Phil Jones – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sun, 18 Aug 2024 07:16:09 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ฟิล โจนส์ แนวรับแมนฯ ยูไนเต็ด แขวนสตั๊ดพร้อมตั้งเป้าเป็นโค้ช https://thestandard.co/phil-jones-retires-man-united/ Sun, 18 Aug 2024 07:16:09 +0000 https://thestandard.co/?p=972436 Phil Jones

ฟิล โจนส์ อดีตกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันอำลาการ […]

The post ฟิล โจนส์ แนวรับแมนฯ ยูไนเต็ด แขวนสตั๊ดพร้อมตั้งเป้าเป็นโค้ช appeared first on THE STANDARD.

]]>
Phil Jones

ฟิล โจนส์ อดีตกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันอำลาการเป็นนักเตะอาชีพแล้ว และหวังที่จะเริ่มต้นอาชีพการเป็นโค้ชต่อไป

 

นักเตะวัย 32 ปีรายนี้ลงเล่นให้ทีมแมนฯ ยูไนเต็ดชุดใหญ่ไปทั้งสิ้น 229 นัด นับตั้งแต่ย้ายจากแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ในปี 2011 และสัญญาของเขากับทีมปีศาจแดงหมดลงไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2023 ที่ผ่านมา โดยไม่มีการเซ็นสัญญาใหม่กับสโมสรใด

 

อาการบาดเจ็บทำให้อาชีพของอดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้สั้นลง เขาลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ได้เพียง 13 นัด ตลอด 4 ฤดูกาลหลังสุดที่โอลด์แทรฟฟอร์ด และไม่ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่เลยถึง 2 ฤดูกาลเต็ม

 

โจนส์ซึ่งทำหน้าที่โค้ชให้กับทีมชุดอายุต่ำกว่า 18 ปีของแมนฯ ยูไนเต็ดในฤดูกาล 2023/24 กล่าวว่า “การเป็นนักเตะของผมจบลงเร็วกว่าที่คาดไว้

 

“ผมมองโลกในแง่ดี ผมผ่านการอบรมใบอนุญาตระดับ A-License แล้ว และผมต้องการออกไปท้าทายตัวเองในการเป็นโค้ช ผมต้องการคุมทีม ผมมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงเป้าหมายนั้นของผม”

 

อดีตกองหลังรายนี้เป็นหนึ่งในนักเตะที่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2013 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในฐานะผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด นอกจากนั้นเขายังเคยคว้าแชมป์ร่วมกับปีศาจแดงอีก 6 รายการ และติดทีมชาติอังกฤษไป 27 นัดด้วย

 

ภาพ: Phil Noble / Reuters

อ้างอิง:

 

The post ฟิล โจนส์ แนวรับแมนฯ ยูไนเต็ด แขวนสตั๊ดพร้อมตั้งเป้าเป็นโค้ช appeared first on THE STANDARD.

]]>
ฟิล โจนส์ เตรียมหวนคืนลงสนามให้แมนฯ ยูไนเต็ดครั้งแรก หลังหายหน้าไปเกือบ 2 ปี https://thestandard.co/phil-jones-return-manchester-united/ Wed, 22 Sep 2021 07:07:44 +0000 https://thestandard.co/?p=539361 Phil Jones

ฟิล โจนส์ เตรียมกลับมาประจำการในแนวรับให้กับทีมแมนเชสเต […]

The post ฟิล โจนส์ เตรียมหวนคืนลงสนามให้แมนฯ ยูไนเต็ดครั้งแรก หลังหายหน้าไปเกือบ 2 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
Phil Jones

ฟิล โจนส์ เตรียมกลับมาประจำการในแนวรับให้กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปีในเกมถ้วยลีกคัพ นัดที่จะพบกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ดในคืนนี้

 

โจนส์ในวัย 29 ปี ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรง และไม่ได้ลงสนามให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกเลย นับตั้งแต่ลงเล่นครั้งสุดท้ายในเกมเอฟเอคัพ รอบที่ 4 ที่พบกับทรานเมียร์ โรเวอร์ส เมื่อเดือนมกราคม 2020 

