วันนี้ ( 21 ตุลาคม) ที่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ (Rosewood Bangkok) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวพรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพการรับประทานอาหารค่ำร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล โดยแกนนำคนสำคัญ เช่น ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย

ขณะที่พรรคภูมิใจไทย มี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ ไชยชนก ชิดชอบ สส. บุรีรัมย์ ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ มี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ

สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ มี เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะหัวหน้าพรรค และ เดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาชาติ มี พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรค และ ซูการ์โน มะทา สส. ยะลา ในฐานะเลขาธิการพรรค

นอกจากนี้ยังมี ศ. ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม, อิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา

การร่วมรับประทานอาหารเย็นร่วมกันครั้งนี้เป็นครั้งแรกของแพทองธาร ในฐานะนายกรัฐมนตรี โดยถูกจับตามองว่าเป็นการพูดคุยครั้งสำคัญถึงประเด็นร้อนทางการเมือง เช่น แนวทางร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ว่าจะเดินหน้าไปอย่างไร จะนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ด้วยหรือไม่ รวมถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

หรือแม้แต่กรณีที่ แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. สั่งพิจารณายุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จากเหตุ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบิดาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการครอบงำ ชี้นำ 6 พรรคการเมือง โดยเห็นว่าคำร้องมีมูล และมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนและมีความเห็นเสนอ โดยให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่สามารถขอขยายได้อีกครั้งละไม่เกิน 30 วันจนกว่าจะแล้วเสร็จ

สำหรับเมนูอาหารบนโต๊ะอาหารประกอบด้วยเมนู หอยเป๋าฮื้อคาเวียร์, หอยเชลล์ฮอกไกโด, บาร์บีคิวหมูราดน้ำผึ้งวอลนัทสลัดซอสหัวหอม, ซุปหอยเชลล์, กุ้งลายเสือและเต้าหู้, ล็อบสเตอร์นึ่งซีอิ๊ว, ปลาหิมะนึ่งเห็ดทรัฟเฟิล, ข้าวอบหอยเป๋าฮื้อ และเมนูอาหารหวานคือ ผลไม้ และเครมบรูเล เป็นต้น

The post ดินเนอร์พรรคร่วมฯ ครั้งแรกในรัฐบาลแพทองธาร จับตาถกหาทางออกประเด็นการเมือง ‘นิรโทษกรรม-แก้รัฐธรรมนูญ’ appeared first on THE STANDARD.

ในที่สุดก็ใกล้หมดเดือนมีนาคมสักที! แต่ก็อย่าเพิ่งสิ้นใจกันไปก่อน เพราะว่าสัปดาห์นี้พวกเรามีอีเวนต์ นิทรรศการ และงานที่ทุกคนต้องไปเช็กอินมาแนะนำให้ตามเก็บกันอีกเพียบ

เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้ความร้อนมาละลายความสนุกของทุกคนจนเหือดหาย เรารีบมาเตรียมร่ม เตรียมน้ำ และทาครีมกันแดด ก่อนออกไปโลดแล่นในอีเวนต์ประจำสัปดาห์ที่ #TheStandard_Calendar คัดมาให้กันดีกว่า

1. UNFOLDING BANGKOK – Living Old Building

ภาคต่อไปของนิทรรศการไฟ Living Old Building ที่พาทุกคนย้อนรอยประวัติศาสตร์ โดยครั้งนี้จัดที่วังกรมพระสมมตอมรพันธุ์ อาคารสถาปัตยกรรมตะวันตกโบราณในสมัยรัชกาลที่ 4 ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายศิลปะยุคเรเนสซองส์ ภายในงานมีการจัดแสดงแสง สี เสียง พร้อมดนตรีสดและกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจมากมาย

หากใครสนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่นี่: www.eventbrite.com/e/unfolding-bangkok-living-old-building-ticket

