แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยไปมากกว่า 30 ปีแล้ว แต่ Brian May ก็ยังคงจดจำชีวิตในช่วงท้ายของเพื่อนร่วมวง Queen อย่าง Freddie Mercury ผู้ล่วงลับได้ดี

Brian May เปิดใจถึง Freddie Mercury ฟรอนต์แมนแห่งวง Queen ที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1991 ในวัยเพียง 45 ปี ซึ่งการจากไปของเขาทำให้ทั้งวงตัดสินใจเลิกทำงานในฐานะวง Queen ในตอนแรก เขาเผยว่า “เราเคยคุยกันแบบนั้นอยู่เสมอ ถ้าหากมีคนใดคนหนึ่งจากไป เพราะฉะนั้นเมื่อมันเกิดขึ้นจริง Roger (มือกลอง) กับผมจึงได้แต่โศกเศร้าเสียใจถึงขั้นสุด และพูดคุยกันว่ามันจบลงแล้ว โดยเป็นเวลานานมากที่เราไม่อยากแม้แต่จะพูดถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ”

Brian May พูดถึงการใช้เวลากับเพื่อนรัก Freddie Mercury ในช่วงท้ายของชีวิตเขาด้วยว่า “เราทำอัลบั้มสุดท้ายชุด Made in Heaven กับเพลงต่างๆ ที่ Freddie ทิ้งเอาไว้ให้พวกเราเล่น และมันกลายเป็นงานที่เราทำด้วยใจรักจริงๆ เพราะเขาทิ้งส่วนนั้นส่วนนี้ที่น่ารักเอาไว้เต็มไปหมด

“ตอนนั้นเขาไม่ได้ฟูมฟายหรืออะไรเลย ผมไม่เคยเห็นเขาร้องไห้หรือมานั่งสงสารตัวเองเลยนึกออกไหม เขาไม่เคยทำแบบนั้น แต่เขาจะคอยชวนให้พวกเราทำเพลงหรือสิ่งต่างๆ อยู่ตลอด Freddie เป็นคนที่ให้แรงบันดาลใจเสมอมา ถ้าหากเขายังอยู่ตรงนี้ ผมมั่นใจว่าเราจะยังคงทำสิ่งที่เราทำมาตลอดต่อไป”

ภาพ: Dave Hogan / Hulton Archive / Getty Images

อ้างอิง: 

• https://www.nme.com/news/music/queens-brian-may-remembers-freddie-mercurys-final-days-i-never-ever-saw-him-cry-3775139

The post “ผมไม่เคยเห็นเขาร้องไห้เลย” Brian May วง Queen จดจำชีวิตในช่วงท้ายของ Freddie Mercury appeared first on THE STANDARD.

มีรายงานว่า Sony Music กำลังอยู่ในขั้นตอนการซื้อแคตตาล็อกเพลงของวง Queen ในราคาที่สูงถึง 1.27 พันล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 4.65 หมื่นล้านบาท

แหล่งข่าวคอนเฟิร์มกับสื่อ Variety ถึงการที่ Sony Music ซื้อแคตตาล็อกเพลงของวง Queen รวมไปถึงสิทธิในการขายของที่ระลึกต่างๆ และโอกาสทำธุรกิจในวันข้างหน้า โดยราคาการซื้อขายนี้ไม่ได้ครอบคลุมถึงรายได้จากการแสดงคอนเสิร์ตของวง Queen เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งขณะนี้สมาชิกจากวงออริจินัลอย่าง Brian May และ Roger Taylor ก็ยังคงเดินสายแสดงคอนเสิร์ตกับนักร้อง Adam Lambert อยู่เรื่อยมา