 

อดีตกองหลังแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดเมื่อ 13 เดือนที่แล้ว แต่กระบวนการฟื้นฟูสภาพร่างกายมีความซับซ้อนจากข้อจำกัดทางการเดินทางในระหว่างการล็อกดาวน์ แต่แม้จะใช้เวลานานมาก โจนส์ก็พร้อมจะกลับมาลงสนามอีกครั้ง หลังจากที่ได้ลงเล่นในเกมระดับทีมเยาวชน 2 นัด และเกมอุ่นเครื่องภายในของสโมสร

 

“ผมดีใจแทนฟิล” โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมกล่าว “เขาลงเล่นเต็มเกมมา 2 นัดในระดับยู 23 และลงเล่นอุ่นเครื่องภายในอีก 1 นัดโดยไม่มีอาการอะไรที่เข่าอีก ที่ผ่านมาเขาพยายามหนักมาก”

 

ในเกมนี้โซลชาร์ยืนยันว่าจะส่ง เจสซี ลินการ์ด กองกลางที่เพิ่งทำประตูใส่เวสต์แฮม ทีมที่ให้โอกาสในการเรียกความมั่นใจช่วงฤดูกาลที่แล้วในช่วงสุดสัปดาห์ ลงสนามเป็นตัวจริงด้วย

 

อ้างอิง:

The post ฟิล โจนส์ เตรียมหวนคืนลงสนามให้แมนฯ ยูไนเต็ดครั้งแรก หลังหายหน้าไปเกือบ 2 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘แมนฯ ยู’ จะทวงแชมป์ได้หรือไม่? มูรินโญ กุนซือที่มักจะสร้างความสำเร็จในฤดูกาลที่ 2 https://thestandard.co/manchester-united-jose-mourinho/ https://thestandard.co/manchester-united-jose-mourinho/#respond Fri, 11 Aug 2017 11:22:10 +0000 https://thestandard.co/?p=19919

     เข้ามาถึงสโมสรที่ 5 ในซีรีส์การพรีว […]

The post ‘แมนฯ ยู’ จะทวงแชมป์ได้หรือไม่? มูรินโญ กุนซือที่มักจะสร้างความสำเร็จในฤดูกาลที่ 2 appeared first on THE STANDARD.

]]>

     เข้ามาถึงสโมสรที่ 5 ในซีรีส์การพรีวิวทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก มาวันนี้เราก้าวมาถึงทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ ปีศาจแดง ของโชเซ มูรินโญ กุนซือมากประสบการณ์ชาวโปรตุเกส ซึ่งพาทีมคว้าแชมป์ 3 รายการเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกครั้ง

‘Position, Stability, Control’ หรือ การรักษาตำแหน่ง ความมั่นคง และการควบคุมเกม เป็นสิ่งที่มูรินโญมองหาในตัวของนักเตะในแดนกลางของเขา

 

     โดยฤดูกาลแรกของมูรินโญกับปีศาจแดง ออกสตาร์ทด้วยการคว้าแชมป์ Community Shield แต่ผลงานในลีก มูรินโญทำได้ไม่ดีนัก เนื่องจากไม่สามารถเอาชนะทีมเล็กได้ จนสุดท้ายจบฤดูกาลด้วยอันดับ 6 โดยเก็บชัยชนะได้ไม่ถึงครึ่งของการแข่งขัน 38 นัดในลีก โดยแบ่งเป็นชนะ 18 นัด เสมอ 15 นัด และแพ้ 5 นัด

     แต่ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลถ้วยรายการต่างๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็สามารถคว้าแชมป์ยูโรปา ลีก ด้วยการเอาชนะอาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ไป 2-0 คว้าแชมป์ยูโรปาสมัยแรกให้กับทีม ซึ่งเป็นการคว้าสิทธิเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลนี้ รวมถึงยังมูรินโญยังพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพ หรือ EFL Cup ได้สำเร็จอีกด้วย

 

Photo: AARON M. SPRECHER/AFP

 

3 นักเตะใน 3 ตำแหน่ง การเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายในทีม

     แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เมื่อฤดูกาล 2012-2013 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ สโมสรก็ยังไม่สามารถหาแผนการเล่นที่ลงตัว หรือหาผู้จัดการทีมที่สามารถทวงคืนความยิ่งใหญ่ที่เซอร์อเล็กซ์ ได้มอบไว้ให้กับสโมสรได้อีกเลย

 

 

     แต่หากถึงเวลาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะกลับมาได้ นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า ฤดูกาลนี้จะเป็นเวลาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เนื่องจากมูรินโญมีโอกาสได้แต่งทัพใหม่ให้เข้ากับสไตล์การเล่นของเขามากขึ้นในฤดูกาลที่ 2

     ซึ่งมูรินโญก็ไม่รอช้าที่จะดึงนักเตะเข้ามาเพิ่มทั้ง 3 ตำแหน่ง ตั้งแต่ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์อย่าง โรเมลู ลูกากู จากเอฟเวอร์ตัน ที่ยิงไป 25 ประตูจากการลงเล่น 36 นัดในฤดูกาลที่ผ่านมา

     ซึ่ง บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร (บอ.บู๋) คอลัมนิสต์ชื่อดังเชื่อว่า การดึงตัวลูกากูเป็นกองหน้าดาวยิงที่ซื้อมาถูกจุด เพราะทีมที่มีประสิทธิภาพในการลงแข่งขันต้องมีกองหน้าที่ยิงได้อย่างน้อย 20 ประตู ซึ่งลูกากูเป็นจอมยิงประตูอยู่แล้ว แต่กลับกัน สิ่งที่ต้องไม่ลืมคือ แมนฯ ยูเสียกองหน้าไป 2 คนคือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงสูงสุดของทีมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และเวย์น รูนีย์ ทำให้น่ากังวลว่า ลูกากูจะสามารถทดแทนทั้ง 2 คนได้ดีขนาดไหน

     “ลูกากูเป็นศูนย์หน้าดาวยิงคนหนึ่ง ซึ่งการซื้อเขามาเป็นอะไรที่ถูกจุดมาก เพราะทีมที่จะประสบความสำเร็จต้องมีกองหน้าที่ยิงได้โดยเฉลี่ยฤดูกาลละ 20 ประตู จุดนี้มองว่าซื้อมาถูก เพราะหาผู้เล่นที่สามารถช่วยทีมยิงประตูได้ แต่กลับกันสิ่งที่ต้องไม่ลืมคือ แมนฯ ยู เสียอิบราฮิโมวิชและรูนีย์ไป โดยลูกากูอาจจะมาทดแทนอิบราฮิโมวิชได้”

     ต่อด้วยการคว้าตัว วิกเตอร์ ลินเดลอฟ อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟของเบนฟิกา ซึ่งกองหลังวัย 23 ปีคนนี้ เคยเป็นกำลังสำคัญในการช่วยให้ทีมชาติสวีเดนชุดยู-20 คว้าแชมป์ ยูโร ยู-21 2015 ไปครองได้สำเร็จ ซึ่งการเข้ามาเล่นพรีเมียร์ลีกอาจต้องใช้เวลาปรับตัว แต่การมีกองหลังถึง 5 ตัวในฤดูกาลนี้ สื่อต่างประเทศมองว่าจะสร้างความได้เปรียบในสถานการณ์ที่ทีมมีโปรแกรมลงแข่งขันที่ถี่กว่าเดิม จากการหวังผลงานที่ดีในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

     ในส่วนของเกมรับ บูรณิจฉ์มองว่า มูรินโญเป็นเจ้าพ่อเกมรับอยู่แล้ว จากสถิติเสียประตูแค่ 29 ประตู เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเกมรับที่รัดกุมและเสียประตูน้อยอยู่แล้ว โดยเชื่อว่าเหตุผลที่ซื้อลินเดลอฟมา น่าจะเป็นอะไหล่สำรองสำหรับนักเตะที่มีอยู่

