew (150 บาท) กาแฟสกัดเย็นจากเมล็ดไทยผสมกับส้มยูซุและน้ำผึ้งป่า ให้รสชาติสดชื่น

Cream Cheese Garlic Bun (75 บาท) และ Truffle Mushroom Croissant (225 บาท)

ส่วนเมนูขนมอบที่ทางร้านอบเองก็มี Cream Cheese Garlic Bun (75 บาท ขนมปังกระเทียมก้อนกลมน่ารักที่เพิ่มความนวลด้วยครีมชีส และ Truffle Mushroom Croissant (225 บาท) ที่หยิบจับเอาแป้งครัวซองต์มาทำเป็นรูปทรงน่ารักราดด้วยซอสทรัพเฟิลหอมๆ

Egg Benedict + Smoked Salmon (240 บาท) และ Smoked Duck Salad  (220 บาท)

ส่วนเมนูอาหารเช้าที่เพิ่มขึ้นมาใหม่เป็นเมนูอาหารเช้าสบายๆ อย่าง Egg Benedict + Smoked Salmon (240 บาท) ไข่เบเนดิกต์เสิร์ฟมาบนแซลมอนรมควัน พร้อมกับผักย่างหลากหลายชนิด หรือจะเป็นเมนูสุขภาพหน่อยอย่าง Smoked Duck Salad (220 บาท) สลัดอกเป็ดรมควันราดด้วยซอสส้มรสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว

Crisp Cola (95 บาท) และ Remedy Roots (95 บาท)

และอีกสองเมนูโดดเด่นที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาเลยคือคราฟต์โซดาที่ทางร้านทำเองทุกขั้นตอน Crisp Cola (95 บาท) โคล่าสูตรลับที่ทางร้านสร้างสรรค์สูตรขึ้นเองจากสมุนไพรหลายชนิด พร้อมด้วยกลิ่นที่ออกไปทางซิตรัส และเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายด้วย Remedy Roots (95 บาท) คราฟต์โซดาที่แปลกออกไปด้วยรสชาติของขิงและกระชายขาว เพิ่มความหวานด้วยน้ำผึ้ง และเติมความสดชื่นด้วยมะนาว ส่วนผสมแต่ละอย่างนั้นล้วนมีประโยชน์และเสริมภูมิคุ้มกันได้ดี

SATI Handcraft

Open: ทุกวัน 08.00-20.00 น.

Address: ใกล้ซอยอารีย์สัมพันธ์ 5 พระราม 6 ซอย 30 กรุงเทพฯ

Budget: 100-300 บาท

Contact: 06 5165 4266

Website: https://www.facebook.com/satihandcraftcoffee

Map: https://g.page/satihandcraft?share

The post TASTE: SATI Handcraft กับโซนเปิดใหม่ที่ทำให้รู้ว่าเมื่อโลกกลายเป็นขนมอบจะเป็นอย่างไร appeared first on THE STANDARD.

การดริปกาแฟถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยทั้งการฝึกฝนและประสบการณ์ รวมถึงการเรียนรู้คาแรกเตอร์ต่างๆ ของเมล็ดกาแฟต่างสายพันธุ์ ที่ล้วนส่งผลต่อรสชาติของกาแฟ นอกจากนั้นปัจจัยอื่นๆ อย่างอุณหภูมิของน้ำ ความละเอียดของกาแฟ สัดส่วนของน้ำกับกาแฟ ฯลฯ ก็มีส่วนทำให้กาแฟแก้วนั้นมีรสชาติต่างไปจากที่เคย มือดริปอย่าง เอฟ-วิทิต ชัยสัมฤทธิ์โชค ผู้ก่อตั้ง SATI Handcraft Coffee จึงแนะนำว่า ระหว่างฝึกฝนให้หมั่นจดบันทึกส่วนผสมและขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้ได้สูตรการดริปที่เป๊ะและลงตัวสำหรับคุณ    

The post How to ดริปกาแฟแบบไม่ง้อบาริสต้า appeared first on THE STANDARD.