ราคาขายแคตตาล็อกเพลงวง Queen ที่สูงถึง 1.27 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นราคาที่สูงที่สุดในการซื้อขายคอลเล็กชันลิขสิทธิ์เพลงเท่าที่เคยมีมา โดยมีการรายงานว่ามีบริษัทอื่นที่ร่วมประมูลแคตตาล็อกเพลงของวง Queen ด้วย แต่พวกเขาก็ยอมแพ้ไปที่ราคา 900 ล้านดอลลาร์ในที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2021 ทาง Sony Music ก็ได้ซื้อแคตตาล็อกเพลงของ Bruce Springsteen ไปในราคา 500 ล้านดอลลาร์ ก่อนที่จะเข้าซื้อแคตตาล็อกเพลงของทั้งหมดของ Bob Dylan ในปีถัดมา และยังซื้อแคตตาล็อกเพลงของ Michael Jackson ทั้งหมด 50% ในราคากว่า 600 ล้านดอลลาร์อีกด้วย

สำหรับแคตตาล็อกเพลงวง Queen ที่ Sony Music กำลังซื้อไปนั้น เต็มไปด้วยเพลงฮิตมากมาย ทั้ง Bohemian Rhapsody, Another One Bites the Dust, Radio Ga Ga, 39, Somebody To Love และ You’re My Best Friend รวมไปถึงเพลงปลุกใจอย่าง We Will Rock You และ We Are the Champion ซึ่งเพลงเหล่านี้ได้กลับมาฮิตติดกระแสอีกครั้งตั้งแต่ที่ภาพยนตร์เกี่ยวกับวง Queen โดยเฉพาะ Freddie Mercury อย่าง Bohemian Rhapsody ออกฉายในปี 2018 และประสบความสำเร็จอย่างสูง 

ภาพ: David Tan/Shinko Music/Getty Images

อ้างอิง:

• https://variety.com/2024/music/news/queen-catalog-acquired-by-sony-music-1-billion-1236042619/ 

The post Queen อยู่ในขั้นตอนขายแคตตาล็อกเพลงให้ Sony Music ในราคากว่า 4.65 หมื่นล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

“ตอนเขียนเพลงนี้ผมนึกถึงการแข่งขันฟุตบอลอยู่ ผมนึกถึงเพลงเชียร์ที่แฟนฟุตบอลมักจะโห่ร้องร่วมกันในสนาม ผมต้องการให้มันเป็นเพลงที่แฟนๆ ของวงมีส่วนร่วมด้วย แน่นอนว่าผมได้ทำให้มันมีความละเอียดอ่อนและเหมาะสมกับการโชว์มากกว่าเพลงเชียร์ฟุตบอลทั่วไปที่บอกตรงๆ ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย” 

นี่คือประโยคที่ Freddy Mercury กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาแต่งเพลง We Are The Champions หนึ่งในบทเพลงฮิตอมตะนิรันดร์กาลของวง Queen ขึ้นมา

We Are The Champions เป็นซิงเกิลจาก News of the World (1977) สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 6 ของ Queen ถูกปล่อยออกมาให้ฟังครั้งแรกในวันที่ 7 ตุลาคม 1977 หรือวันนี้เมื่อ 44 ปีก่อน พร้อมกับเพลง B-Side อารมณ์ฮึกเหิม ซึ่งก็โด่งดังไม่แพ้กันอย่าง We Will Rock You

ภายหลังปล่อยออกมา We Are The Champions ก็กลายเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว สามารถไต่ขึ้นไปอยู่อันดับ 2 ของชาร์ต UK Singles, อันดับ 4 ชาร์ต Billboard Hot 100 และติด Top Ten อีกหลายประเทศ ก่อนที่อีก 3 ทศวรรษต่อมา จะถูกเสนอชื่อเข้าทำเนียบ Grammy Hall of Fame ในปี 2009

ด้านความยิ่งใหญ่และการมีอิทธิพลของตัวเพลงตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน นอกจากจะเป็นเพลงร็อกที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักแล้ว We Are The Champions ยังถูกผู้คนทั่วโลกจดจำในฐานะ ‘เพลงชาติ’ ที่มักถูกเปิดขึ้นในงานแข่งขันกีฬา (เคยถูกใช้เป็นเพลงธีมฟุตบอลโลกปี 1994 ด้วย) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาฉลองแชมป์ให้กับทีมหรือนักกีฬาผู้สามารถฝ่าฟันอุปสรรคพาตัวเองเข้าสู่เส้นชัยได้

ภาพ: Fin Costello/Redferns

The post 7 ตุลาคม 1977 – ครบรอบ 44 ปี เพลง We Are The Champions ของวง Queen appeared first on THE STANDARD.