     “กองหลังที่มีอยู่อย่างฟิล โจนส์, คริส สมอลลิง และมาร์กอส โรโฮ มีอาการบาดเจ็บบ่อย เลยซื้อลินเดลอฟมาเป็นอะไหล่ไว้ก่อน จริงๆ แล้วไม่ได้ซื้อมาเพื่อแก้ปัญหาเกมรับ”

แฟนแมนฯ ยูหลายคนมั่นใจว่าปีนี้ทีมจะเป็นแชมป์ แต่ผมมองว่ายังไม่ถึงแชมป์ แต่อันดับจะดีขึ้นกว่าเดิม

Photo: Nikolay DOYCHINOV/AFP

 

เนมันยา มาติช จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

     ตลอดประวัติการคุมทีมของมูรินโญที่ผ่านมา เขามักจะวางแท็กติกที่เน้นความแข็งแกร่งในแดนกลาง ตั้งแต่การคุมปอร์โตที่มีคอสตินญาเป็นหัวใจในแดนกลาง เชลซีครั้งแรกมีโคลด มาเกเลเล่ มิดฟิลด์ตัวรับชาวฝรั่งเศส และจอห์น โอบี มิเกล ในยุคที่อินเตอร์ มิลานมี เอสเตบัน กัมบิอัสโช ในช่วงเวลาของเรอัล มาดริด เขามีลาสซานา ดิยาร์รา และชาบี อลอนโซ จนมาถึงเชลซี เขาคว้าตัวมาติชมาจากเบนฟิกา

     ‘Position, Stability, Control’ หรือ การรักษาตำแหน่ง ความมั่นคง และการควบคุมเกม เป็นสิ่งที่มูรินโญมองหาในตัวของนักเตะในแดนกลางของเขา เนติชถือเป็นกำลังสำคัญในการพาเชลซีของมูรินโญคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2014-2015 ซึ่งวันนี้เขาก็มีโอกาสได้กลับมาร่วมงานกับผู้จัดการทีมที่พาเขาเข้าสู่พรีเมียร์ลีกอังกฤษอีกครั้ง

 

 

     โดยฤดูกาลที่ผ่านมา ไมเคิล คาร์ริก ไม่สามารถลงสนามได้อย่างต่อเนื่อง จากการที่อายุมากขึ้นทุกวัน ขณะที่อันเดร์ เอร์เรรา ก็ก้าวขึ้นมารับหน้าที่กองกลางตัดเกม และตัวเชื่อมเกมได้อย่างดีเยี่ยมเปิดโอกาสให้ พอล ป็อกบา ได้มีพื้นที่เล่นและแสดงความสามารถ แต่การนำมาติช ซึ่งสามารถทำหน้าที่เหมือนเมืองหน้าด่านในตำแหน่งกองกลางที่คอยยืนสกัดเกมรุกของคู่ต่อสู้ รวมถึงมีอัตราการจ่ายบอลที่แม่นยำถึง 87.7% ในฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้เขาถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่มาเติมเต็มแท็กติกของมูรินโญในฤดูกาลนี้

     โดยมองว่าการได้มาติชมาเสริมทัพ จะเป็นการปลดปล่อยศักยภาพของป็อกบาให้เหมือนกับตอนที่เขาเคยลงเล่นให้กับยูเวนตุสและทีมชาติฝรั่งเศสได้

     “การได้มาติชมาในตำแหน่งกองกลางตัวรับ อาจจะช่วยให้ป็อกบา เล่นได้อิสระขึ้น ขับเคลื่อนเกมขณะที่เกมรับเป็นมาติชคู่กับเอร์เรรามาคอยตัดเกม จะทำให้ป็อกบาเล่นง่ายขึ้นในระบบ 4-3-3 เหมือนตอนที่เล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศส หรือแผนการเล่นแบบกองกลางสามตัวที่ยูเวนตุส ซึ่งช่วยให้ให้ป็อกบาแสดงศักยภาพที่สูงขึ้นออกมาได้

 

Photo: Nikolay DOYCHINOV/AFP

 