When: วันนี้ – 2 เมษายน 2566

Where: บำรุงเมือง

More Info: Creative Economy Agency

2. The Boundary of Solitude

นิทรรศการเดี่ยวของ วัชรนนท์ สินวราวัฒน์ ศิลปินผู้สร้างสรรค์ชิ้นงานสไตล์ Lanscape Painting ที่บอกเล่าถึงตัวตนและความสันโดษท่ามกลางดินแดนยุคสงครามเย็น ผ่านภาพทิวทัศน์จาก 4 จังหวัด คือ มุกดาหาร นครพนม สกลนคร และกาฬสินธุ์

โดยการจัดแสดงนี้ศิลปินอยากพาเราไปตามหาชิ้นส่วนเรื่องราวที่ไม่ถูกบันทึก ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นดินแดนที่ถูกนิยามว่า ‘ชาติ’ 

When: 31 มีนาคม – 28 มิถุนายน 2566

Where: ซอยสุขุมวิท 39

More Info: SAC Gallery

3. Lust for Dust

นิทรรศการศิลปะสไตล์ Expressionism ฝีมือศิลปิน สมพงษ์ พานิช ที่ละเลงอารมณ์ผ่านชิ้นงานอันเปี่ยมไปด้วยสัจธรรม การก้าวข้ามอัตตา และการค้นพบสิ่งที่สำคัญอย่างความอิสระ การปล่อยวาง และการเปิดกว้างทางความคิดต่อสิ่งใหม่ๆ

When: วันนี้ – 30 เมษายน 2566

Where: ซอยปรีดี พนมยงค์ 14

More Info: Xspace

4. CHOICES Art Exhibition

นิทรรศการจัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินชาวไทยและฝรั่งเศส ที่มาปลดปล่อยจิตวิญญาณผ่านผลงานหลายเทคนิคด้วยกัน เช่น จิตรกรรม ประติมากรรม แฟชั่น ภาพถ่าย และอื่นๆ โดยพวกเขาตั้งใจที่จะสร้างแรงบันดาลใจและความสร้างสรรค์ให้แก่ทุกคน

When: 30 มีนาคม – 9 เมษายน 2566 เวลา 18.30 น.

Where: ราชเทวี

More Info: Choices – Art exhibition in Bangkok

5. Currents Currents

นิทรรศการศิลปะโดยกลุ่มศิลปินรุ่นใหม่ 10 ชีวิต ที่จัดแสดงผลงานร่วมกันในคอนเซปต์ชวนนึกและพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน โดยชิ้นงานต่างๆ ที่จัดแสดงใช้เทคนิคหลากหลาย ทั้งประติมากรรม จิตรกรรม ภาพนิ่ง สื่อผสม หรืองานเขียน ทั้งหมดถูกนำมาอยู่ด้วยกันและผสมผสานกันอย่างลงตัว จนเกิดเป็นสิ่งที่เราจับต้องได้และสัมผัสได้จริง

When: วันนี้ – 24 พฤษภาคม 2566

Where: เพลินจิต

More Info: Noble Play

6. Mad Face Food Week 2023

ในที่สุดก็มาถึง! เทศกาลเอาใจสายกินอย่าง Mad Face Food Week 2023 ที่จะรวมร้านค้า ร้านอาหาร และร้านเครื่องดื่มมาไว้มากมาย ปีนี้จัดท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ใจกลางสวน พร้อมเพิ่มอรรถรสให้นักกินด้วยเสียงดนตรีเจ๋งๆ จากเหล่าดีเจและศิลปินมากมาย

When: 28-30 เมษายน 2566 เวลา 15.00-23.00 น.