ย้อนเวลากลับไปวันที่ 13 กรกฎาคม ปี 1985 หรือวันนี้เมื่อ 36 ปีก่อน คอนเสิร์ตการกุศลระดับตำนานอย่าง Live Aid ที่สร้างอิมแพ็กต่อสังคมหลายด้าน ซึ่งถือเป็นหนึ่งเหตุการณ์สำคัญแห่งยุค 80 ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อระดมทุนแก้ปัญหาภาวะอดอยากในประเทศเอธิโอเปียและประเทศอื่นๆ ในทวีปแอฟริกา

จุดเริ่มต้นของ Live Aid เกิดขึ้นช่วงปี 1984 ตอนสำนักข่าว BBC ฉายสารคดีที่เผยให้เห็นภาพความหิวโหยของคนในเอธิโอเปีย ซึ่งเมื่อ บ็อบ เกลดอฟ และ มิดจ์ ยัวร์ สองศิลปินนักเคลื่อนไหวชาวสหราชอาณาจักร ได้ชม ทั้งคู่ก็จับมือกันแต่งเพลง Do They Know It’s Christmas? ขึ้นเพื่อช่วยระดมทุน พร้อมกระตุ้นให้คนตระหนักถึงปัญหา

และเวลาต่อมาก็เป็นตัวตั้งตัวตีจัดคอนเสิร์ต โดยรวบรวมศิลปินดังๆ ทั่วโลกกว่า 100 ชีวิต เช่น U2, The Beach Boys, Queen, Madonna, David Bowie, Eric Clapton, The Who, Led Zeppelin, Elton John, Duran Duran, Paul McCartney ฯลฯ มาขึ้นโชว์บนเวทีพร้อมกัน 2 ประเทศ ณ สนามกีฬาเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และสนามจอห์น เอฟ. เคเนดี เมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา

Live Aid ได้รับการสนับสนุนล้นหลาม มีคนเดินทางเข้าร่วมคอนเสิร์ตทั้งสองแห่งรวมกันกว่า 1.6 แสนคน มีผู้ชมถ่ายทอดสดอีกกว่า 1.9 พันล้านคน หรือคิดเป็น 40% ของประชากรโลก และท้ายที่สุดก็สามารถระดมทุนได้ถึง 127 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4 พันล้านบาท) ทำให้พระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 มอบยศชั้นอัศวินให้หนึ่งในผู้จัดอย่างเกลดอฟ จากผลงานอันยิ่งใหญ่ที่สร้างประโยชน์มากมายครั้งนี้

ภาพ: Pete Still / Redferns

The post 13 กรกฎาคม 1985 – ครบรอบ 36 ปี คอนเสิร์ต Live Aid appeared first on THE STANDARD.

ไบรอัน เมย์ มือกีตาร์อัจฉริยะแห่ง Queen วงร็อกระดับตำนานได้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงอดีตเพื่อนร่วมวงและฟรอนต์แมนผู้ยิ่งใหญ่อย่าง เฟรดดี เมอร์คิวรี ผ่านรายการวิทยุ Greatest Hits Radio โดยเมย์เชื่อว่าหากวันนี้เฟรดดียังมีชีวิตอยู่ เขาจะยังคงเล่นดนตรีร่วมกับวง Queen แน่นอน

“ผมชอบคิดอยู่บ่อยๆ และมั่นใจมากว่าหากเฟรดดียังมีชีวิตอยู่เราจะยังได้เล่นดนตรีด้วยกัน เขาจะพูดว่า ‘โอ้ ฉันต้องจัดการเรื่องของตัวเองให้เสร็จ’ จากนั้นก็กลับมาแล้วทำในสิ่งที่เราทำกัน