4-2-3-1 หรือ 4-3-3 แผนที่ยังไม่ลงตัว

     ถึงแม้ว่าการเสริมตัวดูจะนำพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปสู่ฤดูกาลแห่งความสำเร็จ แต่สิ่งที่หลายคนยังสงสัยคือแผนการเล่นของทีม ซึ่งดูแล้วยังไม่ลงตัวหากต้องการผู้เล่นลงตามตำแหน่งที่ตัวเองถนัดทุกคน

     โดยแผน 4-2-3-1 อาจทำให้เอร์เรราต้องหลุดไปอยู่ม้านั่งสำรอง หรือหากเลือกใช้ 4-3-3 อาจทำให้ เฮนริก มคิตาร์ยาน ซึ่งถนัดเล่นหน้าต่ำ หลุดจากตำแหน่งตัวจริง โดยมูรินโญอาจเลือกใช้อิวาน เปริซิช ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกำลังต้องการตัวอยู่ในขณะนี้มาลงเล่นในปีกซ้าย หน้าเป้าเป็นลูกากู และปีกขวาเป็นมาร์คัส แรชฟอร์ด

     โดยช่วงพรีซีซันที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขาดผู้เล่นในตำแหน่งปีกอย่างชัดเจน โดยนักเตะที่มีส่วนใหญ่มักจะเป็นศูนย์หน้าที่สามารถออกมาเล่นด้านข้างได้อย่างแรชฟอร์ดหรืออองโตนี มาร์เชียล และหน้าต่ำหรือกลางรุกที่อาจต้องออกมาเล่นในตำแหน่งปีกอย่าง ฆวน มาตา และมคิตาร์ยาน และเหลือนักเตะปีกธรรมชาติเพียงแค่เจสซี ลินการ์ด, แอชลีย์ ยัง และอันโตนิโอ วาเลนเซีย ซึ่งได้กลายร่างเป็นแบ็กขวาเต็มตัวไปแล้ว

     บูรณิจฉ์มองว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังขาดผู้เล่นในเกมรุก ตัวทะลุทะลวง โดยเฉพาะในเกมริมเส้น ซึ่งแมนยูยังไม่มีผู้เล่นแบบปีกธรรมชาติที่ไว้ใจได้

     “แมนยูจริงๆ ไม่มีนักเตะในตำแหน่งปีกธรรมชาติมากนัก ผมยกตัวอย่าง เชลซี มี เอเดน อาซาร์ อาร์เซนอล มี อเล็กซิส ซานเชซ และลิเวอร์พูล มี ฟิลิปเป คูตินโญ และซาดิโอ มาเน แต่แมนฯ ยู ยังไม่มีนักเตะแบบนี้ ส่วนใหญ่ที่มีจะเป็นกองหน้าอย่างแรชฟอร์ดและมาร์กซิยาล ที่โยกไปเล่นปีกและมักจะเลือกหักบอลเข้าในมากกว่าการเปิดบอล ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นคือไม่มีตัวเปิดบอลให้กับกองหน้า ซึ่งถึงแม้ว่าจะได้ลูกากูมา แต่ไม่มีคนเปิดบอลให้ก็ไม่มีประโยชน์ คุณมีกระสุน ก็ต้องหาคนเหนี่ยวไกให้เขา หาคนป้อนให้เขา

     “เพราะฉะนั้น ถ้าจะให้ทีมประสบความสำเร็จที่สุด ผมมองว่าแมนฯ ยูต้องการผู้เล่นแบบนี้อีกหนึ่งคน แบบอองตวน กรีซมันน์, อเล็กซิส ซานเชซ หรือแกเร็ธ เบล มาอีกหนึ่งคน จะทำให้เขามีทีมที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น”

แมนฯ ยูอาจจะไปได้ไกลด้วยแท็กติกของมูรินโญ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา

Photo: Paul ELLIS/AFP

 

มูรินโญกับการเรียกศรัทธาในฤดูกาลที่ 2 ของเขา

     ก่อนฤดูกาลที่ล้มเหลวกับเชลซี เมื่อปี 2015-2016 ซึ่งเขาพาทีมจบอันดับที่ 10 ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ พร้อมกับปัญหาภายในทีมมากมาย มูรินโญเคยถูกขนานนามว่าเป็นกุนซือที่จะพาทีมประสบความสำเร็จในฤดูกาลที่ 2 ของเขา