Where: สุขุมวิท 77

More Info: Mad Face Food Week

7. The 4 seasons of food and music

คืนเดียวเท่านั้น The Pasta Apartment อารีย์ จัดค่ำคืนเสิร์ฟอาหารอิตาเลียนสุดพิเศษที่จะเล่าถึงฤดูกาลทั้ง 4 ผ่านอาหาร 4 คอร์ส พร้อมมีดนตรีเพราะๆ จาก Pro Musica Trio มาบรรเลงให้ฟังทั้งคืน

โดยเมนูที่ทุกคนจะได้ชิมคือ ฤดูใบไม้ผลิ: หน่อไม้ฝรั่งกับแฮมอิตาลีรมควัน, ฤดูร้อน: พาสต้ากุ้งสแกมปีและมะเขือเทศ, ฤดูใบไม้ร่วง: ซี่โครงหมูสโลว์คุกกับมันบด และปิดท้ายด้วย ฤดูหนาว: เค้กช็อกโกแลตเฮเซลนัท

อาหารทั้งหมด 4 คอร์ส ราคา 2500++ บาท/ท่าน ได้รับไวน์พิเศษจากร้านด้วย

When: 29 มีนาคม 2566 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

Where: ซอยพิบูลวัฒนา 11

More Info: The Pasta Apartment Ari | Bangkok

8. The Reunion

มื้ออาหารสุดพิเศษที่รวมเชฟมากฝีมือทั้ง 5 คน มารังสรรค์มื้อพิเศษด้วยกัน ได้แก่ Thierry Drapeau แห่งห้องอาหารเจ้าภาพ Signature Bangkok, Alain Caron เชฟร้านอาหารติดดาวชาวเนเธอร์แลนด์

Vanessa Huang เชฟหญิงจากร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดังในไต้หวัน, Patrick Jeffroy เชฟอาหารฝรั่งเศสติดดาวมิชลิน และ Jacques Pourcel เชฟชาวฝรั่งเศสผู้คว้าดาวมิชลินมาแล้ว 3 ดวง

โดยเมนู French and Floral จำนวน 8 คอร์ส ราคา 6,000++ บาท/ท่าน จำกัดเพียง 30 ที่นั่งต่อคืนเท่านั้น

When: 30-31 มีนาคม 2566

Where: ราชเทวี

More Info: Signature Bangkok

9. Taste of Rosewood Bangkok

โรงแรมโรสวูด ติดบีทีเอสเพลินจิต จัดบรันช์สุดพิเศษฉลองโรงแรมอายุครบ 4 ปี โดยมื้อนี้มาในธีม Taste of Rosewood ชวนเชฟจากทุกห้องอาหารในโรงแรมมาเสิร์ฟเมนูซิกเนเจอร์ให้ชิมแบบไม่อั้น เช่น ติ่มซำจาก Nan Bei, เมนูนานาชาติจากห้องอาหารละคร ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สั่งได้ไม่อั้น พร้อมมี Welcome Drink จากบาร์ Lennon’s ด้วย

ราคา 2,900++ บาท/ท่าน

When: 2 เมษายน 2566 เวลา 12.00-15.00 น.

Where: เพลินจิต

More Info: Rosewood Bangkok 

The post CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ (29 มีนาคม – 4 เมษายน 2566) appeared first on THE STANDARD.

ชาวกรุงเทพมหานครกำลังจะมีที่แฮงเอาต์คุณภาพเพิ่มขึ้นอีกที่แล้ว ในการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งของ Rosewood Bangkok โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ที่ปิดประตูบ้านชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด

แน่นอนว่าการเปิดบ้านคราวนี้ Rosewood Bangkok พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก 158 ห้อง และห้องพักระดับพรีเมียม จำนวน 17 ห้อง ห้องอาหาร Nan Bei ที่ครองใจนักชิมด้วยอาหารจีนโมเดิร์นที่การันตีรางวัลมากมาย, Lakorn European Brasserie กับเมนูแบบ All-Day Dining หรือ Lennon’s สปีกอีซี่บาร์ บนชั้นบนสุดที่ทั้งเรียบเท่ บรรยากาศดี ทั้งยังสามารถมองเห็นวิวเมืองในมุมสูง

สำหรับคนรักสุขภาพ Rosewood Bangkok ยังเตรียมทรีตเมนต์ดีๆ ไว้ปรนเปรอคุณ ที่ Sense, A Rosewood Spa, ฟิตเนสสตูดิโอ ครบครันด้วยเครื่องออกกำลังกายและเทคโนโลยีทันสมัย รวมไปถึงสระว่ายน้ำระบบเกลือในร่มและกลางแจ้ง