“เรื่องตลกคือทุกวันนี้ผมรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเขายังคงอยู่กับเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บางทีผมอาจกำลังกลายเป็นคนโรแมนติกหัวโบราณ เฟรดดีน่ะเป็นส่วนหนึ่งในทุกๆ วันของผม เขาอยู่ในความคิดผมตลอดเวลาและผมรู้สึกได้เสมอว่าเขาจะพูดอะไรในสถานการณ์ไหน เขาคือส่วนสำคัญอันยิ่งใหญ่ของตำนานที่เราสร้างขึ้นมาซึ่งจะคงอยู่ตลอดไป

“คุณไม่สามารถหยุดเสียใจได้หรอกหากต้องสูญเสียคนในครอบครัวไปและแน่นอนว่าเฟรดดีก็เป็นคนในครอบครัวเรา แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งมันก็นึกขึ้นมาได้ว่า พระเจ้า เขาช่างมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน ซึ่งความคิดตรงนี้แหละที่ทำให้เรารู้สึกสงบสุข เราสร้างสิ่งวิเศษหลายอย่างขึ้นมาด้วยกันและสิ่งเหล่านั้นได้สร้างความสุขมากมายแก่ผู้คน พวกมันถูกยอมรับ นี่แหละคือความสนุกทั้งหมดที่เกิดขึ้น”

สำหรับ เฟรดดี เมอร์คิวรี ถือเป็นฟรอนต์แมนระดับไอคอน ผู้ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักร้องเพลงร็อกที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาคือเจ้าของเสียงร้องทรงพลังและลีลาการแสดงบนเวทีอันฉูดฉาดเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์ เฟรดดีเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 1991 ในวัย 45 ปี ด้วยอาการปอดบวมจากโรคเอดส์

ภาพ:  Phil Dent/Redferns 

อ้างอิง:

• https://www.nme.com/news/music/brian-may-says-freddie-mercury-would-still-be-playing-with-queen-if-he-was-still-alive-2989067 

The post Brian May เชื่อว่าหาก Freddy Mercury ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะยังคงเล่นดนตรีร่วมกับวง Queen appeared first on THE STANDARD.

เป็นที่รู้กันดีว่าภาพยนตร์ชีวประวัติของ เฟรดดี เมอร์คิวรี ฟรอนต์แมนมหัศจรรย์แห่งวง Queen อย่าง Bohemian Rhapsody (2018) ประสบความสำเร็จมากขนาดไหน เพราะนอกจากตัวหนังจะทำได้รายได้สูงเสียดฟ้ากว่า 900 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก และกวาดรางวัลไปมากมายแล้ว หนังเรื่องนี้ยังสร้างรายได้มหาศาลให้แก่เหล่าสมาชิกวง Queen อย่าง ไบรอัน เมย์, โรเจอร์ เทย์เลอร์, จอห์น เดคอน และผู้จัดการทรัพสินย์ของเมอร์คิวรีอีกด้วย

Music News รายงานว่า ก่อนภาพยนตร์เรื่องนี้จะปล่อยออกมา วง Queen มีกำไรก่อนหักภาษี 11.8 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 524 ล้านบาท จากรายรับที่ยังไม่หักต้นทุน 21.9 ล้านปอนด์ หรือราว 974 ล้านบาท แต่หลังจากที่ Bohemian Rhapsody ปล่อยออกมาแล้ว ทางวงมีรายรับที่ยังไม่หักต้นทุนทั้งหมดอยู่ที่ 42 ล้านปอนด์ หรือ 1.8 พันล้านบาท 

เมื่อปีก่อน ไบรอัน เมย์ มือกีตาร์รุ่นเก๋าคนเก่งได้เผยว่า คงจะไม่มีภาคต่อของภาพยนตร์ Bohemian Rhapsody อีกแล้ว ถึงแม้ว่าทั้งภาพยนตร์เรื่องนี้จะสร้างปรากฏการณ์เป็นหนังที่ขายดีอันดับ 1 ในอังกฤษเมื่อปี 2019 และตัวเพลง Bohemian Rhapsody ก็เป็นเพลงจากวงในฝั่งอังกฤษเพลงแรกที่ได้รับการการันตีระดับ Diamond ในสหรัฐอเมริกาก็ตาม