     ตำนานของฤดูกาลที่ 2 ของมูรินโญ เริ่มตั้งแต่การคุมทีม เอฟซี ปอร์โต ฤดูกาลที่ 2 ของเขาพาทีมปอร์โตคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งถือเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับเขา และที่อินเตอร์ มิลาน ในฤดูกาลที่ 2 เขาก็พาทีมคว้าทริปเปิลแชมป์ ทั้งแชมป์กัลโช เซเรียอา และฟุตบอลถ้วยโคปปา อิตาเลีย ก่อนที่จะพาเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ลาลีกา สเปน เหนือบาร์เซโลนาของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้สำเร็จในฤดูกาลที่สองเช่นกัน

     บูรณิจฉ์มองว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้จะทำผลงานได้ดีขึ้น โดยเชื่อว่าจะสามารถจบฤดูกาลในอันดับที่สูงกว่าเดิม แต่โอกาสลุ้นแชมป์ยังถือว่ายากด้วยทีมที่ยังไม่สมบูรณ์มากนัก

     “แฟนแมนฯ ยูหลายคนมั่นใจว่าปีนี้ทีมจะเป็นแชมป์ แต่ผมมองว่ายังไม่ถึงแชมป์ แต่อันดับจะดีขึ้นกว่าเดิม ปีที่แล้วจบอันดับ 6 แต่ผมบอกว่าปีนี้ดีขึ้นแน่ๆ อาจจะได้อันดับ 2-3 แต่ยังเชื่อว่าไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ขณะที่ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกผมมองว่า อาจเป็นเรื่องของจังหวะและเวลา เพราะที่ผ่านมาทีมที่ดีที่สุดไม่ได้แปลว่าจะเป็นทีมที่คว้าแชมป์ยุโรปได้ เพราะว่าบางครั้งก็จับสลากไปอยู่กลุ่มที่หนัก หรือพลาดไปเจอทีมใหญ่ตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย อาจทำให้โอกาสผ่านเข้ารอบเป็นไปได้ยาก

     “แต่สิ่งที่แมนฯ ยูมีคือ มาตรฐานของมูรินโญ ซึ่งเป็นโค้ชที่อาศัยการวางกลยุทธ์ที่เหมาะกับฟุตบอลแบบนัดต่อนัด เขาพิสูจน์มาแล้วกับปอร์โต ซึ่งเป็นทีมที่ไม่ใช่ทีมลุ้นแชมป์ แต่สุดท้ายด้วยการวางแผนแบบนัดต่อนัด จนสุดท้ายได้แชมป์ เช่นเดียวกันกับอินเตอร์ มิลาน รอบรองเขาเจอกับบาร์เซโลนาแชมป์เก่า ที่กำลังอยู่ในช่วงพีก มูรินโญก็วางแผนโดยเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ในเมื่อเราต้องแข่งรถกับเฟอร์รารี รถเราเครื่องแรงไม่เท่าเฟอร์รารี ผมก็ต้องหาทางเอาทรายไปหยอดในถังน้ำมันของคู่แข่ง แสดงให้เห็นว่าสู้ไม่ได้ เราก็ต้องแก้ด้วยกลยุทธ์ แก้ด้วยการวางหมากก็เหมือนกัน ซึ่งมูรินโญเก่งทางด้านนี้

     “แมนฯ ยูอาจจะไปได้ไกลด้วยแท็กติกของมูรินโญ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาที่บอกมาก่อนหน้านี้”

 

 

ภาพประกอบ: Karin Foxx

Cover Photo: Paul ELLIS/AFP

อ้างอิง:

The post ‘แมนฯ ยู’ จะทวงแชมป์ได้หรือไม่? มูรินโญ กุนซือที่มักจะสร้างความสำเร็จในฤดูกาลที่ 2 appeared first on THE STANDARD.

]]>
https://thestandard.co/manchester-united-jose-mourinho/feed/ 0