อ่านเพิ่มเติม:

• ฟังเพลง ‘I Feel Love’ และจิบค็อกเทล ‘Donna Summer’ ไปพร้อมๆ กันที่ Lennon’s
• สู่เส้นทางรสชาติตำรับจีนจากเหนือจรดใต้ที่ Nan Bei

กลับมาคราวนี้ Rosewood Bangkok ยังมาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ‘Return to Rosewood’ และ ‘Sky Pool Sojourn’ ไว้ให้แขกที่มาพักเลือกแพ็กเก็จที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2565 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.rosewoodhotels.com/en/bangkok    

ภาพ: Rosewood Bangkok

The post Rosewood Bangkok เตรียมเปิดบ้านรับแขกอีกครั้ง 20 กันยายน 65 appeared first on THE STANDARD.

Lennon’s ไวนิลช็อปและสปีกอีซี่บาร์ของโรงแรม Rosewood Bangkok กลับมาเปิดประตูต้อนรับเหล่านักดื่ม บาร์ฮอปปิ้ง และผู้ชื่นชอบไวนิลอีกครั้ง หลังจากปิดให้บริการชั่วคราวมาเกือบหนึ่งปีจากผลกระทบสถานการณ์โควิด

ด้วยความที่เป็นไวนิลช็อปด้วย บาร์แห่งนี้จึงเต็มไปด้วยแผ่นไวนิลกว่า 6,000 คอลเล็กชัน รวบรวมผลงานศิลปินตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ฟังไวนิลท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุคและห้วงวันวานอดีตในความทรงจำ พร้อมจิบซิกเนเจอร์ค็อกเทลอัปเกรดใหม่ล่าสุดและสนุกสนานขึ้นกว่าเดิม โดย Giuseppe Carneli ผู้จัดการบาร์ชาวอิตาเลียน ที่ก้าวเข้าสู่การโรงแรมและงานบริการตั้งแต่อายุ 17 ปี และผ่านประสบการณ์จากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอิตาลี อังกฤษ มอลตา เวียดนาม และเมียนมา ก่อนที่จะลงหลักปักฐานที่ประเทศไทย

โดยคอนเซปต์ของค็อกเทลที่นี่ยังคงยึดโยงกับเรื่องราวของเสียงเพลงและไวนิล โดยชูแนวคิด Zero Waste หรือการมุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบทุกส่วนให้เกิดประโยชน์มากที่สุดและเหลือส่วนเกินที่ต้องทิ้งน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ยังร่วมมือกับเกษตรกร ผู้ประกอบการท้องถิ่น รวมถึงผู้ผลิตสุราชุมชนในการทำเบลนด์พิเศษสำหรับ Lennon’s เพื่อต่อยอดเป็นค็อกเทลสูตรใหม่ในอนาคต

ซิกเนเจอร์ค็อกเทลแบ่งเป็น 4 หมวดใหญ่ Lennon’s Favorite คอลเล็กชันค็อกเทลยอดนิยมของ Lennon’s ที่ผ่านการทวิสต์และประยุกต์ให้เข้ากับคอนเซปต์ Zero Waste ตามด้วย Disco ผ่านการตีความจังหวะและเสียงเพลงให้เป็นดริงก์แนวสนุกสนาน จิบง่าย และเข้าคู่กับคาแรกเตอร์ดนตรีและนักร้อง

ย้อนวันวานสู่ยุคแรกของ Lennon’s กับ Frank Sinatra ‘Fly Me to The Moon’ (450 บาท) วิสกี้ค็อกเทลผสมเหล้าโกโก้ บิทเทอร์ และสวีทเวอร์มุธ ตบท้ายด้วยการพ่นน้ำหอมกินได้กลิ่นส้มโอ เพื่อให้กลิ่นหอมและรสขมปลายลิ้น แทนที่การใช้เปลือกส้ม ใครที่ชื่นชอบคลาสสิกค็อกเทลอย่าง Boulevardier แนะนำให้ลองทวิสต์ค็อกเทลแก้วนี้ เผื่อได้ดริงก์โปรดแก้วใหม่สำหรับครั้งหน้า