ภาพ: Wiktor Szymanowicz / Barcroft Media via Getty Images 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

• https://www.nme.com/news/music/queen-are-making-100000-a-day-from-bohemian-rhapsody-biopic-2983964

The post วง Queen ทำรายได้ 4.4 ล้านบาทต่อวัน ตั้งแต่ภาพยนตร์ Bohemian Rhapsody ปล่อยออกมา appeared first on THE STANDARD.

เฟรดดี เมอร์คิวรี นักร้องนำวง Queen เกิดในวันที่ 5 กันยายน 1946 และจากโลกนี้ไปด้วยวัย 45 ปี ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 1991 ด้วยโรคปอดบวม ซึ่งเป็นอาการจากโรคเอดส์ที่เขาออกมายอมรับด้วยตัวเอง

ในปี 1992 ภายหลังการเสียชีวิตของเขา คณะกรรมการ Brit Awards ได้ตัดสินใจมอบรางวัลผู้มีส่วนช่วยให้เพลงอังกฤษมีความโดดเด่น 

และในปี 2005 เฟรดดีได้รับการประกาศให้เป็นนักร้องยอดเยี่ยมตลอดกาลจากนิตยสาร Rolling Stone และ MTV

The post 24 พฤศจิกายน 1991 – เฟรดดี เมอร์คิวรี นักร้องนำวง Queen เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ appeared first on THE STANDARD.

นับเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จและยิ่งใหญ่ตลอดกาลจริงๆ สำหรับ Queen สุดยอดวงร็อกเจ้าของสมญานามราชาในคราบราชินีแห่งเกาะอังกฤษ ที่ล่าสุดอัลบั้ม Greatest Hits ของพวกเขาได้สร้างสถิติอันน่าประทับใจ กลายเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ติดชาร์ต Top 100 ของสหราชอาณาจักร หรืออังกฤษ ได้นานที่สุดด้วยระยะเวลา 901 สัปดาห์ เป็นรองเพียงอัลบั้ม Legend (1984) ของ Bob Marley & The Wailers ที่อยู่บนชาร์ตได้ 933 สัปดาห์ และอัลบั้ม Gold: Greatest Hits (1992) ของ ABBA เจ้าของอันดับ 1 ที่ยืนหยัดอยู่บนชาร์ตยาวนานถึง 949 สัปดาห์

อัลบั้ม Greatest Hits ของ Queen ถูกปล่อยออกมาครั้งแรกในวันที่ 26 ตุลาคม 1984 และถือเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยติดอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงหลายประเทศ เป็นอัลบั้มที่ขายดีมากสุดตลอดกาลของอังกฤษ ด้วยยอดขายกว่า 6.1 ล้านก๊อบปี้ มากกว่านั้นยังได้รับการการันตีด้านยอดขายในระดับแพลทินัมหลายครั้งด้วยตัวเลข 25 ล้านก๊อบปี้ทั่วโลก 

ส่วนภายในก็อัดแน่นไปด้วยบทเพลงฮิตระดับตำนาน อาทิ Bohemian Rhapsody, Another One Bite the Dust, Killer Queen, You’re My Best Friend, Don’t Stop Me Now, Somebody to Love, We Will Rock You, We Are The Champions และอีกมากมาย