เติมสีสันและจังหวะสำหรับค่ำคืนนี้ด้วยดิสโก้ดริงก์ที่หยิบยกศิลปินชื่อดังมาตีความให้เป็นค็อกเทล Donna Summer ‘American Disco’ (450 บาท) ราชินีเพลงดิสโก้ที่มาในรูปแบบค็อกเทลสีม่วงสดใส แก้วนี้เบสด้วยวอดก้า แต่งเติมรสชาติด้วยสวีทเวอร์มุธ อิตาเลียนบิทเทอร์กลิ่นส้ม แล้วนำไปทำให้ใสผ่านกระบวนการ Clarification ด้วยนมและกรดมะนาว จากนั้นค่อยเติมสีม่วงธรรมชาติที่ได้จากดอกอัญชัน รินใส่แก้วที่มีน้ำแข็งก้อนกลมเหมือนลูกบอลดิสโก้ กลายมาเป็นสปิริตฟอร์เวิร์ดค็อกเทลที่จิบง่าย พูดน้อย ต่อยหนัก และเป็นที่ถูกใจของผู้มาเยือนเสมอมา

แก้วถัดมายังคงวนเวียนอยู่กับดิสโก้ แต่เป็นดิสโก้สไตล์อินเดีย Bappi Lahiri ‘Indian Disco’ (450 บาท) แน่นอนว่าส่วนผสมของดริงก์นี้มีกลิ่นอายอินเดียตั้งแต่จิน ซึ่งเลือกใช้จินอินเดียผสมกับไวต์เวอร์มุธและน้ำมะขาม ก่อนที่จะนำไปเชกพร้อมใบหมุย (ใบแกง) เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม จิบง่าย เหมาะสำหรับดริงก์เรื่อยๆ ตลอดคืน

ข้ามมาที่หมวด The Sound of the Future หมวดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก Synthesizer ซึ่งเป็นที่นิยมในยุค 70-80 และ Giorgio Moroder นักแต่งเพลงชาวอิตาเลียน ผู้ได้สมญานาม Father of Disco จากการนำ Synthesizer ไปสร้างสีสันให้กับเพลงหลายแนว หนึ่งในผลงานเลื่องชื่อของเขาก็คือ I Feel Love ของ Donna Summer นั่นเอง ใครที่ชอบความแปลกใหม่และอยากลองจิบค็อกเทลที่ส่วนผสมเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและวัตถุดิบประจำวันต้องสั่ง Giorgio Moroder (450 บาท) โดยแก้วนี้จะประกอบด้วยส่วนผสม 3 ประเภท Spirit + Bitter + Sweet ครั้งนี้เราได้ชิมค็อกเทลที่เบสด้วยกรัปปา (เหล้าขาวสไตล์อิตาเลียนที่ทำจากองุ่น) คัมพารีบิทเทอร์ และไวต์เวอร์มุธ

อีกสักแก้ว เราแนะนำ Wilfrido Vargas ‘A Mover La Colita’ (450 บาท) เบสด้วยดาร์กรัมจากเปอร์โตริโก อินฟิวส์กับกล้วยทั้งใบและกาแฟโคลด์บรูว์จาก Left Hand Roaster โดยใช้ Village Project Blend ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟที่เป็นเบลนด์รองและมีรูปทรงไม่สวยงาม แต่ยังคงรสสไตล์คั่วเข้มที่เข้ากับคาแรกเตอร์ค็อกเทลแก้วนี้ มาพร้อมการ์นิชที่กินได้ ทำมาจากเปลือกกล้วยอบแห้งแล้วซูวีด์พร้อมเหล้ารัมที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำมาอบต่ออีกรอบก่อนนำมาเป็นการ์นิชในค็อกเทลแก้วนี้

ใครที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ต่อให้แวะมาที่ Lennon’s ก็สามารถเอ็นจอยได้เช่นกัน ครีเอตพิเศษและมีความซับซ้อนไม่แพ้ค็อกเทลแก้วอื่น แนะนำ Misty Morning (320 บาท) เบสด้วยโซจูแอลกอฮอล์ 0% ที่มีส่วนผสมของ CBD สารสกัดจากกัญชาที่ถูกกฎหมายและช่วยให้ผ่อนคลาย เพิ่มรสชาติด้วยกรดมะนาวกับยูซุ แล้วท็อปด้วยโทนิกเบาๆ เหมาะไว้สั่งเป็น One for the Road หรือแก้วสุดท้ายก่อนกลับบ้าน

สั่งค็อกเทลกันไปแล้วอย่าลืมของกินแกล้มให้พอกรุบกริบ Fried Calamari (450 บาท) หมึกชุบแป้งทอดโรยผงกระเทียมแห้ง บีบมะนาวนิดหน่อยแล้วจิ้มมาโยดิป อร่อยจนคำสุดท้าย

Avocado & Crab Roll (550 บาท) ขนมปังบริยอชสอดไส้อะโวคาโดกับเนื้อปู ท็อปด้วยคาเวียร์ หรือจะเป็น Pulled Pork Slider (550 บาท) เบอร์เกอร์หมูซอสบาร์บีคิวกับแยมหอมแดง

ถ้าไม่อยากสั่งอาหาร ลองแพริ่งค็อกเทลกับช็อกโกแลตก็ดีไม่เบา แนะนำ Assorted Chocolate Bonbons (320 บาท) คราฟต์ช็อกโกแลตจากเอ็กเซ็กคิวทีฟเพสทรีเชฟ Florian Couteau มีทั้งมาร์ซิพานช็อกโกแลตสอดไส้เหล้าส้ม ไวต์ช็อกโกแลตรสสตรอว์เบอร์รีกับงาขาว โกโก้นิบส์ และพราลีนรสกล้วย

Lennon’s

Open: วันพุธ-เสาร์ เวลา 18.00-23.00 น.

Address: โรงแรม Rosewood Bangkok ถนนเพลินจิต

Budget: 1,000-2,000 บาท
Tel: 0 2080 0030

Website: https://www.rosewoodhotels.com/en/bangkok/dining/lennons

Map: 

The post ฟังเพลง ‘I Feel Love’ และจิบค็อกเทล ‘Donna Summer’ ไปพร้อมๆ กันที่ Lennon’s appeared first on THE STANDARD.

การระบาดของโรคโควิดทำให้ธุรกิจโรงแรมบอบช้ำเป็นอย่างมาก หลายแห่งที่สายป่านไม่ยาวก็ต้องปิดกิจการหรือขายให้คนอื่น ในขณะที่บางส่วนก็ต้องปิดชั่วคราว อย่างเช่น Rosewood Bangkok ที่เป็นโรงแรมหรูระดับ 6 ดาว

โดย เอม-พินทองทา ชินวัตร คุณากร ได้โพสต์ข้อความบน Instagram ส่วนตัวเมื่อวานนี้ (26 สิงหาคม) ว่า “หลังจากที่ได้ไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่ เราจึงตัดสินใจหยุดให้บริการ Rosewood Bangkok ชั่วคราว และจะกลับมาส่งมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับทุกๆ ท่านอีกครั้งในไม่ช้า”

การปิดดังกล่าวสืบเนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากการที่ภาคเอกชนต้องรับมือจากความผันผวนของเหตุการณ์โควิด และยังมองไม่เห็นความชัดเจนในปีนี้ได้ 

ตัวธุรกิจโรงแรมซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการหายไปของนักท่องเที่ยวมาเกือบ 2 ปี จากจำนวนนักท่องเทียวที่เคยมีปีละประมาณ 39-40 ล้านคน มาถึงในปีนี้คาดการณ์ล่าสุดน่าจะจบไม่เกิน 2 แสนคนเท่านั้นเอง โดยเบื้องต้นยังไม่ได้มีการแจ้งว่าโรงแรม Rosewood Bangkok จะกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งเมื่อไร 