นอกจากเรื่องความสำเร็จบทชาร์ตของอัลบั้ม Greatest Hits แล้ว วง Queen ยังเตรียมเฉลิมฉลองวันครบรอบ 50 ปีที่วงได้ทำการแสดงครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 1970 ณ มหาวิทยาลัยอิมพีเรียล อีกทั้งพวกเขายังได้รับเกียรติจากทาง Royal Mail หรือบริษัทไปรษณีย์ประเทศอังกฤษ ในการจัดทำและจำหน่ายแสตมป์ชุดพิเศษ ที่จะประกอบไปด้วยรูปภาพของสมาชิกวง, ปกอัลบั้ม, รูปจากโชว์ต่างๆ เพื่อระลึกถึงตำนานความยิ่งใหญ่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาถือเป็นวงดนตรีลำดับที่ 3 ต่อจาก The Beatles และ Pink Floyd ที่ได้รับเกียรตินี้

ภาพ: Steve Jennings / WireImage

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

• https://www.officialcharts.com/chart-news/queens-greatest-hits-becomes-one-of-the-longest-running-albums-in-the-uk-top-100-ever__30221/?fbclid=IwAR2wkRktAeIbMXio3MzXXPRnaG-9LiqgY7rj03DnIuJ_7ld9uymGGxUuT54

The post Greatest Hits ของ Queen กลายเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ติดชาร์ต UK Top 100 นานสุดตลอดกาล appeared first on THE STANDARD.

แม้ปัญหาเหตุการณ์ไฟป่าในประเทศออสเตรเลียจะสามารถควบคุมได้แล้ว แต่ก็มีคนนับล้านที่ยังคงโดนผลกระทบอยู่ ซึ่งล่าสุดก็มีการจัดคอนเสิร์ตการกุศลครั้งใหญ่ Fire Fight Australia ที่สนามกีฬา ANZ Stadium พร้อมมีศิลปินนับร้อยชีวิตมาร่วมอย่าง 5 Seconds of Summer, Alice Cooper, Ronan Keating และ Olivia Newton-John เป็นต้น ส่วนวงใหญ่สุดของงานก็คือ Queen คู่กับนักร้อง Adam Lambert 

สำหรับคอนเสิร์ต Fire Fight Australia ที่ยาว 10 ชั่วโมง และมีคนมาร่วมดูกว่า 70,000 คน ทางวง Queen ก็ได้นำเซตลิสต์ยาว 22 นาทีครั้งประวัติศาสตร์ 6 เพลงที่เคยเล่นที่งาน Live Aid ณ Wembley Stadium ที่ลอนดอนในปี 1985 กลับมาเล่นครั้งแรกในรอบเกือบ 35 ปี โดยประกอบไปด้วยเพลง Bohemian Rhapsody, Radio Ga Ga, Hammer to Fall, Crazy Little Thing Called Love, We Will Rock You และ We Are the Champions 

นอกเหนือจากนั้น ในการแสดงครั้งนี้ที่ทำรายได้สมทบทุนไป 9.5 ล้าน หรือราวเกือบ 300 ล้าน ก็มีการนำฟุตเทจจากโชว์ Live Aid ของ เฟรดดี เมอร์คิวรี มาร่วมด้วยตอนที่เฟรดดีร้องถามตอบ (Call and Response) กับผู้ชมว่า “A-Yo” ซึ่งหลายคนอาจจะร้องอ๋อ และจำได้จากภาพยนตร์เรื่อง Bohemian Rhapsody (2018) ที่จำลองโชว์ Live Aid ในตอนท้ายเรื่อง ส่วนอีกหนึ่งความพิเศษของคอนเสิร์ตในครั้งนี้ก็คือทาง Queen ได้ยอมให้ใช้เวทีของพวกเขา เพราะคืนก่อนทางวงก็ได้จัดคอนเสิร์ตของตัวเอง

https://www.youtube.com/watch?v=BWZ98VI9jYE

https://www.youtube.com/watch?v=ORrlS0GcDNA

ภาพ: Angela Weiss / AFP

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

• https://variety.com/2020/music/news/queen-adam-lambert-live-aid-australia-wildfire-1203505540/ 

The post Queen + Adam Lambert เอาเซตลิสต์โชว์ Live Aid ปี 1985 มาเล่นอีกรอบสำหรับคอนเสิร์ตการกุศลไฟป่าออสเตรเลีย appeared first on THE STANDARD.