สำหรับ Rosewood Bangkok มีมูลค่าโครงการกว่า 5 พันล้านบาท มีความสูง 32 ชั้น ด้วยจำนวนห้องพัก 159 ห้อง โดยมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ รูปทรงของอาคารที่ถูกออกแบบมาจากการพนมมือไหว้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคนไทย

ภาพ: https://www.facebook.com/RosewoodBangkok 

เตรียมพบกับฟอรัมที่ผู้บริหาร ‘ต้องดู’ ก่อนวางแผนกลยุทธ์ปีหน้า! The Secret Sauce Strategy Forum คัมภีร์กลยุทธ์ฝ่าวิกฤตปี 2022

เฟรมเวิร์กกลยุทธ์ใช้ได้จริง
ฉากทัศน์เศรษฐกิจไทย–โลก
เทรนด์ผู้บริโภค–การตลาด
เคสจริงจากผู้บริหาร

พิเศษ! บัตร Early Bird 999 บาท วันนี้ถึง 27 สิงหาคมนี้เท่านั้น

ซื้อบัตรได้แล้วที่ www.zipeventapp.com/e/the-secret-sauce

The post วิกฤตโควิดเป็นเหตุ ‘เอม พินทองทา’ ประกาศปิดโรงแรมหรู 6 ดาว ‘Rosewood Bangkok’ ชั่วคราวแบบไม่มีกำหนด appeared first on THE STANDARD.

ใครเป็นคอแผ่นเสียงระดับพระกาฬ หรืออยากมาชมคลังสะสมแผ่นเสียงใหญ่ที่สุดในเอเชีย แนะนำให้มาดูและฟังได้ด้วยตนเองที่ Lennon’s สปีกอีซี่บาร์ของโรงแรม Rosewood Bangkok ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยคอนเซปต์สตูดิโอในบ้านยุค 70 ที่แขกเหรื่อสามารถเลือกแผ่นเสียงให้ดีเจเปิด ซื้อเก็บ หรือนำแผ่นเสียงที่สะสมไว้ส่วนตัวมาเปิดได้ที่นี่ แต่ถ้าอยากมาฟังเพลงเฉยๆ ก็ยินดี เพราะบาร์แห่งนี้ติดตั้งเครื่องเสียงระดับเทพไว้ขับกล่อมเพลงแนวแจ๊สและบลูส์โดยเฉพาะ   

ในขณะที่เครื่องดื่มซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ต่างๆ ก็ยังคงคอนเซปต์ดนตรี เพราะได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงดังขึ้นหิ้ง ไม่ว่าจะเป็น Fly Me to the Moon ของแฟรงก์ ซินาตรา, The Sky is Crying ของ บี.บี. คิง หรือ Triller ของไมเคิล แจ็คสัน และคึกคักขึ้นมาหน่อยกับ Wake Me Up Before You Go-Go ของวง Wham! ซึ่งแต่ละแก้วก็จะมีรสชาติและคาแรกเตอร์ตามบทเพลง ใครชอบเพลงไหน ลองมาลิ้มรสกันดูว่าเมื่อเพลงเหล่านี้ถูกตีความออกมาเป็นเครื่องดื่มแล้ว รสชาติจะยังเข้าทางคุณไหม

หากคุณเป็นคอเพลงดนตรี ชอบฟังเพลงพลางจิบเครื่องดื่มดีๆ สักแก้ว ไม่แน่ว่าการมาเยือนที่นี่อาจทำให้คุณได้พบปะกับเพื่อนใหม่ที่เป็นคอเดียวกันก็ได้ พบกับ Lennon’s ได้ที่ชั้น 30 ของโรงแรม Rosewood Bangkok

ภาพ: Courtesy of Rosewood Bangkok

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

The post จิบ Fly Me to the Moon ชมคอลเล็กชันแผ่นเสียงกว่า 6,000 แผ่นที่ Lennon’s สปีกอีซี่บาร์ในกรุงเทพฯ appeared first on THE STANDARD.