หลังจากที่ขึ้นโชว์สุดอลังการเปิดงานออสการ์ ครั้งที่ 91 ณ โรงละครดอลบี้ เธียเตอร์ ไปเมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามเวลาสหรัฐอเมริกา ล่าสุดวงร็อกระดับตำนานอย่าง Queen ที่นำโดย ไบรอัน เมย์, โรเจอร์ เทย์เลอร์ และนักร้องนำคนปัจจุบันอย่าง อดัม แลมเบิร์ต ก็ได้ออกมาประกาศรายละเอียดภาพยนตร์สารคดีเรื่องใหม่ของวงที่ชื่อ The Show Must Go On: The Queen + Adam Lambert Story ซึ่งจะเปิดตัวและถ่ายทอดสดเป็นครั้งแรกผ่านทางสถานีโทรทัศน์ชื่อดัง ABC ในวันจันทร์ที่ 29 เมษายน ซึ่งชื่อเรื่องได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลง The Show Must Go On แทร็กสุดท้ายของ Innuendo (1991) สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 14 ของ Queen  

https://www.youtube.com/watch?v=XwbCfVEB5EM&feature=youtu.be

The Show Must Go On: The Queen + Adam Lambert Story เป็นภาพยนตร์สารคดีความยาว 2 ชั่วโมง ว่าด้วยเรื่องราวการทำงานของ Queen และอดัม แลมเบิร์ต ตลอดช่วงเวลาเกือบสิบปี ผ่านฟุตเทจการแสดงคอนเสิร์ตที่หายาก เบื้องหลังการทำงานต่างๆ ของวง และบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจากสมาชิกวง รวมไปถึงนักแสดงที่เพิ่งคว้ารางวัลออสการ์มาสดๆ ร้อนๆ อย่าง รามี มาเลก โดยภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้จะได้ จิม บีช ผู้จัดการวง และไซมอน ลัปตัน มาเป็นผู้ควบคุมการผลิต

สำหรับไซมอน ก่อนหน้านี้เขาเคยทำภาพยนตร์สารคดีของวง Queen มาแล้วถึง 4 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ Queen At Wembley (1986), Super Live in Japan (2006), Queen: Days of Our Lives (2011) และ A Night in Bohemia (2016)

โดยนี่ก็ถือเป็นอีกครั้งที่เรื่องราวของ Queen จะถูกนำมาเล่าผ่านภาพยนตร์ แต่ถ้าจะให้พูดถึงภาพยนตร์ของ Queen ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตั้งแต่มีการสร้างมาก็คงต้องยกให้ Bohemian Rhapsody ที่เพิ่งคว้า 4 รางวัลออสการ์จากการเข้าชิงทั้งหมด 5 สาขา ได้แก่ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (รามี มาเลก), ลำดับเสียงยอดเยี่ยม, บันทึกเสียงยอดเยี่ยม และตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ทั้งยังขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ชีวประวัติทางดนตรีที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาลด้วยการกวาดรายได้ทั่วโลกไปได้มากกว่า 860 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ภาพยนตร์สารคดีเรื่องใหม่กำลังจะปล่อยออกมาในช่วงหน้าร้อนนี้ ไล่ๆ กับที่วง Queen และอดัม แลมเบิร์ต จะออกทัวร์คอนเสิร์ตโซนอเมริกาเหนือในชื่อ The Rhapsody Tour โดยจะเริ่มจากโรเจอร์ อารีนา เมืองแวนคูเวอร์ ในวันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคมนี้เป็นที่แรก

ภาพ: Aaron Poole / ©A.M.P.A.S.

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

• hypebeast.com/2019/2/queen-adam-lambert-bbc-documentary
• www.rollingstone.com/music/music-news/queen-adam-lambert-the-show-must-go-on-documentary-800193
• www.queenonline.com/upcoming_shows

The post ห้ามพลาด! ‘The Show Must Go On’ ภาพยนตร์สารคดีเรื่องใหม่ของวง Queen และ Adam Lambert appeared first on THE STANDARD.